SlideShare a Scribd company logo
ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์

ปฏิกิริยาเคมีของสารประกอบอินทรี ย ์
        A+B                      C+D
เรี ยก A, B ว่า สารตังต้น (starting material) และ
      C, D ว่าสารผลิตภัณฑ์ (product)
ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์

• ในปฏิกิริยาเคมีอินทรี ย ์ บางครังจะเรี ยกสารตังต้น
  ตัวหนึ=งว่า reactant หรื อsubstrate และเรี ยกสารที=เข้า
  ทําปฏิกิริยาว่า reagent
• ส่ วนใหญ่ reagent มักเป็ นสารประกอบอนินทรี ยหรื อ ์
  สารประกอบอินทรี ยโมเลกุลเล็ก
                        ์                                ๆ
ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
• ในการเกิดปฏิกิริยาเคมีอินทรี ยจะมีการแตกพันธะซึ= ง
                                ์
  อาจเป็ น 1 พันธะหรื อมากกว่า และมีการสร้าง
  พันธะใหม่               1           พันธะหรื อมากกว่า
  • ปฏิกิริยาอาจเกิดขันตอนเดียวหรื อหลายขันตอน
• การแสดงรายละเอียดของขันตอนต่าง ๆ ของปฏิกิริยา
  ที=เกิดขึน เรี ยกว่า กลไกของปฏิกิริยา (reaction
  mechanism)
ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
• การแตกพันธะของสารประกอบอินทรี ย ์ อาจเกิดได้ 2 แบบ
   – แบบโฮโมไลติก (homolytic cleavage) เป็ นการแตกพันธะ
     อย่างสมมาตร กล่าวคือ เมื=อแตกพันธะแต่ละอะตอมจะเอา
     อิเล็กตรอนไปอะตอมละ             1           อิเล็กตรอน
   – แบบเฮเทอโรไลติก (heterolytic cleavage) เป็ นการแตก
     พันธะที=อะตอมหนึ=งเอาอิเล็กตรอนไป 2 อิเล็กตรอน และอีก
     อะตอมหนึ=งไม่มีอิเล็กตรอนเลย ทําให้อะตอมหนึ=งมีประจุ
     บวก                           อีกอะตอมหนึ=งมีประจุลบ
ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์

• ปฏิกิริยาที=มีการแตกพันธะแบบโฮโมไลติก เรี ยกว่า
  ปฏิกิริยาแบบอนุภาคหรื ออนุมูลอิสระ (radical or
  free-radical reaction)
      C   A                 C   + A
ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
• ปฏิกิริยาที=มีการแตกพันธะแบบเฮเทอโรไลติก
  เรี ยกว่า ปฏิกิริยาแบบไอออนิก (ionic reaction)
              heterolytic clevage                 +
      C   A                               C    + A

                                      carbanion
              heterolytic clevage
      C A                                 C+ + A
                                      carbocation
                                    (carbonium ion)
สารมัธยันตร์
1. คาร์โบเคตอิออน (carbocation) หรื อ คาร์โบเนียม
 อิออน (carbonium ion) ใช้ sp 2 ไฮบริ ดออร์ บิตล
                                               ั
                                            p-orbital

    R                   C+      sp2
                    R                        sp2
    R                            sp2




                          ่
        มี 6 อิเล็กตรอนอยูในพันธะสามพันธะ
สารมัธยันตร์
เสถียรภาพของคาร์โบเคตอิออน (carbocation)
                                                      C+
carbocations:

     R               H           H
                                           +
R    C+   >     R   C+   >   R   C+   >     CH3

     R              R            H

    30              20           10       methyl cation
สารมัธยันตร์
2. คาร์แบนอิออน (carbanion) เป็ นคาร์บอนที=มีประจุ
 ลบ มีอิเล็กตรอนวงนอก 8 อิเล็กตรอน
 คาร์แบนอิออน ใช้ sp3 ไฮบริ ดออร์บิตล ั       C

                  H
                  H
                           C
                                        Methyl carbanion
                       H

 มี 6 อิเล็กตรอนอยูในพันธะสามพันธะและคู่อิเล็กตรอนที=ไม่ได้ใช้ร่วม
                   ่
สารมัธยันตร์
  เสถียรภาพของคาร์แบนอิออน จะตรงข้ามกับ
  คาร์โบแคตอิออน
     carbanions:         C
                   H         H            R

       CH3    >    C R   >   C    R   >   C R

                   H         R            R

methyl carbanion   10        20           30
สารมัธยันตร์
3. เรดิคลอิสระ (free radical) เป็ นคาร์บอนที=มี
        ั
 อิเล็กตรอนเดี=ยว ไม่มีประจุ มีอิเล็กตรอนวงนอก 7
 อิเล็กตรอน คาร์บอนที=เป็ นเรดิคลอิสระ ใช้ sp
                                   ั            2

 ไฮบริ ดออร์บิตลั
                     R
                                  R
                     R
สารมัธยันตร์
เสถียรภาพของเรดิคลอิสระ
                 ั
     radicals:

     R3C   >     R2CH   > RCH2 >   CH3

      30         20       10   methyl radical
สารมัธยันตร์
4. คาร์บีน (carbene) เป็ นสารมัธยันตร์ของคาร์บอนที=
 มีเพียง 2 พันธะ มีอิเล็กตรอนวงนอก 6 อิเล็กตรอน
 คาร์บีนมี 2 ชนิด
R
                          R       C             R
R


 Singlet carbene              Triplet carbene
คาร์ บีนคืออะตอมคาร์ บอนที เป็ นกลาง มี 2 พันธะ
             และ 2 อิ เล็กตรอน มี อยู่สองชนิดคือ
• 1. แบบซิงเกลต(Singlet)
                                   C
• 2. แบบทริปเพลต
                                    C
ประเภทของสารที เข้ าทําปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์

1. นิวคลีโอไฟล์ (nucleophile)
2. อิเล็กโตรไฟล์ (electrophile)
3. เรดิคลอิสระ (free radical)
         ั
นิวคลีโอไฟล์ (nucleophile)


       เป็ นโมเลกุลหรื อกลุ่มของอะตอมที=มีคู่อิเล็กตรอนที=ใช้ในการสร้าง
      พันธะกับสารหรื อหมู่ที=รับอิเล็กตรอนได้ กรณี โมเลกุลเป็ นกลาง
      เช่น H2O, ROH, NH3, RNH2 เป็ นต้น นิยมเขียนนิวคลีโอไฟล์แบบนี
      ว่า Nu : หากนิวคลีโอไฟล์มีประจุลบ (anion) ซึ=งนิยมเขียนแทนด้วย
      Nu- เช่น –OH,-OR, -CN, -Cl
(ตัวให้อิเล็กตรอน ) คู่อิเล็กตรอนทีไม่ได้ใช้ร่วม พันธะทีมีขว δ - มี ไพอิเล็กตรอน
                                                           ั
อิ เล็กโตรไฟล์ (electrophile)

   เป็ นโมเลกุลหรื ออะตอมที=สามารถรับอิเล็กตรอนเพื=อสร้างพันธะใหม่
       อิเล็กโตรไฟล์ที=เป็ นกลางจะเขียนแทนด้วย E เช่น AlCl3, BF3, SO3
       ส่ วนอิเล็กโตรไฟล์ที=มีประจุ ซึ=งจะเป็ นบวก เช่น H+, H3O+, R+
       (carbocation) มักเขียนแทนด้วย E+
                                                          Cl
    CH2 CH CH3           +      HCl                   CH3 CH CH3
      propene          hydrogen chloride            2-chloropropane

(ตัวรับอิเล็กตรอน ) พันธะทีมีขว δ +มีตาแหน่ งทีสามารถรบอิเล็กตรอน (กรด)
                              ั       ํ
. เรดิคัลอิ สระ (free radical)


      รี เอเจนต์กลุ่มแรดิคลนี เป็ นหมู่ที=ไม่มีประจุ เนื=องจากเกิดการแตก
                          ั
      ตัวอย่างเสมอภาค และจะเหนี=ยวนําให้เกิดปฏิกิริยาที=มีการแตก
      พันธะแบบเสมอภาคด้วยเช่นกัน

         Cl     H CH3                     Cl H       +      CH3
               methane                                methyl radical

         Cl        CH3                    CH3 Cl
chlorine radical methyl radical       chloromethane
ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
  1. ปฏิกิริยาการแทนที= (Substitution reaction)
       1.1 ปฏิกิริยาการแทนที=ดวยนิวคลีโอไฟล์
                              ้
       Nu + R X                    Nu R +         X
  นิวคลีโอไฟล์ สารตังต้น       สารผลิตภัณฑ์ อิออนทีหลุดออก
   OH + CH3CH2 Cl                    CH3CH2OH + Cl
นิวคลีโอไฟล์   สารตังต้น            สารผลิตภัณฑ◌์ อิออนที
                                                  หลุดออก
ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
1. ปฏิกิริยาการแทนที= (Substitution reaction)
   1.2 ปฏิกิริยาการแทนที=ดวยอิเล็กโตรไฟล์
                          ้
              H                                 E
                       +   Lewis acid                +
                 + E                            + H

             H             H2SO4
                                          NO2
             + HNO3                         + H2O
ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
2. ปฏิกิริยาการเติม (Addition reaction)
        C C     + A B                     C C
                                          A B

       CH2 CH2 + Cl2                CH2 CH2
                                    Cl      Cl

CH3CH CH2 + Br2                 CH3CH CH2
                                    Br      Br
ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
3. ปฏิกิริยาการขจัดออก (Elimination reaction)
3.1 ปฎิกิริยาการขจัดออกโดยนิวคลีโอไฟล์
             X

         C   C                   C C     + X
                                          (HX)
         H

 Nu
CH3CH2Br + OH                CH2 CH2 + H2O + Br
                                            (HBr)
ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
3.2 ปฏิกิริยาการขจัดออกโดยอิเล็กโตรไฟล์
           H
                 Lewis base
      C    C                   C C    + H2O

      OH

                       H2SO4
    CH3    CH2   OH            CH2   CH2 + H2O
       ethanol                  ethene
ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
4. ปฏิกิริยาออกซิ เดชัน (Oxidation reaction)

                      K2Cr2O7/H2SO4
   CH3   CH    OH                     CH3   C       O
         CH3                                CH3


               OH       K2Cr2O7
                                                O
               H             +
                         H
ประเภทของ ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
5. ปฏิกิริยารี ดกชัน (Reduction reaction)
                ั

            O                               H
                         LiAlH4
    CH3CH2 C OH                     CH3CH2 C    OH

                                            H

                           H2/ Pd
   CH3   CH2 CH    CH2                CH3   CH2 CH2   CH3
ประเภทของ ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
6. ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ (Polymerisation)

                                      Cl
      nCH2 CH Cl                (CH2 CH)
                                           n
      vinyl chloride          polyvinyl chloride


      nCH2 CH2                  ( CH2 CH2 )n
      ethylene                   polyethylene
ประเภทของ ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์
7. ปฏิกิริยาการจัดตัวใหม่ (Rearrangement reaction)

                        heat, catalyst
  CH3   CH2 CH2   CH3                    CH3   CH    CH3
                                               CH3

                        heat, catalyst
  CH3   CH2 CH CH2                       CH3   C     CH2
                                               CH3

More Related Content

What's hot

คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์
คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์
คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์jirat266
 
Chemistry
Chemistry Chemistry
Chemistry
firsthihi
 
นิราศนรินทร์คำโคลง
นิราศนรินทร์คำโคลงนิราศนรินทร์คำโคลง
นิราศนรินทร์คำโคลง
Surapong Klamboot
 
บทที่ 1 สารอาหารม.2
บทที่ 1 สารอาหารม.2บทที่ 1 สารอาหารม.2
บทที่ 1 สารอาหารม.2
Wichai Likitponrak
 
อารยธรรมจีนโบราณนะจ๊ะ
อารยธรรมจีนโบราณนะจ๊ะอารยธรรมจีนโบราณนะจ๊ะ
อารยธรรมจีนโบราณนะจ๊ะ
Napatrapee Puttarat
 
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
Dr.Woravith Chansuvarn
 
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 2
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 2เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 2
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 2Tanchanok Pps
 
ไฮบริไดเซชัน
ไฮบริไดเซชันไฮบริไดเซชัน
ไฮบริไดเซชันMaruko Supertinger
 
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนโครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนmadechada
 
ศิลปะไทย
ศิลปะไทยศิลปะไทย
ศิลปะไทยTonkao Limsila
 
การเขียนสูตรโครงสร้าง
การเขียนสูตรโครงสร้างการเขียนสูตรโครงสร้าง
การเขียนสูตรโครงสร้างMaruko Supertinger
 
AnalChem: Complexometric titration
AnalChem: Complexometric titrationAnalChem: Complexometric titration
AnalChem: Complexometric titration
Dr.Woravith Chansuvarn
 
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
Somporn Amornwech
 
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
Kruthai Kidsdee
 
แบบฝึก แฟกทอเรียล N
แบบฝึก แฟกทอเรียล Nแบบฝึก แฟกทอเรียล N
แบบฝึก แฟกทอเรียล NOranee Seelopa
 
เคมีอินทรีย์
เคมีอินทรีย์เคมีอินทรีย์
เคมีอินทรีย์ratchaneeseangkla
 
แบบทดสอบเสียงในภาษา
แบบทดสอบเสียงในภาษาแบบทดสอบเสียงในภาษา
แบบทดสอบเสียงในภาษา
Piyarerk Bunkoson
 
ปริมาณสารสัมพันธ์ - Stoichiometry
ปริมาณสารสัมพันธ์ - Stoichiometryปริมาณสารสัมพันธ์ - Stoichiometry
ปริมาณสารสัมพันธ์ - Stoichiometry
Dr.Woravith Chansuvarn
 

What's hot (20)

คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์
คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์
คาร์บอกซิลิก เอสเทอร์
 
Chemistry
Chemistry Chemistry
Chemistry
 
นิราศนรินทร์คำโคลง
นิราศนรินทร์คำโคลงนิราศนรินทร์คำโคลง
นิราศนรินทร์คำโคลง
 
บทที่ 1 สารอาหารม.2
บทที่ 1 สารอาหารม.2บทที่ 1 สารอาหารม.2
บทที่ 1 สารอาหารม.2
 
อารยธรรมจีนโบราณนะจ๊ะ
อารยธรรมจีนโบราณนะจ๊ะอารยธรรมจีนโบราณนะจ๊ะ
อารยธรรมจีนโบราณนะจ๊ะ
 
คาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรตคาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรต
 
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
 
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 2
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 2เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 2
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 2
 
ไฮบริไดเซชัน
ไฮบริไดเซชันไฮบริไดเซชัน
ไฮบริไดเซชัน
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
 
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนโครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
 
ศิลปะไทย
ศิลปะไทยศิลปะไทย
ศิลปะไทย
 
การเขียนสูตรโครงสร้าง
การเขียนสูตรโครงสร้างการเขียนสูตรโครงสร้าง
การเขียนสูตรโครงสร้าง
 
AnalChem: Complexometric titration
AnalChem: Complexometric titrationAnalChem: Complexometric titration
AnalChem: Complexometric titration
 
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
 
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
 
แบบฝึก แฟกทอเรียล N
แบบฝึก แฟกทอเรียล Nแบบฝึก แฟกทอเรียล N
แบบฝึก แฟกทอเรียล N
 
เคมีอินทรีย์
เคมีอินทรีย์เคมีอินทรีย์
เคมีอินทรีย์
 
แบบทดสอบเสียงในภาษา
แบบทดสอบเสียงในภาษาแบบทดสอบเสียงในภาษา
แบบทดสอบเสียงในภาษา
 
ปริมาณสารสัมพันธ์ - Stoichiometry
ปริมาณสารสัมพันธ์ - Stoichiometryปริมาณสารสัมพันธ์ - Stoichiometry
ปริมาณสารสัมพันธ์ - Stoichiometry
 

Similar to Reaction

Reaction organic สำหรับห้องหนึ่ง
Reaction organic  สำหรับห้องหนึ่งReaction organic  สำหรับห้องหนึ่ง
Reaction organic สำหรับห้องหนึ่งkaoijai
 
แอลคีนนำเสนอ
แอลคีนนำเสนอแอลคีนนำเสนอ
แอลคีนนำเสนอMaruko Supertinger
 
บทที่ 4 stoichiometry.ppt
บทที่ 4 stoichiometry.pptบทที่ 4 stoichiometry.ppt
บทที่ 4 stoichiometry.ppt
LeeMinho84
 
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมีweerabong
 
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมีweerabong
 
สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนKrusek Seksan
 
ข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีPorna Saow
 
ข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีPorna Saow
 
เคมี
เคมี เคมี
เคมี
Mu PPu
 
ข้อสอบ เคมี
ข้อสอบ เคมีข้อสอบ เคมี
ข้อสอบ เคมีzweetiiz
 
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
Dr.Woravith Chansuvarn
 
ไฟฟ้าเคมี
ไฟฟ้าเคมีไฟฟ้าเคมี
ไฟฟ้าเคมีWirun
 
Complexation2555
Complexation2555Complexation2555
Complexation2555adriamycin
 
Ec electrochem-text
Ec electrochem-textEc electrochem-text
Ec electrochem-textnantita
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
oraneehussem
 
แนวข้อสอบโควตา
แนวข้อสอบโควตาแนวข้อสอบโควตา
แนวข้อสอบโควตาnam_supanida
 
Echem 1 redox
Echem 1 redoxEchem 1 redox
Echem 1 redox
Saipanya school
 

Similar to Reaction (20)

Reaction organic สำหรับห้องหนึ่ง
Reaction organic  สำหรับห้องหนึ่งReaction organic  สำหรับห้องหนึ่ง
Reaction organic สำหรับห้องหนึ่ง
 
แอลคีนนำเสนอ
แอลคีนนำเสนอแอลคีนนำเสนอ
แอลคีนนำเสนอ
 
บทที่ 4 stoichiometry.ppt
บทที่ 4 stoichiometry.pptบทที่ 4 stoichiometry.ppt
บทที่ 4 stoichiometry.ppt
 
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี
 
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมีอัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี
อัตราการเกิดปฏิกริยาเคมี
 
สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
 
ข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมี
 
ข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมี
 
Metal
MetalMetal
Metal
 
เคมี
เคมี เคมี
เคมี
 
ข้อสอบ เคมี
ข้อสอบ เคมีข้อสอบ เคมี
ข้อสอบ เคมี
 
Electrochem 1
Electrochem 1Electrochem 1
Electrochem 1
 
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
 
ไฟฟ้าเคมี
ไฟฟ้าเคมีไฟฟ้าเคมี
ไฟฟ้าเคมี
 
Complexation2555
Complexation2555Complexation2555
Complexation2555
 
Ec electrochem-text
Ec electrochem-textEc electrochem-text
Ec electrochem-text
 
Ec electrochem-text
Ec electrochem-textEc electrochem-text
Ec electrochem-text
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
 
แนวข้อสอบโควตา
แนวข้อสอบโควตาแนวข้อสอบโควตา
แนวข้อสอบโควตา
 
Echem 1 redox
Echem 1 redoxEchem 1 redox
Echem 1 redox
 

Reaction

  • 1. ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ ปฏิกิริยาเคมีของสารประกอบอินทรี ย ์ A+B C+D เรี ยก A, B ว่า สารตังต้น (starting material) และ C, D ว่าสารผลิตภัณฑ์ (product)
  • 2. ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ • ในปฏิกิริยาเคมีอินทรี ย ์ บางครังจะเรี ยกสารตังต้น ตัวหนึ=งว่า reactant หรื อsubstrate และเรี ยกสารที=เข้า ทําปฏิกิริยาว่า reagent • ส่ วนใหญ่ reagent มักเป็ นสารประกอบอนินทรี ยหรื อ ์ สารประกอบอินทรี ยโมเลกุลเล็ก ์ ๆ
  • 3. ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ • ในการเกิดปฏิกิริยาเคมีอินทรี ยจะมีการแตกพันธะซึ= ง ์ อาจเป็ น 1 พันธะหรื อมากกว่า และมีการสร้าง พันธะใหม่ 1 พันธะหรื อมากกว่า • ปฏิกิริยาอาจเกิดขันตอนเดียวหรื อหลายขันตอน • การแสดงรายละเอียดของขันตอนต่าง ๆ ของปฏิกิริยา ที=เกิดขึน เรี ยกว่า กลไกของปฏิกิริยา (reaction mechanism)
  • 4. ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ • การแตกพันธะของสารประกอบอินทรี ย ์ อาจเกิดได้ 2 แบบ – แบบโฮโมไลติก (homolytic cleavage) เป็ นการแตกพันธะ อย่างสมมาตร กล่าวคือ เมื=อแตกพันธะแต่ละอะตอมจะเอา อิเล็กตรอนไปอะตอมละ 1 อิเล็กตรอน – แบบเฮเทอโรไลติก (heterolytic cleavage) เป็ นการแตก พันธะที=อะตอมหนึ=งเอาอิเล็กตรอนไป 2 อิเล็กตรอน และอีก อะตอมหนึ=งไม่มีอิเล็กตรอนเลย ทําให้อะตอมหนึ=งมีประจุ บวก อีกอะตอมหนึ=งมีประจุลบ
  • 5. ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ • ปฏิกิริยาที=มีการแตกพันธะแบบโฮโมไลติก เรี ยกว่า ปฏิกิริยาแบบอนุภาคหรื ออนุมูลอิสระ (radical or free-radical reaction) C A C + A
  • 6. ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ • ปฏิกิริยาที=มีการแตกพันธะแบบเฮเทอโรไลติก เรี ยกว่า ปฏิกิริยาแบบไอออนิก (ionic reaction) heterolytic clevage + C A C + A carbanion heterolytic clevage C A C+ + A carbocation (carbonium ion)
  • 7. สารมัธยันตร์ 1. คาร์โบเคตอิออน (carbocation) หรื อ คาร์โบเนียม อิออน (carbonium ion) ใช้ sp 2 ไฮบริ ดออร์ บิตล ั p-orbital R C+ sp2 R sp2 R sp2 ่ มี 6 อิเล็กตรอนอยูในพันธะสามพันธะ
  • 9. สารมัธยันตร์ 2. คาร์แบนอิออน (carbanion) เป็ นคาร์บอนที=มีประจุ ลบ มีอิเล็กตรอนวงนอก 8 อิเล็กตรอน คาร์แบนอิออน ใช้ sp3 ไฮบริ ดออร์บิตล ั C H H C Methyl carbanion H มี 6 อิเล็กตรอนอยูในพันธะสามพันธะและคู่อิเล็กตรอนที=ไม่ได้ใช้ร่วม ่
  • 10. สารมัธยันตร์ เสถียรภาพของคาร์แบนอิออน จะตรงข้ามกับ คาร์โบแคตอิออน carbanions: C H H R CH3 > C R > C R > C R H R R methyl carbanion 10 20 30
  • 11. สารมัธยันตร์ 3. เรดิคลอิสระ (free radical) เป็ นคาร์บอนที=มี ั อิเล็กตรอนเดี=ยว ไม่มีประจุ มีอิเล็กตรอนวงนอก 7 อิเล็กตรอน คาร์บอนที=เป็ นเรดิคลอิสระ ใช้ sp ั 2 ไฮบริ ดออร์บิตลั R R R
  • 13. สารมัธยันตร์ 4. คาร์บีน (carbene) เป็ นสารมัธยันตร์ของคาร์บอนที= มีเพียง 2 พันธะ มีอิเล็กตรอนวงนอก 6 อิเล็กตรอน คาร์บีนมี 2 ชนิด R R C R R Singlet carbene Triplet carbene
  • 14. คาร์ บีนคืออะตอมคาร์ บอนที เป็ นกลาง มี 2 พันธะ และ 2 อิ เล็กตรอน มี อยู่สองชนิดคือ • 1. แบบซิงเกลต(Singlet) C • 2. แบบทริปเพลต C
  • 15. ประเภทของสารที เข้ าทําปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ 1. นิวคลีโอไฟล์ (nucleophile) 2. อิเล็กโตรไฟล์ (electrophile) 3. เรดิคลอิสระ (free radical) ั
  • 16. นิวคลีโอไฟล์ (nucleophile) เป็ นโมเลกุลหรื อกลุ่มของอะตอมที=มีคู่อิเล็กตรอนที=ใช้ในการสร้าง พันธะกับสารหรื อหมู่ที=รับอิเล็กตรอนได้ กรณี โมเลกุลเป็ นกลาง เช่น H2O, ROH, NH3, RNH2 เป็ นต้น นิยมเขียนนิวคลีโอไฟล์แบบนี ว่า Nu : หากนิวคลีโอไฟล์มีประจุลบ (anion) ซึ=งนิยมเขียนแทนด้วย Nu- เช่น –OH,-OR, -CN, -Cl (ตัวให้อิเล็กตรอน ) คู่อิเล็กตรอนทีไม่ได้ใช้ร่วม พันธะทีมีขว δ - มี ไพอิเล็กตรอน ั
  • 17. อิ เล็กโตรไฟล์ (electrophile) เป็ นโมเลกุลหรื ออะตอมที=สามารถรับอิเล็กตรอนเพื=อสร้างพันธะใหม่ อิเล็กโตรไฟล์ที=เป็ นกลางจะเขียนแทนด้วย E เช่น AlCl3, BF3, SO3 ส่ วนอิเล็กโตรไฟล์ที=มีประจุ ซึ=งจะเป็ นบวก เช่น H+, H3O+, R+ (carbocation) มักเขียนแทนด้วย E+ Cl CH2 CH CH3 + HCl CH3 CH CH3 propene hydrogen chloride 2-chloropropane (ตัวรับอิเล็กตรอน ) พันธะทีมีขว δ +มีตาแหน่ งทีสามารถรบอิเล็กตรอน (กรด) ั ํ
  • 18. . เรดิคัลอิ สระ (free radical) รี เอเจนต์กลุ่มแรดิคลนี เป็ นหมู่ที=ไม่มีประจุ เนื=องจากเกิดการแตก ั ตัวอย่างเสมอภาค และจะเหนี=ยวนําให้เกิดปฏิกิริยาที=มีการแตก พันธะแบบเสมอภาคด้วยเช่นกัน Cl H CH3 Cl H + CH3 methane methyl radical Cl CH3 CH3 Cl chlorine radical methyl radical chloromethane
  • 19. ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ 1. ปฏิกิริยาการแทนที= (Substitution reaction) 1.1 ปฏิกิริยาการแทนที=ดวยนิวคลีโอไฟล์ ้ Nu + R X Nu R + X นิวคลีโอไฟล์ สารตังต้น สารผลิตภัณฑ์ อิออนทีหลุดออก OH + CH3CH2 Cl CH3CH2OH + Cl นิวคลีโอไฟล์ สารตังต้น สารผลิตภัณฑ◌์ อิออนที หลุดออก
  • 20. ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ 1. ปฏิกิริยาการแทนที= (Substitution reaction) 1.2 ปฏิกิริยาการแทนที=ดวยอิเล็กโตรไฟล์ ้ H E + Lewis acid + + E + H H H2SO4 NO2 + HNO3 + H2O
  • 21. ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ 2. ปฏิกิริยาการเติม (Addition reaction) C C + A B C C A B CH2 CH2 + Cl2 CH2 CH2 Cl Cl CH3CH CH2 + Br2 CH3CH CH2 Br Br
  • 22. ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ 3. ปฏิกิริยาการขจัดออก (Elimination reaction) 3.1 ปฎิกิริยาการขจัดออกโดยนิวคลีโอไฟล์ X C C C C + X (HX) H Nu CH3CH2Br + OH CH2 CH2 + H2O + Br (HBr)
  • 23. ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ 3.2 ปฏิกิริยาการขจัดออกโดยอิเล็กโตรไฟล์ H Lewis base C C C C + H2O OH H2SO4 CH3 CH2 OH CH2 CH2 + H2O ethanol ethene
  • 24. ประเภทของปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ 4. ปฏิกิริยาออกซิ เดชัน (Oxidation reaction) K2Cr2O7/H2SO4 CH3 CH OH CH3 C O CH3 CH3 OH K2Cr2O7 O H + H
  • 25. ประเภทของ ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ 5. ปฏิกิริยารี ดกชัน (Reduction reaction) ั O H LiAlH4 CH3CH2 C OH CH3CH2 C OH H H2/ Pd CH3 CH2 CH CH2 CH3 CH2 CH2 CH3
  • 26. ประเภทของ ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ 6. ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ (Polymerisation) Cl nCH2 CH Cl (CH2 CH) n vinyl chloride polyvinyl chloride nCH2 CH2 ( CH2 CH2 )n ethylene polyethylene
  • 27. ประเภทของ ปฏิ กิริยาเคมีอินทรี ย์ 7. ปฏิกิริยาการจัดตัวใหม่ (Rearrangement reaction) heat, catalyst CH3 CH2 CH2 CH3 CH3 CH CH3 CH3 heat, catalyst CH3 CH2 CH CH2 CH3 C CH2 CH3