14
72. จำกแผนภำพที่แสดงลักษณะของเส้นแรงแม่เหล็กที่เกิดจำกแท่งแม่เหล็กสองแท่งวำงใกล้กัน
A
C D
B
ข้อใดบอกถึงขั้วของแม่เหล็กที่ตำแหน่งA, B, C และ D ได้อย่ำงถูกต้อง
1. A และ C เป็นขั้วเหนือ B และ D เป็นขั้วใต้
2. A และ D เป็นขั้วเหนือ B และ C เป็นขั้วใต้
3. B และ D เป็นขั้วเหนือ A และ C เป็นขั้วใต้
4. B และ C เป็นขั้วเหนือ A และ D เป็นขั้วใต้
73. ข้อควำมใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
1. สนำมไฟฟ้ำเป็นปริมำณเวกเตอร์ และมีทิศทำงจำกประจุบวกไปประจุลบเสมอ
2. วัตถุที่เป็นฉนวนจะไม่ยอมให้ประจุไฟฟ้ำไหลผ่ำน แต่สำมำรถเกิดสนำมไฟฟ้ำได้ถ้ำถูกกระตุ้น
3. ประจุไฟฟ้ำชนิดเดียวกัน ถ้ำอยู่ใกล้กันจะออกแรงผลักกันและเคลื่อนที่ห่ำงกันไปเรื่อยๆ เป็นระยะ
อนันต์
4. ถ้ำนำวัตถุที่เป็นกลำงทำงไฟฟ้ำวำงคั่นกลำงระหว่ำงประจุบวกกับประจุลบ วัตถุนั้นจะไม่ส่งผลใดๆ
ต่อสนำมไฟฟ้ำของประจุบวกและประจุลบ
74. วำงอนุภำคอิเล็กตรอนลงในบริเวณซึ่งมีเฉพำะสนำมไฟฟ้ำที่มีทิศไปทำงขวำดังรูป อนุภำคอิเล็กตรอน
จะมีกำรเคลื่อนที่เป็นไปตำมข้อใด
1. เคลื่อนที่เป็นเส้นโค้งเบนขึ้นข้ำงบน
2. เคลื่อนที่เป็นเส้นโค้งเบนลงข้ำงล่ำง
3. เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงขนำนกับสนำมไฟฟ้ำ ไปทำงขวำ
4. เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงขนำนกับสนำมไฟฟ้ำ ไปทำงซ้ำย
25
20. สัตว์ป่ำในข้อใดมีสถำนภำพปัจจุบันแตกต่ำงไปจำกข้ออื่นทั้งหมด
1. พะยูนช้ำง
2. ควำยป่ำ กระทิง วัวแดง
3. นกเจ้ำฟ้ำหญิงสิรินธร กูปรี
4. นกแต้วแล้วท้องดำ เลียงผำ
ตารางธาตุ
H He
Li Be B C N O F Ne
Na Mg Al Si P S Cl Ar
K Ca Sc Ti V Cr Mn Fe Co Ni Cu Zn Ga Ge As Se Br Kr
Rb Sr Y Zr Nb Mo Tc Ru Rh Pd Ag Cd In Sn Sb Te I Xe
Cs Ba * Hf Ta W Re Os Ir Pt Au Hg Tl Pb Bi Po At Rn
Fr Ra ** Rf Db Sg Bh Hs Mt Ds Rg Uub Uut Uuq Uup Uuh Uus Uuo
*Lanthanides La Ce Pr Nd Pm Sm Eu Gd Tb Dy Ho Er Tm Yb Lu
**Actinides Ac Th Pa U Np Pu Am Cm Bk Cf Es Fm Md No Lr
21. ข้อควำมใดไม่ถูกต้อง
1. กรดไรโบนิวคลีอิกทำหน้ำที่ในกำรสร้ำงโปรตีน
2. คำร์โบไฮเดรตช่วยให้กำรเผำไหม้ไขมันเป็นไปอย่ำงสมบูรณ์
3. ปฏิกิริยำกำรเตรียมสบู่จำกน้ำมันเรียกว่ำ “สะปอนนิฟิเคชัน (saponification)”
4. โปรตีนเป็นแหล่งพลังงำนขั้นแรกของร่ำงกำยโดยโปรตีน 1 กรัม ให้พลังงำน
4 กิโลแคลอรี
27
24. กำหนดโครงสร้ำงของกรดอะมิโน A,B และ C โดย A และ B เป็นกรดอะมิโนจำเป็น
ข้อควำมใดถูกต้อง
1. เพปไทด์ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนทั้ง 3 ชนิด ข้ำงต้นโดยไม่มีกรดที่ซ้ำกัน มีทั้งหมด 3 ชนิด
2. เพปไทด์ที่เกิดจำกกรด A และกรด B ทำปฏิกิริยำกับ CuSO4 ในสภำวะเบสให้สำรสีม่วง
3. เพปไทด์ที่เกิดจำกกรด A กรด B และกรด C เป็นไตรเพปไทด์ที่มีจำนวนพันธะเพปไทด์ 3 พันธะ
4. ในร่ำงกำยมนุษย์จะไม่พบโปรตีนที่มีกรดอะมิโน A และ B เป็นองค์ประกอบ
25. กำหนดสำย X ของกรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิกชนิดหนึ่งมีลำดับของเบส ดังนี้
(A = อะดีนีน, C = ไซโตซีน, G = กวำนีน, T = ไทมีน)
TGTAG C A
XX
สำย Y ที่เป็นคู่ของสำย X จะมีลำดับเบสเป็นไปตำมข้อใด
1.
A C A T CGT
Y Y
2.
T C A G TAC
Y Y
3.
A C T C ATC
Y Y
4.
A G T A CGT
Y Y
26. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับสมบัติของตัวทำละลำยในอุตสำหกรรมเคมีที่ได้จำกกำรกลั่นปิโตรเลียม
1. มีจุดเดือดสูงกว่ำน้ำมันดีเซล
2. เป็นสำรไฮโดรคำร์บอนที่ละลำยน้ำได้
3. มีสถำนะเป็นของเหลวที่อุณหภูมิและควำมดันปกติ
4. ประกอบด้วยสำรไฮโดรคำร์บอนที่มีจำนวนคำร์บอนน้อยกว่ำ 5 อะตอม