4. 1. ZERO Conditional Sentences ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็น
ความจริง Zero conditional sentences ใช้สาหรับพูดถึง
ความจริงทั่วไป โดยใช้present simple ในประโยคทั้ง
สองประโยค (ประโยคหนึ่งจะอยู่ในรูปของ if-clause
ส่วนอีกประโยคจะอยู่ในรูปของ main-clause ค่ะ)
If + present simple, …. present simple. (คนไทยมักจะเขียนว่า If +
subject + V1, subject + V1)
5. ประโยคแบบ zero conditional sentences ใช้พูด
ถึงกรณีที่ถ้าเกิดสิ่งหนึ่ง ต้องเกิดอีกสิ่งหนึ่งเสมอ เช่น If
water reaches 100 degrees, it boils. เมื่ออุณหภูมิน้าสูง
เท่ากับ 100 องศาเซลเซียส น้าจะเดือดเสมอ หรือ If
I eat peanuts, I am sick. ถ้าฉันกินถั่วลิสงฉันจะแพ้ซึ่ง
ประโยคลักษณะนี้ เราจะใช้คาว่า when (เมื่อ) แทน if ก็
ได้
6. ตัวอย่างเช่น
• If people eat too much, they get fat. ถ้ากินมากจะอ้วน
• If you touch a fire, you get burned. ถ้าแตะไฟก็จะโดนลวก
• People die if they don’t eat. คนเราจะตายถ้าไม่กินอาหาร
• You get water if you mix hydrogen and oxygen.
ถ้ารวมไฮโดรเจนกับออกซิเจนจะได้น้า
7. ตัวอย่างเช่น
• Snakes bite if they are scared. งูจะกัดเวลารู้สึกกลัว
• If babies are hungry, they cry. ทารกจะร้องไห้ถ้ารู้สึกหิว
• Zero conditional sentences จะใช้พูดถึงเรื่องจริงทั่วๆไป
8. if + present simple, … will + infinitive (คนไทยมักจะเขียนว่า
If + subject + V1, subject + will/be going to + V1)
2. FIRST Conditional Sentences ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็น
เหตุเป็นผลซึ่งกันและกันFirst conditional sentences ใช้
สาหรับพูดว่าถ้าสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งจะเกิดขึ้นหรือ
อาจจะเกิดขึ้น โดยใช้If + present simple แล้วตามด้วย
future simple
9. ตัวอย่างเช่น
• If it rains, I won’t go to the park. ถ้าฝนตก ฉันจะไม่
ไปสวนสาธารณะ
• If I study today, I‘ll go to the party tonight. ถ้าวันนี้
ฉันอ่านหนังสือ คืนนี้จะไปปาร์ตี้
• If I have enough money, I‘ll buy some new shoes.
ถ้ามีเงินพอ ฉันจะซื้อรองเท้าใหม่
10. ตัวอย่างเช่น
• She‘ll be late if the train is delayed. เธอจะไปสาย
ถ้ารถไฟมาช้า
• She‘ll miss the bus if she doesn’t leave soon. เธอ
จะไม่ทันรถเมล์ถ้าไม่ออกจากบ้านตอนนี้
• If I see her, I‘ll tell her. ถ้าพบเขาฉันจะบอกเขา
11. Note (ข้อสังเกต)
- Zero conditional กับ first conditional ต่างกันตรงที่ใช้
กับสถานการณ์คนละประเภทดังได้กล่าวไปแล้ว ดู
ตัวอย่างชัดๆอีกทีนะคะ
- Zero conditional: If you sit in the sun, you get burned.
(ใครก็ตามที่) นั่งตากแดดจะผิวไหม้
- First conditional: If you sit in the sun, you’ll get
burned. ถ้าเธอนั่งตากแดดผิวเธอจะไหม้นะ
12. 3. SECOND Conditional Sentences ใช้กับเหตุการณ์
ที่ตรงข้ามความจริงในปัจจุบัน หรือ อนาคต
First conditional ใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูดคาดคะเนว่าจะ
เกิดขึ้น แต่ Second conditional จะใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูด
คิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เช่น
First conditional: If she studies harder, she’ll pass the
exam. ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอจะสอบผ่าน (คิดว่า
เป็นไปได้)
13. Second conditional: If she studied harder, she
would pass the exam. ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอคง
สอบผ่าน (แต่ผู้พูดไม่คิดว่าจะเป็นไปได้คือ คิดว่าเธอ
คงไม่ตั้งใจมากขึ้น และเธอคงสอบไม่ผ่าน)
if + past simple, …would + infinitive
(สังเกต ว่าอนุประโยคที่ต่อหลัง if ถ้าคากิริยาเป็น verb to be
จะใช้were ได้กับประธานทุกตัว เช่น If I were you… ถ้าฉัน
เป็นเธอ… แต่จะใช้ was ตรงตามประธานก็ได้ค่ะ)
14. – ใช้พูดถึงความใฝ่ ฝันว่าอยากให้เกิดขึ้นในอนาคตแต่
อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ เช่น
• If I won the lottery, I would buy a big house. ถ้าถูกล็อ
ตเตอรี่จะซื้อบ้านหลังใหญ่ (ซึ่งคิดว่าคงไม่ถูกล็อตเตอรี่
หรอก)
• If I met the Queen of England, I would say hello. ถ้า
ได้พบราชีนีอังกฤษฉันจะกล่าวสวัสดี
15. • She would travel all over the world if she were rich.
เขาจะเที่ยวรอบโลกถ้ามีเงินมากๆ
• She would pass the exam if she ever studied. เธอคง
จะสอบผ่านหรอกถ้าเธอได้เคยอ่านหนังสือบ้าง (ซึ่ง
จริงๆไม้อ่านเลย)
16. – ใช้พูดถึงเหตการณ์ในปัจจุบันที่เป็นไปไม่ได้เลย ไม่จริง
เลย เช่น
• If I had his number, I would call him. ถ้ามีเบอร์เขาฉัน
จะโทรหาเขา (แต่จริงๆฉันไม่มีเบอร์เขา)
• If I were you, I wouldn’t go out with that man. ถ้าฉัน
เป็นเธอฉันจะไม่ไปเที่ยวกับเขา
17. Note (ข้อสังเกต)
ประโยค second conditional ต่างกับ first conditional
ตรงที่แบบนี้มีความเป็นไปได้น้อยมาก เช่น
- Second conditional: If I had enough money I would
buy a house with twenty bedrooms and a swimming
pool. ถ้ามีเงินพอฉันจะซื้อบ้านที่มีห้องยี่สิบห้องกับสระ
ว่ายน้า (ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เป็นแค่ฝัน)
18. Note (ข้อสังเกต)
First conditional: If I have enough money, I’ll buy some
new shoes. ถ้ามีเงินพอฉันจะซื้อรองเท้าใหม่ (มีความ
เป็นไปได้มากกว่ามาก)
19. 4. THIRD Conditional Sentences ใช้กับเหตุการณ์ที่
ตรงข้ามความจริงในอดีต
ประโยค conditional แบบสุดท้ายใช้ If + past perfect
(subject + had + V3) คู่กับ would have + V3 ค่ะ
ประโยคแบบนี้ใช้พูดเกี่ยวกับอดีตที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ว่า
ถ้าเกิดขึ้นแล้วจะเป็นอย่างไร
if + past perfect, …would + have + past participle
20. - If she had studied, she would have passed the
exam. ถ้าเขาอ่านหนังสือ เขาคงสอบผ่านไปแล้ว (ซึ่งจริงๆ
ผู้พูดรู้ว่าไม่ได้อ่านและสอบตก)
- If I hadn’t eaten so much, I wouldn’t have felt sick.
ถ้ากินไม่มากฉันคงไม่ป่วย (แต่จริงๆฉันกินเยอะ จึงป่วย)
- If we had taken a taxi, we wouldn’t have
missed the plane. ถ้าเราขึ้นแท็กซี่มาเราคงไม่ตกเครื่องบิน
21. - She wouldn’t have been tired if she had
gone to bed earlier. เธอจะไม่เพลียถ้าเข้านอนเร็วกว่านี้
- She would have become a teacher if she had
gone to university. เธอคงจะเป็นครูถ้าเธอเข้าเรียนใน
มหาวิทยาลัย
- He would have been on time for the interview
if he had left the house at nine. เขาคงมาสัมภาษณ์
ทันเวลาถ้าออกจากบ้านตอนเก้าโมง
23. - She would be a rich widow now if she’d
married him. เธอคงจะได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐีไปแล้วถ้า
เธอแต่งงานกับเขา (ตอนนั้นไม่แต่งกับเขา ตอนนี้เลย
ไม่ได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐี)
- If I’d studied law, I’d be an attorney now. ถ้า
ตอนนั้นเรียนนิติตอนนี้ฉันก็คงจะเป็นทนายความแล้ว