More Related Content
Similar to ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
Similar to ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ (20)
ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
- 1. โครงงานคอมพิวเตอร์เป็ นกิจกรรมที่ตองทาอย่างต่อเนื่องหลายขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนจะมีความสาคัญ
้
่ั
ต่อโครงงานนั้นๆ การแบ่งขั้นตอนของการทาโครงงานอาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ข้ ึนอยูกบลักษณะของโครงงาน
และการวางแผนการทาโครงงาน ในที่น้ ีจะแบ่งการทาโครงงานออกเป็ น 6 ขั้นตอนดังนี้
1. การคัดเลือกหัวข้ อโครงงานที่สนใจจะทา
โดยทัวไปเรื่ องที่จะนามาพัฒนาเป็ นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปั ญหา คาถาม หรื อความสนใจ
่
ในเรื่ องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรื อสิ่งต่างๆ รอบตัว ผูเ้ รี ยนสามารถ
จะศึกษาการได้มา ของเรื่ องที่จะทาโครงงานจากตัวอย่างต่อไปนี้
สุดา ช่วยงานคุณพ่อซึ่งเป็ นคุณหมอที่คลีนิครักษาโรค
ทัวไป สังเกตเห็นว่าเมื่อคนไข้เก่ามาจะต้องมีการค้นหา
่
ประวัติคนไข้ ซึ่งเก็บไว้ในตูเ้ อกสารซึ่งมีปริ มาณมาก ทาให้
เสียเวลาค่อนข้างมาก กว่าจะหาพบ และตูเ้ อกสารยังใช้เนื้อที่
ในร้านค่อนข้างมาก อีกด้วย ดังนั้นสุดาจึงเสนอทาโครงงาน
"ระบบจัดการข้อมูลของคลีนิครักษาโรคทัวไป" เพือพัฒนา
่ ่
ระบบคอมพิวเตอร์ ในการจัดเก็บข้อมูลคนไข้ท้งหมดไว้ใน
ั
เครื่ องคอมพิวเตอร์ เพือเป็ นการประหยัดเนื้อที่ที่ใช้ในการ
่
จัดเก็บข้อมูล และประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูลคนไข้
สมานเป็ นผูเ้ รี ยนที่ชอบวิชาฟิ สิกส์เป็ นอย่างมาก มักจะ
ได้รับการขอร้องจากเพือนๆ ให้ทบทวนเนื้อหาต่างๆ ให้
่
เพือนๆ ฟังอยูเ่ สมอ ซึ่งเมื่อสมานได้เรี ยนวิชาการเขียน
่
โปรแกรมแล้ว เกิดความคิดขึ้นว่าถ้าเขาสร้างโปรแกรม ช่วย
สอนสาหรับวิชาฟิ สิกส์ข้ ึนมา ให้เพือนๆ ได้ใช้ คงจะเป็ น
่
เครื่ องมือเป็ นอย่างดีในการทาให้เพือนๆ เข้าใจเนื้ อหาได้
่
ชัดเจนขึ้น ดังนั้นสมานจึงเสนอโครงงานเรื่ อง "โปรแกรม
ช่วยสอนเรื่ องการเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์"
- 2. จิราภรณ์, ทิพนาฎและธิติกร ได้ทาโครงงานเรื่ อง
“โปรแกรมสร้างแบบทดสอบการเรี ยนการสอนบน
อินเทอร์เน็ต” เกิดจากการที่ปัจจุบนอินเทอร์เน็ตได้เข้ามามี
ั
บทบาทในวงการศึกษามากขึ้น ทาให้เกิด
การเรี ยนรู ้อนหลากหลาย ซึ่งไม่ได้จากัดอยูเ่ พียงห้องเรี ยน
ั
ไม่จากัดผูเ้ รี ยน กระบวนการเรี ยนรู ้ใน
บางเนื้อหาวิชามีความจาเป็ นที่จะต้องมีการทดสอบ
กระบวนการวิเคราะห์ผลจึงควรจะต้องมี จึงได้คิดวิชา
ความรู ้บนเครื อข่ายอินเทอร์เน็ตขึ้น
่
สังเกตได้วาเรื่ องหรื อปั ญหาที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กันดังนี้
ก. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ หรื อวารสารต่างๆ
ข. การไปเยียมชมสถานที่ต่างๆ
่
ค. การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งการสนทนาอภิปรายแลกเปลี่ยนความ
คิดเห็นระหว่างเพือนผูเ้ รี ยนหรื อกับบุคคลอื่นๆ
่
ง. กิจกรรมการเรี ยนการสอนในโรงเรี ยน
จ. งานอดิเรกของผูเ้ รี ยน
ฉ. การเข้าชมงานนิทรรศการหรื องานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
อย่างไรก็ตาม ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบ
สาคัญๆ ดังนี้
ก. ต้องมีความรู ้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่ องที่จะศึกษา
ข. สามารถจัดหาเครื่ องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องได้
ค. มีแหล่งความรู ้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรื อขอคาปรึ กษา
ง. มีเวลาเพียงพอ
จ. มีงบประมาณเพียงพอ
ฉ. มีความปลอดภัย
2. การศึกษาค้นคว้ าจากเอกสารและแหล่ งข้ อมูล
ซึ่งรวมถึงการขอคาปรึ กษาจากผูทรงคุณวุฒิจะช่วยให้ผเู ้ รี ยนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของ
้
เรื่ องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิงขึ้น รวมทั้งได้ความรู ้เพิมเติมในเรื่ องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบ
่ ่
2
ที่มา http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit2/unit2.html
- 3. และวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาค้นคว้าดังกล่าว ผูเ้ รี ยนจะต้องบันทึก
สรุ ปสาระสาคัญไว้ดวย ้
แหล่งข้อมูลที่สาคัญอีกแหล่งหนึ่งคือ การศึกษาผลงานของโครงงานคอมพิวเตอร์จากงานแสดงนิทรรศการ
หรื อจากเอกสารรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ ซึ่ งอาจค้นหาได้จากเว็บไซต์ต่างๆ ทัวโลก จะช่วยเพิมพูน
่ ่
ั
ประสบการณ์ให้กบผูเ้ รี ยนในด้านความรู ้ เทคนิคและวิธีการพัฒนา นอกจากนี้ยงทาให้เกิดแนวคิดที่จะ
ั
ดัดแปลงผลงานดังกล่าว มาจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ในหัวข้อที่ตนสนใจด้วย
ในการศึกษาและวิเคราะห์โครงงานคอมพิวเตอร์หรื อปั ญหาพิเศษต่างๆ มีประเด็นที่ตองพิจารณา ดังนี้
้
ก. มูลเหตุจูงใจ และเป้ าหมายในการทาโครงงาน
ข. การดาเนินการพัฒนา
1) วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งรวมถึง เครื่ องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ที่ตองใช้ในการดาเนินการ และ ตัวแปลภาษา
้
โปรแกรมที่ตองใช้
้
2) ความต้องการของผูใช้และคุณลักษณะของผลงาน (Requirement and Specification)
้
3) กลุ่มผูทดลองใช้โครงงานและวิธีการประเมินผล
้
4) วิธีการพัฒนา
5) ข้อสรุ ปของโครงงาน
6) ความแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ของผูทาโครงงาน
้
7) แนวทางในการปรับปรุ งหรื อขยายการทดลองจากงานเดิม
ผลที่ได้จากการดาเนินงานขั้นตอนนี้ จะช่วยให้ได้แนวคิดในการกาหนดขอบข่ายหรื อเค้าโครงของเรื่ องที่จะ
ศึกษาชัดเจนว่า
จะทาอะไร
ทาไมต้องทา
ต้องการให้เกิดอะไร
3
ที่มา http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit2/unit2.html
- 4. ทาอย่างไร
ใช้ทรัพยากรอะไร
ทากับใคร
เสนอผลอย่างไร
3. การจัดทาข้ อเสนอโครงงาน
ในการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ผูเ้ รี ยนจาเป็ นต้องกาหนดกรอบแนวคิดและวางแผนการพัฒนา ล่วงหน้าเพือ ่
จะช่วยให้ สามารถคาดการณ์ความเป็ นไปได้ของการทาโครงงานนั้น และสามารถนาไปขอคาปรึกษาจาก
อาจารย์ที่ปรึ กษา หรื อผูทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้อง โดยทัวไป การทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์มีข้นตอนที่
้ ่ ั
สาคัญดังนี้
3.1 ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิง และรวบรวมข้อมูลทีได้จากผูทรงคุณวุฒิ
่ ้
3.2 วิเคราะห์ขอมูล เพือกาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงงานที่จะพัฒนา
้ ่
3.3 ออกแบบการพัฒนา มีการกาหนดลักษณะของเครื่ องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และตัวแปลภาษา
โปรแกรม และวัสดุต่างๆ ที่ตองใช้ กาหนดคุณลักษณะของผลงาน ระบุเทคนิคที่ใช้ในการพัฒนา
้
พร้อมทั้งกาหนดตารางการปฏิบติงาน ั
3.4 ทาการพัฒนาโครงงานขั้นต้น เพือศึกษาความเป็ นไปได้เบื้องต้น โดยอาจจะทาการพัฒนาส่วน
่
ย่อยๆ บางส่วนตามที่ได้ออกแบบไว้แล้ว นาผลจากการศึกษาในช่วงนี้ไปปรับปรุ งแผนการทดลองที่ออกแบบ
ไว้ ในครั้งแรกให้เหมาะสมมากยิงขึ้น ่
3.5 จัดทาและเสนอข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ต่ออาจารย์ที่ปรึ กษา เพือขอคาแนะนาและปรับปรุ ง
่
แก้ไข ทั้งนี้เพราะในการวางแผนการศึกษาพัฒนา ผูเ้ รี ยนอาจจะคิดได้ไม่ครอบคลุมทุก ด้าน เนื่องจากยังมี
ประสบการณ์นอย ดังนั้นผูเ้ รี ยนจึงควรถ่ายทอดความคิดของตนเองที่ได้ ศึกษาและบันทึกไว้ ให้อาจารย์ที่
้
ปรึ กษาทราบ เพืออาจารย์จะได้ แนะนาในส่วนที่ยงบกพร่ องอยู่ ทั้งนี้เพือให้ การวางแผนและดาเนิ นการทา
่ ั ่
โครงงาน เป็ นไปอย่างเหมาะสมเป็ นขั้นตอนตั้งแต่ เริ่ มต้นจนโครงงานสาเร็จ
นักเรียนนาเสนอข้ อเสนอโครงงาน
4
ที่มา http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit2/unit2.html
- 5. 4. การลงมือทาโครงงาน
เมื่อข้อเสนอโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึ กษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทาโครงงานได้ผาน ่
พ้นไปแล้วมากกว่า 50% ขั้นต่อไปจะเป็ นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้
4.1 การเตรี ยมการ ต้องเตรี ยมเครื่ องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในการทดลอง พร้อมทั้ง
จัดเตรี ยมสถานที่สาหรับใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรี ยมสมุดบันทึกหรื อบันทึกเป็ นแฟ้ ม
ข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับบันทึกการทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทาโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบติ ั
อย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรื อไม่ อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
4.2 การลงมือพัฒนา
- ปฏิบติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรื อเพิมเติมได้ถาพบว่าจะช่วยทาให้ผลงานดีข้ ึน
ั ่ ้
- จัดระบบการทางานโดยทาส่วนที่เป็ นหลักสาคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน
จึงค่อยทาส่วนที่เป็ นส่วนประกอบหรื อส่วนเสริ มเพือให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่ง
่
งานกันทา ให้ทาความตกลงในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชดเจนด้วย
ั
- พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็ นระบบและครบถ้วน
- คานึงถึงความประหยัด ความปลอดภัย และระยะเวลาในการทางาน
4.3 การตรวจสอบผลงานและแก้ไข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงานเป็ นความจาเป็ นเพือให้แน่ใจว่า ่
ผลงานที่พฒนาขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้ าหมาย และทาด้วยประสิทธิภาพสูง
ั
ด้วย
4.4 การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรี ยบร้อยแล้ว ให้จดทาสรุ ปด้วยข้อความที่ส้ น
ั ั
กะทัดรัดอย่างครอบคลุมเพือช่วยให้ผอ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่คนพบจากการทาโครงงาน และทาการอภิปรายผล
่ ู้ ้
่ ั
ด้วย เพือพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนาไปหาความสัมพันธ์กบหลักการ ทฤษฎี หรื อผลงานที่ผอื่นได้ ู้
ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยงรวมถึงการนาหลักการ ทฤษฎี หรื อผลงานของผูอื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้
ั ้
ด้วย
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว ผูเ้ รี ยนอาจพบ
ข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญหรื อปั ญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็ นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและ/หรื อใช้
่
ประโยชน์ตอไปได้
5
ที่มา http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit2/unit2.html
- 6. นักเรียนลงมือพัฒนาโครงงาน
5. การเขียนรายงาน
เมื่อทาโครงงานจนได้ขอมูลอย่างเพียงพอและทาการวิเคราะห์ผล และสรุ ปผลแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ตองทา
้ ้
คือการจัดทารายงาน ซึ่งจะรวมถึงรายละเอียดต่างๆ ในการพัฒนา และคู่มือการใช้งาน
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์เป็ นวิธีสื่อความหมายที่มีประสิทธิภาพ เพือให้ผอื่นได้เข้าใจแนวคิด
่ ู้
วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลทีได้ ตลอดจนข้อสรุ ปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียน
่
รายงานนั้น ผูเ้ รี ยนควรใช้ภาษาที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อ
ต่างๆให้ครบถ้วนตามรู ปแบบที่กาหนด ซึ่งจะได้ศึกษารายละเอียดในหน่วยที่ 5 ต่อไป
6. การนาเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน
การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็ นขั้นตอนที่สาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทาโครงงาน เพือแสดงออก
่
ถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทางานที่ผทาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็ นวิธีที่ทาให้ผอื่นได้รับรู ้
ู้ ู้
และเข้าใจถึงผลงานนั้น
การเสนอผลงานอาจทาได้ในหลายรู ปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบายประกอบ การ
รายงานด้วยคาพูดในที่ประชุม การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคาพูด เป็ นต้น
นักเรียนกาลังนาเสนอโครงงาน
6
ที่มา http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit2/unit2.html