More Related Content
Similar to 2560 project พิชญา[1] (20)
2560 project พิชญา[1]
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน อันตรายจากวิตามิน
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาว พิชญา อัครภิรมย์ เลขที่ 29 ชั้น ม.6 ห้อง 7
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม (ถ้ามี)…………………………………………………
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นางสาว พิชญา อัครภิรมย์ เลขที่ 29
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
-ประโยชน์และโทษของวิตามิน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
-Amazing vitamin
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว พิชญา อัครภิรมย์
ชื่อที่ปรึกษา ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม _____________________________________________________________
ระยะเวลาดาเนินงาน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ในชีวิตประจาวันของเรา วิตามินเป็นสารอินทรีย์ที่มีความจาเป็นต่อร่างกายคนเรามาก เพราะวิตามินเป็นตัว
ช่วยที่ทาให้ระบบต่างๆภายในร่างกายของคนเราเกิดความสมดุล และเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายให้มี
สุขภาพที่ดี ที่สาคัญ เราไม่สามารถผลิตหรือสังเคราะห์วิตามินเองได้ จาเป็นต้องได้รับจากสารอาหารที่เรา
รับประทานไปในแต่ละมื้อ หรือการได้รับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อเข้าไปทดแทนวิตามินที่ร่างกายขาดหายไป
วิตามินมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็ให้ประโยชน์และโทษที่ไม่เหมือนกัน ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักซื้อ
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพราะคิดว่าดีต่อสุขภาพและร่างกาย แต่ก็มักจะหลงลืมไปว่า วิตามินที่ได้จากอาหารเสริม
เหล่านั้นไม่ได้มีแค่ประโยชน์อย่างเดียวแต่ก็ยังมีโทษด้วย เช่น วิตามินเอ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ หญิง
ตั้งครรภ์จึงซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามีวิตามินเอมารับประทาน แต่ถ้ารับประทานจานวนมาก จะส่งผลต่อทารกใน
ครรภ์ให้พิการได้
- 3. 3
การทาโครงงานเรื่องนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ในเรื่องของการรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริม วิตามินบางตัว
ไม่ได้มีแค่ประโยชน์อย่างเดียว เราควรจะศึกษาให้ดีก่อนว่าหากรับประทานไปเกินขนาดจะส่งผลเสียต่อร่างกาย
อย่างไร
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
-เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับวิตามินชนิดต่างๆ
-เพื่อให้รู้ถึงประโยชน์ของวิตามินในแต่ละชนิด
-เพื่อให้รู้ถึงโทษของวิตามินแต่ละชนิดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
-เพื่อให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ถูกต้อง
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
บุคคลทั่วไปที่อยากรู้เกี่ยวกับวิตามินชนิดต่างๆ
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
วิตามินเอ หรือ เรตินอล จัดเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันหรือน้ามัน ซึ่งภายในร่างกายของเราสามารถเก็บ
วิตามินเอได้ ทาให้ไม่จาเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอทุกวัน โดยแหล่งอาหารที่มีวิตามินเอ ได้แก่
อาหารจาพวกตับ, บร็อกโคลี, ผักโขม, ฟักทอง, น้ามันตับปลา, แครอท, ไข่, นม, มะละกอ, มะม่วง, ถั่วลันเตา
เป็นต้น
วิตามินบี 1 หรือ ไทอามีน จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้า ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมไว้ในร่างกายได้ โดย
วิตามินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ร่างกายจึงจาเป็นต้องได้รับการชดเชยใหม่ทุกวัน เป็นวิตามินที่สังเคราะห์มา
จากเชื้อแบคทีเรีย, รา และพืช ซึ่งแหล่งอาหารที่มีวิตามินบี 1 อยู่ ได้แก่ ส้ม, หน่อไม้ฝรั่ง, เนื้อสัตว์, ตับ, ข้าว
กล้อง, เมล็ดทานตะวัน, ถั่วต่างๆ, มันเทศ, ข้าวโอ๊ต, ขนมปัง, ยีสต์, ธัญพืชต่างๆ, ปลา, ราจมูกข้าว, ข้าวกล้อง
เป็นต้น
วิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน หรือที่คนสมัยก่อนอาจรู้จักกันในชื่อวิตามินจี จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้า ดูด
ซึมง่าย เช่นเดียวกันกับวิตามินบี 1 ร่างกายไม่เก็บสะสมวิตามินบี 2 ไว้ เราจึงจาเป็นต้องได้รับวิตามินบี 2 เป็น
ประจา ซึ่งแหล่งอาหารที่มีวิตามินบี 2 อยู่ ได้แก่ โยเกิร์ต, มะเขือเทศ, เนื้อ, พืชผักใบเขียวต่างๆ, ถั่วต่างๆ,
เมล็ดอัลมอนด์, ไข่, เนื้อปลา, ตับ หรือเมล็ดธัญพืชต่างๆ เป็นต้น
วิตามินบี 3 หรือ ไนอะซิน หรือ วิตามินพีพี จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้าเช่นเดียวกับวิตามินบีอื่นๆ โดย
ร่างกายของเรานั้นจะสามารถสร้างไนอะซินขึ้นได้เองโดยใช้กรดแอมิโนทริปโตแฟน แต่หากร่างกายกาลังขาด
สารอาหารอย่างวิตามินบี 1, บี 2 และบี 6 ร่างกายจะไม่สามารถสร้างไนอะซินจากทริปโตแฟนขึ้นได้ ซึ่งใน
อาหารที่กรดอะมิโนทริปโตแฟน ได้แก่เห็ด, อะโวคาโด, ยีสต์, มะเขือเทศ, แครอท, บร็อกโคลี, มันฝรั่ง เป็นต้น
ส่วนแหล่งของวิตามินบี 3 จะอยู่ในอาหารจาพวกเนื้อ, นม, ไข่, ถั่วต่างๆ, เมล็ดธัญพืชต่างๆ, ตับ เป็นต้น
วิตามินบี 6 หรือ ไพริด็อกซิน จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้าอีกชนิดหนึ่ง โดยจะถูกขับออกจากร่างกายได้ใน
เวลา 8 ชั่วโมง หลังจากรับประทานอาหารเข้าไป โดยแหล่งอาหารที่มีวิตามินบี 6 อยู่ ได้แก่ เมล็ดธัญพืชต่างๆ,
ถั่วต่างๆ, เนื้อสัตว์, ข้าวซ้อมมือ, กล้วย, ขนมปัง, นม, พืชผักต่างๆ เป็นต้น
- 4. 4
วิตามินบี 7 หรือ ไบโอติน หรือ วิตามินบีดับเบิลยู จัดเป็นอีกหนึ่งวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็น
วิตามินที่ละลายน้าได้ โดยแหล่งอาหารที่สาคัญของวิตามินบี 7 อยู่ ได้แก่ ตับ, เครื่องในสัตว์, สัตว์ปีก, เมล็ด
ธัญพืชต่างๆ ที่ไม่ขัดสี, ถั่วเหลือง, ไข่แดง, กะหล่าดอก เป็นต้น
วิตามินบี 9 หรือ โฟเลต หรือ วิตามินเอ็มโฟเลต จัดเป็นวิตามินในกลุ่มวิตามินที่ละลายน้า เป็นวิตามินที่มี
ประโยชน์ต่อร่างกายชนิดหนึ่ง โดยแห่งอาหารสาคัญที่มีวิตามินบี 9 อยู่ ได้แก่ ไข่แดง, ตับ, เมล็ดธัญพืชต่างๆ, ถั่ว
ต่างๆ, ข้าวซ้อมมือ, ยีสต์, อะโวคาโด, ฟักทอง, พืชผักใบเขียว, แคนตาลูป, ผลไม้รสเปรี้ยว, ส้ม, กล้วย เป็นต้น
วิตามินบี 12 หรือไซยาโนโคบาลามิน หรือวิตามินแดง เป็นวิตามินที่ละลายน้า ซึ่งจัดเป็นสารอาหารที่พบได้
ในเนื้อสัตว์เท่านั้น ไม่มีอยู่ในพืชผักต่างๆ โดยแห่งอาหารสาคัญที่มีวิตามินบี 12 อยู่ ได้แก่ หอยนางรม, หอยแครง
, เครื่องในสัตว์, ตับ, เนื้อปลา, ไข่, นม, ชีส เป็นต้น
วิตามินซี หรือ กรดแอสคอร์บิก จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้า และจะสลายตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อถูกแสง หรือ
ความร้อน ซึ่งวิตามินซีจัดเป็นวิตามินที่สาคัญต่อร่างกายอย่างยิ่งเพราะเรียกได้ว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มี
ประสิทธิภาพสูงมากๆ โดยในสัตว์ส่วนใหญ่นั้นจะสามารถสังเคราะห์วิตามินซีขึ้นได้เอง แต่ในมนุษย์ หนูตะเภา
และลิง จาเป็นต้องได้รับจากการรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีเข้าไป โดยแหล่งอาหารที่มีวิตามินซีอยู่ ได้แก่
ผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหลาย, มะเขือเทศ, ส้ม, มันฝรั่ง, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย, แคนตาลูป, พริกไทย, ดอก
กะหล่า เป็นต้น
วิตามินดี หรือ แคลซิเฟอรอล หรือ วิตามินแดด จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้ามัน โดยร่างกายของเราจะได้รับ
วิตามินชนิดนี้จากการได้รับแสงแดด หรืออาหารที่รับประทานเข้าไป โดยแหล่งอาหารที่มีวิตามินดีอยู่ ได้แก่ นม,
เนย, ปลา, เมล็ดธัญพืชต่างๆ, ไข่แดง, ตับ เป็นต้น
วิตามินอี หรือ ไทโคฟีรอล หรือ ไทโคไทรอีนอล จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้ามันหรือไขมัน เมื่อรับประทาน
เข้าไปจะถูกเก็บสะสมตามเนื้อเยื่อไขมัน, เลือด, ต่อมหมวกไต, ต่อมใต้สมอง, หัวใจ, มดลูก และกล้ามเนื้ออัณฑะ
โดยแหล่งอาหารสาคัญที่มีวิตามินอีอยู่ ได้แก่ อะโวคาโด, พืชผักใบเขียว, เมล็ดธัญพืชต่างๆ, เนื้อสัตว์, ข้าวโพด,
ไข่แดง เป็นต้น
วิตามินเค หรือ แอลฟาฟิลโลควิโนน จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้ามัน โดยวิตามินเคนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด
คือ
วิตามินเค 1 ที่พบได้มากในพืชผักใบเขียว, กีวี และอะโวคาโด
วิตามินเค 2 เป็นประเภทที่สามารถสร้างขึ้นได้โดยแบคทีเรียกลุ่มโพรโบติกในลาไส้ใหญ่ของเรา และพบมากใน
อาหารประเภทเนื้อ, นม, ไข่, ถั่วหมักญี่ปุ่น
วิตามินเค 3 จัดเป็นวิตามินสังเคราะห์ อยู่ในรูปที่ละลายน้า เป็นวิตามินที่มีพิษ ซึ่งเป็นวิตามินที่ห้ามไม่ให้นามา
ผลิตเป็นอาหารเสริม เพราะมีอันตรายและส่งผลให้เกิดอาการแพ้
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
___________________________________________________________________