More Related Content
Similar to โครงงานกลุ่มที่ 7.doc
Similar to โครงงานกลุ่มที่ 7.doc (20)
More from เพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรียนตระกูลประเทืองวิทยาคม
More from เพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรียนตระกูลประเทืองวิทยาคม (6)
โครงงานกลุ่มที่ 7.doc
- 1. ห น้ า |1
โครงงานย่อยที่ 7
1 ชื่อโครงงาน
การศึกษาแนวทางการลดปริมาณมอดแป้ งด้วยสมุนไพรในข้าวตอก
คาสาคัญ
มอดแป้ ง สมุนไพร แป้ ง น้าตาล ข้าวตอก
2 นักเรียนผู้ทาโครงงาน
1. นาย รัฐสภา นาทองคา
2. นาย ธนะศักดิ์ สมสอางค์
3. นางสาว พรนภา อัคสิงห์
4.. นางสาว ปิยธิดา ลาวรรณา
3 ครูที่ปรึกษา
คนที่ ชื่อ-สกุล สอนกลุ่มสาระ โทรศัพท์ อีเมล์
3.1 ครูทัศนีย์ จวนสาง วิทยาศาสตร์ 0819673296 tasanee2515@hotmail.com
3.2 ครูกิตติมา มาคาพันธ์ คณิตศาสตร์ 080146390 kitti_1701@hotmail.com
3.3 ครูนิตยา มุลตรีภักดิ์ วิทยาศาสตร์ 0815461619 nidjuk.moon@gmail.com
4 งบประมาณที่เสนอ 5,000 บาท
5 เสนอ ยื่นครั้งที่ 1 วันที่ 26 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2557
แก้ไขครั้งที่ 2 วันที่ 1 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
แก้ไขครั้งที่ วันที่ เดือน พ.ศ. 2557
- 2. ห น้ า |2
รายละเอียดโครงงานย่อยประเภท ก
(วิทยาศาสตร์/เศรษฐศาสตร์)
โครงงานที่ 7
เรื่อง การศึกษาแนวทางการลดปริมาณมอดแป้ งด้วยสมุนไพรในข้าวตอก
1. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ข้าวเหนียว กข.6ให้น้าตาล เข้าสู่กระแสเลือดมากกว่าเพราะมีglycemic index สูงกว่าข้าวชนิดอื่นๆ (
http://www.healthguru.sg/general/choosing-the-healthiest-rice-glycemic-indexl.)
มี ก า ร ศึ ก ษ า พ บ ว่ า ยิ่ ง กิ น ข้ า ว ที่ glycemic index
สูงยิ่งทาให้ง่วงนอนเนื่องจากระดับน้าตาลในเลือดจะไปเพิ่มระดับ Tryptophan ทาให้เพิ่มระดับ Serotonin
เหมือนที่บอกไปแล้วข้างต้น ซึ่งมีผลต่อการนอนหลับ (http://ajcn.nutrition.org/content/85/2/426.abstract)
ดังนั้นเกษตรกรส่วนหนึ่งจึงจัดตั้งกลุ่มสาธิตการทามาลัยข้าวตอกที่ศูนย์เฮือนนวด ต.ฟ้ าหยาด อ. มหาชนะชัย
จ.ยโสธร ขึ้นเพื่อพัฒนาข้าวเหนียว กข .6 ที่มีอยู่จานวนมากในชุมชนให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ประจาอาเภอ
ซึ่ งผลิตภัณ ฑ์ ที่ว่าก็คือ มาลัยข้าวตอก ซึ่ ง มาลัยข้าวตอกมีประ โยช น์ ใ น การสร้าง รายได้
ในการประดิษฐ์มาลัยข้าวตอกให้ได้ราคาดีและมีคุณภาพนั้น ข้าวตอกต้องสวยและมีสภาพที่ดีแต่ข้าวเหนียว
กข.6 มีแป้ งมากจึงทาให้มีน้าตาลมากทาให้มอดแป้ งเข้าไปกิน จากเว็บไซด์กล่าวว่า มอดแป้ งเป็นศัตรูพืชรอง
คื อ ไ ม่ ส า ม า ร ถ ท า ล า ย เ ม ล็ ด ข้ า ว ไ ด้ โ ด ย ต ร ง
แต่จะเข้าทาลายภายหลังจากที่แมลงอื่นทาลายเมล็ดพืชจนเป็นรูหรือรอยแตกแล้วและแป้ งที่ถูกทาลายจะมีกลิ่นเ
ห ม็น (http://kkn-rsc.ricethailang.go.th/rice/) แล ะ วิธี กาจัดมอ ดแ ป้ ง มี 2 วิธี คือ 1. การรมค วัน 2.
ระบบฉีดพ่นด้วยสารเคมี (http://cpms.co.th/site/ik_07.html)
ดังนั้นคณะผู้จัดทาจึงเกิดแนวคิดที่จะศึกษาแนวทางการลดปริมารมอดแป้งที่มีผลต่อสภาพของมาลัยข้าวตอกโด
ยการลดปริมารมอดแป้ งในข้าวตอกโดยการรมควันซึ่งจะไม่ใช้สารเคมีเพราะสารเคมีจะส่งผลที่ไม่ดีต่อมาลัยข้า
วตอกจึงเกิดแนวคิดที่ศึกษาสมุนไพรเพื่อลดปริมาณมอดแป้ง โดยการรมควันซึ่งสมุนไพรที่ว่าก็จะมีประมาณ
ตระไคร้หอม,ใบมะกรูด,ข่า,แมงลักและโหระพา ซึ่งเป็ นพืชธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการไล่แมลง
จาการรวบรวมข้อมูลที่ผ่านมาชาวบ้านป้ องกันการเกิดมอดด้วยการเก็บไว้ในถุงหลังจากคั่วเสร็จและเก็บไว้ในก
ล่ อ ง แ ก้ ว แ ต่ ก็ ไ ม่ ส า ม ร ถ ป้ อ ง กั น ไ ด้ ดี ที่ สุ ด
ผู้วิจัย จึ ง มีค วา มส น ใ จ ที่ จ ะ ศึ ก ษ า ก าร ล ด ป ริ ม าณ ที่ จ ะ เกิ ด มอ ด แ ป้ ง ข อ ง ข้ าว ต อ ก
- 3. ห น้ า |3
โด ยมีส มมติฐ าน ว่าการรมค วัน ข้าวต อกด้วยส มุน ไพ รส ามารถล ดป ริ มาณ มอด แป้ ง ได้
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการลดปริมาณมอดแป้งด้วยสมุนไพรในข้าวตอก
2. ตัวแปรและสมมุติฐานของโครงงาน
การรมควันข้าวตอกด้วยสมุนไพรสามารถลดปริมาณมอดแป้งได้
ตัวแปร
ตัวแปรต้น : สมุนไพรรมควัน
ตัวแปรตาม : จานวนมอดในมาลัยข้าวตอก
ตัวแปรควบคุม : ควบคุมปริมาณ ตะไคร้หอม , ใบมะกรูด ,ข่า,ใบยาสูบ เท่ากัน , ชนิดข้าวเปลือก (กข 6) ,
ปริมาณข้าวเปลือกเท่ากัน , กระด้งขนาดเท่ากัน , ลวด
3. แผนการทดลอง
ผังแสดงเหตุผล
- 4. ห น้ า |4
4. วิธีการทดลอง
การสร้างเหตุ (ตัวแปรต้น)
เตรียมสมุนไพร 4 ชนิดและ ข้าวเปลือก กข 6 ในปริมาณ 8 กิโลกรัม
นาข้าวเปลือกที่เตรียมไว้มาคั่วให้แตกดอก แล้วคัดเลือกเอาดอกที่สมบูรณ์ในปริมาณ 4 กิโลกรัม
นาไปใส่กระด้ง ใช้ลวดมัดกระจาดขึ้นเป็น สามเหลี่ยมทรงกระบอก แขวนไว้เหนือเตาเผา
ทาการรมควันกับสมุนไพรทั้ง 4 ชนิด
- 5. ห น้ า |5
การวัดผล(ตัวแปรตาม)
ขั้นตอนที่ 1นาตะไคร้หอม , ใบมะกรูด ,ข่า ,ใบยาสูบ ปริมาณอย่างล่ะ 2กิโลกรัม
นามาตากแห้งลดความชื้นในสมุนไพร
ขั้นตอนที่ 2 นาข้าวเปลือก กข 6มาคั่วเป็นข้าวข้าวตอกแตกคั่วเสร็จ พักไว้นาไปผึ่งแดด
หลังจากผึ่งแดดเสร็จคัดเอาดอกข้าวตอกแตกที่สมบูรณ์ในปริมาณ 4 กิโลกรัม ใส่กระด้ง กระด้งล่ะ 1
กิโลกรัม
ขั้นตอนที่ 3นาสมุนไพรที่ทาการตากแห้งจากขั้นตอนที่ 1 มาทาการรมควันกับข้าวตอก
โดยการนาสมุนไพรมาเรียงถี่ๆบนฝักคูนแห้ง ให้ต่อเนื่องกันในที่ใส่เชื้อเพลิง
ขั้นตอนที่ 3นาข้าวตอกที่ใส่กระด้งมาแขวนไว้เหนือเตาประมาณ 30 เซนติเมตร จุดไฟที่สมุนไพร
ให้ไฟคุอยู่ตลอดเวลา ถ้าต้องการควันมากจุดไฟสองด้าน แต่ถ้าสมุนไพรติดไฟมากไป
พรมน้าให้พอชื้นๆจะได้ควันมากขึ้น และลดอุณหภูมิในที่รมควันลง
ขั้นตอนที่ 4ควบคุมอุณหภูมิในที่รมควัน โดยแขวนเทอร์มอมิเตอร์ไว้ข้างๆที่ทาการทดลอง
ลดและเพิ่มเชื้อเพลิงตามความเหมาะสม อุณหภูมิในที่รมควันควรอยู่ระหว่าง 145-155 องศาฟาเรนไฮต์
ขั้นตอนที่ 5เมื่อครบกาหนด นาข้าวตอกไปผึ่งให้เย็นแล้วห้อยไว้
ขั้นตอนที่ 6 สังเกตและบันทึกผลการทดลองทุก 7 วัน เป็นเวลา 70 วัน
การวัดผล(ตัวแปรตาม)
หลังจากที่รมควันทิ้งไว้เป็นเวลา 70 วัน เสร็จตามระยะเวลาที่กาหนด จึงนาข้าวตอกที่รมควันสมุนไพร
เปรียบเทียบระหว่างข้าวตอกที่รมควันสมุนไพรและข้าวตอกธรรมดา
เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของข้าวตอกว่ามีมอดแป้งเพิ่มขึ้นหรือลดปริมาณลงหรือไม่
และสามารถคงสภาพเดิมได้หรือไม่
- 6. ห น้ า |6
สังเกตการเปลี่ยนแปลง
ข้าวตอกรมควัน สรุปผลการทดลองสังเกตการเปลี่ยนแปลง
แผนกิจกรรม
แผนกิจกรรมเขียนเป็นตารางได้ดังนี้
ระยะเวลา วิธีดาเนินงาน
วันที่ 20/11/2557 เตรียมข้าวเปลือก 8 กิโลกรัม นาข้าวเปลือกไปคั่วเป็นข้าวตอก
แล้วนามารมควันกับสมุนไพร 4 ชนิด
วันที่21-28/11-01/2557-2558 สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทุกๆ 7วัน
วันที่29–31/01 /2558 สรุปผลการทดลอง
แผนกิจกรรมเขียนเป็นไดอะแกรมดังนี้
20 28 31
70 วัน 3 วัน
วันที่ 1 ในตารางคือวันที่ 20 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 และโครงงานนี้สิ้นสุดการทดลอง
วันที่ 28 เดือน มกราคม พ.ศ 2558 และเขียนวิเคราะห์สังเคราะห์และเขียนรายงานใช้เวลา 73 วัน
กาหนดเสร็จสมบูรณ์วันที 31เดือน มกราคม พ.ศ 2558
แผนการทดลองแสดงในตารางต่อไปนี้
ข้าวตอกรมควันสมุนไพร(กระด้ง) จานวนมอดในมาลัยข้าวตอกหลังจากรมควันด้วยสมุนไพร(ตัว)
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
- 7. ห น้ า |7
1
2
3
4
*ให้X แทนไม่มีการเปลี่ยนแปลง
หมายเหตุ โครงงานนี้ใช้เวลาสังเกตประมาณ 70 วัน ทาการตรวจสอบ และบันทึกผล ทุก 7 วัน
5. งบประมาณ
ลาดับที่ รายการ งบประมาณที่ใช้
(บาท)
1 ค่าวัสดุ
ข้าวเปลือกเหนียว จานวน 15 กิโลกรัม
กระจาดขนาดกลาง จานวน 5 บาท
พืชสมุนไพร
หม้อดิน 1 ใบ
ลวด
500
100
1,000
350
150
2 ค่าใช้สอย
ค่าเดินทางเพื่อศึกษาข้อมูล
ค่าอาหาร
ค่าเอกสารและกระดาษในการทาโครงงานและการนาเสนอ
500
500
1,900
รวม 5,0000
6. เอกสารอ้างอิง
1. ข้าวพันธ์ กข6 (ออนไลน์). แหล่งที่มา: http://www.sci.ku.ac.th/ 3พฤศจิกายน 2557
- 8. ห น้ า |8
2. วัฏจักรของมอดแป้ง.(ออนไลน์). แหล่งที่มา: แหล่งที่มา: http://www.cpms.co.th/site/ik_07.htm
3 พฤศจิกายน 2557
3. มอดแป้ง.(ออนไลน์). แหล่งที่มา: http://www.rentokil.co.th/ 3 พฤศจิกายน 2557
4. ชนิดของมอด.(ออนไลน์).แหล่งที่มา: http://kkn-rsc.ricethailand.go.th 1 พฤศจิกายน 2557
5. สรรพคุณของใบมะกรูด.(ออนไลน์).แหล่งที่มา: http://guru.sanook.com/search 2 พฤศจิกายน 2557
6. สรรพคุณของตะไคร้หอม.(ออนไลน์). แหล่งที่มา: http://www.tc-pestcontrol.com 2 พฤศจิกายน 2557
7. สรรพคุณของข่า. (ออนไลน์).แหล่งที่มา: http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock
2 พฤศจิกายน 2557
8. สรรพคุณของใบยาสูบ.(ออนไลน์).แหล่งที่มา: http://www.medplant.mahidol.ac.th/pubhealth
2 พฤศจิกายน 2557
9. การเรียนรู้
การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในการทาโครงงานฐานวิจัยก่อนนาเสนอที่ ศูนย์พี่เลี่ยงมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
มีข้อเสนอแนะจากอาจารย์พี่เลี้ยงคือ
- ปรับความมีเหตุผลและความชัดเจนในการทางาน
- มีข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริงเน้นการพัฒนา
- ปรับผังเหตุผล ศึกษาปลายทางที่เราสนใจศึกษาให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน
- เปลี่ยนจากการหมักสมุนไพรเป็นการรมควันแทนเพื่อนให้ได้ผลการทดลองที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- หาแหล่งข้อมูลที่ชัดเจน
- หาสรรพคุณของสมุนไพรแต่ล่ะชนิด
- สารวจงบประมาณรายจ่ายที่ชัดเจน
- ศึกษาการเกิดมอดในข้าวเปลือก
- รวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน
เมื่อกับมาจึงวางแผนร่วมกับเพื่อนๆที่จะทาโครงงานไปในรูปแบบใดเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์และถู
กต้องยิ่งขึ้นตามที่ได้ถูกเสนอแนะและนาข้อมูลนั้นให้กับคุณครูที่ปรึกษาโดยอาจารย์ที่ปรึกษาได้ให้กาลังใจ
ว่าสิ่ ง ที่ เราท าถู กต้อง แล้ว เพี ยง แ ต่ต้อง ป รับ เป ลี่ ยน ใ น ก ารก ารง าน เป็ น ที มยิ่ง ขึ้ น
สนับสนุ น การศึกษาเอกสารและสืบค้นข้อมูลโดยได้ประ สานงาน คอมพิวเตอร์ ในสื บค้น
จนสุดท้ายสามารถปรับปรุงเค้าโครงงานได้ตามนี้