More Related Content
Similar to พระคุณพ่อแม่ (11)
More from Kiat Chaloemkiat
More from Kiat Chaloemkiat (16)
พระคุณพ่อแม่
- 1. พระนิติศาสตร์ นิติโก
น.ธ.ตรี, สถ.ม.(สถาปัตยกรรมศาสตร์) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“Happy Birth Day” ๑
สาธุ ช นทั้ง หลาย ท่า นคงเคยได้ยิ นประโยคนี้ว่ า “เอาโลกมาเป็นปากกา เอานภามาเป็ น
กระดาษ เอาน้าในมหาสมุทรแทนหมึกวาด ยังประกาศพระคุณบิดามารดาไม่หมด ” พระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าพระองค์ทรงตรัสไว้ว่า บุตรจะพึงตั้งบิดามารดาไว้บนบ่าทั้ง ๒ ข้างของตน โดยให้บิดาอยู่ข้างขวา
มารดาอยู่ข้างซ้าย ประคับประคองท่านอยู่ บนบ่านั้น ป้อนข้าวป้อนน้้า ให้ท่านถ่ายอุจจาระปัสสาวะบน
บ่านั้นเสร็จ แม้บุตรจะมีอายุถึง ๑๐๐ ปี แล้วปรนนิบัติท่านอย่างนี้ไปจนตลอดชีวิต ก็ยังตอบแทน
พระคุณพ่อแม่ไม่หมด ส้าหรับลูกๆบางคน อย่าว่าแต่ ๑๐๐ ปีเลย แม้แต่วันเดียว ยังไม่เคยท้าเลย
ดังนั้นเราจึงเข้าใจว่าพ่อแม่มีพระคุณต่อเรา แค่เพียงให้ก้าเนิดเรา แค่นี้ ไม่ต้องพูดถึงการเลี้ยงดู ก็มี
พระคุณมากมายนับประมาณไม่ได้ เมื่อลูกคลอดออกมาก็ได้พ่อแม่เป็นผู้เลี้ยงดูมาโดยตลอด แม่เอา
เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้้านมให้ลูกดื่มกิน เมื่อโตขึ้นพอกินอาหารได้ พ่อแม่ก็จะสรรหาอาหารที่ดีที่สุ ด
มาให้ลูกกิน เมื่อกินแล้วก็ต้องถ่าย ลูกจะถ่ายทั้งอุจจาระและปัสสาวะโดยไม่บอกกล่าว พ่อแม่ต้องคอย
เช็ดคอยล้างอุจจาระปัสสาวะของลูกเสมอ โดยไม่เกียจคร้าน อันตรายใดๆที่จะเกิดขึ้น พ่อแม่จะคอย
ป้องกันไม่ให้เกิดกับลูก แม้ชีวิตท่านก็สละได้ พ่อแม่จะให้ทุกอย่างแก่ลูก คือ ให้ชีวิตและให้ความรู้เท่าที่
ท่านจะสามารถหาได้ เมื่อลูกโตถึงวัยที่จะมีคู่ครอง ท่านก็พยายามสอนให้ลูกรู้จักเลือกคู่ครองที่ดี และ
แม้ลูกจะมีครอบครัวไปแล้วพ่อแม่ก็ยังเป็นห่วงลูก กลัวลูกล้าบาก กลัวไม่มีความมั่นคง
ลูกๆบางคน เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดของตน ก็จะสรรหาร้ านดีๆ โทรหาเพื่อนหรือแฟนเพื่อนัด
กันไปฉลองวันเกิดของตน เค้กวันเกิดที่ถูกประดับด้วยเทียนไขตามจ้านวนอายุของตน พร้อมกับค้า
๑
ปรับปรุงจากบทเทศน์วันพระในพรรษา ปี พ.ศ.๒๕๕๖ ณ วัดป่าโยธาประสิทธิ์ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันพฤหัสบดี
สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
ที่ ๒๙ เดือน
- 2. อวยพรบนหน้าเค้กว่า “Happy Birth Day” ถูกบันดาลให้เกิดขึ้นในวันคล้ายวันเกิดของลูก เราลืม
ชายหญิงแก่ๆผู้ให้ก้าเนิดเราในวันนี้แล้วหรือ วันเกิดลู กเกือบคล้ายวันตายของแม่ ท่านต้องเจ็บปวด
มากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ท่านสาธุชนทั้งหลาย ในปัจจุบันลูกบางคนมีพฤติกรรม คือ
- เวลาไม่มีเงิน คนแรกที่คิดถึงคือพ่อแม่ แต่พอมีเงิน คนแรกที่คิดถึงคือแฟนและเพื่อน
- อยากได้รถ คนแรกที่ไปหาคือพ่อและแม่ แต่พอมีรถ คนแรกที่จะไปรับคือแฟนและเพื่อน
- เวลาประสบความส้าเร็จ เรามักจะมองหาแฟนและเพื่อนเพื่อฉลองและสังสรรค์ แต่พ่อแม่
กลับกลายเป็นคนที่เรามองข้ามทั้งๆที่ท่านดีใจกับเรามากที่สุด
- พ่อแม่ฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคร้อยพันประการเพื่อลูก แต่เมื่อลูกมีปัญหามักคิดได้แค่ท้อถอยหด
หู่หรืออยากตาย
- พ่อและแม่คือผู้ที่ปกป้องและยืนเคียงข้างลูกจวบจนชีวิตจะหาไม่
- ลูกๆบางคนบอกว่ารักพ่อ รักแม่ แต่ว่าสิ่งที่กระท้าเล่า ! นี่ใช่ไหม ความรักที่ลูกแสดงต่อพ่อ
แม่
ลูกบางคนเอาปากที่พ่อแม่ให้มา ด่าท่านด้วยค้าหยาบคายรุนแรง เพียงเพราะท่านหาเงินให้ใช้
ไม่ทันใจ บางคนใช้ขาที่พ่อแม่ให้มา เตะท้าลายข้าวของต่อหน้าท่านด้วยความโมโห หลายครั้งที่พ่อแม่
ต้องเอาหัวพิงข้างฝาผนัง นั่งร้องไห้กับการกระท้าของลูก ผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจตน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้จ้าแนกบุตรออกเป็น ๓ พวก คือ
๑. อวชาตบุตร คือลูกที่เป็นคนพาล ไม่รู้จักบาป-บุญ-คุณ-โทษ ท้าตัวเหลวแหลก ไร้ศีลธรรม
๒. อนุชาตบุตร คือลูกที่ดีเสมอกับพ่อแม่ โดยพ่อแม่มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ มีศีลมีธรรม
ส่วนลูกก็มีคุณธรรม เสมอพ่อแม่ เข้าวัดปฏิบัติศีล เจริญภาวนาเป็นนิจ
๓. อภิชาตบุตร คือลูกที่ดีเลิศกว่าพ่อแม่ โดยตรงได้ แก่บุตรธิดาผู้มีศีลมีกัลยาณธรรม งดเว้น
จากบาปทุ จ ริ ต มี ปั ญ ญาเป็ น สั ม มาทิ ฐิ โดยอ้ อ มได้ แ ก่ บุ ต รธิ ด าที่ มี ค วามรู้ ฐานะ อาชี พ และ
กิริยามารยาทต่างๆ ตลอดถึงจิตใจเหนือกว่าบิดามารดา
พ่อแม่ นั้นมีความหมายต่อลูกในหลายฐานะ คือ
- เป็นพรหมของลูก เพราะว่าท่านมีพรหมวิหาร ๔ คือ มีเมตตา หมายถึงความเอ็นดู ความ
ปรารถนาดีต่อลูกในทุกๆด้าน ไม่มีที่สิ้นสุด มีกรุณา หมายถึงให้ความกรุณาต่อลูก ลูกอยากได้อะไรก็หา
มาให้ลูก ให้การศึกษาเล่าเรียน เท่าที่มีความสามารถจะให้ได้ มีมุทิตา หมายถึงความรักที่ยอมสละได้แม้
ชีวิตของตัวเองเพื่อลูก และมีอุเบกขา หมายถึงการวางเฉย ไม่ถือโกรธเมื่อลูกประมาท ท้าผิดพลาด
เพราะความไร้เดียงสา
- เป็นอรหันต์ของลูก เพราะว่าท่านมีคุณธรรม ๔ ประการคือ
๑.เป็นผู้มีอุปการะคุณต่อลูก คืออุปการะเลี้ยงดูมาด้วยความเหนื่อยยาก กว่าจะเติบโตเป็น
ผู้ใหญ่
๒.เป็นผู้มีพระเดชพระคุณต่อลูก คือให้ความอบอุ่นเลี้ยงดู ปกป้องจากภยันตรายต่างๆ นานา
๓.เป็นเนื้อนาบุญของลูก คือลูกเป็นส่วนหนึ่งของกรรมดีที่พ่อแม่ได้ท้าไว้ และเป็นผู้รับผลบุญ
ที่พ่อแม่ได้สร้างไว้แล้วทางตรง
- 3. ๔.เป็นอาหุไนยบุคคล คือเป็นเหมือนพระที่ควรแก่การเคารพนับถือและรับของบูชา เพื่อเทิดทูน
ไว้เป็นแบบอย่าง
การตอบแทนพระคุณท่านนั้น ลูกสามารถกระท้าได้ดังนี้
กตัญญู ขั้นต้นคือรู้คุณท่าน ที่ท่านให้ชีวิตคือลมหายใจ เลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ มีชีวิตที่ดีใน
สังคมได้
กตเวที กระท้าการตอบแทนคุณท่าน ในนวโกวาทภาคคิหิปฎิบัติ พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงหน้าที่
ของบุตรพึงปฏิบัติต่อบิดมารดา ดังนี้
- เลี้ยงดูตอบแทนท่านยามชรา
- ช่วยเหลือกิจการงานของท่าน
- ด้ารงวงศ์สกุล อย่าให้เสียชื่อเสียงของตระกูล
- ประพฤติตัวดีให้สมเป็นผู้รับมรดก
- เมื่อท่านละโลกไป ท้าบุญอุทิศไปให้อย่างสม่้าเสมอ
แม้จะท้า ได้ครบ ๕ ข้อ ก็ไม่ถือว่ าแทนคุณ ได้หมด ท้า อย่ างไรหละ จะตอบแทนคุณได้หมด
โบราณกาล ได้ให้แนวทางไว้ว่า
๑. ถ้าท่านยังไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก็พยายามชักน้าให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธาให้ได้
๒. ถ้าท่านยังไม่ถึงพร้อมด้วยการให้ทานก็พยายามชักน้าให้ท่านยินดีในการบริจาคทาน
๓. ถ้าท่านยังไม่รักษาศีล ก็พยายามชักน้าให้ท่านรักษาศีลให้ได้
๔. ถ้าท่านยังไม่ท้าสมาธิภาวนา ก็พยายามชักน้าให้ท่านท้าสมาธิภาวนาให้ได้
การตั้งอยู่ในศรัทธา การให้ทาน การรักษาศีล การท้าสมาธิภาวนา เป็นประโยชน์โดยตรง และ
เป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่บิดามารดา ทั้งภพนี้และภพหน้า เป็นหนทางไปสู่พระนิพพาน การที่ลูกได้
บวชศึกษาพระธรรมค้า สั่ง สอนนั้น พ่ อแม่ย่ อมเกิดปี ติ แ ละเลื่ อมใสศรัทธา เมื่อเห็นผ้ากาสาวพั กตร์
ความรู้สึกนี้จะฝังลึก เกิดอีกกี่ภพกี่ชาติ บุญจะเกิดมาหล่อเลี้ยงใจ เกิดสัมมาทิฐิ เห็นคนอื่นบวชเท่าไร ก็
ไม่เท่าเห็นลูกชายตนเองบวช ดังนั้นแล้ว ถ้าลูกปฏิบัติท้าได้ ดังที่ได้ขยายความมา ลูกก็ได้ชื่อว่าเป็น
ลูกยอดกตั ญญู จัดเป็นอภิ ช าตบุต ร คือ เป็นลู กที่ดีของพ่ อแม่ ดัง พระบาลีว่ า “นิ มิตฺตํ สาธุ รูปานํ
กตญฺญุกตเวทิตา” คือความกตัญญูกตเวทิตาเป็นเครื่องหมายของคนดี มีนัยดังได้อรรถาธิบายมา