Submit Search
Upload
FINNOMENA FUNDS Weekly Market Insight 228
•
0 likes
•
1,002 views
F
FINNOMENAMarketing
Follow
FINNOMENA FUNDS Weekly Market Insight 228
Read less
Read more
Economy & Finance
Report
Share
Report
Share
1 of 23
Download now
Download to read offline
Recommended
FINNOMENA Weekly Market Insight 230.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 230.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 230.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 229.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 229.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 229.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_7_#239.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_7_#239.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_7_#239.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_6_#238.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_6_#238.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_6_#238.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_3_#235.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_3_#235.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_3_#235.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_2_#234.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_2_#234.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_2_#234.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 226.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 226.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 226.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_5_#237.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_5_#237.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_5_#237.pdf
Recommended
FINNOMENA Weekly Market Insight 230.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 230.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 230.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 229.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 229.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 229.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_7_#239.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_7_#239.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_7_#239.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_6_#238.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_6_#238.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_6_#238.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_3_#235.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_3_#235.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_3_#235.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_2_#234.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_2_#234.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_2_#234.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 226.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 226.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 226.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_5_#237.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_5_#237.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_5_#237.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 232.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 232.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 232.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_1_#233.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_1_#233.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_1_#233.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 223.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 223.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 223.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 227.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 227.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight
FINNOMENA Weekly Market Insight 231.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 231.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 231.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 225.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225 (1).pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225 (1).pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 22
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240
FINNOMENA Weekly Market Insight 221
FINNOMENA Weekly Market Insight 221
Tanh855114
FINNOMENA Weekly Market Insight 221
FINNOMENA Weekly Market Insight 221.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 221.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 221.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_10_#242 (1).pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_10_#242 (1).pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_10_#242 (1).pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 224.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 224.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 224.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 222.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 222.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 222.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_4_#236.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_4_#236.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_4_#236.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_9_#241.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_9_#241.pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_9_#241.pdf
SCB EIC Monthly Jan 24
SCB EIC Monthly Jan 24
SCBEICSCB
เศรษฐกิจโลกปี 2024 เศรษฐกิจโลกในปี 2024 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง จากผลของนโยบายการเงินตึงตัวต่อเนื่องและตลาดแรงงานอ่อนแอลง อีกทั้ง ยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนรอบด้าน โดยในปีนี้จะมีการเลือกตั้งใหญ่กว่า 60 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจรวมสูงกว่า 60% ของโลก นอกจากนี้ การค้าและห่วงโซ่อุปทานโลกเผชิญความเสี่ยงใหม่จากการโจมตีเรือขนส่งสินค้าในบริเวณทะเลแดงและปัญหาน้ำแล้งในคลองปานามา ก่อให้เกิดความแออัดในการขนส่งทางเรือหรือต้องปรับเส้นทางเดินเรือ ทำให้ระยะเวลาการเดินทางและต้นทุนขนส่งสูงขึ้น ธนาคารกลางในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักมีแนวโน้มจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาส 2 จากเงินเฟ้อที่มีทิศทางชะลอลง สำหรับจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่องผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมาย (Required Reserve Ratio : RRR) ขณะที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบปีนี้ เศรษฐกิจไทยปี 2024 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2024 แรงส่งหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชนตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้น มาตรการลดค่าครองชีพและโครงการ Easy e-receipt กระตุ้นการใช้จ่าย ทั้งนี้ ผลบวกของโครงการนี้อาจไม่มากเท่าในอดีต เนื่องจากเงื่อนไขจำกัดเฉพาะร้านที่ออก e-Tax Invoice ได้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีแรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นต่อเนื่องและการส่งออกที่กลับมาขยายตัวได้ สอดคล้องกับการผลิตบางอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้น เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ปัจจัยกดดันเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมาจากการประกาศใช้ พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2024 ล่าช้ากดดันการลงทุนภาครัฐในช่วงครึ่งปีแรก ตลอดจนความไม่แน่นอนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความเสี่ยงใหม่ในตะวันออกกลางที่อาจกระทบการขนส่งทางทะเล และทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกชะงักขึ้นได้อีก สำหรับเงินเฟ้อไทย แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะติดลบต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อน แต่ส่วนใหญ่เป็นผลจากมาตรการช่วยค่าครองชีพประชาชน โดย SCB EIC ประเมินว่า ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เงินเฟ้อติดลบยังไม่กระจายตัวรายสินค้าเป็นวงกว้าง และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก มองไปข้างหน้าเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปทานเป็นหลัก กดดันปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยที่ยังอยู่ในระดับสูงและรายได้กลุ่มเปราะบางฟื้นช้า แนวโน้มหนี้ครัวเรือนไทย สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยยังน่ากังวลสอดคล้องกับผลสำรวจ SCB EIC Consumer survey 2023 พบว่า กลุ่มคนรายได้น้อยเผชิญปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้นหลังวิกฤตโควิดและยังมีปัญหารายได้ไม่พอรายจ่ายอยู่มาก โดยผู้มีรายได้น้อยกว่า 1 ใน 3 ประกอบอาชีพอิสระ/รับจ้างทั่วไป ซึ่งมีแนวโน้มเป็นแรงงานนอกระบบที่รายได้ไม่มากและเข้าไม่ถึงระบบประกันสังคม ประกอบกับกลุ่มนี้มีวิธีบริหารจัดการหนี้ที่ยังไม่ดีนัก จึงพึ่งพาหนี้นอกระบบสูง และมีแนวโน้มติดอยู่ในวงจรหนี้อีกนาน จึงต้องอาศัยนโยบายระยะสั้น เพิ่มสภาพคล่องและแก้หนี้ให้กลุ่มครัวเรือนเปราะบาง ควบคู่กับนโยบายระยะยาว เพิ่มภูมิคุ้มกันคนไทย เช่น ปรับทักษะช่วยยกระดับรายได้ยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนแรงงานทำงานในระบบให้เข้าถึงสวัสดิการประกันสังคม และเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินส่วนบุคคล แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 2024 SCB EIC คาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงอยู่ที่ระดับ 2.5% ตลอดปีนี้ เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่าเป็นระดับที่เหมาะสมกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสู่ศักยภาพและเอื้อให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย read more : https://www.scbeic.com/th/detail/product/eic-monthly-0124
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
SCBEICSCB
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอลงชัดเจนขึ้น จากเงินเฟ้อโลกที่ชะลอลงช้า และคาดว่าจะอยู่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางนาน 1-2 ปี เศรษฐกิจโลกชะลอตัวเร็วขึ้น เป็นผลจากธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้ภาวะการเงินตึงตัวทั่วโลก เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มแผ่วลงมากขึ้นและคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 จากนโยบายการเงินตึงตัวที่เข้าสู่ระดับ Restrictive นานขึ้น เศรษฐกิจยูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงปลายปี 2022 จากวิกฤตพลังงานและนโยบายการเงินตึงตัวเร็ว เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงมากจากมาตรการ Zero COVID ที่ยังคงดำเนินอยู่ประกอบกับความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ EIC มองว่าหากนโยบายการเงินโลกตึงตัวมากขึ้นอีก 100-200 BPSจากกรณีฐาน เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวรุนแรงหรือเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในปีหน้า สำหรับเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets) ที่มีหนี้สูง ภาครัฐจะเผชิญต้นทุนกู้ยืมแพงขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงิน (Financial distress) และมีข้อจำกัดทางการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4 ช่วงฤดูท่องเที่ยวไทย การบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นเกือบทุกหมวด ในระยะต่อไปยังมีปัจจัยหนุนจากการจ้างงานโดยเฉพาะในภาคบริการและรายได้ภาคท่องเที่ยวและภาคบริการที่ปรับดีขึ้น แต่ยังมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูงและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น การส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากฐานต่ำ แต่เริ่มเห็นการหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนในเกือบทุกกลุ่มสินค้าหลักและในตลาดสำคัญ ในระยะต่อไปการส่งออกจะชะลอลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เช่นเดียวกับทิศทางการลงทุนและการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีนี้ EIC ประเมินว่า ในกรณีฐานผลกระทบจะไม่รุนแรงเท่าในปี 2011 โดยเบื้องต้นคาดว่าพื้นที่เกษตรจะได้รับผลกระทบ 1.9 ล้านไร่ หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 12,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น จะต้องติดตามประเมินผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า และการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ด้านเงินเฟ้อทั่วไปผ่านจุดสูงสุดแล้ว จากราคาหมวดพลังงานที่ปรับชะลอลง แต่เงินเฟ้อขยายวงกว้างไปสินค้าหลายประเภทมากขึ้นทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวสูงกว่ากรอบเป้าหมาย ในระยะต่อไปคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับลดลงอย่างช้า ๆ โดยจะเห็นการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ผลิตสู่ราคาผู้บริโภคมากขึ้น EIC คาดดอกเบี้ยนโยบายแตะ 2% ณ สิ้นปี EIC คาดว่า กนง. จะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับ 2% ณ สิ้นปี 2023 โดย กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีก 25 BPS ในเดือน พ.ย. สู่ระดับ 1.25% ณ สิ้นปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดแล้ว แม้จะไม่ปรับลดลงเร็วนัก ประกอบกับเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในปี 2023 กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้ง เพื่อให้นโยบายการเงินทยอยกลับสู่ระดับที่เหมาะสมกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยระยะยาว โดย EIC คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไประดับ Pre-COVID ได้ในช่วงกลางปี 2023 แต่จะอยู่ต่ำกว่าระดับศักยภาพไปอีก 1-2 ปี จากแผลเป็นเศรษฐกิจที่ลึกและมีหนี้สูงขึ้น
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
SCBEICSCB
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอลงชัดเจนขึ้น จากเงินเฟ้อโลกที่ชะลอลงช้า และคาดว่าจะอยู่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางนาน 1-2 ปี เศรษฐกิจโลกชะลอตัวเร็วขึ้น เป็นผลจากธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้ภาวะการเงินตึงตัวทั่วโลก เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มแผ่วลงมากขึ้นและคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 จากนโยบายการเงินตึงตัวที่เข้าสู่ระดับ Restrictive นานขึ้น เศรษฐกิจยูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงปลายปี 2022 จากวิกฤตพลังงานและนโยบายการเงินตึงตัวเร็ว เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงมากจากมาตรการ Zero COVID ที่ยังคงดำเนินอยู่ประกอบกับความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ EIC มองว่าหากนโยบายการเงินโลกตึงตัวมากขึ้นอีก 100-200 BPSจากกรณีฐาน เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวรุนแรงหรือเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในปีหน้า สำหรับเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets) ที่มีหนี้สูง ภาครัฐจะเผชิญต้นทุนกู้ยืมแพงขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงิน (Financial distress) และมีข้อจำกัดทางการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4 ช่วงฤดูท่องเที่ยวไทย การบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นเกือบทุกหมวด ในระยะต่อไปยังมีปัจจัยหนุนจากการจ้างงานโดยเฉพาะในภาคบริการและรายได้ภาคท่องเที่ยวและภาคบริการที่ปรับดีขึ้น แต่ยังมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูงและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น การส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากฐานต่ำ แต่เริ่มเห็นการหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนในเกือบทุกกลุ่มสินค้าหลักและในตลาดสำคัญ ในระยะต่อไปการส่งออกจะชะลอลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เช่นเดียวกับทิศทางการลงทุนและการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีนี้ EIC ประเมินว่า ในกรณีฐานผลกระทบจะไม่รุนแรงเท่าในปี 2011 โดยเบื้องต้นคาดว่าพื้นที่เกษตรจะได้รับผลกระทบ 1.9 ล้านไร่ หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 12,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น จะต้องติดตามประเมินผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า และการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ด้านเงินเฟ้อทั่วไปผ่านจุดสูงสุดแล้ว จากราคาหมวดพลังงานที่ปรับชะลอลง แต่เงินเฟ้อขยายวงกว้างไปสินค้าหลายประเภทมากขึ้นทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวสูงกว่ากรอบเป้าหมาย ในระยะต่อไปคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับลดลงอย่างช้า ๆ โดยจะเห็นการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ผลิตสู่ราคาผู้บริโภคมากขึ้น EIC คาดดอกเบี้ยนโยบายแตะ 2% ณ สิ้นปี EIC คาดว่า กนง. จะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับ 2% ณ สิ้นปี 2023 โดย กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีก 25 BPS ในเดือน พ.ย. สู่ระดับ 1.25% ณ สิ้นปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดแล้ว แม้จะไม่ปรับลดลงเร็วนัก ประกอบกับเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในปี 2023 กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้ง เพื่อให้นโยบายการเงินทยอยกลับสู่ระดับที่เหมาะสมกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยระยะยาว โดย EIC คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไประดับ Pre-COVID ได้ในช่วงกลางปี 2023 แต่จะอยู่ต่ำกว่าระดับศักยภาพไปอีก 1-2 ปี จากแผลเป็นเศรษฐกิจที่ลึกและมีหนี้สูงขึ้น
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
SCBEICSCB
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอลงชัดเจนขึ้น จากเงินเฟ้อโลกที่ชะลอลงช้า และคาดว่าจะอยู่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางนาน 1-2 ปี เศรษฐกิจโลกชะลอตัวเร็วขึ้น เป็นผลจากธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้ภาวะการเงินตึงตัวทั่วโลก เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มแผ่วลงมากขึ้นและคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 จากนโยบายการเงินตึงตัวที่เข้าสู่ระดับ Restrictive นานขึ้น เศรษฐกิจยูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงปลายปี 2022 จากวิกฤตพลังงานและนโยบายการเงินตึงตัวเร็ว เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงมากจากมาตรการ Zero COVID ที่ยังคงดำเนินอยู่ประกอบกับความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ EIC มองว่าหากนโยบายการเงินโลกตึงตัวมากขึ้นอีก 100-200 BPSจากกรณีฐาน เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวรุนแรงหรือเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในปีหน้า สำหรับเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets) ที่มีหนี้สูง ภาครัฐจะเผชิญต้นทุนกู้ยืมแพงขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงิน (Financial distress) และมีข้อจำกัดทางการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4 ช่วงฤดูท่องเที่ยวไทย การบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นเกือบทุกหมวด ในระยะต่อไปยังมีปัจจัยหนุนจากการจ้างงานโดยเฉพาะในภาคบริการและรายได้ภาคท่องเที่ยวและภาคบริการที่ปรับดีขึ้น แต่ยังมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูงและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น การส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากฐานต่ำ แต่เริ่มเห็นการหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนในเกือบทุกกลุ่มสินค้าหลักและในตลาดสำคัญ ในระยะต่อไปการส่งออกจะชะลอลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เช่นเดียวกับทิศทางการลงทุนและการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีนี้ EIC ประเมินว่า ในกรณีฐานผลกระทบจะไม่รุนแรงเท่าในปี 2011 โดยเบื้องต้นคาดว่าพื้นที่เกษตรจะได้รับผลกระทบ 1.9 ล้านไร่ หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 12,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น จะต้องติดตามประเมินผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า และการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ด้านเงินเฟ้อทั่วไปผ่านจุดสูงสุดแล้ว จากราคาหมวดพลังงานที่ปรับชะลอลง แต่เงินเฟ้อขยายวงกว้างไปสินค้าหลายประเภทมากขึ้นทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวสูงกว่ากรอบเป้าหมาย ในระยะต่อไปคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับลดลงอย่างช้า ๆ โดยจะเห็นการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ผลิตสู่ราคาผู้บริโภคมากขึ้น EIC คาดดอกเบี้ยนโยบายแตะ 2% ณ สิ้นปี EIC คาดว่า กนง. จะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับ 2% ณ สิ้นปี 2023 โดย กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีก 25 BPS ในเดือน พ.ย. สู่ระดับ 1.25% ณ สิ้นปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดแล้ว แม้จะไม่ปรับลดลงเร็วนัก ประกอบกับเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในปี 2023 กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้ง เพื่อให้นโยบายการเงินทยอยกลับสู่ระดับที่เหมาะสมกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยระยะยาว โดย EIC คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไประดับ Pre-COVID ได้ในช่วงกลางปี 2023 แต่จะอยู่ต่ำกว่าระดับศักยภาพไปอีก 1-2 ปี จากแผลเป็นเศรษฐกิจที่ลึกและมีหนี้สูงขึ้น
20240606_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review May 2024.pdf
20240606_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review May 2024.pdf
FINNOMENAMarketing
A. Stotz All Weather Strategy - Performance review
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249 (1).pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249 (1).pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249 (1).pdf
More Related Content
Similar to FINNOMENA FUNDS Weekly Market Insight 228
FINNOMENA Weekly Market Insight 232.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 232.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 232.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_1_#233.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_1_#233.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_1_#233.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 223.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 223.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 223.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 227.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 227.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight
FINNOMENA Weekly Market Insight 231.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 231.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 231.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 225.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225 (1).pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225 (1).pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 22
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240
FINNOMENA Weekly Market Insight 221
FINNOMENA Weekly Market Insight 221
Tanh855114
FINNOMENA Weekly Market Insight 221
FINNOMENA Weekly Market Insight 221.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 221.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 221.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_10_#242 (1).pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_10_#242 (1).pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_10_#242 (1).pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 224.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 224.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 224.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 222.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 222.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 222.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_4_#236.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_4_#236.pdf
FINNOMENAMarketing
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_4_#236.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_9_#241.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_9_#241.pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_9_#241.pdf
SCB EIC Monthly Jan 24
SCB EIC Monthly Jan 24
SCBEICSCB
เศรษฐกิจโลกปี 2024 เศรษฐกิจโลกในปี 2024 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง จากผลของนโยบายการเงินตึงตัวต่อเนื่องและตลาดแรงงานอ่อนแอลง อีกทั้ง ยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนรอบด้าน โดยในปีนี้จะมีการเลือกตั้งใหญ่กว่า 60 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจรวมสูงกว่า 60% ของโลก นอกจากนี้ การค้าและห่วงโซ่อุปทานโลกเผชิญความเสี่ยงใหม่จากการโจมตีเรือขนส่งสินค้าในบริเวณทะเลแดงและปัญหาน้ำแล้งในคลองปานามา ก่อให้เกิดความแออัดในการขนส่งทางเรือหรือต้องปรับเส้นทางเดินเรือ ทำให้ระยะเวลาการเดินทางและต้นทุนขนส่งสูงขึ้น ธนาคารกลางในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักมีแนวโน้มจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาส 2 จากเงินเฟ้อที่มีทิศทางชะลอลง สำหรับจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่องผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมาย (Required Reserve Ratio : RRR) ขณะที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบปีนี้ เศรษฐกิจไทยปี 2024 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2024 แรงส่งหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชนตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้น มาตรการลดค่าครองชีพและโครงการ Easy e-receipt กระตุ้นการใช้จ่าย ทั้งนี้ ผลบวกของโครงการนี้อาจไม่มากเท่าในอดีต เนื่องจากเงื่อนไขจำกัดเฉพาะร้านที่ออก e-Tax Invoice ได้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีแรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นต่อเนื่องและการส่งออกที่กลับมาขยายตัวได้ สอดคล้องกับการผลิตบางอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้น เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ปัจจัยกดดันเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมาจากการประกาศใช้ พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2024 ล่าช้ากดดันการลงทุนภาครัฐในช่วงครึ่งปีแรก ตลอดจนความไม่แน่นอนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความเสี่ยงใหม่ในตะวันออกกลางที่อาจกระทบการขนส่งทางทะเล และทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกชะงักขึ้นได้อีก สำหรับเงินเฟ้อไทย แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะติดลบต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อน แต่ส่วนใหญ่เป็นผลจากมาตรการช่วยค่าครองชีพประชาชน โดย SCB EIC ประเมินว่า ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เงินเฟ้อติดลบยังไม่กระจายตัวรายสินค้าเป็นวงกว้าง และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก มองไปข้างหน้าเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปทานเป็นหลัก กดดันปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยที่ยังอยู่ในระดับสูงและรายได้กลุ่มเปราะบางฟื้นช้า แนวโน้มหนี้ครัวเรือนไทย สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยยังน่ากังวลสอดคล้องกับผลสำรวจ SCB EIC Consumer survey 2023 พบว่า กลุ่มคนรายได้น้อยเผชิญปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้นหลังวิกฤตโควิดและยังมีปัญหารายได้ไม่พอรายจ่ายอยู่มาก โดยผู้มีรายได้น้อยกว่า 1 ใน 3 ประกอบอาชีพอิสระ/รับจ้างทั่วไป ซึ่งมีแนวโน้มเป็นแรงงานนอกระบบที่รายได้ไม่มากและเข้าไม่ถึงระบบประกันสังคม ประกอบกับกลุ่มนี้มีวิธีบริหารจัดการหนี้ที่ยังไม่ดีนัก จึงพึ่งพาหนี้นอกระบบสูง และมีแนวโน้มติดอยู่ในวงจรหนี้อีกนาน จึงต้องอาศัยนโยบายระยะสั้น เพิ่มสภาพคล่องและแก้หนี้ให้กลุ่มครัวเรือนเปราะบาง ควบคู่กับนโยบายระยะยาว เพิ่มภูมิคุ้มกันคนไทย เช่น ปรับทักษะช่วยยกระดับรายได้ยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนแรงงานทำงานในระบบให้เข้าถึงสวัสดิการประกันสังคม และเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินส่วนบุคคล แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 2024 SCB EIC คาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงอยู่ที่ระดับ 2.5% ตลอดปีนี้ เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่าเป็นระดับที่เหมาะสมกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสู่ศักยภาพและเอื้อให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย read more : https://www.scbeic.com/th/detail/product/eic-monthly-0124
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
SCBEICSCB
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอลงชัดเจนขึ้น จากเงินเฟ้อโลกที่ชะลอลงช้า และคาดว่าจะอยู่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางนาน 1-2 ปี เศรษฐกิจโลกชะลอตัวเร็วขึ้น เป็นผลจากธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้ภาวะการเงินตึงตัวทั่วโลก เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มแผ่วลงมากขึ้นและคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 จากนโยบายการเงินตึงตัวที่เข้าสู่ระดับ Restrictive นานขึ้น เศรษฐกิจยูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงปลายปี 2022 จากวิกฤตพลังงานและนโยบายการเงินตึงตัวเร็ว เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงมากจากมาตรการ Zero COVID ที่ยังคงดำเนินอยู่ประกอบกับความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ EIC มองว่าหากนโยบายการเงินโลกตึงตัวมากขึ้นอีก 100-200 BPSจากกรณีฐาน เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวรุนแรงหรือเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในปีหน้า สำหรับเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets) ที่มีหนี้สูง ภาครัฐจะเผชิญต้นทุนกู้ยืมแพงขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงิน (Financial distress) และมีข้อจำกัดทางการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4 ช่วงฤดูท่องเที่ยวไทย การบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นเกือบทุกหมวด ในระยะต่อไปยังมีปัจจัยหนุนจากการจ้างงานโดยเฉพาะในภาคบริการและรายได้ภาคท่องเที่ยวและภาคบริการที่ปรับดีขึ้น แต่ยังมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูงและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น การส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากฐานต่ำ แต่เริ่มเห็นการหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนในเกือบทุกกลุ่มสินค้าหลักและในตลาดสำคัญ ในระยะต่อไปการส่งออกจะชะลอลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เช่นเดียวกับทิศทางการลงทุนและการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีนี้ EIC ประเมินว่า ในกรณีฐานผลกระทบจะไม่รุนแรงเท่าในปี 2011 โดยเบื้องต้นคาดว่าพื้นที่เกษตรจะได้รับผลกระทบ 1.9 ล้านไร่ หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 12,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น จะต้องติดตามประเมินผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า และการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ด้านเงินเฟ้อทั่วไปผ่านจุดสูงสุดแล้ว จากราคาหมวดพลังงานที่ปรับชะลอลง แต่เงินเฟ้อขยายวงกว้างไปสินค้าหลายประเภทมากขึ้นทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวสูงกว่ากรอบเป้าหมาย ในระยะต่อไปคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับลดลงอย่างช้า ๆ โดยจะเห็นการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ผลิตสู่ราคาผู้บริโภคมากขึ้น EIC คาดดอกเบี้ยนโยบายแตะ 2% ณ สิ้นปี EIC คาดว่า กนง. จะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับ 2% ณ สิ้นปี 2023 โดย กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีก 25 BPS ในเดือน พ.ย. สู่ระดับ 1.25% ณ สิ้นปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดแล้ว แม้จะไม่ปรับลดลงเร็วนัก ประกอบกับเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในปี 2023 กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้ง เพื่อให้นโยบายการเงินทยอยกลับสู่ระดับที่เหมาะสมกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยระยะยาว โดย EIC คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไประดับ Pre-COVID ได้ในช่วงกลางปี 2023 แต่จะอยู่ต่ำกว่าระดับศักยภาพไปอีก 1-2 ปี จากแผลเป็นเศรษฐกิจที่ลึกและมีหนี้สูงขึ้น
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
SCBEICSCB
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอลงชัดเจนขึ้น จากเงินเฟ้อโลกที่ชะลอลงช้า และคาดว่าจะอยู่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางนาน 1-2 ปี เศรษฐกิจโลกชะลอตัวเร็วขึ้น เป็นผลจากธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้ภาวะการเงินตึงตัวทั่วโลก เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มแผ่วลงมากขึ้นและคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 จากนโยบายการเงินตึงตัวที่เข้าสู่ระดับ Restrictive นานขึ้น เศรษฐกิจยูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงปลายปี 2022 จากวิกฤตพลังงานและนโยบายการเงินตึงตัวเร็ว เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงมากจากมาตรการ Zero COVID ที่ยังคงดำเนินอยู่ประกอบกับความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ EIC มองว่าหากนโยบายการเงินโลกตึงตัวมากขึ้นอีก 100-200 BPSจากกรณีฐาน เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวรุนแรงหรือเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในปีหน้า สำหรับเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets) ที่มีหนี้สูง ภาครัฐจะเผชิญต้นทุนกู้ยืมแพงขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงิน (Financial distress) และมีข้อจำกัดทางการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4 ช่วงฤดูท่องเที่ยวไทย การบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นเกือบทุกหมวด ในระยะต่อไปยังมีปัจจัยหนุนจากการจ้างงานโดยเฉพาะในภาคบริการและรายได้ภาคท่องเที่ยวและภาคบริการที่ปรับดีขึ้น แต่ยังมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูงและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น การส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากฐานต่ำ แต่เริ่มเห็นการหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนในเกือบทุกกลุ่มสินค้าหลักและในตลาดสำคัญ ในระยะต่อไปการส่งออกจะชะลอลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เช่นเดียวกับทิศทางการลงทุนและการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีนี้ EIC ประเมินว่า ในกรณีฐานผลกระทบจะไม่รุนแรงเท่าในปี 2011 โดยเบื้องต้นคาดว่าพื้นที่เกษตรจะได้รับผลกระทบ 1.9 ล้านไร่ หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 12,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น จะต้องติดตามประเมินผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า และการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ด้านเงินเฟ้อทั่วไปผ่านจุดสูงสุดแล้ว จากราคาหมวดพลังงานที่ปรับชะลอลง แต่เงินเฟ้อขยายวงกว้างไปสินค้าหลายประเภทมากขึ้นทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวสูงกว่ากรอบเป้าหมาย ในระยะต่อไปคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับลดลงอย่างช้า ๆ โดยจะเห็นการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ผลิตสู่ราคาผู้บริโภคมากขึ้น EIC คาดดอกเบี้ยนโยบายแตะ 2% ณ สิ้นปี EIC คาดว่า กนง. จะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับ 2% ณ สิ้นปี 2023 โดย กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีก 25 BPS ในเดือน พ.ย. สู่ระดับ 1.25% ณ สิ้นปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดแล้ว แม้จะไม่ปรับลดลงเร็วนัก ประกอบกับเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในปี 2023 กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้ง เพื่อให้นโยบายการเงินทยอยกลับสู่ระดับที่เหมาะสมกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยระยะยาว โดย EIC คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไประดับ Pre-COVID ได้ในช่วงกลางปี 2023 แต่จะอยู่ต่ำกว่าระดับศักยภาพไปอีก 1-2 ปี จากแผลเป็นเศรษฐกิจที่ลึกและมีหนี้สูงขึ้น
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
SCBEICSCB
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอลงชัดเจนขึ้น จากเงินเฟ้อโลกที่ชะลอลงช้า และคาดว่าจะอยู่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางนาน 1-2 ปี เศรษฐกิจโลกชะลอตัวเร็วขึ้น เป็นผลจากธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้ภาวะการเงินตึงตัวทั่วโลก เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มแผ่วลงมากขึ้นและคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 จากนโยบายการเงินตึงตัวที่เข้าสู่ระดับ Restrictive นานขึ้น เศรษฐกิจยูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงปลายปี 2022 จากวิกฤตพลังงานและนโยบายการเงินตึงตัวเร็ว เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงมากจากมาตรการ Zero COVID ที่ยังคงดำเนินอยู่ประกอบกับความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ EIC มองว่าหากนโยบายการเงินโลกตึงตัวมากขึ้นอีก 100-200 BPSจากกรณีฐาน เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวรุนแรงหรือเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในปีหน้า สำหรับเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets) ที่มีหนี้สูง ภาครัฐจะเผชิญต้นทุนกู้ยืมแพงขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงิน (Financial distress) และมีข้อจำกัดทางการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4 ช่วงฤดูท่องเที่ยวไทย การบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นเกือบทุกหมวด ในระยะต่อไปยังมีปัจจัยหนุนจากการจ้างงานโดยเฉพาะในภาคบริการและรายได้ภาคท่องเที่ยวและภาคบริการที่ปรับดีขึ้น แต่ยังมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูงและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น การส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากฐานต่ำ แต่เริ่มเห็นการหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนในเกือบทุกกลุ่มสินค้าหลักและในตลาดสำคัญ ในระยะต่อไปการส่งออกจะชะลอลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เช่นเดียวกับทิศทางการลงทุนและการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีนี้ EIC ประเมินว่า ในกรณีฐานผลกระทบจะไม่รุนแรงเท่าในปี 2011 โดยเบื้องต้นคาดว่าพื้นที่เกษตรจะได้รับผลกระทบ 1.9 ล้านไร่ หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 12,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น จะต้องติดตามประเมินผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า และการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ด้านเงินเฟ้อทั่วไปผ่านจุดสูงสุดแล้ว จากราคาหมวดพลังงานที่ปรับชะลอลง แต่เงินเฟ้อขยายวงกว้างไปสินค้าหลายประเภทมากขึ้นทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวสูงกว่ากรอบเป้าหมาย ในระยะต่อไปคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับลดลงอย่างช้า ๆ โดยจะเห็นการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ผลิตสู่ราคาผู้บริโภคมากขึ้น EIC คาดดอกเบี้ยนโยบายแตะ 2% ณ สิ้นปี EIC คาดว่า กนง. จะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับ 2% ณ สิ้นปี 2023 โดย กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีก 25 BPS ในเดือน พ.ย. สู่ระดับ 1.25% ณ สิ้นปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดแล้ว แม้จะไม่ปรับลดลงเร็วนัก ประกอบกับเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในปี 2023 กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้ง เพื่อให้นโยบายการเงินทยอยกลับสู่ระดับที่เหมาะสมกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยระยะยาว โดย EIC คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไประดับ Pre-COVID ได้ในช่วงกลางปี 2023 แต่จะอยู่ต่ำกว่าระดับศักยภาพไปอีก 1-2 ปี จากแผลเป็นเศรษฐกิจที่ลึกและมีหนี้สูงขึ้น
Similar to FINNOMENA FUNDS Weekly Market Insight 228
(20)
FINNOMENA Weekly Market Insight 232.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 232.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_1_#233.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_1_#233.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 223.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 223.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 227.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 227.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 231.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 231.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225 (1).pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 225 (1).pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_8_#240.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 221
FINNOMENA Weekly Market Insight 221
FINNOMENA Weekly Market Insight 221.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 221.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_10_#242 (1).pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_10_#242 (1).pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 224.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 224.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 222.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 222.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_4_#236.pdf
FINNOMENA Weekly Market Insight 2024_4_#236.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_9_#241.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_9_#241.pdf
SCB EIC Monthly Jan 24
SCB EIC Monthly Jan 24
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น EIC คาดเงินเฟ้อโลกชะลอช้าและอยู่สูงกว่าเ...
More from FINNOMENAMarketing
20240606_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review May 2024.pdf
20240606_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review May 2024.pdf
FINNOMENAMarketing
A. Stotz All Weather Strategy - Performance review
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249 (1).pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249 (1).pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249 (1).pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249.pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_16_#248.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_16_#248.pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_16_#248.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_15_#247.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_15_#247.pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_15_#247.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_14_#246.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_14_#246.pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_14_#246.pdf
20240503_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
20240503_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
FINNOMENAMarketing
A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review
Finnomena Weekly Market Insight 2024_13_#245.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_13_#245.pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_13_#245.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_12_#244.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_12_#244.pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_12_#244.pdf
20240403_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review March 2024.pdf
20240403_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review March 2024.pdf
FINNOMENAMarketing
A. Stotz All Weather Strategy - Performance
Finnomena Weekly Market Insight 2024_11_#243.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_11_#243.pdf
FINNOMENAMarketing
Finnomena Weekly Market Insight 2024_11_#243.pdf
20240305_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
20240305_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
FINNOMENAMarketing
A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review February 2024
20240305_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
20240305_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
FINNOMENAMarketing
A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review February 2024
Finnomena Monthly Investment Outlook Feb 2024
Finnomena Monthly Investment Outlook Feb 2024
FINNOMENAMarketing
Finnomena-Monthly-Feb-2024
20240205_A.-Stotz-All-Weather-Strategy-Performance-review-January-2024
20240205_A.-Stotz-All-Weather-Strategy-Performance-review-January-2024
FINNOMENAMarketing
A.Stotz All Weather Strategy Performance review
20240104_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review December 2023.pdf
20240104_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review December 2023.pdf
FINNOMENAMarketing
A. Stotz All Weather Strategy - Performance review
2024-Yearly-Outlook
2024-Yearly-Outlook
FINNOMENAMarketing
2024-Yearly-Outlook
A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review Dec 2023.pdf
A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review Dec 2023.pdf
FINNOMENAMarketing
A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review Dec 2023
More from FINNOMENAMarketing
(18)
20240606_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review May 2024.pdf
20240606_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review May 2024.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249 (1).pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249 (1).pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_17_#249.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_16_#248.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_16_#248.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_15_#247.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_15_#247.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_14_#246.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_14_#246.pdf
20240503_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
20240503_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
Finnomena Weekly Market Insight 2024_13_#245.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_13_#245.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_12_#244.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_12_#244.pdf
20240403_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review March 2024.pdf
20240403_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review March 2024.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_11_#243.pdf
Finnomena Weekly Market Insight 2024_11_#243.pdf
20240305_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
20240305_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
20240305_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
20240305_A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review ...
Finnomena Monthly Investment Outlook Feb 2024
Finnomena Monthly Investment Outlook Feb 2024
20240205_A.-Stotz-All-Weather-Strategy-Performance-review-January-2024
20240205_A.-Stotz-All-Weather-Strategy-Performance-review-January-2024
20240104_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review December 2023.pdf
20240104_A. Stotz All Weather Strategy - Performance review December 2023.pdf
2024-Yearly-Outlook
2024-Yearly-Outlook
A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review Dec 2023.pdf
A. Stotz All Weather Strategy - Weights update & Performance review Dec 2023.pdf
FINNOMENA FUNDS Weekly Market Insight 228
1.
20 - 24
Nov 2023 ISSUE 228
2.
FINNOMENA PORT Performance Source :
Marketwatch
3.
*หมายเหตุ “ผลการดําเนินงานในอดีต /
ผลการเปรียบเทียบผลการดําเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดําเนินงานในอนาคต” Copyright © 2020 FINNOMENA Company Limited. All rights reserved. Weekly PERFORMANCE ผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุน As of 15/11/23 Source : FINNOMENA FUNDS, Morningstar
4.
*หมายเหตุ “ผลการดําเนินงานในอดีต /
ผลการเปรียบเทียบผลการดําเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดําเนินงานในอนาคต” Copyright © 2020 FINNOMENA Company Limited. All rights reserved. Weekly PERFORMANCE ผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุน As of 15/11/23 Source : FINNOMENA FUNDS, Morningstar
5.
Your Week in
FINNOMENA อัปเดตตลาดประจําสัปดาห์ Source : NY Times
6.
สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลก (MSCI ACWI)
ปรับตัวขึ้น 2.9%WoW หลังสหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อเดือนต.ค.ชะลอตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้ ตลาดลดความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) ปรับตัวขึ้น 2.2% WoW และ Bond Yield สหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวลง 21 bpsWoWสู่ระดับ 4.4% ซึ่งยังหนุนต่อหุ้นเติบโตให้ปรับตัวขึ้นโดนเด่นในสัปดาห์ ที่ผ่าน โดยดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 2.4%WoW และหุ้นขนาดเล็กสหรัฐฯ (RUSSELL 2000) ปรับตัวขึ้น 5.4%WoW ตลาดหุ้นยุโรป (STOXX50) ปรับตัวขึ้น 2.8%WoW ได้ปัจจัยหนุนจากความ กังวลเรื่องเงินเฟ้อที่ลดลงหลังประกาศเงินเฟ้อเดือนต.ค. ที่มีแนวโน้มชะลอลง ตามคาด ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (TOPIX) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3%WoW แม้รายงาน GDP 3Q23 หดตัว 2.1%YoY แย่กว่าตลาดคาดว่าหดตัว 0.6%YoY ซึ่งหดตัวครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส โดยถูกกดดันจากอุปสงค์โลกชะลอตัวลงและเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ตลาดหุ้นจีน (CSI300) ปรับตัวลง 0.5%WoW หลังรายตัวเลขการลงทุนด้าน อสังหาริมทรัพย์ของจีนช่วง 10 เดือนแรกของปี 2023 ลดลง 9.3% ซึ่งแย่กว่าใน ช่วง 9 เดือนแรกที่ปรับตัวลง 9.1% สะท้อนว่าภาคอสังหาฯของจีนยังไม่มีการ ฟื้ นตัว ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสําคัญอื่นๆ เดือนต.ค. ดีกว่าคาดนําโดย ยอดค้า ปลีกขยายตัว 7.6%YoY สูงกว่าตลาดคาดที่ 7%YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน หน้าที่ขยายตัว 5.5%YoY และดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมขยายตัว 4.6%YoY สูง กว่าตลาดคาดที่ 4.4%YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 4.5%YoY Chinese Data dump Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 20/11/2023 What you have missed 3.9%
7.
Eyes on This
WEEK สิ่งที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ Source : The NY Times
8.
US Purchasing Managers
Index (PMI) Japan National CPI ติดตามการรายงานดัชนี PMI ของสหรัฐฯ เดือนพ.ย. (ประกาศครั้งแรก) โดยตลาดคาด PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯอยู่ที่ 49.9 จาก 50.0 ในเดือน ก่อนหน้า และดัชนี PMI ภาคการบริกาคตลาดคาดอยู่ที่ 50.4 จาก 50.6 ใน เดือนก่อนหน้า โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯมีทิศทางทรงตัวจากเดือนก่อน หน้า แม้ภาคการบริโภคในประเทศของสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง แต่ถูกกดดัน จากเศรษฐกิจยุโรปและจีนที่อ่อนแอ ซึ่งกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ ของสหรัฐฯ Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 20/11/2023 ในฝั ่ งญี่ปุ่นติดตามการรายงานดัชนีเงินเฟ้อแห่งชาติเดือน ต.ค. ตลาด คาดอยู่ที่ 3.4% จาก 3.0%YoY ในเดือน ก.ย. และเงินเฟ้อแห่งชาติพื้นฐาน ตลาดคาดอยู่ที่ 4.1%YoY จาก 4.2%YoY ในเดือนก.ย. โดยยังอยู่ในระดับสูง กว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ที่ระดับ 2.0% อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนจุดยืนด้านนโยบายการเงินอย่างมี นัยสําคัญ Eyes On This Week
9.
Charts of the
Week ประวัติศาสตร์สอนเราว่า ความตื่นเต้นเกี่ยว Soft Landing มักนําไปสู่ภาวะเศรษฐกิจ ถดถอย Jeff Schulze แห่ง ClearBridge Capital แสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยโดย ทั่วไปมักเกิดขึ้นหลังจากความสนใจในเรื่อง Soft Landing เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ประวัติศาสตร์สอน เราว่า Soft Landing มีโอกาสเกิดได้น้อยมาก โดยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นตั้งแต่ Fed ภาย ใต้ Paul Volcker ควบคุมเงินเฟ้อในช่วงปี 1980 แบบสํารวจการลงทุนของผู้จัดการกองทุนโลกซึ่งจัดทําโดย Bank of America Corp. ยังมองว่า Big Tech มีความน่าสนใจมากที่สุดในปัจจุบัน โดยมีสัดส่วนประมาณ 38% ตามด้วย การ Short Sell หุ้นจีนสั้น และตั๋วเงิน T-bills ระยะยาว โดยการสํารวจนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ สํารวจผู้จัดการกองทุนรายเดือนที่ทรงอิทธิพลของ BofA ดําเนินการเมื่อวันที่ 3-9 พฤศจิกายน และครอบคลุมผู้เข้าร่วม 225 คนที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 553 พันล้านดอลลาร์ Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 20/11/2023
10.
ตัวเลขเศรษฐกิจ ที่น่าจับตามองประจําสัปดาห์ Economic Calendar Source
: Getty Images
11.
Economic Calendar Source :
Investing.com Source : FINNOMENA FUNDS, Investing as of 20/11/2023
12.
Source : The
NY Times กลยุทธ์การลงทุนประจําสัปดาห์ Weekly Investment Strategy
13.
Monthly Views on
DM Equities Country Gauge Investment View Recommendation : ทยอยสะสม AFMOAT-HA สหรัฐอเมริกา ● ความเสี่ยงของการเกิด recession เลื่อนออกไป จากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยมี ภาคบริการที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่ Fed ใกล้ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ● ผลประกอบการดีกว่าคาด หนุนคาดการณ์กําไรฟื้นตัว เมื่อประกอบกับการปรับฐาน หนุน Valuation ตึงตัวน้อยลง Recommendation : ทยอยลดสัดส่วนการลงทุน ยุโรป ● ยังถูกกดดันโดยเงินเฟ้อที่สูง การขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการบริโภคที่อ่อนแรสร้าง แรงกดดันต่อเศรษฐกิจต่อเนื่อง ● คาดการณ์กําไรปี 2023 ยังทรงตัว แต่เริ่มเห็นสัญญาณการปรับคาดการณ์ปี 2024 ขึ้นเล็กน้อย Valuation ยังอยู่ในแดนถูก (PE 12X) แต่ระดับการเติบโตตํ่า จึง แนะนําทยอยลดสัดส่วนการลงทุน ญี่ปุ่น Recommendation : ทยอยลดสัดส่วนการลงทุน ● BOJ เริ่มส่งสัญญาณการ tighten ที่มากขึ้น หลังเพิ่มกรอบการเคลื่อนไหวของ JGB 10 ปี ยังต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังอยู่เหนือกรอบเป้าหมายที่ระดับ 3% ● Citi Econ Surprise เริ่มออกมาติดลบในเดือนที่ผ่านมาสะท้อนตัวเลขเศรษฐกิจจริง ออกมาแย่กว่าที่คาด สวนทางการปรับประมาณการณ์กําไรเพิ่มขึ้น ● PE อยู่ที่ระดับ 14 เท่า (-1 S.D) แต่ไม่ได้อยู่ในระดับ Deep discounted Slightly Underweight Slightly Underweight Slightly Overweight
14.
Country Gauge Investment
View Recommendation : ทยอยสะสม K-CHINA-A, KT-Ashares-A Recommendation : ทยอยสะสม PRINCIPAL VNEQ-A ● ภาคการส่งออกชะลอตัวลงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังไม่คลี่คลาย ● ปัจจัยกดดันทยอยถูกแก้ไข ความกังในภาคอสังหาฯลดลง มีการปรับอัตราดอกเบี้ย นโยบายลดลง 3 ครั้งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ● การประมาณการกําไรยังไม่ปรับขึ้น แต่มองว่า EPS อยู่ที่ Bottom แล้วใน 1Q23 ● Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับหุ้นโลก ● การปรับตัวขึ้นต้องรอแรงซื้อจากนักลงทุนเวียดนาม เมื่อเศรษฐกิจชัดเจนมากขึ้น Recommendation : ทยอยสะสม ASP-SME ● คาดการณ์เศรษฐกิจโดยรวมมีแนวโน้มฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว และการ บริโภคในประเทศฟื้นตัว แต่ยังมีปัญหากลุ่มเปราะบางและยอดหนี้เสียเพิ่มขึ้น ● แรงกดดันด้านดอกเบี้ยลดลงจากเงินเฟ้อในประเทศที่ปรับตัวลง ● Valuation อยู่ในระดับค่าเฉลี่ย ทิศทาง Fundflow ไหลออก ยังคงมีแรงกดดัน จากการเมืองในประเทศ ● การฟื้นตัวหลังจากผ่อนคลายมาตรการควบคุม Covid-19 เริ่มแผ่วลง โดยเฉพาะ ภาคการผลิต รวมถึงความมั่นในผู้บริโภคมีการฟื้นตัวแต่ยังตํ่ากว่าภาวะปกติ ● ท่าทีของรัฐบาลจีนที่ยังไม่เร่งรีบกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ขาด Catalyst ใหม่ที่จะ หนุน Performance ตลาดที่ดี ● Valuation ลดลงมาใกล้จุด -1.0 S.D. เมื่อเทียบกับหุ้นโลกยังมีความน่าสนใจ อีกทั้ง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาวยังมี Upside ที่น่าสนใจ จึงแนะนําทยอยสะสม จีน เวียดนาม ไทย Slightly Overweight Monthly Views on EM Equities Overweight Slightly Overweight
15.
Country Gauge Investment
View Recommendation : คงสัดส่วนการลงทุน Recommendation : ไม่แนะนําลงทุน ● แนวโน้มการเติบโตของ GDP ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยโลก เพราะค่อนข้างขึ้นกับราคาของ commodity ซึ่งได้รับผลกระทบมากในช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ● เงินเฟ้อทั่วไปลดตํ่าลงแต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังสูง ทําให้ต้องคงดอกเบี้ยระดับสูงไว้อีกนาน เกิดแรงกดดันการเจริญเติบโต ● Earnings ได้รับผลกระทบจากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวบางส่วน ● Valuation คลายตัวลงมากจากช่วงปลายปี แต่ยังมีตลาดอื่นที่ถูกและมีโอกาสมากกว่า ● มีสัญญาณการกลับตัว แต่การเติบโตในระยะยาวยังน้อยกว่าประเทศอื่นในกลุ่ม EM ● ธนาคารกลางจีนผ่อนคลายนโยบายโดยการลด RRR และ Loan Prime Rate แต่ตลาดยัง คาดหวังนโยบายกระตุ้นจากรัฐบาลจีนที่ Impact มากกว่านี้ ● กลุ่มไต้หวัน และ เกาหลีใต้ ได้ Sentiment เชิงบวกจากกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ หรือ AI ● การมีสัดส่วนการลงทุนใน Latam ซึ่งมี Growth ที่คาดว่าจะตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยโลก ทําให้ ความน่าสนใจตํ่า ดังนั้น EM อาจมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ แต่ Underperform จีน และ Asia Ex Japan ในระยะยาว Underweight EM Neutral Latin America Monthly Views on EM Equities
16.
Monthly Views on
Fixed Income & Alternative Assets Asset Class Gauge Investment View Recommendation : ลดสัดส่วน (ทยอยขายทํากําไร) ● แนวโน้มสงครามที่จํากัดวง ไม่ลุกลาม เมื่อประกอบกับแนวโน้มอุปาทานที่ทรงตัวจากกลุ่ม OPEC+ ยังคงการผลิต และอุปสงค์ที่อาจชะลอตัวจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ ยุโรป เมื่อ ประกอบกับแนวโน้มสกุลเงินดอลลาร์ที่อาจแข็งค่า จะสร้างแรงกดดันต่อราคานํ้ามัน แนะนํายอยขายทํากําไร นํ้ามัน Recommendation : ทยอยลดสัดส่วนการลงทุน (ถือบางส่วนสําหรับพอร์ตหลัก) ● ทองคําปรับตัวขึ้นจากความตึงเครียดของสงคราม และในระยะสั้นอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง มี แนวโน้มหนุน Real Yield ให้ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อประกอบกับเศรษฐกิจของยุโรปที่อ่อนแอ กว่าสหรัฐฯ และนโยบายการเงินของญี่ปุ่นที่ยังไม่เข้มงวด หนุนให้ดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่า กดดันราคาทองคํา จึงแนะนําขายทํากําไรเพื่อลดความเสี่ยง ● แต่สําหรับพอร์ตการลงทุนยังคงแนะนําถือครองบางส่วนเพื่อกระจายความเสี่ยง ทองคํา Slightly Overweight Slightly Overweight Slightly Underweight Slightly Underweight
17.
Monthly Views on
Fixed Income & Alternative Assets Asset Class Gauge Investment View Recommendation : เพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน UGIS-N Recommendation : เพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน KKP ACT FIXED ● เงินเฟ้อไทยลดลงตํ่ากว่าเป้าหมาย 2% ของกนง. ลดความจําเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ของกนง. ให้น้อยลง สอดคล้องกับท่าทีกนง. ที่ระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด เพื่อเป็นอุปกรณ์ทางการเงินในอนาคต ● Yield ของตราสารหนี้อยู่ในระดับที่สูง จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา หนุนความ น่าสนใจลงทุน ตราสารหนี้โลก ตราสารหนี้ไทย ● เงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเข้าใกล้กรอบเป้าหมายของ Fed มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากเงินเฟ้อที่อยู่อาศัยที่มีสัดส่วนสูง ทําให้ FOMC มีท่าทีการขึ้นดอกเบี้ยที่ ชะลอลงต่อเนื่อง ขณะที่ดอกเบี้ยที่ขึ้นมาแล้วกว่า 5.5% หนุนให้อัตราผลตอบแทนของ ตราสารหนี้น่าสนใจ จากระดับที่สูงที่สุดในรอบ 14 ปี ● แนวโน้ม Higher for Long ถูกรับรู้ไปมากแล้ว หนุนให้การลงทุนในตราสารหนี้มี Downside จํากัด Overweight Overweight
18.
Asset Class Gauge
Commentary Recommendation : ทยอยลดสัดส่วนการลงทุน Recommendation : คงสัดส่วนการลงทุน ● มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามจํานวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมค่าเช่า และ จํานวนผู้เช่าอยู่ในแนวโน้มดีขึ้น ทั้งนี้แรงกดดันของกลุ่มกอง REIT หลักมากจากอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปัจจัยดังกล่าวทําให้ ความน่าสนใจของกอง REIT น้อยกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ความเสี่ยงตํ่ากว่า ● ปัจจุบัน REIT ไทยมี Dividend yield gap ที่ระดับ 3% เท่ากับค่าเฉลี่ย 10 ปี ● ยังคงถูกกดดันต่อเนื่องจาก yield ของตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงและมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น ได้อีกเล็กน้อยหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเพิ่มเติม ● เมื่อมองถึงมิติเรื่องความผันผวนกอง REITs มีโอกาสผัวผวนได้สูงกว่าตราสารหนี้ หาก เกิดเศรษฐกิจถดถอย จึงทําให้ภาพรวมกอง REITs ยังมีความน่าสนใจน้อย เมื่อ เปรียบเทียบกับตราสารหนี้ REIT โลก REIT ไทย Recommendation : ทยอยลดสัดส่วนการลงทุน ● ยังเผชิญกับแรงกดดันต่อเนื่อง จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้เงินลงทุนเป็น จํานวนมาก และปัจจุบันต้นทุนทางการเงินยังอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มว่าอาจจะสูงขึ้นได้ อีก จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย บวกกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวลอตัว ทําให้การลงทุนที่ใช้เงินสูงทําได้ยากขึ้น Global Infra Slightly Underweight Slightly Underweight Neutral Monthly Views on Fixed Income & Alternative Assets
19.
Recommendation : คงสัดส่วนการลงทุน ●
ประเด็นด้านการเมืองที่จะถูกนํามาใช้หาเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจ เข้ามากดดันได้ในช่วงปี 2024 แต่ในระดับที่ตํ่าลง จากประเด็นความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศที่เข้มข้นมากขึ้น ● แนะนําถือครอง จากการเป็นหุ้น Defensive ที่ Price in ข่าวร้ายเฉพาะกลุ่มไปมากแล้ว ทําให้อาจมีโอกาสถือครองผ่านช่วงเศรษฐกิจถดถอยได้ ในฐานะ Beta หุ้นของพอร์ต แต่ มีความผันผวนที่ตํ่ากว่าหุ้นโดยรวม Monthly Views on Thematic Asset Class Gauge Commentary Recommendation : คงสัดส่วนการลงทุน Recommendation : คงสัดส่วนการลงทุน ● ยังน่าสนใจลงทุนในระยะยาว จากแรงสนับสนุนของรัฐบาลทั่วโลก ● การปรับตัวขึ้นในข่วงที่ผ่านมา นําโดยกลุ่ม Solar Cell จากต้นทุนการผลิตที่ลดลง หนุนให้ Valuation ตึงตัว ก่อนจะพักฐานในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาช่วยผ่อนคลายความตึงตัวได้ บางส่วน ขณะที่ผลประกอบการดีกว่าคาด แต่คาดการณ์การเติบโตยังตํ่ากว่าภาพรวม ● แนะนําคงสัดส่วนการลงทุน ● หุ้นกลุ่ม Technology ขนาดใหญ่กลับมา Outperform หุ้นในภาพรวม หลังความคาดหวัง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลดลง จากการคลายความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว และความ คาดหวังการเติบโตที่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นทั่วโลก ● เมื่อพิจารณาในแง่ของ Valuation อยู่ในระดับที่แพง ประกอบกับความกังวลเรื่อง เศรษฐกิจชะลอตัวที่น่าจะยังมีอยู่ในอนาคต จะส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยี ยังมี Downside อยู่ ● แนะนํารอโอกาสเข้าลงทุน เพื่อรอสถานการณ์ให้ชัดเจน หรือ Valuation คลายตัวมากขึ้น Tech Clean Energy Healthcare Neutral Neutral Neutral
20.
Fund Highlight กองทุนแนะนําประจําสัปดาห์ Source :
Getty Images
21.
- สําหรับการลงทุนระยะ 3-6
เดือน - นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ Tactical Call Sell Buy Hold แนะนํา จุด Take Profit และ Stop Loss - สามารถ Cut Loss ได้ - มีการกําหนดระดับจุดเข้า/เป้าหมายทํากําไร/Stop Loss ที่ชัดเจน สถานะปัจจุบัน K-SEMQ TMBEMEQ Emerging Market (16/11/2022) Take Profit: 43.10 Stop loss: 37.00 Update 17/08/2023 CSI300 (09/01/2023) Take Profit: 4,430 Stop loss: 3,450 ถึง 3,500 Update 12/06/2023 SCBCHA KT-Ashare-A VN30 (17/11/2023) Take Profit: 1,260 Stop loss: 1,040 Update 17/11/2023 PRINCIPAL VNEQ-A
22.
- สําหรับการลงทุนระยะ 6-12
เดือน เป็นต้นไป - เป็นกองทุนที่มีแนวโน้นให้ผลตอบแทนดีตามปัจจัย MEVT (Macroeconomic Earnings Valuation Technical) - มีโอกาสเปลี่ยนแปลงจุด cut loss หรือ take profit ตามปัจจัย MEVT ที่เปลี่ยนไป MEVT Call ปัจจัยที่โดดเด่น กองทุน แนะนํา สถานะ ปัจจุบัน Macro Earnings Valuation Technical UGIS-N (19/01/2023) PRINCIPAL VNEQ-A (26/01/2023) เงินเฟ้อเริ่มกลับเข้าสู่ระดับ 3% f ดอกเบี้ยนโยบายใกล้จุดสูงสุด ศักยภาพการเติบโตสูง ได้ อานิสงส์จากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแรงมาก Yield อยู่ในระดับน่าสนใจ และมี แนวโน้มได้อัพจากดอกเบี้ย นโยบายที่ปรับตัวลง ในอดีตตราสารหนี้มักสร้างผล ตอบแทนดีหลังเงินเฟ้อพีค Buy แนวโน้มกําไรยังเติบโตได้สูง คาดเติบโตกว่า 30% Deep Discount กว่า -1.5 S.D. ทั้งเทียบกับตัวเองและโลก เริ่มย่อตัวลงมา หลังขึ้นรอบ ใหญ่ แนะนํา Buy on dip K-CHINA-A (09/02/2023) เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยดัชนีหลายๆ ตัวเริ่มทรงตัว Buy กําไรถูกปรับประมาณการลงจาก เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า แต่ยัง เติบโตได้ 17% อยู่ในระดับถูก -1 S.D. เมื่อเทียบ กับตัวเองและ หุ้นโลก Sideway รอมาตรการกระตุ้น จากทางการจีน As of 05 October 2023 SCBKEQTG (08/08/2023) การสิ้นสุด cycle de-stocking ชิ้น ส่วนอิเล็กทรอนิกส์ Buy กําไรยังเติบโตได้โดดเด่นที่สุด คาดเติบโตกว่า 55% อยู่ในระดับค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับ ตัวเองและโลก Uptrend Channel แนะนํา Buy on dip AFMOAT-HA (02/10/2023) การฟื้นตัวโดดเด่นกว่าคาด Atlanta Fed คาด GDP Q3 โตกว่า 5% Buy กําไร 2024 ถูกปรับประมาณการ ขึ้น คาดว่ายังโตได้ 12% +1 S.D. เมื่อเทียบกับหุ้นโลก แต่ อยู่ในระดับค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับ ตัวเอง มีโอกาส Outperform 4Q พร้อมสัญญาณซื้อ Market Breadth Buy
Download now