การสร้างวิดีโอสอนออนไลน์ด้วย Camtasia และการสร้างช่อง YouTube

ว�ทยากร : ดร.กฤษณพงศ เลิศบำรุงชัย
การสรางว�ดีโอสอนออนไลนดวย
และการสรางชอง YouTube
TouchPoint.in.th facebook.com/TouchPoint.in.th YouTube.com/c/TouchpointTH
CAMTASIA

สารบัญ
เรื่อง หน้า
การสร้างวิดีโอสอนออนไลน์ด้วย Camtasia 1
การผลิตสื่อในรูปแบบวิดีโอ 1
รู้จักกับโปรแกรม Camtasia 4
การติดตั้งโปรแกรม Camtasia 4
การเปิดโปรแกรม Camtasia 6
หน้าตาและส่วนประกอบของโปรแกรม Camtasia 7
การตั้งค่าโปรเจ็คต์ 7
การตั้งค่า Preferences 8
การสร้างโปรเจ็คต์ใหม่ 9
การบันทึกโปรเจ็คต์ 9
การเปิดโปรเจ็คต์ 10
การบันทึกภาพหน้าจอ 10
การบันทึกภาพหน้าจอ PowerPoint 12
การนำสื่อมัลติมีเดียเข้ามาในโปรแกรม Camtasia 14
การแทรกสื่อมัลติมีเดียลงบน Timeline 15
การตัดต่อวิดีโอ 15
การแทรกวัตถุจาก Library 23
การแทรกวัตถุจาก Annotations 25
การแทรก Transitions 27
การแทรก Behaviors 28
การแทรก Animations 28
การแทรก Cursor Effects 30
การแทรก Voice Narration 31
การแทรก Audio Effects 32

สารบัญ
เรื่อง หน้า
การแทรก Visual Effects 36
การแทรก Interactivity 36
การแทรก Captions 39
การคัดลอกเอฟเฟกต์ 41
การคัดลอกคุณสมบัติวัตถุ 42
การส่งออกไฟล์ 43
การนำไปใช้กับ LMS Moodle 51
การสร้างช่อง YouTube 59
รู้จักกับ YouTube 59
การลงชื่อเข้าใช้ YouTube 60
การสร้างช่อง YouTube 61
การปรับแต่งช่อง YouTube 64
การอัพโหลดวิดีโอไปยัง YouTube 66
การแก้ไขข้อมูลวิดีโอบน YouTube 70
การสร้าง YouTube Playlist 71
การแก้ปัญหาไม่สามารถใส่ Thumbnail ได้ 74

1วิทยากร : ดร.กฤษณพงศ์ เลิศบำรุงชัย
การผลิตสื่อในรูปแบบวิดีโอ
วิดีโอ
วิดีโอเป็นสื่อชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญในงานมัลติมีเดีย เนื่องจากสามารถแสดงผลได้ทั้งข้อความ
ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้การนำเสนอเนื้อหามีความน่าสนใจมากขึ้น
คุณสมบัติของไฟล์วิดีโอ
คุณสมบัติของไฟล์วิดีโอที่ได้จากการถ่ายทำหรือการตัดต่อ จะต้องทำให้มีความถูกต้องและมี
คุณสมบัติใกล้เคียงกับไฟล์ต้นฉบับ โดยมีรายละเอียดดังนี้
อัตราความเร็วในการแสดงภาพ (Frame Rate)
อัตราความเร็วในการแสดงภาพ (Frame Rate) เป็นอัตราเร็วในการแสดงภาพเคลื่อนไหวต่อหนึ่ง
หน่วยเวลา โดยมีหน่วยเป็นเฟรมต่อวินาที (fps) สำหรับการ์ตูนแอนิเมชั่นมีค่าประมาณ 12 fps แต่ปกติสายตา
มนุษย์จะอยู่ที่ 24 fps ยิ่งมีค่าเฟรมเรทสูง จะทำให้การเคลื่อนไหวดูรื่นไม่สะดุด
ระบบ เฟรมเรท (fps) ระบบ เฟรมเรท (fps)
แอนิเมชั่น 2 มิติ 12 วิดีโอระบบ NTSC 29.97
เว็บไซต์ 15 วิดีโอระบบ PAL 25
ภาพยนตร์ 24 วิดีโอระบบ SECAM 25
แอนิเมชั่น 3 มิติ 30 วิดีโอระบบ HD FHD UHD 60, 120

2 การสร้างวิดีโอสอนออนไลน์ด้วย Camtasia และการสร้างช่อง YouTube
การแบ่งช่องเวลา (Time Base)
การแบ่งช่องเวลา (Time Base) เป็นการตัดต่อช่วงเวลาออกเป็นส่วนๆ ใน 1 วินาที โดยค่านี้จะ
สัมพันธ์กับ Frame Rate ถ้าไฟล์ต้นฉบับมี Source Frame Rate เท่าไหร่ Time Base ควรมีค่าเท่ากัน
▪ กรณีที่ 1 Time Base เท่ากับ Source Frame Rate ผลที่ได้ภาพถูกต้องไม่กระตุก
Source Frame Rate = 30
Time Base = 30
▪ กรณีที่ 2 Time Base ไม่เท่ากับ Source Frame Rate ผลที่ได้คือภาพกระตุก เนื่องจากมีบางเฟรม
จะถูกเล่นซ้ำ หรือบางเฟรมหายไป
Time Base = 30
▪ กรณีที่ 3 ถ้าต้องการเผยแพร่ให้มี Frame Rate ที่เฉพาะเจาะจง ไม่ว่า Source Frame Rate จะมี
ค่าเท่าไร จะต้องกำหนด Time Base ให้มีค่าที่หารลงตัวเสมอ
Time Base = 30
อัตราการส่งข้อมูล (Data Rate)
อัตราการส่งข้อมูล (Data Rate) เป็นอัตราการส่งข้อมูลเพื่อแสดงผลภาพเคลื่อนไหวในระบบดิจิทัล
เรียกอีกอย่างว่า Bit Rate โดยมีหน่วยเป็นบิตต่อวินาที (bps) หากมีค่ามากคุณภาพไฟล์จะสูง แต่ขนาดไฟล์จะ
ใหญ่
ขนาดเฟรม (Frame Size)
ขนาดเฟรมมีหน่วยเป็นพิกเซล (Pixel) ซึ่งเกี่ยวข้องกับอัตราส่วนภาพ Aspect Ratio ขนาดเฟรมมีผล
ต่อการแสดงผล หากกำหนดขนาดเล็กเกินไป เมื่อนำมาแสดงผลขนาดใหญ่ วิดีโอจะภาพแตก ไม่คมชัด

▪ HD 1280x720
▪ FHD 1920x1080
▪ UHD 2K 2048x1080
▪ UHD 4K 4096x2160
▪ UHD 5K 5120x2880
อัตราส่วนภาพ (Aspect Ratio)
อัตราส่วนภาพ (Aspect Ratio) เป็นอัตราส่วนความกว้างและความสูงของภาพ เช่น 1:1, 3:2, 4:3
และ 16:9 เป็นต้น การเลือกใช้อัตราส่วนขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ต้องการนำเสนอ เช่น วิดีโอบน Facebook
หรือ Instagram อาจใช้อัตราส่วน 1:1 ส่วนวิดีโอบน YouTube เป็น 16:9 เป็นต้น
การตัดต่อวิดีโอ
ไฟล์วิดีโอที่ถ่ายทำหรือบันทึกเป็นช่วงๆ เรียกว่า ฟุตเทจ (Footage) ซึ่งไม่สามารถนำไปเผยแพร่ได้
เนื่องจากยังไม่ถูกรวบรวมเป็นเรื่องราวหรือเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการ เช่น มีบางช่วงต้องการตัดทิ้ง ต้องการ
ใส่เทคนิคพิเศษ ใส่เสียงประกอบ ใส่ดนตรี เป็นต้น
รูปแบบไฟล์วิดีโอ
รูปแบบไฟล์วิดีโอที่ใช้ในปัจจุบันขึ้นอยู่กับมาตรฐานการบีบอัดข้อมูล โดยการนำไฟล์วิดีโอต้นฉบับมา
บีบอัดข้อมูลทั้งภาพและเสียง โดยแต่ละรูปแบบที่นิยมใช้มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้
AVI (Audio/Video Interleave)
เป็นไฟล์วิดีโอมาตรฐานของคอมพิวเตอร์ที่มีขนาด
ใหญ่ เนื่องจากไม่มีการบีบอัดข้อมูล ทำให้ภาพและ
เสียงมีคุณภาพสูง มีความคมชัด
MOV (QuickTime Movie)
เป็นไฟล์วิดีโอมาตรฐานของเครื่องแมคอินทอช
(Macintosh) แต่สามารถใช้ได้ใน Windows โดย
เปิดผ่านโปรแกรม QuickTime Player

MPEG (Motion Picture Expert Group)
ปัจจุบันใช้ MPEG-4 เป็นไฟล์มาตรฐาน มีขนาดไฟล์
เล็ก แต่มีคุณภาพของภาพและเสียงสูง
WMV (Windows Media Video)
พัฒนาโดยบริษัท Microsoft นิยมใช้นำเสนอข้อมูล
ผ่านอินเทอร์เน็ต สามารถอัพโหลดข้อมูลขึ้นเว็บไซต์
ได้สะดวก เนื่องจากมีชาดไฟล์เล็ก
รู้จักกับโปรแกรม Camtasia
โปรแกรม Camtasia เป็นโปรแกรมสำหรับบันทึกภาพหน้าจอแบบเคลื่อนไหว สามารถตัดต่อวิดีโอ
แทรกเสียง แทรกเพลง และใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอที่สร้างขึ้น ผู้ใช้สามารถใช้งาน
ได้ง่าย และได้สื่อที่มีคุณภาพ
การติดตั้งโปรแกรม Camtasia
1. ดับเบิ้ลคลิก Camtasia.exe
2. คลิกเลือกภาษา
3. คลิก OK

4. คลิก I accept the License Terms
5. คลิก Install แล้วรอสักครู่
6. คลิก Finish
7. เปิดโปรแกรมแล้วคลิก Enter Software Key
8. กรอกรหัสแล้วคลิก Unlock

การเปิดโปรแกรม Camtasia
ในชุดโปรแกรม Camtasia จะมี 2 โปรแกรมย่อย ได้แก่ Camtasia และ Camtasia Recorder หาก
ผู้ใช้ต้องการตัดต่อวิดีโอให้เปิดโปรแกรม Camtasia หากต้องการบันทึกภาพหน้าจอแบบเคลื่อนไหวให้เปิด
โปรแกรม Camtasia Recorder วิธีการเปิดโปรแกรมสามารถทำได้โดยคลิก Start > TechSmith > Camtasia
หรือ Camtasia Recorder

หน้าตาและส่วนประกอบของโปรแกรม Camtasia
แถบเมนู (Menu Bar) เก็บทุกคำสั่งของโปรแกรม Camtasia
กลุ่มพาเนล (Panel Group) เป็นพาเนลรวบรวมวัตถุที่ใช้ประกอบการตัดต่อวิดีโอ
พื้นที่การทำงาน (Workspace) เป็นส่วนการแสดงผลงาน
พาเนลควบคุม (Control Panel) เป็นส่วนควบคุมการเล่นวิดีโอ
ไทม์ไลน์ (Timeline) เป็นส่วนที่ใช้สำหรับตัดต่อวิดีโอ
มุมมอง (View) เป็นส่วนที่ใช้ควบคุมการแสดงผล
พาเนลคุณสมบัติ (Properties) เป็นส่วนที่ใช้ปรับแต่งคุณสมบัติของวัตถุต่างๆ
การตั้งค่าโปรเจ็คต์
1. ไปที่ File > Project Settings
2. กำหนดค่าโปรเจ็คต์ตามต้องการ ดังนี้

▪ Canvas Dimensions กำหนดขนาดของวิดีโอ (ตัวอย่างกำหนด 1080p HD (1920x1080))
▪ Width กำหนดความกว้าง
▪ Height กำหนดความสูง
▪ Color กำหนดสี
▪ Frame Rate กำหนดเฟรมเรท (30 fps)
3. คลิก Apply
การตั้งค่า Preferences
1. ไปที่ Edit > Preferences
2. กำหนดค่าในส่วนต่างๆ ตามต้องการ
3. คลิก OK

การสร้างโปรเจ็คต์ใหม่
ปกติเมื่อผู้ใช้เปิดโปรแกรมขึ้นมาก็สามารถสร้างโปรเจ็คต์ใหม่ได้ทันที หากต้องการสร้างโปรเจ็คต์ใหม่
จากโปรเจ็คต์ที่กำลังทำงานอยู่ สามารถทำได้โดยไปที่ File > New Project
การบันทึกโปรเจ็คต์
1. ไปที่ File > Save
2. เลือกที่จัดเก็บไฟล์
3. กำหนดชื่อไฟล์
4. คลิก Save
5. คลิก OK

การเปิดโปรเจ็คต์
1. ไปที่ File > Open
2. เลือกไฟล์ที่ต้องการ
3. คลิก Open
การบันทึกภาพหน้าจอ
การบันทึกภาพหน้าจอในลักษณะนี้ ผู้ใช้สามารถบันทึกหน้าจอโปรแกรมหลายหน้าต่างสลับไปมาได้
อย่างอิสระ สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Record
2. คลิกเลือกพื้นที่การบันทึก
3. กำหนดค่าสำหรับการบันทึก ดังนี้
▪ Select area เลือกพื้นที่การบันทึก (Full screen เต็มหน้าจอ / Custom กำหนดเอง)
▪ Recorded inputs เลือกอุปกรณ์นำเข้า ได้แก่ กล้องเว็บแคม เสียง และระดับเสียง

4. คลิก rec เพื่อเริ่มการบันทึกภาพหน้าจอแบบเคลื่อนไหว
5. กด F10 เพื่อสิ้นสุดการบันทึก ไฟล์ที่ถูกบันทึกจะปรากฏใน Camtasia โดยอัตโนมัติ

6. ไฟล์ที่ถูกบันทึกจะถูกจัดเก็บไว้ที่ C  Users  User Name  Documents  Camtasia
การบันทึกภาพหน้าจอ PowerPoint
การบันทึกภาพหน้าจอในลักษณะนี้ ผู้ใช้สามารถบันทึกหน้าจอจากไฟล์ PowerPoint ที่กำลังเปิดใช้
งานอยู่เท่านั้น ไม่สามารถสลับไปยังหน้าต่างอื่นได้ สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. เปิด PowerPoint แล้วไปที่เมนู Add-ins
2. คลิก Camtasia recording options
3. กำหนดค่าการบันทึกตามต้องการ
4. คลิก OK
5. คลิก Record
6. คลิก Click to begin recording เพื่อเริ่มบันทึก และกด ESC เพื่อหยุดการบันทึก
7. คลิก Stop recording

11. คลิก Edit your recording
12. คลิก OK

13. Camtasia จะปรากฏอัตโนมัติ สามารถตัดต่อวิดีโอได้ตามต้องการ
การนำสื่อมัลติมีเดียเข้ามาในโปรแกรม Camtasia
Camtasia สามารถนำเข้าสื่อมัลติมีเดียได้ทุกประเภท ได้แก่ ไฟล์บันทึกภาพหน้าจอแบบเคลื่อนไหวที่
ได้จาก Camtasia Recorder ไฟล์รูปภาพ ไฟล์วิดีโอ และไฟล์เสียง สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ File > Import > Media
2. เลือกไฟล์ที่ต้องการ

การแทรกสื่อมัลติมีเดียลงบน Timeline
การแทรกสื่อมัลติมีเดียลงบน Timeline สามารถทำได้โดยการไปที่ Media คลิกที่ไฟล์ที่ต้องการ แล้ว
ลากไปวางที่พาเนล Timeline
การตัดต่อวิดีโอ
แนะนำเครื่องมือสำหรับตัดต่อวิดีโอ
Undo เลิกทำ
Redo ทำซ้ำ
Cut ลบสื่อมัลติมีเดียที่เลือกใน Timeline
Copy คัดลอกสื่อมัลติมีเดียใน Timeline
Paste วางสื่อมัลติมีเดียใน Timeline
Split ตัดคลิปวิดีโอหรือสื่อมัลติมีเดียใน Timeline
Zoom Timeline in / out ย่อขยายมุมมอง Timeline

การตัดช่วงหัวและช่วงท้ายวิดีโอ
การตัดช่วงหัวและช่วงท้ายวิดีโอ สามารถทำได้โดยนำเมาส์ไปชี้ที่ต้นหรือท้ายวิดีโอให้เคอร์เซอร์เป็น
ลักษณะ  แล้วคลิกเมาส์ค้างไว้ จากนั้นลากไปทางซ้ายหรือขวาตามต้องการ
การตัดต่อระหว่างช่วงวิดีโอ
1. คลิกเลือกวิดีโอที่ต้องการตัด
2. คลิกเลือกเวลาที่ต้องการตัดตำแหน่งแรก
3. คลิก Split เพื่อทำการตัด

4. คลิกเลือกเวลาที่ต้องการตัดอีกตำแหน่งหนึ่ง
5. คลิก Split เพื่อทำการตัด
6. คลิกเลือกช่วงที่ต้องการตัด
7. คลิก Cut หรือกด [Delete] เพื่อลบช่วงที่ไม่ต้องการออก
8. คลิกลากวิดีโอที่อยู่ด้านหลังมาต่อวิดีโอก่อนหน้า

9. ลากวิดีโอไฟล์อื่นมาเรียงต่อกัน
10. ทำขั้นตอนที่ 1-9 จนได้วิดีโอตามต้องการ
การจัดการแทร็คใน Timeline
การซ้อนสื่อมัลติมีเดียใน Timeline
ใน Timeline ประกอบด้วยแทร็คหลายแทร็คซ้อนกันเป็นเลเยอร์จากล่างขึ้นบน สื่อมัลติมีเดียที่อยู่
แทร็คด้านบนจะบดบังแทร็คด้านล่าง สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Media
2. คลิกเลือกสื่อมัลติมีเดียที่ต้องการ แล้วลากไปที่แทร็คด้านบนใน Timeline

3. กำหนดระยะเวลาในการแสดงผล โดยนำเมาส์ไปชี้ที่ต้นหรือท้ายสื่อมัลติมีเดีย ให้เคอร์เซอร์เป็นลักษณะ 
แล้วคลิกเมาส์ค้างไว้ จากนั้นลากไปทางซ้ายหรือขวา
การเพิ่มแทร็ค
ผู้ใช้สามารถเพิ่มแทร็คเพื่อรองรับการเพิ่มสื่อมัลติมีเดียได้ สามารถทำได้โดยการคลิกขวาที่แทร็ค แล้ว
เลือกคำสั่ง Insert Track จากนั้นเลือก Above หรือ Below เพื่อกำหนดให้แทร็คใหม่อยู่ด้านบนหรือด้านล่าง

การลบแทร็ค
หากผู้ใช้เพิ่มแทร็คมาจำนวนมาก สามารถลบแทร็คที่ไม่ต้องการออกจาก Timeline ได้ สามารถทำ
ได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกขวาที่แทร็คที่ต้องการลบ > Remove Track
2. คลิก Yes
การยกเลิกการใช้งานแทร็ค
หากในแทร็คมีสื่อมัลติมีเดียจำนวนมากใน Timeline แล้วจะต้องการยกเลิกการใช้งานวัตถุทั้งหมดที่
อยู่ในแทร็ค สามารถทำได้โดยคลิก Disable track หากต้องการเปิดการใช้งานให้คลิก Enable Track
การล็อคแทร็ค
การล็อคแทร็คใน Timeline สามารถทำได้โดยคลิก Lock track เพื่อป้องกันไม่ให้คลิกพลาดไป
โดนสื่อมัลติมีเดียที่จัดวางและตัดต่อไว้ดีแล้ว หากต้องการยกเลิกการล็อคแทร็คให้คลิก Unlock track

การคัดลอกสื่อมัลติมีเดียใน Timeline
การตัดต่อวิดีโอในบางครั้งผู้ใช้อาจมีการใช้สื่อมัลติมีเดียซ้ำกันในแต่ละช่วง เช่น เสียงเอฟเฟกต์
ระหว่างเปลี่ยนฉาก เมื่อมีการเปลี่ยนฉากจะต้องใช้เสียงเอฟเฟกต์เดิม สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกสื่อมัลติมีเดียที่ต้องการคัดลอก
2. คลิก Copy
3. คลิกเลือกเวลาที่ต้องการวางสื่อมัลติมีเดีย
4. คลิก Paste

การเร่งความเร็ววิดีโอ
การเร่งความเร็ววิดีโอมักใช้ในกรณีที่รอการประมวลผลของโปรแกรมในกำลังถูกบันทึกภาพ
เคลื่อนไหวที่มีเวลานาน แล้วต้องการเร่งให้วิดีโอเล่นเร็วขึ้น ทำให้วิดีโอสั้นลงและไม่ต้องรอนานและมีความ
กระชับขึ้น สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกขวาที่วิดีโอที่ต้องการ > Add Clip Speed
2. กำหนดความเร็วที่พาเนล Properties ในส่วนของคำสั่ง Clip Speed
3. วิดีโอจะมีความยาวที่สั้นลง
4. คลิกลากวิดีโอที่อยู่ด้านหลังมาต่อกับวิดีโอที่เร่งความเร็ว โดยการกดปุ่ม [Shift] + คลิกเมาส์ค้างไว้ที่วิดีโอ
ถัดไปลำดับแรก แล้วลากมาต่อต่อกับวิดีโอที่เร่งความเร็ว

การครอบตัดวิดีโอ (Crop)
การครอบตัดวิดีโอ (Crop) มักใช้ในกรณีมีการซ้อนวิดีโอ แล้วต้องการแสดงเฉพาะบางส่วนของวิดีโอ
แทร็คบน สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกเลือกวิดีโอที่ต้องการครอบตัด
2. คลิก Crop
3. เลือกพื้นที่การครอบตัด และกำหนดตำแหน่งการวางวิดีโอ
การแทรกวัตถุจาก Library
Library เป็นคลังวัตถุสำเร็จรูปจาก Camtasia ที่ผู้ใช้สามารถเลือกวัตถุที่อยู่ในคลังมาใช้ประกอบ
วิดีโอได้ทันที สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Library
2. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการ แล้วลากไปวางไว้ในช่วงเวลาที่ต้องการใน Timeline

3. กำหนดขนาดและตำแหน่งตามต้องการ
4. กำหนดระยะเวลาในการแสดงผล โดยนำเมาส์ไปชี้ที่ต้นหรือท้ายวัตถุ ให้เคอร์เซอร์เป็นลักษณะ  แล้ว
คลิกเมาส์ค้างไว้ จากนั้นลากไปทางซ้ายหรือขวา

การแทรกวัตถุจาก Annotations
Annotations เป็นการแทรกวัตถุสำหรับประกอบการบรรยายภาพ ได้แก่ Callouts, Arrow &
Lines, Shapes, Blur & Hightlight, Sketch Motion และ Keystroke Callouts สามารถทำได้โดยมีขั้นตอน
ดังนี้
1. ไปที่ Annotations
2. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการ แล้วลากไปวางไว้ในช่วงเวลาที่ต้องการใน Timeline

3. กำหนดขนาดและตำแหน่งตามต้องการ
4. คลิก Properties
5. กำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมที่พาเนล Properties

การแทรก Transitions
Transitions เป็นเอฟเฟกต์ที่ใช้สำหรับเปลี่ยนฉาก โดยใส่ระหว่างรอยต่อของวิดีโอหรือสื่อมัลติมีเดีย
ใน Timeline สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Transitions
2. คลิกเลือกรูปแบบที่ต้องการ แล้วลากไปวางไว้ระหว่างรอยต่อของวิดีโอใน Timeline
3. กำหนดระยะเวลาในการแสดงผล โดยนำเมาส์ไปชี้ที่ต้นหรือท้ายเอฟเฟกต์ ให้เคอร์เซอร์เป็นลักษณะ 
แล้วคลิกเมาส์ค้างไว้ จากนั้นลากไปทางซ้ายหรือขวา

การแทรก Behaviors
Behaviors เป็นเอฟเฟกต์ที่มีลักษณะที่ทำให้วิดีโอหรือสื่อมัลติมีเดียใน Timeline มีการเคลื่อนไหว
สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Behaviors
2. คลิกเลือกรูปแบบที่ต้องการ แล้วลากไปวางไว้ในสื่อมัลติมีเดียที่ต้องการใน Timeline
3. คลิก Play เพื่อทดสอบการแสดงผล
การแทรก Animations
Animations เป็นเอฟเฟกต์ที่มีลักษณะที่ทำให้วิดีโอหรือสื่อมัลติมีเดียใน Timeline มีการเคลื่อนไหว
ในช่วงเวลาที่ผู้ใช้กำหนด มีทั้งในส่วนของ Zoon-n-Pan และ Animations สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Animations (ตัวอย่างเลือก Zoon-n-Pan)
2. คลิกเลือกเวลาที่ต้องการแทรกแอนิเมชั่น
3. กำหนดระดับการซูมและตำแหน่งการแสดงผล

4. คลิกเลือกเวลาที่ต้องการแทรกแอนิเมชั่น
5. คลิก Scale to fit เพื่อให้คลิปวิดีโอแสดงผลเต็มหน้าจอเหมือนเดิม

การแทรก Cursor Effects
Cursor Effects เป็นเอฟเฟกต์สำหรับเน้นตัวชี้เมาส์หรือเคอร์เซอร์ให้มีความเด่นชัดมากขึ้น ทำให้เห็น
เมาส์หรือเคอร์เซอร์นำสายตาผู้รับชมวิดีโอได้เด่นชัดขึ้น มีทั้งในส่วนของเอฟเฟกต์เคอร์เซอร์ เอฟเฟกต์การคลิก
เมาส์ซ้ายและขวา สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Cursor Effects
2. เลือกคลิปวิดีโอที่ต้องการแทรก Cursor Effects
3. คลิกเลือกรูปแบบที่ต้องการ แล้วลากไปวางไว้ในวิดีโอที่บันทึกจาก Camtasia ใน Timeline
4. ไปที่ Left Click หรือ Right Clicks เพื่อกำหนดเอฟเฟกต์ให้กับการคลิกเมาส์ซ้ายหรือขวา
5. คลิกเลือกรูปแบบที่ต้องการ แล้วลากไปวางไว้ในวิดีโอที่บันทึกจาก Camtasia ใน Timeline หากต้องการ
เอฟเฟกต์เสียงให้เลือก Click Sound

การแทรก Voice Narration
Voice Narration เป็นการแทรกเสียง
บรรยายที่ถูกบันทึกจากไมโครโฟน มักใช้ในกรณี
ระหว่างตัดต่อแล้วพบว่าพูดผิด ผู้ใช้สามารถตัดคลิป
เสียงในช่วงที่พูดผิดออก แล้วบันทึกเสียงพูดใหม่ได้
โดยที่ไม่ต้องบันทึกคลิปวิดีโอใหม่ สามารถทำได้โดย
มีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Voice Narration
2. คลิกเลือกเวลาที่ต้องการแทรกการบันทึกเสียง
3. คลิก Start Voice Recording
4. คลิก Stop เพื่อหยุดบันทึกเสียง

8. เสียงที่ถูกบันทึกจะปรากฏในช่วงเวลาที่กำหนดใน Timeline
การแทรก Audio Effects
Audio Effects เป็นเอฟเฟกต์เสียงที่ใช้กับเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงดนตรี เสียงบรรยาย หรือวิดีโอที่มี
เสียงใน Timeline ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

การลดเสียงรบกวน
Noise Removal เป็นเอฟเฟกต์ที่มักใช้กับการบันทึกเสียงบรรยายที่ถูกบันทึกจากไมโครโฟน ซึ่ง
บางครั้งอาจมีเสียงรบกวนเข้ามาด้วย การลดเสียงรบกวนสามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Audio Effects
2. คลิกเลือกเสียงที่ต้องการลดเสียงรบกวน
3. คลิกเลือก Noise Removal แล้วลากไปวางไว้ในเสียงใน Timeline
4. กำหนดการลดเสียงรบกวนเพิ่มเติมที่พาเนล Properties
การปรับระดับความดังของเสียงทั้งไฟล์
การปรับระดับความดังของเสียงทั้งไฟล์ สามารถทำได้โดยนำเมาส์ไปชี้ที่เสียง ให้เคอร์เซอร์เป็น
ลักษณะ  แล้วคลิกเมาส์ค้างไว้ จากนั้นลากไปด้านบนหรือล่าง เพื่อปรับเพิ่มหรือลดระดับเสียง

การปรับระดับความดังของเสียงบางช่วง
การปรับระดับความดังของเสียงบางช่วง มักใช้ในกรณีที่มีเสียงดนตรีซ้อนกับเสียงบรรยาย ผู้ใช้อาจ
ต้องปรับระดับความดังของเสียงบางช่วง สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกเลือกเสียงที่ต้องการ
2. ดับเบิ้ลคลิกที่ระดับเสียงเพื่อให้เกิดคีย์เฟรม 
3. นำเมาส์ไปชี้ที่เสียง ให้เคอร์เซอร์เป็นลักษณะ  แล้วคลิกเมาส์ค้างไว้ จากนั้นลากไปด้านบนหรือล่าง เพื่อ
ปรับเพิ่มหรือลดระดับเสียง
4. ทำขั้นตอนที่ 2-3 ซ้ำ หากต้องการปรับระดับเสียงหลายช่วง

5. หากต้องการลบคีย์เฟรม ให้คลิกขวาที่คีย์เฟรม  > Delete
การใส่ Fade In / Fade out
1. ไปที่ Audio Effects
2. คลิกเลือกเอฟเฟกต์ Fade In หรือ Fade Out แล้วลากไปวางที่เสียงใน Timeline
3. คลิกที่คีย์เฟรม  ค้างไว้ แล้วลากเมาส์ไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อปรับระยะเวลาการ Fade

การแทรก Visual Effects
Visual Effects เป็นการใช้เทคนิคเพื่อนำเสนอภาพที่มีลักษณะพิเศษ เช่น การปรับสี การใส่กรอบ
การลบฉากเขียว เป็นต้น สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Visual Effects
2. คลิกเลือกรูปแบบที่ต้องการ แล้วลากไปวางไว้ในวิดีโอใน Timeline
การแทรก Interactivity
การแทรกข้อคำถาม (Quiz)
Interactivity เป็นการปฏิสัมพันธ์ระหว่างวิดีโอ โดยจะปรากฏในลักษณะของข้อคำถาม (Quiz)
ระหว่างรับชมวิดีโอ เหมาะกับการสร้างเนื้อหาที่ต้องการอัพโหลดไว้บนเว็บไซต์หรือระบบการจัดการเรียนรู้
(Learning Mangement System: LMS) นอกจากนี้ยังตั้งค่าให้รายงานผลคะแนนได้อีกด้วย สามารถทำได้โดย
มีขั้นตอนดังนี้

1. ไปที่ Interactivity
2. คลิกเลือกเวลาที่ต้องการแทรกข้อคำถาม
3. คลิก Add quiz to Timeline
4. กำหนดรายละเอียดข้อคำถามที่พาเนล Properties

การกำหนดรายละเอียดข้อคำถาม
1. คลิกเลือก Quiz
2. ไปที่พาเนล Properties ในส่วนของแท็บ Quiz Question Properties
3. กำหนดรายละเอียดดังนี้
▪ Type เลือกรูปแบบคำถาม
▪ Question กำหนดคำถาม
▪ Answer กำหนดคำตอบพร้อมเฉลย
▪ Display Feedback กำหนดข้อมูลป้อนกลับเมื่อตอบถูก (If Correct) และตอบผิด (If incorrect)
▪ Action กำหนดแอคชั่นหลังจากตอบคำถาม
4. ไปที่แท็บ Quiz Options
5. กำหนดรายละเอียดดังนี้
▪ Quiz Name กำหนดชื่อข้อคำถาม
▪ Viewers can see their results กำหนดให้สามารถดูผลคะแนนได้
▪ Score Quiz กำหนดให้มีการให้คะแนน

6. คลิก Preview เพื่อทดสอบการแสดงผล
การแทรก Captions
Captions เป็นการแสดงข้อความบรรยายระหว่างการ
เล่นวิดีโอหรือที่เรียกว่าซับไตเติ้ล (Sub Title) สามารถทำได้โดยมี
ขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Captions
2. คลิกเลือกเวลาที่ต้องการแทรกข้อความบรรยาย
3. คลิก Add Caption
4. พิมพ์ข้อความตามเสียงบรรยาย
5. คลิก Font Properties เพื่อกำหนดรูปแบบอักษร

7. ทำขั้นตอนที่ 2-6 ซ้ำไปเรื่อยๆ จนได้ข้อความบรรยายครบถ้วนทั้งวิดีโอ
การคัดลอกเอฟเฟกต์
ระหว่างการตัดต่อวิดีโออาจมีการใส่เอฟเฟกต์ให้กับบางวิดีโอหรือเสียง เช่น Cursor Effects, Audio
Effects หรือ Visual Effects แล้วต้องการใช้เอฟเฟกต์เดียวกันกับคลิปอื่น สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกขวาที่วิดีโอหรือเสียงที่ใส่เอฟเฟกต์แล้ว

2. คลิกขวาที่วิดีโอหรือเสียงที่ต้องการใช้เอฟเฟกต์ > Paste Effects
การคัดลอกคุณสมบัติวัตถุ
สื่อมัลติมีเดียทุกชนิดที่อยู่ใน Timeline สามารถกำหนดคุณสมบัติได้ที่พาเนล Properties หาก
ต้องการคัดลอกคุณสมบัติจากวัตถุหนึ่งไปใช้กับอีกวัตถุหนึ่ง สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกขวาที่คลิปที่กำหนดคุณสมบัติไว้แล้ว > Copy Properties

2. คลิกขวาที่คลิปที่ต้องการใช้คุณสมบัติ > Paste Properties
การส่งออกไฟล์
เมื่อผู้ใช้แทรกไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ ได้แก่ วิดีโอ เสียงบรรยาย เสียงดนตรี ภาพนิ่ง กราฟิกประกอบ ใส่
เอฟเฟกต์ และตัดต่อวิดีโอจนได้ผลลัพธ์ตามต้องการแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการส่งออกไฟล์เพื่อนำไปใช้กับ
ช่องทางต่างๆ เช่น YouTube เว็บไซต์ หรือระบบการจัดการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS)
การส่งออกไฟล์เป็นวิดีโอ
หากผู้ใช้ต้องการนำไฟล์ไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์
ต่างๆ ได้แก่ YouTube, Facebook และ Microsoft Teams
เป็นต้น ผู้ใช้จะต้องส่งออกไฟล์เป็นคลิปวิดีโอในรูปแบบไฟล์ MP4
สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ Share > Local File
2. เลือก MP4 only (up to 1080p)
3. คลิก Next

5. เลือกที่จัดเก็บไฟล์โดยการคลิก Browse
7. โปรแกรมจะประมวลผล ให้รอสักครู่ (ขึ้นอยู่กับความยาววิดีโอ)
8. เมื่อประมวลผลเสร็จแล้วจะได้ไฟล์วิดีโอ

การส่งออกไฟล์ไปใช้บนเว็บไซต์
หากผู้ใช้มีการแทรกการปฏิสัมพันธ์ (Interactivity) หรือ
ข้อความบรรยาย (Captions) แล้วต้องการนำไฟล์ไปเผยแพร่บน
เว็บไซต์หรือระบบการจัดการเรียนรู้ (Learning Management
System: LMS) ผู้ใช้จะต้องส่งออกไฟล์เป็นวิดีโอในรูปแบบไฟล์
MP4 ที่มี Smart Player สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
2. เลือก MP4 with Smart Player only (up to 1080p)
4. คลิก Quiz appearance
5. กำหนดการแสดงผลส่วนต่างๆ ของ Quiz
6. คลิก OK
9. เมื่อประมวลผลเสร็จแล้วจะได้ไฟล์วิดีโอและไฟล์ Smart Player ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ HTML เพื่อเปิดไฟล์

10. วิดีโอจะปรากฏตามที่ผู้ใช้ตัดต่อวิดีโอไว้
การกำหนดค่า SCORM
หากผู้ใช้ต้องการนำไฟล์ไปเผยแพร่บนระบบการ
จัดการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS)
แล้วมีการรายงานผลคะแนนในระบบ ผู้ใช้จะต้องเปิดการใช้
งาน SCORM และส่งออกไฟล์เป็นวิดีโอในรูปแบบไฟล์ MP4
ที่มี Smart Player สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้

4. คลิกเลือก Report quiz results using SCORM
5. คลิก SCORM options
6. กำหนด Quiz success
▪ Passing Score กำหนดคะแนนที่ต้องผ่าน
▪ Viewing percentage required กำหนดการเข้าชมวิดีโอ
7. กำหนด SCORM Package options เป็น Produce zip files
8. คลิก OK
11. เลือกที่จัดเก็บไฟล์โดยการคลิก Browse

14. เมื่อประมวลผลเสร็จแล้วจะได้ไฟล์ Zip
การกำหนดการรายงานผลคะแนนทางอีเมล์
หากผู้ใช้ต้องการนำไฟล์ไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ทั่วไป แล้วมีการรายงานผลคะแนนทางอีเมล์ ผู้ใช้
จะต้องเปิดการใช้งานการรายงานผลคะแนนทางอีเมล์ และส่งออกไฟล์เป็นวิดีโอในรูปแบบไฟล์ MP4 ที่มี
Smart Player สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้

4. คลิก Report quiz results through email
5. กำหนดอีเมลที่ต้องการ
6. กำหนดการระบุตัวตนผู้รับชม
▪ Allow viewers to take quiz anonymously กำหนดให้ผู้รับชมทั่วไปทำ Quiz ได้
▪ Require viewers to input name & email address กำหนดให้ผู้รับชมต้องกรอกชื่อและอีเมล์
▪ Allow viewers to skip the quizzes อนุญาตให้ผู้รับชมข้าม Quiz ได้
9. เมื่อประมวลผลเสร็จแล้วจะได้ไฟล์วิดีโอและไฟล์ Smart Player ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ HTML เพื่อเปิดไฟล์

10. วิดีโอสามารถแสดงผลได้ ส่วนการรายงานผลคะแนนจะแสดงผลได้เมื่อเล่นบนเว็บไซต์จริง
11. หากนำขึ้นเว็บไซต์จริงจะปรากฏส่วนกรอกข้อมูลและแสดงผลคะแนนได้

การนำไปใช้กับ LMS Moodle
การนำไปใช้แบบทั่วไป
1. คลิกขวาที่โฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์ > Send to > Compress (zipped) folder
2. จะได้ไฟล์ Zip
3. ไปที่รายวิชาใน Moodle แล้วคลิก Add an activity or resource

4. คลิกเลือก File
5. คลิก Add
6. กำหนดชื่อกิจกรรม
7. คลิก Add 

8. คลิก Upload a File
9. คลิก Choose File
10. เลือกไฟล์ ZIP ที่ต้องการ
12. คลิก Upload This File
13. คลิกที่ไฟล์ ZIP
14. คลิก Unzip เพื่อแตกไฟล์
15. คลิกเข้าไปที่โฟลเดอร์ที่แตกไฟล์
16. คลิกที่ไฟล์ HTML
17. คลิก Set Main File

18. คลิก Save and Return to Course
19. คลิกที่กิจกรรมที่สร้างขึ้น

การนำไปใช้แบบ SCORM
1. ไปที่รายวิชาใน Moodle แล้วคลิก Add an activity or resource
2. คลิกเลือก SCORM package
3. คลิก Add
4. กำหนดชื่อกิจกรรม
5. คลิก Add 

6. คลิก Upload a File
7. คลิก Choose File
8. เลือกไฟล์ ZIP ที่ต้องการ
10. คลิก Upload This File
11. คลิก Save and Return to Course

12. คลิกที่กิจกรรมที่สร้างขึ้น
13. คลิก Enter

15. ระบบ LMS จะรายงานข้อมูลผู้รับชมวิดีโอ

รู้จักกับ YouTube
YouTube เป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของ Google ที่ใช้สำหรับให้บริการวิดีโอผ่านอินเทอร์เน็ต ปัจจุบัน
สามารถเข้าถึงได้จากเว็บเบราว์เซอร์และแอพพลิเคชั่น ผู้ใช้สามารถรับชมวิดีโอของผู้อื่นและสามารถอัพโหลด
วิดีโอของตนเองได้ฟรี นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นช่องทางสร้างรายได้ได้อีกด้วย ซึ่งผู้ใช้จะต้องศึกษากฎกติกา
และนโยบายของ YouTube ในขณะนั้น

การลงชื่อเข้าใช้ YouTube
ก่อนสร้างช่อง YouTube ผู้ใช้จะต้องมีบัญชี Google ก่อน สามารถนำอีเมล์ Gmail มาลงชื่อเข้าใช้
บริการต่างๆ ของ Google ได้ทันที การลงชื่อเข้าใช้ YouTube สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่ YouTube.com
2. คลิก Sign in
3. ลงชื่อเข้าใช้ด้วยอีเมล Gmail

การสร้างช่อง YouTube
เมื่อผู้ใช้มี Gmail และลงชื่อเข้าใช้ YouTube แล้ว สามารถสร้างช่อง YouTube ของตัวเองได้ทันที
โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกที่บัญชีผู้ใช้ > Create a channel
2. คลิก Get Started

3. คลิก Select ในส่วนของ Use your name
4. คลิก Upload Picture เพื่ออัพโหลดรูปภาพโปรไฟล์

5. กรอกลิงค์ช่องทางต่างๆ (ถ้ามี)
6. คลิก Save and Comtinue หรือคลิก Set up Later เพื่อกำหนดค่าในภายหลัง
7. จะได้ช่อง YouTube ที่พร้อมให้อัพโหลดวิดีโอ

การปรับแต่งช่อง YouTube
1. ไปที่บัญชีผู้ใช้ > Your channel
2. คลิก Customize channel
3. คลิก Add channel art

4. คลิก Upload photos
5. คลิก Select a photo from your computer
6. เลือกรูปภาพที่ต้องการ
8. คลิก Select

9. จะได้รูปภาพหน้าปกช่อง YouTube
10. ผู้ใช้สามารถคลิก Add a section เพื่อเพิ่มส่วนต่างๆ ให้กับช่อง YouTube ได้
การอัพโหลดวิดีโอไปยัง YouTube
1. คลิก Create > Upload video

2. คลิก Select Files
3. เลือกไฟล์วิดีโอที่ต้องการ
5. กำหนดชื่อวิดีโอ
6. กำหนดรายละเอียดของวิดีโอ
7. คลิก Upload thumbnail เพื่อกำหนดรูปภาพหน้าปกวิดีโอ
8. เลือกรูปภาพที่ต้องการ

10. คลิกเลือก No, It’s not made for kids (ไม่ วิดีโอนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อเด็ก)
11. กำหนด Tag หรือคำค้นหา
12. กำหนด Video language เป็น Thai
13. กำหนด Category (ตัวอย่างเลือก Education)

16. กำหนดระดับการแชร์ (ตัวอย่างเลือก Public)
17. คลิก Publish
18. คลิก Close
19. จะปรากฏวิดีโอที่อัพโหลดใน YouTube Studio

การแก้ไขข้อมูลวิดีโอบน YouTube
หากผู้ใช้อัพโหลดวิดีโอไปยัง YouTube แล้วพบว่าต้องการแก้ไขข้อมูล เช่น ชื่อวิดีโอ รายละเอียด
วิดีโอ แท็ก ระดับการแชร์ และอื่นๆ สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ไปที่บัญชีผู้ใช้ > YouTube Studio
2. นำเมาส์ไปชี้ที่คลิปที่ต้องการแก้ไข แล้วคลิก Details

3. แก้ไขข้อมูลตามต้องการ
หมายเหตุ
หากต้องการระบุช่วงเวลาในวิดีโอ YouTube ให้พิมพ์ HH:MM:SS แล้วตามด้วยข้อความ
การสร้าง YouTube Playlist
หากผู้ใช้แบ่งวิดีโอเป็นหลายตอนและอัพโหลดวิดีโอจำนวนมาก แล้ววิดีโอเหล่านั้นอยู่ในเรื่องเดียวกัน
สามารถรวบรวมวิดีโอที่ต้องการไว้ใน YouTube Playlist เพื่อให้ผู้รับชมวิดีโอได้ดูอย่างต่อเนื่อง โดยมีขั้นตอน
ดังนี้
1. ไปที่บัญชีผู้ใช้ > YouTube Studio

2. ไปที่ Playlists
3. คลิก New playlists
4. กำหนดชื่อ Playlists
5. คลิก Create
6. คลิกจุดสามจุด > Add videos

7. ไปที่ Your YouTube videos
8. เลือกวิดีโอที่ต้องการ
9. คลิก Add videos
10. วิดีโอที่เลือกจะปรากฏใน Playlist สามารถจัดลำดับวิดีโอได้ตามต้องการ

การแก้ปัญหาไม่สามารถใส่ Thumbnail ได้
บัญชีผู้ใช้ที่สร้างช่อง YouTube ขึ้นมาใหม่จะไม่สามารถใส่ Thumbnail ได้ ผู้ใช้จะต้องยืนยันตัวตน
ด้วยเบอร์โทรศัพท์ก่อน สามารถมำได้โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิก Upload thumbnail
2. คลิก Verify
3. เลือกช่องทางการส่งรหัสยืนยัน
4. ระบุหมายเลขโทรศัพท์
5. คลิกส่ง
6. ระบุหมายเลข 6 หลัก
7. คลิกส่ง
8. จะปรากฏข้อความ “ยืนยันแล้ว”

NOTE
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

TouchPoint.in.th
facebook.com/TouchPoint.in.th
YouTube.com/c/TouchpointTH

การสร้างวิดีโอสอนออนไลน์ด้วย Camtasia และการสร้างช่อง YouTube

Recommended

Recommended

More Related Content

What's hot

What's hot (20)

Similar to การสร้างวิดีโอสอนออนไลน์ด้วย Camtasia และการสร้างช่อง YouTube

Similar to การสร้างวิดีโอสอนออนไลน์ด้วย Camtasia และการสร้างช่อง YouTube (20)

More from Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai

More from Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai (20)

การสร้างวิดีโอสอนออนไลน์ด้วย Camtasia และการสร้างช่อง YouTube