SlideShare a Scribd company logo
กิจกรรมที่ 2-3-4
จัดทำโดย
1.น.ส.พิมพ์มณี วงศ์สัตสถำพร เลขที่ 12 ชั้น 6 ห้อง 11
2.น.ส.กัญญลักษณ์ ดอนสระน้อย เลขที่ 16 ชั้น 6 ห้อง 11
กิจกรรมที่ 2
โครงงำนคอมพิวเตอร์
หมำยถึง กิจกรรมกำรเรียนที่นักเรียนมีอิสระในกำรเลือกศึกษำปัญหำที่ตนเองสนใจ โดย
จะต้องวำงแผนกำร ดำเนินงำน ศึกษำ พัฒนำโปรแกรม โดยใช้ควำมรู้ทำงกระบวนกำร
วิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐำน
ในกำรพัฒนำโครงงำน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำโครงงำน ซึ่ง อำจมีผู้ศึกษำมำ
ก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนำโปรแกรมได้เคยค้นคว้ำและพัฒนำแล้ว นักเรียนสำมำรถทำ
โครงงำน เรื่องดังกล่ำวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทำงในกำรศึกษำ กำรวิเครำะห์ข้อมูล
กำรพัฒนำโปรแกรม หรือศึกษำ เพิ่มเติมจำกผลงำนเดิมที่มีผู้รำยงำนไว้ จุดมุ่งหมำย
สำคัญของกำรทำโครงงำนเป็นกำรเปิดโอกำสให้นักเรียนได้รับ ประสบกำรณ์ตรงในกำร
ใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหำ ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้ำหำควำมรู้ต่ำงๆ ใช้
คอมพิวเตอร์ในกำรพัฒนำสื่อกำรเรียนรู้เพื่อกำรศึกษำ ประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์
หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ พัฒนำโปรแกรมประยุกต์ต่ำงๆ ตลอดจนกำรพัฒนำเกม
คอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ กำรพัฒนำควำมคิดใหม่ๆ ควำม
มีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่ำงมี ควำมสุข
ควำมสำคัญของกำรทำโครงงำนคอมพิวเตอร์
• โครงงำนคอมพิวเตอร์ คือ ผลงำนที่ได้จำกกำรศึกษำค้นควำ้ตำมควำมสนใจ ควำมถนัดและ
ควำมสำมำรถของผู้เรียน โดย วิธีกำรทำงวิทยำศำสตร์ โครงงำนจึงเป็นกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่มีกำร
เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยผู้เรียนจะหำหัวข้อโครงงำน ที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงควำมรู้ต่ำง ๆ
และควำมรู้ด้ำนคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสำรสนเทศ เพื่อสร้ำงผลงำนตำม ควำมต้องกำรได้อย่ำง
เหมำะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษำและให้คำแนะนำ
• ควำมสำมำรถที่เกิดจำกกำรทำโครงงำนคอมพิวเตอร์
• โครงงำนคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ทำ ให้ผู้เรียนเกิดควำมสำมำรถในด้ำนต่ำง ๆ ที่
สำคัญ 5 ประกำร ดังนี้
• 1.ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร เป็นควำมสำมำรถทเ้้กิดจำกกำรที่นักเรียนเป็นผู้ทำโครงงำนต้อง
นำเสนอผลงำนให้ ครูและ เพื่อนนักเรียนให้เข้ำใจโครงงำนคอมพิวเตอร์ได้อย่ำ้งชัดเจน ดังนั้น ผู้ทำ
โครงงำนต้องสื่อสำรควำมคิดในกำรสร้ำ้งสรรค์ โครงงำนด้วยกำรเขียน หรือด้วยปำกเปล่ำ รวมทั้ง
เลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่ำงมีประสิทธิภำพเพื่อน ำเสนอแนวคิดในกำรจัด โครงงำนให้ผู้อื่นได้เข้ำใจ
2.ควำมสำมำรถในกำรคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีกำรคิดในลักษณะต่ำง ๆ ดังนี้
• กำรคิดวิเครำะห์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนต้องวิเครำะห์ปัญหำและแยกแยะสำเหตุว่ำเกิดเนื่องจำก
อะไร
• กำรคิดสังเครำะห์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนต้องนำควำมรู้ต่ำง ๆ ที่เรียนมำ รวมทั้งควำมรู้จำก
กำรค้นหำข้อมูล เพื่อใช้ในกำรแก้ปัญหำหรือกำรสร้ำงสรรค์โครงงำน
• กำรคิดอย่ำงสร้ำงสรรค์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนนำควำมรู้มำสร้ำงสรรค์ผลงำนใหม่ ๆ
• กำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนได้มีกำรคิดไตร่ตรองว่ำควรทำโครงงำน
ใดและไม่ควรทำโครงงำนใด เนื่องจำกโครงงำนที่สร้ำงขึ้นอำจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม
เช่น โครงงำนระบบคำนวณเลขหวย สำหรับหำเลขที่คำดว่ำสลำกกินแบ่งรัฐบำลจะออกในแต่
ละงวด อำจส่งผลกระทบต่อสังคม ทำให้คนในสังคมเกิด ควำมหมกมุ่นในกับกำรใช้เงินเล่น
หวยมำกขึ้น
• กำรคิดอย่ำงเป็นระบบ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหำอย่ำงเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนใน
กำรพัฒนำโครงงำน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วำงแผนในกำรศึกษำ ค้นคว้ำ เก็บรวบรวมข้อมูล
พัฒนำ หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงำน รวมทั้ง กำรสรุปผลและกำรนำเสนอผลกำรศึกษำค้นคว้ำ
ด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คำปรึกษำ
• 3.ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนวิเครำะห์ปัญหำ เข้ำใจ
และอธิบำยปัญหำทำงด้ำน คอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ควำมรู้ ทักษะ และ
กำรใช้เครื่องมือที่เหมำะสมกับกำรแก้ไขปัญหำ
• 4.ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนได้นำควำมรู้และ
กระบวนกำรต่ำง ๆ ไปใช้ในกำรพัฒนำ โครงงำน และนำไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจำวันได้อย่ำงเหมำะสม รวมถึงกำรพัฒนำโครงงำน ก่อให้เกิดกำร
เรียนรู้ด้วยตนเอง อันนำไปสู่กำรเรียนรู้ตลอดชีวิต
• 5.ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนสำมำรถเลือกใช้
เทคโนโลยีสำรสนเทศในกำรแก้ปัญหำ ได้ อย่ำงถูกต้องเหมำะสม และมี
คุณธรรม
ขอบข่ำยของโครงงำน
ดำเนินงำนโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้ำงสรรค์และครูอำจำรย์ เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษำมี
องค์ประกอบดังนี้
• 1. เป็นกิจกรรมกำรเรียนให้นักเรียนศึกษำ ค้นคว้ำ ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอำศัยหลักวิชำกำรทำง
ทฤษฎีตำม เนื้อหำโครงงำนนั้นๆ หรือจำกประสบกำรณ์และกิจกรรมต่ำง ๆ ที่ได้พบเห็นมำกแล้ว
• 2. นักเรียนทุกคนพิจำรณำจัดทำโครงงำนด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลำสั้นๆ เป็น
ภำคเรียน หรือ มำกว่ำก็ได้ แล้วแต่โครงงำนเล็กหรือใหญ่
• 3. นักเรียนเป็นผู้พิจำรณำริเริ่มสร้ำงสรรค์ คัดเลือกโครงงำนที่จะศึกษำค้นคว้ำปฏิบัติด้วยตนเอง
ตำมควำมถนัด สนใจ และควำมพร้อม
• 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงำน รำยละเอียดของโครงงำน แผนปฏิบัติงำนและกำรแปลผล
รำยงำนผลต่อ อำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อดำเนินงำนร่วมกันให้บรรลุตำมจุดหมำยที่กำหนดไว้
• 5. เป็นโครงงำนที่เหมำะสมกับควำมรู้ ควำมสำมำรถของนักเรียนตำมวัยและสติปัญญำ รวมทั้ง
กำรใช้จ่ำยเงิน ดำเนินงำนด้วย
กิจกรรมที่ 3
ประเภทของโครงงำนคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงำนวิจัยในทุก ๆ สำขำวิชำ ดังนั้น
โครงงำนคอมพิวเตอร์จึงมีควำมหลำกหลำยเป็นอย่ำงมำก ทั้งในลักษณะของ
เนื้อหำ กิจกรรม และลักษณะของประโยชน์หรือผลงำนที่ได้ ซึ่งอำจแบ่งเป็น
ประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ
• 1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (Educational Media)
• 2. โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (Tools Development)
• 3. โครงงำนประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment)
• 4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน (Application)
• 5. โครงงำนพัฒนำเกม (Game Development)
1.โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (Educational Media)
• เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำ โดยกำรสร้ำง
โปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยกำรเรียน ซึ่งอำจจะต้องมีภำคแบบฝึกหัดบททบทวน
และคำถำมคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบรำยบุคคลหรือรำยกลุ่ม กำร
สอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่ำเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน
ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ำ
มำศึกษำด้วยตนเองก็ได้
• โครงงำนประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำง
ๆ ไม่ว่ำจะเป็นสำขำคอมพิวเตอร์ วิชำคณิตศำสตร์ วิชำวิทยำศำสตร์ วิชำสังคม
วิชำชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอำจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำควำมเข้ำใจ
ยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่ำงเช่น โปรแกรมสอน
วิธีกำรใช้งำน ระบบสุริยะจักรวำล โปรแกรมแบบทดสอบวิชำต่ำง ๆ
2.โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (Tools Development)
• เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือมำใช้ช่วยสร้ำงงำนประยุกต์ต่ำง ๆ
ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่ำงของเครื่องมือช่วยงำน เช่น
ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งำน ซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุม
ต่ำง ๆ เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็น
โปรแกรมประมวลผลภำษำ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำใช้งำนในงำนพิมพ์
ต่ำง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่ำย ซึ่งรูปที่ได้สำมำรถนำไปใช้
งำนต่ำง ๆ ได้มำกมำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยในกำรมองวัตถุในมุมต่ำง
ๆ ใช้สำหรับช่วยในกำรออกแบบสิ่งของต่ำง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D
3. โครงงำนประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment)
• เป็นโครงงำนใช้คอมพิวเตอร์ในกำรจำลองกำรทดลองของสำขำต่ำง
ๆ เป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริงและ
แนวควำมคิดต่ำง ๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำ แล้วเสนอเป็น
แนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสมกำร สูตร หรือ
คำอธิบำยก็ได้ พร้อมทั้งนำเสนอวิธีกำรจำลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ กำร
ทำโครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่ำง
ดี ตัวอย่ำง เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของเหลว กำรทดลองเรื่อง
พฤติกรรมของปลำอโรวำน่ำ ทฤษฎีกำรแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน(Application)
• เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรสร้ำงผลงำนเพื่อประยุกต์ใช้งำนจริง
ในชีวิตประจำวัน เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบและตกแต่งอำคำร
ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี ซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น โครงงำน
งำนประเภทนี้จะมีกำรประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำง ๆ
ซึ่งอำจจะสร้ำงใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภำพ
สูงขึ้นก็ได้ โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของผู้ใช้
ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำสิ่งของนั้น ๆ
ต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว
ปรับปรุงแก้ไขให้มีควำมสมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ควำมรู้
เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำษำโปรแกรม และเครื่องมือต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งอำจใช้วิธีทำงวิศวกรรมฮำร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในกำรพัฒนำด้วย
5. โครงงำนพัฒนำเกม (Game Development)
• เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้ และ/หรือ ควำม
เพลิดเพลิน เช่น เกมหมำกรุก เกมหมำกฮอส เกมกำรคำนวณเลข ซึ่งเกมที่
พัฒนำขึ้นนี้น่ำจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำรใช้สมองเพื่อฝึกคิด
อย่ำงมีหลักกำร โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์
กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ควำมรู้สอดแทรกไปด้วย
ผู้พัฒนำควรจะได้ทำกำรสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่ำง ๆ ที่มีอยู่
ทั่วไปและนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และ
น่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำง ๆ
กิจกรรมที่ 4
ขั้นตอนกำรทำโครงงำนคอมพิวเตอร์
• 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงำนที่สนใจ
• 2. ศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล
• 3. จัดทำเค้ำโครงของโครงงำน
• 4. กำรลงมือทำโครงงำน
• 5. กำรเขียนรำยงำน
• 6. กำรนำเสนอและแสดงโครงงำน
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงำนที่สนใจ
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมำพัฒนำเป็นโครงงำนคอมพิวเตอร์ มักจะได้มำ
จำกปัญหำ คำถำม หรือควำมสนใจในเรื่องต่ำงๆ จำกกำรสังเกตสิ่งต่ำงๆ ที่
เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่ำงๆ รอบตัว ปัญหำที่จะนำมำพัฒนำ
โครงงำนคอมพิวเตอร์ได้จำกแหล่งต่ำงๆ กัน ดังนี้
• 1. กำรอ่ำนค้นคว้ำจำกหนังสือ เอกสำร หนังสือพิมพ์ หรือวำรสำรต่ำงๆ
• 2. กำรไปเยี่ยมชมสถำนที่ต่ำงๆ
• 3. กำรฟังบรรยำยทำงวิชำกำร รำยกำรวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งกำรสนทนำ
อภิปรำยแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นระหว่ำงเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ
• 4. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียน
• 5. งำนอดิเรกของนักเรียน
• 6. กำรเข้ำชมงำนนิทรรศกำรหรืองำนประกวดโครงงำนคอมพิวเตอร์
ในกำรตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ ควรพิจำรณำ
องค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
• 1. ต้องมีควำมรู้และทักษะพื้นฐำนอย่ำงเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษำ
• 2. สำมำรถจัดหำเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ได้
• 3. มีแหล่งควำมรู้เพียงพอที่จะค้นคว้ำหรือขอคำปรึกษำ
• 4. มีเวลำเพียงพอ
• 5. มีงบประมำณเพียงพอ
• 6. มีควำมปลอดภัย
2. ศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล
• กำรศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงกำรขอ
คำปรึกษำจำกผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในกำรกำหนด
ขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษำได้เฉพำะเจำะจงมำกยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ควำมรู้เพิ่มเติม
ในเรื่องที่จะศึกษำจนสำมำรถใช้ออกแบบและวำงแผนดำเนินกำรทำโครงงำนนั้น
ได้อย่ำงเหมำะสม ในกำรศึกษำจะต้องได้คำตอบว่ำ
• 1. จะทำ อะไร
• 2. ทำไมต้องทำ
• 3. ต้องกำรให้เกิดอะไร
• 4. ทำอย่ำงไร
• 5. ใช้ทรัพยำกรอะไร
• 6. ทำกับใคร
• 7. เสนอผลอย่ำงไร
3. องค์ประกอบของเค้ำโครงของโครงงำน
รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ
ชื่อโครงงาน ทำอะไร กับใคร เพื่ออะไร
ประเภทโครงงาน วิเครำะห์จำกลักษณะของประโยชน์หรือผลงำนที่ได้
ชื่อผู้จัดทาโครงงาน ผู้รับผิดชอบโครงงำน อำจเป็นรำยบุคคล หรือรำยกลุ่มก็ได้
ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครู-อำจำรย์ผู้ทำหน้ำที่เป็นที่ปรึกษำ และควบคุมกำรทำโครงงำนของนักเรียน
ครูที่ปรึกษาร่วม ครู-อำจำรย์ผู้ทำหน้ำที่เป็นที่ปรึกษำร่วม ให้คำแนะนำในกำรทำโครงงำนของนัีกเรียน
ระยะเวลาดาเนินงาน ระยะเวลำกำรดำเนินงำนโครงงำน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด กำหนดเป็นวัน หรือ เดือนก็ได้
แนวคิด ที่มา และความสาคัญ สภำพปัจจุบันที่เป็นควำมต้องกำรและควำมคำดหวังที่จะเกิดผล
วัตถุประสงค์ สิ่งที่ต้องกำรให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงำนทั้งในเชิงกระบวนกำร และผลผลิต
หลักการและทฤษฎี หลักกำรและทฤษฎีที่นำมำใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน
วิธีดาเนินงาน กิจกรรมหรือขั้นตอนกำรดำเนินงำน เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ งบประมำณ และผู้ัรับผิดชอบ
ขั้นตอนการปฏิบัติ วัน เวลำ และกิจกรรมดำเนินกำรต่ำงๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภำพของผลที่ต้องกำรให้เกิด ทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนกำร และผลกระทบ
เอกสารอ้างอิง สื่อเอกสำร ข้อมูลที่ได้จำกแหล่งต่ำงๆ ที่นำมำใช้ในกำรดำเนินงำน
4. กำรลงมือทำโครงงำน
เมื่อเค้ำโครงของโครงงำนได้รับควำมเห็นชอบจำกอำจำรย์ที่ปรึกษำแล้ว
ก็เสมือนว่ำกำรจัดทำโครงงำนได้ผ่ำนพ้นไปแล้วมำกกว่ำครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะ
เป็นกำรลงมือพัฒนำตำมขั้นตอนที่วำงแผนไว้ ดังนี้
• 4.1 กำรเตรียมกำร กำรเตรียมกำร ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในกำรพัฒนำให้พร้อมด้วย และควรเตรียม
สมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อควำมไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึก
กำรทำกิจกรรมต่ำงๆ ระหว่ำงทำโครงงำน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่ำงไร ได้ผล
อย่ำงไร มีปัญหำและแก้ไขได้หรือไม่อย่ำงไร รวมทั้งข้อสังเกตต่ำงๆ ที่พบ
• 4.2 กำรลงมือพัฒนำ
1. ปฏิบัติตำมแผนงำนที่วำงไว้ในเค้ำโครง แต่อำจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้
ถ้ำพบว่ำจะช่วยทำให้ผลงำนดีขึ้น
2. จัดระบบกำรทำงำนโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่้อย
ทำ ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงำนมีควำมสมบูรณ์มำกขึ้น
และถ้ำมีกำรแบ่งงำนกันทำ ให้ตกลงรำยละเอียดในกำรต่อเชื่อมชิ้นงำนที่
ชัดเจนด้วย
3. พัฒนำระบบงำนด้วยควำมละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่ำงเป็น
ระบบและครบถ้วน
• 4.3 กำรทดสอบผลงำนและแก้ไข
กำรตรวจสอบควำมถูกต้องของผลงำน เป็นควำมจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่ำผลงำนที่
พัฒนำขึ้นทำงำนได้ถูกต้องตรงกับควำมต้องกำร ที่ระบุไว้ในเป้ำหมำยและทำ
ด้วยประสิทธิภำพสูงด้วย
• 4.4 กำรอภิปรำยและข้อเสนอแนะ
เมื่อพัฒนำผลงำนเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อควำมที่สั้นกะทัดรัดอย่ำง
ครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่ำนได้เข้ำใจถึงสิ่งที่ค้นพบจำกกำรทำโครงงำน และทำ
กำรอภิปรำยผลด้วย เพื่อพิจำรณำข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำ ไปหำ
ควำมสัมพันธ์กับหลักกำร ทฤษฎี หรือผลงำนที่ผู้อื่นได้ศึกษำไว้แล้ว ทั้งนี้ยัง
รวมถึงกำรนำหลักกำร ทฤษฎี หรือผลงำนของผู้อื่นมำใช้ประกอบกำรอภิปรำย
ผลที่ได้ด้วย
• 4.5 แนวทำงกำรพัฒนำโครงงำนในอนำคตและข้อเสนอแนะ
เมื่อทำโครงงำนเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอำจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญ
หรือปัญหำ ซึ่งสำมำรถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษำและหรือใช้
ประโยชน์ต่อไปได้
5. กำรเขียนรำยงำน
กำรเขียนรำยงำนเป็นวิธีกำรสื่อควำมหมำยเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้ำใจแนวคิด
วิธีดำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำ ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่ำงๆ เกี่ยวกับ
โครงงำนนั้น ในกำรเขียนรำยงำนนักเรียนควรใช้ภำษำที่อ่ำนง่ำย ชัดเจน กระชับ และ
ตรงไปตรงมำ ให้ครอบคลุมหัวข้อต่ำงๆเหล่ำนี้
• 5.1 ส่วนนำ
ส่วนนำ เป็นกำรให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงำนนั้นซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อโครงงำน
2. ชื่อผู้ทำโครงงำน
3. ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ
4. คำขอบคุณ เป็นคำกล่ำวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงำน ที่มีส่วนช่วยทำให้โครงงำนสำเร็จ
5. บทคัดย่อ อธิบำยถึงที่มำ ควำมสำคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินกำร และผลที่ได้โดยย่อ
• 5.2 บทนำ
บทนำเป็นส่วนรำยละเอียดของเนื้อหำของโครงงำนซึ่งประกอบด้วย
1. ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน
2. เป้ำหมำยของกำรศึกษำค้นคว้ำ
3. ขอบเขตของโครงงำน
• 5.3 หลักกำรและทฤษฎี
หลักกำรและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จำกกำรศึกษำหำข้อมูลหรือหลักกำร
ทฤษฎี หรือวิธีกำรที่จะนำมำใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน ซึ่งรวมถึงกำรระบุ
ผลงำนของผู้อื่นที่นักเรียนนำมำเปรียบเทียบหรือพัฒนำเพิ่มเติมด้วย
• 5.4 วิธีดำเนินกำร
วิธีดำเนินกำร อธิบำยขั้นตอนกำรดำเนินงำนโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหำหรืออุปสรรคที่พบ
พร้อมทั้งวิธีกำรที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในกำรทำงำน
• 5.5 ผลกำรศึกษำ
ผลกำรศึกษำ นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนำได้ โดยอำจแสดงเป็นตำรำง หรือ กรำฟ หรือ
ข้อควำม ทั้งนี้ให้คำนึงถึงควำมเข้ำใจของผู้อ่ำนเป็นหลัก
• 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบำยผลสรุปที่ได้จำกกำรทำ งำน ถ้ำมีกำรตั้งสมมติฐำนควรระบุ
ด้วยว่ำข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้ำนสมมติฐำนที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจำกนั้นยังควร
กล่ำวถึงกำรนำ ผลกำรทดลองหรือพัฒนำไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของกำรทำโครงงำน หรือ
ข้อสังเกตที่สำคัญ หรือข้อผิดพลำดบำงประกำรที่เกิดขึ้นจำกกำรทำ โครงงำนนี้ รวมทั้ง
ข้อเสนอแนะเพื่อกำรปรับปรุงแก้ไขหำกจะมีผู้ศึกษำค้นคว้ำในเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนำคตด้วย
• 5.7 ประโยชน์
ประโยชน์ที่ได้รับจำกโครงงำน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจำกกำรพัฒนำ
โครงงำนนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจำกกำรนำผลงำนของโครงงำนไป
ใช้ด้วย
• 5.8 บรรณำนุกรม
บรรณำนุกรม รวบรวมรำยชื่อหนังสือ วำรสำร เอกสำร หรือเว็บไซด์ต่ำงๆ ที่
ผู้ทำ โครงงำนใช้ค้นคว้ำ หรืออ่ำนเพื่อศึกษำข้อมูลและรำยละเอียดต่ำงๆ ที่
นำมำใช้ประโยชน์ในกำรทำ โครงงำนนี้กำรเขียนเอกสำรบรรณำนุกรมต้องให้
ถูกต้องตำมหลักกำรเขียนด้วย
• 5.9 กำรจัดทำคู่มือกำรใช้งำน
หำโครงงำนที่นักเรียนจัดทำ เป็นกำรพัฒนำระบบใหม่ขึ้นมำ ให้นักเรียนจัดทำคู่มือ
อธิบำยวิธีกำรใช้ผลงำนนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อผลงำน
2. ควำมต้องกำรของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรำยละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อ
จะใช้ผลงำนนั้นได้
3. ควำมต้องกำรของซอฟต์แวร์ ระบุรำยชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่อง
คอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงำนนั้นทำงำนได้อย่ำงสมบูรณ์
4. คุณลักษณะของผลงำน อธิบำยว่ำผลงำนนั้นทำ หน้ำที่อะไรบ้ำง รับอะไรเป็น
ข้อมูลขำเข้ำและส่วนอะไรออกมำเป็นข้อมูลขำออก
5. วิธีกำรใช้งำนของแต่ละฟังก์ชัน อธิบำยว่ำจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่มใด
เพื่อให้ผลงำนทำงำนในฟังก์ชันหนึ่งๆ
• 6. กำรนำเสนอและแสดงโครงงำน
กำรนำเสนอและกำรแสดงผลงำนเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของกำรทำ
โครงงำน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลควำมคิด ควำมพยำยำมในกำรทำงำนที่ผู้ทำโครงงำนได้
ทุ่มเท และเป็นวิธีทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้ำใจถึงผลงำนนั้น กำรเสนอผลงำนอำจทำได้ใน
หลำยรูปแบบต่ำงๆ กัน เช่น กำรแสดงผลงำนโดยไม่มีกำรอธิบำยประกอบกำรรำยงำนด้วย
คำพูดในที่ประชุม กำรจัดนิทรรศกำรโดยโปสเตอร์และอธิบำยด้วยคำพูด เป็นต้น โดยผลงำนที่
นำมำเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1. ชื่อโครงงำน
2. ชื่อผู้จัดทำโครงงำน
3. ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ
5. วิธีกำรดำเนินกำรที่สำคัญ
6. กำรสำธิตผลงำน
7. ผลกำรสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จำกกำรทำโครงงำน
แหล่งที่มำ
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-
Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/Compu
terProject/content1.html
https://krudarin.wordpress.com
https://www.gotoknow.org/posts/314100

More Related Content

What's hot

2 3
2 32 3
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3
SongkranSalakum
 
Commmm2
Commmm2Commmm2
Commmm2
pohnkharita
 
ความรู้เกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์
ความรู้เกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์ความรู้เกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์
ความรู้เกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์
Puniga Chansara
 
ใบงานคอม 2 8
ใบงานคอม 2  8ใบงานคอม 2  8
ใบงานคอม 2 8theerajet
 
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
Tinnapat Earth
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอมCharisma An
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอมCharisma An
 
โครงงานคอมพิวเตอเจลต้าวีวี
โครงงานคอมพิวเตอเจลต้าวีวีโครงงานคอมพิวเตอเจลต้าวีวี
โครงงานคอมพิวเตอเจลต้าวีวี
Nattaphong Kaewtathip
 
กิจกรรมที่ 2-3
กิจกรรมที่ 2-3กิจกรรมที่ 2-3
กิจกรรมที่ 2-3
Ritthipon Ponjakfa
 
แบบทดสอบ 1
แบบทดสอบ 1แบบทดสอบ 1
แบบทดสอบ 1
chanakan12
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ 2-3
โครงงานคอมพิวเตอร์ 2-3โครงงานคอมพิวเตอร์ 2-3
โครงงานคอมพิวเตอร์ 2-3
dreamee
 
Presentation1 1
Presentation1 1Presentation1 1
Presentation1 1
Ken'Kasemson Janpartoom
 
presentation 3
presentation 3presentation 3
presentation 3
KamolchanokPhanlek
 
คอม คู่
คอม คู่คอม คู่
คอม คู่
Krittapornn Chanasaen
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดที่ 1
มาณวิกา นาคนอก
 

What's hot (19)

2 3
2 32 3
2 3
 
อะไรก็ได้
อะไรก็ได้อะไรก็ได้
อะไรก็ได้
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3
 
Commmm2
Commmm2Commmm2
Commmm2
 
ความรู้เกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์
ความรู้เกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์ความรู้เกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์
ความรู้เกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานคอม 2 8
ใบงานคอม 2  8ใบงานคอม 2  8
ใบงานคอม 2 8
 
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
โครงงานคอมพิวเตอเจลต้าวีวี
โครงงานคอมพิวเตอเจลต้าวีวีโครงงานคอมพิวเตอเจลต้าวีวี
โครงงานคอมพิวเตอเจลต้าวีวี
 
กิจกรรมที่ 2-3
กิจกรรมที่ 2-3กิจกรรมที่ 2-3
กิจกรรมที่ 2-3
 
แบบทดสอบ 1
แบบทดสอบ 1แบบทดสอบ 1
แบบทดสอบ 1
 
2 3-4
2 3-42 3-4
2 3-4
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ 2-3
โครงงานคอมพิวเตอร์ 2-3โครงงานคอมพิวเตอร์ 2-3
โครงงานคอมพิวเตอร์ 2-3
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
Presentation1 1
Presentation1 1Presentation1 1
Presentation1 1
 
presentation 3
presentation 3presentation 3
presentation 3
 
คอม คู่
คอม คู่คอม คู่
คอม คู่
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดที่ 1
 

Similar to กิจกรรมที่ 2-3-4

โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
princess Thirteenpai
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
princess Thirteenpai
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ysmhcnboice
 
2 3
2 32 3
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
cham45314
 
Work2 3
Work2 3Work2 3
Work2 3
chairittonmit
 
Project2
Project2Project2
Project2
Mmike3
 
กิจกรรม 2 3 4
กิจกรรม 2 3 4กิจกรรม 2 3 4
กิจกรรม 2 3 4
Arpaporn Panlhumkao
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8aomsin271895
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Achara Teerawas
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8aomsin271895
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
chayanit kaewjankamol
 
ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8aomsin271895
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Mathawat
 
Presentation 3 finally
Presentation 3 finallyPresentation 3 finally
Presentation 3 finally
Tawanny Rawipon
 
กิจกรรมที่2+3
กิจกรรมที่2+3กิจกรรมที่2+3
กิจกรรมที่2+3
PaiwarinLuanginta
 
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
Nutthinun Srsw
 

Similar to กิจกรรมที่ 2-3-4 (20)

โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
2 3
2 32 3
2 3
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Work2 3
Work2 3Work2 3
Work2 3
 
Project2
Project2Project2
Project2
 
กิจกรรม 2 3 4
กิจกรรม 2 3 4กิจกรรม 2 3 4
กิจกรรม 2 3 4
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
K3
K3K3
K3
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8ใบงานที่2 8
ใบงานที่2 8
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Presentation 3 finally
Presentation 3 finallyPresentation 3 finally
Presentation 3 finally
 
กิจกรรมที่2+3
กิจกรรมที่2+3กิจกรรมที่2+3
กิจกรรมที่2+3
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
 

More from kanyaluk dornsanoi

2560 project no.03,28
2560 project  no.03,282560 project  no.03,28
2560 project no.03,28
kanyaluk dornsanoi
 
กิจกรรมที่5 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่5 หลักทรัพย์กิจกรรมที่5 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่5 หลักทรัพย์
kanyaluk dornsanoi
 
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
kanyaluk dornsanoi
 
2560 project กิจกรรที่ 5
2560 project กิจกรรที่ 52560 project กิจกรรที่ 5
2560 project กิจกรรที่ 5
kanyaluk dornsanoi
 
โครงร่างคอม อาหารอาเซียน
โครงร่างคอม อาหารอาเซียนโครงร่างคอม อาหารอาเซียน
โครงร่างคอม อาหารอาเซียน
kanyaluk dornsanoi
 
โครงร่างคอมแทน
โครงร่างคอมแทนโครงร่างคอมแทน
โครงร่างคอมแทน
kanyaluk dornsanoi
 

More from kanyaluk dornsanoi (9)

2560 project no.03,28
2560 project  no.03,282560 project  no.03,28
2560 project no.03,28
 
กิจกรรมที่5 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่5 หลักทรัพย์กิจกรรมที่5 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่5 หลักทรัพย์
 
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
กิจกรรมที่2 3-4 หลักทรัพย์
 
2560 project กิจกรรที่ 5
2560 project กิจกรรที่ 52560 project กิจกรรที่ 5
2560 project กิจกรรที่ 5
 
โครงร่างคอม อาหารอาเซียน
โครงร่างคอม อาหารอาเซียนโครงร่างคอม อาหารอาเซียน
โครงร่างคอม อาหารอาเซียน
 
โครงร่างคอมแทน
โครงร่างคอมแทนโครงร่างคอมแทน
โครงร่างคอมแทน
 
Jirapon
JiraponJirapon
Jirapon
 
2560 project (1)
2560 project  (1)2560 project  (1)
2560 project (1)
 
Projectcom 2560
Projectcom 2560Projectcom 2560
Projectcom 2560
 

กิจกรรมที่ 2-3-4

  • 1. กิจกรรมที่ 2-3-4 จัดทำโดย 1.น.ส.พิมพ์มณี วงศ์สัตสถำพร เลขที่ 12 ชั้น 6 ห้อง 11 2.น.ส.กัญญลักษณ์ ดอนสระน้อย เลขที่ 16 ชั้น 6 ห้อง 11
  • 3. โครงงำนคอมพิวเตอร์ หมำยถึง กิจกรรมกำรเรียนที่นักเรียนมีอิสระในกำรเลือกศึกษำปัญหำที่ตนเองสนใจ โดย จะต้องวำงแผนกำร ดำเนินงำน ศึกษำ พัฒนำโปรแกรม โดยใช้ควำมรู้ทำงกระบวนกำร วิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐำน ในกำรพัฒนำโครงงำน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำโครงงำน ซึ่ง อำจมีผู้ศึกษำมำ ก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนำโปรแกรมได้เคยค้นคว้ำและพัฒนำแล้ว นักเรียนสำมำรถทำ โครงงำน เรื่องดังกล่ำวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทำงในกำรศึกษำ กำรวิเครำะห์ข้อมูล กำรพัฒนำโปรแกรม หรือศึกษำ เพิ่มเติมจำกผลงำนเดิมที่มีผู้รำยงำนไว้ จุดมุ่งหมำย สำคัญของกำรทำโครงงำนเป็นกำรเปิดโอกำสให้นักเรียนได้รับ ประสบกำรณ์ตรงในกำร ใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหำ ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้ำหำควำมรู้ต่ำงๆ ใช้ คอมพิวเตอร์ในกำรพัฒนำสื่อกำรเรียนรู้เพื่อกำรศึกษำ ประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ พัฒนำโปรแกรมประยุกต์ต่ำงๆ ตลอดจนกำรพัฒนำเกม คอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ กำรพัฒนำควำมคิดใหม่ๆ ควำม มีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่ำงมี ควำมสุข
  • 4. ควำมสำคัญของกำรทำโครงงำนคอมพิวเตอร์ • โครงงำนคอมพิวเตอร์ คือ ผลงำนที่ได้จำกกำรศึกษำค้นควำ้ตำมควำมสนใจ ควำมถนัดและ ควำมสำมำรถของผู้เรียน โดย วิธีกำรทำงวิทยำศำสตร์ โครงงำนจึงเป็นกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่มีกำร เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยผู้เรียนจะหำหัวข้อโครงงำน ที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงควำมรู้ต่ำง ๆ และควำมรู้ด้ำนคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสำรสนเทศ เพื่อสร้ำงผลงำนตำม ควำมต้องกำรได้อย่ำง เหมำะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษำและให้คำแนะนำ • ควำมสำมำรถที่เกิดจำกกำรทำโครงงำนคอมพิวเตอร์ • โครงงำนคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ทำ ให้ผู้เรียนเกิดควำมสำมำรถในด้ำนต่ำง ๆ ที่ สำคัญ 5 ประกำร ดังนี้ • 1.ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร เป็นควำมสำมำรถทเ้้กิดจำกกำรที่นักเรียนเป็นผู้ทำโครงงำนต้อง นำเสนอผลงำนให้ ครูและ เพื่อนนักเรียนให้เข้ำใจโครงงำนคอมพิวเตอร์ได้อย่ำ้งชัดเจน ดังนั้น ผู้ทำ โครงงำนต้องสื่อสำรควำมคิดในกำรสร้ำ้งสรรค์ โครงงำนด้วยกำรเขียน หรือด้วยปำกเปล่ำ รวมทั้ง เลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่ำงมีประสิทธิภำพเพื่อน ำเสนอแนวคิดในกำรจัด โครงงำนให้ผู้อื่นได้เข้ำใจ
  • 5. 2.ควำมสำมำรถในกำรคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีกำรคิดในลักษณะต่ำง ๆ ดังนี้ • กำรคิดวิเครำะห์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนต้องวิเครำะห์ปัญหำและแยกแยะสำเหตุว่ำเกิดเนื่องจำก อะไร • กำรคิดสังเครำะห์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนต้องนำควำมรู้ต่ำง ๆ ที่เรียนมำ รวมทั้งควำมรู้จำก กำรค้นหำข้อมูล เพื่อใช้ในกำรแก้ปัญหำหรือกำรสร้ำงสรรค์โครงงำน • กำรคิดอย่ำงสร้ำงสรรค์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนนำควำมรู้มำสร้ำงสรรค์ผลงำนใหม่ ๆ • กำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนได้มีกำรคิดไตร่ตรองว่ำควรทำโครงงำน ใดและไม่ควรทำโครงงำนใด เนื่องจำกโครงงำนที่สร้ำงขึ้นอำจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงำนระบบคำนวณเลขหวย สำหรับหำเลขที่คำดว่ำสลำกกินแบ่งรัฐบำลจะออกในแต่ ละงวด อำจส่งผลกระทบต่อสังคม ทำให้คนในสังคมเกิด ควำมหมกมุ่นในกับกำรใช้เงินเล่น หวยมำกขึ้น • กำรคิดอย่ำงเป็นระบบ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหำอย่ำงเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนใน กำรพัฒนำโครงงำน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วำงแผนในกำรศึกษำ ค้นคว้ำ เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนำ หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงำน รวมทั้ง กำรสรุปผลและกำรนำเสนอผลกำรศึกษำค้นคว้ำ ด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คำปรึกษำ
  • 6. • 3.ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนวิเครำะห์ปัญหำ เข้ำใจ และอธิบำยปัญหำทำงด้ำน คอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ควำมรู้ ทักษะ และ กำรใช้เครื่องมือที่เหมำะสมกับกำรแก้ไขปัญหำ • 4.ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนได้นำควำมรู้และ กระบวนกำรต่ำง ๆ ไปใช้ในกำรพัฒนำ โครงงำน และนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้อย่ำงเหมำะสม รวมถึงกำรพัฒนำโครงงำน ก่อให้เกิดกำร เรียนรู้ด้วยตนเอง อันนำไปสู่กำรเรียนรู้ตลอดชีวิต • 5.ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนสำมำรถเลือกใช้ เทคโนโลยีสำรสนเทศในกำรแก้ปัญหำ ได้ อย่ำงถูกต้องเหมำะสม และมี คุณธรรม
  • 7. ขอบข่ำยของโครงงำน ดำเนินงำนโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้ำงสรรค์และครูอำจำรย์ เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษำมี องค์ประกอบดังนี้ • 1. เป็นกิจกรรมกำรเรียนให้นักเรียนศึกษำ ค้นคว้ำ ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอำศัยหลักวิชำกำรทำง ทฤษฎีตำม เนื้อหำโครงงำนนั้นๆ หรือจำกประสบกำรณ์และกิจกรรมต่ำง ๆ ที่ได้พบเห็นมำกแล้ว • 2. นักเรียนทุกคนพิจำรณำจัดทำโครงงำนด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลำสั้นๆ เป็น ภำคเรียน หรือ มำกว่ำก็ได้ แล้วแต่โครงงำนเล็กหรือใหญ่ • 3. นักเรียนเป็นผู้พิจำรณำริเริ่มสร้ำงสรรค์ คัดเลือกโครงงำนที่จะศึกษำค้นคว้ำปฏิบัติด้วยตนเอง ตำมควำมถนัด สนใจ และควำมพร้อม • 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงำน รำยละเอียดของโครงงำน แผนปฏิบัติงำนและกำรแปลผล รำยงำนผลต่อ อำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อดำเนินงำนร่วมกันให้บรรลุตำมจุดหมำยที่กำหนดไว้ • 5. เป็นโครงงำนที่เหมำะสมกับควำมรู้ ควำมสำมำรถของนักเรียนตำมวัยและสติปัญญำ รวมทั้ง กำรใช้จ่ำยเงิน ดำเนินงำนด้วย
  • 9. ประเภทของโครงงำนคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงำนวิจัยในทุก ๆ สำขำวิชำ ดังนั้น โครงงำนคอมพิวเตอร์จึงมีควำมหลำกหลำยเป็นอย่ำงมำก ทั้งในลักษณะของ เนื้อหำ กิจกรรม และลักษณะของประโยชน์หรือผลงำนที่ได้ ซึ่งอำจแบ่งเป็น ประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ • 1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (Educational Media) • 2. โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (Tools Development) • 3. โครงงำนประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment) • 4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน (Application) • 5. โครงงำนพัฒนำเกม (Game Development)
  • 10. 1.โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (Educational Media) • เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำ โดยกำรสร้ำง โปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยกำรเรียน ซึ่งอำจจะต้องมีภำคแบบฝึกหัดบททบทวน และคำถำมคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบรำยบุคคลหรือรำยกลุ่ม กำร สอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่ำเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ำ มำศึกษำด้วยตนเองก็ได้ • โครงงำนประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำง ๆ ไม่ว่ำจะเป็นสำขำคอมพิวเตอร์ วิชำคณิตศำสตร์ วิชำวิทยำศำสตร์ วิชำสังคม วิชำชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอำจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำควำมเข้ำใจ ยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่ำงเช่น โปรแกรมสอน วิธีกำรใช้งำน ระบบสุริยะจักรวำล โปรแกรมแบบทดสอบวิชำต่ำง ๆ
  • 11. 2.โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (Tools Development) • เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือมำใช้ช่วยสร้ำงงำนประยุกต์ต่ำง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่ำงของเครื่องมือช่วยงำน เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งำน ซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุม ต่ำง ๆ เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็น โปรแกรมประมวลผลภำษำ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำใช้งำนในงำนพิมพ์ ต่ำง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่ำย ซึ่งรูปที่ได้สำมำรถนำไปใช้ งำนต่ำง ๆ ได้มำกมำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยในกำรมองวัตถุในมุมต่ำง ๆ ใช้สำหรับช่วยในกำรออกแบบสิ่งของต่ำง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D
  • 12. 3. โครงงำนประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment) • เป็นโครงงำนใช้คอมพิวเตอร์ในกำรจำลองกำรทดลองของสำขำต่ำง ๆ เป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริงและ แนวควำมคิดต่ำง ๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำ แล้วเสนอเป็น แนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสมกำร สูตร หรือ คำอธิบำยก็ได้ พร้อมทั้งนำเสนอวิธีกำรจำลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ กำร ทำโครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่ำง ดี ตัวอย่ำง เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของเหลว กำรทดลองเรื่อง พฤติกรรมของปลำอโรวำน่ำ ทฤษฎีกำรแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
  • 13. 4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน(Application) • เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรสร้ำงผลงำนเพื่อประยุกต์ใช้งำนจริง ในชีวิตประจำวัน เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบและตกแต่งอำคำร ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี ซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น โครงงำน งำนประเภทนี้จะมีกำรประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำง ๆ ซึ่งอำจจะสร้ำงใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภำพ สูงขึ้นก็ได้ โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของผู้ใช้ ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำสิ่งของนั้น ๆ ต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว ปรับปรุงแก้ไขให้มีควำมสมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ควำมรู้ เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำษำโปรแกรม และเครื่องมือต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอำจใช้วิธีทำงวิศวกรรมฮำร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในกำรพัฒนำด้วย
  • 14. 5. โครงงำนพัฒนำเกม (Game Development) • เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้ และ/หรือ ควำม เพลิดเพลิน เช่น เกมหมำกรุก เกมหมำกฮอส เกมกำรคำนวณเลข ซึ่งเกมที่ พัฒนำขึ้นนี้น่ำจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำรใช้สมองเพื่อฝึกคิด อย่ำงมีหลักกำร โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์ กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ควำมรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนำควรจะได้ทำกำรสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่ำง ๆ ที่มีอยู่ ทั่วไปและนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และ น่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำง ๆ
  • 16. ขั้นตอนกำรทำโครงงำนคอมพิวเตอร์ • 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงำนที่สนใจ • 2. ศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล • 3. จัดทำเค้ำโครงของโครงงำน • 4. กำรลงมือทำโครงงำน • 5. กำรเขียนรำยงำน • 6. กำรนำเสนอและแสดงโครงงำน
  • 17. 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงำนที่สนใจ โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมำพัฒนำเป็นโครงงำนคอมพิวเตอร์ มักจะได้มำ จำกปัญหำ คำถำม หรือควำมสนใจในเรื่องต่ำงๆ จำกกำรสังเกตสิ่งต่ำงๆ ที่ เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่ำงๆ รอบตัว ปัญหำที่จะนำมำพัฒนำ โครงงำนคอมพิวเตอร์ได้จำกแหล่งต่ำงๆ กัน ดังนี้ • 1. กำรอ่ำนค้นคว้ำจำกหนังสือ เอกสำร หนังสือพิมพ์ หรือวำรสำรต่ำงๆ • 2. กำรไปเยี่ยมชมสถำนที่ต่ำงๆ • 3. กำรฟังบรรยำยทำงวิชำกำร รำยกำรวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งกำรสนทนำ อภิปรำยแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นระหว่ำงเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ • 4. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียน • 5. งำนอดิเรกของนักเรียน • 6. กำรเข้ำชมงำนนิทรรศกำรหรืองำนประกวดโครงงำนคอมพิวเตอร์
  • 18. ในกำรตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ ควรพิจำรณำ องค์ประกอบสำคัญ ดังนี้ • 1. ต้องมีควำมรู้และทักษะพื้นฐำนอย่ำงเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษำ • 2. สำมำรถจัดหำเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ได้ • 3. มีแหล่งควำมรู้เพียงพอที่จะค้นคว้ำหรือขอคำปรึกษำ • 4. มีเวลำเพียงพอ • 5. มีงบประมำณเพียงพอ • 6. มีควำมปลอดภัย
  • 19. 2. ศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล • กำรศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงกำรขอ คำปรึกษำจำกผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในกำรกำหนด ขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษำได้เฉพำะเจำะจงมำกยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ควำมรู้เพิ่มเติม ในเรื่องที่จะศึกษำจนสำมำรถใช้ออกแบบและวำงแผนดำเนินกำรทำโครงงำนนั้น ได้อย่ำงเหมำะสม ในกำรศึกษำจะต้องได้คำตอบว่ำ • 1. จะทำ อะไร • 2. ทำไมต้องทำ • 3. ต้องกำรให้เกิดอะไร • 4. ทำอย่ำงไร • 5. ใช้ทรัพยำกรอะไร • 6. ทำกับใคร • 7. เสนอผลอย่ำงไร
  • 20. 3. องค์ประกอบของเค้ำโครงของโครงงำน รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ ชื่อโครงงาน ทำอะไร กับใคร เพื่ออะไร ประเภทโครงงาน วิเครำะห์จำกลักษณะของประโยชน์หรือผลงำนที่ได้ ชื่อผู้จัดทาโครงงาน ผู้รับผิดชอบโครงงำน อำจเป็นรำยบุคคล หรือรำยกลุ่มก็ได้ ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครู-อำจำรย์ผู้ทำหน้ำที่เป็นที่ปรึกษำ และควบคุมกำรทำโครงงำนของนักเรียน ครูที่ปรึกษาร่วม ครู-อำจำรย์ผู้ทำหน้ำที่เป็นที่ปรึกษำร่วม ให้คำแนะนำในกำรทำโครงงำนของนัีกเรียน ระยะเวลาดาเนินงาน ระยะเวลำกำรดำเนินงำนโครงงำน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด กำหนดเป็นวัน หรือ เดือนก็ได้ แนวคิด ที่มา และความสาคัญ สภำพปัจจุบันที่เป็นควำมต้องกำรและควำมคำดหวังที่จะเกิดผล วัตถุประสงค์ สิ่งที่ต้องกำรให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงำนทั้งในเชิงกระบวนกำร และผลผลิต หลักการและทฤษฎี หลักกำรและทฤษฎีที่นำมำใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน วิธีดาเนินงาน กิจกรรมหรือขั้นตอนกำรดำเนินงำน เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ งบประมำณ และผู้ัรับผิดชอบ ขั้นตอนการปฏิบัติ วัน เวลำ และกิจกรรมดำเนินกำรต่ำงๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภำพของผลที่ต้องกำรให้เกิด ทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนกำร และผลกระทบ เอกสารอ้างอิง สื่อเอกสำร ข้อมูลที่ได้จำกแหล่งต่ำงๆ ที่นำมำใช้ในกำรดำเนินงำน
  • 21. 4. กำรลงมือทำโครงงำน เมื่อเค้ำโครงของโครงงำนได้รับควำมเห็นชอบจำกอำจำรย์ที่ปรึกษำแล้ว ก็เสมือนว่ำกำรจัดทำโครงงำนได้ผ่ำนพ้นไปแล้วมำกกว่ำครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะ เป็นกำรลงมือพัฒนำตำมขั้นตอนที่วำงแผนไว้ ดังนี้ • 4.1 กำรเตรียมกำร กำรเตรียมกำร ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในกำรพัฒนำให้พร้อมด้วย และควรเตรียม สมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อควำมไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึก กำรทำกิจกรรมต่ำงๆ ระหว่ำงทำโครงงำน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่ำงไร ได้ผล อย่ำงไร มีปัญหำและแก้ไขได้หรือไม่อย่ำงไร รวมทั้งข้อสังเกตต่ำงๆ ที่พบ
  • 22. • 4.2 กำรลงมือพัฒนำ 1. ปฏิบัติตำมแผนงำนที่วำงไว้ในเค้ำโครง แต่อำจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ ถ้ำพบว่ำจะช่วยทำให้ผลงำนดีขึ้น 2. จัดระบบกำรทำงำนโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่้อย ทำ ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงำนมีควำมสมบูรณ์มำกขึ้น และถ้ำมีกำรแบ่งงำนกันทำ ให้ตกลงรำยละเอียดในกำรต่อเชื่อมชิ้นงำนที่ ชัดเจนด้วย 3. พัฒนำระบบงำนด้วยควำมละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่ำงเป็น ระบบและครบถ้วน
  • 23. • 4.3 กำรทดสอบผลงำนและแก้ไข กำรตรวจสอบควำมถูกต้องของผลงำน เป็นควำมจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่ำผลงำนที่ พัฒนำขึ้นทำงำนได้ถูกต้องตรงกับควำมต้องกำร ที่ระบุไว้ในเป้ำหมำยและทำ ด้วยประสิทธิภำพสูงด้วย • 4.4 กำรอภิปรำยและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนำผลงำนเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อควำมที่สั้นกะทัดรัดอย่ำง ครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่ำนได้เข้ำใจถึงสิ่งที่ค้นพบจำกกำรทำโครงงำน และทำ กำรอภิปรำยผลด้วย เพื่อพิจำรณำข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำ ไปหำ ควำมสัมพันธ์กับหลักกำร ทฤษฎี หรือผลงำนที่ผู้อื่นได้ศึกษำไว้แล้ว ทั้งนี้ยัง รวมถึงกำรนำหลักกำร ทฤษฎี หรือผลงำนของผู้อื่นมำใช้ประกอบกำรอภิปรำย ผลที่ได้ด้วย
  • 24. • 4.5 แนวทำงกำรพัฒนำโครงงำนในอนำคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทำโครงงำนเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอำจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญ หรือปัญหำ ซึ่งสำมำรถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษำและหรือใช้ ประโยชน์ต่อไปได้
  • 25. 5. กำรเขียนรำยงำน กำรเขียนรำยงำนเป็นวิธีกำรสื่อควำมหมำยเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้ำใจแนวคิด วิธีดำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำ ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่ำงๆ เกี่ยวกับ โครงงำนนั้น ในกำรเขียนรำยงำนนักเรียนควรใช้ภำษำที่อ่ำนง่ำย ชัดเจน กระชับ และ ตรงไปตรงมำ ให้ครอบคลุมหัวข้อต่ำงๆเหล่ำนี้ • 5.1 ส่วนนำ ส่วนนำ เป็นกำรให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงำนนั้นซึ่งประกอบด้วย 1. ชื่อโครงงำน 2. ชื่อผู้ทำโครงงำน 3. ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ 4. คำขอบคุณ เป็นคำกล่ำวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงำน ที่มีส่วนช่วยทำให้โครงงำนสำเร็จ 5. บทคัดย่อ อธิบำยถึงที่มำ ควำมสำคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินกำร และผลที่ได้โดยย่อ
  • 26. • 5.2 บทนำ บทนำเป็นส่วนรำยละเอียดของเนื้อหำของโครงงำนซึ่งประกอบด้วย 1. ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน 2. เป้ำหมำยของกำรศึกษำค้นคว้ำ 3. ขอบเขตของโครงงำน • 5.3 หลักกำรและทฤษฎี หลักกำรและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จำกกำรศึกษำหำข้อมูลหรือหลักกำร ทฤษฎี หรือวิธีกำรที่จะนำมำใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน ซึ่งรวมถึงกำรระบุ ผลงำนของผู้อื่นที่นักเรียนนำมำเปรียบเทียบหรือพัฒนำเพิ่มเติมด้วย
  • 27. • 5.4 วิธีดำเนินกำร วิธีดำเนินกำร อธิบำยขั้นตอนกำรดำเนินงำนโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหำหรืออุปสรรคที่พบ พร้อมทั้งวิธีกำรที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในกำรทำงำน • 5.5 ผลกำรศึกษำ ผลกำรศึกษำ นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนำได้ โดยอำจแสดงเป็นตำรำง หรือ กรำฟ หรือ ข้อควำม ทั้งนี้ให้คำนึงถึงควำมเข้ำใจของผู้อ่ำนเป็นหลัก • 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบำยผลสรุปที่ได้จำกกำรทำ งำน ถ้ำมีกำรตั้งสมมติฐำนควรระบุ ด้วยว่ำข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้ำนสมมติฐำนที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจำกนั้นยังควร กล่ำวถึงกำรนำ ผลกำรทดลองหรือพัฒนำไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของกำรทำโครงงำน หรือ ข้อสังเกตที่สำคัญ หรือข้อผิดพลำดบำงประกำรที่เกิดขึ้นจำกกำรทำ โครงงำนนี้ รวมทั้ง ข้อเสนอแนะเพื่อกำรปรับปรุงแก้ไขหำกจะมีผู้ศึกษำค้นคว้ำในเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนำคตด้วย
  • 28. • 5.7 ประโยชน์ ประโยชน์ที่ได้รับจำกโครงงำน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจำกกำรพัฒนำ โครงงำนนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจำกกำรนำผลงำนของโครงงำนไป ใช้ด้วย • 5.8 บรรณำนุกรม บรรณำนุกรม รวบรวมรำยชื่อหนังสือ วำรสำร เอกสำร หรือเว็บไซด์ต่ำงๆ ที่ ผู้ทำ โครงงำนใช้ค้นคว้ำ หรืออ่ำนเพื่อศึกษำข้อมูลและรำยละเอียดต่ำงๆ ที่ นำมำใช้ประโยชน์ในกำรทำ โครงงำนนี้กำรเขียนเอกสำรบรรณำนุกรมต้องให้ ถูกต้องตำมหลักกำรเขียนด้วย
  • 29. • 5.9 กำรจัดทำคู่มือกำรใช้งำน หำโครงงำนที่นักเรียนจัดทำ เป็นกำรพัฒนำระบบใหม่ขึ้นมำ ให้นักเรียนจัดทำคู่มือ อธิบำยวิธีกำรใช้ผลงำนนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย 1. ชื่อผลงำน 2. ควำมต้องกำรของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรำยละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อ จะใช้ผลงำนนั้นได้ 3. ควำมต้องกำรของซอฟต์แวร์ ระบุรำยชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงำนนั้นทำงำนได้อย่ำงสมบูรณ์ 4. คุณลักษณะของผลงำน อธิบำยว่ำผลงำนนั้นทำ หน้ำที่อะไรบ้ำง รับอะไรเป็น ข้อมูลขำเข้ำและส่วนอะไรออกมำเป็นข้อมูลขำออก 5. วิธีกำรใช้งำนของแต่ละฟังก์ชัน อธิบำยว่ำจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงำนทำงำนในฟังก์ชันหนึ่งๆ
  • 30. • 6. กำรนำเสนอและแสดงโครงงำน กำรนำเสนอและกำรแสดงผลงำนเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของกำรทำ โครงงำน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลควำมคิด ควำมพยำยำมในกำรทำงำนที่ผู้ทำโครงงำนได้ ทุ่มเท และเป็นวิธีทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้ำใจถึงผลงำนนั้น กำรเสนอผลงำนอำจทำได้ใน หลำยรูปแบบต่ำงๆ กัน เช่น กำรแสดงผลงำนโดยไม่มีกำรอธิบำยประกอบกำรรำยงำนด้วย คำพูดในที่ประชุม กำรจัดนิทรรศกำรโดยโปสเตอร์และอธิบำยด้วยคำพูด เป็นต้น โดยผลงำนที่ นำมำเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้ 1. ชื่อโครงงำน 2. ชื่อผู้จัดทำโครงงำน 3. ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ 5. วิธีกำรดำเนินกำรที่สำคัญ 6. กำรสำธิตผลงำน 7. ผลกำรสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จำกกำรทำโครงงำน