หน่วยที่ 3 การออกแบบการวิจัย (ครั้งที่ 2)

1. วิชาโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย
ครูฌามาดา จันดาอาจ แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยการอาชีพบ้านไผ่
Unit 3
รหัสวิชา 3204-2104
การออกแบบการวิจัย
ครั้งที่ 2

2. 3.9 ขอบข่ายของการออกแบบการวิจัย
การออกแบบการเลือกตัวอย่าง
1. การสุ่มตัวอย่างแบบใช้ความน่าจะเป็น (Probability Sample)
2. การเลือกตัวอย่างแบบไม่ใช้ความน่าจะเป็น (Nonprobability Sample)

3. 3.9 ขอบข่ายของการออกแบบการวิจัย
การออกแบบการวัดตัวแปร
1. การนิยามตัวแปร
การนิยามตัวแปร จะต้องเป็นการนิยามที่ชัดเจนแก่ตัวแปรที่มุ่งวัด
กล่าวว่า ผู้วิจัยจาเป็นต้องให้นิยามตัวแปรต่าง ๆ ที่ต้องการวัดหรือต้องการศึกษา การ
นิยามสามารถทาได้ 2 ลักษณะ คือ

4. ขอบข่ายของการออกแบบการวิจัย
1. การนิยามตัวแปร
1) นิยามบอกลักษณะหรือองค์ประกอบ (Constitutive Definition)
2) นิยามปฏิบัติการ (Operational Definition)

5. 3.9 ขอบข่ายของการออกแบบการวิจัย
การออกแบบการวัดตัวแปร
2. ชนิดของเครื่องมือ
เครื่องมือวิจัยมีทั้งแบบที่นักวิจัยสร้างเองและเครื่องมือมาตรฐาน การเลือกใช้
เครื่องมือวิจัย ขึ้นอยู่กับชนิดของตัวแปร ลักษณะของเครื่องมือการวิจัยที่มีคุณภาพจะมี
ลักษณะ ดังนี้

6. ขอบข่ายของการออกแบบการวิจัย
2. ชนิดของเครื่องมือ
1) มีความตรง
2) มีความเที่ยงสูง
3) เป็นเครื่องมือที่มีความเป็นปรนัย
4) เป็นเครื่องมือที่สะดวกในการใช้

7. 3.9 ขอบข่ายของการออกแบบการวิจัย
การออกแบบการวิเคราะห์ข้อมูล
เป็นการวางแผนในการดาเนินการกับข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะได้ใช้ใน
การตอบปัญหาการวิจัยตามจุดมุ่งหมายของการวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ การ
วิเคราะห์มีทั้งสถิติแบบพารามิเตอร์ และแบบนอนพารามิเตอร์ และการเลือกใช้สถิติใน
การวิเคราะห์ข้อมูล นักวิจัยจะต้องคานึงถึง
1) ลักษณะ/ประเภทของข้อมูล
2) วัตถุประสงค์ของการวิจัย
3) ข้อตกลงเบื้องต้นของสถิติแต่ละประเภท

8. 3.10 การวางแผนการวิจัย
1. แนวปฏิบัติในการวางแผนการวิจัย
การวางแผนการวิจัยเป็นการสร้างแบบแผนของการวิจัยแต่ละโครงการให้มี
รูปแบบอย่างชัดเจน โดยการวางแผนการวิจัยเกี่ยวข้องกับการออกแบบโครงการวิจัยซึ่ง
แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ กระบวนการวิจัย และ กระบวนการบริหารโครงการวิจัย ดังนี้

9. การวางแผนการวิจัย
1. แนวปฏิบัติในการวางแผนการวิจัย
1. กระบวนการวิจัย มีขั้นตอน คือ
1) การกาหนดปัญหาการวิจัย
2) การกาหนดกรอบความคิดเชิงทฤษฎี
3) การกาหนดระเบียบวิธีวิจัย

10. การวางแผนการวิจัย
1. แนวปฏิบัติในการวางแผนการวิจัย
2. กระบวนการบริหารโครงการวิจัย ประกอบด้วยปัจจัยต่าง ๆ
ดังนี้
1) บุคลากร
2) เงินงบประมาณ
3) วัสดุอุปกรณ์
4) แผนดาเนินงาน

11. 3.10 การวางแผนการวิจัย
2 การจัดทาโครงการวิจัย
โครงการวิจัย เป็นการเขียนเพื่อนาเสนอแผนของการทางาน ซึ่งแสดงถึง
โครงสร้าง ยุทธวิธี และคุณค่าของงานวิจัย
สิ่งสาคัญที่สุดในการเขียนโครงการวิจัยที่ดี ก็คือความรู้และความเข้าใจอย่าง
ถ่องแท้ของผู้ที่จะทาการวิจัย

12. การวางแผนการวิจัย
2 การจัดทาโครงการวิจัย
1. วัตถุประสงค์ของการเขียนโครงการวิจัย ดังนี้
1) เพื่อใช้เป็นหลักและกรอบในการดาเนินการวิจัย
2) เพื่อใช้เป็นเอกสารสื่อสารสร้างความเข้าใจและ
ข้อตกลงในการทางานวิจัยร่วมกัน
3) เพื่อใช้เป็นเอกสารเสนอขออนุมัติดาเนินการวิจัย
4) เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการกากับติดตามหรือ
ตรวจสอบการดาเนินการวิจัย
5) เพื่อเป็นเอกสารขอรับการสนับสนุนการวิจัย

13. การวางแผนการวิจัย
2 การจัดทาโครงการวิจัย
2. ประโยชน์ของการเขียนโครงการวิจัย มีดังนี้
1) ทาให้ผู้วิจัยทราบว่าจะต้องทาอะไรบ้างในแต่ละขั้นตอน
2) ช่วยให้ผู้วิจัยมองเห็นลู่ทางล่วงหน้าในการแก้ปัญหา
3) ช่วยชี้แนะในเรื่องตัวแปรที่ศึกษา การเลือกกลุ่ม
4) ช่วยให้สามารถประเมินเกี่ยวกับแรงงานและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
5) ใช้แสดงเพื่อผู้อนุมัติการทาวิจัยได้พิจารณา
6) ใช้แสดงเพื่อให้ผู้ให้ทุนทาวิจัยได้มีข้อมูลในการตัดสินใจ

14. การวางแผนการวิจัย
2 การจัดทาโครงการวิจัย
3. หลักการเขียนโครงการวิจัยที่ดี ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
1) ความถูกต้อง
2) ความเป็นเหตุผล
3) ความกระจ่างแจ้ง
4) ความสมบูรณ์
5) ความกะทัดรัด
6) ความสม่าเสมอ
7) ความสัมพันธ์เชื่อมโยงสอดคล้อง

15. การวางแผนการวิจัย
2 การจัดทาโครงการวิจัย
4. ส่วนประกอบของโครงการวิจัย ที่สาคัญ 3 ส่วน คือ
1) ส่วนนา
2) ส่วนเนื้อเรื่อง
3) ส่วนท้ายเรื่อง

16. การวางแผนการวิจัย
2 การจัดทาโครงการวิจัย
5. แนวทางการเขียนโครงการวิจัย ไปประกอบด้วยส่วนที่สาคัญ ๆ ได้แก่
1) ชื่อโครงการวิจัย
2) ประเภทของงานวิจัย
3) กลุ่มวิชาหรือสาขาวิชาที่ทาการวิจัย
4) ชื่อ และประวัติของคณะผู้วิจัย
5) ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
6) วัตถุประสงค์ของการวิจัย
7) สมมติฐานการวิจัย
8) ขอบเขตของการวิจัย

17. การวางแผนการวิจัย
2 การจัดทาโครงการวิจัย
5. แนวทางการเขียนโครงการวิจัย ไปประกอบด้วยส่วนที่สาคัญ ๆ ได้แก่
9) นิยามศัพท์เฉพาะ
10) ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
11) การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
12) วิธีดาเนินการวิจัย
13) ระยะเวลาและแผนการดาเนินงานวิจัย
14) งบประมาณ
15) สถานที่ทาการวิจัย
16) อุปกรณ์การวิจัย

18. 3.11 ความเที่ยงตรงของการออกแบบการวิจัย
1. ความตรงภายใน (Internal Validity) หมายถึง การวิจัยที่ไม่มีตัวแปร
เกินแทรกซ้อน หรือผลการวิจัยนั้นได้รับผลมาจากตัวแปรอิสระโดยตรง ซึ่งปัจจัยที่มีผล
ต่อความตรงภายใน มีดังนี้

19. ความเที่ยงตรงของการออกแบบการวิจัย
1. ความตรงภายใน (Internal Validity)
1) เหตุการณ์
2) วุฒิภาวะ
3) การทดสอบ
4) เครื่องมือ
5) การสูญหาย
6) ความลาเอียงในการเลือก
7) ความแตกต่างระหว่างผู้สังเกต
8) การถดถอยทางสถิติ

20. 3.11 ความเที่ยงตรงของการออกแบบการวิจัย
2. ความตรงภายนอก (External Validity) หมายถึง การวิจัยที่สามารถ
สรุปอ้างอิงผลการวิจัยจากกลุ่มตัวอย่างไปยังกลุ่มประชากรได้ ปัจจัยที่มีผลต่อความตรง
ภายนอก มีดังนี้

21. ความเที่ยงตรงของการออกแบบการวิจัย
2. ความตรงภายนอก (External Validity)
1) ปฏิสัมพันธ์ระหว่างการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง
2) ปฏิกิริยาร่วมระหว่างการทดสอบครั้งแรกกับวิธีทดลอง
3) ปฏิกิริยาอันเนื่องมาจากวิธีการทดลอง
4) ปฏิกิริยาร่วมจากหลาย ๆ วิธีการจัดกระทา

22. 3.12 ลักษณะของแบบการวิจัยที่ดี
1. ปราศจากความลาเอียง
2. ปราศจากความสับสน
3. สามารถควบคุมตัวแปรภายนอกได้ทั้งหมด
4. มีการใช้สถิติที่ถูกต้องในการทดสอบสมมติฐาน
ลักษณะของแบบการวิจัยที่ดี มีดังนี้

23. 3.13 ขั้นตอนการออกแบบการวิจัย
1. การคานึงถึง ทรัพยากรที่จาเป็นในการวิจัย
2. การกาหนดขอบเขตของประชากรและการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง
3. การออกแบบการวัดตัวแปร
4. การออกแบบเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล
5. การวางแผนในการเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยจึงควรคานึงถึงสิ่งสาคัญดังต่อไปนี้

24. 3.14 การประเมินประสิทธิภาพของแบบการวิจัย
1. พิจารณาว่าแบบการวิจัยนั้นมุ่งสู่คาตอบต่อปัญหาที่วิจัยอย่างแท้จริง
หรือไม่
2. พิจารณาว่าแบบการวิจัยนั้นสามารถควบคุมหรือขจัดอิทธิพลของตัวแปร
แทรกซ้อนที่จะส่งผลมาถึงตัวแปรตามได้มากน้อยเพียงใด
3. พิจารณาว่าแบบการวิจัยนั้นมีความเที่ยงตรงภายในและภายนอกสูงมาก
น้อยเพียงใด
มีหลักที่สาคัญอยู่ 3 ประการในการพิจารณา คือ

25. จบการนาเสนอบทเรียน
ครูฌามาดา จันดาอาจ แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยการอาชีพบ้านไผ่
Unit 3
การออกแบบการวิจัย
ครั้งที่ 2