1. โครงงาน คือ กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้ทาการศึกษาค้นคว้า
และฝึกปฏิบัติด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ
โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นๆ ไปใช้ใน
การศึกษาหาคาตอบ โดยมีครูผู้สอนคอยกระตุ้นแนะนาและให้คาปรึกษา
แก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด โดยผู้ทาต้องการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่ง
หนึ่ง หรือหลายๆสิ่งที่อยากรู้คาตอบให้ลึกซึ้ง หรือเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆให้
มากขึ้น โดยใช้กระบวนการ วิธีการที่ศึกษาอย่างมีระบบ เป็นขั้นตอน มี
การวางแผนในการศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ จน
ได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคาตอบในเรื่องนั้นๆ

2. หลักการทาโครงงาน
 -เน้นการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
 -ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษาค้นคว้าเอง
 -ลงมือปฏิบัติเอง
 -นาเสนอโครงงานเอง
 -ร่วมกาหนดแนวทางวัดผลและประเมินผล

3. ความสาคัญของโครงงาน
 -ช่วยให้นักเรียนมีกระบวนการคิดและการทางานอย่างเป็นระบบ
 -ฝึกให้รู้จักการทางานร่วมกับผู้อื่น
 -ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

4. แหล่งที่มา
 http://www.slideshare.net/MindJustSmile/ss-6889063
http://luckystarsw.wordpress.com/category/%E0%B9%82
%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0
%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B
8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%8
0%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%
E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2/

6.  1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์

2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญืจะอยู่ใน
รูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป

3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการ
ทดลองของสาขาต่างๆ

4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจาวัน

5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก

7.  http://www.lks.ac.th/kuanjit/s5.htm
 http://www.gotoknow.org/blogs/posts/3
14100

8. ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา”
ใ ห้ นั ก เ รี ย น เ ปิ ด เ ค รื่ อ ง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ แ ล้ ว ค้ น ห า
ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ ตั ว อ ย่ า ง หั ว ข้ อ โ ค ร ง ง า น ป ร ะ เ ภ ท
ก า ร พั ฒ น า สื่ อ เ พื่ อ ก า ร ศึ ก ษ า จ า ก แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล
( ห้ อ ง ส มุ ด / อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต ) อ ย่ า ง น้ อ ย 5 โ ค ร ง ง า น
แ ล้ ว บั น ทึ ก ล ง ก ร ะ ด า ษ ข น า ด A 4 ที่ เ ต รี ย ม ม า พ ร้ อ ม เ ขี ย น
แ ห ล่ ง ที่ ม า ห รื อ A D D R E S S ข อ ง W E B S I T E ที่ นั ก เ รี ย น
ค้ น ห า ข้ อ มู ล เ ห ล่ า นั้ น ด้ ว ย

9. โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา”
ลักษณะเด่นของโครงงานนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน
หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบ
รายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็น
การพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้

10. โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆโดยผู้เรียนอาจจะคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มา
เป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ตัวแปรต่างๆ สถานที่
ท่องเที่ยวสาคัญของประเทศไทย เป็นต้น

11. ตัวอย่างโครงงานประเภทการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
1.โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
2.โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ
3.โปรแกรมดนตรีไทยแสนสนุก
4.โปรแกรมความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
5.โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก
http://www.slideshare.net/annynasonsawan/4-13755283

12. ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”
------------------------------------------------
-----------------
ให้นักเรียนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วค้นหาความหมายและตัวอย่าง
หัวข้อโครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ จาก
แหล่งข้อมูล (ห้องสมุด /อินเทอร์เน็ต) อย่างน้อย 5 โครงงาน แล้ว
บันทึกลงกระดาษขนาด A4 ที่เตรียมมาพร้อมเขียน แหล่งที่มา
หรือ Address ของ website ที่นักเรียนค้นหาข้อมูลเหล่านั้นด้วย
หมายเหตุ : ให้พิมพ์(print) หรือ คัดลอกลงกระดาษ A4 ส่วน
ข้อความที่ต้องเติมให้ เขียน ด้วยปากกาสีดา หรือ น้าเงิน


13. • 1.โปรแกรมการค้นหาคาภาษาไทย
• 2.โปรแกรมอ่านอักษรไทย
• 3.โปรแกรมวาดภาพสามมิติ
• 4.โปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล
• 5.โปรแกรมบีบอัดข้อมูล
• 6.โปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์
• 7.โปรแกรมการออกแบบผังงาน
• 8.พอร์ตแบบขนานของไทย
• 9.การส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
• 10.Autodesk® Revit® MEP 2013

15. • Autodesk® Revit® MEP 2013 เป็นซอฟท์แวร์ที่ช่วยให้สถาปนิกและนัก
ออกแบบ ทางานได้เหมือนกันกับที่คิด ทาให้สามารถพัฒนาแบบสถาปัตยกรรมให้ถูกต้อง
มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีคาสั่งพิเศษที่ออกแบบให้รองรับการทางานการโมเดล
รายละเอียดอาคาร (BIM-Building Information Modeing)ตามลาดับการ
ทางาน (Workflow) การสร้างโมเดลอาคารตามแนวความคิด วิเคราะห์ และ ปรับแก้
ตั้งแต่ออกแบบ แบบก่อสร้าง และ การก่อสร้าง ได้แม่นยา ซึ่งมีซอฟท์แวร์ที่จาหน่าย 2 รุ่น
คือ
รุ่น Autodesk® Revit® 2013 ที่ประกอบด้วยโปรแกรมอีก 3 ชุดในโปรแกรม
เดียว คือ Autodesk® Revit® Architecture 2013, Autodesk®
Revit® MEP 2013, และ Autodesk® Revit® Structure 2013 ซึ่งรุ่น
นี้ จะอยู่ในโปรแกรมชุด (Suite) ของ Autodesk® Building Design Suite
Premium Edition และ Ultimate Edition
และ รุ่น Autodesk® Revit® MEP 2013 สาหรับการทางานแบบ Stand
Alone

16. • http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7
• http://www.easyhome.in.th/images1/homesite-4.gif

17. ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลอง
ทฤษฎี”
ให้นักเรียนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วค้นหาความหมายและ
ตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี จาก
แหล่งข้อมูล (ห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต) อย่างน้อย 5 โครงงาน
แล้วบันทึกลงกระดาษขนาด A4 ที่เตรียมมาพร้อมเขียน แหล่งที่มา
หรือ Address ของ website ที่นักเรียนค้นหาข้อมูลเหล่านั้น
ด้วย

18. โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
 โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จาลองการ
ทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริง
ได้ เช่น การจุดระเบิด และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้
หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา
แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจจะอยู่ ในรูปของสูตร
สมการ พร้อมทั้งจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้
ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดี
ยิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้ มี

19.  จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆเป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงาน
จาลองทฤษฎี เช่น การทดลองการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องการ
มองเห็นแบบสามมิติ เป็นต้น

20. ตัวอย่างโครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
 1.โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
 2.การทดลองปัจจัยต่างๆในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์
 3.การทดลองผสมสารเคมีต่างๆด้วยคอมพิวเตอร์
 4.การทดลองปัจจัยต่างๆในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
 5.ปัจจัยต่างๆกับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
 ที่มา http://www.slideshare.net/mcf_cnx1/ss-
14040037

21. ให้นักเรียนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วค้นหาความหมายและตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภทการ
ประยุกต์ใช้งาน จากแหล่งข้อมูล (ห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต) อย่างน้อย 5 โครงงาน แล้วบันทึกลง
กระดาษขนาด A4 ที่เตรียมมาพร้อมเขียน แหล่งที่มา หรือ Address ของ website ที่นักเรียน
ค้นหาข้อมูลเหล่านั้นด้วย
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”

22. โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
• โครงงานการประยุกต์การใช้งานเป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงใน
ชีวิตประจาวัน เช่น ซอฟแวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟแวร์สาหรับการผสมสี เป็นต้น โครงงาน
ประเภทนี้ จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ หรือ อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือ
ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้ จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความ
ต้องการของผู้ใช้งานก่อน

23. ตัวอย่างโครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
• 1.โครงงานซอฟแวร์สาหรับการผสมสี
• 2.โครงงานสาหรับการออกแบบตกแต่งภายในอาคาร
• 3.โครงงานระบบสุริยจักรวาล
• 4.โครงงานคอมพิวเตอร์โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี
• 5.โปรแกรมออกแบบรถยนต์
• ที่มาhttp://www.slideshare.net/ThanatSuriyawong/ss-14079598

24. ให้นักเรียนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วค้นหาความหมายและ
ตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
จากแหล่งข้อมูล (ห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต) อย่างน้อย 5
โครงงาน แล้วบันทึกลงกระดาษขนาด A4 ที่เตรียมมาพร้อม
เขียน แหล่งที่มา หรือ Address ของ website ที่
นักเรียนค้นหาข้อมูลเหล่านั้นด้วย

25. โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือความ
เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองฝึกคิดอย่างมี
หลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้
น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการ
สารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆที่มีอยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือ
พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจต่อผู้เล่นกลุ่มต่างๆ

26.  1.การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บนแอนดรอย
 2.การพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์สามมิติ
 3.โปรแกรมเกมเขาวงกต
 4.โปรแกรมเกมหมากฮอส
 5.โปรแกรมอักษรไขว้
 ที่มา
http://www.slideshare.net/mansupotyrc/8-
14484169

27. กิจกรรมต่อไปนี้ปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาอะไร ? ได้ประโยชน์อย่างไร ?
1. ไปเที่ยวศูนย์การค้า
เพื่อแก้ปัญหา การเกิดความเครียด ต้องการพักผ่อน และซื้อเครื่องใช้ประจาตัว
ได้ประโยชน์ คือ เพื่อขจัดความเครียด ได้พักผ่อนและได้เครื่องใช้ประจาตัว
2. ทาความสะอาดบ้าน
เพื่อแก้ปัญหา บ้านไม่สะอาด มีสิ่งสกปรก และจัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่
ได้ประโยชน์ คือ เพื่อให้บ้านสะอาด น่าอยู่ มีสุขอนามัยที่ดี

28.  3. ดูทีวี
เพื่อแก้ปัญหา คลายความเครียด และมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น
ได้ประโยชน์ คือ สามารถเพิ่มเติมความรู้ใหม่ๆได้เช่น ข่าวสาร หรือสารคดีต่างๆ
 4. ซื้ อจักรยานยนต์
เพื่อแก้ปัญหา เพื่อความสะดวกสบายและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่สูงในการซื้อ
รถยนต์
ได้ประโยชน์ คือ ช่วยให้การคมนาคมสะดวกสบายในระยะเวลาที่เร่งรีบ
 5. ทานา
เพื่อแก้ปัญหา การบริโภคข้าวของคนไทยและการส่งออกข้าวที่ไม่เพียงพอ
ได้ประโยชน์ คือ ช่วยให้คนไทยมีข้าวรับประทานเพียงพอและช่วย

29.  6. มาเรียนหนังสือ
เพื่อแก้ปัญหา ช่วยพัฒนาความรู้ความสามารถในการดาเนินชีวิตประจาวัน
ได้ประโยชน์ คือ ทาให้เรามีความรู้ และได้ประกอบอาชีพที่ดี
 7. ตั้งใจเรียน
เพื่อแก้ปัญหา การเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจในบทเรียน
ได้ประโยชน์ คือ ทาให้เราเข้าใจบทเรียนและเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 8. เรียนภาษาอังกฤษ
เพื่อแก้ปัญหา มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษที่อ่อน และใช้ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องตามหลัก
ได้ประโยชน์ คือ ทาให้เข้าใจและใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง

30.  9. เรียนคอมพิวเตอร์
เพื่อแก้ปัญหา ไม่เข้าใจหลักการทางานต่างๆของคอมพิวเตอร์และใช้ไม่คล่องแคล่ว
ได้ประโยชน์ คือ ทาให้ได้ความรู้ในการใช้คอมพิวเตอร์ที่สามารถนาไปใช้ได้
 10. สมัครงาน
เพื่อแก้ปัญหา ไม่มีงานทาหรือต้องการนาความรู้ไปประกอบอาชีพให้ตรงกับสาขาของตน
ได้ประโยชน์ คือ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆในการทางานกับเพื่อนร่วมงาน

31. ใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจาเป็นในการทาโครงงาน
ให้นักเรียนคิดหาคาตอบว่า เราทาสิ่งต่อไปนี้เพื่อแก้ปัญหาอะไร ? ได้ประโยชน์อย่างไร ?
กิจกรรมต่อไปนี้ปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาอะไร ? ได้ประโยชน์อย่างไร ?
1. ไปเที่ยวศูนย์การค้า
เพื่อแก้ปัญหา การเกิดความเครียด ต้องการพักผ่อน และซื้อเครื่องใช้ประจาตัว
ได้ประโยชน์ คือ เพื่อขจัดความเครียด ได้พักผ่อนและได้เครื่องใช้ประจาตัว
2. ทาความสะอาดบ้าน
เพื่อแก้ปัญหา บ้านไม่สะอาด มีสิ่งสกปรก และจัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่
ได้ประโยชน์ คือ เพื่อให้บ้านสะอาด น่าอยู่ มีสุขอนามัยที่ดี

32.  3. ดูทีวี
เพื่อแก้ปัญหา คลายความเครียด และมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น
ได้ประโยชน์ คือ สามารถเพิ่มเติมความรู้ใหม่ๆได้เช่น ข่าวสาร หรือสารคดีต่างๆ
 4. ซื้อจักรยานยนต์
เพื่อแก้ปัญหา เพื่อความสะดวกสบายและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่สูงในการซื้อรถยนต์
ได้ประโยชน์ คือ ช่วยให้การคมนาคมสะดวกสบายในระยะเวลาที่เร่งรีบ
 5. ทานา
เพื่อแก้ปัญหา การบริโภคข้าวของคนไทยและการส่งออกข้าวที่ไม่เพียงพอ
ได้ประโยชน์ คือ ช่วยให้คนไทยมีข้าวรับประทานเพียงพอและช่วย

33.  6. มาเรียนหนังสือ
เพื่อแก้ปัญหา ช่วยพัฒนาความรู้ความสามารถในการดาเนินชีวิตประจาวัน
ได้ประโยชน์ คือ ทาให้เรามีความรู้ และได้ประกอบอาชีพที่ดี
 7. ตั้งใจเรียน
เพื่อแก้ปัญหา การเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจในบทเรียน
ได้ประโยชน์ คือ ทาให้เราเข้าใจบทเรียนและเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 8. เรียนภาษาอังกฤษ
เพื่อแก้ปัญหา มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษที่อ่อน และใช้ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องตามหลัก
ได้ประโยชน์ คือ ทาให้เข้าใจและใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง

34.  9. เรียนคอมพิวเตอร์
เพื่อแก้ปัญหา ไม่เข้าใจหลักการทางานต่างๆของคอมพิวเตอร์และใช้ไม่คล่องแคล่ว
ได้ประโยชน์ คือ ทาให้ได้ความรู้ในการใช้คอมพิวเตอร์ที่สามารถนาไปใช้ได้
 10. สมัครงาน
เพื่อแก้ปัญหา ไม่มีงานทาหรือต้องการนาความรู้ไปประกอบอาชีพให้ตรงกับสาขาของตน
ได้ประโยชน์ คือ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆในการทางานกับเพื่อนร่วมงาน