More Related Content
Similar to เนื้อหาทั้งหมด
Similar to เนื้อหาทั้งหมด (20)
More from Guntima NaLove (8)
เนื้อหาทั้งหมด
- 1. กิตติกรรมประกาศ
โครงงานเรื่ อง “มัทนะพาธา” เป็ นส่ วนประกอบการเรี ยนการสอนในเรื่ องวรรณคดีและวรรณกรรม ซึ่ ง
กลุ่มของพวกเราจัดทาขึ้นเพื่อให้เพื่อนๆในห้องเข้าใจเนื้อหาของมัทนะพาธามากยิงขึ้น
่
ในการจัดทาโครงงานครั้งนี้ขอขอบพระคุณ คุณครู นิตยา ทองดียงที่ให้คาปรึ กษาเกี่ยวกับเนื้อหา การแสดง
ิ่
คุณครู จิราภรณ์ เย็นรักษา ที่ให้การสนับสนุนชุดการแสดงละครเรื่ อง “มัทนะพาธา” ครั้งนี้
คณะผูจดทา
้ั
- 2. สารบัญ
เรื่อง
หน้ า
บทคัดย่อ
กิตติกรรมประกาศ
บทที่ ๑ บทนา
๑
- ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
- วัตถุประสงค์
- ขอบเขตของการศึกษา
- ระยะเวลาดาเนินงาน
บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง
๒
- ความเป็ นมา
- ลักษณะการแต่ง
- เรื่ องย่อ
- คุณค่าแง่คิด
- บทบาทตัวละครที่สาคัญ
- บทละครการแสดง
บทที่ ๓ วัสดุอุปกรณ์วธีการดาเนินงาน
ิ
๑๗
- วัสดุอุปกรณ์
- วิธีการดาเนินงาน
- ตารางบันทึกผลการทางาน
บทที่ ๔ ผลการดาเนินงาน
- ผลการดาเนิน
๑๙
- 4. บทคัดย่ อ
โครงงานเรื่ อง “มัทนะพาธา”จะทาขึ้นเพื่อเพื่อศึกษาเนื้อหา ความรู ้ และการแต่งบทละครพูดคาฉันท์
และเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการดาเนินเรื่ องและการเป็ นไปของเรื่ องที่ชดเจนและถูกต้อง ซึ่งเรื่ อง “มัทนะพาธา”
ั
่ ั
เป็ นบทประพันธ์ที่ทรงแต่งขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูหวที่ทรงมีพระปรี ชาในการแต่ง
โดยรวมคาฉันท์ท้ งหมด ๒๑ บท อีกทั้งยังเป็ นวรรณคดีที่ได้รับความนิยมเพราะแฝงไปด้วยคติในเรื่ องของ
ั
ความรักที่เกิดจากหลากหลายตัวละครเหตุน้ ีทางกลุ่มของดิฉนได้เกิดความสนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
ั
บทละครพูดคาฉันท์เรื่ อง “มัทนะพาธา” เพื่อให้เกิดความรู ้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น และเพื่อสานต่อเกี่ยวกับ
ความรู ้การแต่งวรรณคดีที่เป็ นบทละครพูดคาฉันท์ให้คนรุ่ นหลังได้เห็นถึงความสาคัญของวรรคดีไทยใน
สมัยโบราณประโยชน์ที่ได้รับนั้นคือมีความรู ้ความเข้าใจเรื่ องมัทนะพาธาได้แง่คิดในเรื่ องความรักและมี
ความสามัคคีในกลุ่ม
- 5. บทที่ ๑
บทนา
ทีมาและความสาคัญของโครงงาน
่
เนื่ องจากโครงงานนี้ เป็ นโครงงานที่ริเริ่ มมาจากการศึกษาบทละครพูดคาฉันท์ เรื่ อง “มัทนะพาธา”
่ ั
ซึ่ งเป็ นบทประพันธ์ที่ทรงแต่งขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูหวที่ทรงมีพระปรี ชาในการแต่ง
โดยรวมคาฉันท์ท้ งหมด ๒๑ บท อีกทั้งยังเป็ นวรรณคดีที่ได้รับความนิ ยมเพราะแฝงไปด้วยคติในเรื่ องของ
ั
ความรักที่เกิดจากหลากหลายตัวละครและหลายอารมณ์อีกด้วย
ด้วยเหตุน้ ี ทางกลุ่มของดิ ฉนได้เกิดความสนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทละครพูดคาฉันท์เรื่ อง
ั
“มัทนะพาธา” เพื่อให้เกิ ดความรู ้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น และเพื่อสานต่อเกี่ยวกับความรู ้การแต่งวรรณคดี ที่
เป็ นบทละครพูดคาฉันท์ให้คนรุ่ นหลังได้เห็นถึงความสาคัญของวรรคดีไทยในสมัยโบราณ ทั้งยังเป็ นเรื่ องที่
นักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๕ จะต้องเรี ยนรู้อีกด้วย
วัตถุประสงค์
๑.เพื่อศึกษาเนื้อหา ความรู ้ และการแต่งบทละครพูดคาฉันท์
๒.เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการดาเนินเรื่ องและการเป็ นไปของเรื่ องที่ชดเจนและถูกต้อง
ั
๓.เพื่อให้เกิดความสามัคคีในกลุ่มในการร่ วมกันทางาน
๔.เพื่อสานต่อวรรณคดีไทยให้เกิดความน่าสนใจแก่คนรุ่ นหลัง
ขอบเขตของการศึกษา
- นักเรี ยนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๕/๑
- โรงเรี ยนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
วันที่๑-๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
- 6. บทที่ ๒
เอกสารทีเ่ กียวข้ อง
่
ความเป็ นมา
่ ั
มัทนะพาธาเป็ นพระราชนิ พนธ์เรื่ องเอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยูหว ได้รับการยกย่องจาก
วรรณคดีสโมสรให้เป็ นหนังสื อที่แต่งดี ใช้ฉนท์เป็ นบทละครพูดซึ่ งแปลกและแต่งได้ยาก เป็ นเรื่ องที่มีตว
ั
ั
ละครและฉากสอดคล้องกัน วัฒนธรรมภารตะโบราณและเข้ากับเนื้อเรื่ องได้ดี
ลักษณะการแต่ ง
เรื่ องมัทนะพาธาใช้คาประพันธ์หลายชนิดแต่เน้นแต่งด้วยฉันท์ บางตอนใช้กาพย์ยานี กาพย์ฉบังหรื อ
กาพย์สุรางคนางค์ และมีบทเจรจาร้อยแก้วในส่ วนของตัวละครที่ไม่สาคัญ ทาให้มีลีลาภาษาที่หลากหลาย
ตอนใดดาเนิ นเรื่ องรวดเร็ วก็ใช้ร้อยแก้ว ตอนใดต้องการจังหวะเสี ยงและความคล้องจองก็ใช้กาพย์ อารมณ์
มากก็มกใช้ฉนท์ เช่น ตอนที่สุเทษณ์ตดพ้อและมัทนาเจรจาตอบใช้วสันตดิลก แสดงจังหวะรวดเร็ วของ
ั
ั
ั
ถ้อยคาเสริ มให้คารมโต้ตอบกันมีลีลาฉับไวและทันกัน
เรื่องย่อ
่
มัทนะพาธาเป็ นเรื่ องสมมุติวาเกิดในอินเดียโบราณ เนื้อเรื่ องกล่าวถึงเหตุการณ์บนสวรรค์ เทพบุตร
สุ เทษณ์หลงรักเทพธิ ดามัทนา แต่นางไม่ปลงใจด้วย สุ เทษณ์จึงขอให้วทยาธรมายาวินใช้เวทมนตร์ สะกด
ิ
เรี ยกนางมา มัทนาเจรจาตอบสุ เทษณ์อย่างคนไม่รู้สึกตัว สุ เทษณ์จึงไม่โปรด เมื่อขอให้มายาวินคลายมนตร์
มัทนาก็รู้สึกตัวและตอบปฏิเสธสุ เทษณ์ สุ เทษณ์โกรธ จึงสาปให้เธอจุติไปเกิดบนโลกมนุษย์ มัทนาขอไปเกิด
เป็ นดอกกุหลาบ สุ เทษณ์กาหนดว่า ให้ดอกกุหลาบดอกนั้นกลายเป็ นมนุษย์เฉพาะวันเพ็ญเพียงวันและคืน
เดียว ต่อเมื่อมีความรักจึงจะพ้นสภาพจากเป็ นดอกไม้ และหากเป็ นความทุกข์เพราะความรักก็ให้วงวอนต่อ
ิ
พระองค์ พระองค์จะช่วย
ณ กลางป่ าหิมะวัน ฤษีกาละทรรศินพบ ต้นกุหลาบจึงขุดไปปลูกไว้ที่อาศรม เมื่อมัทนากลายเป็ น
มนุษย์ก็เลี้ยงดูรักใคร่ เหมือนลูก ท้าวชัยเสนกษัตริ ยแห่งเมืองหัสตินาปุระเสด็จไปล่าสัตว์ ได้พบนางมัทนาก็
์
เกิดความรัก มัทนาก็มีใจเสน่หาต่อชัยเสนด้วยเช่นกัน ทั้งสองจึงสาบานรักต่อกัน และมัทนาไม่ตองกลับไป
้
เป็ นกุหลาบอีก แต่เมื่อชัยเสนพามัทนาไปยังเมืองหัสตินาปุระของพระองค์ พระนางจัณฑีมเหสี ของชัยเสน
หึงหวงและแค้นใจมาก นางขอให้พระบิดาซึ่งเป็ นพระราชาแคว้นมคธยกทัพมาตีหสตินาปุระ จัณฑียงใช้ให้
ั
ั
นางค่อมข้าหลวงทากลอุบายว่า มัทนารักกับศุภางค์ทหารเอกของชัยเสน ชัยเสนหลงเชื่ อจึงสั่งให้ประหาร
- 7. ่
มัทนาและศุภางค์ แต่ต่อมาเมื่อชัยเสนรู ้วามัทนาและศุภางค์ไม่มีความผิดก็เสี ยใจมาก อามาตย์เอกจึงทูลความ
่
จริ งว่ายังมิได้สังหารนาง และศิษย์ของพระกาละทรรศินได้พานางกลับไปอยูในป่ าหิ มะวันแล้ว ส่ วนศุภางค์ก็
ั
เป็ นอิสระเช่นกัน และได้ออกต่อสู ้กบข้าศึกจนตายอย่างทหารหาญ ชัยเสนจึงเดินทางไปรับนางมัทนา
ขณะนั้นมัทนาทูลขอให้สุเทษณ์รับนางกลับไปสวรรค์ สุ เทษณ์ขอให้นางรับรักตนก่อน แต่มทนายังคง
ั
ปฏิเสธ สุ เทษณ์กริ้ วจึงสาปให้มทนาเป็ นกุหลาบตลอดไป ชัยเสนมาถึงแต่ก็ไม่ทนการณ์ จึงได้แต่นาต้น
ั
ั
กุหลาบกลับไปยังเมืองหัสตินาปุระ
่
ตอนที่เลือกมาให้เรี ยนนี้อยูในองค์ที่ ๑ เมื่อมายาวินทาพิธีสะกดพามัทนามาพบสุ เทษณ์ไปจนจบองก์
เมื่อสุ เทษณ์สาปมัทนา
่
มัทนะพาธาเป็ นเรื่ องที่สมมุติวาเป็ นกาเนิดของต้นกุหลาบ มีการผูกเรื่ องให้เกิดความขัดแย้งซึ่ งเป็ นปม
ปั ญหาของเรื่ อง กล่าวคือ สุ เทษณ์หลงรักมัทนา แต่มทนาไม่รับรัก สุ เทษณ์จึงกริ้ ว มัทนาต้องลงมาเกิดในโลก
ั
มนุษย์เป็ นการชดใช้โทษ เมื่อพบรักกับชัยเสน ความรักก็ไม่ราบรื่ นเพราะมีอุปสรรคคือนางจันฑี มัทนาต้อง
ถูกพรากไปจากชัยเสน และได้พบสุ เทษณ์อีกครั้งหนึ่ง แต่มทนาก็ยงไม่เปลี่ยนใจจากชัยเสนมารักสุ เทษณ์
ั
ั
เรื่ องจึงจบด้วยความสู ญเสี ย สุ เทษณ์ไม่สมหวังในความรัก ชัยเสนสู ญเสี ยคนรัก และมัทนาต้องเปลี่ยนสภาพ
มาเป็ นเพียงดอกกุหลาบ
คุณค่ า/แง่ คิด
่ ั
มัทนะพาธาเป็ นพระราชนิพนธ์เรื่ องเอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยูหว ได้รับการยก
ย่องจากวรรณคดีสโมสรให้เป็ นหนังสื อที่แต่งดี ใช้ฉนท์เป็ นบทละครพูดซึ่ งแปลกและแต่งได้ยาก เป็ นเรื่ องที่
ั
มีตวละครและฉากสอดคล้องกัน วัฒนธรรมภารตะโบราณและเข้ากับเนื้อเรื่ องได้ดี สอนให้รู้ถึงความ
ั
เจ็บปวดที่เกิดจากความรัก รู ้ถึงโทษของความรัก
บทบาทของตัวละครสาคัญเรื่องมัทนะพาธา
ชาวฟ้ า
สุ เทษณะเทพบุตร์ : ผูหลงรักนางมัทนาอย่างหมดหัวใจจนอาจจะกลายเป็ นความลุ่มหลง อันเป็ นเหตุให้
้
เกิดโศกนาฎกรรมแห่งความรักนี้ข้ ึน
จิตระเสน: จิตระเสน หัวหน้าคนธรรพ์ ได้จดแสดงการร่ ายราถวายแด่สุเทษณะเทพบุตร์ เพื่อหวังคลาย
ั
ความเศร้า ความทุกข์ของสุ เทษณะเทพบุตร์ แต่ไม่เป็ นผล
จิตระรถ: จิตระรถสาระถีคนเก่งได้ท่องเที่ยวไปในทุกที่และวาดรู ปนางงามมากานัลสุ เทษณะเทพบุตร
เพื่อหวังให้สุดเทษณะเทพบุตรได้พึงใจและลืมนางมัทนาต้นเหตุแห่งความเศร้าซึ ม
- 8. มายาวิน: วิทยาธร ผูมีวชาอาคมใช้เวทย์มนต์เรี ยกนางมัทนามาพบสุ เทษณะเทพบุตร์ ท้ งๆที่ยงหลับไหล
้ ิ
ั
ั
อันเป็ นบ่อเกิดแก่โทสะของสุ เทษณะเทพบุตร์ ต่อนางมัทนา
นางมัทนา: หญิงงามผูเ้ ป็ นเหยือของความรักที่นางไม่ได้ตองการ
่
้
ชาวดิน
พระกาละทรรศิน : ฤาษีในป่ าหิมมะวัน ผูที่ดูแลดอกกุหลาบมัทนาเยียงบุตรี
้
่
โสมะทัต: หัวหน้าศิษย์ของพระกาละทรรศิน
นาค และ ศุน: ศิษย์ของพระกาละทรรศิน และเป็ นผูพบดอกกุหลาบมัทนา
้
่
ท้าวชัยเสน: ราชาผูทรงครองเมืองรหัสตินาปุระ มีอครมเหสี อยูแล้ว แต่ก็ยงพึงใจนางมัทนา จนรับนาง
้
ั
ั
กลับวัง
พระนางจัณฑี: อัครมเหสี แห่งท้าวชัยเสน ที่นอยอกน้อยใจผัว จนถึงขั้นอิจฉาริ ษยานางมัทนาอันเป็ นเหตุ
้
ให้นางออกอุบายชัวร้ายทั้งต่อผัวและนางที่ผวรัก
ั
่
วิทูร: พราหมณ์หมอเสนห์ ผูเ้ ป็ นนักแสดงตัวเก่งที่ใส่ ไคล้นางมัทนา
ศุภางค์ : นายทหารคนสนิ ทของท้าวชัยเสน แม้ถูกใส่ ความและถูกสังประหารชีวตจากท้าวชัยเสน แต่ก็
ิ
่
จงรักภักดิ์ดีจนชีวีหาไม่ในสนามรบ
นันทิวรรธนะ: อมาตย์ของท้าวชัยเสน จิตใจดีรักความยุติธรรม ได้ปล่อยศุภางค์ผบริ สุทธ์ไป
ู้
่ ั
ปริยมวทา: นางกานัลของท้าวชัยเสน จงรักภักดีท้ งต่อท้าวชัยเสนและนางมัทนา นางอยูกบนางมัทนาจน
ั
ั
วินาทีสุดท้าย ก่อนที่นางมัทนาจะกลายร่ างเป็ นดอกกุหลาบตลอดกาล
อราลี: นางค่อมข้าหลวงพระนางจัณฑี
เกศินี: ข้าหลวงพระนางจัณฑี ผูเ้ ป็ นนักแสดงอีกคนในละครใส่ ไคล้นางมัทนา
บทละครเรื่องมัทนะพาธา
องก์ที่ ๑
ฉาก: วิมานของเทพบุตรสุ เทษณ์ ,บนสวรรค์
่ ั
เทพบุตรสุ เทษณ์อยูกบวิทยาธรมายาวินซึ่ งกาลังทาพิธีสะกดนางมัทนามายาวินนังประนมมือสักครู่ มท
ั
่
นาเดินออกมา ตาจ้องเป๋ งไม่แลดูใครด้วยอาการที่ถูกสะกด สุ เทษณ์เห็นนางมัทนาก็ลุกลงมาจากบัลลังก์เพื่อ
มาต้อนรับแต่ครั้นเห็นนางมัทนาไม่ยมแย้มก็ชงักแล้วหันไปพูดกับมายาวิน
ิ้
สุ เทษณ์ : นางมาแล้วไซร้ แต่ฉนใดจึ่งไม่พดจา
ั
ู
- 9. ่ ้
มายาวิน: นางยังงวยด้วยฤทธิ์ มนตรา แต่วาตูขาจะแก้บดนี้
ั
(มายาวินหันมาพูดกับนางมัทนา)
มายาวิน: ดูก่อนนะนางมัทนาหากองค์สุเทษณ์ทรงเอ่ยถามประการใดขอให้นางจงตอบไปแม้เข้าใจมิเข้าใจก็
ตาม
มัทนา: เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ หากองค์สุเทษณ์น้ นเอ่ยถามดิฉนก็จะตอบในทันที
ั
ั
่ ้
(สุ เทษณ์จองดูนางมัทนาที่ยงคงตาลอยอยูดวยท่าทีฉงนจึงลองถามไป)
้
ั
สุ เทษณ์ : หากพี่จะกอดวธุ และจุม-
พิตะเจ้าจะว่าไร
มัทนา: ข้าบาทจะขัดฤก็มิได้
ผิพระองค์จะทรงปอง
สุ เทษณ์ : ว่าแต่จะเต็มฤดิฤหาก
ดนุกอดและจูบน้อง
มัทนา: เต็มใจมิเต็มดนุก็ตอง
้
ปฏิบติระเบียบดี
ั
สุ เทษณ์ไม่พอใจกับคาตอบของนางจึงหันไปพูดกับมายาวิน
สุ เทษณ์: เหตุใดนางจึงเป็ นเช่นนี้เล่า
มายาวิน: ที่นางเป็ นเช่นนี้อาจเป็ นเพราะนางยังงงงวยด้วยฤทธิ์ ของมนตรา อันกระหม่อมได้สะกดให้นางทูล
ตอบตามที่พระองค์ตองการ
้
สุ เทษณ์ : อ๊ะ! ไม่น่ะเราไม่ขอที่จะได้นางโดยวิธีน้ ี เราต้องการนางโดยที่นางยินยอม ด้วยใจที่แท้จริ งฉะนั้น
แล้วขอให้ท่านได้โปรดคลายเวทย์มนต์
ด้วยเถิด(มายาวินประนมมือแล้วร่ ายมนต์ จนนางมัทนาได้สติเมื่อแลไปเห็นสุ เทษณ์ก็ตกใจและตั้งท่า
จะหนี)
สุ เทษณ์: ช้าก่อนนางจะไปใหน?
มัทนา: ได้โปรดให้หม่อมฉันไปเถิด
สุ เทษณ์ : ตัวเรารักเจ้าถึงเพียงนี้แต่เจ้ายังปฏิเสธข้า หากเจ้าไม่รับไมตรี จิตที่ขามีต่อเจ้า ข้าก็จะให้เจ้าไปเกิดยัง
้
โลกมนุษย์ ข้าจะให้เจ้าเลือกว่าเจ้าจะไปเกิดเป็ นอะไร
มัทนา: อันโปรดให้เลือกตาม ฤดิขาณบัดนี้
้
ขอเป็ นซึ่งมาลี
รุ จิเรขวิไลวรรณ
สุ ดแท้แต่จอมสรวง
จะประสิ ทธิ์ ประสาทพันธุ์
ขอเพียงให้มีคน
ั
ธะระรื่ นระรวยหอม
(สุ เทษณ์หนมาทางมายาวิน)
ั
- 10. สุ เทษณ์ : ก็บุปผาอย่างใดมี
ที่งามทั้งสี่
อีกทั้งมีกลิ่นส่ งไกล
แต่ตองให้มีหนามไว้ ป้ องกันมิให้ เหล่าเดรัจฉานผลาญยับ
้
มายาวิน: ธโปรดเป็ นยอดมาลา เห็นมีแต่ในฝากฟ้ า
ในแดนคนหา ไม้น้ ีมิได้แห่ งใหน
สุ เทษณ์ : ไม้น้ ีมีนามฉันใด?
มายาวิน: ไม้เรี ยกผะกากุพ-
ชะกะสี อรุ ณแสง
มัทนา: ไหนไหนจะเป็ นดอกไม้ หม่อมฉันพอใจ เป็ ดอกที่ออกนามมา
สุ เทษณ์ : ด้วยฤทธิ์ และอานาจอันข้าผูยงใหญ่ขาขอสาบให้นางมัทนาลงไปจุติ ณ แดนมนุษย์ เป็ นไม้ที่มีชื่อว่า
้ ิ่
้
ดอกผะกากุพชะกะ ณ ป่ าหิมะวัน
บัดนี้เทอญ
(มัทนาร้องกรี๊ ดและล้มลงกับพื้น)..............(ปิ ดม่าน)
องก์ที่ ๒
ตอนที่ ๑
ฉาก: ในกลางป่ าหิมะวัน
่
่
เป็ นลานหญ้าอยูระหว่าต้นไม้ใหญ่ ที่ตรงกลางเวทีมีดอกกุหลาบอยูหนึ่งต้น มีดอกดอกเดียว เป็ นดอก
่ ้
ใหญ่สีชมพูแก่ นอกจากต้นกุหลาบแล้วมีตนไม้อย่างอื่นอีกก็ได้ อาจมีกล้วยไม้กาลังออกดอกอยูดวยก็ได้
้
(นาคและศุนศิษย์ของพระกาละทรรศิน,จึงออกมา)
นาค: อ้ายดอกนี้ เอ๊ะ!เขาเรี ยกดอกอะไรนะ
ศุน: บางทีโสมะทัตจะรู้จก
ั
(โสมะทัตเดินออกมา)
โสมะทัต: ได้ยนใครออกชื่อฉันหรื อ
ิ
ศุน: พบดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมได้แล้วขอรับ
โสมะทัต: วิงไปเรี ยนท่านอาจารย์ให้ทราบเดี๋ยวนี้
่
ศุน: ขอรับ
(พระกาละทรรศินอออกมาพร้อมกับศุน)
กาละทรรศิน: ใหนเล่าต้นไม้ที่เจ้าว่า
่
ศุน: อยูนี่เจ้าข้า! ข้าไซร้ เป็ นผูทีได้ประสพพบดอกอัศจรรย์
้
นาค: ตูขามาพร้อมกัน
้
- 11. กาละทรรศิน: มัวเถียงกันไม่เข้าการ ไปเก็บดวงมาลย์ มาให้เราพลัน
(นาคกับศุนวิงแยกกันไปเก็บดอกกุหลาบ แต่ท้ งสองยืนมือไปถูกหนามเข้าก็หดมือเข้าโดย
ั
่
่
อาการตกใจ)
ศุน: โอ้ยเจ็บพิลึก
โสมะทัต: แกสองคนหัวดื้อ ไร้ความนับถือ
จึ่งขัดคาเราผูใหญ่
้
ช่างเถิดไม่จาเป็ นต้องใช้
ศุน: ดีแล้วเชิญไป
ถูกหนามเล่นบ้างแหละดี
(โสมะทัตเข้าไปจะเด็ดดอกกุหลาบ ถูกหนามเข้าบ้าต้องหดมือออกมา ศิษย์สองคนหัวเราะโสมะทัตไม่
พอใจชักมีดออกจะฟันกิ่งกุหลาบ)
กาละทรรศิน: ช้าก่อน!อย่าตัดมาลี ที่งามเช่นนี้ เราอยากใคร่ ให้ขดไป
ุ
(พอบริ วารเอาเครื่ องมือขุดลงก็มีเสี ยงผูหญิงร้องโอ้ย! โสมะทัตจะลงมือขุดอีกแต่พระกาละทรรศิ
้
นห้ามไว้)
กาละทรรศิน: อ่ะ! หยุดก่อนไม้น้ ีมิใช่ไม้ธรรมดา นี่ หาใช่เป็ นดอกไม้แต่ที่จริ งแล้วเป็ นเทพธิ ดาที่ ถูกสาบให้
จุติจากแดนสวรรค์ พระกาละทรรศิน
เอาหม้อน้ าไปหลังลงที่โคนต้นกุหลาบจากนั้นก็สังให้บริ วารขุดต้นกุหลาบ คราวนี้ไม่มีเสี ยง
่
่
ร้องเช่นครั้งก่อน
กาละทรรศิน: บัดนี้เจ้าอย่าร่ าไร ช่วยกันยกไป ยังสวนณอาศรมสถาน
(ทั้ งหมดยกต้นกุหลาบเข้าหลังเวที)
ตอนที่ ๒
ฉาก: ทางเดินในป่ า (ท้ าวชั ยเสนออกพร้ อมกันกับสุ ภางค์ กบทหารและพราน)
ั
ชัยเสน: นี่เรามาถึงที่ใดกันแล้วนี่ และจะเดินต่อไปทางทหารก็จะตามไม่ทน เดี๋ยวเราจะพักใต้ร่มไม้นี่แหละ
ั
เจ้าจงนาพวกพรานล่วงหน้าไปหาที่อยู่
ของพระอาจารย์กาละทรรศิน ก่อน
ศุภางค์ : พระเจ้าค่ะ
(ศุภางค์ถวายบังคมท้าวชัยเสนแล้วเข้าโรงไปพร้อมกับพวกทหาร)
(ชัยเสนนังลงใต้ร่มไม้)
่
- 12. ชัยเสน: อโหระลึกขึ้น
ละก็สุดจะเสี ยดาย
ได้เคยประสพหลาย มิคะแล้วบ่เคยเห็น
กวางงามอร่ ามทัว
่
วรกายะดังเช่น
ดนูละเลิงเล่น
จรไล่ ณ วันนี้
(ศุภางค์เดินออกมา)
่
ศุภางค์ : ขณะนี้ขาได้พบที่อยูของพระอาจารย์แล้วพระเจ้าค่ะ
้
ชัยเสน: ดีแล้วข้านี้อยากจะพักเสี ยเต็มที
(เข้าโรงไป)
ตอนที่ ๓
ฉาก: ลานหน้ าอาศรมของพระกาละทรรศิน
ด้านหลังของเวทีเป็ นอาศรม เป็ นเรื อนไม้มุงแฝกมีระเบียง สองข้างเวทีเป็ นสวน มีแท่นศิลา มีพรมปูอยู่
พระกาละทรรศินและมัทนานังอยู่
่
โสมะทัต: นายทหารผูน้ ีได้เดินทางล่วงหน้าองค์ทาวชัยเสน
้
้
กาละทรรศิน: อันภูมินาถ เสด็จประพาส พักแรมหนใด
ศุภางค์ : ทรงเดินทางมาเรื่ อยทรงพอพระทัยที่ใดก็พกที่นน
ั ั่
กาละทรรศิน: ตัวเรา เป็ นเจ้าของบ้าน ตัองขอเลี้ยงท่าน มาเถิดธิดา
(กาละทรรศินกับนางมัทนาเดินเข้าไปในอาศรม จากนั้นท้าวชัยเสนออกพร้อมบริ วารพระกา
ละทรรศินออกมาต้อนรับ)
กาละทรรศิน: ข้าขอต้อนรับองค์ทาวชัยเสนด้วยความยินดี
้
(มัทนาออกมจากในอาศรมท้าวชัยเสนเห็นก้อจ้องจนตลึง)
มัทนา: พระบิดาข้าเจ้าขาดิฉนได้เตรี ยมอาหารไว้เรี ยบร้อยแล้วขอเชิญพระบิดาและท้าวชัย เสนเลยน่ะเจ้าคะ
ั
(มัทนากราบกาละทรรศินและชัยเสนแล้วกลับเข้าโรง)
ชัยเสน: เอ๊ะกูสุบินเห็น
ฤเทวะนารี
ฤวะจริ งนะเมื่อกี้
ธเสด็จณศาลา
ศุภางค์ : พระทอดพระเนตรเห็น
มุนีธเลี้ยงไว้
ดรุ ณีวิเศษไซร้
ดุจะปรี ยะบุตรี
- 13. ชัยเสน: จะหาวิไลยปาน
และหากว่ากูได้
ฤก็กบเคยเห็น
ู
ก็จะรื่ นฤดูเย็น
กาละทรรศิน: ข้าขอเชิญท่านเข้าไปในอาศรมเถิด
ชัยเสน: เชิญพระอาจารย์นาทางไปด้วยเถิด
(ทั้ งหมดเดินหายเข้าไปในอาศรม)
องก์ที่ ๓
ฉาก: ลานหน้ าอาศรมของพระกาลทรรศิน
ด้านหลังของเวทีเป็ นอาศรม เป็ นเรื อนไม้มุงแฝกมีระเบียง สองข้างเวทีเป็ นสวน มีแท่นศิลา แต่ไม่มี
พรมและสมมตว่าเป็ นเวลากลางคืน มีแสงเดือนหงายแจ่มอย่างในวันเพ็ญท้าวชัยเสนออกมาชมพระจันทร์
แล้วราพึงถึงนางมัทนา (ท้าวชัยเสนเดินออกมาจากทางด้านซ้าย)
ชัยเสน: โอ้โอ๋ กระไรเลย
พอเห็นก็ทราบส้าน
ยิงยลวะนิดา
่
บมิเคยณก่อนกาล
ฤดิรักบหักหาย
ละก็ยงจะร้อนคล้าย
ิ่
เพลิงรุ มประชุมกาย ณอุราบลาลด
(ท้าวชัยเสนทาท่าตกใจเล็กน้อย)
ช้าก่อน!ดนูเห็น
ณ ประตูสิราไร
ดังหนึ่งจะมีใคร
จระจากพระอาศรม
(ท้าวชัยเสนเลี่ยงเข้าไปแฝงหลังกอไม้ มัทนาเดินออกมาจากอาศรมมามองดูดวงเดือน)
่
มัทนา: โอ้วาอนาถใจ
ละไฉนปนะเปนฉะนี้
แต่ไรก็ไม่มี
มะนะนึกระเหระหน
ไม่เคยจะเชื่อว่า
รติน้ นจะสัประดน
ั
มาสู่ ณ ใจตน
และจะต้องระทมระทวย
ครานี้สิพบชาย
วรรู ปวิเศษศาล
ใจวาบและหวามปาน ฤดิน้ นจะโลดจะลอย
ั
่
(ชัยเสนเดินออกจากที่แฝงมายืนอยูหน้าอาศรม)
ั
ชัยเสน: ได้ยนแล้วพี่น้ ีก็ดีใจยิงนัก ที่เจ้าก็มีใจให้กบพี่เช่นกัน
ิ
่
- 14. ่ ้
มัทนา: หม่อมฉันเคยได้ยนสุ ภาษิตโบราณได้กล่าวไว้วาผูชายเมื่อยามรักก็พดได้ราวกับมีลายลิ้น
ิ
ู
ชัยเสน: ถ้าพีมีหลายลิ้นทุกๆลิ้นของพี่ก็ลวนแต่รุมบอกรักน้องนาง
้
มัทนา: หากพระองค์ทรงดารัสคาปฏิญญาหม่อมฉันก็จะจงรักและภักดีต่อพระองค์ไหน เลยจะมีความแคลง
ใจ
ชัยเสน: ฉะนั้นพี่ก็ยนดี
ิ
(ท้าวชัยเสนพามัทนาเข้าโรงไป)
จากนั้นท้าวชัยเสนจึงอภิเษกกับนางมัทนาและพานางมัทนากลับกรุ งหัสตินาปุระด้วยนางมัทนาเมื่อได้
ั
พบรักแท้กบท้าวชัยเสนก็มิกลับเป็ นดอกกุหลาบอีกเลย
องก์ที่ ๔
ตอนที่ ๑
ฉาก: ในตาหนักของท้าวชัยเสน ณ กรุ งหัสตินาปุระ (ท้ าวชั ยเสนพานางมัทนาออกมานั่งบนพลับพลาศุภางค์
มาเข้ าเฝ้ าด้ วย)
ชัยเสน: ตั้งแต่เราได้อภิเษกกันมาพี่น้ ีก็มีความสุ ขเหมือนกับได้พี่ได้ข้ ึนสู่ สวรรค์
มัทนา: จะหาสุ ขใดเปรี ยบไม่มีแล้วเพคะ
่
(นางจัณฑีออกพร้อมนางข้าหลวง นางยืนดูทาวชัยเสนและนางมัทนาอยูครู่ หนึ่งแล้วจึงเข้าบังคมท้าว
้
ชัยเสน)
จัณฑี: ถวายบังคมเพคะได้ยนว่าพระองค์กลับมาจากประพาสป่ าแล้วแต่เหตุใดจิงมิเสด็จตาหนักของหม่อม
ิ
ฉันหรื อว่ามีคนรั้งไว้มิให้เสด็จได้
่
ปล่อยให้หม่อมฉันนังรอแกร่ วอยูที่ตาหนักรอพระองค์ไปสิ เพคะ
่
มัทนา: อันว่าหม่อมฉันหรื อจะรั้งพระองค์ไว้ได้ หากพระองค์อยากจะเสด็จหม่อมฉันก็ มิได้ขดพระทัย
ั
จัณฑี: ข้ารู ้ที่พระองค์ทรงโปรดเจ้าก็เพราะว่าเจ้ามิเคยขัดใจละซิ หญิงใดที่ขดใจผัวผัวก็คงมิรักได้นานต้อง
ั
ชังประจบประแจงซิ
่
แต่ตวข้านี้เป็ นถึงธิ ดากษัตริ ยจึงประจบประแจงไม่เป็ นใหนเลยจะสู ้ธิดาพระโยคีได้
ั
์
- 15. ชัยเสน: อ๊ะ! อย่าน่ะจัณฑี
วจะเธอนะเกินไป
่
มา มะทะนา เราไปดีกว่า อยูอีกทาไม
่
ขืนอยูฟังเสี ยงไป ก็เถียงกันไป ยืดยาวยิงใหญ่หาแก่นสารมิได้
่
(ท้าวชัยเสนจูงนางมัทนาเข้าไป)
จัณฑี: อิโสภิณีดี
ตะประจบสาออยผัว
แน่ะมึงน่ะเงาหัว บมิมีละรู้ไหม
ผิกจะใช้คน
ู
จรยังชนกนาถ
และทูลคดีกาจ ฤวะไท้จะดูดาย
นางค่อมอราลี ฉะนั้นเรารี บกลับตาหนักกันดีกว่าเพคะหม่อมฉันมีแผนการดีๆจะทูลถวายเพคะ
(นางจัณฑี นางค่อมอราลีและข้าหลวงก็เข้าโรงไป)
นางจัณฑีหึงหวงและแค้นใจมาก นางขอให้พระบิดาซึ่งเป็ นพระราชาแคว้นมคธ ยกทัพมาตีหสตินาปุ
ั
ระตามอุบายของนางอราลี
ฉาก: เป็ นเมืองของแคว้ นมคธ (พระราชบิดาของนางจันฑีนั่งอยู่ ครู่ หนึ่งนางอราลีเดินนวยนาดเข้ ามา ถือ
พระราชสารจากนางจันฑีมาด้ วย)
่
ราชาแคว้นมคธ: นันนางค่อมอราลีอปลักษณ์เจ้ามีธุระอันใดเล่า รึ วา เกิดเหตุอนใดแก่จนฑีธิดาอันเป็ นที่รัก
ั
ั
ั
่
ของข้า
อราลี: พระราชธิ ดาให้หม่อมฉันนาพระราชสาระสาคัญมาถวายเพคะ
(นางอราสี ส่งราชสารให้แก่ราชาแค้วนมคธ ราชาแคว้นมคธเปิ ดอ่านแล้วทาท่าตกใจ เสี ยงภาคของนาง
จันฑี ถวายบังคมเสด็จพ่ออันเป็ นที่รักและเคารพยิงของลูกหม่อมฉันมีเรื่ องจะให้เสด็จพ่อช่วย บัดนี้ทาวชัย
้
่
ั
เสนได้มีพระชายาใหม่ซ่ ึ งสร้างความคับแค้นใจให้กบลูกมากหากเสด็จพ่อกรุ ณาได้โปรดยกทัพมาล้อมกรุ ง
หัสตินาปุระเพื่อทาการแก้แค้นให้หม่อมฉันด้วยเถิดหม่อมฉันขอกราบขอบพระทัยเสด็จพ่อล่วงหน้านะเพ
คะ)
ราชาแคว้นมคธ(โกรธ): หึ ไม่ได้การล่ะเราจักต้องทาการแก้แค้นให้ลูกรักของเรา (ตะโกนเรี ยกทหาร)ทหาร
ทหาร จัดทัพเตรี ยมล้อมหัสตินาปุระแก้แค้นให้ลูกข้า (ราชาแคว้นมคธเข้าโรงไป จางนั้นนางอราลีก็เดิน
กระหยิมยิมย่องตามไป)
่ ้
- 16. ตอนที่ ๒
ฉาก: ริมรั้วค่ ายหลวง
ฉากหลังเป็ นภาพรั้วค่ าย ท้ าวชั ยเสนแต่ งเครื่องแบบนักรบ ออกพร้ อมด้ วยสุ ภางค์ และทหาร
(ชั ยเสนนั่งอยู่กบศุภางค์ และทหาร)
ั
ชัยเสน: ข้ามินึกว่าจันฑีจะแค้นเคืองข้าถึงเพียงนี้ถึงกับบอกให้พระบิดายกทัพมาตีเรายิ่งตอนนี้มทนายิงไม่
ั
่
่ ้
สบายอยูขาว่าจะกลับไปเยียมนาง
่
สักหน่อย เดี๋ยวเจ้าไปกับข้าน่ะสุ ภางค์
(ท้าวชัยเสนและบริ วารเข้าโรงทั้งหมด) ในระหว่างออกรบท้าวชัยเสนเกิดนึกเป็ นห่วงนางมัทนาจึง
ตัดสิ นใจกลับเมือง
ตอนที่ ๓
ฉาก: สวนหลวงข้ างพระราชวัง ในกรุ งหัสตินาปุระ
(ฉากเป็ นสวนดอกไม้ มีต้นไม้ ร่มรื่น มีเตียงสาหรับนั่งเล่น ในฉากนีเ้ ป็ นเวลากลางคืน พระนางจันฑีนั่ง
อยู่บนเตียง
อราลีนงข้างๆ และพราหมณ์วฑูรนังกับพื้นตรงกลางเวทีมีกองฟื นจัดสุ มไว้)
ั่
ิ ่
อราลี: ตามที่ได้ยนมาหม่อมฉันได้ข่าวว่าองค์พระสวามีจะเสด็จกลับมาถึงพระนครในคืนนี้นะเพคะ
ิ
จันฑี: แล้วข่าวการสงครามเล่าเป็ นอย่างไรบ้าน
อราลี: ฝ่ ายสมเด็จพระบิดาก็ยงคงยกทัพเข้าตีทพของพรสวามีอยูเ่ รื่ อยๆแต่ทพของพระสวามีก็ยงคงรับมือได้
ั
ั
ั
ั
อยูเ่ พคะ(เกศินีซ่ ึ งเป็ นนางกานัลวิงเข้ามา)
่
เกศินี: บัดนี้มีผชายตรงมาที่อุทยานนี่แล้วเพคะเห็นทีจะเป็ นองค์เหนือหัวชัยเสนแน่แล้วเพคะ
ู้
อราลี: เร็ วเถิดท่านอาจารย์ ท่านจงเริ่ มพิธีดงที่นดกันไว้
ั ั
(วิทูรลุกไปจุดไฟแล้วนังขัดสมาธิ ประนมมือทาพิธี)
่
อราลี: พระมเหสี หลบก่อนดีกว่าเพคะ
ั
(จันฑีกบอราลีเข้าโรงไปทางขวา ฝ่ ายวิทูรคงหลับตาและร่ ายมนต์พึมพาอยู่ ส่ วนนางกานัลนังดู
่
พราหมณ์ดวยอาการเอาใจใส่ มาก สักครู่ ทาวชัยเสนออก มีสุภางค์ นันทิวรรธนะ ตามมาด้วยท้าวชัยเสนเห็น
้
้
วิทูรนังอยูก็ชงัก)
่ ่
- 17. ชัยเสน: นันทิวรรธนะ นี่ใครกันวะ มานังอยูนี่
่ ่
(วิทูรกับนางกานัลก็ทาเป็ นตกใจ กราบท้าวชัยเสนแล้วหมอบตัวสั่นนันทิวรรธนะจึงเข้าถาม)
นันทิวรรธนะ: แกมาจากไหน ไม่รู้หรื อนี่เป็ นที่สวนหลวง
วิทูร: เจ้าประคุณโปรดอภัยให้ขาด้วยเถิดพระชายามัทนารับสั่งให้ขามาที่นี่
้
้
ชัยเสน: จิงรึ วะ! เกศินี
เกศินี: พระอาญามิพนเกล้าเป็ นจริ งเพคะ
้
ชัยเสน: นันทิวรรธนะเจ้าลองค้นในกระเป๋ าของเจ้าพราหมณ์นี่ดูสิ
(นันทิวรรธนะเข้าไปค้นกระเป๋ าพบรู ปปั้ นคนสามรู ป รู ปหนึ่งมีหนามแหลมปั กอยู่ อีกสองรู ปมัด
ติดกันแน่น แล้วจึงนาถวายแก่ทาวชัยเสน)
้
ชัยเสน: แล้วเจ้าจักทาพิธีน้ ีแก่ผใดเล่าจงแจ้งมาโดยจริ งหากไม่เช่นนั้นข้าจะลงโทษ
ู้
วิทูร: พระนางมัทนาใช้ขามานี่เพื่อทาพิธีเพื่อทาเสน่แก่พระนางและศุภางค์ทหารเอกของพระองค์และปอง
้
ร้ายแก่พระองค์พระเจ้าค่า
ชัยเสน(ตกใจมาก): จริ งรึ เจ้าพราหมณ์เฒ่า
ศุภางค์ : ฉันใดเจ้าจึงได้มุสาเช่นนี้ผใดสั่งเจ้ามารึ ข้ารับใช้องค์เหนือหัวด้วยความจงรักภักดีอีกอย่างพระนาง
ู้
มัทนาทรงรักพระสวามียงเหตุใดเจ้าจึงใส่ ความเช่นนี้
ิ่
ชัยเสน: อุเหม่ศุภางค์ ตัวมึงนี่ชง เจรจาสาไถย
ั่
่
ยิงพูดยิงนัว เข้าตัวร่ าไป มึงจะอยูใย หนักปั ฐพี
่
่
เหวยนันทิวรรธน์ จับศุภางค์มด เอาไปทันที
ั
่
แล้วฆ่ามันให้ บรรลัยคืนนี้ คนคดอัปรี ยมิควรอยูนาน
์
จงเอามัทนาโฉมตรู ไปพร้อมกับชู ้ ของนางโฉมฉาย
ั
ฆ่าเสี ยด้วยไซร้ จะได้สมหมาย พร้อมๆกันตายไปเคียงคู่กน
นันทิวรรธนะ: แล้วตาพราหมณ์เฒ่านี่ล่ะพระเจ้าคะ
ชัยเสน: มันมีความผิดมากนัก จับมันแห่ รอบเมืองแล้วเนรเทศซะ
(นันทิวรรธนะถวายบังคมลาแล้วพาตัวศุภางค์ วิทูร และเกศินีเข้าโรงไป เท้าชัยเสนนังแล้วซบหน้า
่
กับหมอนแล้วร้องไห้ นางจันฑีออกมาตรงเข้าไปกราบท้าวชัยเสน)
- 18. จันฑี(ทาเสี ยงออดอ้อน): หม่อมฉันทราบมาว่าเกิดเรื่ องบัดสี บดเถลิงเกิดขึ้นแหมๆๆมันน่าเจ็บใจนางมัทนา
ั
นักเสด็จพี่อุตสาห์รักยังคิดทรยศได้ไหนจะเรื่ องสงครามอีกเอาอย่างนี้ม้ ยเพคะ ให้หม่อมฉันทูลเสด็จพ่อเรื่ อง
ั
ที่เข้าใจผิด แล้วให้ยกทัพกลับไปน่ะเพคะ
ชัยเสน: เก่งดีน่ะแม่จนฑีมีอุบายที่จะห้ามทัพแต่จะให้ขายอมรับคงมิได้คอยดูเถิดข้าจะบันพระเศียรมคธ
ั
้
่
ราชามาฝากเจ้าให้ได้
่
(ท้าวชัยเสนกระทืบเท้าแล้วลุกขึ้นเดินเข้าโรงฝ่ ายนางจันฑีก็นงตลึงอยู)
ั่
(ปิ ดม่าน)
องค์ ที่ ๕
ฉาก :ริมรั้วค่ ายหลวง
่
่ ้
(ฉากหลังเป็ นภาพรั้วค่าย ท้าวชัยเสนนังเอกเขนกอยู่ มีทหารอยูงานนังพัดหนึ่งคนนังมอบอยูดานขวา
่
่
่
อีกหนึ่งคนสักครู่ นนทิวรรธนะก็เข้ามาถวายบังคม)
ั
นันทิวรรธนะ: ตาเฒ่าวิทูรมาขอเข้าเฝ้ าพระเจ้าค่ะ ไล่เท่าไรก็ไม่ไป
ชัยเสน: มันคงจะมีเรื่ องสาคัญจริ งๆให้มนเข้ามาสิ
ั
(นันทิวรรธนะออกไปตามวิทูรเข้ามา)
ชัยเสน: เจ้ามีเรื่ องอะไรรึ ถึงรี บร้อนอยากจะพบข้า
วิทูร: หม่อมฉันมีเรื่ องจะมาสารภาพพระเจ้าค่ะ แท้จริ งแล้วพระนางมัทนามิได้รู้เห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นเลยหม่อมฉันถูกพระนางจันฑีและนางค่อมอัปลักษณ์นนบังคับขู่เข็ญให้มาทาพิธีเพื่อใส่ ร้ายพระนาง
ั่
มัทนาว่าเป็ นชูกบศุภางค์พระเจ้าค่ะ
้ ั
ชัยเสน(เสี ยใจ): โธ่จริ งหรื อนี่เรานี่มนชังโง่เขลาเสี ยจริ งมารู ้ความจริ งตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์เพราะเราสังข้า
ั ่
่
สองคนนันไปแล้วเราอยากตายเสี ยเหลือเกิน (ชัยเสนชักดาบออกและทาท่าจะแทงตัวเอง)
่
นันทิวรรธนะ: ช้าก่อนพระเจ้าค่าหม่อมฉันหาได้ประหารสองคนนั้นไม่ศุภางค์ขออาสาออกรบจนสิ้ นชีวิต
ในสนามรบ ส่ วนพระนางมัทนาหม่อมฉันได้ปล่อยนางกลับสู่ หิมะวันพระเจ้าค่ะ
่ ั
ชัยเสน: ดีจริ ง ฉะนั้นเราจะไปตามมัทนากลับมาอยูกบเรา
(ทั้ งหมดเข้าโรงไป)
- 19. ตอนที่ ๒
ฉาก : ในกลางป่ าหิมะวัน
(ฉากนี้ เป็ นฉากเดียวกันกับตอนที่ ๑ องก์ที่๒ ผิดแต่ตอนนี้ไม่มีดอกกุหลาบเท่านั้น)
(นางมัทนานังอยูกลางเวทีกาลังทาการอ้อนวอนต่อเทวดาให้ช่วยนาง นางปริ ยมวะทานังอยูขางๆ)
ั
่ ่
่ ่ ้
ั
มัทนา: ข้าแต่องค์สุเทษณ์ผยงใหญ่ ณ ตอนนี้ความรักของข้าได้สร้างความเสี ยใจให้กบข้าอย่างยิงข้าจึง
ู ้ ิ่
่
อยากจะขอวิงวอนให้ช่วยข้าด้วยเถิด
(สุ เทษณ์ออก)
สุ เทษณ์ : ข้าได้ยนคาอ้อนวอนของเจ้าแล้วมีใจสงสารยิงนักข้าจะนาเจ้ากลับไปอยู่ ณ สรวงสวรรค์ดวยกันเจ้า
ิ
้
่
เห็นดีหรื อไม่
มัทนา: หม่อมฉันมีความรักที่มนคงนักมิอาจทิ้งคนที่หม่อมฉันรักไปได้หม่อมฉันขอบพระทัยพระองค์อย่าง
ั่
ยิงสาหรับไมตรี จิตที่กรุ ณาประทานให้แต่หม่อมฉันคงจะรับไว้มิได้
่
่
สุ เทษณ์ (เริ่มโกรธ): มัทนาเจ้านี้แปลกนักเราชวนไปอยูสวรรค์ช้ นฟ้ าด้วยกันเจ้าก็มิไปรึ เจ้าพอใจที่จะทนทุกข์
ั
่
่
อยูที่นี่ต่อไปเล่า ผัวทิ้งก็ยงห่วงอยูได้เมื่อเจ้ายังโอหังมิรับไมตรี จากข้าอยากช้ าใจอยูเ่ ยียงนี้ขาก็จะให้เจ้าสม
ั
่
้
ปราถนา เจ้าจงเป็ นดอกกุหลาบรอความรักของเจ้าอย่างนี้นิรันดร์ เถิด (สุ เทษณ์ประนมมือร่ ายมนต์สาปนาง
มัทนา จากนั้นนางมัทนาก็ฟุบก้มลงแล้วค่อยๆกลายเป็ นดอกกุหลาบ ส่ วนสุ เทษณ์ยนดูจนนางมัทนา
ื
กลายเป็ นดอกกุหลาบแล้วเข้าโรงไปทิงให้นางปริ ยมวะทานังตกตลึงพอรู ้สึกตัวก็ร้องให้เสี ยใจยกใหญ่)
ั
่
้
ปริยมวะทา: โธ่ ทูลกระหม่อมแก้วของหม่อมฉันมิน่าเป็ นเช่นนี้ เลยองค์สุเทษณ์และพระสวามีก็ชงใจร้าย
ั
ั่
เสี ยนี่กะไรโธ่ชงน่าสงสารเสี ยจริ งแม่คุณ)
ั่
(ชัยเสนเดินออกมาพบนางปริ ยมวะทา)
ั
่ ่
ชัยเสน: เกิดเหตุอนใดขึ้น แล้วมัทนาเล่านางไปใหนเสี ย แล้วใยเจ้ามานังเศร้าโศกอยูนี่รึวาเกิดเหตุอะไรกับ
ั
่
ชายาอันเป็ นที่รักของข้า
ปริยมวะทา: พระนางมัทนาได้แต่เฝ้ าอ้อนวอนให้องค์สุเทษณ์เทพบุตรช่วยให้นางพ้นจากความทุกข์ องค์สุ
ั
่
เทษณ์จึงชวนพระนางไปอยูบนสวรรค์ดวยกัน แต่พระนางมีความมันคงในความรักที่มีต่อพระองค์ยงนักจึงมิ
้
ิ่
่
ยอมไป ทาให้องค์สุเทษณ์เทพบุตรมิพอใจอย่างยิงจึงสาปให้พระนางมัทนากลายเป็ นดอกกุหลาบตลอดไป
่
- 20. ชัยเสน(เสี ยใจ): โธ่ ไม่น่าเลยข้ามาไม่ทนหรื อนี่เพราะความโง่เขลาของข้าแท้ขาจะหาหญิงที่มีหวใจที่มนคง
ั
้
ั
ั่
่ ั
ได้เยียงนางไม่มีอีกแล้วข้าจะนาต้นกุหลาบมัทนาไปปลูกไว้ในวังเพื่อให้ขาได้อยูกบนางตลอดไป
่
้
่
(ชัยเสนยืนเช็ดน้ าตาอยูสักครู่ แล้วจึงนาต้นกุหลาบขึ้นมาแล้วเดินเข้าโรงไปนางปริ ยมวะทาเดินตามไปด้วย )
ั
(ปิ ดม่าน)
(*จบ*)
- 21. บทที่ ๓
วัสดุอปกรณ์ วิธีการดาเนินงาน
ุ
วัสดุอุปกรณ์ การจัดทาโครงงาน
๑.กระดาษ A๔
๒.กล้องถ่ายรู ป
๓.ปากกา
๔.ไม้บรรทัด
๕.โฟม
๖.สี ชอล์ก
๗.คัตเตอร์
๘.กระดาษแข็งขนาดใหญ่
๙.ชุดนักแสดง
วิธีการดาเนินงาน
๑.ศึกษาค้นคว้าเรื่ องมัทนะพาธา
๒.เขียนบทละครมัทนะพาธา
๓.ทาฉากการแสดงมัทนะพาธา
๔.ซ้อมบทละคร
๕.แสดงบทละคร เรื่ องมัทนะพาธา
๖.อัดวีดีโอลง Youtube
๗.เขียนเค้าโครงของโครงงานเรื่ องมัทนะพาธา
๘.ดาเนินการจัดทาโครงงาน
- 22. ตารางบันทึกผลการทางาน โครงงาน เรื่องมัทนะพาธา
ลาดับที่
กิจกรรม
วัน เดือน ปี
สถานทีดาเนินงาน
่
๑.
ค้นหา ศึกษา และทาความเข้าใจ
๑/ก.ค./๕๖
บ้านนักเรี ยนทุกคน
๒.
เขียนบทละครมัทนะพาธา
๔/ก.ค./๕๖
โรงเรี ยนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
๓.
ทาฉากการแสดง
๖/ก.ค./๕๖
โรงเรี ยนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
๔.
ซ้อมบทละคร
๗/ก.ค./๕๖
โรงเรี ยนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
๕.
แสดงบทละคร เรื่ องมัทนะพาธา
๒๐/ก.ค./๕๖
โรงเรี ยนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
๖.
อัดวีดีโอลง Youtube
๓๑/ก.ค./๕๖
โรงเรี ยนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
- 24. บทที่ ๕
สรุปผลการดาเนินงาน
สรุ ปผล
ทางกลุ่มได้คิดการแสดงละครมัทนะพาธาเพื่อศึกษาประวัติความเป็ นมาความรักของพระนางมัทนาซึ่ ง
มัทนะพาธาเรื่ องนี้ เป็ นเนื้อหาของกลุ่มสาระวิชาภาษาไทย
จากการแสดงละครครั้งนี้ ได้รับประสบการณ์ต่างๆมากมาย โดยเฉพาะการแสดงให้สมบทบาท ความรัก
ั ิ
ความสามัคคีในกลุ่ม ประสบการณ์ทางชีวตที่สามารถนาไปประยุกต์ใช้กบชีวตประจาวันของมนุษย์ทุกๆคน
ิ
ประโยชน์ ทได้ รับ
ี่
๑.มีความรู้ความเข้าใจเรื่ องมัทนะพาธา
๒.ได้แง่คิดในเรื่ องความรัก
๓.มีความสามัคคีในกลุ่ม
๔.นาไปประยุกต์ใช้ในชีวตประจาวัน
ิ