More Related Content
More from Nattawut Kathaisong
More from Nattawut Kathaisong (14)
โรงไฟฟ้า
- 1. โรงต้นกำลัง (โรงไฟฟ้า)
เสนอ
อาจารย์บุญญฤทธิ์ วังงอน
โดย
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง เลขที่ ๔ คอ.บ. ๓.๑๑ ก
สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์
รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชา การป้องกันระบบไฟฟ้ากำลัง
ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๖
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก
- 2. ก
คำนำ
รายงานนีจัดทำขึนเพือประกอบการเรียนวิชา ป้องกันระบบไฟฟ้ากำลัง ผู้จัดทำได้ศึกษาและค้นคว้า
เกียวกับ โรงต้นกำลัง ซึงประกอบไปด้วย โครงสร้างระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้า, ระบบผลิตไฟฟ้า,โรงไฟฟ้า
พลังงานนำ, โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน, โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์, โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล, โรงไฟฟ้า
กังหันแก๊ส และระบบส่งกำลังไฟฟ้า เพือเป็นแนวทางในการเรียนและเป็นประโยชน์ให้กับผู้ทีกำลังศึกษา
เรืองนี ยังสามารถเก็บไว้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของตนเอง และผู้อืนอีกต่อไป
ดังนัน ข้อมลูทีรวบรวมมาได้จากอินเตอร์เน็ต ต้องขอขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ บุญญฤทธิ8 วังงอน
เป็นอย่างสูงทีกรุณาแนะนำและตรวจให้ จนกระทังรายงานนีเสร็จสมบูรณ์ ผู้จัดทำหวังว่ารายงานเล่มนี จะ
เป็นประโยชน์ต่อผู้ศกึษาค้นคว้าสืบต่อไป
ผู้จัดทำ
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง
- 3. ข
สารบัญ
เรือง หน้าที
คำนำ ก
สารบัญ ข
โครงสร้างระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้า 1
ระบบผลิตไฟฟ้า 2
โรงไฟฟ้าพลังงานนำ 2 - 7
โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน 7 - 10
โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 10 - 14
โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล 14 - 16
โรงไฟฟ้ากังหันแก๊ส 17 - 25
ระบบส่งกำลังไฟฟ้า 26 - 40
บรรณานุกรม 41
- 4. 1
โรงต้นกำลัง
ระบบและวิธีการส่งจ่ายกำลังไฟฟ้า
จากการศึกษาหลักการกำเนิดแรงดันจากเครืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับและไฟฟ้ากระแสตรง
รวมถึงการวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ต่างๆทีเกิดขึ*นในการนำแรงดันดังกล่าวมาใช้กับโหลดไฟฟ้าในชนิด
ต่างๆในปัจจุบัน การผลิตแรงดันไฟฟ้าในระดับแรงดันสูงๆได้มาจากโรงต้นกำลังไฟฟ้าและการรับแรงดัน
หรือกำลังไฟฟ้ามายังผู้ใช้ในบ้าน หรือโรงงานอุตสาหกรรม ทีมาจากโรงต้นกำลังแต่ละวิธีการนั*นมี
ขบวนการทางการส่งจ่ายกำลังไฟฟ้า ดังในบทเรียนทีนำเสนอนี*
1 .โครงสร้างของระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้า
ระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้า หมายถึงระบบไฟฟ้าทีประกอบด้วยระบบผลิตไฟฟ้า ระบบส่งกำลังไฟฟ้า
และระบบจำหน่ายไฟฟ้าจนกระทังถึงผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย
ระบบผลิตไฟฟ้า
ระบบส่งกำลังไฟฟ้า
ระบบจำหน่ายไฟฟ้า
ผู้ใช้ไฟฟ้า
รูปที 1 โครงสร้างการส่งจ่ายไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้า มาถึงผู้ใช้ไฟฟ้า
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 5. 2
1.1 ระบบผลิตไฟฟ้า (Generating System)
ระบบผลิตไฟฟ้า หมายถึง ระบบทีมีการเปลียนรูปพลังงานจากพลังงานรูปอืนๆไปเป็นพลังงาน
ไฟฟ้า เช่น เปลียนจากพลังงานศักย์ของน*ำไปเป็นไฟฟ้าหรือเปลียนพลังงานความร้อนทีได้ จากถ่านหิน แก๊ส
น*ำมัน หรือ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ไปเป็นไฟฟ้าเป็นต้น กระบวนการทีเปลียนจากพลังงานรูปอืนไปเป็นไฟฟ้า
นั*น ส่วนใหญ่จะผ่านรูปของพลังงานกลก่อนเสมอและใช้พลังงานกลเป็นตัวขับ(Prime Mover)เครืองกำเนิด
ไฟฟ้าอีกที มีบ้างเหมือนกันทีเปลียนจากพลังงานรูปอืนไปเป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง เช่น ระบบผลิต
กระแสไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์เป็นต้น
ระบบผลิตไฟฟ้าบางครั*งเรียกว่า โรงไฟฟ้าหรือโรงจักรไฟฟ้า การเรียกชือโรงไฟฟ้านั*นนิยมเรียกตาม
ลักษณะของแหล่งพลังงานหรือมิฉะนั*นก็เรียกตามชนิดของตัวขับได้แก่
1)โรงไฟฟ้าพลังน*ำ (Hydroelectric Power Plant)
2)โรงไฟฟ้าพลังความร้อน (Thermal Power Plant)
3)โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ (Nuclear Power Plant)
4)โรงไฟฟ้าดีเซล (Diesel Power Plant)
5)โรงไฟฟ้ากังหันแก๊ส (Gas Turbine Power Plant)
แรงดันไฟฟ้าทีผลิตขึ*นจากเครืองกำเนิดไฟฟ้า โดยทัว ๆ ไปมีค่าไม่เกิน 20kV ทั*งนี*เกิดจากปัญหา
ทางด้านฉนวนในเครืองกำเนิดไฟฟ้าและคำนึงถึงผลทางด้านเศรษฐศาสตร์ด้วย ซึงเครืองกำเนิดไฟฟ้าของ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ทีใช้ในปัจจุบันมีแรงดันจ่ายออกหลายระดับ เช่น 3.5 kV 115 , kV 230 , kV หรือ
500kV การส่งพลังงานจากจุดหนึงไปยังอีกจุดหนึง จะเลือกส่งด้วยระดับแรงดันขนาดใดขึ*นอยู่กับระยะทาง
ทีใช้ส่งเป็นสำคัญ ในการส่งไฟฟ้าแรงดังสูงนั*นจะส่งด้วยระบบ เฟส เพราะว่าเพมิสายส่งขึ*นอีกหนึงเสน้จะ 3
เปอร์เซ็นต์ ทั*งนี*เมือเปรียบเทียบขณะใช้แรงดันและ 73 สามารถส่งพลังงานได้สูงกว่าระบบเฟสเดียวถึง
กระแสไฟฟ้าจำนวนเท่า ๆ กัน
1) โรงไฟฟ้าพลังนํ6า เป็นโรงงานไฟฟ้าทีใช้แรงดันของน*ำไปหมุนเครืองกังหันน*ำ เพือเปลียน
แรงดันของน*ำเป็นพลังงานกลทีสามารถควบคุมได้และใช้พลังงานกลทีได้ไปหมุนให้เครืองกำเนิดไฟฟ้า
เพือผลิตพลังงานไฟฟ้า
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 6. 3
รูปที 2 โรงไฟฟ้าพลังน*ำ
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
ข้อดี
1. สามารถเดินเครืองได้รวดเร็วภายในเวลา 5 นาที
2. เหมาะสำหรับการผลิตไฟฟ้าในช่วงทีความต้องการไฟฟ้าสูงสุด
3. ใช้ในการชลประทาน
4. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตํามาก
5. ค่าบำรุงรักษาน้อย
6. ไม่มีมลภาวะ
7. สามารถเดินเครืองกำเนิดไฟฟ้าได้รวดเร็ว
8. ไม่ต้องมีการสำรองเชื*อเพลิงไว้ใช้งาน
9. มีอายุการใช้งานนาน
10. มีผลพลอยได้จากอ่างเก็บน*ำสำหรับโครงการอเนกประสงค์อืน ๆ
ข้อเสีย
1. ค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงไฟฟ้าและเขือนสูงมาก
2. กำลังผลิตไฟฟ้าไม่แน่นอน
3. อยู่ไกลจากศูนย์กลางโหลด ทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงในการสร้างสายส่งจ่ายไฟฟ้า
4. เกิดผลกระทบต่อสิงแวดล้อม
- 7. 4
ตัวอย่างโรงงานไฟฟ้าพลังนํ6า
เขือนแก่งกระจาน
ภาพที 3 เขืนแก่งกระจาน
เพชรบุรี เป็นเมืองเก่าแก่ เคยเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญชั*นเมืองลกูหลวงของไทยมาช้านาน และมี
ชือเสียงเลืองลือ หลายด้านนอกจากจะเคยเป็นเมืองทีประทับของอดีตพระมหากษัตริย์แห่งราชวงค์จักรี ยังมี
สถานทีท่องเทียวสำคัญหลายแห่ง ซึงรวมทั*งเขือนเพือการชลประทานและผลิตไฟฟ้าทีสำคัญและมีความ
งดงาม นันคือ เขือนแก่งกระจาน
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
ลักษณะเขือน
เขือนแก่งกระจานกั*นแม่น*ำเพชร ทีบริเวณเขาเจ้า และเขาไม้รวกประชิดกับ ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่ง
กระจาน จังหวัดเพชรบุรี อยู่ทางด้านเหนือน*ำของเขือนเพชรขึ*นไปตามถนน 27 กิโลเมตร เป็นเขือนดิน สูง
58 เมตร สนัเขือนยาว 760 เมตร กว้าง 8 เมตร ระดับสนัเขือน 106 เมตร รทก(ระดับน*ำทะเลปานกลาง).
นอกจากนี* ยังมีเขือนดินปิดเขาตําทางขวางเขือนอีก 2 แห่ง คือ แห่งแรกสูง 36 เมตร สนัเขือนยาว 305 เมตร
แห่งที 2 สูง 24 เมตร สนัเขือนยาว 255 เมตร เพือให้สามารถเก็บกักน*ำได้มากข*ึน
โรงไฟฟ้า
ติดตั*งเครืองกำเนิดไฟฟ้า 1 เครือง ขนาดกำลังผลิต 19,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลียปีละ 70
ล้านกิโลวัตต์ชัวโมงโดยมีสายส่งไฟฟ้าจากเขือนแก่งกระจานไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงชะอำ เป็นระยะทาง
- 8. 5
40-41 กิโลเมตรเขือนแก่งกระจานสร้างขึ*นเมือ พ .ศ .2504 แล้วเสร็จ พ .ศ .2509 โดยมีวัตถุประสงค์เพือ
อำนวยประโยชน์ ในด้านการชลประทานบริเวณทีราบ จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั*งยังให้
ประโยชน์ด้านการประมง การคมนาคมทางน*ำ และการพักผ่อนหย่อนใจ อีกด้วยต่อมา เมือความต้องการ
พลังงานไฟฟ้าเพิมขึ*นอย่างมาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พิได้พิจารณาติ (.กฟผ )ติดตั*งเครือง
กำเนิดไฟฟ้าทีเขือนแก่งกระจาน โดยเริมดำเนินการก่อสร้างเมือเดือน พฤศจิกายน 2514 แล้วเสร็จและผลิต
ไฟฟ้าไดั เมือเดือนสิงหาคม 2517
รูปที 4 โรงไฟฟ้าแก่งกระจาน
ประโยชน์
เขือนแก่งกระจานเป็นเขือนอเนกประสงค์ ประโยชน์ทีได้จากเขือนมีหลายประการ คือ
1.เขือนแก่งกระจานสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 19,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานเฉลียประมาณ ปีละ
70 ล้านกิโลวัตต์ชัวโมง
2.สามารถขยายพ*ืนทีชลประทานของ โครงการเพชรบุรี ซึงเดิมมีอยู่จำนวน 214,000 ไร่ เพิมเป็น
336,000 ไร่ และเพือการเกษตร การเพาะปลกูในฤดูแล้งได้ 174,000 ไร่ รวมทั*งยังช่วยแก้ไขปัญหา การขาด
แคลนน*ำ
3.เพือการอุปโภค บริโภค ตั*งแต่ปากอ่าวเพชรบุรี จนถึงหัวหินให้หมดไป และช่วยบรรเทาอุทกภัย
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
ในทุ่งเพชรบุรีด้วย
4.เป็นแหล่งส่งเสริมการประมง
5.เป็นแหล่งท่องเทียวทีสำคัญแห่งหนึงของจังหวัดเพชรบุรี
- 9. 6
สรุป
เขือนแก่งกระจานได้รับการปรับปรุง ให้สวยสดงดงามไว้คอยต้อนรับนักท่องเทียวทุกท่าน หาก
ท่านได้มีโอกาสเดินทางไป จังหวัดเพชรบุรี เชิญแวะเข้าไปเยียมชม หรือพักแรม ณ เขือนแห่งนี* ท่านจะได้
พบกับความสงบเงียบ ท่ามกลางความงดงามของเขือน และทัศนียภาพของทะเลสาบทีโอบล้อมด้วยขุนเขา
น้อยใหญ่ อันเป็นความงามของธรรมชาติโดยแท้จริง
เขือนศรีนครินทร์
รูปที 5 เขือนศรีนครินทร์
เขือนศรีนครินทร์ เป็นเขือนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน*ำแม่กลอง สร้างขึ*น บน
แม่น*ำแควใหญ่ บริเวณบ้านเจ้าเณร ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิi จังหวัดกาญจนบุรี นับเป็น เขือนแห่งที
8 ในจำนวน 17 แห่ง ทีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สร้างขึ*นเพือ อำนวยประโยชน (.กฟผ)◌์ทางด้าน
ต่างๆ ตลอดจนช่วยพัฒนาชีวติ ความเป็นอยู่ของราษฎร และส่งเสริมให้เป็น แหล่งท่องเทียวทีสวยงาม
ลักษณะเขือนและโรงไฟฟ้า
เป็นเขือนประเภทหินถมแกนดินเหนียวทีใหญ่ทีสุดในประเทศไทย มีความสูงจากฐานราก 140
เมตร สนัเขือนยาว ◌ู610 เมตร กว้าง 15 เมตร พ*นืทีอ่างเก็บน*ำ 419 ตารางกิโลเมตร มีความจุมากเป็นอันดับ
หนึงคือ 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร
โรงไฟฟ้าเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดตั*งเครืองกำเนิดไฟฟ้าจำนวน 5 เครือง เครืองที 3- 1
กำลังผลิต เครืองละ 120,000 กิโลวัตต์ เครืองที 5-4 เป็นเครืองกำเนิดไฟฟ้าระบบสูบกลับ กำลังผลิต เครือง
ละ 180,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิตทั*งสิ*น 720,000 กิโลวัตต์
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 10. 7
งานก่อสร้างเขือนศรีนครินทร์ เริมเมือปี 2516 แล้วเสร็จในปี 2523 พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวได้
พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญ พระนามาภิไธยสมเด็จพระศรีนครินทร์ มาขนานนามเขือน และ
เสด็จ พระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ไปทรงเปิดเขือน เมือวันที
15 มิถุนายน 2524
ประโยชน์
เขือนศรีนครินทร์เป็นโครงการอเนกประสงค์ ซึงอำนวยประโยชน์ในด้านต่างๆ ดังนี*
ชลประทานช่วยส่งเสริมระบบชลประทาน โครงการแม่กลองใหญ่ให้มีประสิทธิภาพยิงขึ*น โดยมี เขือนวชิ
ราลงกรณ์ของกรมชลประทานเป็นหัวงานทดน*ำเข้าสู่พ*นืทีเกษตรได้ตลอดปีเป็นเนื*อทีถึง 4,118 ล้านไร่
ผลิตไฟฟ้า สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เฉลียปีละประมาณ 1,250 ล้านกิโลวัตต์ชัวโมง บรรเทา
อุทกภัย สามารถกักเก็บน*ำทีหลากมาในช่วงฤดูฝนไว้ในอ่างเก็บน*ำ ได้เป็นจำนวนมาก ช่วย บรรเทาอุทกภัย
ในเขตลุ่มน*ำแม่กลองให้ลดน้อยลง คมนาคมทางน*ำสามารถใช้เป็นเส้นทางเดินเรือขึ*นไปยังบริเวณอำเภอ
ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วข*ึน
ผลักดันน*ำเค็มสามารถปล่อยน*ำลงผลักดันน*ำเค็มมิให้หนุนล*ำเข้ามาทำความเสียหายแก่พ*ืนทีบริเวณ ปากน*ำ
แม่กลองในช่วงฤดูแล้ง ประมงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน*ำจืดทีอุดมสมบูรณ์ ช่วยเพมิรายได้ให้กับราษฎรอีก
ทางหนึงด้วย ท่องเทียวเขือนศรีนครินทร์ นับเป็นแหล่งท่องเทียว พักผ่อนหย่อนใจทีสวยงามอีกแห่งหนึง ใน
จังหวัด กาญจนบุรีให้ทั*งความรู้และความเพลิดเพลิน แก่ผู้มาเทียวชมปีละเป็นจำนวนกว่าแสนคน และ
ก่อให้เกิด การขยายตัวทางการท่องเทียวอย่างกว้างขวาง เช่น แพท่องเทียวในอ่างเก็บน*ำ เป็นต้น
2) โรงไฟฟ้าพลังความร้อนหรือโรงไฟฟ้าพลังงานไอนำ6 เป็นโรงงานไฟฟ้าทีใช้พลังงานความร้อน
เป็นกำลังในการผลิต โดยการเผาไหม้เชื*อเพลิงเพือต้มน*ำให้กลายเป็นไปน*ำทีมีแรงดันสูงไปขับดันกังหันไอ
น*ำแล้วนำไปขับเคลือนเครืองกำเนิดไฟฟ้าเชื*อเพลิงทีใช้ได้แก่ น*ำมันเตา ถ่านหิน แก๊สธรรมชาติ
รูปที 6 โรงไฟฟ้าพลังงานไอน*ำ
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 11. 8
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
ข้อดี
1. การเริมเดินเครืองใช้เวลาอย่างน้อย 2 – 3 ชัวโมง
2. เหมาะทีใช้เป็นโรงไฟฟ้าทีเป็นฐานการผลิต (Base Load)
3. เชื*อเพลิงถ่านหินมีราคาถูกและมีปริมาณมากเพียงพอสำหรับโรงไฟฟ้าหลัก ของประเทศ
4. ต้นทุนในการเดินเครืองตํา
5. กำลังผลิตสูงสามารถจ่ายเสริมเข้าระบบผลิตไฟฟ้าของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. ประหยัดการใช้น*ำมัน สามารถสงวนเงินตราของประเทศได้เป็นจำนวนมาก
ข้อเสีย
1. การเริมเดินเครืองจุดเตาต้องใช้เวลานาน
2. มีมลภาวะของแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์เป็นผลต่อสิงแวดล้อมใกล้เคียง
3. มีขี*เถ้าจากเชื*อเพลิงถ่านหิน ต้องใช้ทีเก็บเป็นจำนวนมาก
ตัวอย่างโรงไฟฟ้าพลังงานไอนํ6า
โรงไฟฟ้าบางปะกง
รูปที 7 โรงไฟฟ้าบางปะกง
โรงไฟฟ้าบางปะกง เป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกของประเทศไทย ทีใช้ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย มาเป็น
เชื*อเพลิง ในการผลิตไฟฟ้า เพือสนองนโยบายของรัฐบาลทีต้องการพัฒนาแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ
- 12. 9
ภายในประเทศ ให้เกิด ประโยชน์สูงสุดปัจจุบันโรงไฟฟ้าบางปะกงมีกำลังผลิตรวมทั*งสิ*น 3,680,000
กิโลวัตต์ ถือเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า ขนาดใหญ่และทันสมัยทีสุดในประเทศไทย
ทีตั6ง
โรงไฟฟ้าบางปะกง ตั*งอยู่บนเนื*อที 1,050 ไร่ บริเวณฝังซ้ายของแม่น*ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
โดย อยู่ห่างจากปากแม่น*ำบางปะกงขึ*นมาตามลำน*ำประมาณ 11 กิโลเมตร หรือห่างจากสะพาน
เทพหสัดินทร์ ไปทาง เหนือน*ำประมาณ 2.5 กิโลเมตร
ลักษณะโครงการ
โรงไฟฟ้าบางปะกง ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังความร้อน จำนวน 4 เครือง และโรงไฟฟ้าพลัง
ความร้อนร่วม จำนวน 4 ชุด โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ
ระยะที 1 เริมดำเนินการก่อสร้างเมือปี 2520 ประกอบด้วยงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อน
จำนวน 2 เครือง กำลังผลิคเครืองละ 550,000 กิโลวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จำนวน 2 ชุด กำลัง
ผลิตชุดละ 370,000 กิโลวัตต์ แต่ละชุดประกอบด้วยเครืองผลิตไฟฟ้ากังหันแก๊สขนาด 60,000 กิโลวัตต์ 4
เครือง 130 ฟฟ้ากังหันไอน*ำขนาดและเครืองผลิตไ (สามารถ ใช้ได้ทั*งน*ำมันดีเซลและก๊าซธรรมชาติ),000
กิโลวัตต์ 1 เครือง การก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางปะกง ระยะที 1 แล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤษภาคม 2527 รวม
กำลังผลิตไฟฟ้าทั*งสิ*น 1,840,000 กิโลวัตต์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสดจ็พระราช
ดำเนิน ทรงประกอบพิธีเปิดโรงไฟฟ้าบางปะกง ระยะที 1 เมือวันที 8 มกราคม 2528
ระยะที 2 เนืองจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยใน พ2531-2530 .ศ . ได้ขยายตัวสูงมาก การใช้
ไฟฟ้า เพมิขึ*นสูงกว่าทีคาดการณ์ไว้ กฟผจึงวางแผนเร่งพัฒนาแหล่งผลิตไฟฟ้า เพือสนองความต้องการใช้ .
2 ไฟฟ้าอย่าง เพียงพอและเพมิความมันคงแก่ระบบไฟฟ้าของประเทศ โครงการโรงไฟฟ้าบางปะกง ระยะที
ได้รับอนุมัติจาก คณะรัฐมนตรี เมือวันที 29 มีนาคม 2531 และคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ เห็นชอบ ให้ดำเนินการ เมือวันที 16 พฤษภาคม 2531 การก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางปะกงระยะที 2 จึง
ได้เริมดำเนินการตั*งแต่ เดือนตุลาคม 2531 ประกอบด้วย
โรงไฟฟ้าพลังความร้อน เครืองที 3 และ 4 กำลังผลิตเครืองละ 600,000 กิโลวัตต์
โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ชุดที 3 และ 4 กำลังผลิตชุดละ 320,000 กิโลวัตต์ แต่ละชุด
ประกอบด้วย เครืองผลิตไฟฟ้ากังหันแก๊ส ขนาด 105,500 กิโลวัตต์ 2 เครือง สามารถใช้ได้ทั*ง )
109 และเครืองผลิตไฟฟ้ากังหันไอน*ำ ขนาด (น*ำมันดีเซลและก๊าซธรรมชาติ,000 กิโลวัตต์ 1 เครือง
โรงไฟฟ้าบางปะกง ระยะที 2 แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2535 รวมกำลังผลิตไฟฟ้าทั*งสิ*น 1,840,000กิโลวัตต์
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 13. 10
รูปที 8 โรงไฟฟ้าบางปะกง
ประโยชน์
โรงไฟฟ้าบางปะกงมีกำลังผลิตไฟฟ้าสูงถึง 3,674,600 กิโลวัตต์ จึงเป็นโรงไฟฟ้าหลักทีช่วยเสริม
ความมันคง ให้ระบบไฟฟ้าส่วนรวมของประเทศ และการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื*อเพลิง ก็เป็นการ
สนับสนุนนโยบายใช้ทรัพยากร ภายในประเทศ สามารถประหยัดเงินซื*อน*ำมันจากต่างประเทศได้ปีละหลาย
ล้านบาท
นอกจากนี*ยังช่วยสนับสนุนและรองรับความเจริญเติบโตของโครงการพัฒนาชายฝังทะเล
ตะวันออก ทำให้ ภาคเอกชนมคีวามมันใจในการลงทุนมากข*ึน
3) โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ปัจจุบันปัญหาเรืองแหล่งพลังงานธรรมชาติทีจะนำมาเป็นต้นกำลัง
ในการผลิตกระแสไฟฟ้าไม่เคยเกิดข*ึน ปริมาณการใช้พลังงานนับวันจะเพิมมากขึ*นไม่ว่าจะเป็นพลังงานจาก
น*ำ น*ำมัน หรือแก๊สธรรมชาติ จึงจำเป็นทีต้องเสาะหาแหล่งพลังงานอืน ๆ ทีมีประสิทธิภาพสูงกว่าและมี
ปริมาณเพียงพอทีจะนำมาใช้ทดแทน นันคือพลังงานนิวเคลียร์
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 14. 11
รูปที 9 โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
หลักการทำงาน
รูปที 10 หลักการทำงานนิวเคลียร์
- 15. 12
โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ คือ ระบบทีจะนำพลังงานทีปลดปล่อยออกมาจากปฏิกิริยานิวเคลียร์มา
เปลียนเป็นพลังงานไฟฟ้า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์โดยทัวไป
ประกอบด้วยส่วนหลักๆ 4 ส่วนคือ
1.เตาปฏิกรณ์
2.ระบบระบายความร้อน
3.ระบบกำเนิดกระแสไฟฟ้า
4.ระบบความปลอดภัย
พลังงานทีเกิดขึ*นในเตาปฏิกรณ์เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน สิงทีได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์
ฟิชชัน ไม่ได้มีเพียงพลังงานจำนวนมากทีปลดปล่อยออกมา แต่รวมถึงผลผลิตทีได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์
ฟิชชัน นิวตรอนอิสระจำนวนหนึง การควบคุมจำนวนและการเคลือนทีของนิวตรอนอิสระภายในเตา
ปฏิกรณ์โดยสารหน่วงนิวตรอน และแท่งควบคุมจะเป็นการกำหนดว่า จะเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชันขึ*น
ภายในเตาปฏิกรณ์มากน้อยเพียงใด
พลังงานทีผลิตเกิดข*ึนภายในเตาปฏิกรณ์ จะถูกนำออกมาโดยตัวนำความร้อน ซึงก็คือของไหลเช่น
น*ำ,เกลือหลอมละลายหรือก๊าซคาร์บอนไดอออกไซต์ ของไหลจะรับความร้อนจากภายในเตาปฏิกรณ์ จนตัว
มันเองเดือดเป็นไอหรือเป็นตัวกลางในการนำความร้อนไปยังวงจรถัดไปเพือผลิตไอน*ำ ไอน*ำทีได้จะถูก
ส่งผ่านท่อไปยังระบบกำเนิดกระแสไฟฟ้า ทีไอน*ำจะถูกนำไปขับกังหันไอน*ำทีจะใช้ในการหมุนเครือง
กำเนิดกระแสไฟฟ้าต่อไป
โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ทีใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยทัวไปในโลกมีมากมายหลายชนิด
การจำแนกชนิดของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์จะจำแนกตามลักษณะทัวไปของเตาปฏิกรณ์ ชนิดของ
โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ทีมีอยู่ทัวไป
สามารถแบ่งออกได้ 3 ชนิดดังนี*
1.โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำอัดความดัน เป็นโรงไฟฟ้าทีนิยมใช้มากทีสุด
โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำอัดความดัน ใช้น*ำเป็นทั*งตัวกลางระบายความร้อนและสารหน่วง
นิวตรอน มีการออกแบบระบบการทำงานให้มีสองวงจร โดยวงจรแรกจะเป็นระบบระบายความร้อนออก
จากเตาปฏิกรณ์ ทีซึงน*ำจะไหลผ่านเตาปฏิกรณ์เพือระบายความร้อนออกจากแกนปฏิกรณ์ และนำความร้อน
ทีได้ส่งต่อให้วงจรทีสองทีอุปกรณ์กำเนิดไอน*ำ เพือผลิตไอน*ำเพือขับกังหันไอน*ำ น*ำในวงจรแรกนี*จะ
ทำงานมีอุณหภูมิสูงถึง 325 องศาเซลเซียส ดังนั*นวงจรแรกจึงต้องทำงานภายใต้ความดันทีสูงมาก เพือ
ป้องกันการเดือดของน*ำในวงจร อุปกรณ์ทีทำหน้าทีควบคุมแรงดันในวงจรแรกคือตัวควบคุมความดัน
)pressuriser) โดยน*ำในวงจรแรกจะทำหน้าทีทั*งเป็นสารหล่อเย็นและสารหน่วงนิวตรอนให้แก่เตาปฏิกรณ์
ในส่วนของวงจรทีสองนั*นจะทำงานภายใต้ความดันทีตํากว่าวงจรแรก ซึงน*ำในวงจรนี*จะถูกต้มให้เดือดเพือ
ผลิตไอน*ำทีอุปกรณ์กำเนิดไอน*ำ ไอน*ำทีผลิตได้จะใช้ในการขับกังหันไอน*ำเพือผลิตกระแสไฟฟ้า หลังจาก
นั*นจะควบแน่นกลับไปเป็นน*ำแล้วไหลกลับไปทีอุปกรณ์ผลิตไอน*ำ เพือเปลียนเป็นไอน*ำต่อไปเรือยๆ
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 16. 13
2.โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำเดือด โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำเดือด มีการ
ทำงานทีคล้ายคลึงกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำอัดความดันมาก แตกต่างกันเพียงแค่โรงไฟฟ้า
พลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำเดือด มีวงจรการทำงานเพียงแค่วงจรเดียว ทีซึงน*ำจะถูกต้มภายในเตาปฎิกรณ์
)Reactor Vessel)โดยตรง ทีอุณหภูมิประมาณ 285 องศาเซลเซียส โดยเตาปฏิกรณ์แบบนี*ถูกออกแบบให้
ทำงาน โดยทีส่วนบนของแกนปฏิกรณ์ประมาณ 12-15% มีสภาพเป็นไอน*ำ โดยระบบของโรงไฟฟ้า
พลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำเดือดนั*น ถูกออกแบบให้น*ำเดือดภายในเตาปฏิกรณ์ทำให้เตาปฏิกรณ์แบบนี*จะ
ทำงานทีความดันตํากว่าเตาปฏิกรณ์แบบน*ำอัดความดัน ไอน*ำทีผลิตได้ภายในเตาปฏิกรณ์ จะไหลผ่าน
อุปกรณ์แยกน*ำบริเวณส่วนบนของเตาปฏิกรณ์ แล้วจะไหลออกไปขับกังหันไอน*ำโดยตรง เนืองจากน*ำที
ไหลผ่านแกนปฏิกรณ์จะมีการปนเปื*อนจากสารรังสี ทำให้อุปกรณ์ในส่วนของกังหันไอน*ำ ) Steam Turbine)
จะโดนปนเปื*อนจากสารรังสีด้วย ดังนั*นอุปกรณ์ในส่วนของกังหันไอน*ำ จึงต้องได้รับการป้องกันรังสี
เช่นเดียวกับระหว่างการบำรุงรักษา โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำเดือดจะมีต้นทุนตํากว่าแบบอืน
เนืองจากเป็นระบบทีเรียบง่าย และในส่วนข้อกังวลเกียวกับการปนเปื*อนรังสีของอุปกรณ์ของระบบกังหัน
ไอน*ำนั*น เนืองจากสารปนเปื*อนในน*ำนั*นมีอายุสั*นมากโดยห้องกังหันไอน*ำสามารถเข้าไปเพือบำรุงรักษา *
ระยะเวลาอันสั*น หลังจากการได้ภายในshut down เตาปฏิกรณ์
3.โรงไฟฟ้าแบบน*ำมวลหนักอัดความดัน )PHWR or CANDU) โรงไฟฟ้าพลังงาน
นิวเคลียร์แบบน*ำมวลหนักอัดความดัน พัฒนาโดยประเทศแคนาดาในช่วงปี คศ .1950 ภายใต้ชือโรงไฟฟ้า
พลังงานนิวเคลียร์แบบแคนดู )CANDU) โรงไฟฟ้าแบบนี*ใช้ยูเรเนียมธรรมชาติทีไม่มีการเสริมสมรรถนะ
เป็นเชื*อเพลิง ทำให้ต้องใช้สารหน่วงนิวตรอนทีมีประสิทธิภาพสูงกว่าโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำ
อัดความดันหรือแบบน*ำเดือด ซึงในกรณีนี*ได้มีการนำน*ำมวลหนัก )D2O) มาใช้ ในโรงไฟฟ้าพลังงาน
นิวเคลียร์แบบน*ำมวลหนักอัดความดัน มีการออกแบบระบบการทำงานให้มีสองวงจรเหมือนโรงไฟฟ้า
พลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำอัดความดัน โดยในวงจรแรกน*ำมวลหนัก )D2O) ทีจะทำหน้าทีทั*งเป็นสารหน่วง
นิวตรอนและระบายความร้อนออกจากมัดเชือเพลิง จะถูกอัดภายใต้ความดันสูง และจะไหลผ่านช่องบรรจุ
เชื*อเพลิงเพือระบายความร้อนออกจากเตาปฏิกรณ์ทีเรียกอีกชือว่า คาแรนเดรีย จนน*ำมวลหนักในวงจรแรกมี
อุณหภูมิสูงถึง 290°C และเช่นเดียวกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำอัดความดัน น*ำมวลหนักจะถ่ายเท
ความร้อนให้แก่วงจรทีสองเพือผลิตไอน*ำทีอุปกรณ์กำเนิดไอน*ำ เพือผลิตไอน*ำเพือขับกังหันไอน*ำผลิต
กระแสไฟฟ้า เนืองจากการใช้ยูเรเนียมธรรมชาติเป็นเชื*อเพลิง ทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน*ำมวล
หนักอัดความดัน ต้องมีการเปลียนเชื*อเพลิงทุกวัน จึงมีการออกแบบให้โรงไฟฟ้าชนิดนี*สามารถเปลียน
เชื*อเพลิงได้โดยไม่ต้องหยุดการทำงานของเตาปฏิกรณ์
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 17. 14
ข้อดี
1. ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าตําเนืองจากเชื*อเพลิงมีราคาถูกและใช้น้อย (แร่ยูเรเนียมเพียง 1 กรัม
ให้ความร้อนเทียบเท่าถ่านหินถึง 3 ตัน)
2. สามารถสร้างโรงไฟฟ้าให้มีขีดความสามารถ มีกำลังผลิตสูง
3. เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าทีมันคง และผลิตพลังงานได้ปริมาณมาก อีกทั*งสามารถเดินเครือง
ผลิตไฟฟ้าได้ติดต่อกันมากกว่าหนึงปี จึงจะเติมหรือเปลียนเชื*อเพลิง
4. เป็นโรงไฟฟ้าทีสะอาด ไม่มีเขม่าและควัน ไม่มีแก๊สเสียทีจะทำให้เกิดฝนกรด และภาวะ
เรือนกระจก
5. การเปลียนแปลงราคาค่าเชื*อเพลิงมีผลต่อต้นทุนการผลิตน้อยใช้พ*นืทีไม่มาก
ข้อเสีย
1.ไม่เป็นทียอมรับของสาธารณชน โดยเฉพาะเรืองความปลอดภัย
2.ต้องใช้เงินลงทุนก่อสร้างสูง เพือสร้างอาคารคลุมปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และระบบป้องกันความ
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
ปลอดภัย
3.สถานทีตั*งของโรงไฟฟ้าต้องมีการคัดเลือกอย่างเข้มงวด มีกฎเกณฑ์ต่าง ๆ มากมาย
4.ใช้เวลาดำเนินการและก่อสร้างนานหลายปี
5.จะต้องใช้น*ำเป็นปริมาณมากในระบบระบายความร้อนของโรงไฟฟ้า
6.ต้องนำเข้าเชื*อแพลิงจากต่างประเทศ
7.ต้องพิจารณาเรืองสถานทีเก็บกากกัมมันตรังสี
8.ต้องใช้เทคโนโลยีในการผลิตสูง
4) โรงไฟฟ้าดเีซล เป็นโรงไฟฟ้าทีใช้พลังงานกลจากเครืองยนต์ดีเซลไปหมุนเครืองกำเนิดไฟฟ้า
หรือทำการผลิตไฟฟ้า เชื*อเพลิงได้แก่ น*ำมันดีเซล
รูปที 11 โรงไฟฟ้าดีเซล
- 18. 15
ข้อดี
1. สามารถเดินเครืองไฟฟ้าได้รวดเร็ว
2. เหมาะสำหรับการผลิตไฟฟ้าในช่วงทีมีความต้องการไฟฟ้าสูงสุด
3. เป็นโรงไฟฟ้าทีสามารถติดตั*งอย่างรวดเร็ว
4. มีประสิทธิภาพสูงในการใช้เป็นโรงไฟฟ้าสำรอง
5. การซ่อมแซมบำรุงรักษาง่าย
ข้อเสีย
1. มีมลภาวะทางเสียง และเขม่าควัน
2. ต้องซื*อเชื*อเพลิงจากต่างประเทศ ทำให้เสียเงินตราของประเทศ
ตัวอย่างโรงงานไฟฟ้าดีเซล
โรงไฟฟ้าดีเซลแม่ฮ่องสอน
รูปที 12 โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซลแม่ฮ่องสอน
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 19. 16
สถานทีตั6ง
โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซลแม่ฮ่องสอน หมู่ 1 ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000
สภาพแวดล้อม
เมือเดินทางเข้าถึงโรงไฟฟ้าพลังงานดีเซลจังหวัดแม่ฮ่องสอนเราจะพบเป็นแผงโซล่าเซลล์จำนวน
มากตั*งเรียงรายกันอยู่สูงจากพ*ืนดินประมาณ 1 เมตร จะมีพ*ืนทีประมาณ 7 ไร่เป็นพ*ืนทีผลิตกระแสไฟฟ้าแห่ง
แรกทีสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากทีสุด มีโรงผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นแห่งๆ ภายในจะมีสำนักงานและ
เจ้าหน้าทีเนืองจากกระแสไฟฟ้าเหล่านี* จะจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเท่านั*นการผลิต
กระแสไฟฟ้าดีเซลใช้ต้นทุนสูงมากแต่ได้ผลผลิตทีคุ้มค่าในระยะยาว
ประวัติ
วันที 9 เมษายน 2534 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีหนังสือถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ประเทศไทยที
มหาดไทย 5357/8049 ขอให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยทีจังหวัดแม่ฮ่องสอนวันที 20
เมษายน 2534 ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ด่วนที แม่ฮ่องสอน
0015.1/7133 เรืองขอความช่วยเหลือผลิตกระแสไฟฟ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยใหก้ระทรวงมหาดไทยเร่งรัด
ให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยทำการก่อสร้างไฟฟ้าย่อยทีจังหวัดแม่ฮ่องสอนวันที 7 มิถุนายน 2534
กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยทีมหาดไทย 0302/8731 ขอความ
ช่วยเหลือในการผลิตกระแสไฟฟ้าในจังหวัดแม่ฮ่องสอนวันที 5 สิงหาคม 2534 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มี
หนังสือถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยทีมหาดไทย 5357/18545 ขอให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตช่วย
แก้ปัญหาการขาดแคลนแหล่งจ่ายไฟฟ้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนวันที 11 กันยายน 2534 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง
ประเทศไทยมีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพือแจ้งผลการพิจารณาให้ความ
ช่วยเหลือในการผลิตกระแสไฟฟ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอนโดย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยรับ
ดำเนินการช่วยเหลือผลิตกระแสไฟฟ้าให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นกรณีพิเศษเพือรองรับการขยายตัวทาง
เศรษฐกิจของจังหวัดในอนาคตวันที 30 กันยายน 2536 ทำพิธีเปิดโรงไฟฟ้าดีเซลจังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่าง
เป็นทางการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ปัจจุบัน
โรงไฟฟ้าดีเซลแม่ฮ่องสอน มีเครืองติดตั*ง ทั*งหมดจำนวน 6 เครือง เครืองที 1,2,3 เป็นเครือง Niigata ขนาด
กำลังผลิต 1,000 กิโลวัตต์ เครืองที 4 , 5 , 6, เป็นเครือง EE ขนาดกำลังผลิต 800 กิโลวัตต์
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 20. 17
5) โรงไฟฟ้ากังหันแก๊ส เป็นโรงงานทีทำการผลิตไฟฟ้า ด้วยการเผาไหม้เชื*อเพลิงในห้องอัดอากาศ
ของเครืองกังหันแก๊ส ซึงเป็นเครืองยนต์สันดาปภายใน มีขั*นตอนในการผลิตไฟฟ้าโดยเริมตากการอัด
อากาศให้มีความดันสูง 8 ถึง 10 เท่า แล้วส่งอากาศจำนวนนี*เข้าห้องเผาไหม้ โดยมีเชื*อเพลิงทำการเผาไหม้
จนอากาศในห้องเผาไหม้เกิดการขยายตัว มีแรงดันสูง และมีอุณหภูมิสูง เพือไปหมุนเครืองกังหันแก๊สทีมี
จุดเกียร์
รูปที 13 โรงไฟฟ้ากังหันแก๊ส
5.1) กังหันก๊าซ (Gas Turbine)
กังหันก๊าซถูกคิดค้นและจดทะเบียนสิทธิบัตรไว้โดย นายจอห์น บาร์เบอร์ ( John Barber ) ชาว
อังกฤษ ในปี พ.ศ 2334 ต่อมาได้พัฒนาขึ*นใช้กันอย่างแพร่หลาย เริมแรกกังหันก๊าซถูกนำไปใช้กับ
เครืองบินเรือเดินทะเล และเป็นต้นกำลังในการผลิตกระแสไฟฟ้า ต่อมาได้ถูกนำไปใช้กับงานต่างๆ อีก
มากมาย เช่น รถยนต์ รถแข่ง รถบรรทุก รถรางความเร็วสูง ระบบตู้เย็นกังหันก๊าซ คนเหาะ (Flying
Man )
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 21. 18
5.2) ส่วนประกอบของกังหันก๊าซ
กังหันก๊าซมีส่วนประกอบหลักอยู่ 3 ส่วน คือ
1. เครืองอัดอากาศ ( Air Compressor )
2. ห้องเผาไหม้ ( Combustion Chamber )
3. เครืองกังหัน ( Turbine )
หลักการทำงานเบื6องต้นของกังหันก๊าซ
1.เครืองอัดอากาศจะอัดอากาศใหมี้ความดันสูง 8-10 เท่า
2.อากาศความดันสูงจะถูกส่งเข้าไปยังห้องเผาไหม้ทีมีเชื*อเพลิงก๊าซ(หรือน*ำมันดีเซล) ทำการเผา
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
ไหม้
3.อากาศร้อนในห้องเผาไหม้เกิดการขยายตัว ทำให้มีความดันและอุณหภูมิสูง
4.ส่งอากาศนี*ไปดันกังหันก๊าซ
5.เพลาของกังหันก๊าซจะอยู่แกนเดียวกันกับอุปกรณ์ต่างๆ ทีจะนำไปใช้งาน เช่น เครืองกำเนิด
ไฟฟ้า ฯลฯ
5.3 ) เครืองอัดอากาศ ( Air Compressor )
เครืองอัดอากาศ แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
1. เครืองอัดอากาศแบบลูกสูบ ( Reciprocating Air Compressor )
2. เครืองอัดอากาศแบบลูกสูบหลายขั*น ( Multistage Reciprcration Compressor )
3. เครืองอัดอากาศแบบโรตารี ( Rotary Air Compressor )
5.3.1) เครืองอัดอากาศแบบลูกสูบ
เครืองอัดอากาศแบบลูกสูบ ประกอบด้วยลูกสูบทีเคลือนทีในกระกระบอกสูบ โดยรับ
กำลังขับผ่านก้านสูบและข้อเหวียงทีประกอบอยู่ในเพลาห้องข้อเหวียง มีล*ินอุดอากาศและล*ินส่งติดอยู่
ตอนบนของหัวสูบ ล*ินแบบนี*ทำงานโดยความดันแตกต่างกันระหว่างหน้าและหลังล*ิน ขณะทีลูกสูบ
เคลือนทีลงอากาศทีถูกอัดในจังหวะก่อนหน้าทียังหลงเหลืออยู่จะขยายตัวจนมีความดันตํากว่าความดันดูด
เข้าเลก็น้อยซึงอากาศด้านนอกของล*นิดูดจะสูงกว่าด้านในตัวนั*น ล*นิจะเปิดใหอ้ากาศเข้าในระหว่างจังหวะ
นี* ล*ินส่งจะปิดเพราะขณะนี*ความดันด้านนอกของล*ินส่งจะสูงกว่าความดันภายในกระบอกสูบ ขณะนี*
ลูกสูบเคลือนทีขึ*น ในช่วงแรกของจังหวะเคลือนข*ึน ความดันในกระบอกสูบจะสูงขึ*นเล็กน้อยพอเพียงที
จะทำให้ล*ินดูดปิด ความดันของอากาศภายในกระบอกสูบจะเพิมขึ*นอย่างรวดเร็ว เมือถูกปิดอยู่ใน
กระบอกสูบอย่างสนิทจนมีความดันสูงกว่าความดันด้านนอกของล*นิส่ง ซึงจะทำให้ล*นิส่งเปิดทำให้อากาศ
ความดันสูงออกจากกระบอกสูบ และล*ินส่งจะปิดในทีสุดเมือสุดจังหวะอัด ลูกสูบก็จะเริมเลือนลงใน
กระบอกสูบ ลิ*นดูดก็จะเลือนออกอีกคร*ังหนึง และจะเป็นวัฏจักรเช่นนี*ซ*ำๆ กัน
- 22. 19
อากาศทีถูกปิดอยู่ในกระบอกสูบของเครืองอัดอากาศแบบนี*จะสามารถอัดให้ความดันได้สูงมากทั*งนี*ขึ*นอยู่
กับความแข็งแรงของวัสดุทีทำชิ*นส่วนของอัดและกำลังขับของมอเตอร์ ในเครืองอัดอากาศแบบลูกสูบนี*
การไหลของอากาศจะมีการหยุดทำงานเป็นจังหวะๆ
5.3.2) เครืองอัดอากาศแบบลูกสูบหลายข6ัน
เครืองอัดอากาศแบบลูกสูบหลายขั*น มีหลักการทำงานคือ เมือการส่งอากาศออกของ
เครืองอากาศแบบลกูสูบเดียวถูกกีดขวางย่อมจะทำให้ความดันยิงเพมิขึ*น ถ้าความดันของอากาศส่งออกสูง
มากเกินไปก็จะมีข้อเสียเกิดข*ึน เครืองอัดอากาศแบบขั*นเดียว ถ้าต้องการอัดอากาศให้ได้ความดันสูงๆ ก็
จำเป็นจะต้องให้มีโครงสร้างแข็งแรงมาก รวมทั*งต้องให้ชิ*นส่วนประกอบทีแข้งแรงพอเพือแก้ปัญหาเรือง
การสมดุล และเมือมีแรงบิดตอนเริมสตาร์ทสูงก็ต้องใช้ข้อเหวียงให้มีขนานโตขึ*นด้วย จากข้อเสียต่างๆ
ของเครืองอัดอากาศแบบขั*นเดียวนี*จึงได้มีการปรับปรุงและหันมาใช้เครืองอัดอากาศแบบหลายขั*น ซึง
ประกอบด้วยกระบอกสูบหลายกระบอกต่อเนืองกัน โดยอากาศทีส่งออกจากกระบอกสูบหนึงจะวิงไปเข้า
กระบอกสูบตัวถัดไป แสดงการต่อกระบอกสูบของเครืองอัดแบบ 3 ขั*นอัตราส่วนความดันตําในกระบอก
สูบความดันตําหมายถึงการขยายตัวของปริมาตรของอากาศทีหัวสูบจะลดลงซึงจะทำให้ปริมาตรแทนทีจริง
ในกระบอกสูบเพิมขึ*น ซึงสูบนี*จะทำหน้าทีควบคุมมวลของอากาศทีไหลผ่านเครืองอัดอากาศทั*งหมด
เพราะกระบอกสูบนี*ทำหน้าทีดูดอากาศเข้ามาในเครืองเพียงสูบเดียว ดังนั*น เครืองอัดอากาศแบบหลายขั*น
จึงสามารถส่งมวลผ่านเครืองอัดได้มากกว่าเครืองแบบขั*นเดียว เพือทีจะลดอุณหภูมิของอากาศทีออกจาก
เครืองอัดจึงได้มีการติดตั*งอุปกรณ์หล่อเย็นระหว่างสูบเอาไว้ การลดอุณหภูมิ หมายถึง การลดพลังงาน
ภายในของอากาศทีออกจากเครืองอัดด้วย และเมือพลังนี*ได้มาจากพลังงานทีใช้ในการอัดของเครืองอัด
อากาศ ผลอันนี*จึงเป็นการช่วยลดงานทีต้องใช้ในการอัดลง เครืองอัดแบบหลายขั*น สามารถปรับความ
สมดุลได้ง่าย และมีแรงบิดตํากว่าแบบขั*นเดียว จะสังเกตเห็นว่า ขนาดของกระบอกสูบจะลดลงเมือความ
ดันเพิมขึ*น ทั*งนี*เนืองจากว่าเมือความดันเพิมขึ*นปริมาตรของอากาศทีกำหนดมวลมาให้จะลดลงเมือ
กระบอกสูบต่อเนืองกัน มวลของอากาศก็จะไหลต่อเนืองกันไปตลอดเครืองอัด และเมือลูกสูบชุดต่อไปมี
ปริมาตรอากาศเข้าน้อยเนืองจากความดันสูงขึ*น จึงทำให้ขนาดของกระบอกสูบเลก็ลงตามลำดับ
5.3.3) เครืองอัดแบบโรตารี
เครืองอัดอากาศแบบนี*มีพ*ืนฐานอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ แบบเหวียงออกตามแนวรัศมี
รอบตัว หรือแบบใช้แรงเหวียง (Radial or Centifugal Compressor) แบบไหลตามแนวแกน และแบบขับ
ออกทางบวกหรือพัดลม ลักษณะโดยทัวๆ ไปของเครืองอัดอากาศ แบบเหวียงตามแนวรัศมี ซึง
ประกอบด้วยใบพัดทีหมุนได้รอบตัว โดยปกติจะมีความเร็วรอบสูง ( 20,000 – 30,000 ริบต่อนาที ) อยู่
ภายใน เครืองใบพัดประกอบด้วยจานติดใบเมือใบหมุนอากาศซึงอยู่ในร่องใบก็จะหมุนไปด้วย แรงเหวียง
จะผลักให้อากาศออกทางปลายใบพัด ซึงเรียกว่าตาของใบพัด ( Eye of Impeller ) อากาศจะไหลจากปลาย
ด้านนอกของใบพัดผ่านแหวนจ่ายลมซึงทำให้กระบอกเข้าไปในก้นหอยโข่ง ( Evolute ) ได้ดียิงขึ*น ทีแหวน
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 23. 20
จ่ายลม อากาศจะลดอัตราความเร็วลง ซึงมีผลให้ความดันของอากาศก่อตัวสูงขึ*น ในทางทฤษฎีถือว่าไม่มี
พลังงานสูญเสีย
ก้นหอยเป็นส่วนทีทำหน้าทีรวมอากาศของเครืองอัดซึงพ*ืนทีหน้าตัดจะโตขึ*นเรือยๆ โดยรอบเครืองอัด
เหตุผลสำหรับอันนี*ก็คืออากาศทีรวมตัวกันอยู่รอบๆ ก้นหอยจะมากข*ึนเรือยๆ ซึงต้องใช้พ*ืนทีหน้าตัดโตขึ*น
ต่อไปก็จะมีท่อต่อลมอัดออกไปใช้งาน เครืองอัดอากาศแบบนี*เป็นแบบการไหลต่อเนือง ใช้ในการอัด
อากาศเป็นจำนวนมากๆ ผา่นช่วงความดันปานกลางโดยทัวๆ ไป มีอัตราส่วนการอัดประมาณ 4 ถึง 6 : 1
เครืองอัดอากาศแบบการไหลตามแนวแกน เครืองอัดอากาศแบบนี*มีใบพัดแบบอยู่กับทีและแบบเคลือนที
หลายๆ ชุดต่อเนืองกัน ใบชุดอยู่กับทีจะติดอยู่กับเครือง ส่วนใบพัดชุดเคลือนทีติดอยู่ทีแกนมีเพลา
หมุนรอบตัว ใบชุดเคลือนทีนั*นมีลักษณะใบพัดลมหลายๆ อันประกอบเข้าเป็นชุดเดียวกัน ใบพัดเหล่านี*จะ
ช่วยส่งอากาศใหผ้่านเข้าเครืองอัดอากาศ มุมของใบพัดทุก ชุดจะจัดไว้พอดีก็ทำให้อากาศผ่านจากใบพัดชุด
หนึงได้อย่างราบเรียบ อากาศจะวิงผ่านตามแนวแกนทีมีความเร็วสูงประมาณ 10,000 – 30,000 รอบต่อนาที
ใช้อัดอากาศในปริมาณมากๆ มีอัตราส่วนความดันถึง 10 : 1 หรือมากกว่า ซึงเครืองอัดอากาศแบบนี*จะ
นำไปใช้กับเครืองกังหันก๊าซของเครืองบินและเครืองกำเนิดไฟฟ้า
5.4) กังหันก๊าซ
กังหันก๊าซจะทำงานได้ต้องมีส่วนประกอบ 3 อย่างดังทีกล่าวมาแล้วข้างต้น คือ เครืองอัดอากาศ
ห้องเผาไหม้ และตัวกังหัน โดยมีการทำงานดังนี* คือ อากาศจะถูกอัดด้วยเครืองอัดอากาศให้มีความดันสูง
8 – 10 เท่า โดยใช้เครืองอัดอากาศแบบโรตารี แบบอากาศไหลตามแนวแกนหรือไหลตามแนวรัศมี
อากาศความดันสูงจะส่งเข้าไปยังห้องเผาไหม้โดยผ่านท่อลม ในห้องเผาไหม้จะมีหัวฉีดเชื*อเพลิงเข้าไป
อย่างต่อเนือง เมืออากาศผ่านเข้าไปยังห้องเผาไหม้จะทำให้เกิดอุณหภูมิสูงขึ*นและเกิดการขยายตัวทำให้มี
ความดันเพิมขึ*นไปขับดันกังหันให้หมุนโดยเพลาของกังหันสามารถต่อไปใช้งานได้ เช่น เครืองกำเนิด
ไฟฟ้า หรือเรือเดินสมุทร ส่วนเครืองบินไม่ส่งกำลังออกทีเพลา แต่จะมีกังหันก๊าซและเครืองอัดอากาศ
ขนาดใหญ่ทีให้กำลังและความเร็วสูงมาก ในการผลักดันเครืองบินให้เคลือนทีภายในอากาศได้ การเผา
ไหม้อย่างต่อเนืองจะทำให้อุณหภูมิของห้องเผาไหม้และเครืองอัดอากาศมีความร้อนสูง จึงต้องมีการระบาย
ความร้อนให้กับเครืองข้อดีของเครืองกังหันก๊าซคือ มีการสันสะเทือนน้อย ออกแบบง่าย มีประสิทธิภาพ
การทำงานสูง กังหันก๊าซเป็นเครืองทีไม่สามารถเริมเดินเครืองด้วยตัวเองได้เหมือนเครืองยนต์ลูกสูบทัวๆ
ไป จึงต้องมีเครืองช่วยหมุนจนได้ความเร็วรอบระดับหนึง จึงจะทำการจุดเชื*อเพลิงในห้องเผาไหม้
เครืองช่วยหมุนนี*อาจใช้มอเตอร์ไฟฟ้า หรือกังหันก๊าซเลก็ๆ โดยออกแบบให้มีถังเชื*อเพลิงและชุดอัดอากาศ
สำหรับกังหันก๊าซตัวเล็กนี*จะใช้เฟืองหรือชุดเกียร์ขับทีเพลากังหันเมือเดินเครืองได้แล้ว ชุดเกียร์จะถอย
ออกมา
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 24. 21
5.5) การเพิมประสิทธิภาพของกังหันก๊าซ
ก๊าซทีออกจากกังหันจะยังคงมีอุณหภูมิและพลังงานหลงเหลืออยู่อีกมากจึงนำก๊าซร้อนนี*ไปเข้า
เครืองถ่ายเทความร้อน ( Heat Exchange ) ก่อนทีจะส่งเข้าไปยังเครืองอัดอากาศ ทำให้อากาศทีถูกอัดมี
อุณหภูมิสูงขึ*นและส่งต่อไปยังห้องเผาไหม้ ทำให้ได้พลังงานเพิมขึ*น 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ อากาศถูกดูดเข้า
เครืองอัดอากาศ เพิมความดันให้สูงขึ*น 8 – 10 เท่า ส่งเข้าไปยังห้องเผาไหม้ทีมีก๊าซหรือน*ำมันดีเซลเป็น
เชื*อเพลิง อากาศจะขยายตัวมีความดันสูงขึ*น ไปขับเคลือนใบพัดของกังหันก๊าซให้หมุน ซึงแกนของกังหัน
ต่อเชือมเข้ากับแกนของเครืองกำเนิดไฟฟ้าผลิตแรงดันไฟฟ้าจ่ายออกไป ส่วนไอเสียทีขับดันกังหันแล้วจะ
ยังคงมีอุณหภูมิสูงอยู่ จึงนำก๊าซร้อนนี*ไปถ่ายเทความร้อนเพิมให้กับอากาศทีถูกอัด ทำให้ประสิทธิภาพของ
อากาศสูงขึ*นกว่าปกติเมือเข้าไปสนัดาปในห้องเผาไหม้
5.6) กังหันก๊าซแบบวงจรปิด ( Close Cycle Gas Turbine )
กังหันก๊าซแบบวงจรปิดโดยมีโครงสร้างและหลักการทำงานเช่นเดียวกับกังหันก๊าซแบบเปิด
โดยทัวไป ๆ ไป ส่วนทีแตกต่างคือ ใช้อากาศจำนวนเดียวกันหมุนเวียนใช้งานอยู่ในวงจรปิดตลอดเวลา
เว้นแต่จะมีการซ่อมบำรุงหรือการรัวไหลจึงจะเปลียนอากาศ
การทำงานก็คือ เมืออากาศถกูอัดด้วยเครืองอัดอากาศจะถูกส่งเข้าห้องให้ความร้อนสูง ( Heater )
เกิดการขยายตัวเพมิอุณหภูมิและความดันไปหมุนกังหัน หลังจากนั*นจะถูกระบายความร้อนด้วยน*ำทำให้
เย็นลง และไหลกลับไปยังเครืองอัดอากาศ อากาศในวงจรด้านความดันตําของวงจรจะถูกอัดความดันให้
สูงขึ*นเป็นวงจรเช่นนี*ตลอดไป
กังหันก๊าซแบบวงจรปิดนี* มีข้อดีคือสามารถใช้กับเชื*อเพลิงทุกประเภท เช่น ของแข็ง ของเหลว
และก๊าซ การให้ความร้อนในห้องให้ความร้อน จะไม่ผสมโดยตรงกับอากาศทีทำงานในวงจร โดยใช้
วิธีการนี*ดัดแปลงไปใช้กับเครืองปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้ โดยก๊าซนี*ใช้หมุนเวียนในวงจรอาจเปลียนเป็นก๊าซ
อืน เช่น ฮีเลียม แต่ข้อเสียของวงจรแบบนี*คือ ต้องใช้ปริมาณน*ำหล่อเย็นมาระบายความร้อนเป็นจำนวน
มาก
5.7) ห้องเผาไหม้ ( Combustion Chamber )
ห้องเผาไหม้เป็นโลหะรูปทรงกระบอกมีสองชั*นประกอบกันอยู่ ชั*นนอกเป็นช่องทางเข้าของ
อากาศความดันสูงทีถูกอัดเข้ามาจากเครืองอัดอากาศ ชั*นในเป็นท่อโลหะซ้อนกันอยู่โดยเจาะรูเลก็ๆ ไว้เป็น
ระยะๆ เพือให้อากาศความดันสูงเข้าไปผสมกับเชื*อเพลิงทำให้เกดการลุกไหม้ขยายตัวมีอุณหภูมิและความ
ดันสูงส่งเข้าไปขับเคลือนกังหัน ท่อภายในห้องเผาไหม้ทีถูกถอดออกมาตรวจสอบและบำรุงรักษาตาม
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก
- 25. 22
ระยะเวลาทีกำหนด โดยจะทำความสะอาดรูทีท่อซึงอาจมีสิงสกปรก เช่น เศษเขม่า หรือผงถ่านสะสม
ตกค้างอยู่ เป็นการเพมิประสิทธิภาพในการเผาไหม้อีกวิธีหนึง
ห้องเผาไหม้นี*ส่วนมากจะติดตั*งอยู่ตรงกลางระหว่างเครืองอัดอากาศและกังหันตรงส่วนหัวของห้องเผาไหม้
จะมีหัวฉีดเชื*อเพลิง ( ก๊าซหรือน*ำมันดีเซล ) ซึงห้องเผาไหม้จะมีหัวฉีดเชื*อเพลิงตั*งแต่ 6 – 18 หัว และจะมี
หัวฉีดเชื*อเพลิงให้ลุกไหม้โดยควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เพือให้การเผาไหม้สมบรูณ์ เป็นไปอย่าง
ต่อเนืองและมีประสิทธิภาพ
5.8) กังหันก๊าซแบบ 2 ตอน ( Two Stage Gas Turbine )
โดยทัวๆ ไป กังหันก๊าซจะมีเพียงหนึงชุดประกอบอยู่ร่วมกับเครืองอัดอากาศและห้องเผาไหม้
เรียกว่า เครืองกังหันก๊าซแบบตอนเดียว แต่เพือเป็นการเพมิประสิทธิภาพและกำลังงานในระบบ ก็จะเพิม
จำนวนกังหันก๊าซและเครืองอัดอากาศขึ*นอีกอย่างละชุด รวมเป็น 2 ชุด จะสามารถเพิมประสิทธิภาพใน
การทำงานขึ*นอีกประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ซึงจะเรียกว่าเครืองกังหันก๊าซแบบสอง 2 ตอน หรือถ้า
ต้องการประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ*นก็เพมิจำนวนกังหันก๊าซและเครืองอัดอากาศขึ*นไปได้อีก
การทำงาน
การทำงานของกังหันก๊าซแบบ 2 ตอน คือ เริมจากเครืองอัดอากาศความดันตําดูดอากาศจาก
ภายนอกเข้ามาทำการอัดอากาศจากปกติให้มีความดันมากข*ึน แต่ยังคงเป็นความดันตําอยู่ อากาศอัดจำนวน
นี*จะมีความร้อนอยู่ในตัวจึงต้องผ่านเครืองระบายความร้อนให้อุณหภูมิลดลง โดยยังมีความดันเท่าเดิม
ส่งผ่านไปยังเครืองอัดอากาศทีมีความดันสูงอัดอากาศให้สูงขึ*นมากกว่าอากาศปกติ 8 – 10 เท่า และผ่านเข้า
ห้องถ่ายเท่ความร้อนเข้าไปยังห้องเผาไหม้เพือช่วยให้การลุกไหม้ของเชื*อเพลิงเกิดการขยายตัว มีความร้อน
และอุณหภูมิสูงถึงประมาณ 900 C ส่งเข้าไปขับดันกังหันความดันสูงชุดแรก ทำให้กังหันหมุน
อุณหภูมิของก๊าซร้อนนี*จะผ่านออกมาจากกังหันก๊าซความดันสูงและผ่านเข้าห้องเผาไหม้ชุดที 2 เกิดความ
ร้อนอุณหภูมิสูงขยายตัวส่งออกไปขับดันกังหันก๊าซความดันตําอีกเครืองหนึงทีอยู่บนเพลาเดียวกันกับกังหัน
ชุดแรกขับเพลาให้มีกำลังหมุนเร็วข*ึน ซึงจะมีความเร็วรอบประมาณ 3000 รอบต่อนาที โดยผ่านชุดเกียร์
ซึงควบคุมความเร็วรอบให้คงทีและส่งกำลังไปหมุนเครืองกำเนิดไฟฟ้าทีใช้ความเร็วรอบคงที คือ 3000
รอบต่อนาที เพือผลิตความถีให้ได้ 50 เฮิรตซ์ ส่งกำลังไฟฟ้าออกไปโดยมีพิกัดของเครืองกำเนิดไฟฟ้า
เป็นกิโลโวลต์แอมแปร์
นายณัฐวุฒิ ค่าไทยสง คอ.บ.3.11 ก วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา พิษณุโลก