More Related Content
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ (20)
More from ysmhcnboice (12)
โครงงานคอมพิวเตอร์
- 2. โครงงานคอมพิวเตอร์ หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหา
ที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการ
วิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนา
โครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทาโครงงานซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนา
โปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทาโครงงานเรื่องดังกล่าวได้แต่ต้องคิดดัดแปลง
แนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มี
ผู้รายงานไว้จุดมุ่งหมายสาคัญของการทาโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรง
ในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการ
พัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ
พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่
ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับเพื่อนมนุษย์และ
อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
ควำมหมำยและควำมสำคัญของโครงงำนคอมพิวเตอร์
- 4. 2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
♥ การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิด
เนื่องจากอะไร
♥ การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จาก
การค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน
♥ การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
♥ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงาน
ใดและไม่ควรทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคม
โดยรวม เช่น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะ
ออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการ
ใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น
♥ การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอน
ในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล
พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้า
ด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คาปรึกษา
- 5. 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหา
ทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไข
ปัญหา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไป
ใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการ
พัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม
- 6. ขอบข่ำยและประเภทของโครงงำน
ขอบข่ายของโครงงาน
1. เป็นกิจกรรมกำรเรียนให้นักเรียนศึกษำ ค้นคว้ำ ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอำศัยหลักวิชำกำร
ทำงทฤษฎีตำมเนื้อหำโครงงำนนั้นๆ หรือจำกประสบกำรณ์และกิจกรรมต่ำง ๆ ที่ได้พบเห็น
มำกแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจำรณำจัดทำโครงงำนด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลำสั้นๆ เป็น
ภำคเรียน หรือมำกว่ำก็ได้ แล้วแต่โครงงำนเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจำรณำริเริ่มสร้ำงสรรค์ คัดเลือกโครงงำนที่จะศึกษำค้นคว้ำปฏิบัติด้วย
ตนเองตำมควำมถนัด สนใจ และควำมพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงำน รำยละเอียดของโครงงำน แผนปฏิบัติงำนและกำรแปลผล
รำยงำนผลต่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อดำเนินงำนร่วมกันให้บรรลุตำมจุดหมำยที่กำหนดไว้
5. เป็นโครงงำนที่เหมำะสมกับควำมรู้ ควำมสำมำรถของนักเรียนตำมวัยและสติปัญญำ
รวมทั้งกำรใช้จ่ำยเงินดำเนินงำนด้วย
- 10. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
(Tools Development)
เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือช่วยสร้ำงงำนประยุกต์ต่ำงๆ โดยส่วนใหญ่จะ
อยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งำน และซอฟต์แวร์
ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้น
สร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคำ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำใช้ในกำรพิมพ์งำน
ต่ำงๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์กำรวำดรูป พัฒนำขึ้นเพื่ออำนวย
ควำมสะดวกให้กำรวำดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่ำย สำหรับ
ซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ ใช้สำหรับช่วยกำรออกแบบสิ่งของ อำทิ
เช่น ผู้ใช้วำดแจกันด้ำนหน้ำ และต้องกำรจะดูว่ำด้ำนบนและด้ำนข้ำงเป็น
อย่ำงไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คำนวณค่ำและภำพที่ควรจะเป็นมำให้ เพื่อพิจำรณำและ
แก้ไขภำพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่ำงสะดวก เป็นต้น
- 14. โครงงานการประยุกต์ใช้งาน
(Application)
เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรสร้ำงผลงำนเพื่อ ประยุกต์ใช้งำนจริงใน
ชีวิตประจำวัน อำทิเช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบและตกแต่งภำยในอำคำร
ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี และซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น
โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอย
ต่ำงๆ ซึ่งอำจเป็นกำรคิดสร้ำงสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่
มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภำพสูงขึ้น โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์
ควำมต้องกำรของผู้ใช้ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำ
สิ่งของนั้นๆ ต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของ
สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีควำมสมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้ผู้เรียนต้อง
ใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำษำโปรแกรม และเครื่องมือต่ำงๆ ที่
เกี่ยวข้อง
- 15. โครงงานการประยุกต์ใช้งาน
1. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivist
2. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น
3. โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
4. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ
5. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ
6. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน
7. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
8. ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต
9. ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง
10. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง
- 17. ตัวอย่างโครงงานการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
1. โปรแกรม ต่อให้เพิ่ม เติมให้เต็ม (Magic Puzzle)
2. โปรแกรม เกมผู้รอดชีวิต
3. โปรแกรมเกมทศกัณฑ์
4. โปรแกรมรองเท้าอาถรรพ์
5. เกมผจญภัยกับพระอภัยมณี
6. เกมอักษรเขาวงกต
7. เกมเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
8. เกมผจญภัยกับภาษาอังกฤษ
9. เกมศึกรำมเกียรติ์
10. เกมบวกลบเลขแสนสนุก