More Related Content Similar to 53011213095 (20) 530112130951. วิธีการใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel ในการคำนวณ และการใช้โปรแกรม Microsoft Word ใน การทำจดหมายเวียนหรือ Mail merge นางสาว วราภรณ์ ชำนาญวงษ์ รหัสนิสิต 53011213095 คณะวิทยากาสารสนเทศ สาขาสารสนเทศศาสตร์ ระบบปกติ 5. 3. คลิกขวาที่ แถบสถานะ จะปรากฏกล่องแสดงคำสั่ง 4. เลือกคำสั่งที่ต้องการ ( ในที่นี่เลือกคำสั่ง ผลรวม ) 5. แดรกเมาส์เลือกช่วงเซลล์ที่ต้องการให้คำนวณ 6. จะปรากฏผลลัพธ์ที่ แถบสถานะ 8. การใช้งานสูตรแบบฟังก์ชัน ( Function) เราสามารถใช้สูตรแบบฟังก์ชันช่วยคำนวณข้อมูลที่ซับซ้อนหรือมดีปริมาณมากได้ ซึ่งฟังก์ชันใน Excel เป็นสูตรที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและถูกสร้างให้เหมาะกับงานเฉพาะอย่าง ตัวอย่าง =5-1 =9*8 =B5-A7 ตัวอย่าง =SUM(B1:B9) =AVERAGE(A9:A20) =COUNT(A1:A5) 9. การใช้งานสูตรแบบอาร์เรย์ ( Array) การใช้สูตรแบบอาร์เรย์สามารถทำหลาย ๆ การคำนวณให้คืนค่าเป็นผลลัพธ์เดียวหรือหลายผลลัพธ์ โดยสูตรอาร์เรย์ตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป สูตรแบบต่าง ๆ จะมีความยากง่ายแตกต่างกันออกไป ซึ่งการสร้างสูตรนั้น เราจะต้องทราบหลักการทำงานของเครื่องหมายและสัญลักษณ์ในสูตร รวมถึงลำดับการคำนวณ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการแสดงผลลัพธ์ทั้งสิ้น ตัวอย่าง {=SUM((B1:B9)/(A1:A5))} 10. การสร้างสูตรคำนวณใช้เอง การสร้างสูตรใช้เองนั้นจำเป็นจะต้องทราบถึงหลักกการและองค์ประกอบสำคัญต่าง ๆ ที่ประกอบอยู่ในสูตรรวมถึงลำดับที่เราจะใช้ในการสร้างสูตรด้วย หลักการสร้างสูตร โครงสร้างหรือลำดับขององค์ประกอบต่าง ๆ ในสูตร จะเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ขั้นสุดท้ายซึ่ง Excel จะคำนวณตามรูปแบบที่เรากำหนด โดยปกติ Excel จะคำนวณสูตรจากซ้ายไปขวา แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลำดับของตัวดำเนินการที่มีลำดับเหนือกว่า โดยที่เราสามารถควบคุมลำดับของการคำนวณได้โดยใช้เครื่องหมายวงเล็บเพื่อจัดกลุ่มในการคำนวณที่ควรจะเริ่มทำก่อน ตัวอย่าง =9+3/2 ผลลัพธ์เท่ากับ 10.5 เนื่องจาก Excel จะคำนวณ 3 หาร ด้วย 2 ก่อน ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 1.5 แล้วสุดท้ายนำมาบวกด้วย 9 แต่ถ้าเราใช้วงเล็บเพื่อควบคุมการคำนวณโดยใส่วงเล็บให้ 9 บวกกับ 3 ก่อนแล้วจึงหารด้วย 2 ก็จะต้องใช้สูตร =(9+3)/2 ผลลัพธ์เท่ากับ 6 12. ลำดับที่ Excel ใช้ดำเนินการในสูตร หากใช้ตัวดำเนินการหลาย ๆ ตัวในสูตรเดียวกัน ใน Excel จะมีลำดับการดำเนินการตามลำดับดังนี้ ลำดับที่ ตัวดำเนินการ คำอธิบาย 1. : ( เครื่องหมายจุดคู่ ) ตัวดำเนินการอ้างอิง 2. ( ที่ว่างเดียว ) ตัวดำเนินการอ้างอิง 3. , ( เครื่องหมาจุลภาค ) ตัวดำเนินการอ้างอิง 4. - เครื่องหมายลบ ( เช่น -5) 5. % เปอร์เซ็นต์ 6. ^ เลขชี้กำลัง 7. * และ / การคูณและการหาร 8. + และ - การบวกและการลบ 9. & เชื่อมสายอักขระของข้อความ 10. = <> <=> = <> การเปรียบเทียบ 13. ตัวดำเนินการที่ใช้ในสูตร ( Operator) เครื่องหมายหรือตัวดำเนินการคือ องค์ประกอบหนึ่งในสูตรโดยจะระบุชนิดของการคำนวณที่ต้องการ ซึ่ง Excel จะแบ่งตัวดำเนินการออกเป็น 4 ประเภท คือ คณิตศาสตร์ การเปรียบเทียบ ข้อความ และการอ้างอิง ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ ( Arithmetic Operator) ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ ใช้คำนวณด้วยวิธีทางคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐาน เช่น การบวก ลบ คูณ หาร การรวมตัวเลข การหาผลลัพธ์ต่าง ๆ เครื่องหมาย ความหมาย ตัวอย่าง + การบวก 5+3 - การลบ 9-4 หรือ -1 * การคูณ 5*6 / การหาร 10/3 % เปอร์เซ็นต์ 2 % ^ เลขชี้กำลัง 2 ^ 2 ( หรือ 2*2) 14. ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ ( Comparison Operator) เราสามารถใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบเพื่อการเปรียบค่าสองค่า โดยผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นค่าทางตรรกศาสตร์คือ True หรือ False เครื่องหมาย ความหมาย ตัวอย่าง = เท่ากับ C5=D5 > มากกว่า C5>D5 < น้อยกว่า C5<D5 >= มากกว่าหรือเท่ากับ C5>=D5 <= น้อยกว่าหรือเท่ากับ C5<=D5 <> ไม่เท่ากับ C5<>D5 15. ตัวดำเนินการข้อความ ( Text Concatenation Operator) ตัวดำเนินการข้อความจะใช้เครื่องหมาย (&) ในการรวมข้อความหรือคำ 2 คำขึ้นไป เพื่อให้เป็นข้อความเดียวกัน เครื่องหมาย ความหมาย ตัวอย่าง & เชื่อมหรือนำคำ 2 คำมาต่อกีนทำให้เกิดค่าข้อความต่อเนื่องที่เป็นค่าเดียวกัน "Lampamg"&"Kanlayanee" ผลลัพธ์เป็น LampangKanlayanee 16. ตัวดำเนินการสำหรับอ้างอิง ( Reference Operator) ตัวดำเนินการอ้างอิงถูกนำมาใช้เพื่อรวมช่วงของเซลล์สำหรับการคำนวณ เครื่องหมาย ความหมาย ตัวอย่าง : ( จุดคู่ ) ตัวดำเนินการช่วง โดยจะอ้างอิงเป็นช่วง ระหว่างจุดอ้างอิงที่หนึ่งกับจุดอ้างอิงที่สอง B1:B9 , ( จุลภาค ) ตัวดำเนินการส่วนรวม ซึ่งเป็นตัวรวมการอ้างอิงหลาย ๆ ชุดเช้าด้วยกันเป็นการอ้างอิงหนึ่งชุด SUM(A5:a12,C1:C5) 17. การทำจดหมายเวียนหรือ Mail merge Mail Merge เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญใน Microsoft Word ที่ช่วยในการสร้างจดหมาย เช่น จดหมายแจ้งข่าว ที่มีชื่อ และที่อยู่ของผู้รับ โดยปรกติ เราอาจจะพิมพ์ชื่อของแต่ละคนลงไปตรงๆ ในจดหมายนั้น แล้วก็เปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ ถ้ามีรายชื่อจำนวนมาก ก็ต้องเสียเวลาในการแก้ไขจดหมายแต่ละฉบับ Mail Merge จะช่วยในการนำข้อมูลจากตารางมาใส่ลงในจดหมาย ตามจุดที่เรากำหนด แล้วสามารถสั่งพิมพ์จดหมายตามรายชื่อผู้รับในตารางได้พร้อมกันทีเดียว ทำให้ลดเวลาในการทำงาน และลดความผิดพลาดลงได้ 20. 2. เปิดโปรแกรม Microsoft word โดยสร้างไฟล์ซองจดหมาย หรือไฟล์บันทึกข้อความที่เราต้องการจะส่งถึง * ตั้งค่าให้ได้ขนาดซองที่ได้ต้องการ หรือเอาไม่บรรทัดวัดซองที่เราต้องการทำก่อนก็ได้ เมื่อตั้งค่ากระดาษแล้วจะได้ดังรูป 21. 3. ไปที่ Tools>>letters and Mailings>>Mail Merge 23. Step 2 เลือก Next: select recipients 24. จะเห็น sheet ต่างๆ แต่เราได้สร้างไว้ใน sheet1 ให้กด OK จะเห็นดังรูป 25. เมื่อกด ok แล้วจะสังเกตได้ว่า มีรายชื่อที่เราได้พิมพ์ไป 26. 5. จะสังเกตเมนูเกี่ยวกับ mail merge ขึ้น ให้เราคลิกเลือกที่ - Insert merge fields เลือก fields ที่ต้องการที่จะ merge ในที่นี่ เราต้องการ 29. 8. เมื่อปิดไฟล์แล้วจะเปิดไฟล์ ms-word ขึ้นมาใช้ใหม่ มันจะถามดังรูปไม่ต้องแปลกใจให้ คลิก ok ก็ได้สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม ต่อไปนี้เวลาเราจะเพิ่มที่อยู่ก็มาพิมพ์ข้อมูลไปใน ไฟล์ excel แล้วเรียกใช้ได้ทันทีแถมยังสามารถเป็นที่อยู่ไว้เป็นฐานข้อมูลได้อยู่ด้วย * หมายเหตุ เวลาจะเปิดพิมพ์ผู้ส่งถึงในโปรแกรม excel อย่าลืมปิดไฟล์ ms-word ด้วยนะค่ะ ไม่งั้นจะสามารถอ่านได้อย่างเดียวแก้ไขไม่ได้