SlideShare a Scribd company logo
จัดทำโดย
นำงสำวอภิชยำ พิณรำช เลขที่ 21ม.6/4
นำงสำวอริสำ ตุ้ยต่อมำ เลขที่ 43 ม.6/4
กิจกรรมที่ 2
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมกำรเรียนที่นักเรียนมีอิสระในกำรเลือกศึกษำปัญหำที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวำงแผนกำร
ดำเนินงำน ศึกษำ พัฒนำโปรแกรม โดยใช้ควำมรู้ทำงกระบวนกำรวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์
และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐำนในกำรพัฒนำโครงงำน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำ
โครงงำน ซึ่งอำจมีผู้ศึกษำมำก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนำโปรแกรมได้เคยค้นคว้ำและพัฒนำแล้ว
นักเรียนสำมำรถทำโครงงำนเรื่องดังกล่ำวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทำงในกำรศึกษำ กำรวิเครำะห์ข้อมูล
กำรพัฒนำโปรแกรม หรือศึกษำเพิ่มเติมจำกผลงำนเดิมที่มีผู้รำยงำนไว้ จุดมุ่งหมำยสำคัญของกำรทำ
โครงงำนเป็นกำรเปิดโอกำสให้นักเรียนได้รับประสบกำรณ์ตรงในกำรใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหำ
ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้ำหำควำมรู้ต่ำงๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรพัฒนำสื่อกำรเรียนรู้เพื่อกำรศึกษำ
ประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ พัฒนำโปรแกรมประยุกต์ต่ำงๆ ตลอดจนกำรพัฒนำ
เกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่ เรียนใฝ่ รู้ กำรพัฒนำควำมคิดใหม่ๆ ควำมมีคุณธรรม
จริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่ำงมีควำมสุข
ความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงำนคอมพิวเตอร์โครงงำนคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดควำมสำมำรถในด้ำนต่ำง
ๆ ที่สำคัญ 5 ประกำรดังนี้
1. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร เป็นควำมสำมำรถที่เกิดจำกกำรที่นักเรียนเป็นผู้ทำโครงงำนต้องนำเสนอ
ผลงำนให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้ำใจโครงงำนคอมพิวเตอร์ได้อย่ำงชัดเจน ดังนั้น ผู้ทำโครงงำนต้อง
สื่อสำรควำมคิดในกำรสร้ำงสรรค์โครงงำนด้วยกำรเขียน หรือด้วยปำกเปล่ำ รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่อ
อย่ำงมีประสิทธิภำพเพื่อนำเสนอแนวคิดในกำรจัด โครงงำนให้ผู้อื่นได้เข้ำใจ
2. ควำมสำมำรถในกำรคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีกำรคิดในลักษณะต่ำง ๆ ดังนี้
2.1 กำรคิดวิเครำะห์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนต้องวิเครำะห์ปัญหำและแยกแยะสำเหตุว่ำเกิดเนื่องจำกอะไร
2.2 กำรคิดสังเครำะห์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนต้องนำควำมรู้ต่ำง ๆ ที่เรียนมำ รวมทั้งควำมรู้จำกกำรค้นหำ
ข้อมูล เพื่อใช้ในกำรแก้ปัญหำหรือกำรสร้ำงสรรค์โครงงำน
2.3 กำรคิดอย่ำงสร้ำงสรรค์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนนำควำมรู้มำสร้ำงสรรค์ผลงำนใหม่ ๆ
2.4 กำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนได้มีกำรคิดไตร่ตรองว่ำควรทำโครงงำนใดและไม่ควร
ทำโครงงำนใด เนื่องจำกโครงงำนที่สร้ำงขึ้นอำจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม
2.5 กำรคิดอย่ำงเป็นระบบ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหำอย่ำงเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในกำรพัฒนำ
โครงงำน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วำงแผนในกำรศึกษำ ค้นคว้ำ เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนำ หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงำน
รวมทั้งกำรสรุปผลและกำรน ำเสนอผลกำรศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้
คำปรึกษำ
3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนวิเครำะห์ปัญหำ เข้ำใจ และอธิบำยปัญหำทำงด้ำน
คอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ควำมรู้ ทักษะ และกำรใช้เครื่องมือที่เหมำะสมกับกำรแก้ไขปัญหำ
4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต
5. เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนได้นำควำมรู้และกระบวนกำรต่ำง ๆ ไปใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน และนำไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจำวันได้อย่ำงเหมำะสม รวมถึงกำรพัฒนำโครงงำน ก่อให้เกิดกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนำไปสู่กำรเรียนรู้
ตลอดชีวิต
6. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนสำมำรถเลือกใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ ในกำรแก้ปัญหำได้
อย่ำงถูกต้องเหมำะสมและมีคุณธรรม
1. เป็นกิจกรรมกำรเรียนให้นักเรียนศึกษำ ค้นคว้ำ ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอำศัยหลักวิชำกำรทำงทฤษฎีตำม
เนื้อหำโครงงำนนั้นๆ หรือจำกประสบกำรณ์และกิจกรรมต่ำง ๆ ที่ได้พบเห็นมำกแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจำรณำจัดทำโครงงำนด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลำสั้นๆ เป็นภำคเรียน หรือมำก
ว่ำก็ได้ แล้วแต่โครงงำนเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจำรณำริเริ่มสร้ำงสรรค์ คัดเลือกโครงงำนที่จะศึกษำค้นคว้ำปฏิบัติด้วยตนเองตำมควำมถนัด
สนใจ และควำมพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงำน รำยละเอียดของโครงงำน แผนปฏิบัติงำนและกำรแปลผล รำยงำนผลต่อ
อำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อดำเนินงำนร่วมกันให้บรรลุตำมจุดหมำยที่กำหนดไว้
5. เป็นโครงงำนที่เหมำะสมกับควำมรู้ ควำมสำมำรถของนักเรียนตำมวัยและสติปัญญำ รวมทั้งกำรใช้จ่ำยเงิน
ดำเนินงำนด้วย
ขอบข่ำยของโครงงำนคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 3
ประเภทของโครงงำนคอมพิวเตอร์
1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ
ลักษณะเด่นของโครงงำนประเภทนี้ คือ เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำ โดย
กำรสร้ำงโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยกำรเรียน ซึ่งอำจจะต้องมีภำคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถำมคำตอบ
ไว้พร้อม ผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบรำยบุคคลหรือรำยกลุ่มกำรสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่ำ
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเอง
ก็ได้ โครงงำน ประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำงๆ โดยผู้เรียนอำจคัดเลือกเนื้อหำที่
เข้ำใจยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ ตัวอย่ำงโครงงำน เช่น กำรเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบ
สุริยจักรวำล ตัวแปรต่ำงๆ ที่มีผลต่อกำรชำกิ่งกุหลำบ หลักภำษำไทย และสถำนที่สำคัญของประเทศไทย เป็นต้น
2.โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน
โครงงำนประยุกต์ใช้งำนเป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำร สร้ำงผลงำนเพื่อประยุกต์ใช้งำนจริงใน
ชีวิตประจำวัน อำทิเช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบและตกแต่งภำยในอำคำร ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี
และซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ
อุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ ซึ่งอำจเป็นกำรคิดสร้ำงสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภำพสูงขึ้น โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของผู้ใช้ก่อน แล้วนำข้อมูลที่
ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำสิ่งของนั้นๆ ต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของ
สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีควำมสมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภำษำโปรแกรม และเครื่องมือต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง
3.โครงงำนพัฒนำเกม
โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้หรือเพื่อควำม เพลิดเพลิน เกมที่
พัฒนำควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำรใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่ำงมีหลักกำร โครงงำนประเภทนี้จะมีกำร
ออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ควำมรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนำ
ควรจะได้ทำกำรสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่ำงๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้นใหม่
เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำงๆ
4.โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ
โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือช่วย สร้ำงงำนประยุกต์ต่ำงๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่
ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งำน และซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ
เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคำ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำ
ใช้ในกำรพิมพ์งำนต่ำงๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์กำรวำดรูป พัฒนำขึ้นเพื่ออำนวยควำม
สะดวกให้กำรวำดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่ำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุม
ต่ำงๆ ใช้สำหรับช่วยกำรออกแบบสิ่งของ อำทิเช่น ผู้ใช้วำดแจกันด้ำนหน้ำ และต้องกำรจะดูว่ำด้ำนบนและ
ด้ำนข้ำงเป็นอย่ำงไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คำนวณค่ำและภำพที่ควรจะเป็นมำให้ เพื่อพิจำรณำและแก้ไขภำพแจกัน
ที่ออกแบบไว้ได้อย่ำงสะดวก
5. โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี
โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในกำร จำลองกำรทดลองของสำขำต่ำงๆ ซึ่ง
เป็นงำนที่ไม่สำมำรถทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริงได้ เช่น กำรจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้อง
ศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอ
เป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย พร้อมทั้งำรจำลองทฤษฏี
ด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ ภำพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตำมสูตรหรือสมกำรนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมี
ควำมเข้ำใจได้ดียิ่งขึ้น กำรทำโครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่ำงดี
ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของของเหลว กำรทดลองเรื่องพฤติกรรมของ
ปลำปิรันย่ำ และกำรทดลองเรื่องกำรมองเห็นวัตถุแบบสำมมิติ เป็นต้น
กิจกรรมที่ 4
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงำนที่สนใจ
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมำพัฒนำเป็นโครงงำนคอมพิวเตอร์ มักจะได้มำจำกปัญหำ คำถำม หรือควำมสนใจในเรื่องต่ำงๆ จำก
กำรสังเกตสิ่งต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่ำงๆ รอบตัว ปัญหำที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ได้จำกแหล่ง
ต่ำงๆ กัน ดังนี้
1. กำรอ่ำนค้นคว้ำจำกหนังสือ เอกสำร หนังสือพิมพ์หรือวำรสำรต่ำงๆ
2. กำรไปเยี่ยมชมสถำนที่ต่ำงๆ
3. กำรฟังบรรยำยทำงวิชำกำร รำยกำรวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งกำรสนทนำอภิปรำยแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นระหว่ำงเพื่อน
นักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ
4. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียน
5. งำนอดิเรกของนักเรียน
6. กำรเข้ำชมงำนนิทรรศกำรหรืองำนประกวดโครงงำนคอมพิวเตอร์
ในกำรตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ ควรพิจำรณำองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
1. ต้องมีควำมรู้และทักษะพื้นฐำนอย่ำงเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษำ
2. สำมำรถจัดหำเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
3. มีแหล่งควำมรู้เพียงพอที่จะค้นคว้ำหรือขอคำปรึกษำ
4. มีเวลำเพียงพอ
5. มีงบประมำณเพียงพอ
6. มีควำมปลอดภัย
2. ศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล
กำรศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงกำรขอคำปรึกษำจำกผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้
นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในกำรกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษำได้เฉพำะเจำะจงมำกยิ่งขึ้น รวมทั้งได้
ควำมรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษำจนสำมำรถใช้ออกแบบและวำงแผนดำเนินกำรทำโครงงำนนั้นได้อย่ำง
เหมำะสม ในกำรศึกษำจะต้องได้คำตอบว่ำ
1. จะทำ อะไร
2. ทำไมต้องทำ
3. ต้องกำรให้เกิดอะไร
4. ทำอย่ำงไร
5. ใช้ทรัพยำกรอะไร
6. ทำกับใคร
7. เสนอผลอย่ำงไร
3. จัดทำข้อเสนอโครงงำนที่จะทำ ดังนี้
3.1 ศึกษำค้นคว้ำเอกสำรอ้ำงอิงและรวบรวมข้อมูลที่ได้จำกผู้ทรงคุณวุฒิ
3.2 วิเครำะห์ข้อมูล เพื่อกำหนดขอบเขตและลักษณะของโครงกำรที่จะพัฒนำ
3.3 ออกแบบกำรพัฒนำ มีกำรกำหนดลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และตัวแปลภำษำ โปรแกรม และวัสดุ
ต่ำง ๆ ที่ต้องใช้
3.4 กำหนดตำรำงกำรปฏิบัติงำนของกำรจัดทำเค้ำโครงของโครงงำน ลงมือทำโครงงำนและสรุปรำยงำนโครงงำน โดย
กำหนดช่วงเวลำอย่ำงกว้ำง ๆ
3.5 ทำกำรพัฒนำโครงงำนขั้นต้น เพื่อศึกษำควำมเป็นไปได้เบื้องต้น โดยอำจจะทำกำรพัฒนำส่วนย่อย ๆ บำงส่วนตำมที่
ได้ออกแบบไว้แล้ว นำผลจำกกำรศึกษำในช่วงนี้ไปปรับปรุงแผนกำรทดลองที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้เหมำะสมมำกยิ่งขึ้น
3.6 เสนอเค้ำโครงของโครงงำนคอมพิวเตอร์ต่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อขอคำแนะนำและปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้กำรวำงแผน
และดำเนินกำรทำโครงงำนเป็นไปอย่ำงเหมำะสมเป็นขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
4. กำรลงมือทำโครงงำน
4.1 การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่น ๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมและควรเตรียม
สมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้ มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับบันทึกการทากิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างการทาโครงงาน ได้แก่
การดาเนินการอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่าง ๆ ที่พบ
4.2 การลงมือพัฒนา เป็นการปฏิบัติตามแผนงานที่ได้วางไว้ในเค้าโครง ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ หาก
พบว่าจะช่วยให้ผลงานพัฒนาได้ดีขึ้น โดยจัดระบบการทางาน ทาส่วนที่เป็นหลักสาคัญให้เสร็จก่อน จึงค่อยทาส่วนที่เป็น
ส่วนประกอบหรือส่วนเสริม เพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทา ให้มีการตกลงรายละเอียดในการ
เชื่อมต่อชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย รวมทั้งต้องพัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ บันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบและครบถ้วน
4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้น ทางานได้
ถูกต้องตรงตามความต้องการที่ระบุไว้ในเป้ าหมาย และมีประสิทธิภาพ
4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทาข้อสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัด ครอบคลุม
หัวข้อโครงงาน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงานและอภิปรายผล เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อม
กับนาไปหาความสัมพันธ์กับ หลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้รวมไปถึงหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของ
ผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลได้
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต
ประเด็นที่สาคัญหรือปัญหาซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะ สาหรับผู้ที่สนใจจะนาไปพัฒนาผลงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. เขียนรำยงำนและจัดทำคู่มือกำรใช้ กำรเขียนรำยงำนเป็นวิธีกำรสื่อควำมหมำยเพื่อให้ผู้อื่นเข้ำใจแนวคิด วิธีดำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำหำข้อมูลที่ได้
ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่ำง ๆ เกี่ยวกับโครงงำน ในกำรเขียนรำยงำนนักเรียนควรใช้ภำษำที่อ่ำนง่ำย ชัดเจน กระชับ และ
ตรงไปตรงมำ และส่วนสุดท้ำยเป็นคู่มือกำรใช้งำนโครงงำน ซึ่งประกอบด้วย
บทที่ 1 บทนำ เป็นส่วนรำยละเอียดของเนื้อหำของโครงงำนโดยได้เขียนไว้แล้วในข้อเสนอโครงงำนซึ่งประกอบด้วย ที่มำและควำมสำคัญของ
โครงงำน วัตถุประสงค์ขอบเขตของโครงงำน
บทที่ 2 หลักกำรและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จำกกำรศึกษำหำข้อมูล หลักกำร ทฤษฎี หรือวิธีกำรที่จะนำมำใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน
ซึ่งรวมถึงกำรระบุผลงำนของผู้อื่น ที่ผู้จัดทำโครงงำนนำมำเปรียบเทียบหรือพัฒนำเพิ่มเติมด้วย
บทที่ 3 วิธีดำเนินกำร อธิบำยขั้นตอนกำรดำเนินงำนโดยละเอียด ระบุปัญหำหรืออุปสรรคที่พบ วิธีกำรที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ต้อง
ใช้ในกำรทำโครงงำน
บทที่ 4 ผลกำรศึกษำ นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนำได้โดยอำจแสดงเป็นรูปภำพ ตำรำง กรำฟ ข้อควำม ทั้งนี้ต้องกำรสื่อควำมหมำยให้ผู้อื่น
เข้ำใจได้ง่ำย
บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ กำรสรุปผลกำรดำเนินงำน เป็นกำรอธิบำยผลสรุปที่ได้จำกกำรทำโครงงำน ถ้ำมีกำรตั้งสมมุติฐำนควรระบุถึง
ข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้ำนสมมุตติฐำนที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้กำรนำผลกำรทดลองหรือพัฒนำไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของกำรทำ
โครงงำนหรือข้อสังเกตที่สำคัญหรือข้อผิดพลำดบำงประกำรที่เกิดขึ้นจำกกำรทำโครงงำนนี้ และควรมีข้อเสนอแนะในกำรปรับปรุงโครงงำน
เพื่อเป็นแนวทำงให้ผู้อื่นศึกษำค้นคว้ำต่อไปในอนำคต นอกจำกนี้ควรกล่ำวถึงประโยชน์ที่ผู้จัดทำและผู้ใช้จะได้ประโยชน์จำกกำรทำโครงงำน
ด้วย
บรรณำนุกรม รวบรวมรำยชื่อหนังสือ วำรสำรเอกสำรและ /หรือเว็บไซต์ที่ผู้จัดทำโครงงำนใช้ศึกษำ ค้นคว้ำรำยละเอียด ที่นำมำใช้ประโยชน์
ในกำรทำโครงงำน ทั้งนี้เขียนเอกสำรบรรณำนุกรมต้องให้ถูกต้องตำมหลักกำรเขียนด้วย
คู่มือกำรใช้งำน เป็นคู่มืออธิบำยวิธีกำรใช้งำนผลงำนนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย ชื่อผลงำน คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์เพื่อที่จะใช้กับ
ผลงำนนั้นได้(ถ้ำมี) รำยละเอียดของคอมพิวเตอร์ ต้องมีรำยชื่อซอฟต์แวร์ ผลงำนนั้นทำหน้ำที่อะไรบ้ำง รับอะไรเป็นข้อมูลเข้ำ และส่งอะไร
ออกมำเป็นข้อมูลออก วิธีกำรใช้งำน ควรอธิบำยขั้นตอนตำมลำดับกำรทำงำน ที่สำมำรถเข้ำใจได้ง่ำย ข้อแนะนำกำรใช้งำน สำมำรถแยกออกจำก
รำยงำนหรือใส่ใว้ในภำคผนวกของรำยงำนก็ได้แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้จัดทำ
6. กำรนำเสนอและแสดงโครงงำน โดยทั่วไปเมื่อโครงงำนเสร็จสิ้นแล้ว ต้องมีกำรนำเสนอโครงงำนให้กับผู้ที่ต้องกำรใช้งำน
หรือครูที่ปรึกษำโครงงำน ดังนั้นควรเตรียมเอกสำรนำเสนอให้สมบูรณ์ โดยอำจปรับย่อข้อควำมที่สำคัญมำจำกกำรรำยงำนก็ได้
กำรนำเสนอในรูปแบบใดนั้นต้องเลือกให้เหมำะสมโดยพิจำรณำวัตถุประสงค์ของงำนนำเสนอ ชื่อ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ป้ำย
นิทรรศกำร เอกสำรรำยงำน แผ่นพับ นอกจำกนี้ยังต้องวำงแผนในกำรนำเสนอและสำธิตโครงงำน และควรฝึกตอบคำถำมที่
เกี่ยวข้องไว้ด้วย
แหล่งที่มา
- https://sites.google.com/site/khorngngankhxmphiwtexr2558/prapheth-khorng-ngan-
khxmphiwtexr
- http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-
Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content1.html
- http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-
Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content2.html
- https://sites.google.com/site/cproject2514/home/khan-txn-kar-tha-khorng-ngan-khxmphiwtexr

More Related Content

What's hot

Computer3.1
Computer3.1Computer3.1
Computer3.1
Mai Lovelove
 
โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1Darunee Ongmin
 
Computer3
Computer3Computer3
Computer3
Mai Lovelove
 
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
Me'e Mildd
 
Com project
Com projectCom project
Work.com3
Work.com3Work.com3
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
chanakarnaphiwongcha
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
Sukanya Mueangjai
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานPuifai Sineenart Phromnin
 
2 3
2 32 3
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์yuyjanpen
 

What's hot (18)

Computer3.1
Computer3.1Computer3.1
Computer3.1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1
 
Computer3
Computer3Computer3
Computer3
 
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
 
Com project
Com projectCom project
Com project
 
งานคู่
งานคู่งานคู่
งานคู่
 
Unit 4 12
Unit 4  12Unit 4  12
Unit 4 12
 
Work.com3
Work.com3Work.com3
Work.com3
 
ใบงาน7
ใบงาน7ใบงาน7
ใบงาน7
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
K311
K311K311
K311
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
Com
ComCom
Com
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
K3
K3K3
K3
 
2 3
2 32 3
2 3
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
 

Similar to 2 3-4

Project2
Project2Project2
Project2
Mmike3
 
Commmm2
Commmm2Commmm2
Commmm2
pohnkharita
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
paweetidakonkaew
 
กิจกรรมที่ 2-3-4
กิจกรรมที่ 2-3-4กิจกรรมที่ 2-3-4
กิจกรรมที่ 2-3-4
kanyaluk dornsanoi
 
Computer project-1
Computer project-1Computer project-1
Computer project-1
WrnPloy
 
Computer project-1
Computer project-1Computer project-1
Computer project-1
WrnPloy
 
คอม คู่
คอม คู่คอม คู่
คอม คู่
Krittapornn Chanasaen
 
กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมที่ 1กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมที่ 1Toei Natchaya
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Pongpan Pairojana
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
Chanakan Satakeaw
 
ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
Mongkon Khumpo
 
Work2 3
Work2 3Work2 3
Work2 3
chairittonmit
 
Com
ComCom
โครงงานคอมพิวเตอร์14
โครงงานคอมพิวเตอร์14โครงงานคอมพิวเตอร์14
โครงงานคอมพิวเตอร์14
Supanan Fom
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
viewil
 
กิจกรรม2
กิจกรรม2กิจกรรม2
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
princess Thirteenpai
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
princess Thirteenpai
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ysmhcnboice
 

Similar to 2 3-4 (20)

Project2
Project2Project2
Project2
 
Commmm2
Commmm2Commmm2
Commmm2
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่ 2-3-4
กิจกรรมที่ 2-3-4กิจกรรมที่ 2-3-4
กิจกรรมที่ 2-3-4
 
Computer project-1
Computer project-1Computer project-1
Computer project-1
 
Computer project-1
Computer project-1Computer project-1
Computer project-1
 
คอม คู่
คอม คู่คอม คู่
คอม คู่
 
กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมที่ 1กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมที่ 1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
 
ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Work2 3
Work2 3Work2 3
Work2 3
 
K3ท
K3ทK3ท
K3ท
 
Com
ComCom
Com
 
โครงงานคอมพิวเตอร์14
โครงงานคอมพิวเตอร์14โครงงานคอมพิวเตอร์14
โครงงานคอมพิวเตอร์14
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรม2
กิจกรรม2กิจกรรม2
กิจกรรม2
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 

More from ssusercdc402

Final project 2561
Final project 2561Final project 2561
Final project 2561
ssusercdc402
 
2561 project (2)
2561 project  (2)2561 project  (2)
2561 project (2)
ssusercdc402
 
2561 project (1)
2561 project  (1)2561 project  (1)
2561 project (1)
ssusercdc402
 
2561 project (1)
2561 project  (1)2561 project  (1)
2561 project (1)
ssusercdc402
 
2561 project
2561 project 2561 project
2561 project
ssusercdc402
 
5
55
4
44
2 3
2 32 3
2561 project
2561 project 2561 project
2561 project
ssusercdc402
 
Work 2
Work 2Work 2
Work 2
ssusercdc402
 

More from ssusercdc402 (10)

Final project 2561
Final project 2561Final project 2561
Final project 2561
 
2561 project (2)
2561 project  (2)2561 project  (2)
2561 project (2)
 
2561 project (1)
2561 project  (1)2561 project  (1)
2561 project (1)
 
2561 project (1)
2561 project  (1)2561 project  (1)
2561 project (1)
 
2561 project
2561 project 2561 project
2561 project
 
5
55
5
 
4
44
4
 
2 3
2 32 3
2 3
 
2561 project
2561 project 2561 project
2561 project
 
Work 2
Work 2Work 2
Work 2
 

2 3-4

  • 1. จัดทำโดย นำงสำวอภิชยำ พิณรำช เลขที่ 21ม.6/4 นำงสำวอริสำ ตุ้ยต่อมำ เลขที่ 43 ม.6/4
  • 3. ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ กิจกรรมกำรเรียนที่นักเรียนมีอิสระในกำรเลือกศึกษำปัญหำที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวำงแผนกำร ดำเนินงำน ศึกษำ พัฒนำโปรแกรม โดยใช้ควำมรู้ทำงกระบวนกำรวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐำนในกำรพัฒนำโครงงำน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำ โครงงำน ซึ่งอำจมีผู้ศึกษำมำก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนำโปรแกรมได้เคยค้นคว้ำและพัฒนำแล้ว นักเรียนสำมำรถทำโครงงำนเรื่องดังกล่ำวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทำงในกำรศึกษำ กำรวิเครำะห์ข้อมูล กำรพัฒนำโปรแกรม หรือศึกษำเพิ่มเติมจำกผลงำนเดิมที่มีผู้รำยงำนไว้ จุดมุ่งหมำยสำคัญของกำรทำ โครงงำนเป็นกำรเปิดโอกำสให้นักเรียนได้รับประสบกำรณ์ตรงในกำรใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหำ ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้ำหำควำมรู้ต่ำงๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรพัฒนำสื่อกำรเรียนรู้เพื่อกำรศึกษำ ประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ พัฒนำโปรแกรมประยุกต์ต่ำงๆ ตลอดจนกำรพัฒนำ เกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่ เรียนใฝ่ รู้ กำรพัฒนำควำมคิดใหม่ๆ ควำมมีคุณธรรม จริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่ำงมีควำมสุข
  • 4. ความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงำนคอมพิวเตอร์โครงงำนคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดควำมสำมำรถในด้ำนต่ำง ๆ ที่สำคัญ 5 ประกำรดังนี้ 1. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร เป็นควำมสำมำรถที่เกิดจำกกำรที่นักเรียนเป็นผู้ทำโครงงำนต้องนำเสนอ ผลงำนให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้ำใจโครงงำนคอมพิวเตอร์ได้อย่ำงชัดเจน ดังนั้น ผู้ทำโครงงำนต้อง สื่อสำรควำมคิดในกำรสร้ำงสรรค์โครงงำนด้วยกำรเขียน หรือด้วยปำกเปล่ำ รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่อ อย่ำงมีประสิทธิภำพเพื่อนำเสนอแนวคิดในกำรจัด โครงงำนให้ผู้อื่นได้เข้ำใจ 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีกำรคิดในลักษณะต่ำง ๆ ดังนี้ 2.1 กำรคิดวิเครำะห์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนต้องวิเครำะห์ปัญหำและแยกแยะสำเหตุว่ำเกิดเนื่องจำกอะไร 2.2 กำรคิดสังเครำะห์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนต้องนำควำมรู้ต่ำง ๆ ที่เรียนมำ รวมทั้งควำมรู้จำกกำรค้นหำ ข้อมูล เพื่อใช้ในกำรแก้ปัญหำหรือกำรสร้ำงสรรค์โครงงำน 2.3 กำรคิดอย่ำงสร้ำงสรรค์ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนนำควำมรู้มำสร้ำงสรรค์ผลงำนใหม่ ๆ
  • 5. 2.4 กำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนได้มีกำรคิดไตร่ตรองว่ำควรทำโครงงำนใดและไม่ควร ทำโครงงำนใด เนื่องจำกโครงงำนที่สร้ำงขึ้นอำจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม 2.5 กำรคิดอย่ำงเป็นระบบ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหำอย่ำงเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในกำรพัฒนำ โครงงำน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วำงแผนในกำรศึกษำ ค้นคว้ำ เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนำ หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงำน รวมทั้งกำรสรุปผลและกำรน ำเสนอผลกำรศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้ คำปรึกษำ 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนวิเครำะห์ปัญหำ เข้ำใจ และอธิบำยปัญหำทำงด้ำน คอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ควำมรู้ ทักษะ และกำรใช้เครื่องมือที่เหมำะสมกับกำรแก้ไขปัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต 5. เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนได้นำควำมรู้และกระบวนกำรต่ำง ๆ ไปใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน และนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้อย่ำงเหมำะสม รวมถึงกำรพัฒนำโครงงำน ก่อให้เกิดกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนำไปสู่กำรเรียนรู้ ตลอดชีวิต 6. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี เกิดจำกกำรที่ผู้เรียนสำมำรถเลือกใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ ในกำรแก้ปัญหำได้ อย่ำงถูกต้องเหมำะสมและมีคุณธรรม
  • 6. 1. เป็นกิจกรรมกำรเรียนให้นักเรียนศึกษำ ค้นคว้ำ ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอำศัยหลักวิชำกำรทำงทฤษฎีตำม เนื้อหำโครงงำนนั้นๆ หรือจำกประสบกำรณ์และกิจกรรมต่ำง ๆ ที่ได้พบเห็นมำกแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจำรณำจัดทำโครงงำนด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลำสั้นๆ เป็นภำคเรียน หรือมำก ว่ำก็ได้ แล้วแต่โครงงำนเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจำรณำริเริ่มสร้ำงสรรค์ คัดเลือกโครงงำนที่จะศึกษำค้นคว้ำปฏิบัติด้วยตนเองตำมควำมถนัด สนใจ และควำมพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงำน รำยละเอียดของโครงงำน แผนปฏิบัติงำนและกำรแปลผล รำยงำนผลต่อ อำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อดำเนินงำนร่วมกันให้บรรลุตำมจุดหมำยที่กำหนดไว้ 5. เป็นโครงงำนที่เหมำะสมกับควำมรู้ ควำมสำมำรถของนักเรียนตำมวัยและสติปัญญำ รวมทั้งกำรใช้จ่ำยเงิน ดำเนินงำนด้วย ขอบข่ำยของโครงงำนคอมพิวเตอร์
  • 8. 1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ ลักษณะเด่นของโครงงำนประเภทนี้ คือ เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำ โดย กำรสร้ำงโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยกำรเรียน ซึ่งอำจจะต้องมีภำคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถำมคำตอบ ไว้พร้อม ผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบรำยบุคคลหรือรำยกลุ่มกำรสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่ำ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเอง ก็ได้ โครงงำน ประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำงๆ โดยผู้เรียนอำจคัดเลือกเนื้อหำที่ เข้ำใจยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ ตัวอย่ำงโครงงำน เช่น กำรเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบ สุริยจักรวำล ตัวแปรต่ำงๆ ที่มีผลต่อกำรชำกิ่งกุหลำบ หลักภำษำไทย และสถำนที่สำคัญของประเทศไทย เป็นต้น
  • 9.
  • 10. 2.โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน โครงงำนประยุกต์ใช้งำนเป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำร สร้ำงผลงำนเพื่อประยุกต์ใช้งำนจริงใน ชีวิตประจำวัน อำทิเช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบและตกแต่งภำยในอำคำร ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี และซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ อุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ ซึ่งอำจเป็นกำรคิดสร้ำงสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภำพสูงขึ้น โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของผู้ใช้ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำสิ่งของนั้นๆ ต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของ สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีควำมสมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่อง คอมพิวเตอร์ ภำษำโปรแกรม และเครื่องมือต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • 11.
  • 12. 3.โครงงำนพัฒนำเกม โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้หรือเพื่อควำม เพลิดเพลิน เกมที่ พัฒนำควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำรใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่ำงมีหลักกำร โครงงำนประเภทนี้จะมีกำร ออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ควำมรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนำ ควรจะได้ทำกำรสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่ำงๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำงๆ
  • 13.
  • 14. 4.โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือช่วย สร้ำงงำนประยุกต์ต่ำงๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งำน และซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคำ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำ ใช้ในกำรพิมพ์งำนต่ำงๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์กำรวำดรูป พัฒนำขึ้นเพื่ออำนวยควำม สะดวกให้กำรวำดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่ำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุม ต่ำงๆ ใช้สำหรับช่วยกำรออกแบบสิ่งของ อำทิเช่น ผู้ใช้วำดแจกันด้ำนหน้ำ และต้องกำรจะดูว่ำด้ำนบนและ ด้ำนข้ำงเป็นอย่ำงไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คำนวณค่ำและภำพที่ควรจะเป็นมำให้ เพื่อพิจำรณำและแก้ไขภำพแจกัน ที่ออกแบบไว้ได้อย่ำงสะดวก
  • 15.
  • 16. 5. โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในกำร จำลองกำรทดลองของสำขำต่ำงๆ ซึ่ง เป็นงำนที่ไม่สำมำรถทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริงได้ เช่น กำรจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้อง ศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอ เป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย พร้อมทั้งำรจำลองทฤษฏี ด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ ภำพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตำมสูตรหรือสมกำรนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมี ควำมเข้ำใจได้ดียิ่งขึ้น กำรทำโครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่ำงดี ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของของเหลว กำรทดลองเรื่องพฤติกรรมของ ปลำปิรันย่ำ และกำรทดลองเรื่องกำรมองเห็นวัตถุแบบสำมมิติ เป็นต้น
  • 17.
  • 19.
  • 20. 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงำนที่สนใจ โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมำพัฒนำเป็นโครงงำนคอมพิวเตอร์ มักจะได้มำจำกปัญหำ คำถำม หรือควำมสนใจในเรื่องต่ำงๆ จำก กำรสังเกตสิ่งต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่ำงๆ รอบตัว ปัญหำที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ได้จำกแหล่ง ต่ำงๆ กัน ดังนี้ 1. กำรอ่ำนค้นคว้ำจำกหนังสือ เอกสำร หนังสือพิมพ์หรือวำรสำรต่ำงๆ 2. กำรไปเยี่ยมชมสถำนที่ต่ำงๆ 3. กำรฟังบรรยำยทำงวิชำกำร รำยกำรวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งกำรสนทนำอภิปรำยแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นระหว่ำงเพื่อน นักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ 4. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียน 5. งำนอดิเรกของนักเรียน 6. กำรเข้ำชมงำนนิทรรศกำรหรืองำนประกวดโครงงำนคอมพิวเตอร์ ในกำรตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ ควรพิจำรณำองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้ 1. ต้องมีควำมรู้และทักษะพื้นฐำนอย่ำงเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษำ 2. สำมำรถจัดหำเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ 3. มีแหล่งควำมรู้เพียงพอที่จะค้นคว้ำหรือขอคำปรึกษำ 4. มีเวลำเพียงพอ 5. มีงบประมำณเพียงพอ 6. มีควำมปลอดภัย
  • 21. 2. ศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล กำรศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงกำรขอคำปรึกษำจำกผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้ นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในกำรกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษำได้เฉพำะเจำะจงมำกยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ ควำมรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษำจนสำมำรถใช้ออกแบบและวำงแผนดำเนินกำรทำโครงงำนนั้นได้อย่ำง เหมำะสม ในกำรศึกษำจะต้องได้คำตอบว่ำ 1. จะทำ อะไร 2. ทำไมต้องทำ 3. ต้องกำรให้เกิดอะไร 4. ทำอย่ำงไร 5. ใช้ทรัพยำกรอะไร 6. ทำกับใคร 7. เสนอผลอย่ำงไร
  • 22. 3. จัดทำข้อเสนอโครงงำนที่จะทำ ดังนี้ 3.1 ศึกษำค้นคว้ำเอกสำรอ้ำงอิงและรวบรวมข้อมูลที่ได้จำกผู้ทรงคุณวุฒิ 3.2 วิเครำะห์ข้อมูล เพื่อกำหนดขอบเขตและลักษณะของโครงกำรที่จะพัฒนำ 3.3 ออกแบบกำรพัฒนำ มีกำรกำหนดลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และตัวแปลภำษำ โปรแกรม และวัสดุ ต่ำง ๆ ที่ต้องใช้ 3.4 กำหนดตำรำงกำรปฏิบัติงำนของกำรจัดทำเค้ำโครงของโครงงำน ลงมือทำโครงงำนและสรุปรำยงำนโครงงำน โดย กำหนดช่วงเวลำอย่ำงกว้ำง ๆ 3.5 ทำกำรพัฒนำโครงงำนขั้นต้น เพื่อศึกษำควำมเป็นไปได้เบื้องต้น โดยอำจจะทำกำรพัฒนำส่วนย่อย ๆ บำงส่วนตำมที่ ได้ออกแบบไว้แล้ว นำผลจำกกำรศึกษำในช่วงนี้ไปปรับปรุงแผนกำรทดลองที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้เหมำะสมมำกยิ่งขึ้น 3.6 เสนอเค้ำโครงของโครงงำนคอมพิวเตอร์ต่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อขอคำแนะนำและปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้กำรวำงแผน และดำเนินกำรทำโครงงำนเป็นไปอย่ำงเหมำะสมเป็นขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
  • 23. 4. กำรลงมือทำโครงงำน 4.1 การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่น ๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมและควรเตรียม สมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้ มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับบันทึกการทากิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างการทาโครงงาน ได้แก่ การดาเนินการอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่าง ๆ ที่พบ 4.2 การลงมือพัฒนา เป็นการปฏิบัติตามแผนงานที่ได้วางไว้ในเค้าโครง ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ หาก พบว่าจะช่วยให้ผลงานพัฒนาได้ดีขึ้น โดยจัดระบบการทางาน ทาส่วนที่เป็นหลักสาคัญให้เสร็จก่อน จึงค่อยทาส่วนที่เป็น ส่วนประกอบหรือส่วนเสริม เพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทา ให้มีการตกลงรายละเอียดในการ เชื่อมต่อชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย รวมทั้งต้องพัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ บันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบและครบถ้วน 4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้น ทางานได้ ถูกต้องตรงตามความต้องการที่ระบุไว้ในเป้ าหมาย และมีประสิทธิภาพ 4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทาข้อสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัด ครอบคลุม หัวข้อโครงงาน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงานและอภิปรายผล เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อม กับนาไปหาความสัมพันธ์กับ หลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้รวมไปถึงหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของ ผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลได้ 4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญหรือปัญหาซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะ สาหรับผู้ที่สนใจจะนาไปพัฒนาผลงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • 24. 5. เขียนรำยงำนและจัดทำคู่มือกำรใช้ กำรเขียนรำยงำนเป็นวิธีกำรสื่อควำมหมำยเพื่อให้ผู้อื่นเข้ำใจแนวคิด วิธีดำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำหำข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่ำง ๆ เกี่ยวกับโครงงำน ในกำรเขียนรำยงำนนักเรียนควรใช้ภำษำที่อ่ำนง่ำย ชัดเจน กระชับ และ ตรงไปตรงมำ และส่วนสุดท้ำยเป็นคู่มือกำรใช้งำนโครงงำน ซึ่งประกอบด้วย บทที่ 1 บทนำ เป็นส่วนรำยละเอียดของเนื้อหำของโครงงำนโดยได้เขียนไว้แล้วในข้อเสนอโครงงำนซึ่งประกอบด้วย ที่มำและควำมสำคัญของ โครงงำน วัตถุประสงค์ขอบเขตของโครงงำน บทที่ 2 หลักกำรและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จำกกำรศึกษำหำข้อมูล หลักกำร ทฤษฎี หรือวิธีกำรที่จะนำมำใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน ซึ่งรวมถึงกำรระบุผลงำนของผู้อื่น ที่ผู้จัดทำโครงงำนนำมำเปรียบเทียบหรือพัฒนำเพิ่มเติมด้วย บทที่ 3 วิธีดำเนินกำร อธิบำยขั้นตอนกำรดำเนินงำนโดยละเอียด ระบุปัญหำหรืออุปสรรคที่พบ วิธีกำรที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ต้อง ใช้ในกำรทำโครงงำน บทที่ 4 ผลกำรศึกษำ นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนำได้โดยอำจแสดงเป็นรูปภำพ ตำรำง กรำฟ ข้อควำม ทั้งนี้ต้องกำรสื่อควำมหมำยให้ผู้อื่น เข้ำใจได้ง่ำย บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ กำรสรุปผลกำรดำเนินงำน เป็นกำรอธิบำยผลสรุปที่ได้จำกกำรทำโครงงำน ถ้ำมีกำรตั้งสมมุติฐำนควรระบุถึง ข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้ำนสมมุตติฐำนที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้กำรนำผลกำรทดลองหรือพัฒนำไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของกำรทำ โครงงำนหรือข้อสังเกตที่สำคัญหรือข้อผิดพลำดบำงประกำรที่เกิดขึ้นจำกกำรทำโครงงำนนี้ และควรมีข้อเสนอแนะในกำรปรับปรุงโครงงำน เพื่อเป็นแนวทำงให้ผู้อื่นศึกษำค้นคว้ำต่อไปในอนำคต นอกจำกนี้ควรกล่ำวถึงประโยชน์ที่ผู้จัดทำและผู้ใช้จะได้ประโยชน์จำกกำรทำโครงงำน ด้วย บรรณำนุกรม รวบรวมรำยชื่อหนังสือ วำรสำรเอกสำรและ /หรือเว็บไซต์ที่ผู้จัดทำโครงงำนใช้ศึกษำ ค้นคว้ำรำยละเอียด ที่นำมำใช้ประโยชน์ ในกำรทำโครงงำน ทั้งนี้เขียนเอกสำรบรรณำนุกรมต้องให้ถูกต้องตำมหลักกำรเขียนด้วย คู่มือกำรใช้งำน เป็นคู่มืออธิบำยวิธีกำรใช้งำนผลงำนนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย ชื่อผลงำน คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์เพื่อที่จะใช้กับ ผลงำนนั้นได้(ถ้ำมี) รำยละเอียดของคอมพิวเตอร์ ต้องมีรำยชื่อซอฟต์แวร์ ผลงำนนั้นทำหน้ำที่อะไรบ้ำง รับอะไรเป็นข้อมูลเข้ำ และส่งอะไร ออกมำเป็นข้อมูลออก วิธีกำรใช้งำน ควรอธิบำยขั้นตอนตำมลำดับกำรทำงำน ที่สำมำรถเข้ำใจได้ง่ำย ข้อแนะนำกำรใช้งำน สำมำรถแยกออกจำก รำยงำนหรือใส่ใว้ในภำคผนวกของรำยงำนก็ได้แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้จัดทำ
  • 25. 6. กำรนำเสนอและแสดงโครงงำน โดยทั่วไปเมื่อโครงงำนเสร็จสิ้นแล้ว ต้องมีกำรนำเสนอโครงงำนให้กับผู้ที่ต้องกำรใช้งำน หรือครูที่ปรึกษำโครงงำน ดังนั้นควรเตรียมเอกสำรนำเสนอให้สมบูรณ์ โดยอำจปรับย่อข้อควำมที่สำคัญมำจำกกำรรำยงำนก็ได้ กำรนำเสนอในรูปแบบใดนั้นต้องเลือกให้เหมำะสมโดยพิจำรณำวัตถุประสงค์ของงำนนำเสนอ ชื่อ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ป้ำย นิทรรศกำร เอกสำรรำยงำน แผ่นพับ นอกจำกนี้ยังต้องวำงแผนในกำรนำเสนอและสำธิตโครงงำน และควรฝึกตอบคำถำมที่ เกี่ยวข้องไว้ด้วย
  • 26. แหล่งที่มา - https://sites.google.com/site/khorngngankhxmphiwtexr2558/prapheth-khorng-ngan- khxmphiwtexr - http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E- Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content1.html - http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E- Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content2.html - https://sites.google.com/site/cproject2514/home/khan-txn-kar-tha-khorng-ngan-khxmphiwtexr