More Related Content
Similar to ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
Similar to ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน (20)
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
- 1. ขอบข่ ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ ายของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงาน การดาเนินงานโดยมีนกเรี ยนเป็ นผู้ริเริ่มสร้ างสรรค์ และครูอาจารย์เป็ นผู้ให้ คาแนะนา
ั
ปรึกษา สรุปได้ ดงนี ้คือ
ั
1. เป็ นกิจกรรมการศึกษาที่ให้ นกเรี ยนศึกษา ค้ นคว้ า ปฏิบติด้วยตนเอง โดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎี
ั ั
ตามเนื ้อหาโครงงานนันๆ หรื อจากประสบการณ์ และกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ พบเห็นมาแล้ ว
้
2. นักเรี ยนทุกคนเป็ นผู้พิจารณาจัดทาโครงงานด้ วยตนเอง หรื อกลุ่ม จานวน 2-8 คน ต่อกลุ่ม โดยใช้
ระยะเวลาสันๆ เป็ นภาคเรี ยน หรื อมากกว่าก็ได้
้
3. นักเรี ยนเป็ นผู้พิจารณาริเริ่ มสร้ างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้ นคว้ า ปฏิบติด้วยตนเองตามความ
ั
ถนัด สนใจและความพร้ อม
4. นักเรี ยนเป็ นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงานแผนปฏิบติงาน และแปรผลรายงานต่อครูอาจารย์
ั
ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้ บรรลุตามจุดหมายที่กาหนด
5. เป็ นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรี ยนตามวัยและสติปัญญา รวมทังการใช้ ้
จ่ายเงินดาเนินงานด้ วย
ประเภทของโครงงาน
โครงงานโดยทัวไปแบ่งเป็ นประเภทใหญ่ ๆ 5 ประเภท ได้แก่
่
1. โครงงานทีใช้ คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสื่ อเพือการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรี ยนหรื อหน่วยการ
่ ่
เรี ยน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึ กหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยนแบบ
รายบุคคลหรื อรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์การสอน ซึ่ง
อาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบออนไลน์ ให้ผเู้ รี ยนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถ
พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผูเ้ รี ยนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็ นหัวข้อใน
การพัฒนาสื่ อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบ โปรเจ็กไตล์ ระบบสุ ริยจักรวาล ตัว
แปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็ นต้น
- 2. 2. โครงงานสารวจหรือรวบรวมข้ อมูล ผูเ้ รี ยนที่จดทาโครงงานประเภทนี้ มีจุดประสงค์เพื่อสารวจและเก็บ
ั
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่ องที่กาลังศึกษา หรื องานที่กาลังทา โดยมีระบบในการจาแนกและนาเสนอเพื่อ
ความชัดเจน วิธีการใช้อาจเป็ นการสัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม การสารวจจากสภาพจริ ง เพื่อนามาพัฒนา
ปรับปรุ งหรื อส่ งเสริ มเพื่อให้ได้ผลดียงขึ้นเช่น ศึกษาเรื่ องเล่าในท้องถิ่น
ิ่
3. โครงงานประเภทศึกษาค้ นคว้า ผูเ้ รี ยนที่จดทาโครงงานประเภทนี้ มีจุดประสงค์เพื่อแสวงหาความรู้
ั
ตรวจสอบข้อเท็จจริ ง พิสูจน์ทฤษฎีหรื อเรื่ องเล่าต่างๆ จากการศึกษาค้นคว้าทั้งจากแหล่งวิทยาการต่างๆ เช่น
ห้องสุ ด สถาบันการศึกษา แหล่งเรี ยนรู ้ประเภทเอกสาร เช่น ตารา รายงานการค้นคว้าทาง
วิชาการหรื อเอกสารทางวิชาการและตัวบุคคล ได้แก่ผที่มีความรู ้ในเรื่ องนั้นโดยตรง ซึ่ งเป็ นแหล่งที่มีอางอิง
ู้ ้
ข้อมูลชัดเจนและเชื่อถือได้ ผลที่ได้จากการค้นคว้าอาจไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่เมื่อปรับปรุ งแก้ไขวิธีการที่
ถูกต้องจากผูสอนแล้ว ก็สามารถเป็ นแม่แบบแม่บทในการเรี ยนหรื อการศึกษาค้นคว้าเพื่อแสวงหาความรู ้
้
ด้วยตนเองในระดับชั้นที่สูงขึ้นหรื อนาใช้ในชีวิตจริ งได้ เช่น ศึกษาประวัติบุคคลสาคัญ
4. โครงงานทดลอง ผูเ้ รี ยนที่จดทาโครงงานประเภทนี้ มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความเป็ นไปได้ซ่ ึงการทดลอง
ั
อาจมีหลายขั้นตอนเพื่อให้ได้ขอมูลมาประกอบการตัดสิ นใจในเบ้องต้นแล้วจึงมีการศึกษาค้นคว้าต่อไป เช่น
้
แต่งคาประพันธ์ร้อยกรอง โดยคิดกาหนดฉันท์
5. โครงงานสิ่ งประดิษฐ์ ผูเ้ รี ยนที่จดทาโครงงานประเภทนี้ จะได้รับการส่ งเสริ มให้สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์
ั
หรื อพัฒนาชิ้นงานโดยสิ่ งที่ผจดทาโครงงาจะได้รับคือส่ งเสริ มความคิดสร้างสรรค์โดยการสังเกต วิเคราะห์
ู้ ั
กลวิธีในการจัดการต่างๆ แล้วพัฒนาหรื อสร้างชิ้นงานขึ้นใหม่เพื่อสนองความต้องการของสังคมตามความรู ้
่
ความสามารถที่มีอยูหรื อที่ได้รับจากบทเรี ยน เช่น การเขียน หลักภาษา
การนาโครงงานไปประยุกต์ใช้ เช่น การทาวารสาร สื่ อโฆษณา วิถีการดาเนินชีวตด้วยหลักปรัชญา
ิ
ของเศรษฐกิจพอเพียง คิดเป็ น คิดดี คิดสร้างสรรค์ คิดอย่างเศรษฐกิจพอเพียง ประหยัดและอดออมฯลฯ
ทีมา http://www.slideshare.net/minniebrownberry/ss-13664748
่