SlideShare a Scribd company logo
1 of 17
Download to read offline
โครงสร้างของภาษา C
ในโปรแกรมที่พัฒนาด้วยภาษา C ทุกโปรแกรมจะมีโครงสร้างการ
พัฒนาไม่แตกต่างกัน ซึ่งประกอบด้วย 5 ส่วนหลัก ดังนี้
1

พรีโปรเซสเซอร์ไดเรกทีฟ (Preprocessor directive)

2

ส่วนประกาศ (Global declarations)

3

ส่วนฟังก์ชนหลัก (main () function)
ั

4

ส่วนกาหนดฟังก์ชันขึ้นใช้เอง (Uses – define functions)

5

ส่วนอธิบายโปรแกรม (Program comment)
โครงสร้างของภาษา C
1. พรีโปรเซสเซอร์ไดเรกทีฟ (Preprocessor directive)
อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าส่วนหัวโปรแกรม (Header Part)
ส่วนนี้ทุกโปรแกรมจะต้องมี จะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย # เสมอ การ
ทางานของคอมไพเลอร์จะทางานในส่วนนี้เป็นส่วนแรก จะเป็นส่วนที่
เก็บไลบราลีมาตรฐานของภาษา C
ซึ่งจะถูกดึงเข้ามารวมกับ
โปรแกรมในขณะแปลภาษาโปรแกรม (Compile) โดยใช้คาสั่ง
#Include ซึ่งสามารถเขียนได้ 2 รูปแบบ คือ
•รูปแบบที่ 1 #include<HeaderName>
•รูปแบบที่ 2 #include“HeaderName”
โครงสร้างของภาษา C
แบบที่ใช้เครื่องหมาย <…> คอมไพเลอร์จะค้นหาเฮดเดอร์
จากไลบราลี ข องภาษา C เพี ย งที่ เ ดี ย วเท่ า นั้ น ส่ ว นที่ ใ ช้
เครื่องหมาย “…” คอมไพเลอร์จะค้นหาเฮดเดอร์จากไลบราลีที่
เก็บ Source Code ของเราก่อน ถ้าหากไม่เจอก็จะไปค้นหาที่ไล
บราลีของภาษา C และเฮดเดอร์ไฟล์นี้จะมีนามสกุลเป็น .h
เท่านั้น
ในการเขียนโปรแกรมภาษา C เฮดเดอร์ไฟล์ที่เก็บไลบราลี
มาตรฐานในการจั ด การเกี่ ย วกั บ อิ น พุ ต และเอาต์ พุ ต ของ
โปรแกรมก็คือ stdio.h ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสาคัญที่ขาดไม่ได้
2. ส่วนประกาศ (Global declarations) ส่วนนี้จะใช้ในการ
ประกาศตั วแปรหรื อฟั ง ก์ ชั น ที่ต้ องใช้ ในโปรแกรม โดยทุ ก ๆ
ส่วนของโปรแกรมสามารถจะเรียกใช้ข้อมูลที่ประกาศไว้ในส่วน
นี้ได้ ซึ่งส่วนนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้
3. ส่วนของฟังก์ชันหลัก (main() function) ส่วนนี้ทุกโปรแกรม
จะต้องมี ซึ่ง จะประกอบไปด้ว ยประโยคคาสั่ง ต่าง ๆ ที่จะให้
โปรแกรมทางาน โดยนาคาสั่งต่าง ๆ มาเรียงต่อกัน และแต่ละ
ประโยคค าสั่ ง จะจบด้ ว ยเครื่ อ งหมายเซมิ โ คลอน (;) โดยใน
ขอบเขตของฟังก์ชันจะเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย { และสิ้นสุดด้วย
เครื่องหมาย }
4. ส่วนกาหนดฟังก์ชันขึ้นใช้เอง (Uses – define functions)
เป็นการเขียนคาสั่งและฟังก์ชันต่าง ๆ ขึ้นใช้ในโปรแกรม โดย
ต้องอยู่ในเครื่องหมาย { } และต้องสร้างฟังก์ชันหรือคาใหม่ที่ให้
ทางานตามที่เราต้องการให้กับโปรแกรมและสามารถเรียกใช้ได้
ภายในโปรแกรม
ตัวอย่างการกาหนดฟังก์ชันขึ้นใช้เอง
#include<stdio.h>
main()
{
function();
}
function()
{
return;
}

/*เรียกใช้ฟังก์ชันที่สร้างขึ้น*/
/*สร้างฟังก์ชันใหม่ โดยใช้ชื่อว่า function*/
/*คืนค่าที่เกิดจากการทาฟังก์ชน*/
ั
5. ส่วนอธิบายโปรแกรม (Program comment) ส่วนนี้ใช้เขียน
คอมเมนต์ในโปรแกรม เพื่ออธิบายการทางานต่าง ๆ ทาให้ผู้
ศึกษาโปรแกรมในภายหลังทาความเข้าใจโปรแกรมได้ง่ายขึ้น
เมื่อคอมไพล์โปรแกรมส่วนนี้จะถูกข้ามไป
คอมเมนต์ในภาษาซีมี 2 แบบ คือ
1. คอมเมนต์แบบบรรทัดเดียว ใช้เครื่องหมาย //
2. คอมเมนต์แบบหลายบรรทัด ใช้เครื่องหมาย /* และ */
ตัวอย่างการเขียนคอมเมนต์ในโปรแกรมภาษาซี
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

//comment only one line

#include <stdio.h>
int main ()
{
/*Comment
many
line*/
}
ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมขั้นต้น
#include<stdio.h>
main ()
{

ส่วนหัว

ส่วนฟังก์ชนหลัก
ั
}
จากตัวอย่างโปรแกรมอย่างง่ายจะประกอบด้วยสองส่วนคือ
1. ส่วนที่หนึ่งเป็นส่วนหัวหรือส่วนเรียกโมดูลอื่น ๆ เข้ามาแปลความหมาย
โดยเป็นส่วนของพรีโปรเซสเซอร์ไดเร็กทีฟ (Preprocessor Directive) ซึ่งอาจ
เป็นโมดูลมาตรฐานที่มีอยู่แล้วในโปรแกรมหรือโมดูลใหม่ที่สร้างขึ้นมาเองก็ได้
โดยโมดูลเหล่านี้จะบรรจุคาสั่งหรือข้อกาหนดต่าง ๆ ที่จะใช้ในโปรแกรมที่เขียน
ขึ้น
2. ส่วนที่สอง เรียกว่าส่วนฟังก์ชันหลัก ซึ่งเป็นส่วนคาสั่งหรือสเตตเมนต์
(Statement) จะเป็นส่วนที่เก็บคาสั่งต่าง ๆ ที่จะให้โปรแกรมทางาน โดยจะ
เริ่มต้นด้วยเครื่องหมายปีกกาเปิด { และจบด้วยเครื่องหมายปีกกาปิด } ส่วนนี้
จะมีมากกว่าหนึ่งฟังก์ชันก็ได้ แต่ทุกโปรแกรมจะต้องมีฟังก์ชัน main ซึ่งถือว่า
เป็นฟังก์ชันหลักที่โปรแกรมจะทางานได้
ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมภาษาซี
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

//My first program.

#include <stdio.h>
int main ()
{
clrscr();
printf(“Hello World ! n”);
getch();
}
ผลลัพธ์ที่ได้
อธิบายโปรแกรม
บรรทัดที่ 1 : เป็นส่วนที่เป็นหมายเหตุแบบบรรทัดเดียวของโปรแกรม
เพื่อให้ทราบชื่อโปรแกรมว่าชื่อ My first program.
บรรทัดที่ 3 : เป็นการบอกให้คอมไพเลอร์นาเฮดเดอร์ไฟล์ชื่อ stdio.h เข้า
มาร่วมในการแปลผลด้วย โดย stdio.h ย่อมาจาก standard input/output และ .h
คือนามสกุลของเฮดเดอร์ไฟล์ในภาษาซี (h ย่อมาจาก header) ซึ่ง stdio.h คือเฮด
เดอร์ไฟล์ที่รวมเอาการประกาศ (declaration) ของฟังก์ชันมาตรฐานของภาษาซีที่
เกี่ยวกับการจดการด้านอินพุตและเอาต์พตเข้ามาไว้ด้วยกัน โปรแกรมนี้มีการเรียกใช้
ุ
งานฟังก์ชัน printf() เพื่อแสดงข้อมูลออกทางจอภาพ และเนื่องจากส่วนของการ
ประกาศฟังก์ชัน printf() ถูกบรรจุอยู่ในเฮดเดอร์ไฟล์ stdio.h ดังนั้นจึงจาเป็นต้องนา
เฮดเดอร์ไฟล์ stdio.h เข้าร่วมในการแปลผลด้วย
บรรทัดที่ 5 : คือฟังก์ชัน main() ซึ่งเป็นฟังก์ชันหลักของโปรแกรม การ
ทางานของโปรแกรมภาษาซีจะเริ่มต้นที่ฟังก์ชันนี้
บรรทัดที่ 6 : เครื่องหมาย { ระบุจุดเริ่มต้นของฟังก์ชัน main()
บรรทัดที่ 7 : เป็นคาสั่งให้เคลียร์หน้าจอเวลาแสดงผล
บรรทัดที่ 8: เป็นการเรียกใช้ฟังก์ชัน printf() ซึ่งเป็นฟังก์ชันมาตรฐานของ
ภาษาซี ทาหน้าที่แสดงผลข้อมูลออกทางจอภาพ ในที่นี้จะแสดงข้อความ
Hello World! ออกทางจอภาพ
บรรทัดที่ 9 : เป็นการเรียกใช้ฟังก์ชัน getch() ซึ่งเป็นฟังก์ชันมาตรฐาน
ของภาษาซี เป็นคาสั่งรับข้อมูลทีละตัวอักษรจากแป้นพิมพ์
บรรทัดที่ 10 : เครื่องหมาย } ระบุจุดสิ้นสุดของฟังก์ชัน main()
ที่มา : คู่มืออบรมครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม การเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วยภาษา C บริษทซัคเซสมีเดีย
คู่มือเรียนเขียนโปรแกรมภาษา สานักพิมพ์ IDC PREMIER

More Related Content

What's hot

การเข้าใช้โปรแกรมซี Dev C++
การเข้าใช้โปรแกรมซี Dev C++การเข้าใช้โปรแกรมซี Dev C++
การเข้าใช้โปรแกรมซี Dev C++dechathon
 
Powerpoint บทที่ 2
Powerpoint บทที่ 2Powerpoint บทที่ 2
Powerpoint บทที่ 2patchareepoim
 
งานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
งานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐานงานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
งานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐานNoTe Tumrong
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานchanamanee Tiya
 
ส่วนประกอบวิชวลเบสิก
ส่วนประกอบวิชวลเบสิกส่วนประกอบวิชวลเบสิก
ส่วนประกอบวิชวลเบสิกNuunamnoy Singkham
 
ส่วนประกอบของโปรแกรม Visual basic 6
ส่วนประกอบของโปรแกรม Visual basic 6ส่วนประกอบของโปรแกรม Visual basic 6
ส่วนประกอบของโปรแกรม Visual basic 6Tom Nuntiya
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานWasin Kunnaphan
 
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีการเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีchoco336
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน (1)
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน (1)โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน (1)
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน (1)Thachanok Plubpibool
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานThachanok Plubpibool
 
Lesson1 programing concept
Lesson1 programing conceptLesson1 programing concept
Lesson1 programing conceptskiats
 

What's hot (17)

การเข้าใช้โปรแกรมซี Dev C++
การเข้าใช้โปรแกรมซี Dev C++การเข้าใช้โปรแกรมซี Dev C++
การเข้าใช้โปรแกรมซี Dev C++
 
Powerpoint บทที่ 2
Powerpoint บทที่ 2Powerpoint บทที่ 2
Powerpoint บทที่ 2
 
งานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
งานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐานงานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
งานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
 
3.6 ฟังก์ชัน
3.6 ฟังก์ชัน3.6 ฟังก์ชัน
3.6 ฟังก์ชัน
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
 
ส่วนประกอบวิชวลเบสิก
ส่วนประกอบวิชวลเบสิกส่วนประกอบวิชวลเบสิก
ส่วนประกอบวิชวลเบสิก
 
ส่วนประกอบของโปรแกรม Visual basic 6
ส่วนประกอบของโปรแกรม Visual basic 6ส่วนประกอบของโปรแกรม Visual basic 6
ส่วนประกอบของโปรแกรม Visual basic 6
 
Chapter1
Chapter1Chapter1
Chapter1
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
 
การเขียนโปรแกรมด้วย Vb 6.0
การเขียนโปรแกรมด้วย Vb 6.0การเขียนโปรแกรมด้วย Vb 6.0
การเขียนโปรแกรมด้วย Vb 6.0
 
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีการเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน (1)
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน (1)โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน (1)
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน (1)
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
 
Know 1 1
Know 1 1Know 1 1
Know 1 1
 
Lesson1 programing concept
Lesson1 programing conceptLesson1 programing concept
Lesson1 programing concept
 
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
3.1 โครงสร้างของภาษาซี3.1 โครงสร้างของภาษาซี
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
 
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
3.1 โครงสร้างของภาษาซี3.1 โครงสร้างของภาษาซี
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
 

Similar to โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C

โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี
โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซีโครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี
โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซีณัฐพล บัวพันธ์
 
บทที่6 งานคอม
บทที่6 งานคอมบทที่6 งานคอม
บทที่6 งานคอมIce Ice
 
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีการเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีchoco336
 
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีการเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีchoco336
 
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีการเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีchoco336
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานWasin Kunnaphan
 
2. โครงสร้างภาษาซี
2. โครงสร้างภาษาซี2. โครงสร้างภาษาซี
2. โครงสร้างภาษาซีmansuang1978
 
ภาษา C
ภาษา Cภาษา C
ภาษา C0872671746
 
1. ประวัติภาษาซี
1. ประวัติภาษาซี1. ประวัติภาษาซี
1. ประวัติภาษาซีmansuang1978
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2SubLt Masu
 
ประวัติภาษาซี
ประวัติภาษาซีประวัติภาษาซี
ประวัติภาษาซีHathaichon Nonruongrit
 

Similar to โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C (20)

Pbl2
Pbl2Pbl2
Pbl2
 
โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี
โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซีโครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี
โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี
 
โครงสร้างโปรแกรมภาษาซี
โครงสร้างโปรแกรมภาษาซีโครงสร้างโปรแกรมภาษาซี
โครงสร้างโปรแกรมภาษาซี
 
บทที่6 งานคอม
บทที่6 งานคอมบทที่6 งานคอม
บทที่6 งานคอม
 
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีการเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
 
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีการเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
 
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซีการเขียนโปรแกรมภาษาซี
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน
 
2. โครงสร้างภาษาซี
2. โครงสร้างภาษาซี2. โครงสร้างภาษาซี
2. โครงสร้างภาษาซี
 
ภาษา C
ภาษา Cภาษา C
ภาษา C
 
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา Cโครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
 
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา Cโครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
 
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา Cโครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
 
1. ประวัติภาษาซี
1. ประวัติภาษาซี1. ประวัติภาษาซี
1. ประวัติภาษาซี
 
Introduction Of C
Introduction Of CIntroduction Of C
Introduction Of C
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
 
งานทำBlog บทที่ 1
งานทำBlog บทที่ 1งานทำBlog บทที่ 1
งานทำBlog บทที่ 1
 
ประวัติภาษาซี
ประวัติภาษาซีประวัติภาษาซี
ประวัติภาษาซี
 
สอนภาษาc
สอนภาษาcสอนภาษาc
สอนภาษาc
 
Mindmapping
MindmappingMindmapping
Mindmapping
 

More from รัสนา สิงหปรีชา

บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบบทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบรัสนา สิงหปรีชา
 
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อกบทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อกรัสนา สิงหปรีชา
 
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์รัสนา สิงหปรีชา
 
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์รัสนา สิงหปรีชา
 
บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
บทที่ 2  ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้บทที่ 2  ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้รัสนา สิงหปรีชา
 

More from รัสนา สิงหปรีชา (20)

บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบบทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
 
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อกบทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
 
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
บทที่ 2  ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้บทที่ 2  ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
 
3.8 การทำงานแบบลำดับ
3.8 การทำงานแบบลำดับ3.8 การทำงานแบบลำดับ
3.8 การทำงานแบบลำดับ
 
3.8 การทำงานตามลำดับ
3.8 การทำงานตามลำดับ3.8 การทำงานตามลำดับ
3.8 การทำงานตามลำดับ
 
3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล
 
3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล
 
3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล
 
3.2 ตัวแปรและคำสงวน
3.2 ตัวแปรและคำสงวน3.2 ตัวแปรและคำสงวน
3.2 ตัวแปรและคำสงวน
 
คู่มือนักเรียน 3.1
คู่มือนักเรียน 3.1คู่มือนักเรียน 3.1
คู่มือนักเรียน 3.1
 
คู่มือครู
คู่มือครูคู่มือครู
คู่มือครู
 
3.8 การทำงานตามลำดับ
3.8 การทำงานตามลำดับ3.8 การทำงานตามลำดับ
3.8 การทำงานตามลำดับ
 
3.7 การเขียนผังงาน
3.7 การเขียนผังงาน3.7 การเขียนผังงาน
3.7 การเขียนผังงาน
 
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
 
3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์
3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์
3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์
 
3.3 ชนิดของข้อมูล
3.3 ชนิดของข้อมูล3.3 ชนิดของข้อมูล
3.3 ชนิดของข้อมูล
 
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
3.1 โครงสร้างของภาษาซี3.1 โครงสร้างของภาษาซี
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
 

โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C

  • 1.
  • 2. โครงสร้างของภาษา C ในโปรแกรมที่พัฒนาด้วยภาษา C ทุกโปรแกรมจะมีโครงสร้างการ พัฒนาไม่แตกต่างกัน ซึ่งประกอบด้วย 5 ส่วนหลัก ดังนี้ 1 พรีโปรเซสเซอร์ไดเรกทีฟ (Preprocessor directive) 2 ส่วนประกาศ (Global declarations) 3 ส่วนฟังก์ชนหลัก (main () function) ั 4 ส่วนกาหนดฟังก์ชันขึ้นใช้เอง (Uses – define functions) 5 ส่วนอธิบายโปรแกรม (Program comment)
  • 3. โครงสร้างของภาษา C 1. พรีโปรเซสเซอร์ไดเรกทีฟ (Preprocessor directive) อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าส่วนหัวโปรแกรม (Header Part) ส่วนนี้ทุกโปรแกรมจะต้องมี จะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย # เสมอ การ ทางานของคอมไพเลอร์จะทางานในส่วนนี้เป็นส่วนแรก จะเป็นส่วนที่ เก็บไลบราลีมาตรฐานของภาษา C ซึ่งจะถูกดึงเข้ามารวมกับ โปรแกรมในขณะแปลภาษาโปรแกรม (Compile) โดยใช้คาสั่ง #Include ซึ่งสามารถเขียนได้ 2 รูปแบบ คือ •รูปแบบที่ 1 #include<HeaderName> •รูปแบบที่ 2 #include“HeaderName”
  • 4. โครงสร้างของภาษา C แบบที่ใช้เครื่องหมาย <…> คอมไพเลอร์จะค้นหาเฮดเดอร์ จากไลบราลี ข องภาษา C เพี ย งที่ เ ดี ย วเท่ า นั้ น ส่ ว นที่ ใ ช้ เครื่องหมาย “…” คอมไพเลอร์จะค้นหาเฮดเดอร์จากไลบราลีที่ เก็บ Source Code ของเราก่อน ถ้าหากไม่เจอก็จะไปค้นหาที่ไล บราลีของภาษา C และเฮดเดอร์ไฟล์นี้จะมีนามสกุลเป็น .h เท่านั้น ในการเขียนโปรแกรมภาษา C เฮดเดอร์ไฟล์ที่เก็บไลบราลี มาตรฐานในการจั ด การเกี่ ย วกั บ อิ น พุ ต และเอาต์ พุ ต ของ โปรแกรมก็คือ stdio.h ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสาคัญที่ขาดไม่ได้
  • 5. 2. ส่วนประกาศ (Global declarations) ส่วนนี้จะใช้ในการ ประกาศตั วแปรหรื อฟั ง ก์ ชั น ที่ต้ องใช้ ในโปรแกรม โดยทุ ก ๆ ส่วนของโปรแกรมสามารถจะเรียกใช้ข้อมูลที่ประกาศไว้ในส่วน นี้ได้ ซึ่งส่วนนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้
  • 6. 3. ส่วนของฟังก์ชันหลัก (main() function) ส่วนนี้ทุกโปรแกรม จะต้องมี ซึ่ง จะประกอบไปด้ว ยประโยคคาสั่ง ต่าง ๆ ที่จะให้ โปรแกรมทางาน โดยนาคาสั่งต่าง ๆ มาเรียงต่อกัน และแต่ละ ประโยคค าสั่ ง จะจบด้ ว ยเครื่ อ งหมายเซมิ โ คลอน (;) โดยใน ขอบเขตของฟังก์ชันจะเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย { และสิ้นสุดด้วย เครื่องหมาย }
  • 7. 4. ส่วนกาหนดฟังก์ชันขึ้นใช้เอง (Uses – define functions) เป็นการเขียนคาสั่งและฟังก์ชันต่าง ๆ ขึ้นใช้ในโปรแกรม โดย ต้องอยู่ในเครื่องหมาย { } และต้องสร้างฟังก์ชันหรือคาใหม่ที่ให้ ทางานตามที่เราต้องการให้กับโปรแกรมและสามารถเรียกใช้ได้ ภายในโปรแกรม
  • 9. 5. ส่วนอธิบายโปรแกรม (Program comment) ส่วนนี้ใช้เขียน คอมเมนต์ในโปรแกรม เพื่ออธิบายการทางานต่าง ๆ ทาให้ผู้ ศึกษาโปรแกรมในภายหลังทาความเข้าใจโปรแกรมได้ง่ายขึ้น เมื่อคอมไพล์โปรแกรมส่วนนี้จะถูกข้ามไป คอมเมนต์ในภาษาซีมี 2 แบบ คือ 1. คอมเมนต์แบบบรรทัดเดียว ใช้เครื่องหมาย // 2. คอมเมนต์แบบหลายบรรทัด ใช้เครื่องหมาย /* และ */
  • 12. จากตัวอย่างโปรแกรมอย่างง่ายจะประกอบด้วยสองส่วนคือ 1. ส่วนที่หนึ่งเป็นส่วนหัวหรือส่วนเรียกโมดูลอื่น ๆ เข้ามาแปลความหมาย โดยเป็นส่วนของพรีโปรเซสเซอร์ไดเร็กทีฟ (Preprocessor Directive) ซึ่งอาจ เป็นโมดูลมาตรฐานที่มีอยู่แล้วในโปรแกรมหรือโมดูลใหม่ที่สร้างขึ้นมาเองก็ได้ โดยโมดูลเหล่านี้จะบรรจุคาสั่งหรือข้อกาหนดต่าง ๆ ที่จะใช้ในโปรแกรมที่เขียน ขึ้น 2. ส่วนที่สอง เรียกว่าส่วนฟังก์ชันหลัก ซึ่งเป็นส่วนคาสั่งหรือสเตตเมนต์ (Statement) จะเป็นส่วนที่เก็บคาสั่งต่าง ๆ ที่จะให้โปรแกรมทางาน โดยจะ เริ่มต้นด้วยเครื่องหมายปีกกาเปิด { และจบด้วยเครื่องหมายปีกกาปิด } ส่วนนี้ จะมีมากกว่าหนึ่งฟังก์ชันก็ได้ แต่ทุกโปรแกรมจะต้องมีฟังก์ชัน main ซึ่งถือว่า เป็นฟังก์ชันหลักที่โปรแกรมจะทางานได้
  • 15. อธิบายโปรแกรม บรรทัดที่ 1 : เป็นส่วนที่เป็นหมายเหตุแบบบรรทัดเดียวของโปรแกรม เพื่อให้ทราบชื่อโปรแกรมว่าชื่อ My first program. บรรทัดที่ 3 : เป็นการบอกให้คอมไพเลอร์นาเฮดเดอร์ไฟล์ชื่อ stdio.h เข้า มาร่วมในการแปลผลด้วย โดย stdio.h ย่อมาจาก standard input/output และ .h คือนามสกุลของเฮดเดอร์ไฟล์ในภาษาซี (h ย่อมาจาก header) ซึ่ง stdio.h คือเฮด เดอร์ไฟล์ที่รวมเอาการประกาศ (declaration) ของฟังก์ชันมาตรฐานของภาษาซีที่ เกี่ยวกับการจดการด้านอินพุตและเอาต์พตเข้ามาไว้ด้วยกัน โปรแกรมนี้มีการเรียกใช้ ุ งานฟังก์ชัน printf() เพื่อแสดงข้อมูลออกทางจอภาพ และเนื่องจากส่วนของการ ประกาศฟังก์ชัน printf() ถูกบรรจุอยู่ในเฮดเดอร์ไฟล์ stdio.h ดังนั้นจึงจาเป็นต้องนา เฮดเดอร์ไฟล์ stdio.h เข้าร่วมในการแปลผลด้วย
  • 16. บรรทัดที่ 5 : คือฟังก์ชัน main() ซึ่งเป็นฟังก์ชันหลักของโปรแกรม การ ทางานของโปรแกรมภาษาซีจะเริ่มต้นที่ฟังก์ชันนี้ บรรทัดที่ 6 : เครื่องหมาย { ระบุจุดเริ่มต้นของฟังก์ชัน main() บรรทัดที่ 7 : เป็นคาสั่งให้เคลียร์หน้าจอเวลาแสดงผล บรรทัดที่ 8: เป็นการเรียกใช้ฟังก์ชัน printf() ซึ่งเป็นฟังก์ชันมาตรฐานของ ภาษาซี ทาหน้าที่แสดงผลข้อมูลออกทางจอภาพ ในที่นี้จะแสดงข้อความ Hello World! ออกทางจอภาพ บรรทัดที่ 9 : เป็นการเรียกใช้ฟังก์ชัน getch() ซึ่งเป็นฟังก์ชันมาตรฐาน ของภาษาซี เป็นคาสั่งรับข้อมูลทีละตัวอักษรจากแป้นพิมพ์ บรรทัดที่ 10 : เครื่องหมาย } ระบุจุดสิ้นสุดของฟังก์ชัน main()
  • 17. ที่มา : คู่มืออบรมครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม การเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วยภาษา C บริษทซัคเซสมีเดีย คู่มือเรียนเขียนโปรแกรมภาษา สานักพิมพ์ IDC PREMIER