SlideShare a Scribd company logo
Internal Punctuation เครื่องหมายวรรคตอนภายใน


 เครื่องหมายวรรคตอนที่ใชภายในประโยค ไดแก


         เครื่องหมาย   ,       comma
         เครื่องหมาย       '   apostrophe
         เครื่องหมาย   :       colon
         เครื่องหมาย   ;       semi - colon
         เครื่องหมาย   -       hyphen
         เครื่องหมาย           dash

                                               ต า ม ม า ดู ซิ
                                               นาสนใจนะ




 เครื่องหมาย     comma ( , ) หรือ จุลภาค
 เปนเครื่องหมายวรรคตอนที่ใชแสดงการหยุดเปนชวงสั้นๆ ในประโยค เราใช
   comma ( , ) ในรายการตอไปนี้
 1. ใชแยกสิ่งของแตละรายการออกจากกัน         เชน
 Joan bought some apples, mangoes, oranges and papaya.


 2. เพื่อบงวา มีการหยุดเปนชวงสั้นในประโยค เชน
 I ate chocolate, ice-cream and cake. ฉันกินชอคโกแลต ไอศกรีม และเคก
ในประโยคนี้ถาไมมี ( , ) ก็จะฟงดูเหมือนวา ฉันกินไอศครีมที่ทํามาจากชอคโกแลต


 3. ใช ( , ) แยก clause ที่ยาวและขึ้นตนประโยค เชน
 After his long stay in Italy during the war, he returned.
     หลังจากพํานักอยูในอิตาลีเปนเวลานานในระหวางสงครามเขาก็กลับ
 As soon as I saw the tiger appear among the bushes, I took a good
  aim at it.
     ทันทีที่ผมเห็นเสือโผลออกมาจากพุมไม ผมก็เล็งปนไปอยางตั้งใจ
4. ใช comma หนาคําเชื่อม เหลานี้ เชน and, but, so, or, nor, either
   และ neither เชน
John is a lazy student, and he always comes late to class .
       จอหนเปนนักเรียนที่เกียจคราน และมักจะมาเรียนสายเสมอ
There is verey little rain here, so we often have crop failures.
       ที่นี่มีฝนตกนอยมากดังนั้นเราจึงประสบความลมเหลวในการเพาะปลูกเสมอ


5. ใชคั่นอนุประโยคกับประโยคหลัก โดยมีคําเชื่อม เชน when, since
     because, though และ although วางไวตนประโยค          เชน
  Because Jack was ill, he didn't come to school .
       เพราะ แจคปวย เขาจึงไมไดมาโรงเรียน
 Though he is poor, he is honest .
       ถึงแมวาเขาจะยากจน เขาก็เปนคนซื่อสัตย


6. ใช ( , ) เพื่อแยกคํา หรือ วลีที่ไมมีผลตอความหมายของประโยคออก
       จากสวนอื่นในประโยค
       Eric , my younger brother, speaks three languages.
        อีริค ,นองชายของฉัน, พูดได 3 ภาษา
       Paul , whom you met last night, is my uncle .
        พอล ,คนที่คุณพบเมื่อคืนนี้, เปนลุงของฉัน
* ขอความที่อยูระหวาง ( , ) ไมมีความจําเปนตอการอธิบายวาเปนคนไหน
  อาจจะถูกตัดออกก็ได ความหมายของประโยคก็ไมไดเปลี่ยนไป


7. ใช ( , ) เพื่อชวยแยกตัวเลขหลายหลัก ออกเปนกลุมละ 3 หลัก เชน
     20,000,000            286,501,765              1,342,486        19,187
     ยกเวน เลข ป ค.ศ. เชน    ป 1998        ป 1875


8. ใชแยกคําบอกเวลา ซึ่งขึ้นตนประโยค เชน
         In the evening, he usually plays football.
         Yesterday , I went to Chiangrai .
   เปรียบเทียบความแตกตาง          I went to Chiangrai yesterday .


9. ใช ( , ) แยกคําพูดออกจากประโยคนํา ในDirect Speech เชน
     Prapai said, " I will go to Bangkok tonight."
10. ใช ( , ) แยกชื่อคนจากประโยคในประโยคตางๆ เชน
     David, I told you to use the brown car.
     Grandma, can you hear me?
If you leave, Tom, turn out the light.


11. ใช ( , )ในการเขียนที่อยูและคําขึ้นตน และคําลงทายจดหมายแบบชาวอังกฤษ
      เชน
                Dear Sir,             Dear Mr. Wanchena,


12 . comma ( , ) ถูกใชหลัง introductory words เชน yes, no, oh, indeed,
        ah, well, please, etc. ตัวอยาง เชน
-   Yes, I know the comma is useful.
-   No, it does not seem useful.
-   By the way, I want to see your new car.
-   Pardon me, is that comma necessary.
-   Please, speak slowly.
-   Oh, I did not need one there.


                            Apostrophe ( ' )
เราใชเครื่องหมาย apostrophe ( ' ) ในกรณีดังตอไปนี้
1. เพื่อแสดงความเปนเจาของ โดยเราใส             ( ' s ) หลังชื่อผูเปนเจาของ เชน
                This is Don 's car.
                It is the boy's cat.
แตถาคํานามนั้นลงทายดวย s อยูแลว เราก็เติมแค ( ' ) ก็พอ เชน
       They are the boys ' cat.
2. เราใช ( ' ) เมื่อตองการละเวนตัวอักษรบางตัว ไมเขียนใหเต็มคํา เชน
       I am                            I' m
       She is                          She' s
       is not                          isn' t
       does not                        doesn' t
       will not                        won' t
       I would                         I' d
       of the clock                    o' clock
3. เติม ( ' s) หลังนามที่แสดงเวลา, ความกวาง, น้ําหนัก และจํานวนเงิน        เชน
                a week' s holiday             วันหยุดงานหนึ่งสัปดาห
                a boat' s length              ความยาวของเรือ
                two pounds' weight            น้ําหนัก 2 ปอนด
                a day' s pay                  คาจางเปนรายวัน
        4. เติม (' s ) เพื่อบอกรูปพหูพจนของตัวอักษร, จํานวนเลขและคํา เชน
                There are three a' s in the word "banana."
                มีอักษร a ถึง 3 ตัว ในคําวา banana
                How many 5 's are there in your telephone number?
                มีเลข 5 กี่ตัวในหมายเลขโทรศัพทของคุณ ?
                There are ten lion's in this paragraph.
                มีคําวา lion ถึง 10 คํา ในยอหนานี้ ( ไมไดแปลวามี lion 10 ตัว นะ)


                                      Colon     (:)
                เครื่องหมาย colon ( : ) มีวิธีใชดังนี้
        1. ใช colon ( : ) นําหนารายการสิ่งของตางๆ และมักจะอยูหลังคํา
       as follow, the following, these ซึ่งมันจะอธิบายหรือขยายขอความที่อยูขางหนา
เชน
            - The following words are adverbs: well, fast, slowly and quickly.
        คําตอไปนี้เปน adverb ไดแก well, fast, slowly and quickly .
        -   The things he needs are as follow: bread and butter, coffee and
            cake , pizza and coke .
             สิ่งที่เขาตองการมี ดังนี้ คือ ขนมปงกับเนย กาแฟกับขนมเคก พิซซากับโคก
        -   The things I will take are these: food and water, fruits and sweet .

        -   สิ่งที่ผมจะนําไปดวยก็คอ อาหารกับน้ํา, ผลไมกับขนมหวาน
                                   ื

         นอกจากคําที่ กลาวมาแลว ยังมีคําที่ใชนําหนา ( : ) เพิ่มเติมอีกเชน
                  for example              in other words              to sum up


        2. ใช colon ( : ) หลังคําขึ้นตนในจดหมายธุรกิจ แบบอเมริกัน
                Gentlemen:
                Dear Sir:
                Dear Madam:
3. ใช colon ( : ) แยกชั่วโมงกับนาที ในการบอกเวลา แบบอเมริกัน
                 6 : 45 p.m.
                 8 : 30 a.m.
       4. ใช colon ( : ) ขางหนาเครื่องหมายคําพูด (หลัง he said ) เมื่อประโยคใน
           เครื่องหมายคําพูด มีหลายประโยค หรือ ยาวมาก
        * * ใหสังเกตวิธีใชใหดี * *
                      He said, "I will go there."
                He said : "I can't make any decision now. Can you come again
                 tomorrow ? I think we'd better look it over again."
            ผมยังตัดสินใจอะไรไมไดในตอนนี้ คุณกลับมาอีกครั้งในวันพรุงนี้ไดไหม
            ผมคิดวาเราควรจะพิจารณาใหดีอีกรอบหนึ่ง


                               การใช   Semi - colon ( ; )
     1. เราใช semi- colon ( ; ) แทน full stop ( . ) เพราะชวยเชื่อมประโยค 2
ประโยคเขาดวยกัน ใหเปนประโยคเดียว (ในกรณีที่ขอความทั้ง 2 ประโยคนั้นเกี่ยวพันกัน )
         เชน
                 Prices roses ; wages fell . ราคาสินคาแพงขึ้น คาจางถูกลง
                 ( = Prices roses . Wages fell . )
       2. ใชแทน comma ( , ) เมื่อผูเขียนตองการแยกของแตละอยางออกจากกัน
        ในกรณีที่ของแตละสิ่งนั้นมี comma อยูกอนแลว เชน
       Our new committee is composed of John Smith, President; David Brown,
         Vice-President; Mark A. Frederick, Secretary; …
       คณะกรรมการชุดใหมของเราประกอบไปดวย จอหน สมิธ ประธาน, เดวิด บราวน
           รองประธาน, มารค เฟรดเดอริค เลขานุการ …
       หรือใชกับตัวเลข เชน
                 The totals are 10,600 ; 2,000 ; 36,182 and 214,688


       3. ใช semi-colon ( ; ) ขางหนา คําสันธาน เหลานี้
                 however, therefore, moreover, besides, otherwise
                 consequently, accordingly, furthermore, nevertheless
            ตัวอยาง เชน
                She won't give up ; however, the problem is difficult .
                    หลอนไมยอมแพถึงแมวาปญหาจะยากสักเพียงใด
The singer was very ill ; therefore, the concert was cancelled.
           นักรองไมสบายมาก ดังนั้น การแสดงดนตรีจึงตองงด


4. ใช semi - colon ( ; ) แยกประโยค independent clause แทนคําเชื่อม
    and, but, for, yet, or และ nor ตัวอยาง เชน
   She walked across the street, and he followed her.
= She walked across the street; he followed her.
    The car has been washed, but it soon becomes dirty.
= The car has been washed; it soon becomes dirty.


                                Hyphen ( - )
เปนเครื่องหมายที่ใชเชื่อมคํามากกวา 2 คําขึ้นไป เพื่อทําใหกลายเปนคํา หรือ
 สํานวนเดียวกัน      มีวิธีใช ดังนี้
1. ใชเชื่อมคํา 2 คํา ใหเปนคําเดียวกัน ใน compound word(คําผสม)
       room - mate                เพื่อนรวมหอง
       son - in - law             ลูกเขย
       racing - horse             มาแขง


2. ใชแยกพยางคของคําที่เขียนไมพอบรรทัด เชน
       I think parents should teach their chil-
      dren not to throw paper in the street.


3. ใชเชื่อมคําผสมที่เกิดจากการเติม prefix ( ปจจัย ) บางตัวเขาขางหนาคํา เชน
       control                  self - control     ควบคุมตัวเอง
       education                co - education สหศึกษา


                       เครื่องหมาย          Dash ( -- )

เครื่องหมาย      dash ( -- ) ขีดยาวเปน 2 เทาของ hyphen มีวิธีใช ดังนี้
1. ใช เนนขอความที่แทรกเขามา เปนเชิงอธิบายเพิ่มเติม หรือ ชี้นําให
         I have something to tell you -- not to marry this man.
          ฉันมีอะไรจะบอกคุณ -- อยาแตงงานกับผูชายคนนี้เลย
2. ใช dash( -- )หนาขอความในทํานองที่บอกเปนขอ ๆ หรือเปนรายการ
       เพื่อใหความหมายเพิ่มเติม     เชน
 Wherever we live, we have to try to avoid these factors; namely --
                     1. the bad weather
                     2. the rise in price
                     3. a shortage of labour
        ไมวาเราจะอยูที่ไหนก็ตาม เราจะพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งเหลานี้ คือ
                     1. ดินฟา อากาศ ที่ไมดี
                     2. การขึ้นราคาสินคา
                    3. การขาดแคลนแรงงาน

More Related Content

What's hot

ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011Namthip Theangtrong
 
สรุปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่9
สรุปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่9สรุปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่9
สรุปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่9พัน พัน
 
วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน.pdf
วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน.pdfวัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน.pdf
วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน.pdf
Miichan Ch
 
บท4วิวัฒนาการ
บท4วิวัฒนาการบท4วิวัฒนาการ
บท4วิวัฒนาการ
Wichai Likitponrak
 
สถิติ คณิตศาสตร์
สถิติ คณิตศาสตร์สถิติ คณิตศาสตร์
สถิติ คณิตศาสตร์
Pla FC
 
วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการsupreechafkk
 
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดียปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
Padvee Academy
 
การเขียนรายงานวิชาการ
การเขียนรายงานวิชาการการเขียนรายงานวิชาการ
การเขียนรายงานวิชาการ
Surapong Klamboot
 
หน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระ
หน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระหน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระ
หน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระ
Krujanppm2017
 
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
บทที่  16  ยีนและโครโมโซมบทที่  16  ยีนและโครโมโซม
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
Pinutchaya Nakchumroon
 
1 เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
1 เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น1 เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
1 เศรษฐศาสตร์เบื้องต้นKunlaya Kamwut
 
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์
K.s. Mam
 
ชุดกิจกรรมยีนและโครโมโซม ชุด 7 มิวเทชัน
ชุดกิจกรรมยีนและโครโมโซม ชุด 7  มิวเทชันชุดกิจกรรมยีนและโครโมโซม ชุด 7  มิวเทชัน
ชุดกิจกรรมยีนและโครโมโซม ชุด 7 มิวเทชัน
kruoyl ppk
 
ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรปที่มีต่อทวีปแอฟริกา
ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรปที่มีต่อทวีปแอฟริกาผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรปที่มีต่อทวีปแอฟริกา
ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรปที่มีต่อทวีปแอฟริกา
friend209
 
หน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานไฟฟ้า
หน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานไฟฟ้าหน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานไฟฟ้า
หน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานไฟฟ้า
Abhichat Anukulwech
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
 
001 คำนำชุดฝึกทักษะ
001 คำนำชุดฝึกทักษะ001 คำนำชุดฝึกทักษะ
001 คำนำชุดฝึกทักษะPiyarerk Bunkoson
 
สรุปเนื้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
สรุปเนื้อหาภาษาไทย..ม.ต้นสรุปเนื้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
สรุปเนื้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
Took Took Rachataporn
 

What's hot (20)

ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
 
สรุปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่9
สรุปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่9สรุปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่9
สรุปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่9
 
วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน.pdf
วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน.pdfวัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน.pdf
วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน.pdf
 
บท4วิวัฒนาการ
บท4วิวัฒนาการบท4วิวัฒนาการ
บท4วิวัฒนาการ
 
สถิติ คณิตศาสตร์
สถิติ คณิตศาสตร์สถิติ คณิตศาสตร์
สถิติ คณิตศาสตร์
 
วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการ
 
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดียปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
ปรัชญาทั่วไป ตอน ปรัชญาอินเดีย
 
การเขียนรายงานวิชาการ
การเขียนรายงานวิชาการการเขียนรายงานวิชาการ
การเขียนรายงานวิชาการ
 
หน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระ
หน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระหน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระ
หน่วยการเรียนรู้บูรณาการระหว่างกลุ่มสาระ
 
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
บทที่  16  ยีนและโครโมโซมบทที่  16  ยีนและโครโมโซม
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
 
ความเร่ง (Acceleration)
ความเร่ง (Acceleration)ความเร่ง (Acceleration)
ความเร่ง (Acceleration)
 
1 เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
1 เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น1 เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
1 เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
 
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์
 
ของไหล ม.5
ของไหล ม.5ของไหล ม.5
ของไหล ม.5
 
ชุดกิจกรรมยีนและโครโมโซม ชุด 7 มิวเทชัน
ชุดกิจกรรมยีนและโครโมโซม ชุด 7  มิวเทชันชุดกิจกรรมยีนและโครโมโซม ชุด 7  มิวเทชัน
ชุดกิจกรรมยีนและโครโมโซม ชุด 7 มิวเทชัน
 
ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรปที่มีต่อทวีปแอฟริกา
ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรปที่มีต่อทวีปแอฟริกาผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรปที่มีต่อทวีปแอฟริกา
ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรปที่มีต่อทวีปแอฟริกา
 
หน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานไฟฟ้า
หน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานไฟฟ้าหน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานไฟฟ้า
หน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานไฟฟ้า
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
 
001 คำนำชุดฝึกทักษะ
001 คำนำชุดฝึกทักษะ001 คำนำชุดฝึกทักษะ
001 คำนำชุดฝึกทักษะ
 
สรุปเนื้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
สรุปเนื้อหาภาษาไทย..ม.ต้นสรุปเนื้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
สรุปเนื้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
 

Viewers also liked

Context Clues
Context CluesContext Clues
Context Clues
Gayla Keesee
 
Context Clues
Context CluesContext Clues
Context Clues
russell.jean
 
Building Vocabulary Using Context Clues
Building Vocabulary Using Context CluesBuilding Vocabulary Using Context Clues
Building Vocabulary Using Context Cluesawelsheimer
 

Viewers also liked (10)

Active
ActiveActive
Active
 
Context clues
Context cluesContext clues
Context clues
 
Context clues
Context cluesContext clues
Context clues
 
Context Clues(New)
Context Clues(New)Context Clues(New)
Context Clues(New)
 
Context Clues
Context CluesContext Clues
Context Clues
 
Context Clues
Context CluesContext Clues
Context Clues
 
Context Clues
Context CluesContext Clues
Context Clues
 
Context Clues
Context CluesContext Clues
Context Clues
 
Context clues
Context cluesContext clues
Context clues
 
Building Vocabulary Using Context Clues
Building Vocabulary Using Context CluesBuilding Vocabulary Using Context Clues
Building Vocabulary Using Context Clues
 

Similar to วรรคตอน2

Reference words
Reference wordsReference words
Reference words
krunatppk
 
สรุปสังคม O-net
สรุปสังคม O-netสรุปสังคม O-net
สรุปสังคม O-netWarissa'nan Wrs
 
สรุปภาษาไทย
สรุปภาษาไทยสรุปภาษาไทย
สรุปภาษาไทย
wisita42
 
Toeic question response ห้าข้อ
Toeic question response ห้าข้อToeic question response ห้าข้อ
Toeic question response ห้าข้อ
Aj Muu
 
Parts of speech
Parts of speechParts of speech
Parts of speechkrupeatie
 
คำนาม คือ อะไร
คำนาม คือ อะไรคำนาม คือ อะไร
คำนาม คือ อะไรohm25251101
 

Similar to วรรคตอน2 (20)

วรรคตอน1
วรรคตอน1วรรคตอน1
วรรคตอน1
 
วรรคตอน1
วรรคตอน1วรรคตอน1
วรรคตอน1
 
Reference words
Reference wordsReference words
Reference words
 
Thai
ThaiThai
Thai
 
สรุปสังคม O-net
สรุปสังคม O-netสรุปสังคม O-net
สรุปสังคม O-net
 
สรุปภาษาไทย
สรุปภาษาไทยสรุปภาษาไทย
สรุปภาษาไทย
 
Toeic question response ห้าข้อ
Toeic question response ห้าข้อToeic question response ห้าข้อ
Toeic question response ห้าข้อ
 
Grammar
GrammarGrammar
Grammar
 
Unit 1
Unit 1Unit 1
Unit 1
 
Parts of speech
Parts of speechParts of speech
Parts of speech
 
คำซ้อน 1
คำซ้อน 1คำซ้อน 1
คำซ้อน 1
 
คำซ้อน 1
คำซ้อน 1คำซ้อน 1
คำซ้อน 1
 
Noun
NounNoun
Noun
 
Noun
NounNoun
Noun
 
Unit 1 nouns & articles
Unit 1   nouns & articlesUnit 1   nouns & articles
Unit 1 nouns & articles
 
คำนาม คือ อะไร
คำนาม คือ อะไรคำนาม คือ อะไร
คำนาม คือ อะไร
 
เก็บคะแนน คำนาม
เก็บคะแนน คำนามเก็บคะแนน คำนาม
เก็บคะแนน คำนาม
 
1276933222 morpheme
1276933222 morpheme1276933222 morpheme
1276933222 morpheme
 
47 61
47 6147 61
47 61
 
Nouns[1]
Nouns[1]Nouns[1]
Nouns[1]
 

วรรคตอน2

  • 1. Internal Punctuation เครื่องหมายวรรคตอนภายใน เครื่องหมายวรรคตอนที่ใชภายในประโยค ไดแก เครื่องหมาย , comma เครื่องหมาย ' apostrophe เครื่องหมาย : colon เครื่องหมาย ; semi - colon เครื่องหมาย - hyphen เครื่องหมาย dash ต า ม ม า ดู ซิ นาสนใจนะ เครื่องหมาย comma ( , ) หรือ จุลภาค เปนเครื่องหมายวรรคตอนที่ใชแสดงการหยุดเปนชวงสั้นๆ ในประโยค เราใช comma ( , ) ในรายการตอไปนี้ 1. ใชแยกสิ่งของแตละรายการออกจากกัน เชน Joan bought some apples, mangoes, oranges and papaya. 2. เพื่อบงวา มีการหยุดเปนชวงสั้นในประโยค เชน I ate chocolate, ice-cream and cake. ฉันกินชอคโกแลต ไอศกรีม และเคก ในประโยคนี้ถาไมมี ( , ) ก็จะฟงดูเหมือนวา ฉันกินไอศครีมที่ทํามาจากชอคโกแลต 3. ใช ( , ) แยก clause ที่ยาวและขึ้นตนประโยค เชน After his long stay in Italy during the war, he returned. หลังจากพํานักอยูในอิตาลีเปนเวลานานในระหวางสงครามเขาก็กลับ As soon as I saw the tiger appear among the bushes, I took a good aim at it. ทันทีที่ผมเห็นเสือโผลออกมาจากพุมไม ผมก็เล็งปนไปอยางตั้งใจ
  • 2. 4. ใช comma หนาคําเชื่อม เหลานี้ เชน and, but, so, or, nor, either และ neither เชน John is a lazy student, and he always comes late to class . จอหนเปนนักเรียนที่เกียจคราน และมักจะมาเรียนสายเสมอ There is verey little rain here, so we often have crop failures. ที่นี่มีฝนตกนอยมากดังนั้นเราจึงประสบความลมเหลวในการเพาะปลูกเสมอ 5. ใชคั่นอนุประโยคกับประโยคหลัก โดยมีคําเชื่อม เชน when, since because, though และ although วางไวตนประโยค เชน Because Jack was ill, he didn't come to school . เพราะ แจคปวย เขาจึงไมไดมาโรงเรียน Though he is poor, he is honest . ถึงแมวาเขาจะยากจน เขาก็เปนคนซื่อสัตย 6. ใช ( , ) เพื่อแยกคํา หรือ วลีที่ไมมีผลตอความหมายของประโยคออก จากสวนอื่นในประโยค Eric , my younger brother, speaks three languages. อีริค ,นองชายของฉัน, พูดได 3 ภาษา Paul , whom you met last night, is my uncle . พอล ,คนที่คุณพบเมื่อคืนนี้, เปนลุงของฉัน * ขอความที่อยูระหวาง ( , ) ไมมีความจําเปนตอการอธิบายวาเปนคนไหน อาจจะถูกตัดออกก็ได ความหมายของประโยคก็ไมไดเปลี่ยนไป 7. ใช ( , ) เพื่อชวยแยกตัวเลขหลายหลัก ออกเปนกลุมละ 3 หลัก เชน 20,000,000 286,501,765 1,342,486 19,187 ยกเวน เลข ป ค.ศ. เชน ป 1998 ป 1875 8. ใชแยกคําบอกเวลา ซึ่งขึ้นตนประโยค เชน In the evening, he usually plays football. Yesterday , I went to Chiangrai . เปรียบเทียบความแตกตาง I went to Chiangrai yesterday . 9. ใช ( , ) แยกคําพูดออกจากประโยคนํา ในDirect Speech เชน Prapai said, " I will go to Bangkok tonight."
  • 3. 10. ใช ( , ) แยกชื่อคนจากประโยคในประโยคตางๆ เชน David, I told you to use the brown car. Grandma, can you hear me? If you leave, Tom, turn out the light. 11. ใช ( , )ในการเขียนที่อยูและคําขึ้นตน และคําลงทายจดหมายแบบชาวอังกฤษ เชน Dear Sir, Dear Mr. Wanchena, 12 . comma ( , ) ถูกใชหลัง introductory words เชน yes, no, oh, indeed, ah, well, please, etc. ตัวอยาง เชน - Yes, I know the comma is useful. - No, it does not seem useful. - By the way, I want to see your new car. - Pardon me, is that comma necessary. - Please, speak slowly. - Oh, I did not need one there. Apostrophe ( ' ) เราใชเครื่องหมาย apostrophe ( ' ) ในกรณีดังตอไปนี้ 1. เพื่อแสดงความเปนเจาของ โดยเราใส ( ' s ) หลังชื่อผูเปนเจาของ เชน This is Don 's car. It is the boy's cat. แตถาคํานามนั้นลงทายดวย s อยูแลว เราก็เติมแค ( ' ) ก็พอ เชน They are the boys ' cat. 2. เราใช ( ' ) เมื่อตองการละเวนตัวอักษรบางตัว ไมเขียนใหเต็มคํา เชน I am I' m She is She' s is not isn' t does not doesn' t will not won' t I would I' d of the clock o' clock
  • 4. 3. เติม ( ' s) หลังนามที่แสดงเวลา, ความกวาง, น้ําหนัก และจํานวนเงิน เชน a week' s holiday วันหยุดงานหนึ่งสัปดาห a boat' s length ความยาวของเรือ two pounds' weight น้ําหนัก 2 ปอนด a day' s pay คาจางเปนรายวัน 4. เติม (' s ) เพื่อบอกรูปพหูพจนของตัวอักษร, จํานวนเลขและคํา เชน There are three a' s in the word "banana." มีอักษร a ถึง 3 ตัว ในคําวา banana How many 5 's are there in your telephone number? มีเลข 5 กี่ตัวในหมายเลขโทรศัพทของคุณ ? There are ten lion's in this paragraph. มีคําวา lion ถึง 10 คํา ในยอหนานี้ ( ไมไดแปลวามี lion 10 ตัว นะ) Colon (:) เครื่องหมาย colon ( : ) มีวิธีใชดังนี้ 1. ใช colon ( : ) นําหนารายการสิ่งของตางๆ และมักจะอยูหลังคํา as follow, the following, these ซึ่งมันจะอธิบายหรือขยายขอความที่อยูขางหนา เชน - The following words are adverbs: well, fast, slowly and quickly. คําตอไปนี้เปน adverb ไดแก well, fast, slowly and quickly . - The things he needs are as follow: bread and butter, coffee and cake , pizza and coke . สิ่งที่เขาตองการมี ดังนี้ คือ ขนมปงกับเนย กาแฟกับขนมเคก พิซซากับโคก - The things I will take are these: food and water, fruits and sweet . - สิ่งที่ผมจะนําไปดวยก็คอ อาหารกับน้ํา, ผลไมกับขนมหวาน ื นอกจากคําที่ กลาวมาแลว ยังมีคําที่ใชนําหนา ( : ) เพิ่มเติมอีกเชน for example in other words to sum up 2. ใช colon ( : ) หลังคําขึ้นตนในจดหมายธุรกิจ แบบอเมริกัน Gentlemen: Dear Sir: Dear Madam:
  • 5. 3. ใช colon ( : ) แยกชั่วโมงกับนาที ในการบอกเวลา แบบอเมริกัน 6 : 45 p.m. 8 : 30 a.m. 4. ใช colon ( : ) ขางหนาเครื่องหมายคําพูด (หลัง he said ) เมื่อประโยคใน เครื่องหมายคําพูด มีหลายประโยค หรือ ยาวมาก * * ใหสังเกตวิธีใชใหดี * * He said, "I will go there." He said : "I can't make any decision now. Can you come again tomorrow ? I think we'd better look it over again." ผมยังตัดสินใจอะไรไมไดในตอนนี้ คุณกลับมาอีกครั้งในวันพรุงนี้ไดไหม ผมคิดวาเราควรจะพิจารณาใหดีอีกรอบหนึ่ง การใช Semi - colon ( ; ) 1. เราใช semi- colon ( ; ) แทน full stop ( . ) เพราะชวยเชื่อมประโยค 2 ประโยคเขาดวยกัน ใหเปนประโยคเดียว (ในกรณีที่ขอความทั้ง 2 ประโยคนั้นเกี่ยวพันกัน ) เชน Prices roses ; wages fell . ราคาสินคาแพงขึ้น คาจางถูกลง ( = Prices roses . Wages fell . ) 2. ใชแทน comma ( , ) เมื่อผูเขียนตองการแยกของแตละอยางออกจากกัน ในกรณีที่ของแตละสิ่งนั้นมี comma อยูกอนแลว เชน Our new committee is composed of John Smith, President; David Brown, Vice-President; Mark A. Frederick, Secretary; … คณะกรรมการชุดใหมของเราประกอบไปดวย จอหน สมิธ ประธาน, เดวิด บราวน รองประธาน, มารค เฟรดเดอริค เลขานุการ … หรือใชกับตัวเลข เชน The totals are 10,600 ; 2,000 ; 36,182 and 214,688 3. ใช semi-colon ( ; ) ขางหนา คําสันธาน เหลานี้ however, therefore, moreover, besides, otherwise consequently, accordingly, furthermore, nevertheless ตัวอยาง เชน She won't give up ; however, the problem is difficult . หลอนไมยอมแพถึงแมวาปญหาจะยากสักเพียงใด
  • 6. The singer was very ill ; therefore, the concert was cancelled. นักรองไมสบายมาก ดังนั้น การแสดงดนตรีจึงตองงด 4. ใช semi - colon ( ; ) แยกประโยค independent clause แทนคําเชื่อม and, but, for, yet, or และ nor ตัวอยาง เชน She walked across the street, and he followed her. = She walked across the street; he followed her. The car has been washed, but it soon becomes dirty. = The car has been washed; it soon becomes dirty. Hyphen ( - ) เปนเครื่องหมายที่ใชเชื่อมคํามากกวา 2 คําขึ้นไป เพื่อทําใหกลายเปนคํา หรือ สํานวนเดียวกัน มีวิธีใช ดังนี้ 1. ใชเชื่อมคํา 2 คํา ใหเปนคําเดียวกัน ใน compound word(คําผสม) room - mate เพื่อนรวมหอง son - in - law ลูกเขย racing - horse มาแขง 2. ใชแยกพยางคของคําที่เขียนไมพอบรรทัด เชน I think parents should teach their chil- dren not to throw paper in the street. 3. ใชเชื่อมคําผสมที่เกิดจากการเติม prefix ( ปจจัย ) บางตัวเขาขางหนาคํา เชน control self - control ควบคุมตัวเอง education co - education สหศึกษา เครื่องหมาย Dash ( -- ) เครื่องหมาย dash ( -- ) ขีดยาวเปน 2 เทาของ hyphen มีวิธีใช ดังนี้ 1. ใช เนนขอความที่แทรกเขามา เปนเชิงอธิบายเพิ่มเติม หรือ ชี้นําให I have something to tell you -- not to marry this man. ฉันมีอะไรจะบอกคุณ -- อยาแตงงานกับผูชายคนนี้เลย
  • 7. 2. ใช dash( -- )หนาขอความในทํานองที่บอกเปนขอ ๆ หรือเปนรายการ เพื่อใหความหมายเพิ่มเติม เชน Wherever we live, we have to try to avoid these factors; namely -- 1. the bad weather 2. the rise in price 3. a shortage of labour ไมวาเราจะอยูที่ไหนก็ตาม เราจะพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งเหลานี้ คือ 1. ดินฟา อากาศ ที่ไมดี 2. การขึ้นราคาสินคา 3. การขาดแคลนแรงงาน