SlideShare a Scribd company logo
1 of 41
Download to read offline
แคลคูลัส 2




บทที่ 8
ลําดับและอนุกรม
1.   ลําดับ (Sequence)
     1.1   ความหมายของลําดับ
        บทนิยาม 8.1.1 ลําดับ (Sequence) คือ ฟงกชันที่มีโดเมนเปนสับเซตของจํานวนเต็มบวก และ
                          มีเรนจเปนเซตของจํานวนจริง โดย
                          ถาโดเมนเทากับ {1, 2, 3, …, n} จะเรียกลําดับนันวา ลําดับจํากัด
                                                                           ้
                          ถาโดเมนเทากับ {1, 2, 3, …} จะเรียกลําดับนันวา ลําดับอนันต
                                                                        ้
        ถา f เปนลําดับ จะเรียก f (n) วา พจนที่ n ของลําดับ และนิยมเขียนแทนลําดับ f ดวยรูปแบบ
อยางใดอยางหนึ่งตอไปนี้
รูปแบบที่ 1 เขียนแทนลําดับ f เปน f (1), f (2), f (3), ..., f (n), ...
รูปแบบที่ 2 เขียนแทนลําดับ f เปน a , a , a , ..., a , ... โดยที่ a  f (1), a  f (2), ..., a  f (n)
                                       1       2           3             n               1             2            n

รูปแบบที่ 3 เขียนแทนลําดับ f เปน {a } ซึ่ง a คือพจนที่ n หรือพจนทั่วไปของลําดับ {a }
                                           n                       n                                               n

ตัวอยาง 8.1.1 จงหาพจนที่ n ของลําดับตอไปนี้
                                                                                                                1 1 1 1
                1. 1, 4, 9, 16                                         2. 3, 5, 7, 9, …                    3.    , , , , ...
                                                                                                                3 4 5 6
วิธีทํา         1. จากลําดับ 1, 4, 9, 16, …
                   เขียนไดเปน 1 , 2 , 3 , 4 , ...
                                   2       2       3           2


                   ดังนั้น พจนท่ี n คือ n           2


                2. จากลําดับ 3, 5, 7, 9, …
                   เขียนไดเปน 2(1)  1, 2(2)  1,                          2(3)  1, 2(4)  1, ...
                   ดังนั้น พจนท่ี n คือ 2n  1
                               1 1 1 1
                3. จากลําดับ    , , , , ...
                                 3 4 5 6
                     เขียนไดเปน 1 , 1 , 1 , 1 , ...
                                    1 2 2  2 3  2 4  2
                     ดังนั้น พจนท่ี n คือ  1 
                                                
                                           n  2




บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                                 หนา 165
แคลคูลัส 2

ตัวอยาง 8.1.2 จงเขียน 4 พจนแรกของลําดับตอไปนี้
                                                 1  n                       n 
                     1.   2  n   2
                                              2.       
                                                  n  1
                                                                     3.  1        
                                                                                n  1 
                                                                                          n

                                                                        
วิธีทํา              1.   จาก 2  n  จะไดวา
                                            2



                          พจนที่ 1 = 2  1 = 3     2
                                                            พจนที่ 2 = 2   2  = 6         2



                          พจนที่ 3 = 2   3 = 11   2
                                                            พจนที่ 4 = 2   4  = 18        2



                          ดังนั้น 4 พจนแรกของลําดับ 2  n  คือ 3, 6, 11, 18
                                                                      2



                     2.   จาก 1  n  จะไดวา
                                       
                                   n 1
                                           
                                             11                                  1 2     1
                           พจนที่      1 =        = 0                    พจนที่ 2   == 
                                             11                                  2 1     3
                                             1 3      1                          1 4     3
                           พจนที่      3 =        =                 พจนที่ 4 =      = 
                                              3 1     2                          4 1     5
                                                              1  n            1 1 3
                           ดังนั้น 4 พจนแรกของลําดับ                คือ 0,  ,  , 
                                                               n  1           3 2 5

                     3.    จาก  1
                               
                                        n 
                                       
                                            n
                                                 จะไดวา
                                       n  1 

                           พจนที่ 1 =  11  1  =  1 พจนที่ 2 =  12  2  =
                                              
                                                                                   
                                                                                                         2
                                              11         2                  2 1                    3

                           พจนที่ 3 =  13  3  =  3 พจนที่ 4 =  14  4  =
                                                                                  
                                                                                                         4
                                               3 1       4                  4 1                    5

                           ดังนั้น 4 พจนแรกของลําดับ  1n  n  คือ  1 , 2 ,  3 , 4
                                                                    
                                                              n  1    2 3 4 5

    1.2   ลําดับเลขคณิต
          บทนิยาม 8.1.2 ลําดับเลขคณิต (Arithmetic Sequence) คือ ลําดับทีมีผลตางของพจนสอง
                                                                             ่
                        พจนที่อยูติดกัน มีคาเทากันเสมอ ผลตางที่เทากันเสมอนี้เรียกวา ผลตางรวม
                                             
                                 (common different)


                                เปนลําดับเลขคณิต ก็ตอเมื่อ มีคาคงตัว d โดยที่
          a1 , a2 , a3 , ..., an , an 1 , ...                                                   d  an 1  an
สําหรับทุกจํานวนเต็มบวก n จะไดวา
                                                 an 1  an  d

                     และ                         an  a1  (n  1)d




บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                       หนา 166
แคลคูลัส 2

ตัวอยาง 8.1.3 จงหาพจนที่ 50 ของลําดับ 19,  12,  5, 2, 9, ...
วิธีทํา        จะเห็นไดวา ลําดับนี้เปนลําดับเลขคณิต มีผลตางรวมเทากับ 9  2  7
                         
               และมีพจนแรกของลําดับเปน a  19                      1

               จากสูตร          a = a  (n  1)d
                                          n               1

               นั่นคือ          a = a  49d = 19  49(7) = 324
                                          50              1

               ดังนั้น พจนที่ 50 ของลําดับดังกลาวคือ 324
ตัวอยาง 8.1.4 จงหาพจนทั่วไปของลําดับ 15, 12, 9, 6, …
วิธีทํา        จะเห็นไดวา ลําดับนี้เปนลําดับเลขคณิต มีผลตางรวมเทากับ 12 15  3
                           
               และมีพจนแรกของลําดับเปน a  15                       1

               จากสูตร          a = a  (n  1)d
                                          n           1

               นั่นคือ          a = 15  ( n  1)( 3) = 18  3n = 3(6  n)
                                          n

               ดังนั้น พจนทั่วไปของลําดับดังกลาว คือ 18  3n หรือ 3  6  n 

    1.3    ลําดับเรขาคณิต
           บทนิยาม 8.1.3 ลําดับเรขาคณิต (Geometric Sequence) คือ ลําดับที่มีอัตราสวนของพจนสอง
                              พจนที่อยูติดกัน มีคาเทากันเสมอ อัตราสวนที่เทากันเสมอนี้เรียกวา
                                                   
                              อัตราสวนรวม (common ratio)
                                                                                               a
           a , a , a , ..., a , a , ... เปนลําดับเรขาคณิต ก็ตอเมื่อ มีคาคงตัว r โดยที่ r 
            1   2   3         n   n 1                                                           สําหรับ        n 1

                                                                                                                  an
ทุกจํานวนเต็มบวก n จะไดวา
                                               an 1  an r

                    และ                 a  ar    n               1
                                                                          n 1



ตัวอยาง 8.1.5      จงหาพจนที่ 7 ของลําดับ 1 , 2 ,            4
                                                                 , ...
                                                          3 9 27
                                                                                           2                  1
วิธีทํา             จะเห็นไดวา ลําดับนี้เปนลําดับเรขาคณิต มี r =
                                                                                              และ     a1 
                                                                                           3                  3
                    จากสูตร          a = ar
                                          n               1
                                                              n 1

                                                                                       6
                                                     1  2       64
                 นั่นคือ          a7 = a1r =     =        6

                                                     3  3      2187
ตัวอยาง   8.1.6 จงหาพจนทั่วไปของลําดับ 27, 9,  3, 1, ...

วิธีทํา          จะเห็นไดวา ลําดับนี้เปนลําดับเลขคณิต มี r =  1 และ a1  27
                           
                                                                 3
                 จากสูตร          an = a1r   n 1

                                                                                 n1              n
                                                     1                                     1
                    นั่นคือ              an = (27)                               = 81    
                                                     3                                     3
                                                                                                n
                                                                                                   
                    ดังนั้น พจนทั่วไปของลําดับดังกลาว                          คือ 81   1  
                                                                                               
                                                                                       3 
                                                                                                  

บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                                  หนา 167
แค ลัส 2
                                                                                                         คลคู

  1.4   ลิมิตของลํา บ
                 าดั
           ในหั
           ใ วขอนี้จะ าวถึงลิมต าดับอนนตโดยการพิจารณาพจนที่ n ของลํา บ เมือ n มีคา
                       ะกล         ตของลํ นั
                                    ิ                                    น         าดั ่
เพิ่มขึ้นเเรื่อยๆ อยางไ มีที่สด หรื
              ื        ไม ุ รออาจกลาววา n มีคาเขาสูอนันต และ ยนแทนคา n เขาสูอนันตดวย
                                                                        ะเขี              ั 
n   ดังตัวอยางตอไปนี้
                       ต
ตัวอยาง 8.1.7 กําห าดับ a  1  1 จง ยนกราฟข าดับนี้ พ อมทั้งพิจา กษณะ a
                      หนดลํ       n               งเขี       ของลํ       พร        ารณาลั ะของ                n
                                             n
                   ในขณะที่ n มีคาเพิ่มขึ้นอยาง มีที่สนสุด
                                                  งไม ิ้
วิธีทํา            ถาเขียนลําดับนี้ ใหอยูในรูปเซ
                       ขี                         ซตของคูอันดับ (n, a ) จะเขียนไดดัง ้
                                                                           n         งนี
                          3  4  5                        1 
               1, 2  ,  2,  ,  3,  ,  4,  , ...,  n,1   , ...
                  ,                            ,
                          2  3  4                        n 
               เมื่อลงพิกัดของคูอันดับบนระ
                              คู          ะนาบพิกัดฉาก จะพบวาในนขณะที่ n มีคามากขึ้น คาของ
                                                                            ค
                a ซึ่งเปนจํานว
                 n            วนจริงบวกจะ คาลดลงเขาใกล 1 นั่นคือ lim a  1
                                          ะมี       ข                                   n
                                                                                  n 




ตัวอยาง 8.1.8 กําห าดับ a  2 จงเขียนกราฟข าดับนี้ พ อมทั้งพิจารณาลักษณะของ
                  หนดลํ           n
                                         2 n 1
                                                         ของลํ      พร                                       an
               ในขณะที่ n มีคาเพิ่มขึ้นอยาง มีที่สนสุด
                                              งไม ิ้
วิธีทํา        ถาเขียนลําดับนี้ ใหอยูในรูปเซ
                   ขี                         ซตของคูอันดับ (n, a ) จะเขียนไดดัง ้
                                                                           n     งนี
               1, 2 ,  2, 8 ,  3, 32  ,  4, 128 , ...,  n, 2  , ...
                                                                   2 n1



               เมื่อลงพิกัดของคูอันดับบนระ
                              คู          ะนาบพิกัดฉาก จะพบวาใน    นขณะที่ n มีคามากขึ้น คาของ
                                                                                ค
                a ซึ่งเปนจํานว
                 n            วนจริงบวกจะ คาเพิ่มขึ้นอยางไมมีทสนสุด นั่นคือ lim a  
                                          ะมี         อ          ส้ิ้
                                                                 ี่                                 n
                                                                                             n 




บทที่ 8 ลําดับและอนกรม
                  นุ                                                                                     หนา 168
                                                                                                         ห
แค ลัส 2
                                                                                                         คลคู

ตัวอยาง 8.1.9 กําห าดับ a  cos(n ) จงเขียนกราฟของลําดับ ้ พรอมทั้งพจารณาลักษณะของ
                   หนดลํ                   n                                       บนี          พิ        ษ
                a ในขณะที่ n มีคาเพิ่มขึ้นอ างไมมีที่สนสุด
                       n                            อย              น
                                                                     ิ้
วิธีทํา        ถาเขียนลําดับนี้ ใหอยูในรูปเซ
                    ขี                              ซตของคูอันดับ (n, a ) จะเขียนไดดัง ้
                                                                         n                     งนี
               1,  1 ,  2, 1 ,  3,  1 ,  4, 1 , ...,  n, cos(n )  , ....
                                                                     c
               เมื่อลงพิกัดของคูอันดับบนระ
                                  คู               ะนาบพิกัดฉาก จะพบวาใน           นขณะที่ n มีคามากขึ้น คาของ
                                                                                                ค
                a จะสลับระหวาง -1 กับ 1 นั่นคือ lim a หาคาไม
                       n          ว                             n m              มได
                                                             
                                                           n




                                                                              1
             จากตัวอยางที่ 8.1.7 ถึงตวอยางที่ 8.1.9 จะเห็นวา ลําดับ
                                     ตั                                      1     หาลิมิตได สวนลําดับ
                                                                                          มิ
                                                                              n
2  ลิมิตมีคาอนันต และลําดับ cos  n  หาคาลิมิตไมได
   2 n1
                นั                                  มิ
    บทนิยาม 8.1.4 ลําดับ            เเปนลําดับลูเ ขา (converg sequenc มีคาเขาสู L เขียนแท วย
                                      an                       gent    ce)                    ทนด
                           lim a  L ก็ตอเมื่อสําหรับจํานวนจ ง   0 ใดๆ จะมีจํานวนเต็ม N ซึงเมื่อ
                                  n                            จริ                             ง
                                                                                               ่
                           n 

                           n  N แลว a  a    n



             ถาลําดับที่ไมเปนลําดับลูเเขา เราจะกลาววาเปนลําดับลูออก (diivergent seq
                          ม                        ล           ด                       quence) หรือลําดับ
                                                                                                    อ
ไมลูเขา
    บทนิยาม 8.1.5 ลําดับ a เเปนลําดับลูออกสู  (div to  ) เขียนแทนดวย lim a  
                                       n             verge                ด                    n 
                                                                                                        n


                  ก็ตอเมื่อทุกๆ จํานวน M  0 จะมีจํานวนเต็มบว N ซึ่งเมื่อ n  M แลวจะ
                                                             วก                   ล
                  ไดวา a  M        n

                  ลําดับ a เปนลําดับลูออ   (diverge to  ) เขียนแทน วย lim a  
                               ป     n   อกสู                           นด                     n
                                                                                                            n


                  ก็ตอเมื่อทุกๆ จํานวน M  0 จะมีจํานวนเต็มบว N ซึ่งเมื่อ n  M แลวจะ
                                                             วก                   ล
                  ไดวา a  M       n



      คา L เปนคา มิตของลําดบ จากนิยาม นวาเปนเชนเดียวกับคาลิมิตของฟงกชัน f ( x) เมื่อ
                 าลิ          ดั            มจะเห็ ป               กั
x   เราสามารถแ  แสดงไดวา liim f (n)  lim f ( x) เมือ x เปนจํานวนจริง และ n เปนจํานวน มบวก
                                            m           ่                                 นเต็
                                           n       x
                                                      

                                                               1
จากตัวอ างที่ 8.1.7 ถึงตัวอยางที่ 8.1.9 จะไดวา ลําดับ
      อย                      ที           ด                1       เปน าดับลูเขา ลําดับ 2  และ
                                                                            นลํ                            
                                                                                                        2 n1

                                                               n
ลําดับ cos  n  เเปนลําดับลูออก

บทที่ 8 ลําดับและอนกรม
                  นุ                                                                                        หนา 169
                                                                                                            ห
แคลคูลัส 2

          ทฤษฎีบทตางๆ ที่เกี่ยวกับลิมิตของฟงกชันของจํานวนจริงก็ยงคงเปนจริงสําหรับลิมิตของลําดับ
                                                                   ั
    ทฤษฎีบท 8.1.1 ถา a  และ b  เปนลําดับลูเขา จะได
                                 n          n

                      1. lim k  an  k lim an
                          n               n 

                      2. lim  an  bn   lim an  lim bn
                          n                    n            n 

                      3. lim  an  bn   lim an  lim bn
                          n                   n        n 

                              a  lim an
                      4. lim  n   n
                         n  b
                                                        เมื่อ   lim bn  0
                                                                n 
                              n  lim bn
                                     n 



        การหาลิมตของลําดับมีวิธการเชนเดียวกับการหาลิมตของฟงกชัน
                  ิ                ี                             ิ
ตัวอยาง 8.1.10 ลําดับ 3 , 2, 9 , 12 , ... เปนลําดับลูเ ขาหรือไม
                         2     4 5
วิธีทํา          จากลําดับ , 2, 9 , 12 , ... เขียนใหอยูในรูปพจนทั่วไปได an  3n
                             3
                             2      4 5                                         n 1
                                 3n             3        3
                 เพราะวา lim
                           n  n  1
                                        lim                  3
                                          n 
                                               1
                                                  1   1 0
                                                  n
                 นั่นคือ ลําดับลูเขาหา 3
    ทฤษฎีบท 8.1.2 ลําดับเรขาคณิต a, ar , ar , ..., ar , ...
                                                          2             n


                  1. ถา r  1 ลําดับจะลูเขา 0
                  2. ถา r  1 ลําดับเปนลําดับคงที่ (ลูเขา)
                  3. ถา r  1 ลําดับจะลูออกสู 
                  4. ถา r  1 ลําดับจะลูออก

ตัวอยาง 8.1.11 จงตรวจสอบวาลําดับตอไปนี้เปนลําดับลูเขาหรือไม ถาเปนลําดับลูเ ขา จงหาลิมิต
                    1  n 2                                                   ln n 
                 1.                                                       2.       
                     n5                                                      n 
                    1 2 3 4                                                         1 1 1 1
                 3. , , , , ...                                             4. 1,  , ,  , , ...
                    2 3 4 5                                                         2 4 8 16
                    5 8 11 14                                                  5  2 7  4 9  8 11 16
                 5. , , , , ...                                             6.        ,      ,        ,      , ...
                    2 3 4 5                                                        1       2       3       4
                 7.    2n  
                             1
                             n
                                                                                3n  2 
                                                                            8. 
                                                                                n3
                                                                                         

                                                                                                     1
                                                                                                        1
                                          1  n2                                     1 n  2
                                                                                                     n2
วิธีทํา          1.   จากลําดับ      an                จะไดวา       lim an  lim           lim         
                                           n5                         n       n  n  5    n  1
                                                                                                       2
                                                                                                         5
                                                                                                    n n
                      ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูออก

บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                         หนา 170
แคลคูลัส 2
                                       ln n                                       ln n                      
              2.   จากลําดับ    an           จะไดวา      lim an  lim                       อยูในรูป        ใชกฎของโลปตาล
                                        n                   n               n  n                        
                                           1
                 จะได lim ln n  lim n  lim 1  0 ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูเขา 0
                         n  n       n  1     n  n

                              1 2 3 4                                  n
              3. จากลําดับ , , , , ... เขียนในรูปพจนทั่วไปได an 
                              2 3 4 5                                n 1
                 จะได lim an  lim n  lim 1 1  1  1
                                  n  n  1
                         n                  n 
                                                    1     1 0
                                                        n
                 ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูเขา 1
                                                                                                                         n 1
                                    1 1 1 1                                                                       1
              4.   จากลําดับ    1,  , ,  , , ...               เขียนในรูปพจนทั่วไปได                    an    
                                    2 4 8 16                                                                      2
                                                                 1 1
                   ซึ่งเปนลําดับเรขาคณิตที่มี          r        1
                                                                 2 2
                   ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูเขา 0
                                                                                                            3n  1
              5.   จากลําดับ 5 , 8 , 11 , 14 , ... เขียนในรูปพจนทั่วไปได                          an 
                                2 3 4             5                                                          n 1
                                                           1
                                                       3
                                        3n  1             n  30  3
                   จะได lim an  lim
                           n      n  n  1
                                                lim
                                                 n       1 1 0
                                                       1
                                                           n
                   ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูเขา 3
                                  5  2 7  4 9  8 11 16                         (4n 2  6n)
              6.   จากลําดับ             ,     ,      ,      , ... จะได an  (1) n
                                    1        2     3       4                               n
                                                      (4n  6n)
                                                         2
                   นั่นคือ   lim an  lim(1)n  lim
                             n        n      n 
                                                                  แต lim(1)n หาคาไมได
                                                           n          n

                   ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูออก
                                              1                                                 1
              7.   จากลําดับ a   2n  จะไดวา lim a
                                 n
                                              n
                                                                          n    lim  2n  n        อยูในรูป   0
                                                               n                n 
                                                                                                        1
                                                                                    1
                                                                      1                             lim n
                   ใชกฎของโลปตาล จะไดวา lim  2n   e
                                                                                lim ln(2 n )
                                                                      n         n n
                                                                                               e   n 1
                                                                                                             e0  1
                                                        n 

                   ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูเขา 1
                                                                                                                         2
                                                                                                                3 n
                                       3n  2                                             3n  2                          n 
              8.   จากลําดับ    an                   จะไดวา   lim an  lim                     lim
                                        n3                      n               n     n  3 n                    3
                                                                                                                     1
                                                                                                                        n
                   ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูออกสู                  




บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                                     หนา 171
แคลคูลัส 2

แบบฝกหัด 8.1
1.    ลําดับเลขคณิตมีพจนแรกเปน 1 กําหนด a , a , a เปน 3 พจนแรกของลําดับเรขาคณิต จงหา
                                                                7      11       17

      วาผลบวกของ 3 พจนแรกในลําดับเรขาคณิตนี้เทากับเทาไร
2.    จํานวนที่ 9 หารลงตัว ซึ่งมีคาอยูระหวาง 500 และ 800 มีกี่จํานวน
                                   
3.    ถา u  a, u  a  b, n เปนจํานวนเต็มที่มากกวา 2 และ u  2u  u แลว จงหาวา
            1                    2                                                         n       n 1     n2

      u  au
        2
        n           เทากับเทาใด
                    2 n 1


4.    ถาพจนที่ 1 ของลําดับเรขาคณิตคือ 8 มีอัตราสวนรวมเทากับ 3 ถามวา 729 เปนพจนที่เทาไร
                                                                      2             8
5.    ลําดับเรขาคณิตมี n พจน สามพจนสุดทายรวมกันได 1,024 เทาของสามพจนแรกรวมกัน ถาพจน
      ที่ 5 เทากับ 20 พจนสุดทายเทากับเทาไร
6.    จํานวน 5 จํานวนเรียงกันเปนลําดับเรขาคณิต ผลบวกของพจนที่ 1, 3 และ 5 เทากับ 273 ผลคูณ
      ของพจนท่ี 2 และ 4 เทากับ 256 ผลบวกของ 5 พจนแรกเทากับเทาใด (มีมากกวา 1 คําตอบ)
7.    กําหนดลําดับเรขาคณิต 2, 6, 18, … จงหาพจนที่เล็กที่สุดและมีคามากกวา 1,000
                                                                          
8.    ให a , a , a , a เปนพจน 4 พจนเรียงกันในลําดับเรขาคณิต โดยมี a เปนพจนแรก ถา
            1       2        3       4                                                             1

      a  a  6 และ a  a  12 คาสัมบูรณของพจนที่ 5 ของลําดับนี้มีคาเทาไร
        2       3                        3     4                                  
9.    ให a, b, c เปนลําดับเรขาคณิตซึ่งมีผลคูณเทากับ 27 และ a, b  3, c  2 เปนลําดับเลขคณิต
      จงหา a  b  c
10.   ให x, y, z เปนลําดับเลขคณิตซึ่งผลบวกทั้งสามพจนมคาเทากับ 12 ถานํา 1, 4, 11 มาบวกกับแต
                                                            ี
      ละพจนตามลําดับ ปรากฏวาไดเปนลําดับเรขาคณิต จงหาคาของ xyz
11.   ถา a เปนพจนที่ n ของลําดับลูเขา และ a  1 a  1 จงหาลิมิตของลําดับ a นี้
            n                                                       n 1             n                             n
                                                        2       5
12.   จงตรวจสอบวาลําดับตอไปนี้เปนลําดับลูเขาหรือไม ถาเปนลําดับลูเ ขา จงหาลิมิต
           n                                   3n                   n2                               3n  1 
       1)                                  2)                   3)                               4)  2 
           2n  1                              2n  1               3n  1                           n 
           n2  1                                 n n 1
                                                        2
                                                                            n n  1
                                                                                 2
       5)  2                               6) (1) 2            7) (1) 3                        8)   1  (1) n

           n  1                                    n  1                 n  1
           1)n 1                        n                      1                            n
       9)  2                           10)  n               11) ln                         12)  n 
           n                               e                      n                            2 
                                                           n                                 n 
                                                                                                               
      13) sin                        14) cos            15)  n                           16)    
            n                              2n               4                                 2  
                                                                                                               
             n 
      17) cos 
            2 
                       18) n e 
                                2 n
                                                                19)             n 2  3n  n     20)         n2  n     
           3  (1)n        ln(n 2 )                                     2n           1 2 3       n
      21)             22)  2                                23)  tan 1           24)     ...  
                                                                              2n  1       n n n       n
                 2
           n                n                                   




บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                                     หนา 172
แคลคูลัส 2

2.   อนุกรม (Series)
     บทนิยาม 8.2.1 ถา a , a , a ,..., a เปนลําดับจํากัดที่มี n พจน แลว
                                    1       2        3   n                                                      a1  a2  a3  ...  an
                                                                                 n
                   เปนอนุกรมจํากัด เขียนแทนดวย  a หรือ S                                 i          n
                                                                                i 1

                        ถา a , a , a ,..., a ,... เปนลําดับอนันต แลว
                                    1       2        3   n                                         a1  a2  a3  ...  an  ...         เปน
                                                                        
                        อนุกรมอนันต เขียนแทนดวย  a                            i
                                                                        i 1



     2.1   สัญลักษณแทนการบวก
           จะใชอักษรกรีก  (capital sigma) เปนสัญลักษณแทนการบวก ซึ่งมีสมบัตดังนี้
                                                                              ิ
            n
     1.     c  cn เมื่อ c เปนคาคงตัว
           i 1
             n         n
     2.     cai  c ai
           i 1       i 1
                                    เมื่อ c เปนคาคงตัว
            n                 n                  n
     3.      ai  bi    ai   bi
           i 1              i 1               i 1
             n
                                    n(n  1)
     4.     i  1  2  3  ...  n 
        i 1                             2
          n
                                           (n  1)(2n  1)
     5.  i 2  12  22  32  ...  n 2 
        i 1                                      6
                                           n(n  1) 
            n                                                       2

     6.   i3  13  23  33  ...  n3   2 
         i 1                                       
ตัวอยาง 8.2.1 คาของ 1 3  3  5  5  7  ...  21 23                       เทากับเทาใด
                                                                          11                                      11
วิธีทํา             1 3  3  5  5  7  ...  21 23 =                 (2i  1)(2i  1)
                                                                          i 1
                                                                                                           =       (4i
                                                                                                                  i 1
                                                                                                                             2
                                                                                                                                  1)
                                                                             11
                                                                              11
                                                                                         (11  1)(22  1) 
                                                               = 4 i 2   1 = 4                           1(11)
                                                                     i 1    i 1                6        
                                                               = 2013
ตัวอยาง 8.2.2 คาของ         1  2 2  2  32  3  4 2  ...  19  20 2 เทากับเทาใด
                                                                                     19                    19
วิธีทํา        1 2  2  3
                       2                2
                                             3  4 2  ...  19  20 2 =         i(i  1)2 =
                                                                                  i 1
                                                                                                            (i
                                                                                                           i 1
                                                                                                                    3
                                                                                                                          2i 2  i )
                                                                                     19         19         19
                                                                            =     i 3  2 i 2   i
                                                                                     i 1       i 1       i 1

                                                                              19(19  1)      (2 1)(2  2 1)  19(19  1)
                                                                                                       2

                                                                            = 
                                                                                  2        2
                                                                                                      6         
                                                                                                                       2
                                                                            = 36,100 + 4,940 + 190
                                                                            = 41,230




บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                                                  หนา 173
แคลคูลัส 2

   2.2   อนุกรมเลขคณิต
   บทนิยาม 8.2.2 ถา        a1 , a2 , a3 ,..., an   เปนลําดับเลขคณิต ทีมีผลตางรวมเทากับ d แลวจะไดวา
                                                                        ่
                                                         n
                                                    Sn     a1  an 
                                                         2
                                                         n
                    หรือ                            S n   2a1   n  1 d 
                                                         2                  

ตัวอยาง 8.2.3 คาของ 1  6  11  16  ...  101 เทากับเทาใด
วิธีทํา        1  6  11  16  ...  101 เปนอนุกรมเลขคณิตที่มี a  1 ,                    1         d 5       และ   an  101
               หาจํานวนพจนในอนุกรม จากสูตร a  a  (n  1)d         n      1

               แทนคา จะได                        101 = 1 + (n – 1)(5)
                                                                     n = 21
                นั่นคือ อนุกรมนี้มี 21 พจน
                                                                                                  n
                จากสูตรผลบวก n พจนแรกของอนุกรมเลขคณิต                                 Sn           a1  an 
                                                                                                  2
                                                                         21
                จะได       1  6  11  16  ...  101 =                   1  101 = 1071
                                                                         2

   2.3   อนุกรมเรขาคณิต
   บทนิยาม 8.2.3 ถา a , a , a ,..., a เปนลําดับเรขาคณิต ที่มีอัตราสวนรวมเทากับ
                             1   2    3       n                                                                     r 1
                                              a a r
                 แลวจะไดวา           S           , r 11     n

                                                          1 r
                                                     n


                                                         a1 (1  r n )
                    หรือ                            Sn                , r 1
                                                            1 r

ตัวอยาง 8.2.4 คาของ 2  4  8  16  ...  2048 เทากับเทาใด
วิธีทํา        2  4  8  16  ...  2048 เปนอนุกรมเรขาคณิตที่มี                               a1  2 , r  2    และ    an  2048
               หาจํานวนพจนในอนุกรม จากสูตร a  a r                  n      1
                                                                                n 1


               แทนคา จะได                     2048 = (2)(2)                          n1


                                                               2048 = 2 n
                                                                  n = 11
                นั่นคือ อนุกรมนี้มี 11 พจน
                                                                                                   a1  an r
                จากสูตรผลบวก n พจนแรกของอนุกรมเรขาคณิต                                 Sn                  ; r 1
                                                                                                    1 r
                                                                          2  (2048)(2)
                จะได       2  4  8  16  ...  2048 =                               = 4094
                                                                               1 2

แบบฝกหัด 8.2           -


บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                                     หนา 174
แคลคูลัส 2

3.   การทดสอบการลูเขาหรือลูออกของอนุกรม
     3.1   การทดสอบอนุกรมทั่วไป อนุกรมเลขคณิตและอนุกรมเรขาคณิต
     บทนิยาม 8.3.1 กําหนดลําดับของจํานวนจริง a , a , a ,... เรียก S  a  a  a  ...  a วา
                                                                                     1       2       3                      n          1      2      3               n

                   ผลบวกยอย (partial sum) n พจนแรกของอนุกรม และเรียกลําดับ S , S , S , ...                                                             1       2       3

                   วาลําดับของผลบวกยอยของอนุกรม
     ทฤษฎีบท 8.3.1 ถาลําดับ S  เปนลําดับลูเขา และ lim S  S แลวอนุกรมอนันตเปนอนุกรม
                                                              n
                                                                                                     n 
                                                                                                                 n


                   ลูเขา (convergent series) และเรียก S วาผลบวกของอนุกรม บางครั้งแทนดวย
                   สัญลักษณ S                                    

                   ถาลําดับ S  เปนลําดับลูออก นั่นคือ lim S ไมมคา แลวอนุกรมอนันตเปน
                                                              n      ี                                  n
                                                                                                                     n

                   อนุกรมลูออก (divergent series)
จากบทนิยามเกี่ยวกับอนุกรมลูเขาและอนุกรมลูออก จะไดวา
1. อนุกรมเลขคณิตเมื่อเปนอนุกรมอนันต :
         ถาพจนท่วไปของลําดับเลขคณิตอยูในรูป a  a  (n  1)d จะไดวาอนุกรมนี้เปนอนุกรมลูออก
                   ั                                                             n           1

เสมอ ยกเวน a  d  0   1

2. อนุกรมเรขาคณิตเมื่อเปนอนุกรมอนันต :
         ถาพจนทั่วไปของอนุกรมเรขาคณิตอยูในรูป a  a r จะไดวา                        n           1
                                                                                                         n 1


         - อนุกรมเรขาคณิตเปนอนุกรมลูออก เมื่อ r  1
         - อนุกรมเรขาคณิตเปนอนุกรมลูเขา เมือ r  1 และหาผลบวกไดจากสูตร S  a
                                                ่                                                                                                            1

                                                                                     1 r
สมบัติที่สาคัญเกี่ยวกับอนุกรมลูเขาและอนุกรมลูออก เปนดังนี้
          ํ
                                    
    1. ถาอนุกรม  a เปนอนุกรมลูเขา แลว lim a  0 แตถา lim a  0 แลวไมสามารถสรุป
                                        n                                                    n                                     n
                                                                                 n                                      n 
                                n 1
                        
           ไดวา  a เปนอนุกรมลูเขา
                                n
                     n 1
                                                       
     2.    ถา   lim an  0
                 n 
                                        แลว  a เปนอนุกรมลูออก n
                                                       n 1
                                                                                               
     3.    ถา  a และ  b เปนอนุกรมลูเขา แลว   a
                            n                      n                                                     n    bn        เปนอนุกรมลูเขา
                 n 1                       n 1                                             n 1
                                                                                                                           
     4.    ถา  a เปนอนุกรมลูเขา แต  b เปนอนุกรมลูออก แลว   a
                            n                                               n                                                         n    bn    เปนอนุกรมลูออก
                 n 1                                                 n 1                                                  n 1
                                                                                               
     5.    ถา  a และ  b เปนอนุกรมลูออก แลว   a
                            n                      n                                                         n    bn    อาจจะเปนอนุกรมลูเขาหรือ
                 n 1                       n 1                                                 n 1

           อนุกรมลูออกก็ได


บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                                                                           หนา 175
แคลคูลัส 2

ตัวอยาง 8.3.1 จงทดสอบอนุกรมตอไปนี้วาเปนอนุกรมลูเ ขาหรืออนุกรมลูออก ถาลูเขา จงหาผลบวก
                                     
                                                                                                         n 1
                       1                               n                                             2
               1.                           2.                                            3.    
                  n 1 n                        n 1 n  1                                     n 1  3
                                n 1
                          5                       2 2 2 2
               4.    3  4 
                    n 1    
                                             5.         
                                                    1 3 9 27
                                                                  ...        6. 1  5  25  125  ...
                                    
วิธีทํา        1.   จากอนุกรม  1 ให                  1                        1
                                                  S n  จะไดวา lim S n  lim  0
                                                                 n       n  n
                                   n
                                   n 1                n
                    ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา และมีผลบวกเทากับ 0
                                    
                                                                                                                           1
               2.   จากอนุกรม  n ให S  n จะไดวา lim S  lim n                                           lim                     1
                                          n 1                  n 1                                 n 1
                                                            n                           n
                                                                                 n          n             n         1
                                   n 1
                                                                                                                       1
                                                                                                                          n
                    ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา และมีผลบวกเทากับ 1
                                                n 1

               3.   จากอนุกรม    2  จะไดวา เปนอนุกรมเรขาคณิตอนันตที่มี
                                                                                                         a1  1         และมี
                                 3
                                   n 1

                             2 2
                     r       1
                             3 3
                                                                        a1   1   1
                    นั่นคือ ผลบวกของอนุกรมเทากับ                S             3
                                                                       1 r 1 2 1
                                                                               3 3
                    ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา และมีผลบวกเทากับ 3
                                                  n 1

               4.   จากอนุกรม  3   5  จะไดวา เปนอนุกรมเรขาคณิตอนันตที่มี
                                                                                                          a1  3         และมี
                                   4
                                   n 1

                             5 5
                     r       1
                             4 4
                    ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูออก
                                                                                                                                     n 1
                                   2 2 2 2                                                                              1
               5.   จากอนุกรม           ...
                                   1 3 9 27
                                                                เขียนในรูปสัญลักษณแทนการบวกได                     2 3 
                                                                                                                   n 1  

                                                                                                     1 1
                    จะไดวา เปนอนุกรมเรขาคณิตอนันตที่มี              a1  2   และมี       r        1
                                                                                                     3 3
                                                                        a1   2   2
                    นั่นคือ ผลบวกของอนุกรมเทากับ                S             3
                                                                       1 r 1 1 2
                                                                               3 3
                    ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา และมีผลบวกเทากับ 3
                                                                                                                       
               6.   จากอนุกรม 1  5  25  125  ... เขียนในรูปสัญลักษณแทนการบวกได  5                                       n 1

                                                                                                                    n 1

                    จะไดวา เปนอนุกรมเรขาคณิตอนันตที่มี a  1 และมี r  5  5  1
                                                                         1

                    ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูออก



บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                                หนา 176
แคลคูลัส 2

    3.2   การทดสอบอนุกรมพี (P-series)
                                                                    
    บทนิยาม 8.3.2 อนุกรมพี (P-series) คืออนุกรม  1  1  1  1  ... เมื่อ p เปน
                                                                           p    p     p       p
                                                   n    1 2       3n 1

                  จํานวนจริงใดๆ ในกรณี p  1 จะเรียกวาอนุกรมฮารโมนิค (harmonic series)
               1       1     1          1                                                 1
เชน      1                   ...      ...              เปนอนุกรมพี ซึ่ง     p
                 2      3     4          n                                                2
              1 1 1             1
          1     ...   ...                               เปนอนุกรมพี ซึ่ง     p 1
              2 3 4             n
               1 1 1                  1
          1  2  2  2  ...  2  ...                       เปนอนุกรมพี ซึ่ง     p2
              2 3 4                  n
          1  2  3  4  ...  n 2  ...
                2    2     2
                                                              เปนอนุกรมพี ซึ่ง     p  2

                                      
    ทฤษฎีบท 8.3.2 กําหนดให  1 เปนอนุกรมพีp
                             n       n 1
                                             
                        ถา   p 1   แลว  1 เปนอนุกรมลูเขา
                                                    p
                                           n n 1
                                              
                        ถา   p 1   แลว  1 เปนอนุกรมลูออก
                                                    p
                                           n n 1



ตัวอยาง 8.3.2 จงทดสอบอนุกรมตอไปนี้วาเปนอนุกรมลูเ ขาหรืออนุกรมลูออก
                                     
                          1     1    1
                  1. 1                ...
                           2     3    4
                         1 1 1
                  2. 1  2  2  2  ...
                         2 3 4
                           1      1     1
                  3. 1                      ...
                         2 2 3 3 4 4
                                     1      1       1                                                    1
วิธีทํา           1. จากอนุกรม 1                     ...              จะไดวาเปนอนุกรมพี ซึง
                                                                                               ่   p     1
                                      2       3      4                                                   2
                       ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูออก
                  2.   จากอนุกรม 1  1  1  1  ... จะไดวาเปนอนุกรมพี ซึง p  2  1
                                            2       2     2
                                                                          ่
                                      2 3 4
                       ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา
                  3.   จากอนุกรม 1  1  1  1  ... จะไดวาเปนอนุกรมพี ซึง p  3  1
                                                                                ่
                                            2 2         3 3     4 4                                         2
                       ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา




บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                     หนา 177
แคลคูลัส 2

    3.3   การทดสอบแบบเปรียบเทียบ (Comparison Test)
                                                                       
    ทฤษฎีบท 8.3.3 กําหนดอนุกรม  a และ  b โดยที่ a  0 และ b  0 สําหรับทุก
                                                              n                n                  n                n
                                                       n 1             n 1

                  n  1, 2, 3, ... จะไดวา
                                                                                                                               
                  1. ถา  b เปนอนุกรมลูเขา และ a  b สําหรับทุก n แลว  a จะเปน
                                               n                                         n        n                                     n
                                    n 1                                                                                       n 1

                            อนุกรมลูเขา
                                                                                                                               
                     2.     ถา  b เปนอนุกรมลูออก และ
                                               n                                      an  bn         สําหรับทุก n แลว  a จะเปน      n
                                    n 1                                                                                        n 1

                            อนุกรมลูออก
ตัวอยาง 8.3.3 จงทดสอบอนุกรมตอไปนี้วาเปนอนุกรมลูเ ขาหรืออนุกรมลูออก
                                     
                                                                                             
                             1                                                                    sin 2 n
               1.   n 1   n 1
                                                                                    2.        n2  1
                                                                                             n 1
                            5
                     
                          n 1
                            2
                                                                                              1    1     1     1
               3.   n 1  n3
                                                                                    4.                     
                                                                                             1 3 2  5 3  7 4  9
                                                                                                                     ...
                     
                              n                                                                   1 1 1
               5.    ln n
                     n 1
                                                                                    6. 1              ...
                                                                                                  2! 3! 4!
                                1          1
วิธีทํา        1.   เนื่องจาก                 สําหรับทุก n  2, 3, ...
                               n 1         n
                                 
                  และอนุกรม  1 เปนอนุกรมลูออก เพราะเปนอนุกรมพี                                                     ซึ่ง   p
                                                                                                                                    1
                                n 1     n                                                                                          2
                                      
                  ดังนั้น อนุกรม  1 เปนอนุกรมลูออก
                                     n 1  n 1
               2. เนื่องจาก 1  sin n  1 สําหรับทุก n  1, 2, 3, ...
                                                                                                                 sin 2 n    1
                    ดังนั้น     0  sin 2 n  1                   คูณดวย   n2  1       ตลอด จะได         0            2  …(1)
                                                                                                                 n 1 n 1
                                                                                                                   2

                                           1   1
                    เนื่องจาก                 2                   สําหรับทุก      n  1, 2, 3, ...                                            …(2)
                                         n 1 n
                                           2


                                                                    sin 2 n    1   1
                    จาก (1) และ (2) จะได                                    2   2                  สําหรับทุก       n  1, 2, 3, ...
                                                                    n 1 n 1 n
                                                                      2

                                               
                    และอนุกรม  1 เปนอนุกรมลูเขา เพราะเปนอนุกรมพี ซึ่ง
                                                       2
                                                                                                                              p2
                                n              n 1
                                                  2
                    ดังนั้น  sin n เปนอนุกรมลูเขา
                              n 1n 1
                                           2




บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                                                      หนา 178
แคลคูลัส 2
                                 5          5
                            n 1 n
                                 2
                                        1  13
                                                 1    1
              3.   เนื่องจาก    3
                                    3 3      3      สําหรับทุก n  1, 2, 3, ...
                             n       n n    n n        n
                               
                   และอนุกรม  1 เปนอนุกรมลูออก เพราะเปนอนุกรมพี ซึ่ง p  1
                              n 1 n                                          2
                                            5


                 ดังนั้น อนุกรม  n  1 เปนอนุกรมลูออก 
                                         2


                                    n 1  n3
                                                                            

                                                                            
                         1      1        1     1
              4. จาก                           ... จะเขียนในรูป ไดวา  1
                        1 3 2  5 3  7 4  9                             n 1 n(2n  1)


                 เนื่องจาก 1  21  1  12 สําหรับทุก n  1, 2, 3, ...
                              n(2n  1) 2n  n 2 n
                                 
                 และอนุกรม  12 เปนอนุกรมลูเขา เพราะเปนอนุกรมพี ซึ่ง p  2
                                n 1 n


                 ดังนั้น 1  1  1  1  ... เปนอนุกรมลูเขา
                          1 3 2  5 3  7 4  9
              5. เนื่องจาก ln n  n สําหรับทุก n  1, 2, 3, ...

                 ดังนั้น 1  1
                            ln n n
                              n        n 1
                                        
                           ln n      n      n
                                 
                 และอนุกรม  1 เปนอนุกรมลูออก เพราะเปนอนุกรมพี ซึ่ง p  1
                                n 1 n
                                     
                   ดังนั้น อนุกรม  n เปนอนุกรมลูออก
                                   ln n
                                     n 1
                                                                                
              6.   จาก 1  1  1  1  ... จะเขียนในรูป  ไดวา  1
                           2! 3! 4!                                n!         n 1

                               1           1                   1            1
                   เนื่องจาก                                             n 1 สําหรับทุก n  1, 2, 3, ...
                               n ! 1  2  3  ...  n 1  2  2  ...  2 2
                                   
                   และอนุกรม  11 เปนอนุกรมลูเขา เพราะเปนอนุกรมเรขาคณิต ซึ่ง r  1
                                         n
                                  n 1 2                                                                   2
                   ดังนั้น 1  1  1  1  ... เปนอนุกรมลูเขา
                               2! 3! 4!




บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                หนา 179
แคลคูลัส 2

    3.4   การทดสอบแบบเปรียบเทียบลิมต (Limit comparison Test)
                                   ิ
                                                                       
    ทฤษฎีบท 8.3.4 กําหนดอนุกรม  a และ  b โดยที่ a  0 และ b  0 สําหรับทุก
                                                         n                     n            n               n
                                                 n 1                   n 1

                  n  1, 2, 3, ... จะไดวา
                              a
                  1. ถา lim  L  0 แลวอนุกรมทั้งสองจะเปนอนุกรมลูเขาทั้งคูหรือลูออกทั้งคู
                                           n
                               n  bn
                                                                                                    
                                    a
                      2. ถา   lim n  0
                               n  b
                                                        และ  b เปนอนุกรมลูเขาแลว  a จะเปนอนุกรมลูเขา
                                                                        n                                   n
                                     n                        n 1                                  n 1
                                                                                                    
                                    a
                      3. ถา   lim n  
                               n  b
                                                        และ  b เปนอนุกรมลูออกแลว  a จะเปนอนุกรมลูออก
                                                                        n                                   n
                                     n                        n 1                                   n 1



ตัวอยาง 8.3.4 จงทดสอบอนุกรมตอไปนี้วาเปนอนุกรมลูเ ขาหรืออนุกรมลูออก
                                     
                      
                          2n 3  5                                                      
                                                                                           n 2  4n  5
                1.    4n5  1
                     n 1
                                                                                   2.  n3  n  2
                                                                                      n 1
                                                                                      
                             en                                                              3n
                3.    1 e
                     n 1
                                  2n
                                                                                   4. 
                                                                                      n 1 1  e
                                                                                                 n

                      
                                                                                      
                                                                                               1
                5.    sin 2n
                     n 1
                                       2
                                           1
                                                                                   6.  2
                                                                                      n 1 n ln n

                                   2n3  5              1
วิธีทํา         1.   ให    an                     และ      bn 
                                   4n5  1              n2
                                                  2n3  5
                     จะไดวา lim an  lim 4n1 1  lim 2n  5n  1  0
                                                    5            5        2

                                 n  b     n            n  4 n 5  1   2
                                       n
                                                    n2
                             
                     และ  12 เปนอนุกรมลูเขา เพราะเปนอนุกรมพีซึ่ง p  2  1
                            n 1 n


                     ดังนั้น อนุกรม  2n 5  5 เปนอนุกรมลูเขาดวย
                                                3


                                         n 1 4 n  1

                                   n 2  4n  5      1
                2.   ให    an                             และ       bn 
                                   n3  n  2        n
                                            n  4n  5
                                             2


                     จะไดวา lim  lim n 1n  2  lim n  4n  5n  1  0
                                                            3      2
                                    an        3

                               n  b
                                     n
                                       n             n   n3  n  2
                                                n
                           
                     และ  1 เปนอนุกรมลูออก เพราะเปนอนุกรมฮารโมนิค
                          n 1 n


                     ดังนั้น อนุกรม  n  4n  5 เปนอนุกรมลูเขาดวย
                                                       2


                                       n n2   n 1
                                                         3




บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม                                                                                          หนา 180
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03
Sequence and series 03

More Related Content

What's hot

แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1คุณครูพี่อั๋น
 
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1คุณครูพี่อั๋น
 
วงกลมหนึ่งหน่วย
วงกลมหนึ่งหน่วยวงกลมหนึ่งหน่วย
วงกลมหนึ่งหน่วยJiraprapa Suwannajak
 
อสมการ ม3
อสมการ ม3 อสมการ ม3
อสมการ ม3 Prang Donal
 
ลิมิตของลำดับ
ลิมิตของลำดับลิมิตของลำดับ
ลิมิตของลำดับaoynattaya
 
ข้อสอบคณิตศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบคณิตศาสตร์ (PISA)ข้อสอบคณิตศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบคณิตศาสตร์ (PISA)Napadon Yingyongsakul
 
เกมประกอบการสอนสมการ
เกมประกอบการสอนสมการเกมประกอบการสอนสมการ
เกมประกอบการสอนสมการJirathorn Buenglee
 
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1krutew Sudarat
 
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 2
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1  ฉบับที่ 2ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1  ฉบับที่ 2
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 2คุณครูพี่อั๋น
 
3.โจทย์ปัญหาร้อยละ
3.โจทย์ปัญหาร้อยละ3.โจทย์ปัญหาร้อยละ
3.โจทย์ปัญหาร้อยละApirak Potpipit
 
สอนเตรียมสารละลาย
สอนเตรียมสารละลายสอนเตรียมสารละลาย
สอนเตรียมสารละลายDuduan
 
สมบัติบางประการของสารละลาย
สมบัติบางประการของสารละลายสมบัติบางประการของสารละลาย
สมบัติบางประการของสารละลายพัน พัน
 
ช่วงและการแก้อสมการ
ช่วงและการแก้อสมการช่วงและการแก้อสมการ
ช่วงและการแก้อสมการAon Narinchoti
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1ม
เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1มเอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1ม
เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1มWoraphon Tungsiri
 
03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ
03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ
03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุkruannchem
 

What's hot (20)

แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
 
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1
 
เลขยกกำลัง
เลขยกกำลังเลขยกกำลัง
เลขยกกำลัง
 
วงกลมหนึ่งหน่วย
วงกลมหนึ่งหน่วยวงกลมหนึ่งหน่วย
วงกลมหนึ่งหน่วย
 
62 ลำดับและอนุกรม ตอนที่4_ผลบวกย่อย
62 ลำดับและอนุกรม ตอนที่4_ผลบวกย่อย62 ลำดับและอนุกรม ตอนที่4_ผลบวกย่อย
62 ลำดับและอนุกรม ตอนที่4_ผลบวกย่อย
 
4.อินทิกรัลไม่ตรงแบบ
4.อินทิกรัลไม่ตรงแบบ4.อินทิกรัลไม่ตรงแบบ
4.อินทิกรัลไม่ตรงแบบ
 
อสมการ ม3
อสมการ ม3 อสมการ ม3
อสมการ ม3
 
กรณฑ์ที่สอง
กรณฑ์ที่สองกรณฑ์ที่สอง
กรณฑ์ที่สอง
 
ลิมิตของลำดับ
ลิมิตของลำดับลิมิตของลำดับ
ลิมิตของลำดับ
 
ข้อสอบคณิตศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบคณิตศาสตร์ (PISA)ข้อสอบคณิตศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบคณิตศาสตร์ (PISA)
 
เกมประกอบการสอนสมการ
เกมประกอบการสอนสมการเกมประกอบการสอนสมการ
เกมประกอบการสอนสมการ
 
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
แผน การจัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
 
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 2
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1  ฉบับที่ 2ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1  ฉบับที่ 2
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 2
 
3.โจทย์ปัญหาร้อยละ
3.โจทย์ปัญหาร้อยละ3.โจทย์ปัญหาร้อยละ
3.โจทย์ปัญหาร้อยละ
 
สอนเตรียมสารละลาย
สอนเตรียมสารละลายสอนเตรียมสารละลาย
สอนเตรียมสารละลาย
 
สมบัติบางประการของสารละลาย
สมบัติบางประการของสารละลายสมบัติบางประการของสารละลาย
สมบัติบางประการของสารละลาย
 
ช่วงและการแก้อสมการ
ช่วงและการแก้อสมการช่วงและการแก้อสมการ
ช่วงและการแก้อสมการ
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1ม
เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1มเอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1ม
เอกสารประกอบการเรียนวิชาพ31101สุขศึกษาและพลศึกษา1ม
 
64 ลำดับและอนุกรม ตอนที่6_ทฤษฏีบทการลู่เข้าของอนุกรม
64 ลำดับและอนุกรม ตอนที่6_ทฤษฏีบทการลู่เข้าของอนุกรม64 ลำดับและอนุกรม ตอนที่6_ทฤษฏีบทการลู่เข้าของอนุกรม
64 ลำดับและอนุกรม ตอนที่6_ทฤษฏีบทการลู่เข้าของอนุกรม
 
03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ
03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ
03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ
 

Similar to Sequence and series 03

9789740333005
97897403330059789740333005
9789740333005CUPress
 
9789740333005
97897403330059789740333005
9789740333005CUPress
 
6 อนุกรมอนันต์
6 อนุกรมอนันต์6 อนุกรมอนันต์
6 อนุกรมอนันต์Toongneung SP
 
5 ลำดับอนันต์Œ
5 ลำดับอนันต์Œ5 ลำดับอนันต์Œ
5 ลำดับอนันต์ŒToongneung SP
 
อนุกรมเรขาคณิต
อนุกรมเรขาคณิตอนุกรมเรขาคณิต
อนุกรมเรขาคณิตaoynattaya
 
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.5
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.5ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.5
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.5ทับทิม เจริญตา
 
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2ทับทิม เจริญตา
 
ลำดับ
ลำดับลำดับ
ลำดับaoynattaya
 
Chapter2 ลำดับ
Chapter2 ลำดับChapter2 ลำดับ
Chapter2 ลำดับPumPui Oranuch
 
กราฟ ม.3
กราฟ ม.3กราฟ ม.3
กราฟ ม.3krookay2012
 

Similar to Sequence and series 03 (20)

คณิตเพิ่ม ม6 เล่ม2 - บทที่ 1
คณิตเพิ่ม ม6 เล่ม2 - บทที่ 1คณิตเพิ่ม ม6 เล่ม2 - บทที่ 1
คณิตเพิ่ม ม6 เล่ม2 - บทที่ 1
 
ลำดับและอนุกรม
ลำดับและอนุกรมลำดับและอนุกรม
ลำดับและอนุกรม
 
9789740333005
97897403330059789740333005
9789740333005
 
9789740333005
97897403330059789740333005
9789740333005
 
6 อนุกรมอนันต์
6 อนุกรมอนันต์6 อนุกรมอนันต์
6 อนุกรมอนันต์
 
ปลายภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับ 1
ปลายภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับ 1ปลายภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับ 1
ปลายภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับ 1
 
Sequence1
Sequence1Sequence1
Sequence1
 
5 ลำดับอนันต์Œ
5 ลำดับอนันต์Œ5 ลำดับอนันต์Œ
5 ลำดับอนันต์Œ
 
อนุกรมเรขาคณิต
อนุกรมเรขาคณิตอนุกรมเรขาคณิต
อนุกรมเรขาคณิต
 
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.5
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.5ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.5
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.5
 
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2
 
ลำดับ
ลำดับลำดับ
ลำดับ
 
Series
SeriesSeries
Series
 
Series
SeriesSeries
Series
 
Series
SeriesSeries
Series
 
Series
SeriesSeries
Series
 
Pretest6
Pretest6Pretest6
Pretest6
 
Chapter2 ลำดับ
Chapter2 ลำดับChapter2 ลำดับ
Chapter2 ลำดับ
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
กราฟ ม.3
กราฟ ม.3กราฟ ม.3
กราฟ ม.3
 

Sequence and series 03

  • 1. แคลคูลัส 2 บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม 1. ลําดับ (Sequence) 1.1 ความหมายของลําดับ บทนิยาม 8.1.1 ลําดับ (Sequence) คือ ฟงกชันที่มีโดเมนเปนสับเซตของจํานวนเต็มบวก และ มีเรนจเปนเซตของจํานวนจริง โดย ถาโดเมนเทากับ {1, 2, 3, …, n} จะเรียกลําดับนันวา ลําดับจํากัด ้ ถาโดเมนเทากับ {1, 2, 3, …} จะเรียกลําดับนันวา ลําดับอนันต ้ ถา f เปนลําดับ จะเรียก f (n) วา พจนที่ n ของลําดับ และนิยมเขียนแทนลําดับ f ดวยรูปแบบ อยางใดอยางหนึ่งตอไปนี้ รูปแบบที่ 1 เขียนแทนลําดับ f เปน f (1), f (2), f (3), ..., f (n), ... รูปแบบที่ 2 เขียนแทนลําดับ f เปน a , a , a , ..., a , ... โดยที่ a  f (1), a  f (2), ..., a  f (n) 1 2 3 n 1 2 n รูปแบบที่ 3 เขียนแทนลําดับ f เปน {a } ซึ่ง a คือพจนที่ n หรือพจนทั่วไปของลําดับ {a } n n n ตัวอยาง 8.1.1 จงหาพจนที่ n ของลําดับตอไปนี้ 1 1 1 1 1. 1, 4, 9, 16 2. 3, 5, 7, 9, … 3. , , , , ... 3 4 5 6 วิธีทํา 1. จากลําดับ 1, 4, 9, 16, … เขียนไดเปน 1 , 2 , 3 , 4 , ... 2 2 3 2 ดังนั้น พจนท่ี n คือ n  2 2. จากลําดับ 3, 5, 7, 9, … เขียนไดเปน 2(1)  1, 2(2)  1, 2(3)  1, 2(4)  1, ... ดังนั้น พจนท่ี n คือ 2n  1 1 1 1 1 3. จากลําดับ , , , , ... 3 4 5 6 เขียนไดเปน 1 , 1 , 1 , 1 , ... 1 2 2  2 3  2 4  2 ดังนั้น พจนท่ี n คือ  1    n  2 บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 165
  • 2. แคลคูลัส 2 ตัวอยาง 8.1.2 จงเขียน 4 พจนแรกของลําดับตอไปนี้ 1  n    n  1. 2  n  2 2.    n  1 3.  1    n  1  n  วิธีทํา 1. จาก 2  n  จะไดวา 2 พจนที่ 1 = 2  1 = 3 2 พจนที่ 2 = 2   2  = 6 2 พจนที่ 3 = 2   3 = 11 2 พจนที่ 4 = 2   4  = 18 2 ดังนั้น 4 พจนแรกของลําดับ 2  n  คือ 3, 6, 11, 18 2 2. จาก 1  n  จะไดวา   n 1   11 1 2 1 พจนที่ 1 = = 0 พจนที่ 2 ==  11 2 1 3 1 3 1 1 4 3 พจนที่ 3 = =  พจนที่ 4 = =  3 1 2 4 1 5 1  n  1 1 3 ดังนั้น 4 พจนแรกของลําดับ   คือ 0,  ,  ,   n  1 3 2 5 3. จาก  1   n   n   จะไดวา   n  1  พจนที่ 1 =  11  1  =  1 พจนที่ 2 =  12  2  =     2 11 2  2 1 3 พจนที่ 3 =  13  3  =  3 พจนที่ 4 =  14  4  =     4  3 1  4  4 1 5 ดังนั้น 4 พจนแรกของลําดับ  1n  n  คือ  1 , 2 ,  3 , 4      n  1  2 3 4 5 1.2 ลําดับเลขคณิต บทนิยาม 8.1.2 ลําดับเลขคณิต (Arithmetic Sequence) คือ ลําดับทีมีผลตางของพจนสอง ่ พจนที่อยูติดกัน มีคาเทากันเสมอ ผลตางที่เทากันเสมอนี้เรียกวา ผลตางรวม  (common different) เปนลําดับเลขคณิต ก็ตอเมื่อ มีคาคงตัว d โดยที่ a1 , a2 , a3 , ..., an , an 1 , ...  d  an 1  an สําหรับทุกจํานวนเต็มบวก n จะไดวา an 1  an  d และ an  a1  (n  1)d บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 166
  • 3. แคลคูลัส 2 ตัวอยาง 8.1.3 จงหาพจนที่ 50 ของลําดับ 19,  12,  5, 2, 9, ... วิธีทํา จะเห็นไดวา ลําดับนี้เปนลําดับเลขคณิต มีผลตางรวมเทากับ 9  2  7  และมีพจนแรกของลําดับเปน a  19 1 จากสูตร a = a  (n  1)d n 1 นั่นคือ a = a  49d = 19  49(7) = 324 50 1 ดังนั้น พจนที่ 50 ของลําดับดังกลาวคือ 324 ตัวอยาง 8.1.4 จงหาพจนทั่วไปของลําดับ 15, 12, 9, 6, … วิธีทํา จะเห็นไดวา ลําดับนี้เปนลําดับเลขคณิต มีผลตางรวมเทากับ 12 15  3  และมีพจนแรกของลําดับเปน a  15 1 จากสูตร a = a  (n  1)d n 1 นั่นคือ a = 15  ( n  1)( 3) = 18  3n = 3(6  n) n ดังนั้น พจนทั่วไปของลําดับดังกลาว คือ 18  3n หรือ 3  6  n  1.3 ลําดับเรขาคณิต บทนิยาม 8.1.3 ลําดับเรขาคณิต (Geometric Sequence) คือ ลําดับที่มีอัตราสวนของพจนสอง พจนที่อยูติดกัน มีคาเทากันเสมอ อัตราสวนที่เทากันเสมอนี้เรียกวา  อัตราสวนรวม (common ratio) a a , a , a , ..., a , a , ... เปนลําดับเรขาคณิต ก็ตอเมื่อ มีคาคงตัว r โดยที่ r  1 2 3 n n 1   สําหรับ n 1 an ทุกจํานวนเต็มบวก n จะไดวา an 1  an r และ a  ar n 1 n 1 ตัวอยาง 8.1.5 จงหาพจนที่ 7 ของลําดับ 1 , 2 , 4 , ... 3 9 27 2 1 วิธีทํา จะเห็นไดวา ลําดับนี้เปนลําดับเรขาคณิต มี r =  และ a1  3 3 จากสูตร a = ar n 1 n 1 6  1  2  64 นั่นคือ a7 = a1r =     = 6  3  3  2187 ตัวอยาง 8.1.6 จงหาพจนทั่วไปของลําดับ 27, 9,  3, 1, ... วิธีทํา จะเห็นไดวา ลําดับนี้เปนลําดับเลขคณิต มี r =  1 และ a1  27  3 จากสูตร an = a1r n 1 n1 n  1  1 นั่นคือ an = (27)    = 81      3  3  n  ดังนั้น พจนทั่วไปของลําดับดังกลาว คือ 81   1         3    บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 167
  • 4. แค ลัส 2 คลคู 1.4 ลิมิตของลํา บ าดั ในหั ใ วขอนี้จะ าวถึงลิมต าดับอนนตโดยการพิจารณาพจนที่ n ของลํา บ เมือ n มีคา ะกล ตของลํ นั ิ น าดั ่ เพิ่มขึ้นเเรื่อยๆ อยางไ มีที่สด หรื ื ไม ุ รออาจกลาววา n มีคาเขาสูอนันต และ ยนแทนคา n เขาสูอนันตดวย  ะเขี ั  n   ดังตัวอยางตอไปนี้ ต ตัวอยาง 8.1.7 กําห าดับ a  1  1 จง ยนกราฟข าดับนี้ พ อมทั้งพิจา กษณะ a หนดลํ n งเขี ของลํ พร ารณาลั ะของ n n ในขณะที่ n มีคาเพิ่มขึ้นอยาง มีที่สนสุด งไม ิ้ วิธีทํา ถาเขียนลําดับนี้ ใหอยูในรูปเซ ขี ซตของคูอันดับ (n, a ) จะเขียนไดดัง ้ n งนี   3  4  5  1  1, 2  ,  2,  ,  3,  ,  4,  , ...,  n,1   , ... , ,   2  3  4  n  เมื่อลงพิกัดของคูอันดับบนระ คู ะนาบพิกัดฉาก จะพบวาในนขณะที่ n มีคามากขึ้น คาของ ค a ซึ่งเปนจํานว n วนจริงบวกจะ คาลดลงเขาใกล 1 นั่นคือ lim a  1 ะมี ข n n  ตัวอยาง 8.1.8 กําห าดับ a  2 จงเขียนกราฟข าดับนี้ พ อมทั้งพิจารณาลักษณะของ หนดลํ n 2 n 1 ของลํ พร an ในขณะที่ n มีคาเพิ่มขึ้นอยาง มีที่สนสุด งไม ิ้ วิธีทํา ถาเขียนลําดับนี้ ใหอยูในรูปเซ ขี ซตของคูอันดับ (n, a ) จะเขียนไดดัง ้ n งนี 1, 2 ,  2, 8 ,  3, 32  ,  4, 128 , ...,  n, 2  , ... 2 n1 เมื่อลงพิกัดของคูอันดับบนระ คู ะนาบพิกัดฉาก จะพบวาใน นขณะที่ n มีคามากขึ้น คาของ ค a ซึ่งเปนจํานว n วนจริงบวกจะ คาเพิ่มขึ้นอยางไมมีทสนสุด นั่นคือ lim a   ะมี อ ส้ิ้ ี่ n n  บทที่ 8 ลําดับและอนกรม นุ หนา 168 ห
  • 5. แค ลัส 2 คลคู ตัวอยาง 8.1.9 กําห าดับ a  cos(n ) จงเขียนกราฟของลําดับ ้ พรอมทั้งพจารณาลักษณะของ หนดลํ n บนี พิ ษ a ในขณะที่ n มีคาเพิ่มขึ้นอ างไมมีที่สนสุด n อย น ิ้ วิธีทํา ถาเขียนลําดับนี้ ใหอยูในรูปเซ ขี ซตของคูอันดับ (n, a ) จะเขียนไดดัง ้ n งนี 1,  1 ,  2, 1 ,  3,  1 ,  4, 1 , ...,  n, cos(n )  , .... c เมื่อลงพิกัดของคูอันดับบนระ คู ะนาบพิกัดฉาก จะพบวาใน นขณะที่ n มีคามากขึ้น คาของ ค a จะสลับระหวาง -1 กับ 1 นั่นคือ lim a หาคาไม n ว n m มได  n  1 จากตัวอยางที่ 8.1.7 ถึงตวอยางที่ 8.1.9 จะเห็นวา ลําดับ ตั 1   หาลิมิตได สวนลําดับ มิ  n 2  ลิมิตมีคาอนันต และลําดับ cos  n  หาคาลิมิตไมได 2 n1 นั มิ บทนิยาม 8.1.4 ลําดับ เเปนลําดับลูเ ขา (converg sequenc มีคาเขาสู L เขียนแท วย an gent ce) ทนด lim a  L ก็ตอเมื่อสําหรับจํานวนจ ง   0 ใดๆ จะมีจํานวนเต็ม N ซึงเมื่อ n จริ ง ่ n  n  N แลว a  a   n ถาลําดับที่ไมเปนลําดับลูเเขา เราจะกลาววาเปนลําดับลูออก (diivergent seq ม ล ด quence) หรือลําดับ อ ไมลูเขา บทนิยาม 8.1.5 ลําดับ a เเปนลําดับลูออกสู  (div to  ) เขียนแทนดวย lim a   n verge ด n  n ก็ตอเมื่อทุกๆ จํานวน M  0 จะมีจํานวนเต็มบว N ซึ่งเมื่อ n  M แลวจะ วก ล ไดวา a  M n ลําดับ a เปนลําดับลูออ   (diverge to  ) เขียนแทน วย lim a   ป n อกสู  นด n n ก็ตอเมื่อทุกๆ จํานวน M  0 จะมีจํานวนเต็มบว N ซึ่งเมื่อ n  M แลวจะ วก ล ไดวา a  M n คา L เปนคา มิตของลําดบ จากนิยาม นวาเปนเชนเดียวกับคาลิมิตของฟงกชัน f ( x) เมื่อ าลิ ดั มจะเห็ ป กั x   เราสามารถแ แสดงไดวา liim f (n)  lim f ( x) เมือ x เปนจํานวนจริง และ n เปนจํานวน มบวก m ่ นเต็ n x   1 จากตัวอ างที่ 8.1.7 ถึงตัวอยางที่ 8.1.9 จะไดวา ลําดับ อย ที ด 1   เปน าดับลูเขา ลําดับ 2  และ นลํ  2 n1  n ลําดับ cos  n  เเปนลําดับลูออก บทที่ 8 ลําดับและอนกรม นุ หนา 169 ห
  • 6. แคลคูลัส 2 ทฤษฎีบทตางๆ ที่เกี่ยวกับลิมิตของฟงกชันของจํานวนจริงก็ยงคงเปนจริงสําหรับลิมิตของลําดับ ั ทฤษฎีบท 8.1.1 ถา a  และ b  เปนลําดับลูเขา จะได n n 1. lim k  an  k lim an n  n  2. lim  an  bn   lim an  lim bn n  n  n  3. lim  an  bn   lim an  lim bn n  n  n   a  lim an 4. lim  n   n n  b เมื่อ lim bn  0 n   n  lim bn n  การหาลิมตของลําดับมีวิธการเชนเดียวกับการหาลิมตของฟงกชัน ิ ี ิ ตัวอยาง 8.1.10 ลําดับ 3 , 2, 9 , 12 , ... เปนลําดับลูเ ขาหรือไม 2 4 5 วิธีทํา จากลําดับ , 2, 9 , 12 , ... เขียนใหอยูในรูปพจนทั่วไปได an  3n 3 2 4 5 n 1 3n 3 3 เพราะวา lim n  n  1  lim   3 n  1 1 1 0 n นั่นคือ ลําดับลูเขาหา 3 ทฤษฎีบท 8.1.2 ลําดับเรขาคณิต a, ar , ar , ..., ar , ... 2 n 1. ถา r  1 ลําดับจะลูเขา 0 2. ถา r  1 ลําดับเปนลําดับคงที่ (ลูเขา) 3. ถา r  1 ลําดับจะลูออกสู  4. ถา r  1 ลําดับจะลูออก ตัวอยาง 8.1.11 จงตรวจสอบวาลําดับตอไปนี้เปนลําดับลูเขาหรือไม ถาเปนลําดับลูเ ขา จงหาลิมิต 1  n 2   ln n  1.   2.    n5   n  1 2 3 4 1 1 1 1 3. , , , , ... 4. 1,  , ,  , , ... 2 3 4 5 2 4 8 16 5 8 11 14 5  2 7  4 9  8 11 16 5. , , , , ... 6. , , , , ... 2 3 4 5 1 2 3 4 7.  2n   1 n  3n  2  8.   n3  1 1 1  n2 1 n 2 n2 วิธีทํา 1. จากลําดับ an  จะไดวา lim an  lim  lim  n5 n  n  n  5 n  1  2 5 n n ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูออก บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 170
  • 7. แคลคูลัส 2 ln n ln n  2. จากลําดับ an  จะไดวา lim an  lim อยูในรูป ใชกฎของโลปตาล n n  n  n  1 จะได lim ln n  lim n  lim 1  0 ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูเขา 0 n  n n  1 n  n 1 2 3 4 n 3. จากลําดับ , , , , ... เขียนในรูปพจนทั่วไปได an  2 3 4 5 n 1 จะได lim an  lim n  lim 1 1  1  1 n  n  1 n  n  1 1 0 n ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูเขา 1 n 1 1 1 1 1  1 4. จากลําดับ 1,  , ,  , , ... เขียนในรูปพจนทั่วไปได an     2 4 8 16  2 1 1 ซึ่งเปนลําดับเรขาคณิตที่มี r    1 2 2 ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูเขา 0 3n  1 5. จากลําดับ 5 , 8 , 11 , 14 , ... เขียนในรูปพจนทั่วไปได an  2 3 4 5 n 1 1 3 3n  1 n  30  3 จะได lim an  lim n  n  n  1  lim n  1 1 0 1 n ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูเขา 3 5  2 7  4 9  8 11 16 (4n 2  6n) 6. จากลําดับ , , , , ... จะได an  (1) n 1 2 3 4 n (4n  6n) 2 นั่นคือ lim an  lim(1)n  lim n  n  n  แต lim(1)n หาคาไมได n n ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูออก 1 1 7. จากลําดับ a   2n  จะไดวา lim a n n n  lim  2n  n อยูในรูป 0 n  n  1 1 1 lim n ใชกฎของโลปตาล จะไดวา lim  2n   e lim ln(2 n ) n n n e n 1  e0  1 n  ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูเขา 1 2 3 n 3n  2 3n  2 n  8. จากลําดับ an  จะไดวา lim an  lim  lim n3 n  n  n  3 n  3 1 n ดังนั้น ลําดับดังกลาวเปนลําดับลูออกสู  บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 171
  • 8. แคลคูลัส 2 แบบฝกหัด 8.1 1. ลําดับเลขคณิตมีพจนแรกเปน 1 กําหนด a , a , a เปน 3 พจนแรกของลําดับเรขาคณิต จงหา 7 11 17 วาผลบวกของ 3 พจนแรกในลําดับเรขาคณิตนี้เทากับเทาไร 2. จํานวนที่ 9 หารลงตัว ซึ่งมีคาอยูระหวาง 500 และ 800 มีกี่จํานวน  3. ถา u  a, u  a  b, n เปนจํานวนเต็มที่มากกวา 2 และ u  2u  u แลว จงหาวา 1 2 n n 1 n2 u  au 2 n เทากับเทาใด 2 n 1 4. ถาพจนที่ 1 ของลําดับเรขาคณิตคือ 8 มีอัตราสวนรวมเทากับ 3 ถามวา 729 เปนพจนที่เทาไร 2 8 5. ลําดับเรขาคณิตมี n พจน สามพจนสุดทายรวมกันได 1,024 เทาของสามพจนแรกรวมกัน ถาพจน ที่ 5 เทากับ 20 พจนสุดทายเทากับเทาไร 6. จํานวน 5 จํานวนเรียงกันเปนลําดับเรขาคณิต ผลบวกของพจนที่ 1, 3 และ 5 เทากับ 273 ผลคูณ ของพจนท่ี 2 และ 4 เทากับ 256 ผลบวกของ 5 พจนแรกเทากับเทาใด (มีมากกวา 1 คําตอบ) 7. กําหนดลําดับเรขาคณิต 2, 6, 18, … จงหาพจนที่เล็กที่สุดและมีคามากกวา 1,000  8. ให a , a , a , a เปนพจน 4 พจนเรียงกันในลําดับเรขาคณิต โดยมี a เปนพจนแรก ถา 1 2 3 4 1 a  a  6 และ a  a  12 คาสัมบูรณของพจนที่ 5 ของลําดับนี้มีคาเทาไร 2 3 3 4  9. ให a, b, c เปนลําดับเรขาคณิตซึ่งมีผลคูณเทากับ 27 และ a, b  3, c  2 เปนลําดับเลขคณิต จงหา a  b  c 10. ให x, y, z เปนลําดับเลขคณิตซึ่งผลบวกทั้งสามพจนมคาเทากับ 12 ถานํา 1, 4, 11 มาบวกกับแต ี ละพจนตามลําดับ ปรากฏวาไดเปนลําดับเรขาคณิต จงหาคาของ xyz 11. ถา a เปนพจนที่ n ของลําดับลูเขา และ a  1 a  1 จงหาลิมิตของลําดับ a นี้ n n 1 n n 2 5 12. จงตรวจสอบวาลําดับตอไปนี้เปนลําดับลูเขาหรือไม ถาเปนลําดับลูเ ขา จงหาลิมิต  n   3n   n2   3n  1  1)   2)   3)   4)  2   2n  1   2n  1   3n  1   n   n2  1  n n 1 2  n n  1 2 5)  2  6) (1) 2  7) (1) 3  8) 1  (1) n  n  1  n  1  n  1  1)n 1  n   1  n 9)  2  10)  n  11) ln    12)  n   n  e    n  2           n     n    13) sin    14) cos    15)  n  16)       n    2n   4   2        n  17) cos    2    18) n e  2 n 19)  n 2  3n  n  20)  n2  n   3  (1)n   ln(n 2 )    2n   1 2 3 n 21)   22)  2  23)  tan 1    24)     ...    2n  1   n n n n 2  n   n   บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 172
  • 9. แคลคูลัส 2 2. อนุกรม (Series) บทนิยาม 8.2.1 ถา a , a , a ,..., a เปนลําดับจํากัดที่มี n พจน แลว 1 2 3 n a1  a2  a3  ...  an n เปนอนุกรมจํากัด เขียนแทนดวย  a หรือ S i n i 1 ถา a , a , a ,..., a ,... เปนลําดับอนันต แลว 1 2 3 n a1  a2  a3  ...  an  ... เปน  อนุกรมอนันต เขียนแทนดวย  a i i 1 2.1 สัญลักษณแทนการบวก จะใชอักษรกรีก  (capital sigma) เปนสัญลักษณแทนการบวก ซึ่งมีสมบัตดังนี้ ิ n 1.  c  cn เมื่อ c เปนคาคงตัว i 1 n n 2.  cai  c ai i 1 i 1 เมื่อ c เปนคาคงตัว n n n 3.   ai  bi    ai   bi i 1 i 1 i 1 n n(n  1) 4.  i  1  2  3  ...  n  i 1 2 n (n  1)(2n  1) 5.  i 2  12  22  32  ...  n 2  i 1 6  n(n  1)  n 2 6.  i3  13  23  33  ...  n3   2  i 1   ตัวอยาง 8.2.1 คาของ 1 3  3  5  5  7  ...  21 23 เทากับเทาใด 11 11 วิธีทํา 1 3  3  5  5  7  ...  21 23 =  (2i  1)(2i  1) i 1 =  (4i i 1 2  1) 11 11  (11  1)(22  1)  = 4 i 2   1 = 4    1(11) i 1 i 1  6  = 2013 ตัวอยาง 8.2.2 คาของ 1  2 2  2  32  3  4 2  ...  19  20 2 เทากับเทาใด 19 19 วิธีทํา 1 2  2  3 2 2  3  4 2  ...  19  20 2 =  i(i  1)2 = i 1  (i i 1 3  2i 2  i ) 19 19 19 =  i 3  2 i 2   i i 1 i 1 i 1 19(19  1)   (2 1)(2  2 1)  19(19  1) 2 =   2   2   6   2 = 36,100 + 4,940 + 190 = 41,230 บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 173
  • 10. แคลคูลัส 2 2.2 อนุกรมเลขคณิต บทนิยาม 8.2.2 ถา a1 , a2 , a3 ,..., an เปนลําดับเลขคณิต ทีมีผลตางรวมเทากับ d แลวจะไดวา ่ n Sn   a1  an  2 n หรือ S n   2a1   n  1 d  2  ตัวอยาง 8.2.3 คาของ 1  6  11  16  ...  101 เทากับเทาใด วิธีทํา 1  6  11  16  ...  101 เปนอนุกรมเลขคณิตที่มี a  1 , 1 d 5 และ an  101 หาจํานวนพจนในอนุกรม จากสูตร a  a  (n  1)d n 1 แทนคา จะได 101 = 1 + (n – 1)(5) n = 21 นั่นคือ อนุกรมนี้มี 21 พจน n จากสูตรผลบวก n พจนแรกของอนุกรมเลขคณิต Sn   a1  an  2 21 จะได 1  6  11  16  ...  101 = 1  101 = 1071 2 2.3 อนุกรมเรขาคณิต บทนิยาม 8.2.3 ถา a , a , a ,..., a เปนลําดับเรขาคณิต ที่มีอัตราสวนรวมเทากับ 1 2 3 n r 1 a a r แลวจะไดวา S  , r 11 n 1 r n a1 (1  r n ) หรือ Sn  , r 1 1 r ตัวอยาง 8.2.4 คาของ 2  4  8  16  ...  2048 เทากับเทาใด วิธีทํา 2  4  8  16  ...  2048 เปนอนุกรมเรขาคณิตที่มี a1  2 , r  2 และ an  2048 หาจํานวนพจนในอนุกรม จากสูตร a  a r n 1 n 1 แทนคา จะได 2048 = (2)(2) n1 2048 = 2 n n = 11 นั่นคือ อนุกรมนี้มี 11 พจน a1  an r จากสูตรผลบวก n พจนแรกของอนุกรมเรขาคณิต Sn  ; r 1 1 r 2  (2048)(2) จะได 2  4  8  16  ...  2048 = = 4094 1 2 แบบฝกหัด 8.2 - บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 174
  • 11. แคลคูลัส 2 3. การทดสอบการลูเขาหรือลูออกของอนุกรม 3.1 การทดสอบอนุกรมทั่วไป อนุกรมเลขคณิตและอนุกรมเรขาคณิต บทนิยาม 8.3.1 กําหนดลําดับของจํานวนจริง a , a , a ,... เรียก S  a  a  a  ...  a วา 1 2 3 n 1 2 3 n ผลบวกยอย (partial sum) n พจนแรกของอนุกรม และเรียกลําดับ S , S , S , ... 1 2 3 วาลําดับของผลบวกยอยของอนุกรม ทฤษฎีบท 8.3.1 ถาลําดับ S  เปนลําดับลูเขา และ lim S  S แลวอนุกรมอนันตเปนอนุกรม n n  n ลูเขา (convergent series) และเรียก S วาผลบวกของอนุกรม บางครั้งแทนดวย สัญลักษณ S  ถาลําดับ S  เปนลําดับลูออก นั่นคือ lim S ไมมคา แลวอนุกรมอนันตเปน n ี n n อนุกรมลูออก (divergent series) จากบทนิยามเกี่ยวกับอนุกรมลูเขาและอนุกรมลูออก จะไดวา 1. อนุกรมเลขคณิตเมื่อเปนอนุกรมอนันต : ถาพจนท่วไปของลําดับเลขคณิตอยูในรูป a  a  (n  1)d จะไดวาอนุกรมนี้เปนอนุกรมลูออก ั n 1 เสมอ ยกเวน a  d  0 1 2. อนุกรมเรขาคณิตเมื่อเปนอนุกรมอนันต : ถาพจนทั่วไปของอนุกรมเรขาคณิตอยูในรูป a  a r จะไดวา n 1 n 1 - อนุกรมเรขาคณิตเปนอนุกรมลูออก เมื่อ r  1 - อนุกรมเรขาคณิตเปนอนุกรมลูเขา เมือ r  1 และหาผลบวกไดจากสูตร S  a ่ 1 1 r สมบัติที่สาคัญเกี่ยวกับอนุกรมลูเขาและอนุกรมลูออก เปนดังนี้ ํ  1. ถาอนุกรม  a เปนอนุกรมลูเขา แลว lim a  0 แตถา lim a  0 แลวไมสามารถสรุป n n n n  n  n 1  ไดวา  a เปนอนุกรมลูเขา n n 1  2. ถา lim an  0 n  แลว  a เปนอนุกรมลูออก n n 1    3. ถา  a และ  b เปนอนุกรมลูเขา แลว   a n n n  bn  เปนอนุกรมลูเขา n 1 n 1 n 1    4. ถา  a เปนอนุกรมลูเขา แต  b เปนอนุกรมลูออก แลว   a n  n n  bn  เปนอนุกรมลูออก n 1 n 1 n 1    5. ถา  a และ  b เปนอนุกรมลูออก แลว   a n n n  bn  อาจจะเปนอนุกรมลูเขาหรือ n 1 n 1 n 1 อนุกรมลูออกก็ได บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 175
  • 12. แคลคูลัส 2 ตัวอยาง 8.3.1 จงทดสอบอนุกรมตอไปนี้วาเปนอนุกรมลูเ ขาหรืออนุกรมลูออก ถาลูเขา จงหาผลบวก     n 1 1 n  2 1.  2.  3.     n 1 n n 1 n  1 n 1  3  n 1  5 2 2 2 2 4.  3  4  n 1   5.    1 3 9 27  ... 6. 1  5  25  125  ...  วิธีทํา 1. จากอนุกรม  1 ให 1 1 S n  จะไดวา lim S n  lim  0 n  n  n n n 1 n ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา และมีผลบวกเทากับ 0  1 2. จากอนุกรม  n ให S  n จะไดวา lim S  lim n  lim 1 n 1 n 1 n 1 n n n  n  n  1 n 1 1 n ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา และมีผลบวกเทากับ 1  n 1 3. จากอนุกรม    2  จะไดวา เปนอนุกรมเรขาคณิตอนันตที่มี    a1  1 และมี  3 n 1 2 2 r    1 3 3 a1 1 1 นั่นคือ ผลบวกของอนุกรมเทากับ S   3 1 r 1 2 1 3 3 ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา และมีผลบวกเทากับ 3  n 1 4. จากอนุกรม  3   5  จะไดวา เปนอนุกรมเรขาคณิตอนันตที่มี    a1  3 และมี  4 n 1 5 5 r    1 4 4 ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูออก  n 1 2 2 2 2 1 5. จากอนุกรม     ... 1 3 9 27 เขียนในรูปสัญลักษณแทนการบวกได  2 3  n 1   1 1 จะไดวา เปนอนุกรมเรขาคณิตอนันตที่มี a1  2 และมี r   1 3 3 a1 2 2 นั่นคือ ผลบวกของอนุกรมเทากับ S   3 1 r 1 1 2 3 3 ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา และมีผลบวกเทากับ 3  6. จากอนุกรม 1  5  25  125  ... เขียนในรูปสัญลักษณแทนการบวกได  5 n 1 n 1 จะไดวา เปนอนุกรมเรขาคณิตอนันตที่มี a  1 และมี r  5  5  1 1 ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูออก บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 176
  • 13. แคลคูลัส 2 3.2 การทดสอบอนุกรมพี (P-series)  บทนิยาม 8.3.2 อนุกรมพี (P-series) คืออนุกรม  1  1  1  1  ... เมื่อ p เปน p p p p n 1 2 3n 1 จํานวนจริงใดๆ ในกรณี p  1 จะเรียกวาอนุกรมฮารโมนิค (harmonic series) 1 1 1 1 1 เชน 1    ...   ... เปนอนุกรมพี ซึ่ง p 2 3 4 n 2 1 1 1 1 1     ...   ... เปนอนุกรมพี ซึ่ง p 1 2 3 4 n 1 1 1 1 1  2  2  2  ...  2  ... เปนอนุกรมพี ซึ่ง p2 2 3 4 n 1  2  3  4  ...  n 2  ... 2 2 2 เปนอนุกรมพี ซึ่ง p  2  ทฤษฎีบท 8.3.2 กําหนดให  1 เปนอนุกรมพีp n n 1  ถา p 1 แลว  1 เปนอนุกรมลูเขา p n n 1  ถา p 1 แลว  1 เปนอนุกรมลูออก p n n 1 ตัวอยาง 8.3.2 จงทดสอบอนุกรมตอไปนี้วาเปนอนุกรมลูเ ขาหรืออนุกรมลูออก  1 1 1 1. 1     ... 2 3 4 1 1 1 2. 1  2  2  2  ... 2 3 4 1 1 1 3. 1     ... 2 2 3 3 4 4 1 1 1 1 วิธีทํา 1. จากอนุกรม 1     ... จะไดวาเปนอนุกรมพี ซึง  ่ p 1 2 3 4 2 ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูออก 2. จากอนุกรม 1  1  1  1  ... จะไดวาเปนอนุกรมพี ซึง p  2  1 2 2 2  ่ 2 3 4 ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา 3. จากอนุกรม 1  1  1  1  ... จะไดวาเปนอนุกรมพี ซึง p  3  1  ่ 2 2 3 3 4 4 2 ดังนั้น อนุกรมดังกลาวเปนอนุกรมลูเขา บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 177
  • 14. แคลคูลัส 2 3.3 การทดสอบแบบเปรียบเทียบ (Comparison Test)   ทฤษฎีบท 8.3.3 กําหนดอนุกรม  a และ  b โดยที่ a  0 และ b  0 สําหรับทุก n n n n n 1 n 1 n  1, 2, 3, ... จะไดวา   1. ถา  b เปนอนุกรมลูเขา และ a  b สําหรับทุก n แลว  a จะเปน n n n n n 1 n 1 อนุกรมลูเขา   2. ถา  b เปนอนุกรมลูออก และ n an  bn สําหรับทุก n แลว  a จะเปน n n 1 n 1 อนุกรมลูออก ตัวอยาง 8.3.3 จงทดสอบอนุกรมตอไปนี้วาเปนอนุกรมลูเ ขาหรืออนุกรมลูออก    1 sin 2 n 1. n 1 n 1 2.  n2  1 n 1 5  n 1 2 1 1 1 1 3. n 1 n3 4.    1 3 2  5 3  7 4  9  ...  n 1 1 1 5.  ln n n 1 6. 1     ... 2! 3! 4! 1 1 วิธีทํา 1. เนื่องจาก  สําหรับทุก n  2, 3, ... n 1 n  และอนุกรม  1 เปนอนุกรมลูออก เพราะเปนอนุกรมพี ซึ่ง p 1 n 1 n 2  ดังนั้น อนุกรม  1 เปนอนุกรมลูออก n 1 n 1 2. เนื่องจาก 1  sin n  1 สําหรับทุก n  1, 2, 3, ... sin 2 n 1 ดังนั้น 0  sin 2 n  1 คูณดวย n2  1 ตลอด จะได 0  2 …(1) n 1 n 1 2 1 1 เนื่องจาก  2 สําหรับทุก n  1, 2, 3, ... …(2) n 1 n 2 sin 2 n 1 1 จาก (1) และ (2) จะได  2  2 สําหรับทุก n  1, 2, 3, ... n 1 n 1 n 2  และอนุกรม  1 เปนอนุกรมลูเขา เพราะเปนอนุกรมพี ซึ่ง 2 p2 n n 1  2 ดังนั้น  sin n เปนอนุกรมลูเขา n 1n 1 2 บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 178
  • 15. แคลคูลัส 2 5 5 n 1 n 2 1 13 1 1 3. เนื่องจาก 3  3 3  3 สําหรับทุก n  1, 2, 3, ... n n n n n n  และอนุกรม  1 เปนอนุกรมลูออก เพราะเปนอนุกรมพี ซึ่ง p  1 n 1 n 2 5 ดังนั้น อนุกรม  n  1 เปนอนุกรมลูออก   2 n 1 n3   1 1 1 1 4. จาก     ... จะเขียนในรูป ไดวา  1 1 3 2  5 3  7 4  9 n 1 n(2n  1) เนื่องจาก 1  21  1  12 สําหรับทุก n  1, 2, 3, ... n(2n  1) 2n  n 2 n  และอนุกรม  12 เปนอนุกรมลูเขา เพราะเปนอนุกรมพี ซึ่ง p  2 n 1 n ดังนั้น 1  1  1  1  ... เปนอนุกรมลูเขา 1 3 2  5 3  7 4  9 5. เนื่องจาก ln n  n สําหรับทุก n  1, 2, 3, ... ดังนั้น 1  1 ln n n n n 1   ln n n n  และอนุกรม  1 เปนอนุกรมลูออก เพราะเปนอนุกรมพี ซึ่ง p  1 n 1 n  ดังนั้น อนุกรม  n เปนอนุกรมลูออก ln n n 1  6. จาก 1  1  1  1  ... จะเขียนในรูป  ไดวา  1 2! 3! 4! n! n 1 1 1 1 1 เนื่องจาก    n 1 สําหรับทุก n  1, 2, 3, ... n ! 1  2  3  ...  n 1  2  2  ...  2 2  และอนุกรม  11 เปนอนุกรมลูเขา เพราะเปนอนุกรมเรขาคณิต ซึ่ง r  1 n n 1 2 2 ดังนั้น 1  1  1  1  ... เปนอนุกรมลูเขา 2! 3! 4! บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 179
  • 16. แคลคูลัส 2 3.4 การทดสอบแบบเปรียบเทียบลิมต (Limit comparison Test) ิ   ทฤษฎีบท 8.3.4 กําหนดอนุกรม  a และ  b โดยที่ a  0 และ b  0 สําหรับทุก n n n n n 1 n 1 n  1, 2, 3, ... จะไดวา a 1. ถา lim  L  0 แลวอนุกรมทั้งสองจะเปนอนุกรมลูเขาทั้งคูหรือลูออกทั้งคู n n  bn   a 2. ถา lim n  0 n  b และ  b เปนอนุกรมลูเขาแลว  a จะเปนอนุกรมลูเขา n n n n 1 n 1   a 3. ถา lim n   n  b และ  b เปนอนุกรมลูออกแลว  a จะเปนอนุกรมลูออก n n n n 1 n 1 ตัวอยาง 8.3.4 จงทดสอบอนุกรมตอไปนี้วาเปนอนุกรมลูเ ขาหรืออนุกรมลูออก   2n 3  5  n 2  4n  5 1.  4n5  1 n 1 2.  n3  n  2 n 1   en 3n 3.  1 e n 1 2n 4.  n 1 1  e n    1 5.  sin 2n n 1 2 1 6.  2 n 1 n ln n 2n3  5 1 วิธีทํา 1. ให an  และ bn  4n5  1 n2 2n3  5 จะไดวา lim an  lim 4n1 1  lim 2n  5n  1  0 5 5 2 n  b n  n  4 n 5  1 2 n n2  และ  12 เปนอนุกรมลูเขา เพราะเปนอนุกรมพีซึ่ง p  2  1 n 1 n ดังนั้น อนุกรม  2n 5  5 เปนอนุกรมลูเขาดวย  3 n 1 4 n  1 n 2  4n  5 1 2. ให an  และ bn  n3  n  2 n n  4n  5 2 จะไดวา lim  lim n 1n  2  lim n  4n  5n  1  0 3 2 an 3 n  b n n  n  n3  n  2 n  และ  1 เปนอนุกรมลูออก เพราะเปนอนุกรมฮารโมนิค n 1 n ดังนั้น อนุกรม  n  4n  5 เปนอนุกรมลูเขาดวย  2 n n2 n 1 3 บทที่ 8 ลําดับและอนุกรม หนา 180