ส่งเสริมทักษะการค้นคว้าความรู้เรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา2559 โรงเรียนโสกแคนหนองหญ้าปล้อง

1. 1
ชื่องาน ส่งเสริมทักษะการค้นคว้าความรู้เรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา2559 โรงเรียนโสกแคนหนองหญ้าปล้อง
ชื่อผู้วิจัย นางสาวรัชศวรรณ มูลหา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
บทคัดย่อ
จากการสอนรายวิชาการงานอาชีพ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่านักเรียนจานวนมากยังขาด
ทักษะการค้นคว้าความรู้เรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว ซึ่งในแบบเรียนรายวิชาการงานอาชีพ
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ข้อมูล ความรู้บางอย่างไม่เป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะด้านข่าวสาร วิธีเรื่อง และการ
ดูแลรักษา ไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัวต่างๆ อันเป็นผลทาให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า
การจัดทากิจกรรมการเรียนการสอนให้มีการฝึกค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมจากความรู้ ที่มีอยู่ใน
แบบเรียน เป็นการส่งเสริมทักษะการค้นคว้าแก่ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ใหม่ๆได้ด้วยตนเองอยู่เสมอน่าจะ
พัฒนาการการเรียนรายวิชาการงานอาชีพ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้ดียิ่งขึ้น
จากการที่นักเรียนได้ฝึกค้นคว้าและทาใบงานเพื่อพัฒนาทักษะการค้นคว้าความรู้ใหม่ๆด้านเกษตร
โดยเฉพาะด้านเรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัวบ่อยๆ และประเมินผลการค้นคว้าเรื่องที่ได้ค้นคว้ามา
ปรากฏว่าผู้เรียนได้มีพัฒนาทักษะการค้นคว้าเพิ่มขึ้น นักเรียนมีผลพัฒนาการในการเรียนรู้เพิ่มขึ้นในระดับดี
มาก คิดเป็นร้อยละ 100 และเข้าใจบทความงานเกษตร เกี่ยวกับเรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว ที่
เป็นปัจจุบันได้ดีและถูกต้องยิ่งขึ้น

2. 2
ชื่อเรื่องวิจัย : ส่งเสริมทักษะการค้นคว้าความรู้เรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา2559 โรงเรียนโสกแคนหนองหญ้าปล้อง
ความสาคัญและที่มา
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545
(กระทรวงศึกษาธิการ, 2542) ได้เน้นความสาคัญของการพัฒนาคน ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ โดย
ได้กาหนดไว้ในมาตรา 6 หมวด 1 บททั่วไปว่า “มาตรา 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็น
มนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดารงชีวิต
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข” และหมวด 4 มาตรา 24 ว่าด้วยการจัดกระบวนการเรียนการสอน
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ทางคุณธรรมและจริยธรรมได้ถูกต้องเหมาะสมมากขึ้น “….กระบวนการเรียนรู้ต้อง
จัดเป็นเนื้อหาสาระ และกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจ ความถนัด และความแตกต่างของผู้เรียน ฝึก
ทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และประยุกต์ป้องกันและแก้ไขปัญหา ให้ผู้เรียน
เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทาได้ ทาเป็น และเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง ผสมสาระความรู้
ต่างๆ อย่างสมดุล รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในทุกวิชา (กรมวิชาการ,
2544)” ซึ่งสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่มุ่งพัฒนาคนไทยให้
เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข จากจุดมุ่งหมายและหลักการดังกล่าว ทาให้ครูผู้สอนทุกคน
ต้องตระหนักและหาวิธีการที่จะทาให้การจัดกระบวนการเรียนรู้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายและหลักการดังกล่าว
การศึกษาคุณลักษณะของนักเรียนเป็นขั้นตอนที่สาคัญในการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพราะข้อมูลของนักเรียน
ที่ได้เป็นข้อมูลสาคัญในการนาไปออกแบบการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความสนใจ ความสามารถ ความถนัด และ
สภาพปัญหาของนักเรียน เพื่อพัฒนานักเรียนให้เต็มตามศักยภาพ
การได้รับข้อมูลความรู้ที่ไม่เป็นปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นเสมอจากการอ่านและทาความเข้าใจในแบบเรียน
จากการสอนรายวิชาการงานอาชีพ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่านักเรียนจานวนมากยังขาดทักษะการ
ค้นคว้าความรู้ความรู้เรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว ซึ่งในแบบเรียนรายวิชาการงานอาชีพ ระดับชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 6 ข้อมูล ความรู้บางอย่างไม่เป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะด้านข่าวสาร วิธีการปลูก และการดูแล
รักษา ไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัวต่างๆ อันเป็นผลทาให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า
การจัดทากิจกรรมการเรียนการสอนให้มีการฝึกค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมจากความรู้ ที่มีอยู่ใน
แบบเรียน เป็นการส่งเสริมทักษะการค้นคว้าแก่ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ใหม่ๆได้ด้วยตนเองอยู่เสมอ เนื่องด้วย
ทางโรงเรียนโสกแคนหนองหญ้าปล้องได้มุ่งเน้นการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ
เทคโนโลยีให้มีผลสัมฤทธิ์ดีขึ้น อีกทั้งกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นกลุ่มสาระที่ช่วย
พัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะพื้นฐานที่จาเป็นต่อการดารงชีวิต และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง
สามารถนาความรู้เกี่ยวกับการดารงชีวิต การอาชีพ และเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ในการทางานอย่างมีความคิด
สร้างสรรค์และแข่งขันในสังคมไทยและสากล เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการทางาน และมีเจตคติที่
ดีต่อการทางาน สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียง และมีความสุข จึงเป็นเหตุสมควรที่จะทาการ
พัฒนาทักษะการค้นคว้าความรู้ในเรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว ใหม่ๆเพิ่มเติมจากในแบบเรียน

3. 3
จุดมุ่งหมาย
1. เพิ่มเติมความรู้ใหม่ๆเรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว ให้แก่ผู้เรียน
2. พัฒนาความเข้าใจในด้านการค้นคว้า รู้จักแสวงหาข้อมูล ความรู้ด้วยตนเอง
3. ส่งเสริมทักษะการค้นคว้า จากแหล่งความรู้ต่างๆ
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรอิสระ ได้แก่ การเรียนรู้วิธีการค้นคว้าจากใบกิจกรรม ฝึกค้นคว้าจากแหล่งข้อมูล
ต่างๆ เช่น ห้องสมุด อินเตอร์เน็ต
ตัวแปรตาม ได้แก่ ความสามารถทาการค้นคว้าหาข้อมูล ความรู้ใหม่ๆด้านความรู้เรื่องไม้
ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว สามารถสรุปความรู้จากเรื่องที่ค้นคว้ามาได้
กรอบแนวคิดในการวิจัย
1. ส่งเสริมทักษะการแสวงหาความรู้และฝึกทักษะการค้นคว้าให้แก่ผู้เรียน
2. พัฒนาความเข้าใจวิธีการค้นคว้าความรู้เรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัวแก่
ผู้เรียน
3. ส่งเสริมการรักการค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนได้เรียนรู้วิธีการค้นคว้าความรู้เรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัวใหม่ๆ
เพิ่มขึ้น
2. นักเรียนได้พัฒนาทักษะการแสวงหาความรู้และทักษะการค้นคว้าทาความเข้าใจในสิ่งที่ได้
ค้นคว้ามาได้ดียิ่งขึ้น
3. นักเรียนรักการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองมีความสนใจในเรื่องไม้ดอกไม้ประดับ
และพืชผักสวนครัวมากขึ้น
ขอบเขตของการวิจัย
1. ประชากร เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนโสกแคนหนองหญ้าปล้อง
ปีการศึกษา 2559 จานวนนักเรียน 8 คน
2. เนื้อหาในการวิจัย เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับทักษะการค้นคว้าความรู้เรื่องไม้ดอกไม้ประดับ
และพืชผักสวนครัว ที่เป็นข้อมูลใหม่ๆ โดยค้นคว้าจากแหล่งความรู้ห้องสมุด หรือ
อินเตอร์เน็ต ทาความเข้าใจบทความที่ค้นคว้ามา
3. ระยะเวลาการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559

4. 4
วิธีดาเนินการวิจัย
ระยะเวลา
พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค.
1. วิเคราะห์ปัญหาการเรียนรู้
2. ส่งชื่อเรื่องที่จะวิจัย
3. เขียนเค้าโครงการวิจัย
4. จัดเตรียมเอกสาร เพื่อการค้นคว้า
5. ทาการค้นคว้า ทาใบงาน ทดสอบก่อนเรียน
6. แนะนาวิธีการค้นคว้าเพิ่มเติมแก่ผู้เรียน ให้ความรู้ การ
ค้นคว้าหาความรู้จากห้องสมุด และอินเตอร์เน็ต
7. ให้ผู้เรียนค้นคว้าและทาความเข้าใจเรื่อง ข้อมูลหรือ
บทความเรื่องเรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
ที่ค้นคว้ามา
8. ทาใบงานจากการค้นคว้า ทดสอบหลังเรียน
9. ประเมินใบงาน
10. สรุปผลการวิจัยเพื่อนาเสนอ
วิธีการ/นวัตกรรมที่ใช้
แบบฝึกปฏิบัติการค้นคว้า จานวน 4 ชุด
1. ค้นคว้าข้อมูลความสาคัญของไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
2. ค้นคว้าข้อมูลการปลูกและบารุงรักษาไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
3. ค้นคว้าข้อมูลการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว
4. ค้นคว้าปริมาณ/มูลค่าการส่งออกของไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัวของ
ประเทศไทย
แผนการสอน เป็นแผนที่นาแบบฝึกปฏิบัติแต่ละชุดมาจัดกิจกรรม เป็นเวลา 1 ภาคเรียน โดยจัด
กิจกรรมเป็นขั้นตอนดังนี้
1. ทบทวนความรู้เดิม
2. เพิ่มเติมความรู้ใหม่
3. ให้การแนะนาอย่างใกล้ชิด
4. เคร่งคัดการฝึกปฏิบัติ
5. นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน
ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตามแบบฝึกทั้ง 4 ชุด เวลา 12.00 – 12.30 น. ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ภาค
เรียนที่ 1/2559 สถานที่ฝึกปฏิบัติ ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์
กิจกรรม

5. 5
เครื่องมือการวัดผล และการรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย
1. แบบฝึกปฏิบัติ การค้นคว้าความรู้เรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัวจานวน 4 ชุด
2. แบบสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล
3. แบบบันทึกการประเมินทักษะการแสวงหาความรู้
วิธีการรวบรวมข้อมูล
1. รวบรวมข้อมูลจากการบันทึกพฤติกรรมที่สรุปไว้ทุกเดือน
2. รวบรวมข้อมูลจากการบันทึกการปฏิบัติกิจกรรมทั้ง 4 กิจกรรม
วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
ทาการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการเปรียบเทียบพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปทุกเดือน ตั้งแต่เริ่มต้นฝึกจนถึง
เดือนสุดท้ายที่เก็บข้อมูล
ทาการวิเคราะห์ข้อมูลจากการบันทึกสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรมค้นคว้า ที่ได้บันทึกไว้ นามา
เปรียบเทียบความก้าวหน้า

6. 6
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
แบบสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล
ปรากฏผลดังนี้
แบบบันทึกการประเมินทักษะการแสวงหาความรู้
ปรากฏผลดังนี้
ที่ ชื่อ-สกุล
รายการประเมิน
วางแผน
การศึกษา
ค้นคว้า
เรียนรู้ตาม
แผนที่วาง
ไว้
ค้นคว้าตาม
เรื่องที่
กาหนด
นาเสนอ
ข้อ
ค้นพบ
รวม
1 เด็กชายธิติกร สิโตทัย 2 3 3 2 10
2 เด็กหญิงธาริณทร์ คาจันทร์ 3 3 3 3 12
3 เด็กหญิงจินตนา ดวงบุปผา 3 3 3 3 12
4 เด็กหญิงธิญาดา เกิดไทย 3 3 3 3 12
5 เด็กหญิงธัญญารัตน์ เกิดไทย 3 3 3 3 12
6 เด็กชายณรากร พลอ่อน 2 3 3 2 10
7 เด็กชายเทวฤทธิ์ สิงหาพรม 2 3 3 2 10
8 เด็กหญิงรัชฎาพร จ้อยโสกเชือก 2 3 3 3 11
เกณฑ์การให้คะแนนระดับความพึงพอใจ เกณฑ์การประเมิน คะแนนเต็ม 12 คะแนน
เดือน พฤติกรรมของนักเรียน
กรกฎาคม วิธีการค้นคว้าให้นักเรียนฝึกปฏิบัติเองนักเรียนส่วนมากมีความกังวลไม่แน่ใจว่าจะสามารถ
ค้นคว้าให้ได้ความรู้ได้ นักเรียนยังไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร
สิงหาคม ให้นักเรียนค้นคว้าตามหัวเรื่องที่กาหนดโดยครูควบคุมดูแล และให้คาแนะนาอย่างใกล้ชิด
นักเรียนมีความสนใจขึ้นบ้างเล็กน้อย
กันยายน นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมค้นคว้าตามที่ครูกาหนด และให้คาแนะนาอย่างใกล้ชิดนักเรียนมี
ความสนใจกระตือรือร้นในการค้นคว้าหาข้อมูล
ตุลาคม นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมค้นคว้าตามที่ครูกาหนด ด้วยความสนใจ กระตือรือร้นในการ
ค้นคว้าหาข้อมูล ภูมิใจที่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลและนาเสนอได้ด้วยตนเอง
คะแนน หมายถึง
10-12 พอใจมาก
7-9 พอใจปานกลาง
4-6 ยังไม่น่าพอใจ
ระดับ หมายถึง
3 พอใจมาก
2 พอใจปานกลาง
1 ยังไม่น่าพอใจ

7. 7
แบบประเมินพัฒนาการในการเรียนรู้ของนักเรียน
ปรากฏผลดังนี้
ที่ ชื่อ-สกุล
คะแนน
แบบทดสอบ
(30 คะแนน)
คะแนน
พัฒนาการ
(หลัง-ก่อน)
พัฒนาการในการเรียนรู้
ก่อน
เรียน
หลัง
เรียน
ดีมาก ดี ปาน
กลาง
ปรับปรุง
1 เด็กชายธิติกร สิโตทัย 10 21 +11 √
2 เด็กหญิงธาริณทร์ คาจันทร์ 15 26 +11 √
3 เด็กหญิงจินตนา ดวงบุปผา 13 23 +10 √
4 เด็กหญิงธิญาดา เกิดไทย 16 26 +10 √
5 เด็กหญิงธัญญารัตน์ เกิดไทย 17 28 +11 √
6 เด็กชายณรากร พลอ่อน 9 22 +12 √
7 เด็กชายเทวฤทธิ์ สิงหาพรม 11 22 +11 √
8 เด็กหญิงรัชฎาพร จ้อยโสกเชือก 13 24 +11 √
เกณฑ์คะแนนพัฒนาการ
ลงชื่อ..............................................
(นางสาวรัชศวรรณ มูลหา)
ครูผู้สอน/ประเมิน
ระดับ หมายถึง
9 ขึ้นไป ดีมาก
7-8 ดี
5-6 ปานกลาง
น้อยกว่า 5 ปรับปรุง

8. 8
สรุปผลการวิจัย
ในปัจจุบันข้อมูลข่าวสารที่เป็นข้อมูลใหม่ๆจาเป็นอย่างยิ่งต่อการเรียนวิชาการงานอาชีพ จึง
เป็นทักษะที่ต้องนามาฝึกให้เกิดความชานาญ จากการจัดกิจกรรม ส่งเสริมทักษะการค้นคว้าความรู้เรื่อง
ไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว ในระยะแรกนักเรียนยังขาดความรู้ความชานาญรวมทั้งไม่ทราบจะ
หาข้อมูลจากที่ไหน และจะนาข้อมูลที่ต้องการมาได้อย่างไร หลังจากวางแผนศึกษาวิธีค้นคว้าและปฏิบัติ
กิจกรรมค้นคว้าตามที่กาหนดโดยมีครูคอยให้คาแนะนาอย่างใกล้ชิดนักเรียนเกิดทักษะสามารถค้นคว้าหา
ความรู้ใหม่ๆได้เองกระตือรือร้นในการค้นคว้าหาข้อมูล ภูมิใจที่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลและนาเสนอได้
ด้วยตนเอง และทาให้นักเรียนมีผลพัฒนาการในการเรียนรู้เพิ่มขึ้นในระดับดีมาก คิดเป็นร้อยละ 100 อีก
ด้วย
ข้อคิดที่ได้จากการวิจัย
จากการแก้ปัญหาครั้งนี้ทาให้ผู้วิจัยได้ข้อคิดว่าการที่ได้ฝึกปฏิบัติค้นคว้าหาข้อมูลความรู้
เกี่ยวกับวิชาการงานอาชีพ อยู่เสมอช่วยให้นักเรียนเกิดทักษะการค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตนเอง ส่งผล
ต่อการเรียนวิชาการงานอาชีพเรื่องไม้ดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัวมากขึ้น