SlideShare a Scribd company logo
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑
บทที่ ๑
บทนา
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เนื่องจากโครงงานนี้เป็นโครงงานที่ริเริ่มมาจากการศึกษาบทละครพูดคําฉันท์ เรื่อง “มัทนะพาธา”
ซึ่งเป็นบทประพันธ์ที่ทรงแต่งขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระปรีชาในการแต่ง
โดยรวมคําฉันท์ทั้งหมด ๒๑ บท อีกทั้งยังเป็นวรรณคดีที่ได้รับความนิยมเพราะแฝงไปด้วยคติในเรื่องของ
ความรักที่เกิดจากหลากหลายตัวละครและหลายอารมณ์อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ทางกลุ่มของดิฉันได้เกิดความสนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทละครพูดคําฉันท์เรื่อง
“มัทนะพาธา” เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น และเพื่อสานต่อเกี่ยวกับความรู้การแต่งวรรณคดีที่
เป็นบทละครพูดคําฉันท์ให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความสําคัญของวรรคดีไทยในสมัยโบราณ ทั้งยังเป็นเรื่องที่
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ จะต้องเรียนรู้อีกด้วย
วัตถุประสงค์
๑.เพื่อศึกษาเนื้อหา ความรู้ และการแต่งบทละครพูดคําฉันท์
๒.เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการดําเนินเรื่องและการเป็นไปของเรื่องที่ชัดเจนและถูกต้อง
๓.เพื่อให้เกิดความสามัคคีในกลุ่มในการร่วมกันทํางาน
๔.เพื่อสานต่อวรรณคดีไทยให้เกิดความน่าสนใจแก่คนรุ่นหลัง
ขอบเขตของการศึกษา
- นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/๑
- โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
วันที่๑-๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒
บทที่ ๒
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ความเป็นมา
มัทนะพาธาเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องเอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับการยกย่องจาก
วรรณคดีสโมสรให้เป็นหนังสือที่แต่งดี ใช้ฉันท์เป็นบทละครพูดซึ่งแปลกและแต่งได้ยาก เป็นเรื่องที่มีตัว
ละครและฉากสอดคล้องกัน วัฒนธรรมภารตะโบราณและเข้ากับเนื้อเรื่องได้ดี
ลักษณะการแต่ง
เรื่องมัทนะพาธาใช้คําประพันธ์หลายชนิดแต่เน้นแต่งด้วยฉันท์ บางตอนใช้กาพย์ยานี กาพย์ฉบังหรือ
กาพย์สุรางคนางค์ และมีบทเจรจาร้อยแก้วในส่วนของตัวละครที่ไม่สําคัญ ทําให้มีลีลาภาษาที่หลากหลาย
ตอนใดดําเนินเรื่องรวดเร็วก็ใช้ร้อยแก้ว ตอนใดต้องการจังหวะเสียงและความคล้องจองก็ใช้กาพย์ อารมณ์
มากก็มักใช้ฉันท์ เช่น ตอนที่สุเทษณ์ตัดพ้อและมัทนาเจรจาตอบใช้วสันตดิลก แสดงจังหวะรวดเร็วของ
ถ้อยคําเสริมให้คารมโต้ตอบกันมีลีลาฉับไวและทันกัน
เรื่องย่อ
มัทนะพาธาเป็นเรื่องสมมุติว่าเกิดในอินเดียโบราณ เนื้อเรื่องกล่าวถึงเหตุการณ์บนสวรรค์ เทพบุตร
สุเทษณ์หลงรักเทพธิดามัทนา แต่นางไม่ปลงใจด้วย สุเทษณ์จึงขอให้วิทยาธรมายาวินใช้เวทมนตร์สะกด
เรียกนางมา มัทนาเจรจาตอบสุเทษณ์อย่างคนไม่รู้สึกตัว สุเทษณ์จึงไม่โปรด เมื่อขอให้มายาวินคลายมนตร์
มัทนาก็รู้สึกตัวและตอบปฏิเสธสุเทษณ์ สุเทษณ์โกรธ จึงสาปให้เธอจุติไปเกิดบนโลกมนุษย์ มัทนาขอไปเกิด
เป็นดอกกุหลาบ สุเทษณ์กําหนดว่า ให้ดอกกุหลาบดอกนั้นกลายเป็นมนุษย์เฉพาะวันเพ็ญเพียงวันและคืน
เดียว ต่อเมื่อมีความรักจึงจะพ้นสภาพจากเป็นดอกไม้ และหากเป็นความทุกข์เพราะความรักก็ให้วิงวอนต่อ
พระองค์ พระองค์จะช่วย
ณ กลางป่าหิมะวัน ฤษีกาละทรรศินพบ ต้นกุหลาบจึงขุดไปปลูกไว้ที่อาศรม เมื่อมัทนากลายเป็น
มนุษย์ก็เลี้ยงดูรักใคร่เหมือนลูก ท้าวชัยเสนกษัตริย์แห่งเมืองหัสตินาปุระเสด็จไปล่าสัตว์ ได้พบนางมัทนาก็
เกิดความรัก มัทนาก็มีใจเสน่หาต่อชัยเสนด้วยเช่นกัน ทั้งสองจึงสาบานรักต่อกัน และมัทนาไม่ต้องกลับไป
เป็นกุหลาบอีก แต่เมื่อชัยเสนพามัทนาไปยังเมืองหัสตินาปุระของพระองค์ พระนางจัณฑีมเหสีของชัยเสน
หึงหวงและแค้นใจมาก นางขอให้พระบิดาซึ่งเป็นพระราชาแคว้นมคธยกทัพมาตีหัสตินาปุระ จัณฑียังใช้ให้
นางค่อมข้าหลวงทํากลอุบายว่า มัทนารักกับศุภางค์ทหารเอกของชัยเสน ชัยเสนหลงเชื่อจึงสั่งให้ประหาร
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๓
มัทนาและศุภางค์ แต่ต่อมาเมื่อชัยเสนรู้ว่ามัทนาและศุภางค์ไม่มีความผิดก็เสียใจมาก อํามาตย์เอกจึงทูลความ
จริงว่ายังมิได้สังหารนาง และศิษย์ของพระกาละทรรศินได้พานางกลับไปอยู่ในป่าหิมะวันแล้ว ส่วนศุภางค์ก็
เป็นอิสระเช่นกัน และได้ออกต่อสู้กับข้าศึกจนตายอย่างทหารหาญ ชัยเสนจึงเดินทางไปรับนางมัทนา
ขณะนั้นมัทนาทูลขอให้สุเทษณ์รับนางกลับไปสวรรค์ สุเทษณ์ขอให้นางรับรักตนก่อน แต่มัทนายังคง
ปฏิเสธ สุเทษณ์กริ้วจึงสาปให้มัทนาเป็นกุหลาบตลอดไป ชัยเสนมาถึงแต่ก็ไม่ทันการณ์ จึงได้แต่นําต้น
กุหลาบกลับไปยังเมืองหัสตินาปุระ
ตอนที่เลือกมาให้เรียนนี้อยู่ในองค์ที่ ๑ เมื่อมายาวินทําพิธีสะกดพามัทนามาพบสุเทษณ์ไปจนจบองก์
เมื่อสุเทษณ์สาปมัทนา
มัทนะพาธาเป็นเรื่องที่สมมุติว่าเป็นกําเนิดของต้นกุหลาบ มีการผูกเรื่องให้เกิดความขัดแย้งซึ่งเป็นปม
ปัญหาของเรื่อง กล่าวคือ สุเทษณ์หลงรักมัทนา แต่มัทนาไม่รับรัก สุเทษณ์จึงกริ้ว มัทนาต้องลงมาเกิดในโลก
มนุษย์เป็นการชดใช้โทษ เมื่อพบรักกับชัยเสน ความรักก็ไม่ราบรื่นเพราะมีอุปสรรคคือนางจันฑี มัทนาต้อง
ถูกพรากไปจากชัยเสน และได้พบสุเทษณ์อีกครั้งหนึ่ง แต่มัทนาก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากชัยเสนมารักสุเทษณ์
เรื่องจึงจบด้วยความสูญเสีย สุเทษณ์ไม่สมหวังในความรัก ชัยเสนสูญเสียคนรัก และมัทนาต้องเปลี่ยนสภาพ
มาเป็นเพียงดอกกุหลาบ
คุณค่า/แง่คิด
มัทนะพาธาเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องเอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับการยก
ย่องจากวรรณคดีสโมสรให้เป็นหนังสือที่แต่งดี ใช้ฉันท์เป็นบทละครพูดซึ่งแปลกและแต่งได้ยาก เป็นเรื่องที่
มีตัวละครและฉากสอดคล้องกัน วัฒนธรรมภารตะโบราณและเข้ากับเนื้อเรื่องได้ดี สอนให้รู้ถึงความ
เจ็บปวดที่เกิดจากความรัก รู้ถึงโทษของความรัก
บทบาทของตัวละครสาคัญเรื่องมัทนะพาธา
ชาวฟ้า
สุเทษณะเทพบุตร์: ผู้หลงรักนางมัทนาอย่างหมดหัวใจจนอาจจะกลายเป็นความลุ่มหลง อันเป็นเหตุให้
เกิดโศกนาฎกรรมแห่งความรักนี้ขึ้น
จิตระเสน: จิตระเสน หัวหน้าคนธรรพ์ ได้จัดแสดงการร่ายรําถวายแด่สุเทษณะเทพบุตร์ เพื่อหวังคลาย
ความเศร้า ความทุกข์ของสุเทษณะเทพบุตร์ แต่ไม่เป็นผล
จิตระรถ: จิตระรถสาระถีคนเก่งได้ท่องเที่ยวไปในทุกที่และวาดรูปนางงามมากํานัลสุเทษณะเทพบุตร
เพื่อหวังให้สุดเทษณะเทพบุตรได้พึงใจและลืมนางมัทนาต้นเหตุแห่งความเศร้าซึม
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๔
มายาวิน: วิทยาธร ผู้มีวิชาอาคมใช้เวทย์มนต์เรียกนางมัทนามาพบสุเทษณะเทพบุตร์ทั้งๆที่ยังหลับไหล
อันเป็นบ่อเกิดแก่โทสะของสุเทษณะเทพบุตร์ต่อนางมัทนา
นางมัทนา: หญิงงามผู้เป็นเหยื่อของความรักที่นางไม่ได้ต้องการ
ชาวดิน
พระกาละทรรศิน : ฤาษีในป่าหิมมะวัน ผู้ที่ดูแลดอกกุหลาบมัทนาเยี่ยงบุตรี
โสมะทัต: หัวหน้าศิษย์ของพระกาละทรรศิน
นาค และ ศุน: ศิษย์ของพระกาละทรรศิน และเป็นผู้พบดอกกุหลาบมัทนา
ท้าวชัยเสน: ราชาผู้ทรงครองเมืองรหัสตินาปุระ มีอัครมเหสีอยู่แล้ว แต่ก็ยังพึงใจนางมัทนา จนรับนาง
กลับวัง
พระนางจัณฑี: อัครมเหสีแห่งท้าวชัยเสน ที่น้อยอกน้อยใจผัว จนถึงขั้นอิจฉาริษยานางมัทนาอันเป็นเหตุ
ให้นางออกอุบายชั่วร้ายทั้งต่อผัวและนางที่ผัวรัก
วิทูร: พราหมณ์หมอเสนห์ ผู้เป็นนักแสดงตัวเก่งที่ใส่ไคล้นางมัทนา
ศุภางค์: นายทหารคนสนิทของท้าวชัยเสน แม้ถูกใส่ความและถูกสั่งประหารชีวิตจากท้าวชัยเสน แต่ก็
จงรักภักดิ์ดีจนชีวีหาไม่ในสนามรบ
นันทิวรรธนะ: อมาตย์ของท้าวชัยเสน จิตใจดีรักความยุติธรรม ได้ปล่อยศุภางค์ผู้บริสุทธ์ไป
ปริยัมวทา: นางกํานัลของท้าวชัยเสน จงรักภักดีทั้งต่อท้าวชัยเสนและนางมัทนา นางอยู่กับนางมัทนาจน
วินาทีสุดท้าย ก่อนที่นางมัทนาจะกลายร่างเป็นดอกกุหลาบตลอดกาล
อราลี: นางค่อมข้าหลวงพระนางจัณฑี
เกศินี: ข้าหลวงพระนางจัณฑี ผู้เป็นนักแสดงอีกคนในละครใส่ไคล้นางมัทนา
บทละครเรื่องมัทนะพาธา
องก์ที่ ๑
ฉาก: วิมานของเทพบุตรสุเทษณ์,บนสวรรค์
เทพบุตรสุเทษณ์อยู่กับวิทยาธรมายาวินซึ่งกําลังทําพิธีสะกดนางมัทนามายาวินนั่งประนมมือสักครู่มัท
นาเดินออกมา ตาจ้องเป๋งไม่แลดูใครด้วยอาการที่ถูกสะกด สุเทษณ์เห็นนางมัทนาก็ลุกลงมาจากบัลลังก์เพื่อ
มาต้อนรับแต่ครั้นเห็นนางมัทนาไม่ยิ้มแย้มก็ชงักแล้วหันไปพูดกับมายาวิน
สุเทษณ์: นางมาแล้วไซร้ แต่ฉันใดจึ่งไม่พูดจา
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๕
มายาวิน: นางยังงวยด้วยฤทธิ์มนตรา แต่ว่าตูข้าจะแก้บัดนี้
(มายาวินหันมาพูดกับนางมัทนา)
มายาวิน: ดูก่อนนะนางมัทนาหากองค์สุเทษณ์ทรงเอ่ยถามประการใดขอให้นางจงตอบไปแม้เข้าใจมิเข้าใจก็
ตาม
มัทนา: เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ หากองค์สุเทษณ์นั้นเอ่ยถามดิฉันก็จะตอบในทันที
(สุเทษณ์จ้องดูนางมัทนาที่ยังคงตาลอยอยู่ด้วยท่าทีฉงนจึงลองถามไป)
สุเทษณ์: หากพี่จะกอดวธุและจุม- พิตะเจ้าจะว่าไร
มัทนา: ข้าบาทจะขัดฤก็มิได้ ผิพระองค์จะทรงปอง
สุเทษณ์: ว่าแต่จะเต็มฤดิฤหาก ดนุกอดและจูบน้อง
มัทนา: เต็มใจมิเต็มดนุก็ต้อง ปฏิบัติระเบียบดี
สุเทษณ์ไม่พอใจกับคําตอบของนางจึงหันไปพูดกับมายาวิน
สุเทษณ์: เหตุใดนางจึงเป็นเช่นนี้เล่า
มายาวิน: ที่นางเป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะนางยังงงงวยด้วยฤทธิ์ของมนตรา อันกระหม่อมได้สะกดให้นางทูล
ตอบตามที่พระองค์ต้องการ
สุเทษณ์: อ๊ะ! ไม่น่ะเราไม่ขอที่จะได้นางโดยวิธีนี้ เราต้องการนางโดยที่นางยินยอม ด้วยใจที่แท้จริงฉะนั้น
แล้วขอให้ท่านได้โปรดคลายเวทย์มนต์
ด้วยเถิด(มายาวินประนมมือแล้วร่ายมนต์ จนนางมัทนาได้สติเมื่อแลไปเห็นสุเทษณ์ก็ตกใจและตั้งท่า
จะหนี)
สุเทษณ์: ช้าก่อนนางจะไปใหน?
มัทนา: ได้โปรดให้หม่อมฉันไปเถิด
สุเทษณ์: ตัวเรารักเจ้าถึงเพียงนี้แต่เจ้ายังปฏิเสธข้า หากเจ้าไม่รับไมตรีจิตที่ข้ามีต่อเจ้า ข้าก็จะให้เจ้าไปเกิดยัง
โลกมนุษย์ ข้าจะให้เจ้าเลือกว่าเจ้าจะไปเกิดเป็นอะไร
มัทนา: อันโปรดให้เลือกตาม ฤดิข้าณบัดนี้
ขอเป็นซึ่งมาลี รุจิเรขวิไลวรรณ
สุดแท้แต่จอมสรวง จะประสิทธิ์ประสาทพันธุ์
ขอเพียงให้มีคัน ธะระรื่นระรวยหอม
(สุเทษณ์หันมาทางมายาวิน)
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๖
สุเทษณ์: ก็บุปผาอย่างใดมี ที่งามทั้งสี่ อีกทั้งมีกลิ่นส่งไกล
แต่ต้องให้มีหนามไว้ ป้องกันมิให้ เหล่าเดรัจฉานผลาญยับ
มายาวิน: ธโปรดเป็นยอดมาลา เห็นมีแต่ในฝากฟ้า ในแดนคนหา ไม้นี้มิได้แห่งใหน
สุเทษณ์: ไม้นี้มีนามฉันใด?
มายาวิน: ไม้เรียกผะกากุพ- ชะกะสีอรุณแสง
มัทนา: ไหนไหนจะเป็นดอกไม้ หม่อมฉันพอใจ เป็ดอกที่ออกนามมา
สุเทษณ์: ด้วยฤทธิ์และอํานาจอันข้าผู้ยิ่งใหญ่ข้าขอสาบให้นางมัทนาลงไปจุติ ณ แดนมนุษย์ เป็นไม้ที่มีชื่อว่า
ดอกผะกากุพชะกะ ณ ป่าหิมะวัน
บัดนี้เทอญ
(มัทนาร้องกรี๊ดและล้มลงกับพื้น)..............(ปิดม่าน)
องก์ที่ ๒
ตอนที่ ๑
ฉาก: ในกลางป่าหิมะวัน
เป็นลานหญ้าอยู่ระหว่าต้นไม้ใหญ่ ที่ตรงกลางเวทีมีดอกกุหลาบอยู่หนึ่งต้น มีดอกดอกเดียว เป็นดอก
ใหญ่สีชมพูแก่ นอกจากต้นกุหลาบแล้วมีต้นไม้อย่างอื่นอีกก็ได้ อาจมีกล้วยไม้กําลังออกดอกอยู่ด้วยก็ได้
(นาคและศุนศิษย์ของพระกาละทรรศิน,จึงออกมา)
นาค: อ้ายดอกนี้ เอ๊ะ!เขาเรียกดอกอะไรนะ
ศุน: บางทีโสมะทัตจะรู้จัก
(โสมะทัตเดินออกมา)
โสมะทัต: ได้ยินใครออกชื่อฉันหรือ
ศุน: พบดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมได้แล้วขอรับ
โสมะทัต: วิ่งไปเรียนท่านอาจารย์ให้ทราบเดี๋ยวนี้
ศุน: ขอรับ
(พระกาละทรรศินอออกมาพร้อมกับศุน)
กาละทรรศิน: ใหนเล่าต้นไม้ที่เจ้าว่า
ศุน: อยู่นี่เจ้าข้า! ข้าไซร้ เป็นผู้ทีได้ประสพพบดอกอัศจรรย์
นาค: ตูข้ามาพร้อมกัน
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๗
กาละทรรศิน: มัวเถียงกันไม่เข้าการ ไปเก็บดวงมาลย์ มาให้เราพลัน
(นาคกับศุนวิ่งแยกกันไปเก็บดอกกุหลาบ แต่ทั้งสองยื่นมือไปถูกหนามเข้าก็หดมือเข้าโดย
อาการตกใจ)
ศุน: โอ้ยเจ็บพิลึก
โสมะทัต: แกสองคนหัวดื้อ ไร้ความนับถือ
จึ่งขัดคําเราผู้ใหญ่
ช่างเถิดไม่จําเป็นต้องใช้
ศุน: ดีแล้วเชิญไป ถูกหนามเล่นบ้างแหละดี
(โสมะทัตเข้าไปจะเด็ดดอกกุหลาบ ถูกหนามเข้าบ้าต้องหดมือออกมา ศิษย์สองคนหัวเราะโสมะทัตไม่
พอใจชักมีดออกจะฟันกิ่งกุหลาบ)
กาละทรรศิน: ช้าก่อน!อย่าตัดมาลี ที่งามเช่นนี้ เราอยากใคร่ให้ขุดไป
(พอบริวารเอาเครื่องมือขุดลงก็มีเสียงผู้หญิงร้องโอ้ย! โสมะทัตจะลงมือขุดอีกแต่พระกาละทรรศิ
นห้ามไว้)
กาละทรรศิน: อ่ะ! หยุดก่อนไม้นี้มิใช่ไม้ธรรมดา นี่หาใช่เป็นดอกไม้แต่ที่จริงแล้วเป็นเทพธิดาที่ ถูกสาบให้
จุติจากแดนสวรรค์ พระกาละทรรศิน
เอาหม้อน้ําไปหลั่งลงที่โคนต้นกุหลาบจากนั้นก็สั่งให้บริวารขุดต้นกุหลาบ คราวนี้ไม่มีเสียง
ร้องเช่นครั้งก่อน
กาละทรรศิน: บัดนี้เจ้าอย่าร่ําไร ช่วยกันยกไป ยังสวนณอาศรมสถาน
(ทั้งหมดยกต้นกุหลาบเข้าหลังเวที)
ตอนที่ ๒
ฉาก: ทางเดินในป่า (ท้าวชัยเสนออกพร้อมกันกับสุภางค์กับทหารและพราน)
ชัยเสน: นี่เรามาถึงที่ใดกันแล้วนี่ และจะเดินต่อไปทางทหารก็จะตามไม่ทัน เดี๋ยวเราจะพักใต้ร่มไม้นี่แหละ
เจ้าจงนําพวกพรานล่วงหน้าไปหาที่อยู่
ของพระอาจารย์กาละทรรศิน ก่อน
ศุภางค์: พระเจ้าค่ะ
(ศุภางค์ถวายบังคมท้าวชัยเสนแล้วเข้าโรงไปพร้อมกับพวกทหาร)
(ชัยเสนนั่งลงใต้ร่มไม้)
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๘
ชัยเสน: อโหระลึกขึ้น ละก็สุดจะเสียดาย
ได้เคยประสพหลาย มิคะแล้วบ่เคยเห็น
กวางงามอร่ามทั่ว วรกายะดังเช่น
ดนูละเลิงเล่น จรไล่ ณ วันนี้
(ศุภางค์เดินออกมา)
ศุภางค์: ขณะนี้ข้าได้พบที่อยู่ของพระอาจารย์แล้วพระเจ้าค่ะ
ชัยเสน: ดีแล้วข้านี้อยากจะพักเสียเต็มที
(เข้าโรงไป)
ตอนที่ ๓
ฉาก: ลานหน้าอาศรมของพระกาละทรรศิน
ด้านหลังของเวทีเป็นอาศรม เป็นเรือนไม้มุงแฝกมีระเบียง สองข้างเวทีเป็นสวน มีแท่นศิลา มีพรมปูอยู่
พระกาละทรรศินและมัทนานั่งอยู่
โสมะทัต: นายทหารผู้นี้ได้เดินทางล่วงหน้าองค์ท้าวชัยเสน
กาละทรรศิน: อันภูมินาถ เสด็จประพาส พักแรมหนใด
ศุภางค์: ทรงเดินทางมาเรื่อยทรงพอพระทัยที่ใดก็พักที่นั่น
กาละทรรศิน: ตัวเรา เป็นเจ้าของบ้าน ตัองขอเลี้ยงท่าน มาเถิดธิดา
(กาละทรรศินกับนางมัทนาเดินเข้าไปในอาศรม จากนั้นท้าวชัยเสนออกพร้อมบริวารพระกา
ละทรรศินออกมาต้อนรับ)
กาละทรรศิน: ข้าขอต้อนรับองค์ท้าวชัยเสนด้วยความยินดี
(มัทนาออกมจากในอาศรมท้าวชัยเสนเห็นก้อจ้องจนตลึง)
มัทนา: พระบิดาข้าเจ้าขาดิฉันได้เตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้วขอเชิญพระบิดาและท้าวชัย เสนเลยน่ะเจ้าคะ
(มัทนากราบกาละทรรศินและชัยเสนแล้วกลับเข้าโรง)
ชัยเสน: เอ๊ะกูสุบินเห็น ฤวะจริงนะเมื่อกี้
ฤเทวะนารี ธเสด็จณศาลา
ศุภางค์: พระทอดพระเนตรเห็น ดรุณีวิเศษไซร้
มุนีธเลี้ยงไว้ ดุจะปรียะบุตรี
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๙
ชัยเสน: จะหาวิไลยปาน ฤก็กูบเคยเห็น
และหากว่ากูได้ ก็จะรื่นฤดูเย็น
กาละทรรศิน: ข้าขอเชิญท่านเข้าไปในอาศรมเถิด
ชัยเสน: เชิญพระอาจารย์นําทางไปด้วยเถิด
(ทั้งหมดเดินหายเข้าไปในอาศรม)
องก์ที่ ๓
ฉาก: ลานหน้าอาศรมของพระกาลทรรศิน
ด้านหลังของเวทีเป็นอาศรม เป็นเรือนไม้มุงแฝกมีระเบียง สองข้างเวทีเป็นสวน มีแท่นศิลา แต่ไม่มี
พรมและสมมตว่าเป็นเวลากลางคืน มีแสงเดือนหงายแจ่มอย่างในวันเพ็ญท้าวชัยเสนออกมาชมพระจันทร์
แล้วรําพึงถึงนางมัทนา (ท้าวชัยเสนเดินออกมาจากทางด้านซ้าย)
ชัยเสน: โอ้โอ๋กระไรเลย บมิเคยณก่อนกาล
พอเห็นก็ทราบส้าน ฤดิรักบหักหาย
ยิ่งยลวะนิดา ละก็ยิ่งจะร้อนคล้าย
เพลิงรุมประชุมกาย ณอุราบลาลด
(ท้าวชัยเสนทําท่าตกใจเล็กน้อย)
ช้าก่อน!ดนูเห็น ณ ประตูสิรําไร
ดังหนึ่งจะมีใคร จระจากพระอาศรม
(ท้าวชัยเสนเลี่ยงเข้าไปแฝงหลังกอไม้ มัทนาเดินออกมาจากอาศรมมามองดูดวงเดือน)
มัทนา: โอ้ว่าอนาถใจ ละไฉนปนะเปนฉะนี้
แต่ไรก็ไม่มี มะนะนึกระเหระหน
ไม่เคยจะเชื่อว่า รตินั้นจะสัประดน
มาสู่ ณ ใจตน และจะต้องระทมระทวย
ครานี้สิพบชาย วรรูปวิเศษศาล
ใจวาบและหวามปาน ฤดินั้นจะโลดจะลอย
(ชัยเสนเดินออกจากที่แฝงมายืนอยู่หน้าอาศรม)
ชัยเสน: ได้ยินแล้วพี่นี้ก็ดีใจยิ่งนัก ที่เจ้าก็มีใจให้กับพี่เช่นกัน
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๐
มัทนา: หม่อมฉันเคยได้ยินสุภาษิตโบราณได้กล่าวไว้ว่าผู้ชายเมื่อยามรักก็พูดได้ราวกับมีลายลิ้น
ชัยเสน: ถ้าพีมีหลายลิ้นทุกๆลิ้นของพี่ก็ล้วนแต่รุมบอกรักน้องนาง
มัทนา: หากพระองค์ทรงดํารัสคําปฏิญญาหม่อมฉันก็จะจงรักและภักดีต่อพระองค์ไหน เลยจะมีความแคลง
ใจ
ชัยเสน: ฉะนั้นพี่ก็ยินดี
(ท้าวชัยเสนพามัทนาเข้าโรงไป)
จากนั้นท้าวชัยเสนจึงอภิเษกกับนางมัทนาและพานางมัทนากลับกรุงหัสตินาปุระด้วยนางมัทนาเมื่อได้
พบรักแท้กับท้าวชัยเสนก็มิกลับเป็นดอกกุหลาบอีกเลย
องก์ที่ ๔
ตอนที่ ๑
ฉาก: ในตาหนักของท้าวชัยเสน ณ กรุงหัสตินาปุระ (ท้าวชัยเสนพานางมัทนาออกมานั่งบนพลับพลาศุภางค์
มาเข้าเฝ้าด้วย)
ชัยเสน: ตั้งแต่เราได้อภิเษกกันมาพี่นี้ก็มีความสุขเหมือนกับได้พี่ได้ขึ้นสู่สวรรค์
มัทนา: จะหาสุขใดเปรียบไม่มีแล้วเพคะ
(นางจัณฑีออกพร้อมนางข้าหลวง นางยืนดูท้าวชัยเสนและนางมัทนาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเข้าบังคมท้าว
ชัยเสน)
จัณฑี: ถวายบังคมเพคะได้ยินว่าพระองค์กลับมาจากประพาสป่าแล้วแต่เหตุใดจิงมิเสด็จตําหนักของหม่อม
ฉันหรือว่ามีคนรั้งไว้มิให้เสด็จได้
ปล่อยให้หม่อมฉันนั่งรอแกร่วอยู่ที่ตําหนักรอพระองค์ไปสิเพคะ
มัทนา: อันว่าหม่อมฉันหรือจะรั้งพระองค์ไว้ได้ หากพระองค์อยากจะเสด็จหม่อมฉันก็ มิได้ขัดพระทัย
จัณฑี: ข้ารู้ที่พระองค์ทรงโปรดเจ้าก็เพราะว่าเจ้ามิเคยขัดใจละซิ หญิงใดที่ขัดใจผัวผัวก็คงมิรักได้นานต้อง
ชั่งประจบประแจงซิ
แต่ตัวข้านี้เป็นถึงธิดากษัตริย์จึงประจบประแจงไม่เป็นใหนเลยจะสู้ธิดาพระโยคีได้
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๑
ชัยเสน: อ๊ะ! อย่าน่ะจัณฑี วจะเธอนะเกินไป
มา มะทะนา เราไปดีกว่า อยู่อีกทําไม
ขืนอยู่ฟังเสียงไป ก็เถียงกันไป ยืดยาวยิ่งใหญ่หาแก่นสารมิได้
(ท้าวชัยเสนจูงนางมัทนาเข้าไป)
จัณฑี: อิโสภิณีดี ตะประจบสําออยผัว
แน่ะมึงน่ะเงาหัว บมิมีละรู้ไหม
ผิกูจะใช้คน จรยังชนกนาถ
และทูลคดีกาจ ฤวะไท้จะดูดาย
นางค่อมอราลี ฉะนั้นเรารีบกลับตําหนักกันดีกว่าเพคะหม่อมฉันมีแผนการดีๆจะทูลถวายเพคะ
(นางจัณฑี นางค่อมอราลีและข้าหลวงก็เข้าโรงไป)
นางจัณฑีหึงหวงและแค้นใจมาก นางขอให้พระบิดาซึ่งเป็นพระราชาแคว้นมคธ ยกทัพมาตีหัสตินาปุ
ระตามอุบายของนางอราลี
ฉาก: เป็นเมืองของแคว้นมคธ (พระราชบิดาของนางจันฑีนั่งอยู่ ครู่หนึ่งนางอราลีเดินนวยนาดเข้ามา ถือ
พระราชสารจากนางจันฑีมาด้วย)
ราชาแคว้นมคธ: นั่นนางค่อมอราลีอัปลักษณ์เจ้ามีธุระอันใดเล่า รึว่า เกิดเหตุอันใดแก่จันฑีธิดาอันเป็นที่รัก
ของข้า
อราลี: พระราชธิดาให้หม่อมฉันนําพระราชสาระสําคัญมาถวายเพคะ
(นางอราสีส่งราชสารให้แก่ราชาแค้วนมคธ ราชาแคว้นมคธเปิดอ่านแล้วทําท่าตกใจ เสียงภาคของนาง
จันฑี ถวายบังคมเสด็จพ่ออันเป็นที่รักและเคารพยิ่งของลูกหม่อมฉันมีเรื่องจะให้เสด็จพ่อช่วย บัดนี้ท้าวชัย
เสนได้มีพระชายาใหม่ซึ่งสร้างความคับแค้นใจให้กับลูกมากหากเสด็จพ่อกรุณาได้โปรดยกทัพมาล้อมกรุง
หัสตินาปุระเพื่อทําการแก้แค้นให้หม่อมฉันด้วยเถิดหม่อมฉันขอกราบขอบพระทัยเสด็จพ่อล่วงหน้านะเพ
คะ)
ราชาแคว้นมคธ(โกรธ): หึ ไม่ได้การล่ะเราจักต้องทําการแก้แค้นให้ลูกรักของเรา (ตะโกนเรียกทหาร)ทหาร
ทหาร จัดทัพเตรียมล้อมหัสตินาปุระแก้แค้นให้ลูกข้า (ราชาแคว้นมคธเข้าโรงไป จางนั้นนางอราลีก็เดิน
กระหยิ่มยิ้มย่องตามไป)
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๒
ตอนที่ ๒
ฉาก: ริมรั้วค่ายหลวง
ฉากหลังเป็นภาพรั้วค่าย ท้าวชัยเสนแต่งเครื่องแบบนักรบ ออกพร้อมด้วยสุภางค์และทหาร
(ชัยเสนนั่งอยู่กับศุภางค์และทหาร)
ชัยเสน: ข้ามินึกว่าจันฑีจะแค้นเคืองข้าถึงเพียงนี้ถึงกับบอกให้พระบิดายกทัพมาตีเรายิ่งตอนนี้มัทนายิ่งไม่
สบายอยู่ข้าว่าจะกลับไปเยี่ยมนาง
สักหน่อย เดี๋ยวเจ้าไปกับข้าน่ะสุภางค์
(ท้าวชัยเสนและบริวารเข้าโรงทั้งหมด) ในระหว่างออกรบท้าวชัยเสนเกิดนึกเป็นห่วงนางมัทนาจึง
ตัดสินใจกลับเมือง
ตอนที่ ๓
ฉาก: สวนหลวงข้างพระราชวัง ในกรุงหัสตินาปุระ
(ฉากเป็นสวนดอกไม้ มีต้นไม้ร่มรื่น มีเตียงสาหรับนั่งเล่น ในฉากนี้เป็นเวลากลางคืน พระนางจันฑีนั่ง
อยู่บนเตียง
อราลีนั่งข้างๆ และพราหมณ์วิฑูรนั่งกับพื้นตรงกลางเวทีมีกองฟืนจัดสุมไว้)
อราลี: ตามที่ได้ยินมาหม่อมฉันได้ข่าวว่าองค์พระสวามีจะเสด็จกลับมาถึงพระนครในคืนนี้นะเพคะ
จันฑี: แล้วข่าวการสงครามเล่าเป็นอย่างไรบ้าน
อราลี: ฝ่ายสมเด็จพระบิดาก็ยังคงยกทัพเข้าตีทัพของพรสวามีอยู่เรื่อยๆแต่ทัพของพระสวามีก็ยังคงรับมือได้
อยู่เพคะ(เกศินีซึ่งเป็นนางกํานัลวิ่งเข้ามา)
เกศินี: บัดนี้มีผู้ชายตรงมาที่อุทยานนี่แล้วเพคะเห็นทีจะเป็นองค์เหนือหัวชัยเสนแน่แล้วเพคะ
อราลี: เร็วเถิดท่านอาจารย์ ท่านจงเริ่มพิธีดังที่นัดกันไว้
(วิทูรลุกไปจุดไฟแล้วนั่งขัดสมาธิประนมมือทําพิธี)
อราลี: พระมเหสีหลบก่อนดีกว่าเพคะ
(จันฑีกับอราลีเข้าโรงไปทางขวา ฝ่ายวิทูรคงหลับตาและร่ายมนต์พึมพําอยู่ ส่วนนางกํานัลนั่งดู
พราหมณ์ด้วยอาการเอาใจใส่มาก สักครู่ท้าวชัยเสนออก มีสุภางค์ นันทิวรรธนะ ตามมาด้วยท้าวชัยเสนเห็น
วิทูรนั่งอยู่ก็ชงัก)
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๓
ชัยเสน: นันทิวรรธนะ นี่ใครกันวะ มานั่งอยู่นี่
(วิทูรกับนางกํานัลก็ทําเป็นตกใจ กราบท้าวชัยเสนแล้วหมอบตัวสั่นนันทิวรรธนะจึงเข้าถาม)
นันทิวรรธนะ: แกมาจากไหน ไม่รู้หรือนี่เป็นที่สวนหลวง
วิทูร: เจ้าประคุณโปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิดพระชายามัทนารับสั่งให้ข้ามาที่นี่
ชัยเสน: จิงรึวะ! เกศินี
เกศินี: พระอาญามิพ้นเกล้าเป็นจริงเพคะ
ชัยเสน: นันทิวรรธนะเจ้าลองค้นในกระเป๋าของเจ้าพราหมณ์นี่ดูสิ
(นันทิวรรธนะเข้าไปค้นกระเป๋าพบรูปปั้นคนสามรูป รูปหนึ่งมีหนามแหลมปักอยู่ อีกสองรูปมัด
ติดกันแน่น แล้วจึงนําถวายแก่ท้าวชัยเสน)
ชัยเสน: แล้วเจ้าจักทําพิธีนี้แก่ผู้ใดเล่าจงแจ้งมาโดยจริงหากไม่เช่นนั้นข้าจะลงโทษ
วิทูร: พระนางมัทนาใช้ข้ามานี่เพื่อทําพิธีเพื่อทําเสน่แก่พระนางและศุภางค์ทหารเอกของพระองค์และปอง
ร้ายแก่พระองค์พระเจ้าค่า
ชัยเสน(ตกใจมาก): จริงรึเจ้าพราหมณ์เฒ่า
ศุภางค์: ฉันใดเจ้าจึงได้มุสาเช่นนี้ผู้ใดสั่งเจ้ามารึ ข้ารับใช้องค์เหนือหัวด้วยความจงรักภักดีอีกอย่างพระนาง
มัทนาทรงรักพระสวามียิ่งเหตุใดเจ้าจึงใส่ความเช่นนี้
ชัยเสน: อุเหม่ศุภางค์ ตัวมึงนี่ชั่ง เจรจาสาไถย
ยิ่งพูดยิ่งนัว เข้าตัวร่ําไป มึงจะอยู่ใย หนักปัฐพี
เหวยนันทิวรรธน์ จับศุภางค์มัด เอาไปทันที
แล้วฆ่ามันให้ บรรลัยคืนนี้ คนคดอัปรีย์มิควรอยู่นาน
จงเอามัทนาโฉมตรู ไปพร้อมกับชู้ ของนางโฉมฉาย
ฆ่าเสียด้วยไซร้ จะได้สมหมาย พร้อมๆกันตายไปเคียงคู่กัน
นันทิวรรธนะ: แล้วตาพราหมณ์เฒ่านี่ล่ะพระเจ้าคะ
ชัยเสน: มันมีความผิดมากนัก จับมันแห่รอบเมืองแล้วเนรเทศซะ
(นันทิวรรธนะถวายบังคมลาแล้วพาตัวศุภางค์ วิทูร และเกศินีเข้าโรงไป เท้าชัยเสนนั่งแล้วซบหน้า
กับหมอนแล้วร้องไห้ นางจันฑีออกมาตรงเข้าไปกราบท้าวชัยเสน)
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๔
จันฑี(ทาเสียงออดอ้อน): หม่อมฉันทราบมาว่าเกิดเรื่องบัดสีบัดเถลิงเกิดขึ้นแหมๆๆมันน่าเจ็บใจนางมัทนา
นักเสด็จพี่อุตสาห์รักยังคิดทรยศได้ไหนจะเรื่องสงครามอีกเอาอย่างนี้มั้ยเพคะ ให้หม่อมฉันทูลเสด็จพ่อเรื่อง
ที่เข้าใจผิด แล้วให้ยกทัพกลับไปน่ะเพคะ
ชัยเสน: เก่งดีน่ะแม่จันฑีมีอุบายที่จะห้ามทัพแต่จะให้ข้ายอมรับคงมิได้คอยดูเถิดข้าจะบั่นพระเศียรมคธ
ราชามาฝากเจ้าให้ได้
(ท้าวชัยเสนกระทืบเท้าแล้วลุกขึ้นเดินเข้าโรงฝ่ายนางจันฑีก็นั่งตลึงอยู่)
(ปิดม่าน)
องค์ที่ ๕
ฉาก :ริมรั้วค่ายหลวง
(ฉากหลังเป็นภาพรั้วค่าย ท้าวชัยเสนนั่งเอกเขนกอยู่ มีทหารอยู่งานนั่งพัดหนึ่งคนนั่งมอบอยู่ด้านขวา
อีกหนึ่งคนสักครู่นันทิวรรธนะก็เข้ามาถวายบังคม)
นันทิวรรธนะ: ตาเฒ่าวิทูรมาขอเข้าเฝ้าพระเจ้าค่ะ ไล่เท่าไรก็ไม่ไป
ชัยเสน: มันคงจะมีเรื่องสําคัญจริงๆให้มันเข้ามาสิ
(นันทิวรรธนะออกไปตามวิทูรเข้ามา)
ชัยเสน: เจ้ามีเรื่องอะไรรึถึงรีบร้อนอยากจะพบข้า
วิทูร: หม่อมฉันมีเรื่องจะมาสารภาพพระเจ้าค่ะ แท้จริงแล้วพระนางมัทนามิได้รู้เห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นเลยหม่อมฉันถูกพระนางจันฑีและนางค่อมอัปลักษณ์นั่นบังคับขู่เข็ญให้มาทําพิธีเพื่อใส่ร้ายพระนาง
มัทนาว่าเป็นชู้กับศุภางค์พระเจ้าค่ะ
ชัยเสน(เสียใจ): โธ่จริงหรือนี่เรานี่มันชั่งโง่เขลาเสียจริงมารู้ความจริงตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์เพราะเราสั่งข้า
สองคนนั่นไปแล้วเราอยากตายเสียเหลือเกิน (ชัยเสนชักดาบออกและทําท่าจะแทงตัวเอง)
นันทิวรรธนะ: ช้าก่อนพระเจ้าค่าหม่อมฉันหาได้ประหารสองคนนั้นไม่ศุภางค์ขออาสาออกรบจนสิ้นชีวิต
ในสนามรบ ส่วนพระนางมัทนาหม่อมฉันได้ปล่อยนางกลับสู่หิมะวันพระเจ้าค่ะ
ชัยเสน: ดีจริง ฉะนั้นเราจะไปตามมัทนากลับมาอยู่กับเรา
(ทั้งหมดเข้าโรงไป)
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๕
ตอนที่ ๒
ฉาก : ในกลางป่าหิมะวัน
(ฉากนี้เป็นฉากเดียวกันกับตอนที่ ๑ องก์ที่๒ ผิดแต่ตอนนี้ไม่มีดอกกุหลาบเท่านั้น)
(นางมัทนานั่งอยู่กลางเวทีกําลังทําการอ้อนวอนต่อเทวดาให้ช่วยนาง นางปริยัมวะทานั่งอยู่ข้างๆ)
มัทนา: ข้าแต่องค์สุเทษณ์ผู้ยิ่งใหญ่ ณ ตอนนี้ความรักของข้าได้สร้างความเสียใจให้กับข้าอย่างยิ่งข้าจึง
อยากจะขอวิงวอนให้ช่วยข้าด้วยเถิด
(สุเทษณ์ออก)
สุเทษณ์: ข้าได้ยินคําอ้อนวอนของเจ้าแล้วมีใจสงสารยิ่งนักข้าจะนําเจ้ากลับไปอยู่ ณ สรวงสวรรค์ด้วยกันเจ้า
เห็นดีหรือไม่
มัทนา: หม่อมฉันมีความรักที่มั่นคงนักมิอาจทิ้งคนที่หม่อมฉันรักไปได้หม่อมฉันขอบพระทัยพระองค์อย่าง
ยิ่งสําหรับไมตรีจิตที่กรุณาประทานให้แต่หม่อมฉันคงจะรับไว้มิได้
สุเทษณ์(เริ่มโกรธ): มัทนาเจ้านี้แปลกนักเราชวนไปอยู่สวรรค์ชั้นฟ้าด้วยกันเจ้าก็มิไปรึเจ้าพอใจที่จะทนทุกข์
อยู่ที่นี่ต่อไปเล่า ผัวทิ้งก็ยังห่วงอยู่ได้เมื่อเจ้ายังโอหังมิรับไมตรีจากข้าอยากช้ําใจอยู่เยี่ยงนี้ข้าก็จะให้เจ้าสม
ปราถนา เจ้าจงเป็นดอกกุหลาบรอความรักของเจ้าอย่างนี้นิรันดร์เถิด (สุเทษณ์ประนมมือร่ายมนต์สาปนาง
มัทนา จากนั้นนางมัทนาก็ฟุบก้มลงแล้วค่อยๆกลายเป็นดอกกุหลาบ ส่วนสุเทษณ์ยืนดูจนนางมัทนา
กลายเป็นดอกกุหลาบแล้วเข้าโรงไปทิ้งให้นางปริยัมวะทานั่งตกตลึงพอรู้สึกตัวก็ร้องให้เสียใจยกใหญ่)
ปริยัมวะทา: โธ่ ทูลกระหม่อมแก้วของหม่อมฉันมิน่าเป็นเช่นนี้เลยองค์สุเทษณ์และพระสวามีก็ชั่งใจร้าย
เสียนี่กะไรโธ่ชั่งน่าสงสารเสียจริงแม่คุณ)
(ชัยเสนเดินออกมาพบนางปริยัมวะทา)
ชัยเสน: เกิดเหตุอันใดขึ้น แล้วมัทนาเล่านางไปใหนเสีย แล้วใยเจ้ามานั่งเศร้าโศกอยู่นี่รึว่าเกิดเหตุอะไรกับ
ชายาอันเป็นที่รักของข้า
ปริยัมวะทา: พระนางมัทนาได้แต่เฝ้าอ้อนวอนให้องค์สุเทษณ์เทพบุตรช่วยให้นางพ้นจากความทุกข์ องค์สุ
เทษณ์จึงชวนพระนางไปอยู่บนสวรรค์ด้วยกัน แต่พระนางมีความมั่นคงในความรักที่มีต่อพระองค์ยิ่งนักจึงมิ
ยอมไป ทําให้องค์สุเทษณ์เทพบุตรมิพอใจอย่างยิ่งจึงสาปให้พระนางมัทนากลายเป็นดอกกุหลาบตลอดไป
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๖
ชัยเสน(เสียใจ): โธ่ ไม่น่าเลยข้ามาไม่ทันหรือนี่เพราะความโง่เขลาของข้าแท้ข้าจะหาหญิงที่มีหัวใจที่มั่นคง
ได้เยี่ยงนางไม่มีอีกแล้วข้าจะนําต้นกุหลาบมัทนาไปปลูกไว้ในวังเพื่อให้ข้าได้อยู่กับนางตลอดไป
(ชัยเสนยืนเช็ดน้ําตาอยู่สักครู่แล้วจึงนําต้นกุหลาบขึ้นมาแล้วเดินเข้าโรงไปนางปริยัมวะทาเดินตามไปด้วย )
(ปิดม่าน)
(*จบ*)
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๗
บทที่ ๓
วัสดุอุปกรณ์วิธีการดาเนินงาน
วัสดุอุปกรณ์การจัดทาโครงงาน
๑.กระดาษ A๔
๒.กล้องถ่ายรูป
๓.ปากกา
๔.ไม้บรรทัด
๕.โฟม
๖.สีชอล์ก
๗.คัตเตอร์
๘.กระดาษแข็งขนาดใหญ่
๙.ชุดนักแสดง
วิธีการดาเนินงาน
๑.ศึกษาค้นคว้าเรื่องมัทนะพาธา
๒.เขียนบทละครมัทนะพาธา
๓.ทําฉากการแสดงมัทนะพาธา
๔.ซ้อมบทละคร
๕.แสดงบทละคร เรื่องมัทนะพาธา
๖.อัดวีดีโอลง Youtube
๗.เขียนเค้าโครงของโครงงานเรื่องมัทนะพาธา
๘.ดําเนินการจัดทําโครงงาน
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๘
ตารางบันทึกผลการทางาน โครงงาน เรื่องมัทนะพาธา
ลาดับที่ กิจกรรม วัน เดือน ปี สถานที่ดาเนินงาน
๑. ค้นหา ศึกษา และทําความเข้าใจ ๑/ก.ค./๕๖ บ้านนักเรียนทุกคน
๒. เขียนบทละครมัทนะพาธา ๔/ก.ค./๕๖ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
๓. ทําฉากการแสดง ๖/ก.ค./๕๖ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
๔. ซ้อมบทละคร ๗/ก.ค./๕๖ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
๕. แสดงบทละคร เรื่องมัทนะพาธา ๒๐/ก.ค./๕๖ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
๖. อัดวีดีโอลง Youtube ๓๑/ก.ค./๕๖ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๙
บทที่ ๔
ผลการดาเนินงาน
ผลการดาเนิน
จากการแสดงละครเรื่อง”มัทนะพาธา”ให้เพื่อนๆในห้องเรียนได้ชม ผลปรากฏว่าเพื่อนๆนักเรียนใน
ห้องเรียนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าในการแสดงละครจะมีทั้งเนื้อหาสาระ ข้อคิด และความ
บันเทิงต่อทุกๆคน
จากการสํารวจเพื่อนในห้องเรียนพบว่าทุกคนให้ความสนใจกันประมาณ ๙๘ % และนั้นก็หมายความว่า
การแสดงละครให้เพื่อนๆนักเรียนในห้องชมสามารถสร้างความสนใจได้เป็นอย่างมาก
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒๐
บทที่ ๕
สรุปผลการดาเนินงาน
สรุปผล
ทางกลุ่มได้คิดการแสดงละครมัทนะพาธาเพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาความรักของพระนางมัทนาซึ่ง
มัทนะพาธาเรื่องนี้เป็นเนื้อหาของกลุ่มสาระวิชาภาษาไทย
จากการแสดงละครครั้งนี้ได้รับประสบการณ์ต่างๆมากมาย โดยเฉพาะการแสดงให้สมบทบาท ความรัก
ความสามัคคีในกลุ่ม ประสบการณ์ทางชีวิตที่สามารถนําไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจําวันของมนุษย์ทุกๆคน
ประโยชน์ที่ได้รับ
๑.มีความรู้ความเข้าใจเรื่องมัทนะพาธา
๒.ได้แง่คิดในเรื่องความรัก
๓.มีความสามัคคีในกลุ่ม
๔.นําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒๑
เอกสารอ้างอิง
หนังสือวรรณคดีและวรรณกรรม. นายเอกรินทร์ สี่มหาศาล. พิมพ์ครั้งที่ ๓
http://panidavichuma.blogspot.com
http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/utaradit/watcharee-w/matana/lakorn.htm
http://www.oknation.net/blog
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒๒
ภาคผนวก
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒๓
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒๔
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒๕
โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒๖

More Related Content

What's hot

เอกสารประกอบการเรียน ชุดที่ 1-ประวัติบุคคลสำคัญในนาฏศิลป์และการแสดง
เอกสารประกอบการเรียน ชุดที่ 1-ประวัติบุคคลสำคัญในนาฏศิลป์และการแสดงเอกสารประกอบการเรียน ชุดที่ 1-ประวัติบุคคลสำคัญในนาฏศิลป์และการแสดง
เอกสารประกอบการเรียน ชุดที่ 1-ประวัติบุคคลสำคัญในนาฏศิลป์และการแสดง
ครูเย็นจิตร บุญศรี
 
คำถามพร้อมตอบ อิเหนา-ตอน-ศึกกะหมังกุหนิง
คำถามพร้อมตอบ อิเหนา-ตอน-ศึกกะหมังกุหนิงคำถามพร้อมตอบ อิเหนา-ตอน-ศึกกะหมังกุหนิง
คำถามพร้อมตอบ อิเหนา-ตอน-ศึกกะหมังกุหนิง
Wan Wan
 
หน่วยที่ 5 การวางโครงเรื่องของเรียงความ
หน่วยที่ 5 การวางโครงเรื่องของเรียงความหน่วยที่ 5 การวางโครงเรื่องของเรียงความ
หน่วยที่ 5 การวางโครงเรื่องของเรียงความขนิษฐา ทวีศรี
 
ตัวอย่างเค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างเค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างเค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างเค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
Earnzy Clash
 
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะบทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะKittichai Pinlert
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1 งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
kanjana23
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย 57
โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย  57โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย  57
โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย 57Chok Ke
 
หน่วยที่ 11 บทละครในเรื่องอิเหนา
หน่วยที่ 11 บทละครในเรื่องอิเหนาหน่วยที่ 11 บทละครในเรื่องอิเหนา
หน่วยที่ 11 บทละครในเรื่องอิเหนา
ณรงค์ศักดิ์ กาหลง
 
โครงงานคณิตบทที่ 1
โครงงานคณิตบทที่ 1โครงงานคณิตบทที่ 1
โครงงานคณิตบทที่ 1
Jutarat Bussadee
 
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัดวรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัดThiranan Suphiphongsakorn
 
การเขียนเรียงความ ย่อความ
การเขียนเรียงความ ย่อความการเขียนเรียงความ ย่อความ
การเขียนเรียงความ ย่อความ
พัน พัน
 
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่ารำ รำคุ่ รำหมู่
เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  การประดิษฐ์ท่ารำ  รำคุ่  รำหมู่เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  การประดิษฐ์ท่ารำ  รำคุ่  รำหมู่
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่ารำ รำคุ่ รำหมู่
Panomporn Chinchana
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์   เรื่อง  บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์   เรื่อง  บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
Panomporn Chinchana
 
กาพย์ยานี
กาพย์ยานีกาพย์ยานี
กาพย์ยานีkhorntee
 
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญบทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
neeranuch wongkom
 
งานนำเสนอมัทนะพาธา
งานนำเสนอมัทนะพาธางานนำเสนอมัทนะพาธา
งานนำเสนอมัทนะพาธา
Santichon Islamic School
 
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์jumboguide
 
โครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพโครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพ
รอยยิ้ม' ชุ้ปปี้
 
ตัวอย่างเอกสารปวส.
ตัวอย่างเอกสารปวส.ตัวอย่างเอกสารปวส.
ตัวอย่างเอกสารปวส.
rubtumproject.com
 
คู่มือ Thunkable
คู่มือ Thunkableคู่มือ Thunkable
คู่มือ Thunkable
Khunakon Thanatee
 

What's hot (20)

เอกสารประกอบการเรียน ชุดที่ 1-ประวัติบุคคลสำคัญในนาฏศิลป์และการแสดง
เอกสารประกอบการเรียน ชุดที่ 1-ประวัติบุคคลสำคัญในนาฏศิลป์และการแสดงเอกสารประกอบการเรียน ชุดที่ 1-ประวัติบุคคลสำคัญในนาฏศิลป์และการแสดง
เอกสารประกอบการเรียน ชุดที่ 1-ประวัติบุคคลสำคัญในนาฏศิลป์และการแสดง
 
คำถามพร้อมตอบ อิเหนา-ตอน-ศึกกะหมังกุหนิง
คำถามพร้อมตอบ อิเหนา-ตอน-ศึกกะหมังกุหนิงคำถามพร้อมตอบ อิเหนา-ตอน-ศึกกะหมังกุหนิง
คำถามพร้อมตอบ อิเหนา-ตอน-ศึกกะหมังกุหนิง
 
หน่วยที่ 5 การวางโครงเรื่องของเรียงความ
หน่วยที่ 5 การวางโครงเรื่องของเรียงความหน่วยที่ 5 การวางโครงเรื่องของเรียงความ
หน่วยที่ 5 การวางโครงเรื่องของเรียงความ
 
ตัวอย่างเค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างเค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างเค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างเค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะบทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1 งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย 57
โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย  57โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย  57
โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย 57
 
หน่วยที่ 11 บทละครในเรื่องอิเหนา
หน่วยที่ 11 บทละครในเรื่องอิเหนาหน่วยที่ 11 บทละครในเรื่องอิเหนา
หน่วยที่ 11 บทละครในเรื่องอิเหนา
 
โครงงานคณิตบทที่ 1
โครงงานคณิตบทที่ 1โครงงานคณิตบทที่ 1
โครงงานคณิตบทที่ 1
 
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัดวรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
 
การเขียนเรียงความ ย่อความ
การเขียนเรียงความ ย่อความการเขียนเรียงความ ย่อความ
การเขียนเรียงความ ย่อความ
 
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่ารำ รำคุ่ รำหมู่
เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  การประดิษฐ์ท่ารำ  รำคุ่  รำหมู่เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  การประดิษฐ์ท่ารำ  รำคุ่  รำหมู่
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่ารำ รำคุ่ รำหมู่
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์   เรื่อง  บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์   เรื่อง  บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
 
กาพย์ยานี
กาพย์ยานีกาพย์ยานี
กาพย์ยานี
 
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญบทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
 
งานนำเสนอมัทนะพาธา
งานนำเสนอมัทนะพาธางานนำเสนอมัทนะพาธา
งานนำเสนอมัทนะพาธา
 
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพโครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพ
 
ตัวอย่างเอกสารปวส.
ตัวอย่างเอกสารปวส.ตัวอย่างเอกสารปวส.
ตัวอย่างเอกสารปวส.
 
คู่มือ Thunkable
คู่มือ Thunkableคู่มือ Thunkable
คู่มือ Thunkable
 

โครงงานมัทนะพาธา

  • 1. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑ บทที่ ๑ บทนา ที่มาและความสาคัญของโครงงาน เนื่องจากโครงงานนี้เป็นโครงงานที่ริเริ่มมาจากการศึกษาบทละครพูดคําฉันท์ เรื่อง “มัทนะพาธา” ซึ่งเป็นบทประพันธ์ที่ทรงแต่งขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระปรีชาในการแต่ง โดยรวมคําฉันท์ทั้งหมด ๒๑ บท อีกทั้งยังเป็นวรรณคดีที่ได้รับความนิยมเพราะแฝงไปด้วยคติในเรื่องของ ความรักที่เกิดจากหลากหลายตัวละครและหลายอารมณ์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ทางกลุ่มของดิฉันได้เกิดความสนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทละครพูดคําฉันท์เรื่อง “มัทนะพาธา” เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น และเพื่อสานต่อเกี่ยวกับความรู้การแต่งวรรณคดีที่ เป็นบทละครพูดคําฉันท์ให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความสําคัญของวรรคดีไทยในสมัยโบราณ ทั้งยังเป็นเรื่องที่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ จะต้องเรียนรู้อีกด้วย วัตถุประสงค์ ๑.เพื่อศึกษาเนื้อหา ความรู้ และการแต่งบทละครพูดคําฉันท์ ๒.เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการดําเนินเรื่องและการเป็นไปของเรื่องที่ชัดเจนและถูกต้อง ๓.เพื่อให้เกิดความสามัคคีในกลุ่มในการร่วมกันทํางาน ๔.เพื่อสานต่อวรรณคดีไทยให้เกิดความน่าสนใจแก่คนรุ่นหลัง ขอบเขตของการศึกษา - นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/๑ - โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน วันที่๑-๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
  • 2. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒ บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ความเป็นมา มัทนะพาธาเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องเอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับการยกย่องจาก วรรณคดีสโมสรให้เป็นหนังสือที่แต่งดี ใช้ฉันท์เป็นบทละครพูดซึ่งแปลกและแต่งได้ยาก เป็นเรื่องที่มีตัว ละครและฉากสอดคล้องกัน วัฒนธรรมภารตะโบราณและเข้ากับเนื้อเรื่องได้ดี ลักษณะการแต่ง เรื่องมัทนะพาธาใช้คําประพันธ์หลายชนิดแต่เน้นแต่งด้วยฉันท์ บางตอนใช้กาพย์ยานี กาพย์ฉบังหรือ กาพย์สุรางคนางค์ และมีบทเจรจาร้อยแก้วในส่วนของตัวละครที่ไม่สําคัญ ทําให้มีลีลาภาษาที่หลากหลาย ตอนใดดําเนินเรื่องรวดเร็วก็ใช้ร้อยแก้ว ตอนใดต้องการจังหวะเสียงและความคล้องจองก็ใช้กาพย์ อารมณ์ มากก็มักใช้ฉันท์ เช่น ตอนที่สุเทษณ์ตัดพ้อและมัทนาเจรจาตอบใช้วสันตดิลก แสดงจังหวะรวดเร็วของ ถ้อยคําเสริมให้คารมโต้ตอบกันมีลีลาฉับไวและทันกัน เรื่องย่อ มัทนะพาธาเป็นเรื่องสมมุติว่าเกิดในอินเดียโบราณ เนื้อเรื่องกล่าวถึงเหตุการณ์บนสวรรค์ เทพบุตร สุเทษณ์หลงรักเทพธิดามัทนา แต่นางไม่ปลงใจด้วย สุเทษณ์จึงขอให้วิทยาธรมายาวินใช้เวทมนตร์สะกด เรียกนางมา มัทนาเจรจาตอบสุเทษณ์อย่างคนไม่รู้สึกตัว สุเทษณ์จึงไม่โปรด เมื่อขอให้มายาวินคลายมนตร์ มัทนาก็รู้สึกตัวและตอบปฏิเสธสุเทษณ์ สุเทษณ์โกรธ จึงสาปให้เธอจุติไปเกิดบนโลกมนุษย์ มัทนาขอไปเกิด เป็นดอกกุหลาบ สุเทษณ์กําหนดว่า ให้ดอกกุหลาบดอกนั้นกลายเป็นมนุษย์เฉพาะวันเพ็ญเพียงวันและคืน เดียว ต่อเมื่อมีความรักจึงจะพ้นสภาพจากเป็นดอกไม้ และหากเป็นความทุกข์เพราะความรักก็ให้วิงวอนต่อ พระองค์ พระองค์จะช่วย ณ กลางป่าหิมะวัน ฤษีกาละทรรศินพบ ต้นกุหลาบจึงขุดไปปลูกไว้ที่อาศรม เมื่อมัทนากลายเป็น มนุษย์ก็เลี้ยงดูรักใคร่เหมือนลูก ท้าวชัยเสนกษัตริย์แห่งเมืองหัสตินาปุระเสด็จไปล่าสัตว์ ได้พบนางมัทนาก็ เกิดความรัก มัทนาก็มีใจเสน่หาต่อชัยเสนด้วยเช่นกัน ทั้งสองจึงสาบานรักต่อกัน และมัทนาไม่ต้องกลับไป เป็นกุหลาบอีก แต่เมื่อชัยเสนพามัทนาไปยังเมืองหัสตินาปุระของพระองค์ พระนางจัณฑีมเหสีของชัยเสน หึงหวงและแค้นใจมาก นางขอให้พระบิดาซึ่งเป็นพระราชาแคว้นมคธยกทัพมาตีหัสตินาปุระ จัณฑียังใช้ให้ นางค่อมข้าหลวงทํากลอุบายว่า มัทนารักกับศุภางค์ทหารเอกของชัยเสน ชัยเสนหลงเชื่อจึงสั่งให้ประหาร
  • 3. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๓ มัทนาและศุภางค์ แต่ต่อมาเมื่อชัยเสนรู้ว่ามัทนาและศุภางค์ไม่มีความผิดก็เสียใจมาก อํามาตย์เอกจึงทูลความ จริงว่ายังมิได้สังหารนาง และศิษย์ของพระกาละทรรศินได้พานางกลับไปอยู่ในป่าหิมะวันแล้ว ส่วนศุภางค์ก็ เป็นอิสระเช่นกัน และได้ออกต่อสู้กับข้าศึกจนตายอย่างทหารหาญ ชัยเสนจึงเดินทางไปรับนางมัทนา ขณะนั้นมัทนาทูลขอให้สุเทษณ์รับนางกลับไปสวรรค์ สุเทษณ์ขอให้นางรับรักตนก่อน แต่มัทนายังคง ปฏิเสธ สุเทษณ์กริ้วจึงสาปให้มัทนาเป็นกุหลาบตลอดไป ชัยเสนมาถึงแต่ก็ไม่ทันการณ์ จึงได้แต่นําต้น กุหลาบกลับไปยังเมืองหัสตินาปุระ ตอนที่เลือกมาให้เรียนนี้อยู่ในองค์ที่ ๑ เมื่อมายาวินทําพิธีสะกดพามัทนามาพบสุเทษณ์ไปจนจบองก์ เมื่อสุเทษณ์สาปมัทนา มัทนะพาธาเป็นเรื่องที่สมมุติว่าเป็นกําเนิดของต้นกุหลาบ มีการผูกเรื่องให้เกิดความขัดแย้งซึ่งเป็นปม ปัญหาของเรื่อง กล่าวคือ สุเทษณ์หลงรักมัทนา แต่มัทนาไม่รับรัก สุเทษณ์จึงกริ้ว มัทนาต้องลงมาเกิดในโลก มนุษย์เป็นการชดใช้โทษ เมื่อพบรักกับชัยเสน ความรักก็ไม่ราบรื่นเพราะมีอุปสรรคคือนางจันฑี มัทนาต้อง ถูกพรากไปจากชัยเสน และได้พบสุเทษณ์อีกครั้งหนึ่ง แต่มัทนาก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากชัยเสนมารักสุเทษณ์ เรื่องจึงจบด้วยความสูญเสีย สุเทษณ์ไม่สมหวังในความรัก ชัยเสนสูญเสียคนรัก และมัทนาต้องเปลี่ยนสภาพ มาเป็นเพียงดอกกุหลาบ คุณค่า/แง่คิด มัทนะพาธาเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องเอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับการยก ย่องจากวรรณคดีสโมสรให้เป็นหนังสือที่แต่งดี ใช้ฉันท์เป็นบทละครพูดซึ่งแปลกและแต่งได้ยาก เป็นเรื่องที่ มีตัวละครและฉากสอดคล้องกัน วัฒนธรรมภารตะโบราณและเข้ากับเนื้อเรื่องได้ดี สอนให้รู้ถึงความ เจ็บปวดที่เกิดจากความรัก รู้ถึงโทษของความรัก บทบาทของตัวละครสาคัญเรื่องมัทนะพาธา ชาวฟ้า สุเทษณะเทพบุตร์: ผู้หลงรักนางมัทนาอย่างหมดหัวใจจนอาจจะกลายเป็นความลุ่มหลง อันเป็นเหตุให้ เกิดโศกนาฎกรรมแห่งความรักนี้ขึ้น จิตระเสน: จิตระเสน หัวหน้าคนธรรพ์ ได้จัดแสดงการร่ายรําถวายแด่สุเทษณะเทพบุตร์ เพื่อหวังคลาย ความเศร้า ความทุกข์ของสุเทษณะเทพบุตร์ แต่ไม่เป็นผล จิตระรถ: จิตระรถสาระถีคนเก่งได้ท่องเที่ยวไปในทุกที่และวาดรูปนางงามมากํานัลสุเทษณะเทพบุตร เพื่อหวังให้สุดเทษณะเทพบุตรได้พึงใจและลืมนางมัทนาต้นเหตุแห่งความเศร้าซึม
  • 4. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๔ มายาวิน: วิทยาธร ผู้มีวิชาอาคมใช้เวทย์มนต์เรียกนางมัทนามาพบสุเทษณะเทพบุตร์ทั้งๆที่ยังหลับไหล อันเป็นบ่อเกิดแก่โทสะของสุเทษณะเทพบุตร์ต่อนางมัทนา นางมัทนา: หญิงงามผู้เป็นเหยื่อของความรักที่นางไม่ได้ต้องการ ชาวดิน พระกาละทรรศิน : ฤาษีในป่าหิมมะวัน ผู้ที่ดูแลดอกกุหลาบมัทนาเยี่ยงบุตรี โสมะทัต: หัวหน้าศิษย์ของพระกาละทรรศิน นาค และ ศุน: ศิษย์ของพระกาละทรรศิน และเป็นผู้พบดอกกุหลาบมัทนา ท้าวชัยเสน: ราชาผู้ทรงครองเมืองรหัสตินาปุระ มีอัครมเหสีอยู่แล้ว แต่ก็ยังพึงใจนางมัทนา จนรับนาง กลับวัง พระนางจัณฑี: อัครมเหสีแห่งท้าวชัยเสน ที่น้อยอกน้อยใจผัว จนถึงขั้นอิจฉาริษยานางมัทนาอันเป็นเหตุ ให้นางออกอุบายชั่วร้ายทั้งต่อผัวและนางที่ผัวรัก วิทูร: พราหมณ์หมอเสนห์ ผู้เป็นนักแสดงตัวเก่งที่ใส่ไคล้นางมัทนา ศุภางค์: นายทหารคนสนิทของท้าวชัยเสน แม้ถูกใส่ความและถูกสั่งประหารชีวิตจากท้าวชัยเสน แต่ก็ จงรักภักดิ์ดีจนชีวีหาไม่ในสนามรบ นันทิวรรธนะ: อมาตย์ของท้าวชัยเสน จิตใจดีรักความยุติธรรม ได้ปล่อยศุภางค์ผู้บริสุทธ์ไป ปริยัมวทา: นางกํานัลของท้าวชัยเสน จงรักภักดีทั้งต่อท้าวชัยเสนและนางมัทนา นางอยู่กับนางมัทนาจน วินาทีสุดท้าย ก่อนที่นางมัทนาจะกลายร่างเป็นดอกกุหลาบตลอดกาล อราลี: นางค่อมข้าหลวงพระนางจัณฑี เกศินี: ข้าหลวงพระนางจัณฑี ผู้เป็นนักแสดงอีกคนในละครใส่ไคล้นางมัทนา บทละครเรื่องมัทนะพาธา องก์ที่ ๑ ฉาก: วิมานของเทพบุตรสุเทษณ์,บนสวรรค์ เทพบุตรสุเทษณ์อยู่กับวิทยาธรมายาวินซึ่งกําลังทําพิธีสะกดนางมัทนามายาวินนั่งประนมมือสักครู่มัท นาเดินออกมา ตาจ้องเป๋งไม่แลดูใครด้วยอาการที่ถูกสะกด สุเทษณ์เห็นนางมัทนาก็ลุกลงมาจากบัลลังก์เพื่อ มาต้อนรับแต่ครั้นเห็นนางมัทนาไม่ยิ้มแย้มก็ชงักแล้วหันไปพูดกับมายาวิน สุเทษณ์: นางมาแล้วไซร้ แต่ฉันใดจึ่งไม่พูดจา
  • 5. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๕ มายาวิน: นางยังงวยด้วยฤทธิ์มนตรา แต่ว่าตูข้าจะแก้บัดนี้ (มายาวินหันมาพูดกับนางมัทนา) มายาวิน: ดูก่อนนะนางมัทนาหากองค์สุเทษณ์ทรงเอ่ยถามประการใดขอให้นางจงตอบไปแม้เข้าใจมิเข้าใจก็ ตาม มัทนา: เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ หากองค์สุเทษณ์นั้นเอ่ยถามดิฉันก็จะตอบในทันที (สุเทษณ์จ้องดูนางมัทนาที่ยังคงตาลอยอยู่ด้วยท่าทีฉงนจึงลองถามไป) สุเทษณ์: หากพี่จะกอดวธุและจุม- พิตะเจ้าจะว่าไร มัทนา: ข้าบาทจะขัดฤก็มิได้ ผิพระองค์จะทรงปอง สุเทษณ์: ว่าแต่จะเต็มฤดิฤหาก ดนุกอดและจูบน้อง มัทนา: เต็มใจมิเต็มดนุก็ต้อง ปฏิบัติระเบียบดี สุเทษณ์ไม่พอใจกับคําตอบของนางจึงหันไปพูดกับมายาวิน สุเทษณ์: เหตุใดนางจึงเป็นเช่นนี้เล่า มายาวิน: ที่นางเป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะนางยังงงงวยด้วยฤทธิ์ของมนตรา อันกระหม่อมได้สะกดให้นางทูล ตอบตามที่พระองค์ต้องการ สุเทษณ์: อ๊ะ! ไม่น่ะเราไม่ขอที่จะได้นางโดยวิธีนี้ เราต้องการนางโดยที่นางยินยอม ด้วยใจที่แท้จริงฉะนั้น แล้วขอให้ท่านได้โปรดคลายเวทย์มนต์ ด้วยเถิด(มายาวินประนมมือแล้วร่ายมนต์ จนนางมัทนาได้สติเมื่อแลไปเห็นสุเทษณ์ก็ตกใจและตั้งท่า จะหนี) สุเทษณ์: ช้าก่อนนางจะไปใหน? มัทนา: ได้โปรดให้หม่อมฉันไปเถิด สุเทษณ์: ตัวเรารักเจ้าถึงเพียงนี้แต่เจ้ายังปฏิเสธข้า หากเจ้าไม่รับไมตรีจิตที่ข้ามีต่อเจ้า ข้าก็จะให้เจ้าไปเกิดยัง โลกมนุษย์ ข้าจะให้เจ้าเลือกว่าเจ้าจะไปเกิดเป็นอะไร มัทนา: อันโปรดให้เลือกตาม ฤดิข้าณบัดนี้ ขอเป็นซึ่งมาลี รุจิเรขวิไลวรรณ สุดแท้แต่จอมสรวง จะประสิทธิ์ประสาทพันธุ์ ขอเพียงให้มีคัน ธะระรื่นระรวยหอม (สุเทษณ์หันมาทางมายาวิน)
  • 6. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๖ สุเทษณ์: ก็บุปผาอย่างใดมี ที่งามทั้งสี่ อีกทั้งมีกลิ่นส่งไกล แต่ต้องให้มีหนามไว้ ป้องกันมิให้ เหล่าเดรัจฉานผลาญยับ มายาวิน: ธโปรดเป็นยอดมาลา เห็นมีแต่ในฝากฟ้า ในแดนคนหา ไม้นี้มิได้แห่งใหน สุเทษณ์: ไม้นี้มีนามฉันใด? มายาวิน: ไม้เรียกผะกากุพ- ชะกะสีอรุณแสง มัทนา: ไหนไหนจะเป็นดอกไม้ หม่อมฉันพอใจ เป็ดอกที่ออกนามมา สุเทษณ์: ด้วยฤทธิ์และอํานาจอันข้าผู้ยิ่งใหญ่ข้าขอสาบให้นางมัทนาลงไปจุติ ณ แดนมนุษย์ เป็นไม้ที่มีชื่อว่า ดอกผะกากุพชะกะ ณ ป่าหิมะวัน บัดนี้เทอญ (มัทนาร้องกรี๊ดและล้มลงกับพื้น)..............(ปิดม่าน) องก์ที่ ๒ ตอนที่ ๑ ฉาก: ในกลางป่าหิมะวัน เป็นลานหญ้าอยู่ระหว่าต้นไม้ใหญ่ ที่ตรงกลางเวทีมีดอกกุหลาบอยู่หนึ่งต้น มีดอกดอกเดียว เป็นดอก ใหญ่สีชมพูแก่ นอกจากต้นกุหลาบแล้วมีต้นไม้อย่างอื่นอีกก็ได้ อาจมีกล้วยไม้กําลังออกดอกอยู่ด้วยก็ได้ (นาคและศุนศิษย์ของพระกาละทรรศิน,จึงออกมา) นาค: อ้ายดอกนี้ เอ๊ะ!เขาเรียกดอกอะไรนะ ศุน: บางทีโสมะทัตจะรู้จัก (โสมะทัตเดินออกมา) โสมะทัต: ได้ยินใครออกชื่อฉันหรือ ศุน: พบดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมได้แล้วขอรับ โสมะทัต: วิ่งไปเรียนท่านอาจารย์ให้ทราบเดี๋ยวนี้ ศุน: ขอรับ (พระกาละทรรศินอออกมาพร้อมกับศุน) กาละทรรศิน: ใหนเล่าต้นไม้ที่เจ้าว่า ศุน: อยู่นี่เจ้าข้า! ข้าไซร้ เป็นผู้ทีได้ประสพพบดอกอัศจรรย์ นาค: ตูข้ามาพร้อมกัน
  • 7. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๗ กาละทรรศิน: มัวเถียงกันไม่เข้าการ ไปเก็บดวงมาลย์ มาให้เราพลัน (นาคกับศุนวิ่งแยกกันไปเก็บดอกกุหลาบ แต่ทั้งสองยื่นมือไปถูกหนามเข้าก็หดมือเข้าโดย อาการตกใจ) ศุน: โอ้ยเจ็บพิลึก โสมะทัต: แกสองคนหัวดื้อ ไร้ความนับถือ จึ่งขัดคําเราผู้ใหญ่ ช่างเถิดไม่จําเป็นต้องใช้ ศุน: ดีแล้วเชิญไป ถูกหนามเล่นบ้างแหละดี (โสมะทัตเข้าไปจะเด็ดดอกกุหลาบ ถูกหนามเข้าบ้าต้องหดมือออกมา ศิษย์สองคนหัวเราะโสมะทัตไม่ พอใจชักมีดออกจะฟันกิ่งกุหลาบ) กาละทรรศิน: ช้าก่อน!อย่าตัดมาลี ที่งามเช่นนี้ เราอยากใคร่ให้ขุดไป (พอบริวารเอาเครื่องมือขุดลงก็มีเสียงผู้หญิงร้องโอ้ย! โสมะทัตจะลงมือขุดอีกแต่พระกาละทรรศิ นห้ามไว้) กาละทรรศิน: อ่ะ! หยุดก่อนไม้นี้มิใช่ไม้ธรรมดา นี่หาใช่เป็นดอกไม้แต่ที่จริงแล้วเป็นเทพธิดาที่ ถูกสาบให้ จุติจากแดนสวรรค์ พระกาละทรรศิน เอาหม้อน้ําไปหลั่งลงที่โคนต้นกุหลาบจากนั้นก็สั่งให้บริวารขุดต้นกุหลาบ คราวนี้ไม่มีเสียง ร้องเช่นครั้งก่อน กาละทรรศิน: บัดนี้เจ้าอย่าร่ําไร ช่วยกันยกไป ยังสวนณอาศรมสถาน (ทั้งหมดยกต้นกุหลาบเข้าหลังเวที) ตอนที่ ๒ ฉาก: ทางเดินในป่า (ท้าวชัยเสนออกพร้อมกันกับสุภางค์กับทหารและพราน) ชัยเสน: นี่เรามาถึงที่ใดกันแล้วนี่ และจะเดินต่อไปทางทหารก็จะตามไม่ทัน เดี๋ยวเราจะพักใต้ร่มไม้นี่แหละ เจ้าจงนําพวกพรานล่วงหน้าไปหาที่อยู่ ของพระอาจารย์กาละทรรศิน ก่อน ศุภางค์: พระเจ้าค่ะ (ศุภางค์ถวายบังคมท้าวชัยเสนแล้วเข้าโรงไปพร้อมกับพวกทหาร) (ชัยเสนนั่งลงใต้ร่มไม้)
  • 8. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๘ ชัยเสน: อโหระลึกขึ้น ละก็สุดจะเสียดาย ได้เคยประสพหลาย มิคะแล้วบ่เคยเห็น กวางงามอร่ามทั่ว วรกายะดังเช่น ดนูละเลิงเล่น จรไล่ ณ วันนี้ (ศุภางค์เดินออกมา) ศุภางค์: ขณะนี้ข้าได้พบที่อยู่ของพระอาจารย์แล้วพระเจ้าค่ะ ชัยเสน: ดีแล้วข้านี้อยากจะพักเสียเต็มที (เข้าโรงไป) ตอนที่ ๓ ฉาก: ลานหน้าอาศรมของพระกาละทรรศิน ด้านหลังของเวทีเป็นอาศรม เป็นเรือนไม้มุงแฝกมีระเบียง สองข้างเวทีเป็นสวน มีแท่นศิลา มีพรมปูอยู่ พระกาละทรรศินและมัทนานั่งอยู่ โสมะทัต: นายทหารผู้นี้ได้เดินทางล่วงหน้าองค์ท้าวชัยเสน กาละทรรศิน: อันภูมินาถ เสด็จประพาส พักแรมหนใด ศุภางค์: ทรงเดินทางมาเรื่อยทรงพอพระทัยที่ใดก็พักที่นั่น กาละทรรศิน: ตัวเรา เป็นเจ้าของบ้าน ตัองขอเลี้ยงท่าน มาเถิดธิดา (กาละทรรศินกับนางมัทนาเดินเข้าไปในอาศรม จากนั้นท้าวชัยเสนออกพร้อมบริวารพระกา ละทรรศินออกมาต้อนรับ) กาละทรรศิน: ข้าขอต้อนรับองค์ท้าวชัยเสนด้วยความยินดี (มัทนาออกมจากในอาศรมท้าวชัยเสนเห็นก้อจ้องจนตลึง) มัทนา: พระบิดาข้าเจ้าขาดิฉันได้เตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้วขอเชิญพระบิดาและท้าวชัย เสนเลยน่ะเจ้าคะ (มัทนากราบกาละทรรศินและชัยเสนแล้วกลับเข้าโรง) ชัยเสน: เอ๊ะกูสุบินเห็น ฤวะจริงนะเมื่อกี้ ฤเทวะนารี ธเสด็จณศาลา ศุภางค์: พระทอดพระเนตรเห็น ดรุณีวิเศษไซร้ มุนีธเลี้ยงไว้ ดุจะปรียะบุตรี
  • 9. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๙ ชัยเสน: จะหาวิไลยปาน ฤก็กูบเคยเห็น และหากว่ากูได้ ก็จะรื่นฤดูเย็น กาละทรรศิน: ข้าขอเชิญท่านเข้าไปในอาศรมเถิด ชัยเสน: เชิญพระอาจารย์นําทางไปด้วยเถิด (ทั้งหมดเดินหายเข้าไปในอาศรม) องก์ที่ ๓ ฉาก: ลานหน้าอาศรมของพระกาลทรรศิน ด้านหลังของเวทีเป็นอาศรม เป็นเรือนไม้มุงแฝกมีระเบียง สองข้างเวทีเป็นสวน มีแท่นศิลา แต่ไม่มี พรมและสมมตว่าเป็นเวลากลางคืน มีแสงเดือนหงายแจ่มอย่างในวันเพ็ญท้าวชัยเสนออกมาชมพระจันทร์ แล้วรําพึงถึงนางมัทนา (ท้าวชัยเสนเดินออกมาจากทางด้านซ้าย) ชัยเสน: โอ้โอ๋กระไรเลย บมิเคยณก่อนกาล พอเห็นก็ทราบส้าน ฤดิรักบหักหาย ยิ่งยลวะนิดา ละก็ยิ่งจะร้อนคล้าย เพลิงรุมประชุมกาย ณอุราบลาลด (ท้าวชัยเสนทําท่าตกใจเล็กน้อย) ช้าก่อน!ดนูเห็น ณ ประตูสิรําไร ดังหนึ่งจะมีใคร จระจากพระอาศรม (ท้าวชัยเสนเลี่ยงเข้าไปแฝงหลังกอไม้ มัทนาเดินออกมาจากอาศรมมามองดูดวงเดือน) มัทนา: โอ้ว่าอนาถใจ ละไฉนปนะเปนฉะนี้ แต่ไรก็ไม่มี มะนะนึกระเหระหน ไม่เคยจะเชื่อว่า รตินั้นจะสัประดน มาสู่ ณ ใจตน และจะต้องระทมระทวย ครานี้สิพบชาย วรรูปวิเศษศาล ใจวาบและหวามปาน ฤดินั้นจะโลดจะลอย (ชัยเสนเดินออกจากที่แฝงมายืนอยู่หน้าอาศรม) ชัยเสน: ได้ยินแล้วพี่นี้ก็ดีใจยิ่งนัก ที่เจ้าก็มีใจให้กับพี่เช่นกัน
  • 10. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๐ มัทนา: หม่อมฉันเคยได้ยินสุภาษิตโบราณได้กล่าวไว้ว่าผู้ชายเมื่อยามรักก็พูดได้ราวกับมีลายลิ้น ชัยเสน: ถ้าพีมีหลายลิ้นทุกๆลิ้นของพี่ก็ล้วนแต่รุมบอกรักน้องนาง มัทนา: หากพระองค์ทรงดํารัสคําปฏิญญาหม่อมฉันก็จะจงรักและภักดีต่อพระองค์ไหน เลยจะมีความแคลง ใจ ชัยเสน: ฉะนั้นพี่ก็ยินดี (ท้าวชัยเสนพามัทนาเข้าโรงไป) จากนั้นท้าวชัยเสนจึงอภิเษกกับนางมัทนาและพานางมัทนากลับกรุงหัสตินาปุระด้วยนางมัทนาเมื่อได้ พบรักแท้กับท้าวชัยเสนก็มิกลับเป็นดอกกุหลาบอีกเลย องก์ที่ ๔ ตอนที่ ๑ ฉาก: ในตาหนักของท้าวชัยเสน ณ กรุงหัสตินาปุระ (ท้าวชัยเสนพานางมัทนาออกมานั่งบนพลับพลาศุภางค์ มาเข้าเฝ้าด้วย) ชัยเสน: ตั้งแต่เราได้อภิเษกกันมาพี่นี้ก็มีความสุขเหมือนกับได้พี่ได้ขึ้นสู่สวรรค์ มัทนา: จะหาสุขใดเปรียบไม่มีแล้วเพคะ (นางจัณฑีออกพร้อมนางข้าหลวง นางยืนดูท้าวชัยเสนและนางมัทนาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเข้าบังคมท้าว ชัยเสน) จัณฑี: ถวายบังคมเพคะได้ยินว่าพระองค์กลับมาจากประพาสป่าแล้วแต่เหตุใดจิงมิเสด็จตําหนักของหม่อม ฉันหรือว่ามีคนรั้งไว้มิให้เสด็จได้ ปล่อยให้หม่อมฉันนั่งรอแกร่วอยู่ที่ตําหนักรอพระองค์ไปสิเพคะ มัทนา: อันว่าหม่อมฉันหรือจะรั้งพระองค์ไว้ได้ หากพระองค์อยากจะเสด็จหม่อมฉันก็ มิได้ขัดพระทัย จัณฑี: ข้ารู้ที่พระองค์ทรงโปรดเจ้าก็เพราะว่าเจ้ามิเคยขัดใจละซิ หญิงใดที่ขัดใจผัวผัวก็คงมิรักได้นานต้อง ชั่งประจบประแจงซิ แต่ตัวข้านี้เป็นถึงธิดากษัตริย์จึงประจบประแจงไม่เป็นใหนเลยจะสู้ธิดาพระโยคีได้
  • 11. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๑ ชัยเสน: อ๊ะ! อย่าน่ะจัณฑี วจะเธอนะเกินไป มา มะทะนา เราไปดีกว่า อยู่อีกทําไม ขืนอยู่ฟังเสียงไป ก็เถียงกันไป ยืดยาวยิ่งใหญ่หาแก่นสารมิได้ (ท้าวชัยเสนจูงนางมัทนาเข้าไป) จัณฑี: อิโสภิณีดี ตะประจบสําออยผัว แน่ะมึงน่ะเงาหัว บมิมีละรู้ไหม ผิกูจะใช้คน จรยังชนกนาถ และทูลคดีกาจ ฤวะไท้จะดูดาย นางค่อมอราลี ฉะนั้นเรารีบกลับตําหนักกันดีกว่าเพคะหม่อมฉันมีแผนการดีๆจะทูลถวายเพคะ (นางจัณฑี นางค่อมอราลีและข้าหลวงก็เข้าโรงไป) นางจัณฑีหึงหวงและแค้นใจมาก นางขอให้พระบิดาซึ่งเป็นพระราชาแคว้นมคธ ยกทัพมาตีหัสตินาปุ ระตามอุบายของนางอราลี ฉาก: เป็นเมืองของแคว้นมคธ (พระราชบิดาของนางจันฑีนั่งอยู่ ครู่หนึ่งนางอราลีเดินนวยนาดเข้ามา ถือ พระราชสารจากนางจันฑีมาด้วย) ราชาแคว้นมคธ: นั่นนางค่อมอราลีอัปลักษณ์เจ้ามีธุระอันใดเล่า รึว่า เกิดเหตุอันใดแก่จันฑีธิดาอันเป็นที่รัก ของข้า อราลี: พระราชธิดาให้หม่อมฉันนําพระราชสาระสําคัญมาถวายเพคะ (นางอราสีส่งราชสารให้แก่ราชาแค้วนมคธ ราชาแคว้นมคธเปิดอ่านแล้วทําท่าตกใจ เสียงภาคของนาง จันฑี ถวายบังคมเสด็จพ่ออันเป็นที่รักและเคารพยิ่งของลูกหม่อมฉันมีเรื่องจะให้เสด็จพ่อช่วย บัดนี้ท้าวชัย เสนได้มีพระชายาใหม่ซึ่งสร้างความคับแค้นใจให้กับลูกมากหากเสด็จพ่อกรุณาได้โปรดยกทัพมาล้อมกรุง หัสตินาปุระเพื่อทําการแก้แค้นให้หม่อมฉันด้วยเถิดหม่อมฉันขอกราบขอบพระทัยเสด็จพ่อล่วงหน้านะเพ คะ) ราชาแคว้นมคธ(โกรธ): หึ ไม่ได้การล่ะเราจักต้องทําการแก้แค้นให้ลูกรักของเรา (ตะโกนเรียกทหาร)ทหาร ทหาร จัดทัพเตรียมล้อมหัสตินาปุระแก้แค้นให้ลูกข้า (ราชาแคว้นมคธเข้าโรงไป จางนั้นนางอราลีก็เดิน กระหยิ่มยิ้มย่องตามไป)
  • 12. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๒ ตอนที่ ๒ ฉาก: ริมรั้วค่ายหลวง ฉากหลังเป็นภาพรั้วค่าย ท้าวชัยเสนแต่งเครื่องแบบนักรบ ออกพร้อมด้วยสุภางค์และทหาร (ชัยเสนนั่งอยู่กับศุภางค์และทหาร) ชัยเสน: ข้ามินึกว่าจันฑีจะแค้นเคืองข้าถึงเพียงนี้ถึงกับบอกให้พระบิดายกทัพมาตีเรายิ่งตอนนี้มัทนายิ่งไม่ สบายอยู่ข้าว่าจะกลับไปเยี่ยมนาง สักหน่อย เดี๋ยวเจ้าไปกับข้าน่ะสุภางค์ (ท้าวชัยเสนและบริวารเข้าโรงทั้งหมด) ในระหว่างออกรบท้าวชัยเสนเกิดนึกเป็นห่วงนางมัทนาจึง ตัดสินใจกลับเมือง ตอนที่ ๓ ฉาก: สวนหลวงข้างพระราชวัง ในกรุงหัสตินาปุระ (ฉากเป็นสวนดอกไม้ มีต้นไม้ร่มรื่น มีเตียงสาหรับนั่งเล่น ในฉากนี้เป็นเวลากลางคืน พระนางจันฑีนั่ง อยู่บนเตียง อราลีนั่งข้างๆ และพราหมณ์วิฑูรนั่งกับพื้นตรงกลางเวทีมีกองฟืนจัดสุมไว้) อราลี: ตามที่ได้ยินมาหม่อมฉันได้ข่าวว่าองค์พระสวามีจะเสด็จกลับมาถึงพระนครในคืนนี้นะเพคะ จันฑี: แล้วข่าวการสงครามเล่าเป็นอย่างไรบ้าน อราลี: ฝ่ายสมเด็จพระบิดาก็ยังคงยกทัพเข้าตีทัพของพรสวามีอยู่เรื่อยๆแต่ทัพของพระสวามีก็ยังคงรับมือได้ อยู่เพคะ(เกศินีซึ่งเป็นนางกํานัลวิ่งเข้ามา) เกศินี: บัดนี้มีผู้ชายตรงมาที่อุทยานนี่แล้วเพคะเห็นทีจะเป็นองค์เหนือหัวชัยเสนแน่แล้วเพคะ อราลี: เร็วเถิดท่านอาจารย์ ท่านจงเริ่มพิธีดังที่นัดกันไว้ (วิทูรลุกไปจุดไฟแล้วนั่งขัดสมาธิประนมมือทําพิธี) อราลี: พระมเหสีหลบก่อนดีกว่าเพคะ (จันฑีกับอราลีเข้าโรงไปทางขวา ฝ่ายวิทูรคงหลับตาและร่ายมนต์พึมพําอยู่ ส่วนนางกํานัลนั่งดู พราหมณ์ด้วยอาการเอาใจใส่มาก สักครู่ท้าวชัยเสนออก มีสุภางค์ นันทิวรรธนะ ตามมาด้วยท้าวชัยเสนเห็น วิทูรนั่งอยู่ก็ชงัก)
  • 13. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๓ ชัยเสน: นันทิวรรธนะ นี่ใครกันวะ มานั่งอยู่นี่ (วิทูรกับนางกํานัลก็ทําเป็นตกใจ กราบท้าวชัยเสนแล้วหมอบตัวสั่นนันทิวรรธนะจึงเข้าถาม) นันทิวรรธนะ: แกมาจากไหน ไม่รู้หรือนี่เป็นที่สวนหลวง วิทูร: เจ้าประคุณโปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิดพระชายามัทนารับสั่งให้ข้ามาที่นี่ ชัยเสน: จิงรึวะ! เกศินี เกศินี: พระอาญามิพ้นเกล้าเป็นจริงเพคะ ชัยเสน: นันทิวรรธนะเจ้าลองค้นในกระเป๋าของเจ้าพราหมณ์นี่ดูสิ (นันทิวรรธนะเข้าไปค้นกระเป๋าพบรูปปั้นคนสามรูป รูปหนึ่งมีหนามแหลมปักอยู่ อีกสองรูปมัด ติดกันแน่น แล้วจึงนําถวายแก่ท้าวชัยเสน) ชัยเสน: แล้วเจ้าจักทําพิธีนี้แก่ผู้ใดเล่าจงแจ้งมาโดยจริงหากไม่เช่นนั้นข้าจะลงโทษ วิทูร: พระนางมัทนาใช้ข้ามานี่เพื่อทําพิธีเพื่อทําเสน่แก่พระนางและศุภางค์ทหารเอกของพระองค์และปอง ร้ายแก่พระองค์พระเจ้าค่า ชัยเสน(ตกใจมาก): จริงรึเจ้าพราหมณ์เฒ่า ศุภางค์: ฉันใดเจ้าจึงได้มุสาเช่นนี้ผู้ใดสั่งเจ้ามารึ ข้ารับใช้องค์เหนือหัวด้วยความจงรักภักดีอีกอย่างพระนาง มัทนาทรงรักพระสวามียิ่งเหตุใดเจ้าจึงใส่ความเช่นนี้ ชัยเสน: อุเหม่ศุภางค์ ตัวมึงนี่ชั่ง เจรจาสาไถย ยิ่งพูดยิ่งนัว เข้าตัวร่ําไป มึงจะอยู่ใย หนักปัฐพี เหวยนันทิวรรธน์ จับศุภางค์มัด เอาไปทันที แล้วฆ่ามันให้ บรรลัยคืนนี้ คนคดอัปรีย์มิควรอยู่นาน จงเอามัทนาโฉมตรู ไปพร้อมกับชู้ ของนางโฉมฉาย ฆ่าเสียด้วยไซร้ จะได้สมหมาย พร้อมๆกันตายไปเคียงคู่กัน นันทิวรรธนะ: แล้วตาพราหมณ์เฒ่านี่ล่ะพระเจ้าคะ ชัยเสน: มันมีความผิดมากนัก จับมันแห่รอบเมืองแล้วเนรเทศซะ (นันทิวรรธนะถวายบังคมลาแล้วพาตัวศุภางค์ วิทูร และเกศินีเข้าโรงไป เท้าชัยเสนนั่งแล้วซบหน้า กับหมอนแล้วร้องไห้ นางจันฑีออกมาตรงเข้าไปกราบท้าวชัยเสน)
  • 14. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๔ จันฑี(ทาเสียงออดอ้อน): หม่อมฉันทราบมาว่าเกิดเรื่องบัดสีบัดเถลิงเกิดขึ้นแหมๆๆมันน่าเจ็บใจนางมัทนา นักเสด็จพี่อุตสาห์รักยังคิดทรยศได้ไหนจะเรื่องสงครามอีกเอาอย่างนี้มั้ยเพคะ ให้หม่อมฉันทูลเสด็จพ่อเรื่อง ที่เข้าใจผิด แล้วให้ยกทัพกลับไปน่ะเพคะ ชัยเสน: เก่งดีน่ะแม่จันฑีมีอุบายที่จะห้ามทัพแต่จะให้ข้ายอมรับคงมิได้คอยดูเถิดข้าจะบั่นพระเศียรมคธ ราชามาฝากเจ้าให้ได้ (ท้าวชัยเสนกระทืบเท้าแล้วลุกขึ้นเดินเข้าโรงฝ่ายนางจันฑีก็นั่งตลึงอยู่) (ปิดม่าน) องค์ที่ ๕ ฉาก :ริมรั้วค่ายหลวง (ฉากหลังเป็นภาพรั้วค่าย ท้าวชัยเสนนั่งเอกเขนกอยู่ มีทหารอยู่งานนั่งพัดหนึ่งคนนั่งมอบอยู่ด้านขวา อีกหนึ่งคนสักครู่นันทิวรรธนะก็เข้ามาถวายบังคม) นันทิวรรธนะ: ตาเฒ่าวิทูรมาขอเข้าเฝ้าพระเจ้าค่ะ ไล่เท่าไรก็ไม่ไป ชัยเสน: มันคงจะมีเรื่องสําคัญจริงๆให้มันเข้ามาสิ (นันทิวรรธนะออกไปตามวิทูรเข้ามา) ชัยเสน: เจ้ามีเรื่องอะไรรึถึงรีบร้อนอยากจะพบข้า วิทูร: หม่อมฉันมีเรื่องจะมาสารภาพพระเจ้าค่ะ แท้จริงแล้วพระนางมัทนามิได้รู้เห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นเลยหม่อมฉันถูกพระนางจันฑีและนางค่อมอัปลักษณ์นั่นบังคับขู่เข็ญให้มาทําพิธีเพื่อใส่ร้ายพระนาง มัทนาว่าเป็นชู้กับศุภางค์พระเจ้าค่ะ ชัยเสน(เสียใจ): โธ่จริงหรือนี่เรานี่มันชั่งโง่เขลาเสียจริงมารู้ความจริงตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์เพราะเราสั่งข้า สองคนนั่นไปแล้วเราอยากตายเสียเหลือเกิน (ชัยเสนชักดาบออกและทําท่าจะแทงตัวเอง) นันทิวรรธนะ: ช้าก่อนพระเจ้าค่าหม่อมฉันหาได้ประหารสองคนนั้นไม่ศุภางค์ขออาสาออกรบจนสิ้นชีวิต ในสนามรบ ส่วนพระนางมัทนาหม่อมฉันได้ปล่อยนางกลับสู่หิมะวันพระเจ้าค่ะ ชัยเสน: ดีจริง ฉะนั้นเราจะไปตามมัทนากลับมาอยู่กับเรา (ทั้งหมดเข้าโรงไป)
  • 15. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๕ ตอนที่ ๒ ฉาก : ในกลางป่าหิมะวัน (ฉากนี้เป็นฉากเดียวกันกับตอนที่ ๑ องก์ที่๒ ผิดแต่ตอนนี้ไม่มีดอกกุหลาบเท่านั้น) (นางมัทนานั่งอยู่กลางเวทีกําลังทําการอ้อนวอนต่อเทวดาให้ช่วยนาง นางปริยัมวะทานั่งอยู่ข้างๆ) มัทนา: ข้าแต่องค์สุเทษณ์ผู้ยิ่งใหญ่ ณ ตอนนี้ความรักของข้าได้สร้างความเสียใจให้กับข้าอย่างยิ่งข้าจึง อยากจะขอวิงวอนให้ช่วยข้าด้วยเถิด (สุเทษณ์ออก) สุเทษณ์: ข้าได้ยินคําอ้อนวอนของเจ้าแล้วมีใจสงสารยิ่งนักข้าจะนําเจ้ากลับไปอยู่ ณ สรวงสวรรค์ด้วยกันเจ้า เห็นดีหรือไม่ มัทนา: หม่อมฉันมีความรักที่มั่นคงนักมิอาจทิ้งคนที่หม่อมฉันรักไปได้หม่อมฉันขอบพระทัยพระองค์อย่าง ยิ่งสําหรับไมตรีจิตที่กรุณาประทานให้แต่หม่อมฉันคงจะรับไว้มิได้ สุเทษณ์(เริ่มโกรธ): มัทนาเจ้านี้แปลกนักเราชวนไปอยู่สวรรค์ชั้นฟ้าด้วยกันเจ้าก็มิไปรึเจ้าพอใจที่จะทนทุกข์ อยู่ที่นี่ต่อไปเล่า ผัวทิ้งก็ยังห่วงอยู่ได้เมื่อเจ้ายังโอหังมิรับไมตรีจากข้าอยากช้ําใจอยู่เยี่ยงนี้ข้าก็จะให้เจ้าสม ปราถนา เจ้าจงเป็นดอกกุหลาบรอความรักของเจ้าอย่างนี้นิรันดร์เถิด (สุเทษณ์ประนมมือร่ายมนต์สาปนาง มัทนา จากนั้นนางมัทนาก็ฟุบก้มลงแล้วค่อยๆกลายเป็นดอกกุหลาบ ส่วนสุเทษณ์ยืนดูจนนางมัทนา กลายเป็นดอกกุหลาบแล้วเข้าโรงไปทิ้งให้นางปริยัมวะทานั่งตกตลึงพอรู้สึกตัวก็ร้องให้เสียใจยกใหญ่) ปริยัมวะทา: โธ่ ทูลกระหม่อมแก้วของหม่อมฉันมิน่าเป็นเช่นนี้เลยองค์สุเทษณ์และพระสวามีก็ชั่งใจร้าย เสียนี่กะไรโธ่ชั่งน่าสงสารเสียจริงแม่คุณ) (ชัยเสนเดินออกมาพบนางปริยัมวะทา) ชัยเสน: เกิดเหตุอันใดขึ้น แล้วมัทนาเล่านางไปใหนเสีย แล้วใยเจ้ามานั่งเศร้าโศกอยู่นี่รึว่าเกิดเหตุอะไรกับ ชายาอันเป็นที่รักของข้า ปริยัมวะทา: พระนางมัทนาได้แต่เฝ้าอ้อนวอนให้องค์สุเทษณ์เทพบุตรช่วยให้นางพ้นจากความทุกข์ องค์สุ เทษณ์จึงชวนพระนางไปอยู่บนสวรรค์ด้วยกัน แต่พระนางมีความมั่นคงในความรักที่มีต่อพระองค์ยิ่งนักจึงมิ ยอมไป ทําให้องค์สุเทษณ์เทพบุตรมิพอใจอย่างยิ่งจึงสาปให้พระนางมัทนากลายเป็นดอกกุหลาบตลอดไป
  • 16. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๖ ชัยเสน(เสียใจ): โธ่ ไม่น่าเลยข้ามาไม่ทันหรือนี่เพราะความโง่เขลาของข้าแท้ข้าจะหาหญิงที่มีหัวใจที่มั่นคง ได้เยี่ยงนางไม่มีอีกแล้วข้าจะนําต้นกุหลาบมัทนาไปปลูกไว้ในวังเพื่อให้ข้าได้อยู่กับนางตลอดไป (ชัยเสนยืนเช็ดน้ําตาอยู่สักครู่แล้วจึงนําต้นกุหลาบขึ้นมาแล้วเดินเข้าโรงไปนางปริยัมวะทาเดินตามไปด้วย ) (ปิดม่าน) (*จบ*)
  • 17. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๗ บทที่ ๓ วัสดุอุปกรณ์วิธีการดาเนินงาน วัสดุอุปกรณ์การจัดทาโครงงาน ๑.กระดาษ A๔ ๒.กล้องถ่ายรูป ๓.ปากกา ๔.ไม้บรรทัด ๕.โฟม ๖.สีชอล์ก ๗.คัตเตอร์ ๘.กระดาษแข็งขนาดใหญ่ ๙.ชุดนักแสดง วิธีการดาเนินงาน ๑.ศึกษาค้นคว้าเรื่องมัทนะพาธา ๒.เขียนบทละครมัทนะพาธา ๓.ทําฉากการแสดงมัทนะพาธา ๔.ซ้อมบทละคร ๕.แสดงบทละคร เรื่องมัทนะพาธา ๖.อัดวีดีโอลง Youtube ๗.เขียนเค้าโครงของโครงงานเรื่องมัทนะพาธา ๘.ดําเนินการจัดทําโครงงาน
  • 18. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๘ ตารางบันทึกผลการทางาน โครงงาน เรื่องมัทนะพาธา ลาดับที่ กิจกรรม วัน เดือน ปี สถานที่ดาเนินงาน ๑. ค้นหา ศึกษา และทําความเข้าใจ ๑/ก.ค./๕๖ บ้านนักเรียนทุกคน ๒. เขียนบทละครมัทนะพาธา ๔/ก.ค./๕๖ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์ ๓. ทําฉากการแสดง ๖/ก.ค./๕๖ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์ ๔. ซ้อมบทละคร ๗/ก.ค./๕๖ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์ ๕. แสดงบทละคร เรื่องมัทนะพาธา ๒๐/ก.ค./๕๖ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์ ๖. อัดวีดีโอลง Youtube ๓๑/ก.ค./๕๖ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
  • 19. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๑๙ บทที่ ๔ ผลการดาเนินงาน ผลการดาเนิน จากการแสดงละครเรื่อง”มัทนะพาธา”ให้เพื่อนๆในห้องเรียนได้ชม ผลปรากฏว่าเพื่อนๆนักเรียนใน ห้องเรียนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าในการแสดงละครจะมีทั้งเนื้อหาสาระ ข้อคิด และความ บันเทิงต่อทุกๆคน จากการสํารวจเพื่อนในห้องเรียนพบว่าทุกคนให้ความสนใจกันประมาณ ๙๘ % และนั้นก็หมายความว่า การแสดงละครให้เพื่อนๆนักเรียนในห้องชมสามารถสร้างความสนใจได้เป็นอย่างมาก
  • 20. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒๐ บทที่ ๕ สรุปผลการดาเนินงาน สรุปผล ทางกลุ่มได้คิดการแสดงละครมัทนะพาธาเพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาความรักของพระนางมัทนาซึ่ง มัทนะพาธาเรื่องนี้เป็นเนื้อหาของกลุ่มสาระวิชาภาษาไทย จากการแสดงละครครั้งนี้ได้รับประสบการณ์ต่างๆมากมาย โดยเฉพาะการแสดงให้สมบทบาท ความรัก ความสามัคคีในกลุ่ม ประสบการณ์ทางชีวิตที่สามารถนําไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจําวันของมนุษย์ทุกๆคน ประโยชน์ที่ได้รับ ๑.มีความรู้ความเข้าใจเรื่องมัทนะพาธา ๒.ได้แง่คิดในเรื่องความรัก ๓.มีความสามัคคีในกลุ่ม ๔.นําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน
  • 21. โครงงานเรื่อง “มัทนะพาธา” ๒๑ เอกสารอ้างอิง หนังสือวรรณคดีและวรรณกรรม. นายเอกรินทร์ สี่มหาศาล. พิมพ์ครั้งที่ ๓ http://panidavichuma.blogspot.com http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/utaradit/watcharee-w/matana/lakorn.htm http://www.oknation.net/blog