education

1. ๑
ส่วนที่ ๑
บทนำ : ข้อมูลพื้นฐำนคณะครุศำสตร์
๑.๑ ประวัติควำมเป็นมำ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ก่อตั้งคณะครุศาสตร์ขึ้นในปีการศึกษา ๒๕๐๔
เป็นคณะที่ ๒ ต่อจากคณะพุทธศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมพระภิกษุสามเณรซึ่งมีความรู้
ในวิชาฝ่ายพระศาสนาดีอยู่แล้ว ให้รู้วิชาการสอน มีความสามารถในการถ่ายทอดวิชาและอบรมสั่ง
สอนประชาชนเป็นส่วนช่วยให้พระสงฆ์ปฏิบัติหน้าที่ในด้านการเผยแผ่ได้ผลดียิ่งขึ้น และสามารถจัด
ดาเนินบริหารการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มเปิดการศึกษาตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม
๒๕๐๔ เป็นต้นมา
ในระยะแรก คณะครุศาสตร์ได้เปิดการศึกษาโดยแบ่งออกเป็น ๔ ภาควิชา คือ
๑. ภาควิชาการศึกษา
๒. ภาควิชาจิตวิทยา
๓. ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์
๔. ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๒๖ ได้ปรับปรุงส่วนงานภายในคณะ โดยแบ่งออกเป็น ๓ ภาควิชา คือ
๑. ภาควิชาการบริหารการศึกษา
๒. ภาควิชาหลักสูตรและวิธีการสอนสังคมศึกษา
๓. ภาควิชาการศึกษานอกโรงเรียน
พ.ศ.๒๕๓๕ คณะครุศาสตร์ ได้ขยายห้องเรียนจากอาคารมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัด
มหาธาตุ มาที่โรงเรียนพระปริยัติธรรม สธ. วัดศรีสุดาราม แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย
กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๓๕ โดยความอนุเคราะห์ของพระวชิรราชมานิต และใน
เดือนกันยายนปีนั้นเอง ท่านก็ได้ดาริให้มีการดาเนินการก่อสร้างอาคารเรียนที่วัดศรีสุดารามขึ้น เป็น
อาคารคอนกรีต ๓ หลังๆ ละ ๔ ชั้น และได้เปิดให้นิสิตเข้าศึกษาได้ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๖ ซึ่ง
เป็นสถานที่ศึกษาของนิสิตคณะครุศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ และคณะสังคมศาสตร์ ทุกชั้นปี และ
คณะพุทธศาสตร์ ชั้นปีที่ ๑
ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๓๘ ได้ปรับปรุงหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต โดยแบ่งออกเป็นภาควิชา
และ ๙ สาขาวิชา คือ
๑. ภาควิชาบริหารการศึกษา มี ๑ สาขาวิชา คือ
๑.๑ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
๒. ภาควิชาหลักสูตรและการสอน มี ๔ สาขาวิชา คือ
๒.๑ สาขาวิชาสังคมศึกษา
๒.๒ สาขาวิชาจริยศึกษา
๒.๓ สาขาวิชาจิตวิทยาการปรึกษาและการแนะแนว
๒.๔ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย
๒.๕ สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ

2. ๒
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๒.๖ สาขาวิชาการสอนพระปริยัติธรรม
๒.๗ สาขาวิชาคณิตศาสตร์+วิทยาศาสตร์
๓. ภาควิชาการศึกษานอกโรงเรียน
๓.๑ สาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน
ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๔๑ คณะครุศาสตร์ ได้ปรับปรุงส่วนงานตามข้อกาหนดการแบ่งส่วนงาน
ตาม พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ และได้ปรับปรุง
หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิตตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๒ – ๒๕๔๖
ตามประกาศทบวงมหาวิทยาลัย จึงแบ่งการจัดการศึกษาออกเป็น ๓ ภาควิชา คือ
๑. ภาควิชาปริยัติธรรมและจริยศึกษา ประกอบด้วย ๓ สาขาวิชา
๑.๑ สาขาวิชาจริยศึกษา
๑.๒ สาขาวิชาจิตวิทยาการปรึกษาและการแนะแนว
๑.๓ สาขาวิชาการสอนพระพุทธศาสนา
๒. ภาควิชาบริหารการศึกษาและกิจการคณะสงฆ์ ประกอบด้วย ๒ สาขาวิชา
๒.๑ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
๒.๒ สาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน
๓. ภาควิชาหลักสูตรและการสอน ประกอบด้วย ๔ สาขาวิชา
๓.๑ สาขาวิชาสังคมศึกษา
๓.๒ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย
๓.๓ สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ
๓.๔ สาขาวิชาคณิตศาสตร์
ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะครุศาสตร์ ได้ย้ายสานักงานคณะครุศาสตร์จากอาคาร
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ไปอยู่ที่โรงเรียนพระปริยัติ
ธรรม สธ วัดศรีสุดาราม แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้ปรับปรุงหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิตให้เป็นไปตามประกาศ
สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) พ.ศ.๒๕๔๘ ซึ่งเป็นหลักสูตร ๕ ปี มีการจัด
การศึกษาแบ่งออกเป็น ๓ ภาค วิชา คือ ภาควิชาปริยัติธรรมและจริยะศึกษา ภาควิชาบริหาร
การศึกษาและกิจการคณะสงฆ์ และภาควิชาหลักสูตรและการสอน โดยจัดการศึกษาเป็น ๒ ระดับ
คือ ระดับปริญญาตรี ๙ สาขาวิชา ระดับบัณฑิตศึกษา ๓ สาขาวิชา ดังนี้
๑. ภาควิชาปริยัติธรรมและจริยศึกษาประกอบด้วย ๓ สาขาวิชา คือ
๑.๑ สาขาวิชาจริยศึกษา
๑.๒ สาขาวิชาจิตวิทยาการให้คาปรึกษาและการแนะแนว
๑.๓ สาขาวิชาการสอนพระพุทธศาสนา
๒. ภาควิชาบริหารการศึกษาและกิจการคณะสงฆ์
๒.๑ ระดับปริญญาตรี ๒ สาขาวิชา
๑) สาขาวิชาการบริหารการศึกษา

3. ๓
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๒) สาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน
๒.๒ ระดับบัณฑิตศึกษา ๒ สาขา คือ
๑) ระดับปริญญาโท ๑ สาขาวิชา คือ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
๒) ระดับปริญญาเอก ๑ สาขาวิชา คือ สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา
๓. ภาคหลักสูตรและการสอน
๓.๑ ระดับปริญญาตรี ๔ สาขาวิชา
๑) สาขาวิชาสังคมศึกษา
๒) สาขาวิชาการสอนภาษาไทย
๓) สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ
๔) สาขาวิชาคณิตศาสตร์
๓.๒ ระดับบัณฑิตศึกษา
๑) หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต วิชาชีพครู
ต่อมาพ.ศ.๒๕๕๒ คณะครุศาสตร์ได้ย้ายสานักงานคณะครุศาสตร์ จาก วัดศรีสุดาราม
แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ไปอยู่ที่ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหา
จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เลขที่ ๗๙ หมู่ ๑ ถนนพหลโยธิน (กม.๕๕) ตาบลลาไทร อาเภอวังน้อย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๑๓๑๗๐
๑.๒ ปรัชญำ
“ศึกษาดี มีคุณธรรม นาความรู้สู่สังคม”
๑.๓ ปณิธำน
มีปณิธานที่ชัดเจนที่จะพัฒนาคุณลักษณะบัณฑิตให้มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส ใฝ่รู้ใฝ่คิด เป็นผู้นา
ด้านจิตใจและปัญญา มีศรัทธาอุทิศตน เพื่อพระพุทธศาสนา
๑.๔ วิสัยทัศน์
ศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาระดับนานาชาติ
สร้างคนดีและคนเก่งอย่างมีสมรรถภาพ
จัดการศึกษาและวิจัยดีอย่างมีคุณภาพ
บริหารดีอย่างมีประสิทธิภาพ
๑.๕ เป้ำประสงค์
คณะครุศาสตร์ มีบทบาทสาคัญในการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับปรัชญาของมหาวิทยาลัย
ปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ จึงกาหนดเป้าประสงค์ไว้ ดังนี้
๑. มุ่งจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างและพัฒนาครูและบุคลากรด้านการศึกษา
๒. แสวงหาความร่วมมือ และพัฒนาองค์ความรู้ในศาสตร์ด้านการศึกษา

4. ๔
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๑.๖ จุดมุ่งหมำย
๑) บัณฑิตที่มีความรู้จริงและรอบรู้ ในศาสตร์ด้านหลักสูตรและการสอนตามแนว
พระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์การสอนอื่นๆ
๒) เป็นแหล่งการเรียนรู้และความเป็นเลิศเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาด้านหลักสูตรและการ
สอนทางพระพุทธศาสนาที่บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่
๓) สร้างความเข้มแข็งและเป็นผู้นาทางวิชาชีพครูตามวิถีพุทธ อย่างยั่งยืน
๔) ปลูกฝังบัณฑิตอันพึงประสงค์ให้มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส ใฝ่รู้ใฝ่คิดใฝ่สร้างสรรค์ เป็นผู้นา
จิตใจมีความสามารถในการแก้ปัญหา รู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม มีโลกทัศน์ที่กว้างไกล มี
ศักยภาพในการพัฒนาตนเองให้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม มีศรัทธาอุทิศตนเพื่อ
พระพุทธศาสนาและมีความเสียสละเพื่อส่วนรวม
๕) ตระหนักคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม และประเพณี ฟื้นฟู สืบสาน ส่งเสริม และธารงรักษา
เอกลักษณ์ และภูมิปัญญาไทย
๑.๗ วัตถุประสงค์
๑) เพื่อให้การศึกษาแก่พระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไปหรือบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ทางการ
ศึกษาหรือมีคุณวุฒิการศึกษาเพื่อเพิ่มพูนวิทยฐานะและความรู้ความสามารถในวิชาการอันจะนาไปสู่
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาและพัฒนาสังคมในวิชาชีพครูอันมีคุณธรรมจริยธรรมที่ถูกต้อง
๒) เพื่อผลิตบุคลากรทางการศึกษาให้มีปฏิปทาน่าเลื่อมใสใฝ่รู้ใฝ่คิดเป็นผู้นาด้านจิตใจและ
ปัญญาและให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
๓) เพื่อให้บริการทางวิชาการด้วยการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการแก่วัดชุมชน
และสังคม
๔) เพื่อนาเอาวิทยาการและเทคโนโลยีใหม่ๆมาประยุกต์ใช้ในวิชาชีพครูทั้งด้านการบริหาร
การบริการและงานวิจัยอีกทางหนึ่ง
๑.๘ พันธกิจ
๑) ผลิตบัณฑิตที่มีความสามารถเรียนรู้และปรับตัวได้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยและ
สังคมโลก
๒) มุ่งแสวงหาองค์ความรู้ใหม่และนวัตกรรมในศาสตร์ด้านการศึกษา และส่งเสริม อนุรักษ์
ภูมิปัญญาและศิลปวัฒนธรรม
๑.๙ เอกลักษณ์ของมหำวิทยำลัย
“บริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนา”
๑.๑๐ อัตลักษณ์มหำวิทยำลัย
“ประยุกต์พระพุทธศาสนาเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม”
๑.๑๑ อัตลักษณ์บัณฑิต
“มีศรัทธาอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา”

5. ๕
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ส่วนที่ ๒
กำรฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพในสถำนศึกษำ
๒.๑ โครงสร้างการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ (ฝึกสอน) ตลอดหลักสูตร
๒.๒ กระบวนการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ (ฝึกสอน)
๒.๓ เกณฑ์การคัดเลือกโรงเรียนเพื่อเป็นแหล่งฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๒.๔ หน่วยงานผู้รับผิดชอบ
๒.๕ ความสาคัญของการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๒.๖ วัตถุประสงค์ของการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๒.๗ มาตรฐานประสบการณ์ของครู
๒.๘ แนวทางการฝึกปฏิบัติตนในหน้าที่ครู
๒.๙ แนวทางการปฏิบัติตนสาหรับนิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๒.๑๐ บทบาทและหน้าที่ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๒.๑๑ ระบบการนิเทศและประเมินผล
๒.๑ โครงสร้ำงกำรฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ ตลอดหลักสูตร
ขั้นกำรฝึก
ประสบกำรณ์
ปีที่ บทบำทของ
นิสิต
กิจกรรมที่ใช้ฝึก/
เวลำ
เวลำที่ใช้ในกำร
ปฏิบัติกำร
ผู้ประเมิน
กำรร่วมกิจกรรม
ขั้นตอนที่ ๑ :
การเตรียมตัว
ระหว่างเรียนใน
ปีที่ ๑- ๔
๑ ผู้พัฒนาตนเอง การพัฒนา
บุคลิกภาพเพื่อความ
เป็นครู/ตลอด ๒
ภาคเรียน
เมื่อเข้าร่วมกิจกรรม
ของคณะทุกกิจกรรม
รองคณบดีฝ่าย
วิชาการ
๒ ผู้สังเกต การพัฒนา
บุคลิกภาพเพื่อความ
เป็นครู/ตลอด ๒
ภาคเรียน
เมื่อเข้าร่วมกิจกรรม
ของคณะทุกกิจกรรม
- อาจารย์ผู้สอน
- ภาควิชา/สาขาวิชา
๓ ผู้ช่วยครู การปฏิบัติงานใน
หน้าที่สนับสนุนงาน
ครูในโรงเรียน/๑๕
ชั่วโมง
ใช้เวลาส่วนหนึ่งใน
รายวิชาชีพครู
- อาจารย์ผู้สอน
- ภาควิชา/สาขาวิชา
๔ ผู้ช่วยครู ๑. การสังเกตการ
สอน ๑ ครั้ง
๒. การปฏิบัติการ
สอนในโรงเรียน ๑
แผนฯ
ใช้เวลาส่วนหนึ่งใน
รายวิชาชีพครู
- อาจารย์นิเทศก์
- ฝ่ายฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพ
ขั้นตอนที่ ๒ :
การพัฒนาทักษะ
และสมรรถนะครู
๔
(ก่อนออกฝึก
ประสบการณ์
วิชาชีพ)
ผู้ร่วมฝึกทักษะ
และสรรถนะ
ความเป็นครู
การประชุมเชิง
ปฏิบัติการ / ๓ วัน
ช่วงภาคเรียนฤดูร้อน
ก่อนเปิดภาคเรียน
- อาจารย์นิเทศก์
- ฝ่ายฝึก
ประสบการณ์
วิชาชีพ

6. ๖
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ขั้นกำรฝึก
ประสบกำรณ์
ปีที่ บทบำทของ
นิสิต
กิจกรรมที่ใช้ฝึก/
เวลำ
เวลำที่ใช้ในกำร
ปฏิบัติกำร
ผู้ประเมิน
กำรร่วมกิจกรรม
ขั้นตอนที่ ๓ :
การฝึก
ประสบการณ์
วิชาชีพ
๕ ครู การฝึกประสบการณ์
วิชาชีพ ณ โรงเรียน
ที่เป็นสถานที่ฝึกของ
มหาวิทยาลัย / ๒
ภาคเรียนติดต่อกัน
ภาคเรียนที่ ๑ และ
๒ ในชั้นปีที่ ๕
- ครูพี่เลี้ยง
- อาจารย์นิเทศก์
- ฝ่ายฝึก
ประสบการณ์
วิชาชีพ
๒.๒ กระบวนกำรฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ
ขั้นตอนที่ ๑ กำรเตรียมตัวระหว่ำงเรียนในปีที่ ๑ – ๔
เป้ำหมำย เนื้อหำสำระ กิจกรรม
ผู้ประเมิน
กำรร่วมกิจกรรม
เพิ่มควำมมั่นใจให้กับ
นิสิตในกำรเป็นครู
- การพัฒนาบุคลิกภาพภายใน
ของนิสิต (ความเข้าใจตนเอง/
การเข้าใจผู้อื่น/การเห็นคุณค่า
ของสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัว/การให้
คุณค่าแก่ภูมิปัญญา/การอยู่
ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ)
- การพัฒนาบุคลิกภาพภายนอก
ของนิสิต(การแต่งกาย การพูด
การใช้น้าเสียง กิริยาวาจา
มารยาทในสังคม อารมณ์ขัน
รูปร่างหน้าตา)
ใช้กิจกรรมของคณะครุ
ศาสตร์ใน ๖ ด้าน ได้แก่
๑) ด้านวิชาการ
๒) ด้านบาเพ็ญประโยชน์และ
รักษาสิ่งแวดล้อม
๓) ด้านส่งเสริมคุณธรรมและ
จริยธรรม
๔) ด้านกีฬา นันทนาการ
และการส่งเสริมสุขภาพ
๕) ด้านศิลปวัฒนธรรม และ
๖) ด้านการจัดการเรียนรู้เป็น
กิจกรรมหลักในการฝึก
- รองคณบดีฝ่ายวิชาการ
- หัวหน้าสาขาวิชา (สาหรับ
วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์)
ขั้นตอนที่ ๒ กำรพัฒนำทักษะและสมรรถนะครู
เพิ่มทักษะและ
สมรรถนะครูแก่นิสิต
การจัดโครงการเพื่อพัฒนา
ความรู้และทักษะวิชาชีพครู
ได้แก่ การทาวิจัยในชั้นเรียน
การจัดกระบวนการเรียนรู้การ
ผลิตสื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้
การวัดประเมินผลการเรียนรู้การ
นิเทศวิชาเฉพาะ
การประชุมปฏิบัติการฝึก
ทักษะและสมรรถนะความ
เป็นครูตามมาตรฐาน
ประสบการณ์ครูที่กาหนดเพื่อ
เตรียมความพร้อมก่อนออก
ฝึกประสบการณ์
- อาจารย์นิเทศก์
- ฝ่ายฝึกประสบการณ์
วิชาชีพ
ขั้นตอนที่ ๓ กำรฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ
ฝึกประสบกำรณ์
วิชำชีพ
การจัดการฝึกประสบการณ์
วิชาชีพ “ประกาศคณ ะครุ
ศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลัย เรื่อง แนว
ท า ง ก า ร ป ฏิ บั ติ ก า ร ฝึ ก
ประสบการณ์วิชาชีพสาหรับ
นิสิตคณะครุศาสตร์”
ก า ร ป ฏิ บั ติ ก า ร ฝึ ก
ประสบการณ์วิชาชีพ ณ
โรงเรียนแหล่งฝึกตามที่คณะ
ครุศาสตร์กาหนด ใช้เวลาใน
การฝึกไม่ต่ากว่า ๓๖๐ ชั่วโมง
จานวน ๒ ภาคเรียน หรือ
หนึ่งปีการศึกษา
- ครูพี่เลี้ยง
- อาจารย์นิเทศก์
- ฝ่ายฝึกประสบการณ์
วิชาชีพ
หมำยเหตุ : ในขั้นตอนที่ ๒ ควรเชิญอาจารย์นิเทศก์ทุกท่านเข้าร่วมประชุมหรือฝึกอบรมเพื่อสร้างความรู้ความ
เข้าใจตรงกันเมื่อออกปฏิบัติการนิเทศ และจัดเวลาเพิ่มเติมให้อาจารย์นิเทศก์และนิสิตที่จะฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

7. ๗
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ได้ประชุมร่วมกันหลังจากการประชุมหรือฝึกอบรม สาหรับในขั้นตอนที่ ๓ ก่อนออกฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ณ
โรงเรียนเครือข่ายร่วมพัฒนาวิชาชีพ ควรจัดให้มีการพบกลุ่มระหว่างอาจารย์นิเทศก์ด้วย
๒.๓ เกณฑ์กำรคัดเลือกโรงเรียนเพื่อเป็นแหล่งฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ
๑) โรงเรียนที่จะส่งนิสิตไปฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ต้องมีระยะทางไม่เกิน ๑๐๐ กิโลเมตร จาก
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือระยะทางที่อาจารย์นิเทศก์สามารถเดินทางไป – กลับได้
ภายใน ๑ วัน
๒) โรงเรียนสามารถจัดบ้านพักที่ความปลอดภัยให้แก่นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สาหรับ
นิสิตฆราวาสแต่ถ้าโรงเรียนอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่เกิน ๓๐ กิโลเมตร อาจได้รับการยกเว้นไม่ต้อง
อยู่บ้านพักในโรงเรียน
๓) เส้นทางคมนาคมในการเดินทางไปโรงเรียนฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ต้องเดินทางสะดวกและ
ปลอดภัย
๔) คณะครุศาสตร์ จะคัดเลือกโรงเรียนที่จัดการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเข้า
ร่วมโครงการพัฒนาระบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ร่วมกันในลักษณะความร่วมมือ ทั้งนี้ การ
คัดเลือกจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใน
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ในโรงเรียน
๒.๔ ส่วนงำนผู้รับผิดชอบ
ฝ่ายฝึกประสบการณ์วิชาชีพ วิทยาเขต/วิทยาลัยสงฆ์ หลักสูตร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลัย
๒.๕ ความสาคัญของกำรฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ
การผลิตครูเพื่อให้ได้ครูที่ดีมีคุณภาพและมีวิญญาณของความเป็นครูนั้น นอกจากความรู้
ภาคทฤษฎีที่ได้จากการเรียนในวิชาต่าง ๆ ที่ทางคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
จัดให้แล้วจาเป็นต้องมีการฝึกปฏิบัติจนเกิดทักษะในการสอนในวิชาเฉพาะ เรียนรู้ที่จะใช้สื่อและเทคนิค
วิธีการสอนแบบใหม่ ๆ เพื่อเผยแพร่ให้กับโรงเรียน รวมถึงการเรียนรู้ในการทางานร่วมกับผู้อื่นในโรงเรียน
ทั้งกับผู้บริหาร ครูพี่เลี้ยง อาจารย์อื่น ๆ ในโรงเรียน บุคลากรที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนักเรียน จนเกิดความ
มั่นใจในการทางาน อันจะนาไปสู่การเกิดความรักและความศรัทธาในวิชาชีพครูอย่างแท้จริง
สานักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้พิจารณาแล้วว่า วิชาชีพทางการศึกษาเป็นวิชาชีพชั้นสูงซึ่งมี
ลักษณะสาคัญคือ
๑. ผู้ประกอบวิชาชีพต้องประกอบวิชาชีพด้วยวิธีการแห่งปัญญา (Intellectual Method)
๒. ผู้ประกอบวิชาชีพได้รับการศึกษาอบรมมาอย่างเพียงพอ (Long Period of Training)
๓. ผู้ประกอบวิชาชีพมีอิสระในการใช้วิชาชีพตามมาตรฐานวิชาชีพ (Professional
Autonomy)
๔. ผู้ประกอบวิชาชีพมีจรรยาบรรณของวิชาชีพ (Professional Ethics)
๕. มีสถาบันวิชาชีพ (Professional Institution) หรือองค์กรวิชาชีพ (Professional
Organization) เป็นแหล่งกลางในการสร้างสรรค์จรรโลงวิชาชีพ

8. ๘
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตระหนักถึงความสาคัญของการฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพ จึงได้กาหนดไว้ในหลักสูตร โดยให้มีการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เป็นระยะเวลา ๑ ปี
การศึกษา
๒.๖ วัตถุประสงค์ของกำรฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ
๑) เพื่อให้นิสิตได้ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามเกณฑ์ และเงื่อนไขที่สานักงาน
เลขาธิการคุรุสภากาหนดในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
๒) เพื่อให้นิสิตได้ฝึกประสบการณ์อื่น ๆ ที่เป็นภาระงานของครูในโรงเรียนที่เป็นสถานที่ฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของครู
๓) เพื่อให้นิสิตได้พัฒนาบุคลิกภาพ ค่านิยม และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
๒.๗ มำตรฐำนประสบกำรณ์ของครู
๒.๗.๑ สำระกำรฝึกทักษะ และสมรรถนะของครู
๑) สำระกำรฝึกทักษะ
(๑) การบูรณาการความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา
(๒) การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ
(๓) การจัดกระบวนการเรียนรู้
(๔) การเลือกใช้ การผลิตสื่อและนวัตกรรมที่สอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้
(๕) การใช้เทคนิคและยุทธวิธีในการจัดการเรียนรู้
(๖) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
(๗) การทาวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาผู้เรียน
(๘) การนาผลการประเมินมาพัฒนาการจัดการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
(๙) การบันทึกและรายงานผลการจัดการเรียนรู้
(๑๐) การสัมมนาทางการศึกษา
๒) สมรรถนะ
(๑) สามารถจัดการเรียนรู้ในสาขาวิชาเฉพาะ
(๒) สามารถประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับ
ศักยภาพของผู้เรียน
(๓) สามารถทาวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาผู้เรียน
(๔) สามารถจัดทารายงานผลการจัดการเรียนรู้และการพัฒนาผู้เรียน
๒.๗.๒ กำรปฏิบัติงำนของครู
มาตรฐานที่ ๑ ปฏิบัติกิจกรรมทางวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาวิชาชีพครูอยู่เสมอ
มาตรฐานที่ ๒ ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ โดยคานึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน
มาตรฐานที่ ๓ มุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ

9. ๙
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
มาตรฐานที่ ๔ พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ให้สามารถปฏิบัติได้เกิดผลจริง
มาตรฐานที่ ๕ พัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
มาตรฐานที่ ๖ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นผลถาวรที่เกิดแก่ผู้เรียน
มาตรฐานที่ ๗ รายงานผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนได้อย่างมีระบบ
มาตรฐานที่ ๘ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน
มาตรฐานที่ ๙ ร่วมมือกับผู้อื่นในสถานศึกษาอย่างสร้างสรรค์
มาตรฐานที่ ๑๐ ร่วมมือกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ในชุมชน
มาตรฐานที่ ๑๑ แสวงหาและใช้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา
มาตรฐานที่ ๑๒ สร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในทุกสถานการณ์
๒.๘ แนวทำงกำรฝึกปฏิบัติตนในหน้ำที่ครู
บทบาทและภารกิจของการเป็นครูมีหลายมิติหลายด้าน ดังนั้น เพื่อให้นิสิตได้สามารถพัฒนา
สมรรถภาพในการเป็นครูตามจุดประสงค์ของการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ จึงเห็นควรให้นิสิตได้ใช้
แนวทางการปฏิบัติตนในหน้าที่ครู ดังต่อไปนี้
๒.๘.๑ ด้ำนกำรเตรียมตัวก่อนสอน
การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ ควรจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
๑) เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ได้ถูกแบบและตามที่โรงเรียนกาหนด
๒) กาหนดความคิดรวบยอดได้ถูกต้อง
๓) กาหนดจุดประสงค์ได้ถูกต้องและสอดคล้องกับความคิดรวบยอด
๔) มีเนื้อหาที่ถูกต้องสอดคล้องกับความคิดรวบยอดและจุดประสงค์
๕) กิจกรรมการเรียนการสอนสอดคล้องกับจุดประสงค์และน่าสนใจ
๖) เลือกสื่อการเรียนได้สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนการสอน
๗) การวัดและประเมินผลสอดคล้องกับจุดประสงค์
๘) กาหนดเวลาสอนได้เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมทุกขั้นตอน
๒.๘.๒ ด้ำนกำรปฏิบัติกำรสอน
นิสิตควรมีพฤติกรรมการปฏิบัติการสอนตามรายละเอียดในแต่ละด้านดังต่อไปนี้
๑) กำรนำเข้ำสู่บทเรียน
(๑) สถานการณ์ที่พร้อมจะสอน
(๒) เหมาะสมกับเวลา
(๓) สัมพันธ์กับเนื้อหาและประสบการณ์เดิมของนักเรียน
(๔) มีเทคนิคน่าสนใจ
๒) กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
(๑) เลือกวิธีสอนและกิจกรรมได้เหมาะสมกับจุดประสงค์
(๒) จัดได้ตามลาดับขั้นและควบคุมให้ดาเนินไปด้วยดี

10. ๑๐
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
(๓) นักเรียนมีโอกาสร่วมกิจกรรม
(๔) ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง เรียนรู้ร่วมกัน
(๕) เร้าความสนใจและส่งเสริมให้นักเรียนอยากเรียนรู้
(๖) มีวิธีการสรุปบทเรียนได้เหมาะสม
(๗) มีการฝึกทักษะต่าง ๆ
๓) กำรใช้สื่อ
(๑) มีขนาดเหมาะสมและถูกต้อง
(๒) เหมาะสมกับบทเรียน ผู้เรียนและสภาพห้องเรียน
(๓) นักเรียนมีส่วนร่วมในการสร้าง ใช้ และเก็บรักษา
(๔) ใช้ได้ถูกต้องตามขั้นตอน
(๕) ใช้ได้อย่างคุ้มค่า
๔) ควำมรอบรู้ในเนื้อหำ
(๑) การอธิบายหรือการเล่าเรื่อง
(๒) การขยายความหรือยกตัวอย่างประกอบการอธิบาย
(๓) การตอบคาถามของนักเรียน
(๔) การซักถามให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นหรือร่วมอภิปราย
(๕) การสรุปความคิดรวบยอด
(๖) ความเชื่อมั่นในการตอบปัญหาได้ถูกต้อง
๕) ทักษะกำรใช้ภำษำและท่ำทำง
(๑) การใช้ภาษาที่ชัดเจน ถูกต้องและเข้าใจง่าย
(๒) มีลาดับขั้นในการสื่อสารตามลาดับก่อน-หลัง
(๓) พูดได้ตรงประเด็น
(๔) ใช้คาถามได้เหมาะสมและมีเทคนิคในการใช้คาถาม
(๕) ใช้เสียงและสาเนียงเหมาะสม
(๖) ใช้สีหน้าและท่าทางประกอบได้เหมาะสม
(๗) ไหวพริบในการตอบคาถาม
๖) ทักษะกำรเสริมแรง
(๑) มีการให้กาลังใจแก่นักเรียนด้วยวาจาหรือท่าทาง
(๒) ใช้วาจาและท่าทางได้เหมาะสมกับสถานการณ์
(๓) กระตุ้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นขยายคาตอบ
(๔) มีการเน้นให้นักเรียนเห็นสิ่งควรสนใจและความสาคัญของบทเรียน
(๕) ใช้การเคลื่อนไหวและท่าทางอย่างมีจุดหมาย
๗) กำรควบคุมอำรมณ์กำรเรียนกำรสอน
(๑) วางแผนล่วงหน้าในการจัดกิจกรรมการเรียน
(๒) ใช้วิธีการที่เหมาะสมในการจูงใจนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม

11. ๑๑
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
(๓) ให้ความสนใจต่อนักเรียนอย่างทั่วถึง
(๔) กระตุ้นให้นักเรียนร่วมกันคิด
(๕) ปลูกฝังให้นักเรียนอดทนในการรอผลการทดลอง
(๖) ใช้วิธีแก้ปัญหาได้เหมาะสมกับสถานการณ์
(๗) ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตนเอง
๘) กำรวัดและประเมินผล
(๑) ตรงตามแผนที่วางไว้
(๒) วิธีการเหมาะสม
(๓) เครื่องมือเหมาะสม
(๔) เวลาเหมาะสม
(๕) เกณฑ์เหมาะสม
๒.๘.๓ ด้ำนคุณลักษณะและพฤติกรรมกำรเป็นครู
๑) ควำมรับผิดชอบต่อหน้ำที่
(๑) ความเต็มใจทางานที่ได้รับมอบหมาย
(๒) ความตั้งใจทางานที่ได้รับมอบหมาย
(๓) การเสียสละและอุทิศเวลาเพื่อการทางาน
(๔) อดทน อดกลั้น ขยัน หนักเอาเบาสู้
(๕) มีความละเอียดรอบคอบ
(๖) มีความเป็นระเบียบในการทางาน
(๗) ทางานเสร็จได้ทันตามเวลากาหนด
(๘) มีแผนในการปฏิบัติงาน
๒) กำรปฏิบัติงำนในหน้ำที่ครู
(๑) มาปฏิบัติงานตรงตามเวลาและสม่าเสมอ เช่น มาโรงเรียนทันเวลา เข้าสอนตรงเวลา
(๒) เอาใจใส่ต่อนักเรียน เช่น ความมีวินัย ความสะเอียด ฯลฯ
(๓) ปรับปรุงห้องเรียนให้น่าสนใจ สะอาด ฯลฯ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน
(๔) จัดทาป้ายนิเทศ หรือมุมประสบการณ์
(๕) ตรวจผลงานของนักเรียนได้อย่างถูกต้องและสม่าเสมอ
(๖) กระตุ้นให้นักเรียนร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
(๗) อบรมศีลธรรมจรรยาและมารยาทอันดีงามแก่นักเรียน
(๘) ร่วมมือและริเริ่มทากิจกรรมของโรงเรียนและชุมชน
(๙) เสียสละและอุทิศตนเพื่อกิจกรรมของโรงเรียนและชุมชน
(๑๐) ทาหน้าที่ครูประจาชั้น
๓) กำรปฏิบัติตนและกำรวำงแผน
(๑) การแต่งกายที่ถูกต้องตามระเบียบของมหาวิทยาลัยและเหมาะสมกับความเป็นครู

12. ๑๒
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
(๒) ปฏิบัติตามระเบียบหรือกฎเกณฑ์ของโรงเรียน
(๓) มีมนุษยสัมพันธ์ ปรับตัวได้ดี และทางานร่วมกับผู้อื่นได้
(๔) มีอารมณ์มั่นคง แจ่มใสร่าเริง
(๕) มีความเชื่อมั่นในตนเอง
(๖) รู้จักกาลเทศะและระดับบุคคล
(๗) มีความประพฤติที่เป็นแบบอย่างแก่คนทั่วไป
(๘) วางตนให้เหมาะสมกับสภาพนักศึกษา และเหมาะสมกับความเป็นครู
(๙) มีหลักการและเหตุผลในการตัดสินใจ
(๑๐) ประสานงานระหว่างนิสิตและคณะผู้บริหารโรงเรียน
๒.๙ แนวทำงกำรปฏิบัติตนสำหรับนิสิตฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ
๒.๙.๑ กำรวำงตนต่อผู้บริหำรโรงเรียน
๑) ให้ความเคารพนับถือ
๒) ให้ความร่วมมือ
๓) ขอคาแนะนาปรึกษา
๔) มีเจตคติที่ดี
๕) รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย
๖) เผยแพร่คุณงามความดี
๗) รักษาความลับของข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากโรงเรียน
๒.๙.๒ กำรวำงตนต่อหัวหน้ำหมวดวิชำและครูพี่เลี้ยง
๑) ให้ความเคารพนับถือ
๒) ขอคาแนะนาเกี่ยวกับการเตรียมการสอน
๓) ขอคาติชมหลังจากสอนแล้วเพื่อปรับปรุง
๔) ให้ความร่วมมือกับหัวหน้าหมวดวิชาและครูพี่เลี้ยง
๕) ติดต่อสื่อสารให้ข้อมูลเพื่อให้รับรู้กิจกรรมโดยตลอด
๖) แสดงความมีน้าใจให้ความช่วยเหลือตามแต่เวลาและโอกาสอันควร
๒.๙.๓ กำรวำงตนต่อครูประจำชั้น
๑) ให้ความเคารพนับถือ
๒) รายงานความเป็นไปของนักเรียนให้ทราบ เช่น พฤติกรรมทั้งทางบวกและทาง
ลบ ตลอดจนปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
๓) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนเป็นรายคน
๔) ขอความร่วมมือในการแก้ปัญหานักเรียน
๒.๙.๔ กำรวำงตนต่ออำจำรย์อื่นๆ
๑) มีสัมมาคารวะต่ออาจารย์ทุกท่าน

13. ๑๓
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๒) แสดงความมีน้าใจให้ความช่วยเหลือ และความเป็นมิตรทั้งต่อหน้าและลับหลัง
๓) มีความจริงใจเสมอต้นเสมอปลาย
๔) แสดงความสามารถให้ปรากฏเป็นที่เชื่อถือ
๕) ส่งเสริมให้ เกิดความสามัคคีหมู่คณะ
๖) มีความสารวมทั้ง กาย วาจา และใจ
๒.๙.๕ กำรวำงตนต่อนักเรียน
๑) เอาใจใส่ในผลการเรียนและความประพฤติของนักเรียน
๒) รักษาความดีงามของตนที่เป็นผลให้นักเรียนยอมรับด้วยความเคารพเลื่อมใส
๓) เป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียนทั้งทางกาย วาจา ใจและจริยธรรมตลอดจนทาตนให้
เป็นที่วางใจแก่นักเรียนที่มาขอคาปรึกษาในปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
๔) แสดงความกระตือรือร้นเกี่ยวกับประสบการณ์การเรียนรู้ ซึ่งกาลังพัฒนาอยู่กับ
นักเรียน
๕) มีความสนใจและพร้อมที่จะช่วยปรับปรุงชั้นเรียน
๖) มีความตระหนักว่านักเรียนแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันและต้องให้ ความ
สนใจ โดยใช้หลักจิตวิทยาการเรียนรู้
๗) ให้ความยุติธรรมในการตัดสินการกระทาของนักเรียน
๘) ให้ความอบอุ่นใจ มีความเมตตากรุณาต่อนักเรียนโดยเสมอภาค
๙) ให้กาลังใจแก่นักเรียนที่ปฏิบัติงานได้ดี
๑๐) แสดงความมีใจกว้าง อดทน อดกลั้นต่อสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์
๑๑) ไม่นาความลับส่วนตัวของนักเรียนมาเปิดเผย
๒.๙.๖ กำรวำงตนต่ออำจำรย์นิเทศก์
๑) มีสัมมาคารวะ ต่ออาจารย์ทุกรูป/คนในทุกสาขาวิชา
๒) เตรียมให้พร้อมอยู่เสมอเพื่อรับการนิเทศ
๓) ปฏิบัติตามคาชี้แนะด้วยเหตุผลอันควรแก่การปฏิบัติ
๔) มีความขยัน อดทน อดกลั้น เอางานเอาการ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และ
ปฏิบัติเต็มขีดกาลังความสามารถ
๕) แสดงความเป็นมิตร ด้วยการเข้าพบปะทักทายหรือขอคาปรึกษาแนะนา
ตลอดจนให้การต้อนรับ เมื่ออาจารย์มาเยี่ยมหรือทาการนิเทศ
๖) มีปัญหาคับข้องใจ แจ้งให้อาจารย์ได้ทราบ
๒.๙.๗ กำรวำงตนต่อเพื่อนนิสิตร่วมสถำบันและต่ำงสถำบัน
๑) แสดงความเป็นมิตรซึ่งกันและกัน
๒) ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือเกื้อกูลกันทั้งในทางวิชาการ กิจกรรมของหมู่คณะ
ตลอดจนปัญหาส่วนตัวบางประการเกี่ยวกับความคิดเห็นและการตัดสินใจ
๓) ให้คาแนะนาและคาปรึกษาที่ยังประโยชน์ในการพัฒนาและปรับปรุง

14. ๑๔
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๒.๙.๘ กำรวำงตนต่อเจ้ำหน้ำที่และคนงำนภำรโรง
๑) แสดงความเป็นมิตรด้วยการทักทาย พูดคุยตามโอกาสอันสมควร
๒) ให้ความช่วยเหลืออนุเคราะห์เท่าที่จะทาได้
๓) แสดงน้าใจดี สุภาพ อ่อนโยน
๒.๙.๙ กำรมีมนุษยสัมพันธ์ต่อบุคคลทุกฝ่ำย
การมีมนุษยสัมพันธ์มีความสาคัญอย่างมากต่อการปฏิบัติงานของนิสิต เพราะนิสิตไม่
อาจปฏิบัติงานได้โดยปราศจากการช่วยเหลือ สนับสนุนจากบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเมื่อจะต้องอาศัย
ความช่วยเหลือสนับสนุนจากหลายฝ่าย จึงจาเป็นที่นิสิตจะต้องสร้างความสัมพันธ์อันดีกับฝ่ายต่างๆ
๒.๑๐ บทบาทและหน้าที่ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ จาเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย เพราะเป็นช่วง
ที่นิสิตต้องออกไปปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง คือ โรงเรียนที่เป็นซึ่งเป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์
วิชาชีพ บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการะสบการณ์วิชาชีพ ประกอบด้วยบุคคลต่อไปนี้ คือ
๒.๑๐.๑ ผู้บริหำรโรงเรียน
ผู้บริหารโรงเรียน เป็นผู้ที่มีบทบาทสาคัญยิ่งในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ซึ่งอาจจาแนกบทบาท
หน้าที่ได้ดังนี้
๑)ทาความเข้าใจกับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิตคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬา
ลงกรณราชวิทยาลัย
๒)ให้การปฐมนิเทศแก่นิสิตโดยแนะนาให้รู้จักบุคลากร สถานที่ ฯลฯและมอบหมายงานที่นิสิต
ต้องปฏิบัติ
๓) พิจารณาคัดเลือก ครูพี่เลี้ยงตามเกณฑ์ในคู่มือฝึกเพื่อให้ได้บุคลากรที่มีคุณสมบัติและ
ประสบการณ์ที่เหมาะสม รวมทั้งมีความตั้งใจที่จะเป็นครูพี่เลี้ยงที่ดี
๔) ดูแลและจัดสวัสดิการที่จาเป็นแก่นิสิต
๕) ให้คาปรึกษาแนะนาแนวทางในการแก้ปัญหาต่าง ๆ และการปฏิบัติตนของนิสิต
๖) แนะนานิสิต ให้รู้จักบุคคลและสถานที่ในท้องถิ่น ตลอดจนร่วมกิจกรรมของท้องถิ่นตาม
สมควรแก่โอกาส
๗) มอบหมายงานในหน้าที่ให้กับครูพี่เลี้ยง และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับนิสิตฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๘) กากับ ดูแล ติดตาม และให้คาปรึกษากับครูพี่เลี้ยงในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๙) ดูแลการประเมินผลการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ของครูพี่เลี้ยง และบุคลากรที่
เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามระเบียบ
๑๐) ร่วมมือกับคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในการให้
ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตนและการดาเนินงานของนิสิต
๑๑) ประสานงานคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ
อาจารย์นิเทศก์ของคณะฯ เกี่ยวกับการเนินงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๑๒) ให้ข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นแก่คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย เกี่ยวกับการจัดการและการดาเนินงานเพื่อพัฒนากระบวนการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

15. ๑๕
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๑๓) เมื่อมีเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับนิสิตอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โรงเรียน หรือ คณะ
ครุศาสตร์ หรือ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คงแจ้งให้คณะ/มหาวิทยาลัย ทราบ
โดยเร็ว
๑๔) ร่วมประชุมกับคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อ
รับทราบนโยบายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ของคณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยอย่างสม่าเสมอ
๑๕) ควรมีการติดตามการเรียนการสอนหรือสังเกตการณ์การสอนร่วมกับอาจารย์นิเทศก์
อย่างน้อย ๑ ครั้ง
๑๖) ให้คาปรึกษา แนะนา รวมทั้งสนับสนุนการทางานของนิสิตด้านกิจกรรมพัฒนา
โรงเรียนหรือนักเรียน หรืออาจนาเสนองานส่วนใดส่วนหนึ่งของโรงเรียนให้นิสิตได้ดาเนินการโดยมี
งบประมาณสนับสนุน
๑๗) ลงนามเพื่อรับรองการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิตในเอกสารตามที่คณะครุศาสตร์
กาหนด
๒.๑๐.๒ ครูพี่เลี้ยง
ครูพี่เลี้ยงหรืออาจารย์นิเทศก์ประจาโรงเรียน หมายถึง บุคลากรประจาการที่ผู้บริหารโรงเรียนซึ่ง
เป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ มอบหมายให้ทาหน้าที่ให้คาปรึกษา แนะนา ดูแล ช่วยเหลือนิสิต
เป็นผู้ที่สร้างความใกล้ชิดกับนิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ภาคปฏิบัติมากกว่าบุคคลอื่น เปรียบเสมือน
ต้นแบบของความเป็นครูของนิสิต เป็นผู้รักษามาตรฐานทางวิชาการแทนผู้บริหารโรงเรียนในด้านที่
เกี่ยวกับการสอน เป็นผู้ให้ความร่วมมือกับอาจารย์นิเทศก์จากคณะหรือมหาวิทยาลัย ในการนิเทศการ
ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ บทบาทของครูพี่เลี้ยงอาจจาแนกได้ดังนี้
๑) ทาความเข้าใจเกี่ยวกับฝึกประสบการณ์ของนิสิตคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลัย
๒) แนะนานิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ต่อนักเรียนในชั้นที่ทาการสอน
๓)แนะนาให้นิสิตเข้าใจถึงสภาพการเรียนของเด็กนักเรียนการปกครองชั้น ตลอดจนการทางาน
ธุรการในชั้นเรียน
๔) ให้โอกาสนิสิต ได้สังเกตการณ์สอนของตน ก่อนที่จะมอบหมายให้ทาการสอนอย่าง
จริงจัง
๕) แนะนา สาธิตการสอน และทากิจกรรมต่าง ๆ ในชั้นเรียน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี
แก่นิสิต
๖) ให้คาแนะนาแก่นิสิต ในเรื่องของการทาแผนการจัดการเรียนรู้ โครงการสอน และ
อื่น ๆ
๗) สังเกตการสอน การทางานในชั้นเรียนของนิสิต โดยสม่าเสมอ ไม่ปล่อยให้นิสิตทา
การสอนโดยลาพัง เมื่อพบว่างานใดบกพร่อง ต้องให้คาแนะนาเพื่อช่วยให้การฝึกประสบการณ์
วิชาชีพ ดาเนินไปด้วยดี
๘) ช่วยเหลือ แนะนา นิสิตในด้านการจัดทาและการใช้สื่อการสอนตลอดจนแหล่งวิชาใน
ชุมชน

16. ๑๖
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๙) ตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของนิสิต พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะ เพื่อแก้ไข ปรับปรุง ก่อน
นาไปทาการสอน
๑๐) วัดและประเมินผลการปฏิบัติงานของนิสิตตามแบบฟอร์มที่คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กาหนด
๑๑) เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นิสิต ในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชน
๑๒) นิเทศ งานด้านวิชาการ และงานด้านอื่น ๆ ที่โรงเรียนมอบหมายให้นิสิตปฏิบัติ
๑๓) สรุปการประเมินผล การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ภาคปฏิบัติ ให้ผู้บริหารโรงเรียน
ทราบเมื่อสิ้นสุดการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๑๔) ร่วมประชุมกับคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อ
รับทราบนโยบายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ของคณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อย่างสม่าเสมอ
๑๕)ในกรณีที่พบว่านิสิตมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่นปัญหาชู้สาวการขาดความรับผิดชอบใน
การฝึกประสบการณ์ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบวินัยหรือภารหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายฯลฯ ให้ดาเนินการเบื้องต้น
เป็นรายกรณี ดังนี้
(๑) ชี้แจงบทลงโทษให้กับนิสิตและโรงเรียนทราบ
(๒) ว่ากล่าวตักเตือน โดยความร่วมมือระหว่างครูพี่เลี้ยงกับอาจารย์นิเทศก์ โดย
บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
(๓) เข้าสู่กระบวนการพิจารณาโดยคณะกรรมการฝึกประสบการณ์วิชาชีพต่อไป
(๔)ลงนามเพื่อรับรองการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิตในเอกสารตามที่ คณะครุศาสตร์
กาหนด
๒.๑๐.๓ อำจำรย์นิเทศก์
อาจารย์นิเทศก์จากคณะครุศาสตร์ หมายถึง คณะกรรมการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ที่ได้รับ
การแต่งตั้ง เป็นอาจารย์นิเทศก์ประจาโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ มีบทบาท
หน้าที่ ดังนี้
๑) ศึกษาและทาความเข้าใจลักษณะงานของแต่ละโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อปฏิบัติงานนิเทศให้สอดคล้องสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานของแต่ละโรงเรียน
๒) เข้าร่วมการปฐมนิเทศ การสัมมนาระหว่างฝึกปฏิบัติการสอน และสัมมนาหลังฝึก
ปฏิบัติการสอนหรือปัจฉิมนิเทศพร้อมนิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๓) ร่วมมือกับผู้บริหารโรงเรียนและครูพี่เลี้ยงในการพัฒนางานด้านการสอนและงาน
อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับนิสิต
๔) นิเทศ งานด้านวิชาการ และงานด้านอื่น ๆ ที่โรงเรียนมอบหมายให้นิสิตปฏิบัติ
๕) ประสานงานกับบุคลากรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในงานฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ระหว่าง
คณะฯ กับโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เช่น มีการเข้าพบผู้บริหารโรงเรียน
ร่วมกับครูพี่เลี้ยง และนิสิต เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์ และกระบวนการฝึกประสบการณ์วิชาชีพในครั้ง
แรก
๖) ดาเนินการนิเทศการสอนในชั้นเรียนอย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ ครั้ง

17. ๑๗
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๗) นิเทศ ติดตามการฝึกประสบการณ์ของนิสิตอย่างน้อยภาคเรียนละ ๓ ครั้ง และ/
หรืออาจใช้ระบบการนิเทศผ่านเครือข่าย Social network เช่น Facebook เพื่อสนับสนุนงานนิเทศ
ของอาจารย์นิเทศก์ให้สามารถรับรู้ปัญหาของนิสิตได้ทันท่วงทีหากมีปัญหา
๘) กากับดูแล ติดตาม ประเมิน และให้ข้อมูลย้อนหลังแก่โรงเรียนนิสิต และคณะครุศาสตร์
๙) เข้าใจคุณลักษณะของนิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพเป็นรายบุคคล
๑๐) ร่วมกับครูพี่เลี้ยงดูแลเอาใจใส่นิสิตเป็นพิเศษ หากนิสิตประสบปัญหาในการฝึก
ประสบการณ์ และ/หรือปัญหาในการดาเนินชีวิตในช่วงฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และให้รายงานต่อ
ฝ่ายฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ทันทีเมื่อทราบปัญหา
๑๑) เสนอแนะแนวทางเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ และเพื่อปรับปรุงกระบวนการฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพให้ดียิ่งขึ้น
๑๒) ในกรณีที่พบว่านิสิตมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ปัญหาชู้สาว ขาดความ
รับผิดชอบในการฝึกประสบการณ์ ไม่ปฏิบัติตนตามระเบียบวินัยหรือภารหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ฯลฯ ให้ดาเนินการเบื้องต้น เป็นรายกรณีดังนี้
(๑) ชี้แจงบทลงโทษให้กับนิสิตและโรงเรียนทราบ
(๒) ว่ากล่าวตักเตือน โดยความร่วมมือระหว่างครูพี่เลี้ยงกับอาจารย์นิเทศก์ โดย
บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
(๓) เข้าสู่กระบวนการพิจารณาโดยคณะกรรมการฝึกประสบการณ์วิชาชีพต่อไป
๑๓) ลงนามเพื่อรับรองการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิต
๒.๑๐.๔ นิสิตฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ
เมื่อคณะครุศาสตร์ จัดส่งนิสิตไปยังโรงเรียนที่เป็นสถานฝึกประสบการณ์วิชาชีพแล้ว นิสิตมี
ภารกิจที่จะต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
๑) พบผู้บริหารโรงเรียนแนะนาตัวและรับการปฐมนิเทศจากผู้บริหารโรงเรียนในครั้ง
แรกที่เข้าโรงเรียน หากเป็นไปได้ให้รายงานตัวพร้อมกันเป็นกลุ่ม โดยมีอาจารย์นิเทศก์ร่วมด้วย
๒) รับมอบหมายงานต่าง ๆ ที่จะต้องปฏิบัติในระหว่างการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
ภาคปฏิบัติงานต่างๆได้แก่
(๑) งานฝึกประสบการณ์วิชาชีพ อย่างน้อย สัปดาห์ละ ๑๐ ชั่วโมง
(๒) ปฏิบัติงานในหน้าที่ครูประจาชั้นและงานธุรการชั้นเรียน เช่น ทาบัญชีเรียกชื่อ
สมุดประจาชั้น ตรวจสุขภาพนักเรียน จัดชั้นเรียน ฯลฯ
(๓) จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ตามรายวิชาที่ต้องสอน โดยทาล่วงหน้าอย่างน้อย
๑ สัปดาห์ และต้องส่งให้ครูพี่เลี้ยงตรวจก่อนนาไปใช้สอน
(๔) จัดทาสื่อการสอนสาหรับใช้กับวิชาที่ตนสอน
(๕) จัดทาโครงการพัฒนานักเรียนหรือพัฒนาโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพ อย่างน้อย ๑ โครงการ โดยผ่านความเห็นชอบจากผู้บริหารโรงเรียน
(๖) จัดทาโครงการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเรียนการสอน คนละ ๑ โครงการ
(๗) ประชุมสมาชิกที่เป็นนิสิตฝึกประสบการณ์หรือผู้เกี่ยวข้อง ในโรงเรียนที่ฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพ พร้อมทั้งบันทึกการประชุมไว้ทุกครั้ง แล้วนาผลของการประชุมเสนอต่อครูพี่
เลี้ยงโดยผ่านผู้บริหารโรงเรียน และอาจารย์นิเทศก์จากคณะครุศาสตร์เพื่อทราบ

18. ๑๘
คู่มือฝึกประสบการณ์วิชาชีพ : การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
(๘) ทาบันทึกกิจกรรมประจาวัน โดยบันทึกงานต่าง ๆ ที่นิสิตทาในแต่ละวันไว้
อย่างละเอียด
(๙) เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนหรือชุมชนอย่างสม่าเสมอ
๓) รับการนิเทศ ปรับปรุง แก้ไข และพัฒนางานต่าง ๆ ตามคาแนะของผู้บริหาร
โรงเรียนครูพี่เลี้ยง อาจารย์นิเทศก์จากคณะครุศาสตร์
๔) เข้าร่วมประชุมสัมมนาตามที่คณะครุศาสตร์กาหนด
๕) เมื่อสิ้นสุดการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ให้นิสิตนาส่งผลงานต่าง ๆ ส่งฝ่ายฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพ คณะครุศาสตร์ พร้อมรายงานตัวกลับมหาวิทยาลัย (ตามแบบรายงานตัวที่
กาหนด)
๖) ศึกษาทาความเข้าใจวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมปฏิบัติของโรงเรียนเพื่อลดความ
ขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๗) หากนิสิตพบว่ามีปัญหากับครูพี่เลี้ยงและ/หรืออาจารย์นิเทศก์ในระหว่างฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพให้นิสิตรายงานไปที่ฝ่ายฝึกประสบการณ์วิชาชีพเพื่อหาแนวทางแก้ไขทันที ซึ่งมี
แนวปฏิบัติดังนี้
(๑) กรณีที่พบปัญหากับครูพี่เลี้ยงหรือโรงเรียน
(๑.๑) วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาร่วมกับอาจารย์นิเทศก์
(๑.๒) ดาเนินการแก้ปัญหาร่วมกับโรงเรียน
(๑.๓) สรุปชี้แจงให้เกิดความเข้าใจร่วมกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
(๑.๔) มีการนาเสนอสรุปข้อมูลต่อฝ่ายฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป
(๒) กรณีที่พบปัญหากับอาจารย์นิเทศก์
(๒.๑) ขอคาปรึกษาจากคณะกรรมการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
(๒.๒) ดาเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกับคณะกรรมการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
(๒.๓) หากเป็นปัญหาระดับร้ายแรงและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กร
จะต้องมีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร และดาเนินตามกระบวนการพิจารณาที่กาหนดไว้ต่อไป
๒.๑๑ ระบบกำรนิเทศและกำรประเมินผล
อาจารย์นิเทศก์ จะทาหน้าที่ออกนิเทศเยี่ยมเยียนนิสิตตลอดการออกฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ใน ๑
ภาคเรียน ร่วมกับครูพี่เลี้ยงในการดาเนินการนิเทศและประเมินผลการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิต รวม
๓ ครั้ง ณ โรงเรียนที่เป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์ตามที่คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัยกาหนด
๒.๑๒ หลักกำรเบื้องต้น
รายวิชาฝึกประสบการณ์วิชาชีพทั้งสองภาคเรียน ถือว่าเป็นรายวิชาที่มีความสาคัญยิ่งนิสิตทุกรูป/
คนต้องผ่านการประเมินในรายวิชานี้ โดยกาหนดระดับคะแนนไม่ต่ากว่า Cและนิสิตต้องฝึกปฎิบัติทางวิชาชีพ
ครู อย่างน้อย ๓๖๐ชั่วโมง/ภาคเรียนหรือ๗๒๐ชั่วโมง/ปีการศึกษา
การนับเวลาในการปฏิบัติการสอน การฝึกสอนเต็มเวลา หมายถึง นิสิตต้องปฏิบัติการสอน ๕ วัน/
สัปดาห์ และปฏิบัติการสอนในรายวิชาที่ตรงกับสาขาวิชาเอกไม่น้อยกว่า ๘คาบ/สัปดาห์ ทั้งนี้ให้รวมการสอน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน คือ กิจกรรมลูกเสือ ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์ และปฏิบัติงานอื่นในสถานศึกษาตามที่
สถานศึกษากาหนด รวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า ๑๖สัปดาห์