ตรุษจีน1. เทศกาลตรุษจีน
ตรุษจีน เปนเทศกาลที่สําคัญที่สุดของจีน เปนวันขึ้นปใหมตามปฏิทินจีน เชนเดียวกับสงกรานตวันปใหม
ไทย ทุกคนตางใหความสําคัญอยางยิ่งมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญของคนเชื้อสาย
จีน ตรุษจีนถือเปนวันหยุดที่สําคัญมากชวงหนึ่งของชาวจีน และยังแผอิทธิพลไปถึงการฉลองปใหมของชน
ชาติที่อยูรายรอบ เชน ญี่ปุน เกาหลี มง มองโกเลีย เวียดนาม ทิเบต เนปาลและภูฐาน สําหรับชาวจีนที่อาศัย
อยูตางถิ่นกันก็จะมีประเพณีเฉลิมฉลองตางกันไป
ตรุษจีนในภาษาจีน
ตรุษจีน หรือ เทศกาลฤดูใบไมผลิ (ตัวเต็ม: 春節, ตัวยอ: 春 , พินอิน: Chūnjíe ชุนจีเหย) หรือ
ขึ้นปเพาะปลูกใหม (ตัวเต็ม: 農 新年, ตัวยอ: 新年, พินอิน: Nónglì Xīnnián หนงลี่ ซิน
เหนียน) และยังรูจักกันในนาม วันขึ้นปใหมทางจันทรคติ เปนวันขึ้นปใหมตามประเพณีของชาวจีนในจีน
แผนดินใหญและชาวจีนโพนทะเลทั่วโลก เทศกาลนี้เริ่มตนในวันที่ 1 เดือน 1 ของปตามจันทรคติ (正月
พินอิน: zhèng yuè เจิ้งยวี่เย) และสิ้นสุดในวันที่ 15 ซึ่งจะเปนเทศกาลประดับโคมไฟ (ตัวเต็ม: 元宵節,
ตัวยอ: 元宵 , พินอิน: yuán xiāo jié หยวนเซียวจีเหย)
新年快 !
คืนกอนวันตรุษจีน ตามภาษาจีนกลางเรียกวา 除夕 (พินอิน: Chúxì ฉูซี่) หมายถึงการผลัดเปลี่ยน
ยามค่ําคืน และคืนนี้จะเปนวันสุดทายของปนั่นเอง ซึ่งเปนคืนที่ครึกครื้นที่สุด ใครที่ไปทํางานหางจากบาน
2. เกิด ตางก็พยายามอยางสุดความสามารถที่จะกลับมาฉลองวันปใหมที่บาน ตอนกินอาหารมื้อค่ําคืนกอนขึ้นป
ใหมจีน ทุกคนในครอบครัวตางนั่งกันพรอมหนาลอมโตะอาหาร ตางชนแกวอวยพรปใหมกัน ทานมื้อค่ํา
เรียบรอยแลว บางคนก็ดูทีวี บางคนก็ฟงเพลง บางคนก็นั่งคุยกัน บางคนก็เลนหยอกลอกับเด็กๆ บานเต็มไป
ดวยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ พอถึงเที่ยงคืน คนจีนทางเหนือก็จะเริ่มทําเกี๊ยว (เจี้ยวจึ) คนจีนทางใต ก็จะปน
ลูกอี๋ทําน้ําเชื่อม ทําไป ชิมไปทานไป ครึกครื้นอยางยิ่ง เชาวันรุงขึ้นแตเชา ทุกคนจะตื่นแตเชา เยี่ยมเพื่อนบาน
เพื่อนฝูงอวยพรปใหม
ประวัติวันตรุษจีน
ประวัติของวันขึ้นปใหมของจีนมีความนาสนใจเปนอยางยิ่ง ในวัฒนธรรมอื่นๆ ความปรารถนาสิ่งที่
เราหวังวาจะไดปรับปรุง หรือที่เราคิดทําเมื่อเริ่มตนในปใหม มาถึงตอนนี้ ถาไมถูกลืมก็ถูกยัดลงกลองใสตู
ปดตายและแปะหนาตูวาไมแน เอาไวทําปหนาแลวกันอยางไรก็ดี ความหวังก็คงยังไมสูญไปทั้งหมดเพราะ
โอกาสที่สองกําลังมาถึงแลว กับการฉลองวันปใหมจีนหรือที่เรารูจักกันวา ตรุษจีนในวันที่ 1 กุมภาพันธนี้
นั้นเอง
ตรุษจีนนั้นคลายคลึงกับวันปใหมในประเทศทางตะวันตก รองรอยของประเพณี และพิธกรรมความ
ี
เปนมาของการฉลองตรุษจีน นั้นมีมานานกวาศตวรรษ จริงๆแลวนานมาก จนไมสามารถยอนกลับไปดูวา
เริ่มตนฉลองมาตั้งแตเมื่อไร เปนที่รูจักและจําไดทั่วไปวาเปน การฉลองเทศกาลฤดูใบไมผลิ และการฉลอง
เปนเวลานานถึง 15 วัน การเตรียมงานฉลองสวนใหญจะเริ่มหนึ่งเดือนกอนวันตรุษจีน (คลายกับวัน
คริสตมาสของประเทศตะวันตก) เมื่อผูคนเริ่มซื้อของขวัญ, สิ่งตางๆ เพื่อประดับบานเรือน, อาหารและ
เสื้อผา การทําความสะอาดครั้งใหญก็เริ่มขึ้นในวันกอนตรุษจีน บานเรือนจะถูก ทําความสะอาดตั้งแตบนลง
ลางหนาบานยันทายบาน ซึ่งหมายถึงการกวาดเอาโชคราย ออกไป ประตูหนาตางมีการขัดสีฉวีวรรณทาสี
ใหมซึ่งสีแดงเปนสีนิยม ประตูหนาตางจะถูก ประดับประดาดวยกระดาษที่มีคําอวยพรอยางเชน อยูดีมีสุข
ร่ํารวย และอายุยืนเปนตน
ทั้งหมดเห็นจะได ประเพณีและพิธีกรรมตางๆ นั้นผูกไวกับทุกสิ่งทุกอยาง ตั้งแต อาหาร ไปจนถึง
เสื้อผา อาหารค่ํานั้นประกอบดวยอาหารทะเล และอาหารนึ่งเชนขนมจีบ ซึ่งแตละอยางจะมีความหมาย
ตางๆกัน อาหารอันโอชะอยางเชนกุงจะหมายถึงชีวิตที่รุงเรือง และความสุข เปาฮื้อแหงหมายถึงทุกสิ่งทุก
อยางที่ดี สลัดปลาสดจะนํามาซึ่งโชคดี จี้ไช (ผมเทวดา) สารายดูคลายผมแตกินไดจะนําความความร่ํารวยมา
ให และขนมตม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร และเปนธรรมดาเสื้อผาที่ใสสีแดงถือเปนสีที่เปนมงคล
เปนการไลปศาจรายใหออกไป และการใสสีดําหรือขาวเปนสิ่งตองหาม ซึ่งสีเหลานี้ถือวาเปนสีแหงการไว
ทุกข หลังจากอาหารค่ําทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเชาเพื่อรอวันใหมโดยการเลนเกม เลนไพ หรือดูรายการ
3. ทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะตองไมโกรธ ริษยา หรือ ไมพอใจ เพื่อเปนสิริมงคลที่ดีสําหรับปที่
กําลังจะมาถึง
เมื่อถึงวันตรุษจีน ประเพณีตั้งแตโบราณมาเรียกวา อังเปา ซึ่งหมายถึง กระเปาแดง เปนการที่คูแตงงาน
ใหเงินเด็กๆ และผูใหญที่ยังไมไดแตงงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว ตาง ออกมาเพื่อ
กล า วสวัส ดีป ใ หม เริ่ ม จากญาติๆ แล ว ต อ ดว ยเพื่ อนบ าน ซึ่ ง คงคลา ยกั บ การที่ช าวตะวั น ตกพูด ว า "Let
bygones be bygones" (อะไรที่ผานไปแลวก็ใหมันผานไป) ในวันตรุษนี้ อารมณโมโหโกรธาจะถูกลืม และ
ไมสนใจ การฉลองวันตรุษจีนสิ้นสุดลงในงานโคมไฟ ซึ่งฉลองโดยการรองเพลง เตนรํา และงานแสดงโคม
ไฟ ถึงแมวาการฉลองวันตรุษจีน จะมีแตกตางกันออกไปแตสิ่งที่เหมือนกัน คือ การอวยพร ความสงบ และ
ความสุขใหกับคนในครอบครัวและเพื่อนทุกคน
ตํานานวันตรุษจีน
ตรุษจีน เปนวันสําคัญของจีนที่มีมาแตโบราณที่เรียกวา “กวอชุนเจี๋ย” หรือ “กวอเหนียน” เลากันวา
ในสมัยโบราณ ในปาทึบแหงหนึ่ง มีสัตวปาที่ดุรายและนากลัว มากตัวหนึ่ง เรียกวา “เหนีย น” มันออก
อาละวาดกินคนเปนประจํา พระเจาจึงลงโทษมัน อนุญาตใหมันลงมาจากเขาไดเพียงหนึ่งครั้งใน 365 วัน
ดังนั้น เมื่อฤดูหนาวใกลจะผานไป ฤดูใบไมผลิเวียนมาใกล เหนียน ก็จะออกมาทํารายผูคน เพื่อปองกันการ
มาของ เหนียน ทุก ๆ ครัวเรือนจึงตางสะสมเสบียงอาหาร และกับขาวจํานวนหนึ่งไวในบาน เมื่อถึงตอนค่ํา
ของวันที่ 30 เดือน 12 ก็จะปดประตูและหนาตางเอาไว ไมหลับไมนอนตลอดคืน เพื่อตอสูกับ เหนียน
จนกระทั่งถึงรุงเชาก็จะเปนวันแรม 1 ค่ํา เดือน 1 เมื่อ เหนียน กลับไปแลว ทุก ๆ ครัวเรือนก็จะเปดประตู
ออกมาแสดงความยินดีตอกัน ที่โชคดีไมไดถูก เหนียน ทําราย
ตัวเหนียน
ตอมาพบวา เหนียน มีจุดออน มีอยูครั้งหนึ่ง เมื่อ เหนียน มาถึงหมูบานแหงหนึ่ง มีเด็กกลุมหนึ่ง
กําลังหวดแสเลนกัน เมื่อ เหนียน ไดยินเสียงแสดังเปรี้ยงปรางก็เลยตกใจเผนหนีไป เมื่อ เหนียน ไปถึง
หมูบานอีกแหงหนึ่ง เห็นมีชุดเสื้อผาสีแดงตากอยูหนาบานของครอบครัวหนึ่ง สีแดงฉูดฉาดนั้น ทําให
4. เหนียน ตกใจและเผนหนีไปอีก เมื่อ เหนียน มาถึงหมูบานแหงที่สาม ปรากฏวาไปพบเห็นกองเพลิงกองหนึ่ง
บนถนน แสงเพลิงที่เจิดจาทําให เหนียน ตองเผนหนีไปอีก ตั้งแตนั้นมา ผูคนตางรูวา แมวา เหนียน จะดุราย
แตมันก็กลัวสีแดง เสียงดัง และไฟ ทําใหผูคนสามารถคิดหาวิธีกําจัด เหนียน ไดโดยไมยากนัก
เมื่อวันสงทายตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุก ๆ ครัวเรือนจึงตางนํากระดาษสีแดงมาติดไวบนประตู
หนาบาน แขวนโคมไฟสีแดง พรอมกับจุดประทัดและตีฆองรัวกลองอยางตอเนื่อง เมื่อ เหนียน มาถึงใน
ตอนเย็น เห็นทุก ๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสวางไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผนหนีกลับเขาปาไป และไม
กลาออกมาอาละวาดอีก ทุก ๆ คนจึงผานพนคืนแหงอันตรายไปอยางปลอดภัย เมื่อฟาสางแลว ผูคนจึง
ออกมาจากบาน กลาวคําอวยพรซึ่งกันและกันอยางมีความสุข พรอมกับการนําอาหารออกมารับประทาน
รวมกันอยางสนุกสนาน
ตอมา วันดังกลาวจึงกลายมาเปนวันเฉลิมฉลองที่มีแตความสุขที่เรียกกันวา "ตรุษจีน"
การจุดประทัดและการเชิดสิงโตในวันตรุษจีน
การจุดประทัด
เกิดจากในอดีตมีคนหัวใสนําดินระเบิดไปบรรจุในบองไมไผเล็กๆ แลวจุด เสียงไมไผระเบิดก็ดัง
สนั่นหู เด็กเล็กไดยินก็รองจา บรรดาสุนัขและสัตวเลี้ยงทั้งหลายตางพากันกลัวเสียงประทัดวิ่งหนีกันได
ทําใหมีคนคิดวาเสียงดังโปงปางของประทัด นาจะไลเจาตัวเหนียนได ซึ่งเหนียนคํานี้เปนเสียงจีน
กลาง จีนแตจิ๋วออกเสียงวา นี้ แปลวา ป คนจีนโบราณเชื่อวาชวงสิ้นปที่อากาศหนาวเย็นจัดคนไมสบายกัน
มาก เพราะเจาตัวเหนียนออกมาอาละวาด การจุดประทัดเสียงดังนาจะไลเจาตัวเหนียนและโรคภัยไขเจ็บให
ตกใจกลัวหนีไปได
5. แลวตอมาธรรมเนียมนี้ก็ปรับไปวา จุดประทัดใหเสียงดังๆ นี้จะเรียกโชคดีใหมาหา บางก็วา เพื่อให
สะดุดหูเทพเจา ทานจะไดมาชวยคุมครอง
การเชิดสิงโตวันตรุษจีน
ที่บางทองที่จัดเปนพิธีแหมังกรใหญโต โดยคนจีนเรียกการแสดงเชิดสิงโตวา ไซจื้อบู แปลงายๆ วา
ระบุลูกสิงโต จัดอยูในหมวดการแสดงสวมหนากากสัตว จากบันทึกของราชวงศเหนือใต (พ.ศ. 850 – 1132)
เมื่อชาวบานในมณฑลกวางตุง มีการแสดงเชิดสิงโตเพื่อไลผีท่เี ชื่อวา มาลงกินผูชายและสัตวเลี้ยง กอเกิดเปน
ความเชื่อวา เชิดสิงโตชวยไลภูตผีปศาจได ก็เลยเขาคูกันเหมาะมากกับการจุดประทัดวันตรุษจีน
การแหมังกร
เริ่มจากในสมัยราชวงศจิ๋นหรือฉิน (พ.ศ. 254 – 339) จัดเปนการแสดงเล็กๆ แลวมาจัดเปนโชวใหญ
ที่สวยตระการตาในสมัยราชวงศฮั่น (พ.ศ. 337 – 763) โดยเริ่มตนจะมาจากตํานานปลาหลีฮื้อกระโดดขาม
ประตูสวรรคก็จะกลายเปนปลามังกรมีฤทธิ์เดช โดยปลามังกรนี้ คือสัตวยิ่งใหญมีพลังอํานาจ ใครไดพบได
ชมก็จะไดรับพลังชวยเสริมใหเจาตัวโชคดีทํามาหากินไดผลบริบูรณ
แตเนื่องจากทั้งการเชิดสิงโตและแหมังกรนี้ ผูแสดงตองมีความสามารถพิเศษในเชิงกายกรรมตอตัว
การสมดุลตัว ที่สุดของการเชิดสิงโตคือการไดซองอั่งเปา สุดยอดของการแหมังกรคือ การตอตัวขึ้นไปเพื่อ
หยิบซองอั่งเปาบนไมสูงที่เมื่อทําได ความหมายของการไดซองอั่งเปานี้คือ การจะไดโชคดีกันถวนหนา
ตลอดปทีเดียว
6. เทศกาลตรุษจีนในประเทศไทย
ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู 3 วัน คือวันจาย วันไหว และวันปใหม
วันจาย หรือ ตือเส็ก
่
คือวันกอนวันสิ้นป เปนวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะตองไปซื้ออาหารผลไมและเครื่องเซนไหวตางๆ
กอนที่รานคาทั้งหลายจะปดรายหยุดพักผอนยาว ในตอนค่ําจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจาที่ หรือ ตี่จูเอี๊ย ใหลงมา
จากสวรรคเพื่อรับการสักการะบูชาของเจาบาน หลังจากที่ไดไหวอัญเชิญขึ้นสวรรคเมื่อ 4 วันที่แลว
วันไหว คือ วันสิ้นป
จะมีการไหว 3 ครั้ง คือ
ตอนเชามืดจะไหว ไปเลาเอี๊ย เปนการไหวเทพเจาตางๆ เครื่องไหวคือ เนื้อสัตว 3 อยาง (ซาแซ
ไดแก หมูสามชั้นตม ไก เปด ปรับเปลี่ยนเปนชนิดอื่นได หรือมากกวานั้นไดจนเปนเนื้อสัตวหาชนิด) เหลา
น้ําชา และกระดาษเงินกระดาษทอง
ตอนสาย จะไหวไปเปบอ คือการไหวบรรพบุรุษ พอแมญาติพี่นองที่ถึงแกกรรมไปแลว เปนการ
แสดงความกตัญูตามคติจีน การไหวครั้งนี้จะไหวไมเกินเที่ยง เครื่องไหวจะประกอบดวย ซาแซ อาหารคาว
หวาน (สวนมากจะทําตามที่ผูที่ลวงลับเคยชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผากระดาษเพื่อ
อุทิศแกผูลวงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่นองจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ไดเซนไหวไปเปนสิริมงคล และ
ถือเปนเวลาที่ครอบครัวหรือวงศตระกูลจะรวมตัวกันไดมากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทาน
อาหารรวมกันแลว
ตอนบาย จะไหว ไปฮอเฮียตี๋ เปนการไหวผีพี่นองที่ลวงลับไปแลว เครื่องไหวจะเปนพวกขนมเขง
ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ําตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พรอมทั้งมีการจุดประทับเพื่อไลสิ่งชั่วรายและเปนสิริ
มงคล
7. วันขึ้นปใหม หรือ วันเที่ยว หรือ วันถือ
คือวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของป (ชิวอิก) วันนี้ ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบตอ
กันมาถึงปจจุบัน คือ ไปเจีย คือ การไปไหวขอพรและอวยพรจากญาติผูใหญและผูที่เคารพรัก โดยนําสมสี
ทองไปมอบให เหตุที่ใหสมก็เพราะออกเสียงภาษาจีนแตจิ๋ววา "กา" ซึ่งไปพองกับคําวาทอง เพราะฉะนั้น
การใหสมจึงเหมือนนําโชคดีไปให จะมอบสมจํานวน 4 ผล หอดวยผาเช็ดหนาของผูชาย เหตุที่เรียกวันนี้วา
วันถือคือ เปนวันที่ชาวจีนถือวาเปนสิริมงคล งดการทําบาป จะมีคติถือบางอยาง เชน ไมพูดจาไมดีตอกัน ไม
ทวงหนี้กัน ไมจับไมกวาด และจะแตงกายดวยเสื้อผาใหมแลวออกเยี่ยมอวยพรและพักผอนนอกบาน เปนตน
การไหวเจา
การไหวเจาเปนธรรมเนียมประเพณีที่ลกหลานจีนปฏิบัตสบทอดกันมา ตามความเชื่อที่จะตองไหว
ู ิ ื
เจาที่ และไหวบรรพบุรุษ เพือใหเปนสิริมงคล และนํามาซึ่งความสุข ความเจริญแกครอบครัว ในปหนึ่งมี
่
การไหวเจา 8 ครั้ง เรียกวา โปยโจย แปลวา 8 เทศกาล ดังนี้
ไหวเดือน 1 วันที่ 1 (เปนการกําหนดวันทางจันทรคติของจีน) คือ ตรุษจีน เรียกวา งวงตั้งโจย
ไหวเดือน 1 วันที่ 15 เรียกวา งวงเซียวโจย
ไหวเดือน 3 วันที่ 4 เรียกวา ไหวเช็งเมง เปนประเพณีที่ลูกหลานไปไหวบรรพบุรุษทีฮวงซุย
่
ไหวเดือน 5 วันที่ 5 เรียกวา โหงวเหวยโจย เปนเทศกาลไหวขนมจาง
ไหวเดือน 7 วันที่ 15 คือ ไหวสารทจีน เรียกวา ตงงวงโจย
ไหวเดือน 8 วันที่ 15 เรียกวา ตงชิวโจย ที่คนทั่วไปรูจกกันดีวา ไหวพระจันทร
ั
8. ไหวเดือน 11 ไมกําหนดวันแนนอน เรียกวา ไหวตังโจย
ไหวเดือน 12 วันสิ้นป เรียกวา ไหวสิ้นป หรือ กวยนี้โจย
นอกจากนี้บางบานยังมีการไหวพเิ ศษ คือการไหวเทพยดาที่ตนเองเคารพนับถือ เชน
ไหวเทพยดาฟาดิน เชนการไหววันเกิดเทพยดา ฟาดิน เรียกวา ทีกงแซ หรือ ทีตี่แซ ตรงกับวันที่ 9 เดือน
1 ของจีน
ไหวอาเนี๊ยแซ คือไหววันเกิดเจาแมกวนอิม ปหนึ่งมี 3 ครั้ง คือวันที่ 19 เดือน 2 วันที่ 19 เดือน 6 และ
วันที่ 19 เดือน 9
ไหวแปะกงแซ ตรงกับวันที่ 14 เดือน 3
ไหวเทพยดาผืนดิน คือไหวโทวตี่ซิ้ง ตรงกับวันที่ 29 เดือน 3
ไหวอาพั๊ว คือการไหววนเกิดอาพั๊ว หรืออาพั๊วแซ ซึ่งอาพั๊ว หมายถึง พอซื้อแมซื้อผูคุมครองเด็ก ตรงกับ
ั
วันที่ 7 เดือน 7 ของทุกป
ไหวเจาเตา คือไหววันที่ 24 เดือน 12 เรียกวา ไหวเจาซิ้ง
ของไหวไหวเจา
ของคาว หมู เปด ไก ตับ ปลา แลวแตวาจะไหวมากหรือนอย
ไหว 3 อยาง เรียกวา “ชุดซาแซ” ประกอบดวย หมู เปด ไก
ไหว 5 อยาง เรียกวา “ชุดโหงวแซ” ประกอบดวย หมู เปด ไก ตับ ปลา
ขนมไหว ฮวกกวยหรือขนมถวยฟู คักทอกวยหรือขนมกุยชาย (เปนใสชนิดใดก็ได)
ขนมจันอับ ซาลาเปา ขนมไหวนี้ตองมีสีชมพู หรือมีแตมจุดแดง
ขนมไหวพิเศษ ขนมเขง ขนมเทียน ตองมียืนเปนหลัก
ผลไม สม กลวยทั้งหวีเลือกเขียวๆ องุน แอปเปล ชมพู ลูกพลับ
เครื่องดื่ม น้ําชา 5 ที่ หากมีไหวของคาว จะไหวเหลาดวยก็ได ก็จด 5 ที่ เชนกัน
ั
กระดาษเงิน กระดาษทอง ชุดไหวเจาที่
9. ธูปไหว คนละ 5 ดอก
ขนมไหว นิยมใหสอดคลองกับของคาว เชน ไหวของคาว 3 อยาง ขนม 3 อยาง ผลไม 3 อยาง
ในวันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกวาวันไหนๆในป อาหารชนิดตางๆที่ปฏิบัติกันจน
เปนประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่นองและเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรูจักที่ไดเสียไปแลว ในวันตรุษ
ครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกวา ไช ถึงแมผักชนิดตางๆที่นํามาปรุง จะเปนเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะ
เปนเสนใยหลายคนก็เชื่อวาผักตางๆมีความหมายที่เปน มงคลในตัวของมัน
เม็ดบัว - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เปนชาย
เกาลัด - มีความหมายถึง เงิน
สาหรายดํา - คําของมันออกเสียงคลาย ความร่ํารวย
เตาหูหมักที่ทําจากถั่วแหง - คําของมันออกเสียงคลาย เต็มไปดวยความร่ํารวย และ ความสุข
หนอไม - คําของมันออกเสียงคลาย คําอวยพรใหทุกอยางเต็มไปดวยความสุข เตาหูที่ทําจากถั่วสดนั้นจะไม
นํามารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่งเปนสีแหงโชคราย สําหรับปใหมและหมายถึงการไวทุกข
อาหารอื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเปนตัวแทนแหงการอยูรวมกัน และความอุดม- สมบรูณ และ
ไกสําหรับความเจริญกาวหนา ซึ่งไกนั้นจะตองยังมีหัว หางและเทาอยู เพื่อ เปนการแสดงใหเห็นถึงความ
สมบูรณ เสนหมี่ก็ไมควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว
ทางตอนใตของจีน จานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดไดแก ขาวเหนียวหวานนึ่ง บะจางหวาน ซึ่งถือ
เปนอาหารอันโอชะ ทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซํา เปนอาหารที่นิยม อาหารจํานวน มากที่ถูกตระเตรียมใน
เทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณและความร่ํารวยของบาน
อาหารไหวบรรพบุรุษ
ของคาว หมู เปด ไก ตับ ปลา แลวแตวาจะไหวมากหรือนอย
10. ไหว 3 อยาง เรียกวา ชุดซาแซ ประกอบดวย หมู เปด ไก
ไหว 5 อยาง เรียกวา ชุดโหงวแซ ประกอบดวย หมู เปด ไก ตับ ปลา
กับขาว นิยม 8 อยาง หรือ 10 อยาง โดยใหมีของน้ํา 1 อยาง
ขาว ขาวสวยใสชาม พรอมตะเกียบ จํานวนชุดตามจํานวนบรรพบุรุษ นิยมนับถึงแครุนปูยา
ขนมไหว ฮวกกวยหรือขนมถวยฟู คักทอกวยหรือขนมกุยชาย (เปนใสชนิดใดก็ได)
ขนมจันอับ ซาลาเปา ขนมไหวนี้ตองมีสีชมพู หรือมีแตมจุดแดง
ขนมไหวพิเศษ ขนมเขง ขนมเทียน ตองมียืนเปนหลัก
ผลไม สม กลวยทั้งหวีเลือกเขียวๆ องุน แอปเปล ชมพู ลูกพลับ
เครื่องดื่ม น้ําชา 5 ที่ หากมีไหวของคาวจะไหวเหลาดวยก็ได ก็จด 5 ที่ เชนกัน
ั
กระดาษเงิน กระดาษทอง ตองมี อวงแซจิ่ว สําหรับใบเบิกทางใหบรรพบุรุษลงมารับของไหว
ทองแทงสําเร็จรูป แบงกกงเต็ก คอซี ฯลฯจะมากหรือนอยแลวแตเรา
ธูปไหว คนละ 3 ดอก
การไหว ไหวที่หนารูปบรรพบุรุษ หลังจากไหวเจาทีเ่ สร็จแลว
ขนมไหว นิยมใหสอดคลองกับของคาว เชน ไหวของคาว 3 อยาง ขนม 3 อยาง ผลไม 3 อยาง
ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
ทุกคนจะไมพดคําหยาบหรือพูดคําที่ไมเปนมงคล ความหมายเปนนัย และคําวา สี่ ซึงออกเสียงคลายความ
ู ่
ตายก็จะตองไมพูดออกมา ตองไมมการพูดถึงความตายหรือการใกลตาย และเรื่องผีสางเปนเรื่องที่ตองหาม
ี
เรื่องราวตางๆที่เกิดขึ้นในปเกาๆ ก็จะไมเอามาพูดถึง ซึ่งการพูดควรมีแตเรื่องอนาคต และทุกอยางทีดีกับป
่
ใหมและการเริ่มตนใหม
หากคุณรองไหในวันปใหม คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดป ดังนันแมแตเด็กดื้อที่ปฎิบัติตัวไมดีผูใหญก็
้
จะทน และไมตีสั่งสอน
การแตงกายและความสะอาด ในวันตรุษจีนเราไมควรสระผมเพราะนั้นจะหมายถึงเราชะลางความโชค
ดีของเราออกไป เสื้อผาสีแดงเปนสีที่นิยมสวมใสในชวงเทศกาลนี้ สีแดงถือเปนสีสวาง สีแหงความสุข ซึ่ง
จะนําความสวางและเจิดจามาใหแกผูสวมใส เชื่อกันวาอารมณและการปฏิบัติตนในวันปใหม จะสงใหมผลดี
ี
หรือผลรายไดตลอดทั้งป เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกลชิดจะได อังเปา ซึ่งเปนซองสีแดงใส
ดวย ธนบัตรใหมเพื่อโชคดี
วันตรุษจีนกับความเชื่ออื่น ๆ สําหรับคนที่เชื่อโชคลางมากๆ กอนออกจากบานเพื่อไปเยียมเยียนเพื่อน
่
หรือญาติ อาจมีการเชิญซินแส เพื่อหาฤกษที่เหมาะสมในการออกจากบานและทางทีจะไปเพื่อ เปนความเปน
่
สิริมงคล
11. บุคคลแรกที่พบและคําพูดที่ไดยินคําแรกของปมีความหมายสําคัญมาก ถือวาจะสงใหมีผลไดตลอดทั้ง
ป การไดยนนกรองเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอน ถือเปนโชคดี
ิ
การเขาไปหาใครในหองนอนในวันตรุษ ถือเปนโชครายดังนั้นไมวาจะเปนคนปวยก็ตองแตงตัวออกมา
นั่งในหองรับแขก
ไมควรใชมีดหรือกรรไกรในวันตรุษเพราะเชื่อวาจะเปนการตัดโชคดี ทุกวันนี้ไมใชวาชาวจีนทุกคนจะ
คงยังเชื่อตามความเชื่อที่มีมาแตทุกคนก็ยังคงยึดถือ และปฏิบัตตาม เพราะสิ่งเหลานี้เปรียบเสมือนธรรมเนียม
ิ
และวัฒนธรรม โดยที่ชาวจีน ตระหนักดีวาการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมมาแตเกากอนเปนการแสดงถึง
ความเปน ครอบครัวและเอกลักษณ ของตน
15 วันแหงการฉลองตรุษจีน
วันแรกของปใหม เปนการตอนรับเทวดาแหงสวรรคและโลก หลายคนงดทานเนื้อ ในวันนี้ดวยความ
เชื่อที่วาจะเปนการตออายุและนํามาซึ่งความสุขในชีวิตใหกับตน
วันที่สอง ชาวจีนจะไหวบรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเปนพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูใหขาวอาบ น้ํา
ใหแกมัน ดวยเชื่อวา วันที่สองนี้เปนวันที่สุนัขเกิด
วันที่สามและสี่ เปนวันของบุตรเขยที่จะตองทําความเคารพแกพอตาแมยายของตน
วันที่หา เรียกวา พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยูกับบานเพื่อตอนรับการมาเยือน ของเทพเจาแหงความร่ํารวย ใน
วันนี้จะไมมีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือวาเปนการนําโชคราย มาแกทั้งสองฝาย
วันที่หก ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพ่ีนองเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดไปวาสวด
มนตเพื่อความร่ํารวยและความสุข
วันที่เจ็ด ของตุรุษจีนเปนวันที่ชาวนานําเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหลานี้จะทําน้ําที่ทํามาจากผัก
เจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเปนวันเกิด ของมนุษยในวันนี้อาหารจะเปน หมี่ซ่ัวกินเพื่อชีวิตที่
ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสําเร็จ
วันที่แปด ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารรวมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคน
จะสวดมนตของพรจาก เทียนกง เทพแหงสวรรค
12. วันที่เกา จะสวดมนตไหวและถวายอาหารแกเง็กเซียนฮองเต
วันที่สิบถึงวันที่สิบสอง เปนวันของเพื่อนและญาติๆ ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่
ทานอาหารที่อุดมไปดวยความมัน วันที่สิบสามถือเปนวันที่เราควรทานขาวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือ
เปนการชําระลางรางกาย
วันที่สิบสี่ ความเปนวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้น ในคืนของวันที่สิบหาแหงการฉลองตรุษจีน
สิ่งที่ไมควรทําในวันตรุษจีน
หามทําความสะอาด เนื่องจากการทํางานบาน เชน การซักลาง หรือ การกวาดบานปดฝุน จะเปนการขับ
ไลความโชคดีออกไป ดังนันการทําความสะอาดบานจึงควรเริ่มทําตั้งแตกอนที่วนขึ้นปใหมจะมาถึง
้ ั
หามสระผม ไมควรสระผมในวันเริ่มตนและวันสุดทายของวันขึ้นปใหม เนื่องจากการสระผมถือเปน
การชะลางความโชคดีที่มาถึงในวันขึ้นปใหม
หามใชของมีคม ไมควรใชของมีคมในวันขึ้นปใหม ของมีคมตางๆ เชน มีด , กรรไกร , ที่ตัดเล็บ
เนื่องจากถือวาการกระทําของของมีคมนี้จะเปนการตัดสิ่งหรืออนาคตที่ดี ที่จะนํามา ในวันขึ้นปใหม
หามโตเถียง ควรระมัดระวังในการใชคําพูดที่มีความหมายไปในทางลบรวมทั้งหลีกเลี่ยงการโตเถียงกัน
คําที่เกี่ยวของกับการเจ็บปวยหรือความตายเปนคําที่เราควรหลีกเลี่ยงในวันขึ้นปใหม
เลี่ยงเรื่องเกียวกับความตาย หลีกเลี่ยงการเขารวมกิจกรรมที่เกี่ยวกับงานศพ และการฆาสัตวปก
่
หามซุมซาม ควรระมัดระวังในการทําสิ่งใดๆ ไมควรที่จะใหเกิดการสะดุด หรือ ทําสิ่งของตกแตก ซึ่ง
นั่นจะหมายถึงการนําความโชคไมดีเขามาในอนาคต
13. คําอวยพร
ในตรุษจีน ชาวจีนจะกลาวคํา หออวย หรือคําอวยพรภาษาจีนใหกัน หรือมีการติดหออวยไวตาม
สถานที่ตางๆ คําที่นิยมใชกน ไดแก
ั
• 新正如意 新年發財 / 新正如意 新年发财 (แตจิ๋ว: ซิงเจี่ยยูอี่ ซิงนี้หวกไช; จีน
กลาง: ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย; ฮกเกี้ยน: ซินเจี่ยหยูอี่ ซินนี่ฮวดจาย; จีนแคะ: ซินจึ้นหยูอี๋ ซิน
เหนี่ยนฟดโฉย; กวางตุง: ซันจิงจูจี่ ซันหนินฟดฉอย) แปลวา ขอใหประสบโชคดี ขอใหมั่งมีปใหม
• 新年快樂 / 新年快乐 (จีนกลาง: ซินเหนียนไควเลอ; กวางตุง:ซันหนิ่นฟายหลอก;
ฮกเกียน: ซินนี้กวยหลก) นิยมใชในประเทศจีน
้
• 恭喜發財 / 恭喜发财 (จีนกลาง: กงฉี่ฟาฉาย; ฮกเกี้ยน: หยงฮี้ฮวดจาย; กวางตุง: กุงเฮยฟด
ฉอย)
• 過年好 / 过年好 (จีนกลาง: กั้วเหนียนหาว) ใชโดยชนพื้นเมืองทางภาคเหนือของประเทศจีน
วลีนี้ยังหมายถึงวันที่หนึ่งถึงวันที่หาของปใหมดวย
• 大吉大利 (ฮกเกี้ยน: ตั่วเก็ตตั่วลี่) แปลวา ความมงคลอันยิ่งใหญ คาขายไดกําไร
• 金玉满堂 (ฮกเกี้ยน: กิ้มหยกมั่วตอง) แปลวา ทองหยกเต็มบาน
• 萬事如意 / 万事如意 (ฮกเกียน: บานสูหยูอี่) แปลวา หมืนเรื่องสมปรารถนา
้ ่
• 福壽萬萬年/ 福寿万万年 (จีนกลาง: ฝูเชี่ยวหวันวันเลี่ยน; ฮกเกียน: ฮกซิวบันบั่นนี่) ้ ่
แปลวา อายุยนหมื่นๆ ป
ื
• 大家好運氣 / 大家好运气(จีนกลาง: ตาจาหาวเยียนชี; ฮกเกียน: ตาเกโฮอุนคิ) แปลวา ้
โชคดีเขาบาน
• 年年大賺錢 / 年年大赚钱 (ฮกเกี้ยน: หนีนี้ตวถั่นจี) แปลวา ปน้ร่ํารวยมหาศาล
ั๊ ๋ ี
14. เทศกาลไหวพระจันทร
ประวัติเทศกาลวันไหวพระจันทร
ขนมไหวพระจันทรทําจากการนําแปงหมี่กับน้ํามันหมูมานวดเขากัน คลึงเปนแผนที่มีความหนา
พอประมาณ จากนั้นหอดวยไสชนิดตางๆ ไสที่สําหรับขนมไหวพระจันทรนั้น มีหลากหลายประเภท เชน
ขนมไหวพระจันทรนั้น โดยทั่วไปจะหอดวยซานจา กุหลาบ ครีมพุทราจีน วอลนัท อัลมอนล เม็ดแตง ถั่วบด
เปนตน ไสขนมไหวพร ะจันทรในเขตพื้นที่กวางตุง ซึ่งเปนภาคใตของจีน มักเปนไขแดง เม็ดบัว โหงวยิ้ง
และเสนมะพราว สวนไสแบบซูโจว มักเปนกุหลาบ ถั่วบด เม็ดพุทรา พริกกับเกลือ และอาจมรการเพิ่มเม็ด
สนและวอลนัทเขาไปดวย เมื่อหอไสเรียบรอย ก็จะนําไปบรรจุเขาไปในเบาทรงกลมที่เตรียมไวในเบานั้นมัก
มีลวดลายหรือลายลักษณอักษร เชน " โจง ชิว เว ปง " หรือชื่ออื่นๆ เมื่อผานการอบและบรรจุเรียบรอยแลว
ก็จะสงเขาตลาดตอไป
เทศกาลไหวพระจันทรของทุกป (วันที่ 15 เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน) ทุกๆ ครัวเรือนจะ
ซื้อขนมไหวระจันทรมาไหวพระจันทร พรอมกับการชมพระจันทรจนกลายเปนประเพณีของจีนตลอดมา
สําหรับประเพณีรับประทานขนมไหวพระจันทรในวันไหวนระจันทรนั้น กลาวคือ เกิดขึ้นเมื่อสมัยมองโกล
เข า มาปกครองแผ น ดิ น จี น เมื่ อ ชาวมองโกลกดขี่ ข ม เหงและทํ า ร า ยชาวจี น อย า งโหดเหี้ ย ม และเพื่ อ
ควบคุมดูแลชาวจีนอยางใกลชิด ชาวมองโกลจึงสงทหารของตนไปประจําอยูในบานของชาวจีนครอบครัว
ละ 1 คน เปนอันวาชาวจีนทุกๆครัวเรือนตางตองเลี้ยงดูทหารมองโกล 1 คน ทหารมองโกลเหลานี้ ยังกอ
กรรมทําชั่วไปหมด ทําใหชาวจีนขุนเคืองใจเปนอยางยิ่ง ตอมาทานหลิวปวเวิน คิดไดวิธีหนึ่ง คือ ใหนํา
กระดาษเขียนขอความ แลวสอดไสไวในขนม เรียกรองใหชาวจีนทุกคนลงมือสังหารทหารมองโกลที่ประจํา
อยูในบานของตน อยางพรอมเพรียงกันในวันเพ็ญเดือนแปด ทั้งนี้เพื่อใหชาวจีนที่ไปซื้อขนมมารับประทาน
กัน ตางไดอานขอความดังกลาวและชวยกันกระจายขาวนี้ออกไป เพื่อกอการปฏิวัติโดยพรอมเพรียงกัน ณ
วันเพ็ญเดือนแปด ทําใหสามารถโคนลมอํานาจการปกครองของมองโกลในที่สุด
เพื่อเปนการฉลอง และรําลึกการกอบกูแผนดินที่ประสบการสําเร็จ ประเพณีรับประทานขนมไหว
พระจันทรในวันเทศกาลดังกลาวจึงมีการสืบทอดกันตลอดมา
ตอมา ไมวาแหงหนใดที่มีชาวจีนเดินทางไปถึงก็จะพาประเพณีรับประทานนมไหวพระจันทร ไป
ดวย สําหรับขนมไหวพระจันทรที่แพรหลายในไทยนั้น เปนแบบของกวางตุงโดยสวนใหญ หลายปที่ผานมา
ขนมไหวพระจันทรที่ผลิตในไทย ไมวาดานคุณภาพ รสชาติ และการบรรจุลวนมีระดับที่สูงขึ้น แตแนนอน
15. ราคาก็สูงขึ้นไปดวย เรามีความเห็นวา วันแหงเทศกาลไหวพระจันทรปละหนึ่งครั้งนี้ สมาชิกในครอบครัว
ไดมาอยูพรอมหนากัน และรับประทานอาหารพรอมหนากันภายใตพระจันทรเ ต็มดวง อันเปนการนํา
ความสุขสมบูรณมาสูสมาชิกครอบครัวไดเปนอยางดี เชนนี้ นับวามีคุณคาแกการสืบทอดและเผยแพร
ตลอดไป
ตํานานเทศกาลไหวพระจันทร
“เทศกาลไหวพระจันทร” เปนเทศกาลดี ที่มีความเกี่ยวของกับตํานาน เรื่องดวงจันทรของชาวจีน
อยางแนบแนน เชนเรื่อง “ฉังเออเหินสูดวงจันทร” ถือวาเปนเรื่องที่มีชื่อเสียงมาก เปน การไหวครั้งที่ 6 ของ
ป เรี ย กการไหว ค รั้ ง นี้ ว า “ตงชิ ว โจ ย ”ถื อ เป น วั น สารทวั น หนึ่ ง ของชาวจี น เป น เรื่ อ งที่ เ กิ ด ขึ้ น จริ ง ใน
ประวัติศาสตร ในวันกลางฤดูใบไมรวง ตรง กับวันที่ 15 เดือน 8 ของจีน
เมื่อคํานวณตามจันทรคติแบบจีนแตจะตรงกับจันทรคติแบบไทย คือเดือน 10 (ประมาณเดือน
กันยายน) ชาวจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนในเมืองไทย จะทําพิธีเซนไหวทั้งพระจันทร และเจาแมกวนอิม การ
ไหวพระจันทรของคนจีนเ ปนที่รูจักกันดีกวาเทศกาลไหวอื่นๆ เพราะมีเรื่องราวที่นาสนใจ และมีของไหวที่
เปนแบบเฉพาะ เชนมีขนมไหวพระจันทร มีตนออย โคมไฟ เทศกาลนี้เปนอุบายในการปลดแอกชาติจีน
ออกจากการปกครองของพวกมองโกล
ในคืนวันไหวพระจันทร ดวงจันทรสวางและกลม ถือวาสวยที่สุด ผูคนถือวาดวงจันทรที่กลมเปน
เสมือนสัญลักษณของความสามัคคี ดังนั้นจึงเรียกเทศกาลนี้วา ” เทศกาลแหงความกลมเกลียว ”
16. ตํานานเทศกาล ไหวพระจันทร ( ตํานานฉางเออสูพระจันทร )
เรื่องราวเลาขานกันวา ในสมัยโบราณมีอยูหนึ่ง อยู ๆ ก็ปรากฏพระอาทิตยบนทองฟา มากถึง 10
ดวง แผดเผาจนแผนดินแหงแลงไปหมด ทะเลเหือดแหง ทุกหัวระแหงลุก เปนควันไฟ ชาวบานตางสิ้นหวัง
ที่จะมีชีวิตอยูรอดไปได เรื่องราวทุกขรอนของชาว บานนี้ไดยินถึงหูของผูกลานาม โฮวยี่ เขาจึงอยูเฉยไมได
ไดขึ้นไปบนยอด เขาคุนหลุน ใชพละกําลังสุดฤทธิ์ดึงเกาทัณฑยิงพระอาทิตยดับไป 9 ดวง วีรกรรม ครั้งนี้ทํา
ใหชาวบานรอดพนจากความตาย จึงไดรับการเคารพ รักใครจากชาวบาน และผูกลาตาง ๆ ในแผนดินตาง
เดินทางมาเพื่อขอเปนลูกศิษยฝกวิทยายุทธ ซึ่งใน เหลาผูเกลาเหลานี้มีผูจิตใจคิดชั่วนายเผิงเหมิง รวมอยูดวย
หลังจากนั้น โฮวยี่ไดแตงงานกับสาวงามที่มีจิตใจออนโยน มีความเมตตาชื่อฉางเออ ชีวิตของทั้งคู
จึงเปนคูกิ่งทองใบหยกที่ชาวบานตางยินดีชมชอบกัน วันหนึ่ง โฮวยี่ไดขึ้นไปยอดเขาคุนหลุนเพื่อเยี่ยมมิตร
สหายและศึกษาธรรม ในระ หวางทางบังเอิญไดพบกับฮองเฮาแหงสวรรค โฮวยี่จึงไดกราบของยาอายุวัฒนะ
ซึ่ง กลาวกันวาเมื่อกินเขาไปแลวจึงสามารถเหาะเหินขึ้นสวรรคกลายเปนเซียน ทันทีโฮวยี่ไดยามาแลว แตก็
อาลัยอาวรณฉางเออ จึงไมอยากทิ้งนางไวคนเดียว จึงได แตมอบยาดังกลาวใหฉางเออเก็บรักษาไวในลิ้นชัก
โตะเครื่องแปง แตก็ไมคลาด สายตาของเผิงเหมิงผูซึ่งรูเรื่องราวดังกลาวดวย
หลังจากนั้นสามวัน โฮวยี่ไดพาเหลาลูกศิษยออกไปลาสัตว แตเผิงเหมิงแกลวปวย จึงทําเปนนอน
รักษาอยูในบาน เมื่อไดโอกาส เผิงเหมิงจึงควงกระบี่ขูบังคับใหฉางเออ มอบยาใหเขา ฉางเออรูวาตนไมใชคู
ตอสูของเผิงเหมิง จึงหยิบยาออกมา แตฉวยจังหวะในเสี้ยววินาทีเอายาเขาปากกลืมจนหมดสิ้น จากนั้น ราง
ของฉางเออก็ลอยเหนือ พื้นดิน และเหาะออกหนาตาง เหินฟาสูสวรรคไป แตเนื่องจากยังเปนหวงสามี จึง
เหาะ ไปเปนเซียนในโลกพระจันทร เนื่องจากอยูใกลโลกมนุษยมากที่สุด
17. ค่ําคืนนั้น เมื่อโฮวยี่กลับจากการลาสัตว สาวใชรองหมรองไหเลาถึงเหตุการณที่เกิด ขึ้นเมื่อตอน
กลางวันใหฟง โฮวยี่ทั้งเจ็บแคนทั้งโศกเศรา แตก็ทําอะไรไมได เนื่อง จากเผิงเหมิงหนีไปไกลแลว ก็ไดแตนั่ง
รองไหพรอมกับเหงียนหนาตระโกนเรียกชื่อ ภรรยาตัวเอง ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นพระจันทรในคืนนี้มัน
สดสกาวและสวางกวา ทุกคืนที่ผาน ๆ มา และยังสังเกตเห็นเงาเคลื่อนไหวในพระจันทรซึ่งดูเหมือนรูปราง
ของฉางเออ
เมื่อชาวบานไดยินเรื่องราวของฉางเออกลายเปนเซียนบนพระจันทร ตางก็จัดขนม เซนไหวพรอม
จุดธูปกราบไหวขอพรจากฉางเออผูซึ่งมีความเมตตาใหคุมครอง ชีวิตมี ความสงบสุข จึงเปนจุดเริ่มตนของ
ตํานานเทศกาลไหวพระจันทรตั้งแตน้นมาจะเห็นวา ตํานานของฉางเออขางตนนั้น เมื่อเทียบกับตํานานฉบับ
ั
ดั้งเดิมมันชางแตก ตางกันเหลือเกิน ตํานานขางตนไดผานการปรุงแตง เติมสีสัน ใหเรื่องราวของฉาง เออ
เปนเรื่องสวยงาม เพื่อใหเขากับความงามของแสงจันทรในค่ําคืนนั้น และให เหมาะกับทัศนะคติของผูรับสื่อ
ในยุคนั้น ๆ อยางไรก็ตาม เรื่องราวจะเปนอยางไรคง ไมสําคัญเทากับจิตวิญญาณของเทศกาลมากไปกวาใช
เทศกาลเพื่อการคาคาขาย ขนมไหวพระจันทร เหมือนอยางเทศกาลของฝรั่งอยาง ฮาโลวีน หรือวาเลนไทน
เปนตน
ความจริงชาวจีนมีความเลื่อมใสศรัทธาตอพระจันทรมาแตโบราณกาล ยิ่งกวาพระอาทิตย การ
นับปฏิบทินก็นับโดยอาศัยดวงจันทรเปนเกณฑ ดังที่เรียกวา จันทรคติ การเพาะปลูก และการเกิดน้ําขึ้นน้ําลง
ชาวจีนโบราณจะอาศัยดูจากดวงจันทร เพื่อใหเหมาะสมในการทํานาทําไร ซึ่งตองอาศัยเปนหลักรวมความ
วา ชาวจีนแตโบราณใหความสําคัญทางดานจิตใจตอดวงจันทรมาก ในเรื่องตางๆดังนี้
1. การทํานา – ไร
2. การเพาะปลูกพืชตางๆ
3. การเจริญเติบโตของพืช
4. การเพาะชําพืช
5. การดูปริมาณน้ําขึ้น-น้ําลง
ดังนั้น จึงมองเห็นวาดวงจันทรมีคุณตอมนุษยชาติมาก ทั้งมีแสงสวางรมเย็น สบายตา นาสดชื่น
รื่นรมยเปนอยางมาก อากาศกําลังดี ไมรอนไมหนาว
18. ประวัติ วัน ไหวพระจันทร : เทพเจากระตาย
เทพองคหนึ่ง คือ “ทู เออร เย” (兔儿爷) ซึ่งแปลวา “เทพกระตาย” ซึ่งเทพองคนี้มาจากเทพนิยาย
“กระตายหยกในตําหนักจันทร” ของจีน คนจีนนําดินมาปนเปนรูปกระตาย จัดเปนเครื่องเซนไหวในเทศกาล
ไหวพระจันทรและเปนของเลนเด็กที่มีมาแต โบราณกาล
ประวัติ วัน ไหวพระจันทร : เวลาเซนไหว
วันทําพิธีเซนไหว จะเริ่มจัดแตงโตะวางขาวของบริเวณกลางแจง ที่พอจะมองเห็นดวงจันทรไดเต็ม
ดวง และวันนันก็คือเย็นวันเพ็ญพระจันทรเต็มดวง ขึน 15 ค่ํา เดือน 8 (ของจีน ซึ่งตรงกับเดือน 10 ของไทย)
้ ้
เจาภาพจะนําเอาตนออย 2 ตนมาซุมประตู โดยเอายอดออยทั้งสองโคงเขาหากัน แลวมีการประดับประดาให
ดูสวย ๆ งาม ๆ ตามใจชอบ สิ่งของที่เซนไหว พอกะวาแลเห็นพระจันทรเต็มดวงโผลขึ้นมาใหเห็นแลว ก็จะ
เริ่มพิธีเซนไหว มีการจุดธูปและตามโคมไฟดวย คืนนี้จะเปนคืนที่ลูกหลานชาวจีนจะออกมาชมพระจันทร
19. แหงฤดูใบไมรวงกันถวน หนา แตปจจุบนตังแตฝรั่งตางแดนไดขนไปเหยียบบนดวงจันทรแลว การเซนไหว
ั ้ ้ึ
พระจันทร ที่เคยยึดมันถือมั่นมาแตโบราณคอยๆลดความสําคัญลงไปอยางมาก
่
ขั้นตอนการไหวพระจันทร
1. ไหวเจาในชวงเชา ของไหวจัดปกติ เหมือนจัดของไหวเจาปกติ แตเพิ่มขนมไหวพิเศษ คือ ขนมไหว
พระจันทร, ขนมโก, ขนมเปยะ
2. ของไหวบรรพบุรุษ ของไหวจัดปกติ เหมือนจัดของไหวบรรพบุรุษปกติ แตเพิ่มขนมไหวพิเศษ คือ ขนม
ไหวพระจันทร ไสอะไรก็ได, ขนมโกตาง, ขนมเปยะตางๆ แลวแตเลือก ผลไมไหวพิเศษ สมโอผลใหญๆ
สวยๆ
3. ของไหวเจาแมในตอนค่ํา
- ของคาว อาหารเจแหง 5 อยาง คือ วุนเสน, ดอกไมจีน, เห็ดหูหนู, เห็ดหอม, ฟองเตาหู
- ขนมไหว ขนมไหวพระจันทร ไสอะไรก็ได ที่ไมมีไขแดงเค็ม และ ตองไมใชไสโหงวยิ้ง หรือ
เมล็ด 5 อยาง เพราะไสโหงวยิ้ง มีใสมันหมูแข็ง จึงเปนของชอ คือมีคาว แตไหวเจาแม ตองไหวอาหารเจ
- ขนมโก มีหลายชนิดเชน ขนมโกขาว คนจีนเรียก "แปะกอ" แปะ แปลวา สีขาว กอ คือขนม ก็มีอีก
หลายแบบ ทั้งแบบ แผนกลม ใหญแบน ๆ ปมทําลายนูนสวยงาม มีทั้งแบบกลมเล็ก ๆ ที่มีทั้งแบมีไสและไม
มีไส แลวยังมี ทําแบบ แทงสี่เหลี่ยม มีไสก็มี ไมมีไสก็มี , โกเหลือง หรือโกถั่ว มีไสที่นิยม เชน ไสทุเรียน ไส
งาดํา, โกเชง นาสนใจที่สุด เพราะคนไทยไมคอยรูจัก นิยมทําเปนแผนกลมใหญ ขนาดเทาขนมโกขาว เปน
แผนกลมแบนสีเหลืองตุน ๆ เพราะผสมน้ําสมเชง และบางเจา มีใสเม็ดกวยจี๊ ที่แกะเปลือกแลวดวย เวลาเคี้ยว
โดนจะกรุบกรับอรอยดี และขนมโกออน หรือหลากอ ก็ทานอรอย เหนียว ๆ ยืด ๆ หนืด ๆ นิ่ม ๆ มีสอดไส
ถั่วบดหวานมันอรอย ไสงาดําก็มี
- ผลไม อะไรก็ไดเหมือนปกติ และเพิ่มพิเศษ สมโอใหญๆ สวยๆ
- เครื่องดื่ม ใชชาน้ําหรือชาใบ หรือมีทั้งสองแบบ
- กระดาษเงิน คอซี, กอจี๊
20. - กระดาษเงิน-ทองพิเศษ
1. เนี้ยเก็ง หรือวังเจาแมกวนอิม
2. โปยเซียนตี่เอี๊ย คือ กระดาษ เงินกระดาษทองลายโปยเซียน
3. กระดาษเงินกระดาษทองแบบจัดทําพิเศษสวยวาม เชน กิมกอง คือ โคมคู. สัปปะรด. อวงมึ้ง หรือ
ผามาน, เนี้ยเพา คือ ชุดเจาแมพระจันทร ถาไหวเจาแมพระ จันทร หรือกวนอิมเนี้ยเพา ถาคิดวาการไหวของ
เราเปนการไหวเจาแมกวนอิม
- ของไหวพิเศษอื่นๆ เครื่องใชอุปโภค หรือสบู แชมพู ยาสีฟน แปง เครื่องสําอาง ผาเช็ดหนา อะไร
ก็ไดที่เราใชประจํา เครื่องประดับ และ ออยลํายาวๆ ตัดจากราก และ เอายอดดวยผูกไว ที่ดานหนาโตะไหว
ยึดกับขาโตะ แลวทําขึ้นไปเปนซุมประตู แลวตกแตงสวยงาม พรอมดอกไม ใสแจกันประดับโตะไหว
- จํานวนธูปไหว 3 ดอก หรือ บางบานใชธูปไหวพเิ ศษ เปนธูปมังกรดอกใหญดอกเดียว หรือ ดอก
ยอมๆ 3 ดอก เชนเดียวกับ เทียนแดงคู
- เวลาไหว ไหวหวค่ํา บางบานขอบไหวสาย เพื่อคอยเวลาใหพระจันทรเต็มดวง
ั
ที่มา
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/วันตรุษจีน
http://members.tripod.com/chaiwat_s/trusjin_festival.htm
http://th.wikipedia.org/wiki/ตรุษจีน