SlideShare a Scribd company logo
ตัวดำเนินกำรและนิพจน์
(OPERATOR AND EXPRESSIONS)
นิพจน์
(Expressions)

นิพจน์ (Expression) คือ ข้อควำมหรือประโยคที่เขียนอยู่
ในรูปสัญลักษณ์ โดยนำข้อมูล, ตัวแปร, ฟังก์ชัน หรือค่ำคงที่ มำ
สัมพันธ์กับตัวดำเนินกำร (Operator) อย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง สิ่งที่
ควรระลึกอยู่เสมอคือในกำรสร้ำงนิพจน์ 1 นิพจน์นั้นคือ นิพจน์
จะต้ อ งมี ตั ว ถู ก ระท ำ (Operand) อย่ ำ งน้ อ ยหนึ่ ง ตั ว และตั ว
ดำเนินกำร (Operator) อย่ำงน้อยหนึ่งตัว
นิพจน์
(Expressions)

ตัวอย่ำ งกำรสร้ำงนิ พ จน์ โดยแสดงควำมสั มพั น ธ์ ระหว่ำ งตัว ถูก กระทำ ตั ว
ดำเนินกำรและนิพจน์ ดังนี้ เช่น
นิพจน์

C++

C+1

ตัวถูกกระทำตัวที่ 1 (ตัวแปร)
ค่ำคงที่
ตัวดำเนินกำร
ตัวถูกกระทำตัวที่ 1 (ตัวแปร)

ตัวดำเนินกำรที่ 1
ตัวถูกกระทำตัวที่ 1 (ตัวแปร)
ตัวถูกกระทำตัวที่ 2 (ตัวแปร)
ตัวดำเนินกำรที่ 2
ตัวถูกกระทำตัวที่ 3 (นิพจน์)

A + B – (C + 2)
ตัวดำเนินกำร

C+2

ค่ำคงที่
ตัวดำเนินกำร (Operator)
ในกำรเขียนโปรแกรมทุกครั้งนั้นจะต้องมีกำรประมวลผลเข้ำมำเกี่ยวข้องเสมอ
แล้วสิ่งที่ทำให้เกิดกำรประมวลผลนั้นก็คือ ตัวดำเนินกำร สำมำรถแบ่งออกเป็น
ประเภทต่ำง ๆ ได้ดังนี้
ตัวดำเนินกำรบอกขนำดชนิดของข้อมูล
ตัวดำเนินกำรแบบมีเงื่อนไข
(Sizeof Operators)

(Conditional Operators)

ตัวดำเนินกำรยูนำรี

ตัวดำเนินกำรกำหนดค่ำ

(Unary Operators)

ตัวดำเนินกำร
ตัวดำเนินกำรตรรกะ

(Logical Operators)

ตัวดำเนินกำรเปรียบเทียบ

(Comparison Operators)

(Assignment Operators)

ตัวดำเนินกำรระดับบิต

(Bitwise Operators)

ตัวดำเนินกำรทำงคณิตศำสตร์

(Arithmetic Operators)
1. ตัวดำเนินกำรกำหนดค่ำ (Assignment Operator)
ใช้สำหรับกำรกำหนดค่ำให้กับตัวแปรทำงด้ำนซ้ำยของตัวดำเนินกำร ในกำร
กำหนดค่ำของตัวดำเนินกำรแต่ละชนิด จะมีหลักกำรทำงำนที่แตกต่ำงกัน
ตัวดำเนินกำร
ควำมหมำย
=
เท่ำกับ : กำรนำค่ำตัวถูกกระทำที่ได้จำกด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร มำ
ใส่ในตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำยของตัวดำเนินกำร
+=
บวกเท่ำกับ : กำรกำหนดค่ำตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำย เท่ำกับ ค่ำตัว
ถูกกระทำด้ำนซ้ำย บวกกับ ค่ำตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร
-=
ลบเท่ำกับ : กำรกำหนดค่ำตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำย เท่ำกับ ค่ำตัวถูก
กระทำด้ำนซ้ำย ลบกับ ค่ำตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร
*=
คูณเท่ำกับ : กำรกำหนดค่ำตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำย เท่ำกับ ค่ำตัวถูก
กระทำด้ำนซ้ำย คูณกับ ค่ำตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร
1. ตัวดำเนินกำรกำหนดค่ำ (Assignment Operator) (ต่อ)
ตัวดำเนินกำร
ควำมหมำย
/=
หำรเท่ำกับ : กำรกำหนดค่ำตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำย เท่ำกับ ค่ำตัว
ถูกกระทำด้ำนซ้ำย หำรกับ ค่ำตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร
%=
หำรเอำเศษเท่ำกับ : กำรกำหนดค่ำตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำย เท่ำกับ
เศษเหลือจำกกำรหำรระหว่ำงค่ ำตัวถูกกระทำด้ ำนซ้ำยกับค่ำตัวถู ก
กระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร
2. ตัวดำเนินกำรทำงคณิตศำสตร์ (Arithmetic Operators)
ตัวดำเนิตั วกำร น กำรทำงคณิ ต ศำสตร์ ใ นกำรเขี ย นโปรแกรม จะมี ก ำรท ำงำน
น ด ำเนิ
ควำมหมำย
ตัวอย่ำง
ผลลัพธ์
เหมือนกับกำรใช้ทำงคณิตศำสตร์ทั่วไป โดยมีตวดำเนินกำรต่ำง ๆ ดังนี้
ั
+
กำรบวก (Addition)
10 + 4
14
10 + 4.0
14.00
10.0 + 4
10.0 + 4.0
‘A’ + 2
67
-

กำรลบ (Subtraction)

10 – 4
10.0 – 4
10 – 4.0
10.0 – 4.0

6
6.00
2. ตัวดำเนินกำรทำงคณิตศำสตร์ (Arithmetic Operators) (ต่อ)

ตัวดำเนินกำร

ควำมหมำย

*

กำรคูณ (Multiply)

กำรหำรเอำเศษ
(Modulus)

ผลลัพธ์
40
40.00

-10 * -4
%

ตัวอย่ำง
10 * 4
10 * 4.0
10.0 * 4
10.0 * 4.0
10 * -4

40

11%4
4%10
-11%4

3
4
-3

-40
2. ตัวดำเนินกำรทำงคณิตศำสตร์ (Arithmetic Operators) (ต่อ)

ตัวดำเนินกำร

ควำมหมำย

/

กำรหำร (Divide)

ตัวอย่ำง
10 / 4
10.0 / 4
10 / 4.0
10.0 / 4.0
-11/4

ผลลัพธ์
2
2.50

11/-4

-2

-11/-4

2

-2
3. ตัวดำเนินกำรยูนำรี (Unary Operators)
ตัวดำเนินกำร

ควำมหมำย

รูปแบบ

ตัวอย่ำง

++

เพิ่มค่ำหนึ่งค่ำ
ให้กับตัวแปร

Postfix

X = A++

X=A
A=A+1

จะกำหนดค่ำให้กับตัวแปร X
ก่อนเพิ่มค่ำให้กับตัวแปร A

Prefix

X= ++A

A=A+1
X=A

จะเพิ่มค่ำให้กับตัวแปร A
ก่อนกำหนดค่ำให้กบตัวแปร X
ั

Postfix

X = A--

X=A
A=A-1

จะกำหนดค่ำให้กับตัวแปร X
ก่อนลดค่ำให้กับตัวแปร A

Prefix

X = --A

A=A-1
X=A

จะลดค่ำให้กับตัวแปร A
ก่อนกำหนดค่ำให้กบตัวแปร X
ั

--

ลดค่ำลงหนึ่งค่ำ
ให้กบตัวแปร
ั

กำรทำงำน

ข้อสังเกต

+

บวก (plus)

Prefix

A = +2

ค่ำตัวแปร A
กรณี เ ป็ น ค่ ำ บวกจะใส่ เ ครื่ อ งหมำย +
จะมีค่ำเท่ำกับ 2 หรือไม่ก็ได้ เพรำะกรณีไม่ใส่เครื่องหมำย
คอมไพเลอร์จะมองค่ำนั้นเป็นบวกเสมอ

-

ลบ (minus)

Prefix

A = -2

ค่ำตัวแปร A
จะมีค่ำเท่ำ -2

เครื่องหมำยลบหน้ำตัวเลขแสดงถึงค่ำเป็น
จำนวนลบ

A = -2
A = -A

A = -2
A=2

เมื่ อ ใส่ เครื่ อ งหมำยลบหน้ ำ ตั ว แปรใด ๆ
ผลลัพธ์ท่ได้จะเป็นค่ำตรงกันข้ำม
ี
4. ตัวดำเนินกำรเปรียบเทียบ (Comparision Operators)
เป็นตัวดำเนินกำรสำหรับเปรียบเทียบข้อมูลระหว่ำงตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำยและ
ด้ำนขวำ ผลลัพธ์ที่ได้จะมีค่ำเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False) เท่ำนั้น
ตัวดำเนินกำร
==

!=

>

ตัวอย่ำง
ควำมหมำย
เท่ำกับ : เปรียบเทียบระหว่ำงตัวถูกกระทำด้ำนซ้ำยกับ A = = B
ด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร ว่ำมีค่ำเท่ำกันหรือไม่ ถ้ำเท่ำกันจะ
ให้ผลลัพธ์เป็นจริง ถ้ำไม่เท่ำกันจะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ
ไม่ เ ท่ ำ กั บ : เปรีย บเที ย บระหว่ ำ งตั ว ถู ก กระท ำด้ ำ นซ้ ำ ยกั บ A ! = B
ด้ ำ นขวำของตั ว ด ำเนิ น กำร ว่ ำ มี ค่ ำ ไม่ เ ท่ ำ กั น หรื อ ไม่ ถ้ ำ ไม่
เท่ำกันจะให้ผลลัพธ์เป็นจริง ถ้ำเท่ำกันจะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ
มำกกว่ำ : เปรียบเทียบระหว่ำงตัวถูกกระทำด้ำนซ้ำยมีค่ำ A > B
มำกกว่ำตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำรหรือไม่ ถ้ำ
มำกกว่ำจะให้ผลลัพธ์เป็นจริง ถ้ำน้อยกว่ำจะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ
4. ตัวดำเนินกำรเปรียบเทียบ (Comparision Operators) (ต่อ)
ตัวอย่ำง
ตัวดำเนินกำร
ควำมหมำย
มำกกว่ำหรือเท่ำกับ : เปรียบเทียบระหว่ำงตัวถูกกระทำด้ำนซ้ำยมีค่ำ A > = B
>=
มำกกว่ ำ หรื อ เท่ ำ กั บ ตั ว ถู ก กระท ำด้ ำ นขวำของตั ว ด ำเนิ น กำร ถ้ ำ
มำกกว่ำหรือเท่ำกับจะให้ผลลัพธ์เป็นจริง ถ้ำไม่ใช่จะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ

<

น้อยกว่ำ : เปรียบเทียบระหว่ำงตัวถูกกระทำด้ำนซ้ำยมีค่ำน้อยกว่ำตัว
ถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำรหรือไม่ ถ้ำน้อยกว่ำจะให้ผลลัพธ์
เป็นจริง ถ้ำมำกกว่ำจะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ

<=

น้อยกว่ำหรือเท่ำกับ : เปรียบเทียบระหว่ำงตัวถูกกระทำด้ำนซ้ำยมีค่ำ A <= B
น้อยกว่ำหรือเท่ำกับตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร ถ้ำน้อย
กว่ำหรือเท่ำกับจะให้ผลลัพธ์เป็นจริง ถ้ำไม่ใช่จะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ

A<B
5. ตัวดำเนินกำรตรรกะ (Logial Operators)
ตัวดำเนินกำรตรรกะ (Logial Operators) เป็นตัวดำเนินกำรทำงด้ำน
ตรรกศำสตร์ ใช้สำหรับกำหนดเงื่อนไขมำกกว่ำ 1 เงื่อนไข ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะมีค่ำ
เป็นจริง(True) หรือ เท็จ(False) เท่ำนั้น
ตัวดำเนินกำร

&&

||

!

ควำมหมำย

ตัวอย่ำง

และ : ใช้กำหนดเงื่อนไขในกรณีที่ต้องกำรให้เงื่อนไข (A>B) && A>C)
ของนิพจน์ด้ำนซ้ำยและด้ำนขวำของตัวดำเนินเป็นจริง
ทั้งสองด้ำน จึงทำงำนที่ต้องกำร
หรือ : ใช้กำหนดเงื่อนไขในกรณีที่ต้องกำรให้เงื่อนไข (A>B) || (A>C)
ของนิพจน์และด้ำนขวำของตัวดำเนินกำรเป็นจริงด้ำน
ใดด้ำนหนึ่งหรือทั้งสองด้ำน จึงทำงำนที่ต้องกำร
นิเสธ (not) : ใช้กำหนดเงื่อนไขในกรณีที่ต้องกำรค่ำ
!(A < B)
ควำมจริงตรงกันข้ำม
ตำรำงเปรียบเทียบค่ำควำมจริงของนิพจน์ โดยกำหนดให้ p และ q เป็นตัวถูก
ดำเนินกำรทำงตรรกศำสตร์

p
จริง
จริง
เท็จ
เท็จ

q
จริง
เท็จ
จริง
เท็จ

p && q
จริง
เท็จ
เท็จ
เท็จ

p || q
จริง
จริง
จริง
เท็จ

!p
เท็จ
เท็จ
จริง
จริง

!q
เท็จ
จริง
เท็จ
จริง
6. ตัวดำเนินกำรแบบมีเงือนไข (Condition Operators)
่
ตัวดำเนินกำรชนิดนี้ใช้สำหรับตรวจสอบเงื่อนไขของนิพจน์ ว่ำ
มีควำมจริงเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False) โดยมีรูปแบบกำร
ใช้งำนดังนี้

Expression ? ValueTrue : ValueFalse;

โดยที่ Expression คือ นิพจน์เงื่อนไข
ValueTrue คือ ค่ำที่ได้กรณีที่เงื่อนไขเป็นจริง
ValueFalse คือ ค่ำที่ได้กรณีเงื่อนไขเป็นเท็จ
7. ตัวดำเนินกำรบอกขนำดชนิดข้อมูล (Sizeof Operators)
ตั ว ด ำเนิ น กำรชนิ ด นี้ จ ะใช้ ส ำหรั บ หำขนำดชนิ ด ของข้ อ มู ล ต่ ำ ง ๆ ที่
ต้องกำรรู้ โดยมีรูปแบบกำรใช้งำนดังนี้
sizeof(Data)
โดยที่ sizeof คือ ตัวดำเนินกำรบอกขนำดชนิดข้อมูล
Data คือ ชนิดข้อมูลหรือตัวแปรที่ต้องกำรทรำบขนำด
8. ตัวดำเนินกำรระดับบิต (Bitwse Operators)

ในบำงครั้งเรำก็ต้องมีกำรประมวลผลในระดับบิต ซึ่งเป็นหน่วย
ข้อมูลที่เล็กที่สุด กำรทำงำนในระดับบิตนี้จะช่วยให้ CPU ทำงำน
เร็วขึ้น เพรำะว่ำ CPU ประมวลผลที่ชนิดข้อมูลที่เป็นบิตเท่ำนั้น
ซึ่งถ้ำเป็นข้อมูลชนิดอื่น ๆ จะต้องแปลงข้อมูลให้เป็นบิตก่อน
บันทึก
บิต (Bit) เป็นหน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุด โดยข้อมูลหนึ่งบิตจะมี
สถำนะได้ 2 สถำนะ คือ 0 (ปิด) หรือ 1 (เปิด) หรือเรียกอีก
อย่ำงว่ำ เลขฐำนสอง
ตำรำงแสดงผลกำรทำงำนของตัวดำเนินกำรระดับบิต โดยกำหนดให้
p และ q เป็นตัวถูกดำเนินกำรระหว่ำงบิต
p q (Bitwise AND)
(Bitwise OR)
(Bitwise XOR)
p&q
p|q
p^q
0
0
1
1

0
1
0
1

0
0
0
1

0
1
1
1

0
1
1
0

• p & q หมำยถึงให้ผลลัพธ์กำรเปรียบเทียบแบบ AND ระหว่ำง p กับ q
• p | q หมำยถึงให้ผลลัพธ์กำรเปรียบเทียบแบบ OR ระหว่ำง p กับ q
• p ^ q หมำยถึงให้ผลลัพธ์กำรเปรียบเทียบแบบ XOR ระหว่ำง p กับ q
Bitwise Shift Left
Bitwise Shift Left (<<) เป็นตัวดำเนินกำรสำหรับเลื่อนค่ำบิต
ไปทำงซ้ำย โดยมีหลักกำรทำงำน ดังนี้
กำหนดให้ X เป็นตัวถูกดำเนินกำร (อยู่ในรูปแบบเลขฐำนสอง)
และ Y เป็นจำนวนกำร Shift โดยที่ X << Y หมำยถึง เลื่อนบิต
ในตัวถูกดำเนินกำร X ไปทำงซ้ำย Y บิต ผลลัพธ์ที่ได้จำกกำร
Shift Left จะได้เท่ำกบผลคูณของ X กับ 2Y
1

1

1

0

1

…

1

0

1

0

1

0

1

0

…

0

1

0

0

บิตซ้ำยมือสุดตัดทิ้ง

บิตขวำมือสุดเติม 0
Bitwise Shift Right
Bitwise Shift Right (>>) เป็นตัวดำเนินกำรสำหรับเลื่อนค่ำบิต
ไปทำงขวำ โดยมีหลักกำรทำงำน ดังนี้
กำหนดให้ X เป็นตัวถูกดำเนินกำร (อยู่ในรูปแบบเลขฐำนสอง)
และ Y เป็นจำนวนกำร Shift โดยที่ X >> Y หมำยถึง เลื่อนบิต
ในตัวถูกดำเนินกำร X ไปทำงขวำ Y บิต ผลลัพธ์ที่ได้จำกกำร
Shift Right จะได้เท่ำกับผลหำรของ X กับ 2Y
1

1

0

1

…

1

0

1

0

0

0

1

0

…

0

1

0

1

บิตซ้ำยมือสุดเติม 0

บิตขวำมือตัดทิ้ง

0
One’s Complement ()
One’s Complement () เป็นตัวดำเนินกำรสำหรับปรับค่ำของบิต
เป็นค่ำตรงกันข้ำม กล่ำวคือปรบค่ำบิต 1 เปลี่ยนเป็นค่ำบิต 0 และ
ปรับค่ำบิต 0 เปลี่ยนเป็นค่ำบิต 1 ซึ่งเรำสำมำรถสรุปได้ดังตำรำง
ดังนี้
ค่ำบิตเริ่มต้น (P)
1
0

ผลจำกกำรทำ One’s Complement (P)
0
1
ลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร
(Operator of Precedence)
ในกำรทำงำนของตัวดำเนินกำร (Operator) แต่
ละตัวนั้น ลำดับกำรทำงำนจะขึ้นอยู่กับลำดับควำมสำคัญ
(Precedence) ของตัวดำเนินกำรนั้น ๆ ด้วย กำรทำงำน
จะเริ่มจำกลำดับควำมสำคัญสูงไปยังต่ำ
*จำกตำรำงที่จะแสดงต่อไปนั้น ลำดับควำมสำคัญที่ 1 จะ
มีควำมสำคัญสูงสุด และลำดับควำมสำคัญที่ 18 จะมี
ควำมสำคัญต่ำสุด
ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร
ลำดับ
ตัวดำเนินกำร
ควำมสำคัญ

ควำมหมำย

1

()

วงเล็บ (Identifier)

2

()
[]

ฟังก์ชัน (Function)
อำร์เรย์ (Array)
Structure Selection
Structure Member

กำรทำงำนเริ่ม
จำก
(Associativity)

ไม่ได้กำหนด
(N/A)
ซ้ำยไปขวำ
(Left)
ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ)
ลำดับ
ตัวดำเนินกำร
ควำมสำคัญ

3

++

--

ควำมหมำย

กำรทำงำนเริ่มจำก
(Associativity)

เพิ่มค่ำขึ้นอีกหนึ่งค่ำ โดยตัว ซ้ำยไปขวำ
ด ำเนิ น กำรอยู่ ห ลั ง ตั ว ถู ก (Left)
กระทำ (Postfix Increment)
ลดค่ ำ ลงอี ก หนึ่ ง ค่ ำ โดยตั ว
ด ำเนิ น กำรอยู่ ห ลังตัวถู ก
กระทำ (Postfix Decrement)
ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ)
ลำดับ
ตัวดำเนินกำร
ควำมสำคัญ

4

++

--

ควำมหมำย

กำรทำงำนเริ่ม
จำก
(Associativity)

เพิ่ ม ค่ ำ ขึ้ น อี ก หนึ่ ง ค่ ำ โดยตั ว ขวำไปซ้ำย
ด ำเนิ น ก ำร อยู่ ห น้ ำตั ว ถู ก (Left)
กระทำ (Prefix Increment)
ลดค่ ำ ลงอี ก หนึ่ ง ค่ ำ โดยตั ว
ด ำเนิ น ก ำร อยู่ ห น้ ำตั ว ถู ก
กระทำ (Prefix Decrement)
ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ)
ลำดับ
ตัวดำเนินกำร
ควำมสำคัญ

4
(ต่อ)

sizeof
+
!
&

ควำมหมำย

หำขนำดชนิดข้อมูล
(Size of Object in byte)
บวก (plus)
ลบ (minus)
ตรรกะนิเสธ (not)
ชี้ ที่ อ ยู่ ใ น ห น่ ว ย ค ว ำ ม จ ำ
(Address)

กำรทำงำนเริ่มจำก
(Associativity)

ซ้ำยไปขวำ
(Left)
ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ)
ลำดับ
ตัวดำเนินกำร
ควำมสำคัญ

4
(ต่อ)
5
6

*


()
*
/
%

ควำมหมำย

กำรทำงำนเริ่มจำก
(Associativity)

ตัวชี้พอยเตอร์ (Indirection) ซ้ำยไปขวำ
(Left)
วันคอมพลีเมนต์
(One’s Complement)
แปลงค่ำชนิดข้อมูล
คูณ (Multiply)
ซ้ำยไปขวำ
หำร (Divide)
หำรเอำเศษ (Modulus)
ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ)
ลำดับ
ตัวดำเนินกำร
ควำมสำคัญ

ควำมหมำย

กำรทำงำนเริ่มจำก
(Associativity)

7

+
-

บวกเพิ่มค่ำ (Addition) ซ้ำยไปขวำ
ลบลดค่ำ (Subtraction)

8

<<

เลื่อนบิตไปทำงซ้ำย
(Bit Left)
เลื่อนบิตไปทำงขวำ
(Bit Right)
เปรียบเทียบมำกกว่ำ
เปรียบเทียบน้อยกว่ำ

>>

9

>
<
ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ)
ลำดับ
ตัวดำเนินกำร
ควำมสำคัญ

9
(ต่อ)

11

>=
<=
==
!=
&

12

^

10

ควำมหมำย

เปรียบเทียบมำกกว่ำเท่ำกับ
เปรียบเทียบน้อยกว่ำเท่ำกับ
เปรียบเทียบเท่ำกับ
เปรียบเทียบไม่เท่ำกับ
กำรกระทำบิต AND
(bitwise AND)
กำรกระทำบิต XOR
(bitwise exclusive OR)

กำรทำงำนเริ่มจำก
(Associativity)

ซ้ำยไปขวำ
ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ)
ลำดับ
ตัวดำเนินกำร
ควำมสำคัญ

13

l

14
15
16
17

&&
Ll
?:
= += -=
*= /= %=
>>= <<=
&= ^= l=

ควำมหมำย

กำรทำงำนเริ่มจำก
(Associativity)

กำรกระทำบิต OR (bitwise ซ้ำยไปขวำ
OR)
ตรรกะ AND (Logical AND)
ตรรกะ OR (Logical OR)
เงื่อนไข (Conditional)
ขวำไปซ้ำย
กำหนดค่ำให้ตัวถูกกระทำ
(Assignment)
กำหนดค่ำระดับบิต
(Bit Assignment)
ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ)
ลำดับ
ตัวดำเนินกำร
ควำมสำคัญ

18

,

ควำมหมำย

คอมมำ (Comma)

กำรทำงำนเริ่มจำก
(Associativity)

ซ้ำยไปขวำ
ที่มำ : คู่มืออบรมครูวิทยำศำสตร์ คณิตศำสตร์ คอมพิวเตอร์ โลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย
หนังสือเรียนรำยวิชำเพิ่มเติม กำรเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วยภำษำ C บริษทซัคเซสมีเดีย
คู่มือเรียนเขียนโปรแกรมภำษำ สำนักพิมพ์ IDC PREMIER

More Related Content

What's hot

หลักการเบื้องต้นในการเขียนโปรแกรม3
หลักการเบื้องต้นในการเขียนโปรแกรม3หลักการเบื้องต้นในการเขียนโปรแกรม3
หลักการเบื้องต้นในการเขียนโปรแกรม3sup11
 
ผังงาน เจนนภา
ผังงาน เจนนภาผังงาน เจนนภา
ผังงาน เจนนภา
ปณพล ดาดวง
 
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาอัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาskiats
 
Doc 40720.914467592650
Doc 40720.914467592650Doc 40720.914467592650
Doc 40720.914467592650Jakkree Eiei
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึมความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึมwaradakhantee
 
บทที่ 5 ข้อมูลชนิดอาร์เรย์และสตริง
บทที่ 5 ข้อมูลชนิดอาร์เรย์และสตริงบทที่ 5 ข้อมูลชนิดอาร์เรย์และสตริง
บทที่ 5 ข้อมูลชนิดอาร์เรย์และสตริงOnpreeya Sahnguansak
 
Logical Excel
Logical ExcelLogical Excel
Logical Excel
smittichai chaiyawong
 
การเขียนผังงานเบื้องต้น
การเขียนผังงานเบื้องต้นการเขียนผังงานเบื้องต้น
การเขียนผังงานเบื้องต้นพัน พัน
 
การเขียนผังงาน
การเขียนผังงานการเขียนผังงาน
การเขียนผังงานAmanda Mam
 
บทที่4การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
บทที่4การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหาบทที่4การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
บทที่4การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหาjack4212
 
การเขียนผังงาน
การเขียนผังงานการเขียนผังงาน
การเขียนผังงานIsaku JuJu
 
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาอัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาsupatra178
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
Worapod Khomkham
 
1 3สัญลักษณ์ผังงาน
1 3สัญลักษณ์ผังงาน1 3สัญลักษณ์ผังงาน
1 3สัญลักษณ์ผังงาน
Pannathat Champakul
 

What's hot (18)

หลักการเบื้องต้นในการเขียนโปรแกรม3
หลักการเบื้องต้นในการเขียนโปรแกรม3หลักการเบื้องต้นในการเขียนโปรแกรม3
หลักการเบื้องต้นในการเขียนโปรแกรม3
 
ผังงาน เจนนภา
ผังงาน เจนนภาผังงาน เจนนภา
ผังงาน เจนนภา
 
Chapter05
Chapter05Chapter05
Chapter05
 
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาอัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
 
ผังงาน
ผังงานผังงาน
ผังงาน
 
Doc 40720.914467592650
Doc 40720.914467592650Doc 40720.914467592650
Doc 40720.914467592650
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึมความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึม
 
Chapter 02 Flowchart
Chapter 02 FlowchartChapter 02 Flowchart
Chapter 02 Flowchart
 
บทที่ 5 ข้อมูลชนิดอาร์เรย์และสตริง
บทที่ 5 ข้อมูลชนิดอาร์เรย์และสตริงบทที่ 5 ข้อมูลชนิดอาร์เรย์และสตริง
บทที่ 5 ข้อมูลชนิดอาร์เรย์และสตริง
 
Logical Excel
Logical ExcelLogical Excel
Logical Excel
 
การเขียนผังงานเบื้องต้น
การเขียนผังงานเบื้องต้นการเขียนผังงานเบื้องต้น
การเขียนผังงานเบื้องต้น
 
การเขียนผังงาน
การเขียนผังงานการเขียนผังงาน
การเขียนผังงาน
 
บทที่4การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
บทที่4การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหาบทที่4การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
บทที่4การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา
 
Lesson5
Lesson5Lesson5
Lesson5
 
การเขียนผังงาน
การเขียนผังงานการเขียนผังงาน
การเขียนผังงาน
 
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหาอัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา
 
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐานโปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชั่นมาตรฐาน
 
1 3สัญลักษณ์ผังงาน
1 3สัญลักษณ์ผังงาน1 3สัญลักษณ์ผังงาน
1 3สัญลักษณ์ผังงาน
 

Similar to 3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์

การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำการเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
ITitle A'lohaa
 
53011213012
5301121301253011213012
53011213012
Chanachai Aor
 
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมงานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมPassawan' Koohar
 
C lab5 2
C lab5 2C lab5 2
If statement
If statementIf statement
If statementsup11
 
If statement
If statementIf statement
If statementsup11
 
ผังงาน
ผังงานผังงาน
ผังงาน
ปณพล ดาดวง
 
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมงานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมnuknook
 
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมงานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมnuknook
 
C:\Documents And Settings\Administrator\Desktop\Ch00 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
C:\Documents And Settings\Administrator\Desktop\Ch00 คอมพิวเตอร์เบื้องต้นC:\Documents And Settings\Administrator\Desktop\Ch00 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
C:\Documents And Settings\Administrator\Desktop\Ch00 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
-
 
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์Onrutai Intanin
 
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศPaweena Kittitongchaikul
 

Similar to 3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์ (20)

งานทำBlog บทที่ 4
งานทำBlog บทที่ 4งานทำBlog บทที่ 4
งานทำBlog บทที่ 4
 
3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์
3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์
3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์
 
javabasic
javabasicjavabasic
javabasic
 
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำการเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
 
Presenttttttt
PresentttttttPresenttttttt
Presenttttttt
 
53011213012
5301121301253011213012
53011213012
 
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมงานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอม
 
C lab5 2
C lab5 2C lab5 2
C lab5 2
 
If statement
If statementIf statement
If statement
 
If statement
If statementIf statement
If statement
 
ผังงาน
ผังงานผังงาน
ผังงาน
 
1
11
1
 
Chapter05
Chapter05Chapter05
Chapter05
 
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมงานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอม
 
Answer unit3.2
Answer unit3.2Answer unit3.2
Answer unit3.2
 
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมงานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอม
 
C:\Documents And Settings\Administrator\Desktop\Ch00 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
C:\Documents And Settings\Administrator\Desktop\Ch00 คอมพิวเตอร์เบื้องต้นC:\Documents And Settings\Administrator\Desktop\Ch00 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
C:\Documents And Settings\Administrator\Desktop\Ch00 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
 
งานทำBlog บทที่ 10
งานทำBlog บทที่ 10งานทำBlog บทที่ 10
งานทำBlog บทที่ 10
 
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
 

More from รัสนา สิงหปรีชา

บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบบทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
รัสนา สิงหปรีชา
 
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อกบทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
รัสนา สิงหปรีชา
 
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
รัสนา สิงหปรีชา
 
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
รัสนา สิงหปรีชา
 
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
รัสนา สิงหปรีชา
 
บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
บทที่ 2  ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้บทที่ 2  ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
รัสนา สิงหปรีชา
 
3.8 การทำงานแบบลำดับ
3.8 การทำงานแบบลำดับ3.8 การทำงานแบบลำดับ
3.8 การทำงานแบบลำดับ
รัสนา สิงหปรีชา
 
3.8 การทำงานตามลำดับ
3.8 การทำงานตามลำดับ3.8 การทำงานตามลำดับ
3.8 การทำงานตามลำดับ
รัสนา สิงหปรีชา
 
3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
 
3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
 
3.2 ตัวแปรและคำสงวน
3.2 ตัวแปรและคำสงวน3.2 ตัวแปรและคำสงวน
3.2 ตัวแปรและคำสงวน
รัสนา สิงหปรีชา
 
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
 

More from รัสนา สิงหปรีชา (20)

บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบบทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
 
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อกบทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
 
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
บทที่ 2  ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้บทที่ 2  ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
 
3.8 การทำงานแบบลำดับ
3.8 การทำงานแบบลำดับ3.8 การทำงานแบบลำดับ
3.8 การทำงานแบบลำดับ
 
3.8 การทำงานตามลำดับ
3.8 การทำงานตามลำดับ3.8 การทำงานตามลำดับ
3.8 การทำงานตามลำดับ
 
3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล
 
3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล
 
3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล3.3. ชนิดของข้อมูล
3.3. ชนิดของข้อมูล
 
3.2 ตัวแปรและคำสงวน
3.2 ตัวแปรและคำสงวน3.2 ตัวแปรและคำสงวน
3.2 ตัวแปรและคำสงวน
 
คู่มือนักเรียน 3.1
คู่มือนักเรียน 3.1คู่มือนักเรียน 3.1
คู่มือนักเรียน 3.1
 
คู่มือครู
คู่มือครูคู่มือครู
คู่มือครู
 
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
3.1 โครงสร้างของภาษาซี3.1 โครงสร้างของภาษาซี
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
 
3.8 การทำงานตามลำดับ
3.8 การทำงานตามลำดับ3.8 การทำงานตามลำดับ
3.8 การทำงานตามลำดับ
 
3.7 การเขียนผังงาน
3.7 การเขียนผังงาน3.7 การเขียนผังงาน
3.7 การเขียนผังงาน
 
3.6 ฟังก์ชัน
3.6 ฟังก์ชัน3.6 ฟังก์ชัน
3.6 ฟังก์ชัน
 
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
 
3.3 ชนิดของข้อมูล
3.3 ชนิดของข้อมูล3.3 ชนิดของข้อมูล
3.3 ชนิดของข้อมูล
 

3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์

  • 2. นิพจน์ (Expressions) นิพจน์ (Expression) คือ ข้อควำมหรือประโยคที่เขียนอยู่ ในรูปสัญลักษณ์ โดยนำข้อมูล, ตัวแปร, ฟังก์ชัน หรือค่ำคงที่ มำ สัมพันธ์กับตัวดำเนินกำร (Operator) อย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง สิ่งที่ ควรระลึกอยู่เสมอคือในกำรสร้ำงนิพจน์ 1 นิพจน์นั้นคือ นิพจน์ จะต้ อ งมี ตั ว ถู ก ระท ำ (Operand) อย่ ำ งน้ อ ยหนึ่ ง ตั ว และตั ว ดำเนินกำร (Operator) อย่ำงน้อยหนึ่งตัว
  • 3. นิพจน์ (Expressions) ตัวอย่ำ งกำรสร้ำงนิ พ จน์ โดยแสดงควำมสั มพั น ธ์ ระหว่ำ งตัว ถูก กระทำ ตั ว ดำเนินกำรและนิพจน์ ดังนี้ เช่น นิพจน์ C++ C+1 ตัวถูกกระทำตัวที่ 1 (ตัวแปร) ค่ำคงที่ ตัวดำเนินกำร ตัวถูกกระทำตัวที่ 1 (ตัวแปร) ตัวดำเนินกำรที่ 1 ตัวถูกกระทำตัวที่ 1 (ตัวแปร) ตัวถูกกระทำตัวที่ 2 (ตัวแปร) ตัวดำเนินกำรที่ 2 ตัวถูกกระทำตัวที่ 3 (นิพจน์) A + B – (C + 2) ตัวดำเนินกำร C+2 ค่ำคงที่
  • 4. ตัวดำเนินกำร (Operator) ในกำรเขียนโปรแกรมทุกครั้งนั้นจะต้องมีกำรประมวลผลเข้ำมำเกี่ยวข้องเสมอ แล้วสิ่งที่ทำให้เกิดกำรประมวลผลนั้นก็คือ ตัวดำเนินกำร สำมำรถแบ่งออกเป็น ประเภทต่ำง ๆ ได้ดังนี้ ตัวดำเนินกำรบอกขนำดชนิดของข้อมูล ตัวดำเนินกำรแบบมีเงื่อนไข (Sizeof Operators) (Conditional Operators) ตัวดำเนินกำรยูนำรี ตัวดำเนินกำรกำหนดค่ำ (Unary Operators) ตัวดำเนินกำร ตัวดำเนินกำรตรรกะ (Logical Operators) ตัวดำเนินกำรเปรียบเทียบ (Comparison Operators) (Assignment Operators) ตัวดำเนินกำรระดับบิต (Bitwise Operators) ตัวดำเนินกำรทำงคณิตศำสตร์ (Arithmetic Operators)
  • 5. 1. ตัวดำเนินกำรกำหนดค่ำ (Assignment Operator) ใช้สำหรับกำรกำหนดค่ำให้กับตัวแปรทำงด้ำนซ้ำยของตัวดำเนินกำร ในกำร กำหนดค่ำของตัวดำเนินกำรแต่ละชนิด จะมีหลักกำรทำงำนที่แตกต่ำงกัน ตัวดำเนินกำร ควำมหมำย = เท่ำกับ : กำรนำค่ำตัวถูกกระทำที่ได้จำกด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร มำ ใส่ในตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำยของตัวดำเนินกำร += บวกเท่ำกับ : กำรกำหนดค่ำตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำย เท่ำกับ ค่ำตัว ถูกกระทำด้ำนซ้ำย บวกกับ ค่ำตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร -= ลบเท่ำกับ : กำรกำหนดค่ำตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำย เท่ำกับ ค่ำตัวถูก กระทำด้ำนซ้ำย ลบกับ ค่ำตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร *= คูณเท่ำกับ : กำรกำหนดค่ำตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำย เท่ำกับ ค่ำตัวถูก กระทำด้ำนซ้ำย คูณกับ ค่ำตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร
  • 6. 1. ตัวดำเนินกำรกำหนดค่ำ (Assignment Operator) (ต่อ) ตัวดำเนินกำร ควำมหมำย /= หำรเท่ำกับ : กำรกำหนดค่ำตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำย เท่ำกับ ค่ำตัว ถูกกระทำด้ำนซ้ำย หำรกับ ค่ำตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร %= หำรเอำเศษเท่ำกับ : กำรกำหนดค่ำตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำย เท่ำกับ เศษเหลือจำกกำรหำรระหว่ำงค่ ำตัวถูกกระทำด้ ำนซ้ำยกับค่ำตัวถู ก กระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร
  • 7. 2. ตัวดำเนินกำรทำงคณิตศำสตร์ (Arithmetic Operators) ตัวดำเนิตั วกำร น กำรทำงคณิ ต ศำสตร์ ใ นกำรเขี ย นโปรแกรม จะมี ก ำรท ำงำน น ด ำเนิ ควำมหมำย ตัวอย่ำง ผลลัพธ์ เหมือนกับกำรใช้ทำงคณิตศำสตร์ทั่วไป โดยมีตวดำเนินกำรต่ำง ๆ ดังนี้ ั + กำรบวก (Addition) 10 + 4 14 10 + 4.0 14.00 10.0 + 4 10.0 + 4.0 ‘A’ + 2 67 - กำรลบ (Subtraction) 10 – 4 10.0 – 4 10 – 4.0 10.0 – 4.0 6 6.00
  • 8. 2. ตัวดำเนินกำรทำงคณิตศำสตร์ (Arithmetic Operators) (ต่อ) ตัวดำเนินกำร ควำมหมำย * กำรคูณ (Multiply) กำรหำรเอำเศษ (Modulus) ผลลัพธ์ 40 40.00 -10 * -4 % ตัวอย่ำง 10 * 4 10 * 4.0 10.0 * 4 10.0 * 4.0 10 * -4 40 11%4 4%10 -11%4 3 4 -3 -40
  • 9. 2. ตัวดำเนินกำรทำงคณิตศำสตร์ (Arithmetic Operators) (ต่อ) ตัวดำเนินกำร ควำมหมำย / กำรหำร (Divide) ตัวอย่ำง 10 / 4 10.0 / 4 10 / 4.0 10.0 / 4.0 -11/4 ผลลัพธ์ 2 2.50 11/-4 -2 -11/-4 2 -2
  • 10. 3. ตัวดำเนินกำรยูนำรี (Unary Operators) ตัวดำเนินกำร ควำมหมำย รูปแบบ ตัวอย่ำง ++ เพิ่มค่ำหนึ่งค่ำ ให้กับตัวแปร Postfix X = A++ X=A A=A+1 จะกำหนดค่ำให้กับตัวแปร X ก่อนเพิ่มค่ำให้กับตัวแปร A Prefix X= ++A A=A+1 X=A จะเพิ่มค่ำให้กับตัวแปร A ก่อนกำหนดค่ำให้กบตัวแปร X ั Postfix X = A-- X=A A=A-1 จะกำหนดค่ำให้กับตัวแปร X ก่อนลดค่ำให้กับตัวแปร A Prefix X = --A A=A-1 X=A จะลดค่ำให้กับตัวแปร A ก่อนกำหนดค่ำให้กบตัวแปร X ั -- ลดค่ำลงหนึ่งค่ำ ให้กบตัวแปร ั กำรทำงำน ข้อสังเกต + บวก (plus) Prefix A = +2 ค่ำตัวแปร A กรณี เ ป็ น ค่ ำ บวกจะใส่ เ ครื่ อ งหมำย + จะมีค่ำเท่ำกับ 2 หรือไม่ก็ได้ เพรำะกรณีไม่ใส่เครื่องหมำย คอมไพเลอร์จะมองค่ำนั้นเป็นบวกเสมอ - ลบ (minus) Prefix A = -2 ค่ำตัวแปร A จะมีค่ำเท่ำ -2 เครื่องหมำยลบหน้ำตัวเลขแสดงถึงค่ำเป็น จำนวนลบ A = -2 A = -A A = -2 A=2 เมื่ อ ใส่ เครื่ อ งหมำยลบหน้ ำ ตั ว แปรใด ๆ ผลลัพธ์ท่ได้จะเป็นค่ำตรงกันข้ำม ี
  • 11. 4. ตัวดำเนินกำรเปรียบเทียบ (Comparision Operators) เป็นตัวดำเนินกำรสำหรับเปรียบเทียบข้อมูลระหว่ำงตัวถูกกระทำทำงด้ำนซ้ำยและ ด้ำนขวำ ผลลัพธ์ที่ได้จะมีค่ำเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False) เท่ำนั้น ตัวดำเนินกำร == != > ตัวอย่ำง ควำมหมำย เท่ำกับ : เปรียบเทียบระหว่ำงตัวถูกกระทำด้ำนซ้ำยกับ A = = B ด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร ว่ำมีค่ำเท่ำกันหรือไม่ ถ้ำเท่ำกันจะ ให้ผลลัพธ์เป็นจริง ถ้ำไม่เท่ำกันจะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ ไม่ เ ท่ ำ กั บ : เปรีย บเที ย บระหว่ ำ งตั ว ถู ก กระท ำด้ ำ นซ้ ำ ยกั บ A ! = B ด้ ำ นขวำของตั ว ด ำเนิ น กำร ว่ ำ มี ค่ ำ ไม่ เ ท่ ำ กั น หรื อ ไม่ ถ้ ำ ไม่ เท่ำกันจะให้ผลลัพธ์เป็นจริง ถ้ำเท่ำกันจะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ มำกกว่ำ : เปรียบเทียบระหว่ำงตัวถูกกระทำด้ำนซ้ำยมีค่ำ A > B มำกกว่ำตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำรหรือไม่ ถ้ำ มำกกว่ำจะให้ผลลัพธ์เป็นจริง ถ้ำน้อยกว่ำจะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ
  • 12. 4. ตัวดำเนินกำรเปรียบเทียบ (Comparision Operators) (ต่อ) ตัวอย่ำง ตัวดำเนินกำร ควำมหมำย มำกกว่ำหรือเท่ำกับ : เปรียบเทียบระหว่ำงตัวถูกกระทำด้ำนซ้ำยมีค่ำ A > = B >= มำกกว่ ำ หรื อ เท่ ำ กั บ ตั ว ถู ก กระท ำด้ ำ นขวำของตั ว ด ำเนิ น กำร ถ้ ำ มำกกว่ำหรือเท่ำกับจะให้ผลลัพธ์เป็นจริง ถ้ำไม่ใช่จะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ < น้อยกว่ำ : เปรียบเทียบระหว่ำงตัวถูกกระทำด้ำนซ้ำยมีค่ำน้อยกว่ำตัว ถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำรหรือไม่ ถ้ำน้อยกว่ำจะให้ผลลัพธ์ เป็นจริง ถ้ำมำกกว่ำจะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ <= น้อยกว่ำหรือเท่ำกับ : เปรียบเทียบระหว่ำงตัวถูกกระทำด้ำนซ้ำยมีค่ำ A <= B น้อยกว่ำหรือเท่ำกับตัวถูกกระทำด้ำนขวำของตัวดำเนินกำร ถ้ำน้อย กว่ำหรือเท่ำกับจะให้ผลลัพธ์เป็นจริง ถ้ำไม่ใช่จะให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ A<B
  • 13. 5. ตัวดำเนินกำรตรรกะ (Logial Operators) ตัวดำเนินกำรตรรกะ (Logial Operators) เป็นตัวดำเนินกำรทำงด้ำน ตรรกศำสตร์ ใช้สำหรับกำหนดเงื่อนไขมำกกว่ำ 1 เงื่อนไข ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะมีค่ำ เป็นจริง(True) หรือ เท็จ(False) เท่ำนั้น ตัวดำเนินกำร && || ! ควำมหมำย ตัวอย่ำง และ : ใช้กำหนดเงื่อนไขในกรณีที่ต้องกำรให้เงื่อนไข (A>B) && A>C) ของนิพจน์ด้ำนซ้ำยและด้ำนขวำของตัวดำเนินเป็นจริง ทั้งสองด้ำน จึงทำงำนที่ต้องกำร หรือ : ใช้กำหนดเงื่อนไขในกรณีที่ต้องกำรให้เงื่อนไข (A>B) || (A>C) ของนิพจน์และด้ำนขวำของตัวดำเนินกำรเป็นจริงด้ำน ใดด้ำนหนึ่งหรือทั้งสองด้ำน จึงทำงำนที่ต้องกำร นิเสธ (not) : ใช้กำหนดเงื่อนไขในกรณีที่ต้องกำรค่ำ !(A < B) ควำมจริงตรงกันข้ำม
  • 14. ตำรำงเปรียบเทียบค่ำควำมจริงของนิพจน์ โดยกำหนดให้ p และ q เป็นตัวถูก ดำเนินกำรทำงตรรกศำสตร์ p จริง จริง เท็จ เท็จ q จริง เท็จ จริง เท็จ p && q จริง เท็จ เท็จ เท็จ p || q จริง จริง จริง เท็จ !p เท็จ เท็จ จริง จริง !q เท็จ จริง เท็จ จริง
  • 15. 6. ตัวดำเนินกำรแบบมีเงือนไข (Condition Operators) ่ ตัวดำเนินกำรชนิดนี้ใช้สำหรับตรวจสอบเงื่อนไขของนิพจน์ ว่ำ มีควำมจริงเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False) โดยมีรูปแบบกำร ใช้งำนดังนี้ Expression ? ValueTrue : ValueFalse; โดยที่ Expression คือ นิพจน์เงื่อนไข ValueTrue คือ ค่ำที่ได้กรณีที่เงื่อนไขเป็นจริง ValueFalse คือ ค่ำที่ได้กรณีเงื่อนไขเป็นเท็จ
  • 16. 7. ตัวดำเนินกำรบอกขนำดชนิดข้อมูล (Sizeof Operators) ตั ว ด ำเนิ น กำรชนิ ด นี้ จ ะใช้ ส ำหรั บ หำขนำดชนิ ด ของข้ อ มู ล ต่ ำ ง ๆ ที่ ต้องกำรรู้ โดยมีรูปแบบกำรใช้งำนดังนี้ sizeof(Data) โดยที่ sizeof คือ ตัวดำเนินกำรบอกขนำดชนิดข้อมูล Data คือ ชนิดข้อมูลหรือตัวแปรที่ต้องกำรทรำบขนำด
  • 17. 8. ตัวดำเนินกำรระดับบิต (Bitwse Operators) ในบำงครั้งเรำก็ต้องมีกำรประมวลผลในระดับบิต ซึ่งเป็นหน่วย ข้อมูลที่เล็กที่สุด กำรทำงำนในระดับบิตนี้จะช่วยให้ CPU ทำงำน เร็วขึ้น เพรำะว่ำ CPU ประมวลผลที่ชนิดข้อมูลที่เป็นบิตเท่ำนั้น ซึ่งถ้ำเป็นข้อมูลชนิดอื่น ๆ จะต้องแปลงข้อมูลให้เป็นบิตก่อน บันทึก บิต (Bit) เป็นหน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุด โดยข้อมูลหนึ่งบิตจะมี สถำนะได้ 2 สถำนะ คือ 0 (ปิด) หรือ 1 (เปิด) หรือเรียกอีก อย่ำงว่ำ เลขฐำนสอง
  • 18. ตำรำงแสดงผลกำรทำงำนของตัวดำเนินกำรระดับบิต โดยกำหนดให้ p และ q เป็นตัวถูกดำเนินกำรระหว่ำงบิต p q (Bitwise AND) (Bitwise OR) (Bitwise XOR) p&q p|q p^q 0 0 1 1 0 1 0 1 0 0 0 1 0 1 1 1 0 1 1 0 • p & q หมำยถึงให้ผลลัพธ์กำรเปรียบเทียบแบบ AND ระหว่ำง p กับ q • p | q หมำยถึงให้ผลลัพธ์กำรเปรียบเทียบแบบ OR ระหว่ำง p กับ q • p ^ q หมำยถึงให้ผลลัพธ์กำรเปรียบเทียบแบบ XOR ระหว่ำง p กับ q
  • 19. Bitwise Shift Left Bitwise Shift Left (<<) เป็นตัวดำเนินกำรสำหรับเลื่อนค่ำบิต ไปทำงซ้ำย โดยมีหลักกำรทำงำน ดังนี้ กำหนดให้ X เป็นตัวถูกดำเนินกำร (อยู่ในรูปแบบเลขฐำนสอง) และ Y เป็นจำนวนกำร Shift โดยที่ X << Y หมำยถึง เลื่อนบิต ในตัวถูกดำเนินกำร X ไปทำงซ้ำย Y บิต ผลลัพธ์ที่ได้จำกกำร Shift Left จะได้เท่ำกบผลคูณของ X กับ 2Y 1 1 1 0 1 … 1 0 1 0 1 0 1 0 … 0 1 0 0 บิตซ้ำยมือสุดตัดทิ้ง บิตขวำมือสุดเติม 0
  • 20. Bitwise Shift Right Bitwise Shift Right (>>) เป็นตัวดำเนินกำรสำหรับเลื่อนค่ำบิต ไปทำงขวำ โดยมีหลักกำรทำงำน ดังนี้ กำหนดให้ X เป็นตัวถูกดำเนินกำร (อยู่ในรูปแบบเลขฐำนสอง) และ Y เป็นจำนวนกำร Shift โดยที่ X >> Y หมำยถึง เลื่อนบิต ในตัวถูกดำเนินกำร X ไปทำงขวำ Y บิต ผลลัพธ์ที่ได้จำกกำร Shift Right จะได้เท่ำกับผลหำรของ X กับ 2Y 1 1 0 1 … 1 0 1 0 0 0 1 0 … 0 1 0 1 บิตซ้ำยมือสุดเติม 0 บิตขวำมือตัดทิ้ง 0
  • 21. One’s Complement () One’s Complement () เป็นตัวดำเนินกำรสำหรับปรับค่ำของบิต เป็นค่ำตรงกันข้ำม กล่ำวคือปรบค่ำบิต 1 เปลี่ยนเป็นค่ำบิต 0 และ ปรับค่ำบิต 0 เปลี่ยนเป็นค่ำบิต 1 ซึ่งเรำสำมำรถสรุปได้ดังตำรำง ดังนี้ ค่ำบิตเริ่มต้น (P) 1 0 ผลจำกกำรทำ One’s Complement (P) 0 1
  • 22. ลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (Operator of Precedence) ในกำรทำงำนของตัวดำเนินกำร (Operator) แต่ ละตัวนั้น ลำดับกำรทำงำนจะขึ้นอยู่กับลำดับควำมสำคัญ (Precedence) ของตัวดำเนินกำรนั้น ๆ ด้วย กำรทำงำน จะเริ่มจำกลำดับควำมสำคัญสูงไปยังต่ำ *จำกตำรำงที่จะแสดงต่อไปนั้น ลำดับควำมสำคัญที่ 1 จะ มีควำมสำคัญสูงสุด และลำดับควำมสำคัญที่ 18 จะมี ควำมสำคัญต่ำสุด
  • 24. ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ) ลำดับ ตัวดำเนินกำร ควำมสำคัญ 3 ++ -- ควำมหมำย กำรทำงำนเริ่มจำก (Associativity) เพิ่มค่ำขึ้นอีกหนึ่งค่ำ โดยตัว ซ้ำยไปขวำ ด ำเนิ น กำรอยู่ ห ลั ง ตั ว ถู ก (Left) กระทำ (Postfix Increment) ลดค่ ำ ลงอี ก หนึ่ ง ค่ ำ โดยตั ว ด ำเนิ น กำรอยู่ ห ลังตัวถู ก กระทำ (Postfix Decrement)
  • 25. ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ) ลำดับ ตัวดำเนินกำร ควำมสำคัญ 4 ++ -- ควำมหมำย กำรทำงำนเริ่ม จำก (Associativity) เพิ่ ม ค่ ำ ขึ้ น อี ก หนึ่ ง ค่ ำ โดยตั ว ขวำไปซ้ำย ด ำเนิ น ก ำร อยู่ ห น้ ำตั ว ถู ก (Left) กระทำ (Prefix Increment) ลดค่ ำ ลงอี ก หนึ่ ง ค่ ำ โดยตั ว ด ำเนิ น ก ำร อยู่ ห น้ ำตั ว ถู ก กระทำ (Prefix Decrement)
  • 26. ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ) ลำดับ ตัวดำเนินกำร ควำมสำคัญ 4 (ต่อ) sizeof + ! & ควำมหมำย หำขนำดชนิดข้อมูล (Size of Object in byte) บวก (plus) ลบ (minus) ตรรกะนิเสธ (not) ชี้ ที่ อ ยู่ ใ น ห น่ ว ย ค ว ำ ม จ ำ (Address) กำรทำงำนเริ่มจำก (Associativity) ซ้ำยไปขวำ (Left)
  • 27. ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ) ลำดับ ตัวดำเนินกำร ควำมสำคัญ 4 (ต่อ) 5 6 *  () * / % ควำมหมำย กำรทำงำนเริ่มจำก (Associativity) ตัวชี้พอยเตอร์ (Indirection) ซ้ำยไปขวำ (Left) วันคอมพลีเมนต์ (One’s Complement) แปลงค่ำชนิดข้อมูล คูณ (Multiply) ซ้ำยไปขวำ หำร (Divide) หำรเอำเศษ (Modulus)
  • 28. ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ) ลำดับ ตัวดำเนินกำร ควำมสำคัญ ควำมหมำย กำรทำงำนเริ่มจำก (Associativity) 7 + - บวกเพิ่มค่ำ (Addition) ซ้ำยไปขวำ ลบลดค่ำ (Subtraction) 8 << เลื่อนบิตไปทำงซ้ำย (Bit Left) เลื่อนบิตไปทำงขวำ (Bit Right) เปรียบเทียบมำกกว่ำ เปรียบเทียบน้อยกว่ำ >> 9 > <
  • 30. ตำรำงแสดงลำดับควำมสำคัญของตัวดำเนินกำร (ต่อ) ลำดับ ตัวดำเนินกำร ควำมสำคัญ 13 l 14 15 16 17 && Ll ?: = += -= *= /= %= >>= <<= &= ^= l= ควำมหมำย กำรทำงำนเริ่มจำก (Associativity) กำรกระทำบิต OR (bitwise ซ้ำยไปขวำ OR) ตรรกะ AND (Logical AND) ตรรกะ OR (Logical OR) เงื่อนไข (Conditional) ขวำไปซ้ำย กำหนดค่ำให้ตัวถูกกระทำ (Assignment) กำหนดค่ำระดับบิต (Bit Assignment)
  • 32. ที่มำ : คู่มืออบรมครูวิทยำศำสตร์ คณิตศำสตร์ คอมพิวเตอร์ โลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย หนังสือเรียนรำยวิชำเพิ่มเติม กำรเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วยภำษำ C บริษทซัคเซสมีเดีย คู่มือเรียนเขียนโปรแกรมภำษำ สำนักพิมพ์ IDC PREMIER