SlideShare a Scribd company logo
1 of 54
Download to read offline
ข้อแนะนำในกำรทำเว็บไซต์

      ให้หำข้อมูล ให้ละเอียด แล้ว คัดลอกลงในโปรแกรม Microsoft office word
      (การเลือกเนื้อหาเว็บไซต์ ถือเป็นส่วนสาคัญในการเริ่มต้นทาเว็บไซต์ ทั้งการจัดโครงสร้าง และ ความ
      นิยมของเว็บไซต์ สาหรับผู้เริ่มต้น ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเลือกหัวข้อใด ควรเริ่มต้นจาก การสารวจตัวเอง ว่า
      ชอบ หรือ สนใจสิ่งใด มากที่สุด หรือ มีความรู้เชี่ยวชาญด้านใดมากที่สุด)
  1. หัวข้อหรือเรื่องที่จะทาเว็บไซต์ ให้หาข้อมูล ให้ละเอียด (หัวข้อเว็บไซต์ห้ามซ้ากันเด็ดขาด ถ้าซ้ากัน
      ไม่ได้คะแนน ค่ะ )
      - ในการบันทึกเนื้อหาให้เขียนหัวข้อใหญ่ไว้ด้วยว่า เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร ให้บันทึกไว้ใน
           โฟลเดอร์ที่ เป็นรหัสนักเรียน 5 หลัก ค่ะ ตั้งชื่อ ว่า เนื้อหาการทาเว็บ
  2. ให้หารูปภาพที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาไว้ แล้ว ตั้งชื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหา โดยต้องตั้งชื่อเป็น
      ภาษาอังกฤษหรือตัวเลขเท่านั้น รูปภาพต้องบันทึกโดยการ คลิกขวา >> save >pictures> แล้วหา
      โฟลเดอร์ของตัวเอง ที่ เป็น เลขประจาตัวนักเรียน 5 หลัก แล้วบันทึกรูปภาพไว้ใน images เท่านั้น
      จากนั้นตั้งชื่อ รูปภาพ
  3. หรืออาจจะดูเว็บอื่นเป็นตัวอย่างหรือเพื่อเป็นแนวทางในการทาเว็บไซต์ก็ได้ แล้วให้จาชื่อเว็บนั้นไว้
      โดย พิมพ์ URL ไว้ เช่น www.thailand.net (คือที่อยู่เว็บ)
      http://advice.co.th/products/product.php


เมื่อได้หัวข้อและเนื้อหาแล้ว ให้ทาดังนี้

    1. วาดเค้าโครงในการสร้างเว็บไซต์ เช่น
                                                   หัวเว็บไซต์
        หน้าหลัก                                 หน้า 2               หน้า 3              หน้า 4
                                                                 เนื้อหา

                                 ที่อยู่สาหรับติดต่อเว็บ เช่น (เว็บไซต์จาหน่ายปากา )
                              101/11 ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ 10112 โทร.0285469744
        *ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการคิดวิเคราะห์ออกแบบ หน้าเว็บเพจของเราเอง แต่ละคน ควรคิดแหวกแนว ไม่
        ควรเหมือนกัน
แบบฝึ กทักษะภาษาไทย เพือทบทวนให ้เด็กจาพยัญชนะแต่ละตัวว่าอ่านออก
                                     ่
        เสยงอย่างไรเว็บไซต์สถานที่ท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
          ี



ข้อมูลสถำนที่ท่องเที่ยว จังหวัดมหำสำรคำม

พระธำตุนำดูน

อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม




                                           พระ ธาตุนาดูน พุทธมณฑลแห่งอีสาน ตั้งอยู่ที่บ้านนาดูน เขตอาเภอนาดูน
เป็นเขตที่มีการขุดพบหลักฐานทางประวัตศาสตร์ โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เพราะบริเวณนี้ได้เคยเป็น
                                       ิ
ที่ตั้งของนครจาปาศรีมาก่อน โบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบได้นาไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่นและที่
สาคัญ ยิ่งก็คือ
การขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคา เงิน และสาริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่
13-15 สมัยทวาราวดี รัฐบาลจึงอนุมัติให้ดาเนินการก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึนในเนื้อที่ 902 ไร่ โดยบริเวณรอบๆ จะมี
                                                                     ้
พิพิธภัณฑ์ทางศาสนาและวัฒนธรรม สวนรุกขชาติ สวนสมุนไพร ซึ่งตกแต่งให้เป็นสถานที่สาคัญทางพุทธศาสนา

ควำมเป็นมำของพระธำตุนำดูน
อาเภอนาดูน เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณแห่งหนึ่งที่มีประวัติอนยาวนาน โดยบริเวณที่ตั้งของอาเภอนาดูนคือ เมืองจัมปาศรี
                                                                 ั
ที่เจริญรุ่งเรือนในสมัยทวารวดี เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-15 ซึ่งมีหลักฐานทางประวัตศาสตร์และโบราณคดีที่คนพบ
                                                                                       ิ                     ้
มากมาย สรุปความดังนี้
ถิ่นฐานอารยธรรมจัมปาศรีในอดีตกาล สันนิษฐานได้ว่ามีความเจริญรุ่งเรืองมา 2 ยุค คือ
1. ยุคทวารวดี ระหว่าง พ.ศ. 1000-1200
2. ยุคลพบุรี ระหว่าง พ.ศ. 1600-1800
ในราวพุทธศตวรรษที่ 13-16 ภายในตัวเมืองและนอกเมืองมีเจดีย์สมัยทวารวดีอยู่ 25 องค์ (ขณะนี้ได้ขุดค้นพบแล้ว 10 องค์)
เจ้าผูครองเมืองนครจาปาศรี นับตังแต่ พระเจ้ายศวรราช ได้สร้างสถานที่สักการะบูชาในพิธีทางศาสนาพราหมณ์และพุทธ
      ้                            ้
เช่น เทวาลัย ปรางค์กู่ เป็นต้น ซึงถือว่าได้เจริญรุ่งเรืองทังในด้านศาสนา วัฒนธรรม และการปกครอง จนถึงขีดสุดแล้วได้
                                 ่                         ้
เสื่อมถอยลงจนถึงยุคอวสานในสมัยพระเจ้าฟ้างุ่มแหล่งหล้า ธรณี
ค้นพบและการก่อสร้างพระธาตุนาดูน
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2522 ได้ขุดค้นพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สถูปทาด้วยทองสาริด แยกเป็น 2 ส่วน คือ

1. ตัวสถูปหรือองค์ระฆัง แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตัวสถูป เป็นส่วนที่บรรจุ พระอังคาร (ขีเ้ ถ้า) เทียนดอกไม้ ตอนคอสถูป
เป็นส่วนทีบรรจุผอบพระบรมสารีริกธาตุโดยผอบจะบรรจุพร้อมกัน 3 ชั้น คือ ผอบทองคา จะซ้อนอยู่ในผอบเงิน ผอบเงิน
          ่
จะซ้อนอยู่ในผอบทองสาริด ทุกผอบมีฝาปิดมิดชิด ภายในผอบทองคามีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ 1 องค์ มีลักษณะเป็น
เกล็ดสีขาวขุ่นขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารหักครึ่ง หล่อเลี้ยงไว้ด้วยน้ามันจันทน์เมือเปิดออกมาจะมีกลิ่นหอมมาก
                                                                           ่

2. ส่วนยอดทาด้วยทองสาริดกลมตัน ทาเป็นปล้องไฉนลูกแก้วและปลียอด ตอนต้นทาเป็นเกลียวสามารถปิดประกอบกับ
ส่วนตัวองค์สถูปได้พอดี

พระธาตุนาดูน จาลองแบบสถูปทองสาริดที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นศิลปะทวารวดี ก่อสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 24
มกราคม 2530 โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดาเนินแทนพระองค์มาประกอบพิธี
อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นประดิษฐานไว้ในองค์พระธาตุนาดูน เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2530
กำรเดินทำงจาก ตัวเมืองมหาสารคาม โดยใช้เส้นทางหมายเลข 2040 ผ่านอาเภอแกดา อาเภอวาปีปทุม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทาง
หลวงหมายเลข 2045 ถึงอาเภอนาดูน ทางลาดยางตลอด ห่างจากตัวเมืองประมาณ 65 กิโลเมตร

พระพุทธรูปยืนมงคล

อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม




                                          พระ พุทธรูปยืนมงคล เป็นพระพุทธรูปคูเ่ มืองมหาสารคาม อยู่ที่ตาบล
คันธารราษฎร์ บนทางหลวงหมายเลข 213 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 14 กิโลเมตร เป็นพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี สร้างขึ้น
ด้วยหินทรายแดง เหมือนพระพุทธมิ่งเมือง เชื่อกันว่าอาเภอกันทรวิชัยฝนแล้ง ชาวบ้านที่เป็นผู้ชายจึงสร้างพระพุทธรูปมิ่ง
เมือง และผู้หญิงสร้างพระพุทธรูปยืนมงคลขึ้นเพื่อขอฝน แล้วเสร็จพร้อมกันจึงจัดงานฉลองอย่างมโหฬาร นับแต่นั้นมาฝน
ก็ตกต้องตามฤดูกาล ทาให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ แก่ท้องที่นเี้ ป็นอันมาก
พระพุทธรูปมิ่งเมือง หรือ พระพุทธรูปสุวรรณมำลี

อาเภอกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม




                              พระ พุทธรูปมิ่งเมือง หรือ พระพุทธรูปสุวรรณมาลี สร้างด้วยหินทรายแดง เป็น
พระพุทธรูปศักดิ์สทธิ์สมัยทวาราวดีที่ ชาวมหาสารคามนับถือกัน มาประดิษฐานที่วัดสุวรรณาวาส ตาบลโคกพระ อาเภอ
                 ิ
กันทรวิชัย
กำรเดินทำงใช้เส้นทางหมายเลข 213 (มหาสารคากาฬสินธุ) ห่างจากตัวเมืองประมาณ 14 กิโลเมตรเศษ (อยูทางด้านซ้ายมือ)
                                                       ์                                       ่

เขตห้ำมล่ำสัตว์ป่ำดูนลำพัน

อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม




                                           เขต ห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลาพัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะเป็นป่ธรรมชาติ มี
น้าไหลเฉพาะที่ตลอดเวลาหรือที่เรียกว่าป่าน้าซับ นอกจากนั้นยังมีพืชและสัตว์ที่ไม่ค่อยพบในที่อื่นๆ และหายากเช่น ต้นลา
พัน, เห็ดลาบ, ปลาคอกั้ง, งูขา และ ปูทูลกระหม่อม หรือปูแป้งเป็นปูน้าจืดที่สวยที่สุดในโลก ตัวขนาดใหญ่กว่าปูนา ลาตัวมี
หลายสี เช่นม่วง, ส้ม, เหลือง และขาว และจะพบเฉพาะที่ป่าดูนลาพันแห่งนีเ้ ท่านัน
                                                                            ้




โรงแรม รีสอร์ทจังหวัดมหำสำรคำม ที่พัก มหำสำรคำม
ร้ำน อำหำรในจังหวัดมหำสำรคำม
ข้อมูลสถำนที่ท่องเที่ยว จังหวัดมหำสำรคำม

พระธำตุนำดูน

อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม




                                           พระ ธาตุนาดูน พุทธมณฑลแห่งอีสาน ตั้งอยู่ที่บ้านนาดูน เขตอาเภอนาดูน
เป็นเขตที่มีการขุดพบหลักฐานทางประวัตศาสตร์ โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เพราะบริเวณนี้ได้เคยเป็น
                                       ิ
ที่ตั้งของนครจาปาศรีมาก่อน โบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบได้นาไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่นและที่
สาคัญ ยิ่งก็คือ
การขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคา เงิน และสาริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่
13-15 สมัยทวาราวดี รัฐบาลจึงอนุมัติให้ดาเนินการก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึนในเนื้อที่ 902 ไร่ โดยบริเวณรอบๆ จะมี
                                                                     ้
พิพิธภัณฑ์ทางศาสนาและวัฒนธรรม สวนรุกขชาติ สวนสมุนไพร ซึ่งตกแต่งให้เป็นสถานที่สาคัญทางพุทธศาสนา

ควำมเป็นมำของพระธำตุนำดูน
อาเภอนาดูน เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณแห่งหนึ่งที่มีประวัติอนยาวนาน โดยบริเวณที่ตั้งของอาเภอนาดูนคือ เมืองจัมปาศรี
                                                                  ั
ที่เจริญรุ่งเรือนในสมัยทวารวดี เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-15 ซึ่งมีหลักฐานทางประวัตศาสตร์และโบราณคดีที่คนพบ
                                                                                        ิ                     ้
มากมาย สรุปความดังนี้
ถิ่นฐานอารยธรรมจัมปาศรีในอดีตกาล สันนิษฐานได้ว่ามีความเจริญรุ่งเรืองมา 2 ยุค คือ
1. ยุคทวารวดี ระหว่าง พ.ศ. 1000-1200
2. ยุคลพบุรี ระหว่าง พ.ศ. 1600-1800
ในราวพุทธศตวรรษที่ 13-16 ภายในตัวเมืองและนอกเมืองมีเจดีย์สมัยทวารวดีอยู่ 25 องค์ (ขณะนี้ได้ขุดค้นพบแล้ว 10 องค์)
เจ้าผูครองเมืองนครจาปาศรี นับตังแต่ พระเจ้ายศวรราช ได้สร้างสถานที่สักการะบูชาในพิธีทางศาสนาพราหมณ์และพุทธ
      ้                            ้
เช่น เทวาลัย ปรางค์กู่ เป็นต้น ซึ่งถือว่าได้เจริญรุ่งเรืองทังในด้านศาสนา วัฒนธรรม และการปกครอง จนถึงขีดสุดแล้วได้
                                                            ้
เสื่อมถอยลงจนถึงยุคอวสานในสมัยพระเจ้าฟ้างุ่มแหล่งหล้า ธรณี

ค้นพบและการก่อสร้างพระธาตุนาดูน
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2522 ได้ขุดค้นพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สถูปทาด้วยทองสาริด แยกเป็น 2 ส่วน คือ

1. ตัวสถูปหรือองค์ระฆัง แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตัวสถูป เป็นส่วนที่บรรจุ พระอังคาร (ขีเ้ ถ้า) เทียนดอกไม้ ตอนคอสถูป
เป็นส่วนทีบรรจุผอบพระบรมสารีริกธาตุโดยผอบจะบรรจุพร้อมกัน 3 ชั้น คือ ผอบทองคา จะซ้อนอยู่ในผอบเงิน ผอบเงิน
          ่
จะซ้อนอยู่ในผอบทองสาริด ทุกผอบมีฝาปิดมิดชิด ภายในผอบทองคามีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ 1 องค์ มีลักษณะเป็น
เกล็ดสีขาวขุ่นขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารหักครึ่ง หล่อเลี้ยงไว้ด้วยน้ามันจันทน์เมือเปิดออกมาจะมีกลิ่นหอมมาก
                                                                           ่

2. ส่วนยอดทาด้วยทองสาริดกลมตัน ทาเป็นปล้องไฉนลูกแก้วและปลียอด ตอนต้นทาเป็นเกลียวสามารถปิดประกอบกับ
ส่วนตัวองค์สถูปได้พอดี

พระธาตุนาดูน จาลองแบบสถูปทองสาริดที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นศิลปะทวารวดี ก่อสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 24
มกราคม 2530 โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดาเนินแทนพระองค์มาประกอบพิธี
อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นประดิษฐานไว้ในองค์พระธาตุนาดูน เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2530
กำรเดินทำงจาก ตัวเมืองมหาสารคาม โดยใช้เส้นทางหมายเลข 2040 ผ่านอาเภอแกดา อาเภอวาปีปทุม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทาง
หลวงหมายเลข 2045 ถึงอาเภอนาดูน ทางลาดยางตลอด ห่างจากตัวเมืองประมาณ 65 กิโลเมตร



พระพุทธรูปยืนมงคล

อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม




                                          พระ พุทธรูปยืนมงคล เป็นพระพุทธรูปคูเ่ มืองมหาสารคาม อยู่ที่ตาบล
คันธารราษฎร์ บนทางหลวงหมายเลข 213 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 14 กิโลเมตร เป็นพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี สร้างขึ้น
ด้วยหินทรายแดง เหมือนพระพุทธมิ่งเมือง เชื่อกันว่าอาเภอกันทรวิชัยฝนแล้ง ชาวบ้านที่เป็นผู้ชายจึงสร้างพระพุทธรูปมิ่ง
เมือง และผู้หญิงสร้างพระพุทธรูปยืนมงคลขึ้นเพื่อขอฝน แล้วเสร็จพร้อมกันจึงจัดงานฉลองอย่างมโหฬาร นับแต่นั้นมาฝน
ก็ตกต้องตามฤดูกาล ทาให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ แก่ท้องที่นเี้ ป็นอันมาก



พระพุทธรูปมิ่งเมือง หรือ พระพุทธรูปสุวรรณมำลี

อาเภอกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม
พระ พุทธรูปมิ่งเมือง หรือ พระพุทธรูปสุวรรณมาลี สร้างด้วยหินทรายแดง เป็น
พระพุทธรูปศักดิ์สทธิ์สมัยทวาราวดีที่ ชาวมหาสารคามนับถือกัน มาประดิษฐานที่วัดสุวรรณาวาส ตาบลโคกพระ อาเภอ
                 ิ
กันทรวิชัย
กำรเดินทำงใช้เส้นทางหมายเลข 213 (มหาสารคากาฬสินธุ) ห่างจากตัวเมืองประมาณ 14 กิโลเมตรเศษ (อยูทางด้านซ้ายมือ)
                                                       ์                                       ่




เขตห้ำมล่ำสัตว์ป่ำดูนลำพัน

อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม




                                           เขต ห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลาพัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะเป็นป่ธรรมชาติ มี
น้าไหลเฉพาะที่ตลอดเวลาหรือที่เรียกว่าป่าน้าซับ นอกจากนั้นยังมีพืชและสัตว์ที่ไม่ค่อยพบในที่อื่นๆ และหายากเช่น ต้นลา
พัน, เห็ดลาบ, ปลาคอกั้ง, งูขา และ ปูทูลกระหม่อม หรือปูแป้งเป็นปูน้าจืดที่สวยที่สุดในโลก ตัวขนาดใหญ่กว่าปูนา ลาตัวมี
หลายสี เช่นม่วง, ส้ม, เหลือง และขาว และจะพบเฉพาะที่ป่าดูนลาพันแห่งนีเ้ ท่านัน
                                                                            ้



วนอุทยำนโกสัมพี

อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม
วน อุทยานโกสัมพี มีเนื้อที่ 125 ไร่ มีลักษณะเป็นสวนป่ามีตนไม้หลายชนิด
                                                                                                      ้
เช่น ต้นยางขนาดใหญ่ ต้นตะแบก และยังมีลิงแสมฝูงใหญ่จานวนหลายพันตัว มีลิงแสมขนสีทอง ซึงเป็นพันธุ์ที่หายาก ไม่ดุ
                                                                                                ่
ร้าย วนอุทยานโกสัมพีมีสิ่งที่น่าสนใจคือแก่งตาด ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม น้าจะตื้นเขินมองเห็นหินดาน และ
ยังมีลานข่อย ซึ่งมีต้อนข่อยกว่า 200 ต้น ดัดแปลงเป็นไม้แคระตกแต่งเป็นรูปต่างๆ

ข้อมูลสถำนที่ท่องเที่ยว จังหวัดอุบลรำชธำนี

อุทยำนแห่งชำติผำแต้ม

อาเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานี

ได้ รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2534 ครอบคลุมพื้นที่อาเภอโขงเจียม อาเภอศรีเมืองใหม่ และ
อาเภอโพธิ์ไทรมีพื้นที่ติดกับประเทศลาว โดยมีแม่น้าโขงเป็นเส้นแบ่งพรมแดน มีพื้นที่ประมาณ 140 ตารางกิโลเมตร สภาพ
ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขา มีหน้าผาสูงชันซึ่งเกิดจากการแยกตัวของผิวโลก สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าเต็งรัง มีหิน
ทรายลักษณะแปลกตากระจายอยูทั่วบริเวณ มีพันธุ์ไม้ดอกที่สวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน การเดินทางจากอาเภอโขงเจียมใช้
                                ่
เส้นทาง 2134 ต่อด้วยเส้นทาง 2112 แล้วแยกขวาไปผาแต้มอีกราว 5 กิโลเมตร รวมระยะทางจากโขงเจียมประมาณ 18
กิโลเมตร สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่




                                          เสำเฉลียง อยู่ ก่อนถึงผาแต้มประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นเสาหินธรรมชาติที่เกิด
จากการกัดเซาะของน้าและลมนับล้านปี มีลักษณะคล้ายดอกเห็ดเรียงรายกันอยู่มากมาย ซึ่งหินดังกล่าวจะปรากฏเห็นซาก
เปลือกหอย กรวด ทราย อยู่ในเนือหิน ซึ่งนักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่า เมื่อประมาณล้านกว่าปีมาแล้ว บริเวณนี้คงจะเป็นทะเล
                              ้
มาก่อน ชาวบ้านบริเวณนี้เรียกเสาหินทีคล้ายดอกเห็ดนี้ว่า “เสาเฉลียง” ซึ่งแผลงมาจากคาว่า “สะเลียง” ที่หมายถึง “เสาหิน”
                                    ่

ผำแต้มและผำขำม เป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนสีกอนประวัตศาสตร์
                                                                                             ่         ิ
ปรากฏเรียงรายอยู่ เป็นระยะ มีอายุไม่ต่ากว่าสามพันถึงสี่พันปี ทางอุทยานฯ ได้ทาทางเดินจากหน้าผาด้านบนลงไปชม
ภาพเขียนสีเหล่านีที่หน้าผาด้านล่าง ระยะทางประมาณ 500 เมตร ภาพเขียนจะอยูบนผนังหน้าผายาวติดต่อกันประมาณ 170
                   ้                                                        ่
เมตร ซึ่งเป็นมุมต่ากว่า 90 องศา มีภาพทั้งหมดประมาณ 300 ภาพ แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ สัตว์ เครืองมือเครื่องใช้
                                                                                           ่
สัญลักษณ์ และคน ด้านตรงข้ามผาแต้มคือ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวโดยมีแม่น้าโขงเป็นเส้นกั้น
พรมแดนทา ให้ผาแต้ม เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหมาะสาหรับผู้ที่สนใจจะชมพระอาทิตย์ขนก่อนที่แห่งใด
                                                                                                   ึ้
ในประเทศไทย เช่นเดียวกันกับทีหมู่บ้านเวินบึกทีตั้งอยู่ริมฝังแม่นาโขง ไม่ไกลจากบริเวณแม่น้าสองสีมากนัก ซึ่งทุกวันนี้
                              ่                ่           ่    ้
จะมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจานวนมาก

ถำมืด ตั้งอยู่ทบ้านซะซอม ตามทางหลวงหมายเลข 2112 เลี้ยวซ้ายไปทางบ้านทุ่งนาเมือง ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นถ้า
               ี่
ขนาดกว้าง 4 เมตร สูง 6 เมตร ภายในถ้ามีพระพุทธรูปไม้แกะสลักเรียงรายกันมากมาย แสดงว่าคงจะเคยใช้เป็นที่ประกอบ
พิธีกรรมทางศาสนามาก่อน

นำตกสร้อยสวรรค์ ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 2112 ห่างจากตัวอาเภอโขงเจียมประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นน้าตกขนาด
ใหญ่เกิดจากลาธาร 2 สายคือห้วยสร้อยและห้วยไผ่ที่ไหลจากหน้าผาคนละมาบรรจบกันซึ่งสูงประมาณ 20 เมตร มองดู
คล้ายสร้อยที่แขวนคอ บริเวณน้าตกเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณมีมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว น้าตกสร้อย
สวรรค์จะสวยงามมากในช่วงปลายฤดูฝนเช่นเดียวกับน้าตกอื่น ๆ ในบริเวณนี้




                                  นำตกทุ่งนำเมือง ตั้ง อยู่บนทางหลวงหมายเลข 2112 ห่างจากน้าตกสร้อยสวรรค์
ประมาณ 13 กิโลเมตร โดยมีทางแยกขวาจากบ้านนาโพธิ์กลางไป 10 กิโลเมตร เป็นน้าตกขนาดกลางที่มีความสวยงาม ไหล
ลดหลั่นลงมาตามโขดหิน ชั้นบนสูงสุดประมาณ 25 เมตร บริเวณโดยรอบมีดอกไม้ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะในเดือน
ตุลาคม-ธันวาคม

นำตกแสงจันทร์ (นำตกรู) ก่อนถึงน้าตกทุ่งนาเมือง 1 กิโลเมตร มีทางแยกขวาที่บ้านทุ่งนาเมืองไปน้าตกแสงจันทร์ประมาณ
2 กิโลเมตร เป็นน้าตกขนาดเล็กทีมีความสวยงามและมีลักษณะพิเศษ เกิดจากลาห้วยเล็ก ๆ บนลานหินไหลลอดผ่านหน้าผา
                                  ่
หินที่มีลักษณะเป็นรูลงสู่เพิงผาด้านล่าง หากเดินทางมาชมตอนช่วงเที่ยงวัน ซึ่งแสงอาทิตย์ลอดผ่านรูพอดีจะมองเห็นสาย
น้าตกเหมือนแสงจันทร์

ป่ำดงนำทำม อยู่ในบริเวณภูนาทามทางตอนเหนือของอุทยานฯ ห่างจากที่ทาการอุทยานฯ ประมาณ 36 กิโลเมตร การ
ท่องเที่ยวที่ป่าดงนาทามเป็นลักษณะการเดินป่าชมธรรมชาติป่าไม้ ภูผาและแม่น้าโขง ซึ่งจุดที่น่าสนใจได้แก่ ลานหิน พลาน
ถ้าไฮ เสาเฉลียงคู่ สนสองใบ น้าตกห้วยพอก ผาชนะได (จุดชมพระอาทิตย์ขนก่อนใครในสยาม) ผากาปั่น ผาหินแตก น้าตก
                                                                    ึ้
กวางโตน หินโยกมหัศจรรย์ (มีนาหนัก 50 ตันแต่โยกได้ด้วยคนเดียว) ภูจ้อมก้อม ถ้าปาติหารย์ ภาพเขียนสีก่อน
                               ้
ประวัติศาสตร์ตามหลืบผา เป็นต้น
สาหรับการท่องเที่ยวตามฤดูกาลต่าง ๆ ในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน จะเหมาะในการชมดอกไม้ตามลานหินเช่น เช่น
หยาดน้าค้าง แดงอุบล เอนอ้า เหลืองพิสมร และทุ่งดอกไม้ชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ได้แก่ ดุสิตา สร้อยสุวรรณา มณีเทวา ทิพเกสร สรัสจันทร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี น้าตกที่มีน้ามากช่วงกันยายนถึงธันวาคม
และทะเลหมอกริมโขง ส่วนในช่วงเดือนฤดูแล้งมกราคม-มีนาคม จะเหมาะในการชมป่าไม้เปลี่ยนสี ดอกไม้หน้าแล้ง อาทิ
ต้นรัง ตะแบกเลือด พุดผา ช้างน้าว และล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งลาน้าโขงระหว่างบ้านปากลา-คันท่าเกวียน
นัก ท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดการเดินป่าดงนาทามได้ที่ ที่ทาการอุทยานแห่งชาติผาแต้ม หรือที่อบต.นา
โพธิ์กลาง (โทร. 0 4538 1063)




                                     วัดภูอำนนท์ อยู่ทางทิศเหนือของบ้านซะซอม ห่างจากถนนหมายเลข 2112 ที่บ้าน
นาโพธิ์กลาง ประมาณ 10 กิโลเมตร รถยนต์เข้าถึงสะดวก ภายในบริเวณวัดมีสภาพธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น ลานหิน
รอยเท้าใหญ่ ตุ่มหินธรรมชาติ ภาพเขียนสีศิลปะถ้า เป็นต้น เหมาะสาหรับการท่องเที่ยวชมธรรมชาติในช่วงสั้นๆ

อุทยานแห่งชาติผา แต้ม ยังไม่มีบริการบ้านพักสาหรับนักท่องเที่ยว ผู้ประสงค์จะค้างแรมในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ต้อง
เตรียมอุปกรณ์การพักแรมมาเอง และต้องกางเต็นท์ในที่ซึ่งอุทยานฯ จัดเตรียมไว้ให้ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อได้ที่อทยาน
                                                                                                             ุ
แห่งชาติผาแต้ม ตู้ปณ. 5 อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี 34220 โทร. 0 4524 9780 ,0 4524 6332 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์
ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 www.dnp.go.th

เขื่อนสิรินธร

อาเภอสิรินธร จ.อุบลราชธานี




                                         เขื่อน สิรินธร ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง 70 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 217
แยกขวาที่กิโลเมตร 71 ไปอีก 500 เมตร เป็นเขื่อนหินแกนดินเหนียว สร้างกั้นลาโดมน้อยอันเป็นสาขาของแม่น้ามูล ตัว
เขื่อนสูง 42 เมตร ยาว 940 เมตร อานวยประโยชน์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและการชลประทาน บริเวณริมทะเลสาบมีสวนสิ
รินธร ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ มีรปปั้นและน้าพุสวยงาม มีบริการบ้านพักสาหรับนักท่องเที่ยว ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้
                               ู
ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทร. 0 2436 6046-8 หรือ ที่เขื่อนสิรินธรโทร. 0 4536 6081-3
แก่งสะพือ

อาเภอพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี




                                          แก่ง สะพือ เป็นแก่งหินที่สวยงามในแม่น้ามูล ตั้งอยู่ในตัวอาเภอพิบูลมังสา
หาร ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานี ตามทางหลวงหมายเลข 217 ประมาณ 45 กิโลเมตร คาว่า “สะพือ” เพี้ยนมาจากคาว่า
“ซาฟืด” หรือ “ซาปึ้ด” ซึ่งเป็นภาษาส่วยแปลว่า งูใหญ่ หรืองูเหลือม เป็นแก่งที่มีหินน้อยใหญ่สลับซับซ้อน เมื่อกระแสน้า
ไหลผ่านกระทบหิน เกิดเป็นฟองขาวมีเสียงดังตลอดเวลา ช่วงที่เหมาะสาหรับเที่ยวชมแก่งสะพือคือหน้าแล้ง ราวเดือน
มกราคม-พฤษภาคม เพราะน้าจะลดเห็นแก่งหินชัดเจนสวยงาม ส่วนหน้าฝนน้าจะท่วมมองไม่เห็นแก่ง พระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดาเนินมาชมแก่งนี้ 2 ครั้ง ริมฝั่งแม่น้ามีศาลาพัก
ร้อน และร้านขายสินค้าพื้นเมือง ในวันหยุดมีประชาชนมาเที่ยวพักผ่อนกันเป็นจานวนมาก
นอกจากนี้แล้วในเดือนเมษายนของทุกปี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีการจัดงานประเพณีสงกรานต์แก่งสะพือ เพื่อส่งเสริมการ
ท่องเที่ยวและประเพณีอันดีงามด้วย



แก่งสองคอน สำมพันโบก

อาเภอโพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี

ที่ หมู่บ้านสองคอน ตาบลสองคอน อาเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ชุมชนเล็ก ๆ สงบร่มรื่นฝังโขงด้านตะวันออกสุด
                                                                                        ่
สยาม เป็นจุดที่แม่น้าโขงไหลพาดปะทะกับแนวเทือกเขาภูพานตอนปลาย การปะทะกันของพลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
ก่อให้เกิดภูมิประเทศที่มหัศจรรย์มากมาย ซึ่งจะสัมผัสได้ยามที่แม่น้าโขงลดระดับลงได้ทในยามฤดูแล้งราวเดือน มกราคม-
                                                                                  ี่
เมษายน




                                           ปำกบ้อง ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้าโขงแคบที่สุด ตลอดระยะทางยาวกว่า 700
กิโลเมตร โดยมีความกว้างของแม่น้าเพียง 56 เมตร
หินหัวพะเนียง เกาะหินขนาดใหญ่กลางแม่น้าโขง รูปลักษณ์แปลกตาที่ขนาบข้างด้วย 2 แก่งน้าโขง ทาให้แม่น้าโขงแยก
ออกเป็นสองสาย หรือสองคอนในภาษาท้องถิ่น จึงเป็นที่มาของชือ บ้านสองคอน
                                                           ่
หำดหงส์ เนินทรายชายโขงขนาดมหึมา
หำดหินสี หลักศิลาเลข เป็นการวัดระดับน้าโขงในสมัยฝรังเศส
                                                      ่
ทุ่งหินเหลื่อม ทุ่งก้อนหินมันวาวราวกับเซรามิคธรรมชาติ
แก่งสองคอน สำมพันโบก เป็นแก่งหินที่อยูใต้ลาน้าโขง เนื่องจากในช่วงฤดูน้าหลาก แก่งหินดังกล่าวจะจมอยู่ใต้บาดาล ด้วย
                                         ่
แรงน้าวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3,000 โบก และจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้ง




                                            การเดินทางท่องเที่ยวทางเรือไปยังแก่งสามพันโบก นิยมนั่งเรือจากหาดสลึง
ที่บ้านสองคอน ล่องตามลาน้าโขงระยะทาง 4 กิโลเมตร ระหว่างทางจะผ่าน "ปากบ้อง" จุดแคบที่สดของแม่น้าโขง และ หิน
                                                                                          ุ
หัวพะเนียง เป็นแก่งหินกลางแม่น้าที่ทาให้แม่น้าโขงแยกออกเป็นสองสาย หรือสองคอนในภาษาท้องถิ่น จึงเป็นที่มาของชื่อ
บ้านสองคอน
นอกจากนี้ยังมีสวนเกษตรลาไย และมะขามหวาน ให้ชิมตามฤดูกาล มีที่พักและร้านอาหารไทยและอีสาน ไว้รองรับ
นักท่องเที่ยวริมหาดสลึงหาดทรายยาวเหยียดอีกด้วย
กำรเดินทำง จากจังหวัดอุบลราชธานี ตามทางหลวงหมายเลข 2050 ผ่านอาเภอตระการพืชผล ไปยังอาเภอโพธิ์ไทร ด้วย
ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร และเดินทางต่อไปยังบ้านสองคอนเข้าไปหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร สอบถาม
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อบต. สองคอน อาเภอโพธิ์ไทร โทร. 0 4533 8057 , 0 4533 8015

        เลย
        อุทยานแห่งชาตินาแห้ว
        สถานทีตั้ง
              ่
        อำเภอนำแห้ว จังหวัดเลย
        สิ่งดึงดูดใจ
        เป็นสถำนที่ท่องเที่ยวที่มีทรัพยำกรธรรมชำติ ป่ำไม้และสัตว์ป่ำอุดมสมบูรณ์ มีภูเขำรำยรอบจำนวนมำก และ
        อำกำศหนำวเย็นจัดในฤดูหนำว มีดอกไม้ปำขึ้นตำมบริเวณต่ำง ๆ ทำให้บรรยำกำศโดยรอบสวยงำมมำก เหมำะ
                                           ่
        แก่กำรพักผ่อนหย่อนใจยิ่ง นอกจำกนี้ยงมีสถำนที่ท่องเทียวมำกมำยภำยในอุทยำนรวมทังมีนำตกที่สวยงำม
                                           ั                ่                       ้ ้
        หลำยแห่ง
        สิ่งอานวยความสะดวกในอุทยานแห่งชาตินาแห้ว
        มีศูนย์บริกำรนักท่องเที่ยว เพื่อคอยให้บริกำรด้ำนข้อมูล แผนที่เส้นทำงท่องเที่ยวบริเวณอุทยำนแห่งชำตินำแห้ว
มีบริกำรคนนำทำง ลูกหำบ อำหำร และบ้ำนพักนักท่องเที่ยว และยังมีหน่วยพิทักษ์อุทยำนคอยอำนวยควำม
         สะดวกตลอดเส้นทำง
         เส้นทางเข้าสู่อทยานแห่งชาตินาแห้ว
                        ุ
         จำกจังหวัดเลยใช้เส้นทำง เลย - ด่ำนซ้ำย ตรงเข้ำสู่ทำงหลวงหมำยเลข 2113 ถึง อำเภอนำแห้ว ใช้เวลำ
                                                                              ประมำณ 2-3 ชั่วโมง ระยะทำง
                                                                              118 กิโลเมตร




ชมทุ่งดอกกระเจียว ที่ภูแลนคำ จังหวัดเลย สถำนที่ท่องเที่ยวเลย




ชมทุ่งดอกกระเจียว ที่ภูแลนคา จังหวัดเลย

ทุ่งดอกกระเจียวเป็น แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของทางภาคอีสาน ในช่วงฤดูฝนจะมีนักท่องเที่ยวมาเทียวกันอย่างหนาแน่น
                                                                                           ่
สาหรับแหล่งท่องเที่ยวทีจะพาทุกท่านไปก็คืออุทยำนแห่งชำติภูแลนคำ อุทยานใหม่มของดีซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยครับ สาหรับ
                       ่                                                      ี
เส้นทางการศึกษาธรรมชาติ สภาพป่าเป็นป่าเต็งรัง เบืองล่างเป็นต้นหญ้าเขียวไสว ถ้ามองดูให้ดีท่านจะพบกับแมลง
                                                  ้
หลากหลายชนิด ท่านจะเดินทางตัดผืนป่าจนมาถึงหินรูปปราสาท เป็นผาหินขนาดใหญ่ นอกจากนั้นท่านจะพบกับหิน
รูปร่างแปลกตาอีกหลายแห่งครับ เมื่อชื่นชมกับป่าเต็งรังจนเต็มอิ่มแล้ว




อุทยานแห่งชาติภูแลนคา

ท่านก็สามารถนอนพักค้างแรมทีจุดชมวิวของทางอุทยานแห่งชาติได้ ยิ่งในยามค่าคืนอากาศ ก็เย็นสบาย ตกเช้าตื่นมาก็พบ
                               ่
กับสายหมอกและอากาศเย็นยามเช้า ระหว่างทางเดินลงเชิงเขาก็แวะชมทิวทัศน์ของท้องนาสีเขียวขจีสลับกับที่กาลัง รอการ
ปักดา ท้องฟ้ายามเช้าในฤดูฝนอากาศขมุกขมัวไร้แสงเป็นวันพักผ่อนที่สบายไม่ต้องเร่ง รีบระหว่างทางกลับ
เราแวะไหว้พระและชมวัดผาเกิ้งหรือวัดชัยภูมิพิทักษ์ ซึ่งอยู่ใกล้กับทางเข้าอุทยาน จุดเด่นของอุทยานแห่งนี้ นอกจาก
ทัศนียภาพของป่าเต็งรังที่สมบูรณ์แล้วยังมีทุ่งดอกกระเจียว
บานรอบยังกับท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ติดต่ออุทยานแห่งชาติภูแลนคา 044-810902-3

การ เดินทางจากกรุงเทพมหานคร ใช้ทางหลวงหมายเลข1จนถึงจังหวัดสระบุรี แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ผ่านอาเภอ
หมวกเหล็ก จังหวัดนครราชสีมาจากนั้นแยกขวาใช้ทางหลวงหมายเลข 201 ผ่านอาเภอสีคิ้ว อาเภอจัตุรัส ถึงจังหวัดชัยภูมิ
เมื่อถึงชัยภูมิใช้ทางหลวง หมายเลข 2051 ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีแยกซ้ายมือเข้าทางหลวงหมายเลข 2159 อีก
26 กิโลเมตรจะมีแยกซ้ายมือเข้าทีทาการอุทยาน
                                ่

สาหรับการเดินทางด้วยรถโดยสาร ก็มีรถหลากหลายบริษัทครับยังไงก็ไปติดต่อที่สถานีขนส่งกรุงเทพ-หมอชิตก็แล้วกัน
โคราช
Palio Khaoyai (ปำลิโอ เขำใหญ่)
สถำนที่ในเขำใหญ่ที่กำลัง HIP คือ Palio หรือ ปำลิโอ ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชต์ หลักกิโลเมตรที่ 17 ติดกับโรงแรม
จุลดิศ เขำใหญ่ รีสอร์ท แอนด์ สปำ ท่ำนจะได้สัมผัส Palio เขำใหญ่ในบรรยำกำศอิตำลี จนเผลอคิดว่ำเรำอยูใน
                                                                                                 ่
อิตำลีจริงๆ เพรำะไม่วำจะเป็นอำคำรถูกออกแบบให้เป็นกลุ่มอำคำรถนนคนเดิน หรือสถำปัตยกรรมยุโรป
                     ่
                                                                                                           ปาลิโอ เขาใหญ่
โบรำณแนวอิตำเลี่ยนสไตล์ที่รำยล้อม แถมคำว่ำ Palio ยังเป็นภำษำอิตำเลียน หมำยถึง "รำงวัล" อีกด้วย
                                                                                                           walking street &
                                                                                                           shopping center
                                                                                                           ปาลิโอ เขาใหญ่ : จัง

                                                                                                           New walking stree
                                                                                                           อำณำจักรใหม่ของชีวต
                                                                                                                             ิ
                                                                                                           สะดวก สู่ศูนย์กลำงคว
                                                                                                           เมือง ค้นพบจินตนำกำ
                                                                                                           สิ้นสุดได้ด้วยตัวคุณ แร
                                                                                                           ทุกวินำทีที่ Khaoyai V
                                                                                                           สุนทรีย์แห่งควำมบันเท
                                                                                                           ต้องกำร ในบรรยำกำศ
                                                                                                           เรำอยูในอิตำลีจริงๆ เพ
                                                                                                                 ่
                                                                                                           อำคำรถูกออกแบบให้เ
                                                                                                           คนเดิน หรือสถำปัตยก
                                                                                                           อิตำเลี่ยนสไตล์ที่รำยล
ร้ำนเล็กๆ น่ำรักๆ เป็นแนวลดหลั่นเรียงกันมำกมำย
ภำยใน Palio เขำใหญ่ มีรำนเล็ก ๆ เป็นแนวลดหลั่นเรียงกันมำกมำย มีสินค้ำแทบจะทุกประเภท ไม่ว่ำจะเป็น
                       ้
ของแต่งบ้ำน, เสื้อผ้ำแฟชั่น, เครื่องประดับ, เครื่องเสียง, งำนดีไซน์ต่ำง ๆ, ธนำคำร, ร้ำนขำยของทีระลึก, พืชผัก
                                                                                               ่
ปลอดสำรพิษ ร้ำนไวน์ Coffee Shop, Pub & Restaurant, Bakery ร้ำนเสริมสวย Spa ร้ำนขำยยำ ร้ำนขำย
หนังสือ ศูนย์อำหำร ร้ำน IT ฯลฯ โดยแต่ละร้ำนจะได้รับกำรออกแบบให้มีสไตล์ และเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่
กลมกลืนเข้ำภูมิทัศน์ล้อมรอบที่ดำรงควำมเป็นธรรมชำติของเขำใหญ่
บรรยำกำศสไตล์อิตำเลี่ยน
นอกจำกนี้ยังมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ได้แก่ สวนหย่อม น้ำพุ ลำนอเนกประสงค์สำหรับจัดกำรแสดงหรือดนตรี
ห้องแสดงสินค้ำหรือนิทรรศกำร แต่ถ้ำอยำกเต็มอิ่มกับ Palio เขำใหญ่ ก็ลองหำที่พักทีเ่ หมำะสมกับกระเป๋ำ
ตัวเองที่มให้เลือกหลำยรำคำ และนี่ก็คือ Palio เขำใหญ่ สถำนที่ทองเที่ยวสุด Chic
          ี                                                  ่
Palio เขำใหญ่
                                      หากอยากไปสัมผัสบรรยากาศสไตล์
                                      อิตาเลี่ยนแบบนี้ Palio เขาใหญ่ เปิด
                                      บริการทุกวัน
                                      ตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น.




ที่พัก Palio Inn ห้องพักสไตล์ บูติค
เปิดให้บริกำรแล้ว
สำหรับผู้ที่ชอบบรรยำกำศ ท่ำมกลำงสถำปัตยกรรมแบบอิตำลี่ ณ. ปำลิโอ เขำใหญ่ ห้องพักอยู่ในบริเวณ
Palio Khao Yai walking street & shopping center มีทั้งหมด 12 ห้อง แต่ละห้องตกแต่ง ไม่

เหมือนกันซึงมีควำมสวยงำมแตกต่ำงกันไป
           ่

                                                                                                                                         รูปเหมือนหลวงปู่ทวด
                                                                                                                                         องค์ใหญ่ที่สุดในโลก




        วัด ป่าแสงธรรมพรหมรังสี โคราช สร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ทใหญ่ที่สดในโลก ขนาดหน้าตักกว้าง 38 เมตร สูง 49 เมตร
                                                                   ี่      ุ
        แหล่งท่องเที่ยวทาบุญแห่งใหม่ของพุทธศาสนิกชนชาวไทย


        นครราชสีมา วันนี้ (4 ม.ค. 54) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้จังหวัดนครราชสีมามีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใหม่อีกแห่งหนึ่ง และน่าจะเป็นสถานที่ที่สามารถดึงดูดใจ
        นักท่องเที่ยวให้แวะไปเยี่ยมชมได้ คือ ที่วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี ตาบลปรุใหญ่ อาเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา


        ซึ่ง ที่วัดดังกล่าวกาลังมีการจัดสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยปูน และแกะสลักรูปเหมือนอย่างสวยงาม โดยใช้เวลาก่อสร้าง
        จนถึงขณะนี้นานกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกมีขนาดหน้าตักกว้าง 38 เมตร ความสูงรวม 49 เมตร


        ซึ่งรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกดัง กล่าว ถูกสร้างขึ้นด้วยความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน และศิษยานุศิษย์ของพระครูปลัดภูมิ ญาณสัมปัญโน
        เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมรังสี ที่ต้องการก่อสร้างสถานที่ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 18 ล้านบาท ซึ่งจนถึงขณะนี้การก่อสร้าง
        แล้วเสร็จไปประมาณ 90% แล้ว และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ปี 2554 นี้
ทั้งนี้หาก การก่อสร้างแล้วเสร็จวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสีก็จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่ง ใหม่ของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนทั่วไป
สามารถแวะไปทาบุญ และกราบสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวได้
นอดีตป่ำลำนที่อดมสมบูรณ์มขึ้นอยู่กระจำยทั่วๆ ไปในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมำมีกำรขยำยตัวของพื้นที่
               ุ         ี
เกษตรกรรม จึงทำให้ปำลำนได้ถกบุกรุกทำลำยลงไปมำก จนปัจจุบันคงเหลือป่ำลำนแห่งสุดท้ำย คือ บริเวณ
                   ่       ู
บ้ำนทับลำน บ้ำนขุนศรี บ้ำนบุพรำหมณ์ และบ้ำนวังมืด จังหวัดปรำจีนบุรี ในกำรไปตรวจสอบสภำพป่ำลำนเมือ
                                                                                               ่
วันที่ 24 มีนำคม 2517 นำยประดิษฐ์ วนำพิทักษ์ อธิบดีกรมป่ำไม้ พบว่ำ ป่ำลำนในบริเวณดังกล่ำวเป็นป่ำลำน
แห่งสุดท้ำยของประเทศเพื่ออนุรกษ์ป่ำลำน ไว้ จึงมีดำริให้จัดตังป่ำลำนนี้เนื้อที่ประมำณ 36,250 ไร่ หรือ 58
                             ั                              ้
ตำรำงกิโลเมตร เป็นวนอุทยำน และในกำรประชุมคณะกรรมกำรอุทยำนแห่งชำติครั้งที่ 1/2518 เมื่อวันที่ 4
เมษำยน 2518 ได้มีมติให้ดำเนินกำรวำงแผนปฏิบัติกำรที่ป่ำลำนกบินทร์บุรี ซึ่งสำนักงำนป่ำไม้เขตปรำจีนบุรี ได้
มีคำสั่งที่ 169/2518 ลงวันที่ 11 เมษำยน 2518 และคำสั่งที่ 194/2518 ลงวันที่ 15 เมษำยน 2518 ให้ นำยสุ
ชล ผำติเสนะ นักวิชำกำรป่ำไม้ตรี และ นำยยัณห์ ทักสูงเนิน พนักงำนประจำเขต โดยอยู่ในควำมควบคุมกำร
ดำเนินงำนของนำยไพโรจน์ เชี่ยวเอี่ยมวัฒนำ นักวิชำกำรป่ำไม้โท ไปดำเนินกำรรังวัดหมำยแนวเขต และจัดพื้นที่
ปรับปรุงให้เป็นวนอุทยำนป่ำลำน ในพื้นที่ป่ำสงวนแห่งชำติแก่งดินสอ-แก่งใหญ่-เขำสะโตน จังหวัดปรำจีนบุรี




ต่อมำกองอุทยำนแห่งชำติ กรมป่ำไม้ ได้มีคำสั่งที่ 2383/2520 ลงวันที่ 8 ธันวำคม 2520 ให้นำยเชำวลิต เลิศช
ยันตรี นักวิชำกำรป่ำไม้ 5 ทำหน้ำที่หัวหน้ำวนอุทยำนทับลำน และในปี พ.ศ. 2523 กองอุทยำนแห่งชำติ ได้ให้
วนอุทยำนทับลำนสำรวจพื้นที่โดยรอบ เพื่อผนวกพื้นที่บริเวณใกล้เคียงแนวเขตติดต่อวนอุทยำน ยกฐำนะวน
อุทยำนทับลำนเป็นอุทยำนแห่งชำติ ผลกำรสำรวจปรำกฏว่ำ บริเวณป่ำดังกล่ำวโดยรอบมีสภำพป่ำสมบูรณ์ มี
ทิวทัศน์สวยงำม สัตว์ป่ำชุกชุมเป็นป่ำต้นน้ำลำธำรของแม่นำบำงปะกงและแม่นำมูล ตำมหนังสือรำยงำนผลกำร
                                                      ้              ้
สำรวจ ที่ กส 0708(ทล.)/16 ลงวันที่ 25 กุมภำพันธ์ 2523 ทั้งเพือเป็นกำรสนองมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9
                                                             ่
มกรำคม 2522 ที่ให้รักษำป่ำไว้โดยกำรประกำศให้เป็นอุทยำนแห่งชำติ
กรมป่ำไม้จงเสนอให้คณะกรรมกำรอุทยำนแห่งชำติ ซึ่งได้มีมติในกำรประชุมครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหำคม
          ึ
2523 เห็นสมควรออกพระรำชกฤษฎีกำกำหนดพื้นที่ป่ำดังกล่ำวเป็นอุทยำนแห่งชำติ โดยได้มีพระรำชกฤษฎีกำ

กำหนดบริเวณที่ดินป่ำวังน้ำเขียวและป่ำครบุรี ในท้องที่ตำบลสะแกรำช ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอปักธงชัย
ตำบลครบุรี ตำบลจระเข้หิน ตำบลโคกกระชำย อำเภอครบุรี และตำบลสระตะเคียน ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอ
เสิงสำง จังหวัดนครรำชสีมำ และป่ำแก่งดินสอ ป่ำแก่งใหญ่ และป่ำเขำสะโตน ในท้องที่ตำบลบุพรำหมณ์ ตำบล
ทุ่งโพธิ์ อำเภอนำดี จังหวัดปรำจีนบุรี ให้เป็นอุทยำนแห่งชำติ ซึ่งประกำศไว้ในรำชกิจจำนุเบกษำเล่ม 98 ตอนที่
210 ลงวันที่ 23 ธันวำคม 2524 นับเป็นอุทยำนแห่งชำติลำดับที่ 39 ของประเทศ




ต่อมำได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มิถุนำยน 2531 อนุญำตให้กรมชลประทำนใช้พื้นที่ในเขตอุทยำน
แห่งชำติทับลำนบริเวณป่ำวังน้ำ เขียว ป่ำครบุรี ป่ำแก่งดินสอ ป่ำแก่งใหญ่ และป่ำเขำสะโตน บำงส่วนในท้องที่
ตำบลจระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครรำชสีมำ ก่อสร้ำงอ่ำงเก็บน้ำลำมูลบน เพื่อพัฒนำภำค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีเนื้อที่ 2,625 ไร่ หรือ 4.20 ตำรำงกิโลเมตร โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ดำเนินกำรตำมพระรำชกฤษฎีกำเพิกถอนพื้นที่ส่วน นี้ออก และในปี 2532 จึงได้มีพระรำชกฤษฎีกำเพิกถอน
อุทยำนแห่งชำติป่ำวังน้ำเขียว ป่ำครบุรี ป่ำแก่งดินสอ ป่ำแก่งใหญ่ และป่ำเขำสะโตน บำงส่วนในท้องที่ตำบล
จระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครรำชสีมำ ออกจำกกำรเป็นอุทยำนแห่งชำติตำมที่กำหนดไว้โดยพระรำช
กฤษฎีกำเดิมปี พ.ศ. 2524 ซึ่งประกำศไว้ในรำชกิจจำนุเบกษำเล่ม 106 ตอนที่ 107 ลงวันที่ 7 กรกฎำคม 2532
อุบล


           เสำเฉลียง
       จำนวนผูเ้ ข้ำชม 489 ครั้ง
เสาเฉลียง

เสำเฉลียง จ.อุบลรำชธำนี เสา เฉลียง ตั้งอยู่ที่ ตาบลห้วยไผ่ อาเภอโขงเจียม การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 217 จาก
จังหวัดอุบลราชธานี ไปอาเภอพิบูลมังสาหาร แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 2222 ไปอาเภอโขงเจียม จากอาเภอโขงเจียมใช้
เส้นทางสาย 2134 (โขงเจียม – ศรีเมืองใหม่) ประมาณ 5 กิโลเมตร แยกขวา เข้าเส้นทางสาย 2112 อีกประมาณ 9 กิโลเมตร มี
ทางแยกขวาไปผาแต้ม จะถึงเสาเฉลียงประมาณ 1.5 กิโลเมตรก่อนถึงผาแต้ม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัตศาสตร์ของ
                                                                                                      ิ
จังหวัดอุบลราชธานี
เสาเฉลียง

เสำเฉลียง เสา เฉลียงเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ สืบเนื่องมาจากกระบวนการกัดเซาะและกัดกร่อนด้วยอิทธิพลของ
น้าและลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการสึกกร่อนโดยแม่น้าหรือธารน้าไหลกัดเซาะเป็นเวลาชั่ว นาตาปี เกิดขึ้นในชั้นหินที่
วางตัวอยู่ในแนวราบหรือเกือบราบและในแต่ละชั้นมีส่วน ประกอบของแร่ที่แตกต่างกัน จึงทาให้มความแข็งและทนทานที่
                                                                                        ี
ไม่เหมือนกัน
เสาเฉลียง

ประติมากรรมชิ้นเอกร่วมกันของหินทราย 2 ยุค คือ หินทรายยุค ครีเตเซียส ซึ่งมีอายุประมาณ 130 ล้านปี เป็นส่วนดอกเห็ด
อยู่ท่อนบน และหินทราย ยุคไดโนเสาร์ มีอายุประมาณ 180 ล้านปี เป็นส่วนต้น เสาหินท่อนล่างโดยผ่านการถูกชะล้าง
พังทลายอันเกิดจากสภาพอากาศ ฝนและลมพายุเป็นเวลาหลายล้านปี ซึ่งคุณสมบัติทางธรณีวิทยาของหินทรายนั้นง่ายต่อ
การสึกกร่อนกว่าหินชนิดอื่น ที่จดอยู่ในกลุ่มหินชึ้นเดียวกัน และเมื่อผ่านการสึกกร่อนไปได้ระยะหนึ่งก็มีสิ่งทีเ่ รียกว่า
                                 ั
กระบวนการต้านทานทางธรรมชาติ และแรงกดทับของเม็ดฝนทาให้หินทรายแข็งยิ่งขึน เป็นผลให้สามารถรักษาสภาพให้
                                                                                  ้
คงรูปได้ดังที่เห็นอยู่ในรูปข้างๆนี้ “เสาเฉลียง” แผลงมาจาก “สะเลียง” แปลว่า “เสาหิน”
ที่มา www.thai-tour.com


                                       อุทยำนแห่งชำติผำแต้ม
                                              จำนวนผูเ้ ข้ำชม 354 ครั้ง
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

อุทยำนแห่งชำติผำแต้ม จ. อุบลรำชธำนี มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ผาแต้มและผาขาม เป็นหน้าผาสูงที่สวยงาม
ตามธรรมชาติ บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนสีก่อนประวัตศาสตร์ปรากฏเรียงรายอยู่ เป็นระยะ มีอายุไม่ต่ากว่าสาม
                                                                 ิ
พันถึงสี่พันปี เสาเฉลียง ซึ่งเป็นเสาหินธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้าและลมนับล้านปี น้าตกสร้อยสวรรค์ น้าตกทุ่ง
นาเมือง น้าตกแสงจันทร์ ป่าดงนาทาม และ วัดภูอานนท์ วันนี้ ทาง UpYim.com นาข้อมูล พร้อมภาพ มานาเสนอให้ท่านได้
อ่านกันคะ่

อุทยำนแห่งชำติผำแต้ม ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2534 ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอโขง
เจียม อาเภอศรีเมืองใหม่ และอาเภอโพธิ์ไทร มีพื้นที่ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้าโขงเป็น
เส้นแบ่งพรมแดน มีพื้นที่ประมาณ 140 ตารางกิโลเมตร สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขา มีหน้าผาสูงชันซึ่งเกิด
จากการแยกตัวของผิวโลก สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าเต็งรัง มีหนทรายลักษณะแปลกตากระจายอยู่ทวบริเวณ มีพันธุ์ไม้ดอก
                                                           ิ                              ั่
ที่สวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน

การเดินทาง จากอาเภอโขงเจียมใช้ ทำงหลวงหมำยเลข 2134 ต่อด้วย ทำงหลวงหมำยเลข 2112 ถึงกิโลเมตรที่ 8 แล้วเลี้ยว
ขวาไปผาแต้มอีกราว 5 กิโลเมตร รวมระยะทางจากโขงเจียมประมาณ 18 กิโลเมตร สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่

เสำเฉลียง อยู่ก่อนถึงผาแต้มประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นเสาหินธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้าและลมนับล้านปี มี
ลักษณะคล้ายดอกเห็ดเรียงรายกันอยู่มากมาย ซึ่งหินดังกล่าวจะปรากฏเห็นซากเปลือกหอย กรวด ทราย อยู่ในเนื้อหิน ซึ่งนัก
ธรณีวิทยาสันนิษฐานว่า เมื่อประมาณล้านกว่าปีมาแล้ว บริเวณนีคงจะเป็นทะเลมาก่อน ชาวบ้านบริเวณนี้เรียกเสาหินที่คล้าย
                                                          ้
ดอกเห็ดนี้ว่า “เสำเฉลียง” ซึ่งแผลงมาจากคาว่า “สะเลียง” ที่หมายถึง “เสำหิน” บริเวณนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้
นักท่องเที่ยวเดินเที่ยวชมแต่ต้องมีเจ้าหน้าที่นาทาง




อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

ผำแต้มและผำขำม เป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนสีกอนประวัตศาสตร์
                                                                                                  ่        ิ
ปรากฏเรียงรายอยู่ เป็นระยะ มีอายุไม่ต่ากว่าสามพันถึงสี่พันปี ทางอุทยานฯ ได้ทาทางเดินจากหน้าผาด้านบนลงไปชม
ภาพเขียนสีเหล่านีที่หน้าผาด้านล่าง ระยะทางประมาณ 500 เมตร ภาพเขียนจะอยูบนผนังหน้าผายาวติดต่อกันประมาณ 180
                   ้                                                         ่
เมตร ซึ่งเป็นมุมต่ากว่า 90 องศา มีภาพทั้งหมดประมาณ 300 ภาพ แบ่งเป็น 5 ประเภท คือ สัตว์ ลายเรขาคณิต คนทานา ภาพ
มือ และภาพตุ้ม (เครื่องมือจับปลาของชาวประมงริมโขง) ด้านตรงข้ามผาแต้มคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
โดยมีแม่น้าโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดนทาให้ผา แต้ม เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสาหรับผู้ที่สนใจจะชม
พระ อาทิตย์ขึ้นก่อนที่แห่งใดในประเทศไทย เช่นเดียวกันกับทีหมู่บ้านเวินบึกที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้าโขงไม่ไกล จากบริเวณ
                                                             ่
แม่น้าสองสีมากนัก ซึ่งทุกวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจานวนมาก
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

นำตกสร้อยสวรรค์ เป็นน้าตกขนาดใหญ่เกิดจากลาธาร 2 สาย คือ ห้วยสร้อย และห้วยไผ่ที่ไหลจากหน้าผาคนละด้านมา
บรรจบกันซึ่งสูงประมาณ 20 เมตร มองดูคล้ายสร้อยที่แขวนคอ บริเวณน้าตกเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณมี
มากในช่วงปลายฝนต้นหนาว น้าตกสร้อยสวรรค์จะสวยงามมากในช่วงปลายฤดูฝนเช่นเดียวกับน้าตกอื่น ๆ ในบริเวณนี้
การเดินทาง ตามทางหลวงหมายเลข 2112 กิโลเมตรที่ 20 เลี้ยวขวา 5 กิโลเมตร ถึงบริเวณลานจอดรถยนต์เดินเท้าอีก 500
เมตร

นำตกทุ่งนำเมือง ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 2112 ห่างจากน้าตกสร้อยสวรรค์ ประมาณ 13 กิโลเมตร โดยมีทางแยกขวา
จากบ้านนาโพธิ์กลางไป 10 กิโลเมตร เป็นน้าตกขนาดกลางที่มีความสวยงาม ไหลลดหลั่นลงมาโขดหิน ชั้นบนสูงสุด
ประมาณ 25 เมตร บริเวณโดยรอบมีดอกไม้ต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม-ธันวาคม
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

นำตกแสงจันทร์ (น้าตกรู) อยู่ก่อนถึงน้าตกทุ่งนาเมือง 1 กิโลเมตร มีทางแยกขวาที่บ้านทุ่งนาเมืองไปน้าตกแสงจันทร์
ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้าตกขนาดเล็กที่มความสวยงามและมีลักษณะพิเศษ เกิดจากลาห้วยเล็ก ๆ บนลานหินไหลลอด
                                           ี
ผ่านหน้าผาหินที่มีลักษณะเป็นรูลงสู่เพิงผาด้านล่าง หากเดินทางมาชมตอนช่วงเที่ยงวัน ซึ่งแสงอาทิตย์ลอดผ่านรูพอดีจะ
มองเห็นสายน้าตกเหมือนแสงจันทร์

ป่ำดงนำทำม อยู่ในบริเวณภูนาทาม ห่างจากที่ทาการอุทยานฯ ประมาณ 36 กิโลเมตร การท่องเที่ยวที่ป่าดงนาทามเป็น
ลักษณะการเดินป่าชมธรรมชาติปาไม้ ภูผาและแม่น้าโขง ซึ่งจุดทีนาสนใจได้แก่ ลานหิน พลานถ้าไฮ เสาเฉลียงคู่ สนสองใบ
                               ่                           ่ ่
น้าตกห้วยพอก ผาชนะได ผากาปั่น ผาหินแตก น้าตกกวางโตน หินโยก ภูจ้อมก้อม เป็นต้น ในช่วงเดือนกันยายน-
พฤศจิกายน เป็นช่วงที่เหมาะในการชมดอกไม้ดิน น้าตกและทะเลหมอกริมโขง ส่วนในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม จะเป็น
ช่วงเวลาในการชมป่าไม้เปลี่ยนสี ดอกไม้หน้าแล้ง และล่องเรือตามลาน้าโขงระหว่างบ้านปากลา-คันท่าเกวียน อุทยาน
แห่งชาติผาแต้มจัดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไว้ 3 เส้นทาง สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปีคือ เส้นทางผาแต้ม-น้าตกสร้อย
สวรรค์ เส้นทางทุงนาเมือง-ผาชนะได และเส้นทางถ้าปาฏิหารย์-ผาชนะได สอบถามรายละเอียดได้ที่ องค์กำรบริหำรส่วน
                ่
ตำบลนำโพธิกลำง โทร. 0 4524 9002
            ์
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin
Nuin

More Related Content

What's hot

ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์A'mp Minoz
 
องค์พระปฐมเจดีย์...
องค์พระปฐมเจดีย์...องค์พระปฐมเจดีย์...
องค์พระปฐมเจดีย์...A'mp Minoz
 
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรีเอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรีพัน พัน
 
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
 
วารสาร สพป.ลบ.1
วารสาร สพป.ลบ.1วารสาร สพป.ลบ.1
วารสาร สพป.ลบ.1Pakjira Prlopburi
 
เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัดเที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัดslide-001
 
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรีพัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรีพัน พัน
 
อาณาจักรสมัยโบราณ
อาณาจักรสมัยโบราณอาณาจักรสมัยโบราณ
อาณาจักรสมัยโบราณyeanpean
 
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่าย
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่ายธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่าย
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่ายChinnakorn Pawannay
 
รุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุขรุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุขKwandjit Boonmak
 

What's hot (18)

ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
 
องค์พระปฐมเจดีย์...
องค์พระปฐมเจดีย์...องค์พระปฐมเจดีย์...
องค์พระปฐมเจดีย์...
 
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรีเอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
 
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601
 
วารสาร สพป.ลบ.1
วารสาร สพป.ลบ.1วารสาร สพป.ลบ.1
วารสาร สพป.ลบ.1
 
มิลินทปัญหา
มิลินทปัญหามิลินทปัญหา
มิลินทปัญหา
 
เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัดเที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
 
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรีพัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
 
พัฒนาการอาณาจักรอยุธยา
พัฒนาการอาณาจักรอยุธยาพัฒนาการอาณาจักรอยุธยา
พัฒนาการอาณาจักรอยุธยา
 
การสถาปนา
การสถาปนาการสถาปนา
การสถาปนา
 
พัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรม
พัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรมพัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรม
พัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรม
 
อาณาจักรสมัยโบราณ
อาณาจักรสมัยโบราณอาณาจักรสมัยโบราณ
อาณาจักรสมัยโบราณ
 
ความสัมพั...Pptx กลุ่ม 4
ความสัมพั...Pptx  กลุ่ม 4ความสัมพั...Pptx  กลุ่ม 4
ความสัมพั...Pptx กลุ่ม 4
 
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
 
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่าย
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่ายธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่าย
ธรรมราชาและเทวราชาในวรรณคดีลิลิตตะเลงพ่าย
 
ลำพูน
ลำพูนลำพูน
ลำพูน
 
รุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุขรุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุข
 
พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
พัฒนาการด้านเศรษฐกิจพัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
 

Viewers also liked

การจัดการศึกษาคณะสงฆ์ไทยในสมัยล้านนา
การจัดการศึกษาคณะสงฆ์ไทยในสมัยล้านนาการจัดการศึกษาคณะสงฆ์ไทยในสมัยล้านนา
การจัดการศึกษาคณะสงฆ์ไทยในสมัยล้านนาพระอภิชัช ธมฺมโชโต
 
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนาวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนาพระอภิชัช ธมฺมโชโต
 
พุทธศาสนามหายานในไทย
พุทธศาสนามหายานในไทยพุทธศาสนามหายานในไทย
พุทธศาสนามหายานในไทยPadvee Academy
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์   เรื่อง  บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์   เรื่อง  บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4Panomporn Chinchana
 
คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔111
คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔111คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔111
คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔111Pao Panja
 

Viewers also liked (6)

งานนำเสนอ3
งานนำเสนอ3งานนำเสนอ3
งานนำเสนอ3
 
การจัดการศึกษาคณะสงฆ์ไทยในสมัยล้านนา
การจัดการศึกษาคณะสงฆ์ไทยในสมัยล้านนาการจัดการศึกษาคณะสงฆ์ไทยในสมัยล้านนา
การจัดการศึกษาคณะสงฆ์ไทยในสมัยล้านนา
 
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนาวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
 
พุทธศาสนามหายานในไทย
พุทธศาสนามหายานในไทยพุทธศาสนามหายานในไทย
พุทธศาสนามหายานในไทย
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์   เรื่อง  บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์   เรื่อง  บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ ม.4
 
คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔111
คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔111คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔111
คำศัพท์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔111
 

Similar to Nuin

โครงานคอมSlide
โครงานคอมSlideโครงานคอมSlide
โครงานคอมSlidecom_2556
 
โครงานคอมSlide
โครงานคอมSlideโครงานคอมSlide
โครงานคอมSlidecom_2556
 
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2teacherhistory
 
พระธาตุชเวดากอง
พระธาตุชเวดากองพระธาตุชเวดากอง
พระธาตุชเวดากองThammasat University
 
โพธิยาลัย เดือน มกราคม 2555
โพธิยาลัย เดือน มกราคม 2555โพธิยาลัย เดือน มกราคม 2555
โพธิยาลัย เดือน มกราคม 2555Panda Jing
 
วัดในบางกอก ม.๓ห้อง๙ วิชาภูมิปัญญาบางกอก อ.นภัสสรณ์
วัดในบางกอก ม.๓ห้อง๙ วิชาภูมิปัญญาบางกอก อ.นภัสสรณ์วัดในบางกอก ม.๓ห้อง๙ วิชาภูมิปัญญาบางกอก อ.นภัสสรณ์
วัดในบางกอก ม.๓ห้อง๙ วิชาภูมิปัญญาบางกอก อ.นภัสสรณ์ไนซ์ ไนซ์
 
สาระเพิ่ม งานท่องเที่ยว Honey moon ม.9ห้อง9
สาระเพิ่ม งานท่องเที่ยว Honey moon ม.9ห้อง9สาระเพิ่ม งานท่องเที่ยว Honey moon ม.9ห้อง9
สาระเพิ่ม งานท่องเที่ยว Honey moon ม.9ห้อง9ไนซ์ ไนซ์
 
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์sangworn
 
เล่มที่ 7 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เล่มที่ 7  สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเล่มที่ 7  สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เล่มที่ 7 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชChoengchai Rattanachai
 
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทยJulPcc CR
 
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทยJulPcc CR
 
04ประวัติชนชาติไทย
04ประวัติชนชาติไทย04ประวัติชนชาติไทย
04ประวัติชนชาติไทยJulPcc CR
 
การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์Calvinlok
 

Similar to Nuin (20)

ศ ลปะอ นเด_ย
ศ ลปะอ นเด_ยศ ลปะอ นเด_ย
ศ ลปะอ นเด_ย
 
Ita
ItaIta
Ita
 
โครงานคอมSlide
โครงานคอมSlideโครงานคอมSlide
โครงานคอมSlide
 
โครงานคอมSlide
โครงานคอมSlideโครงานคอมSlide
โครงานคอมSlide
 
จังหวัดร้อยเอ็ด
จังหวัดร้อยเอ็ดจังหวัดร้อยเอ็ด
จังหวัดร้อยเอ็ด
 
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
 
พระธาตุชเวดากอง
พระธาตุชเวดากองพระธาตุชเวดากอง
พระธาตุชเวดากอง
 
โพธิยาลัย เดือน มกราคม 2555
โพธิยาลัย เดือน มกราคม 2555โพธิยาลัย เดือน มกราคม 2555
โพธิยาลัย เดือน มกราคม 2555
 
112547
112547112547
112547
 
วัดในบางกอก ม.๓ห้อง๙ วิชาภูมิปัญญาบางกอก อ.นภัสสรณ์
วัดในบางกอก ม.๓ห้อง๙ วิชาภูมิปัญญาบางกอก อ.นภัสสรณ์วัดในบางกอก ม.๓ห้อง๙ วิชาภูมิปัญญาบางกอก อ.นภัสสรณ์
วัดในบางกอก ม.๓ห้อง๙ วิชาภูมิปัญญาบางกอก อ.นภัสสรณ์
 
สาระเพิ่ม งานท่องเที่ยว Honey moon ม.9ห้อง9
สาระเพิ่ม งานท่องเที่ยว Honey moon ม.9ห้อง9สาระเพิ่ม งานท่องเที่ยว Honey moon ม.9ห้อง9
สาระเพิ่ม งานท่องเที่ยว Honey moon ม.9ห้อง9
 
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
 
รายงานโครงงานสังคมศึกษา
รายงานโครงงานสังคมศึกษารายงานโครงงานสังคมศึกษา
รายงานโครงงานสังคมศึกษา
 
เล่มที่ 7 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เล่มที่ 7  สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเล่มที่ 7  สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เล่มที่ 7 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
 
A2 thai-history
A2 thai-historyA2 thai-history
A2 thai-history
 
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
 
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
03การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
 
04ประวัติชนชาติไทย
04ประวัติชนชาติไทย04ประวัติชนชาติไทย
04ประวัติชนชาติไทย
 
การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
 
ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์
 

Nuin

  • 1. ข้อแนะนำในกำรทำเว็บไซต์ ให้หำข้อมูล ให้ละเอียด แล้ว คัดลอกลงในโปรแกรม Microsoft office word (การเลือกเนื้อหาเว็บไซต์ ถือเป็นส่วนสาคัญในการเริ่มต้นทาเว็บไซต์ ทั้งการจัดโครงสร้าง และ ความ นิยมของเว็บไซต์ สาหรับผู้เริ่มต้น ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเลือกหัวข้อใด ควรเริ่มต้นจาก การสารวจตัวเอง ว่า ชอบ หรือ สนใจสิ่งใด มากที่สุด หรือ มีความรู้เชี่ยวชาญด้านใดมากที่สุด) 1. หัวข้อหรือเรื่องที่จะทาเว็บไซต์ ให้หาข้อมูล ให้ละเอียด (หัวข้อเว็บไซต์ห้ามซ้ากันเด็ดขาด ถ้าซ้ากัน ไม่ได้คะแนน ค่ะ ) - ในการบันทึกเนื้อหาให้เขียนหัวข้อใหญ่ไว้ด้วยว่า เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร ให้บันทึกไว้ใน โฟลเดอร์ที่ เป็นรหัสนักเรียน 5 หลัก ค่ะ ตั้งชื่อ ว่า เนื้อหาการทาเว็บ 2. ให้หารูปภาพที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาไว้ แล้ว ตั้งชื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหา โดยต้องตั้งชื่อเป็น ภาษาอังกฤษหรือตัวเลขเท่านั้น รูปภาพต้องบันทึกโดยการ คลิกขวา >> save >pictures> แล้วหา โฟลเดอร์ของตัวเอง ที่ เป็น เลขประจาตัวนักเรียน 5 หลัก แล้วบันทึกรูปภาพไว้ใน images เท่านั้น จากนั้นตั้งชื่อ รูปภาพ 3. หรืออาจจะดูเว็บอื่นเป็นตัวอย่างหรือเพื่อเป็นแนวทางในการทาเว็บไซต์ก็ได้ แล้วให้จาชื่อเว็บนั้นไว้ โดย พิมพ์ URL ไว้ เช่น www.thailand.net (คือที่อยู่เว็บ) http://advice.co.th/products/product.php เมื่อได้หัวข้อและเนื้อหาแล้ว ให้ทาดังนี้ 1. วาดเค้าโครงในการสร้างเว็บไซต์ เช่น หัวเว็บไซต์ หน้าหลัก หน้า 2 หน้า 3 หน้า 4 เนื้อหา ที่อยู่สาหรับติดต่อเว็บ เช่น (เว็บไซต์จาหน่ายปากา ) 101/11 ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ 10112 โทร.0285469744 *ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการคิดวิเคราะห์ออกแบบ หน้าเว็บเพจของเราเอง แต่ละคน ควรคิดแหวกแนว ไม่ ควรเหมือนกัน
  • 2. แบบฝึ กทักษะภาษาไทย เพือทบทวนให ้เด็กจาพยัญชนะแต่ละตัวว่าอ่านออก ่ เสยงอย่างไรเว็บไซต์สถานที่ท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ี ข้อมูลสถำนที่ท่องเที่ยว จังหวัดมหำสำรคำม พระธำตุนำดูน อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม พระ ธาตุนาดูน พุทธมณฑลแห่งอีสาน ตั้งอยู่ที่บ้านนาดูน เขตอาเภอนาดูน เป็นเขตที่มีการขุดพบหลักฐานทางประวัตศาสตร์ โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เพราะบริเวณนี้ได้เคยเป็น ิ ที่ตั้งของนครจาปาศรีมาก่อน โบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบได้นาไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่นและที่ สาคัญ ยิ่งก็คือ การขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคา เงิน และสาริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13-15 สมัยทวาราวดี รัฐบาลจึงอนุมัติให้ดาเนินการก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึนในเนื้อที่ 902 ไร่ โดยบริเวณรอบๆ จะมี ้ พิพิธภัณฑ์ทางศาสนาและวัฒนธรรม สวนรุกขชาติ สวนสมุนไพร ซึ่งตกแต่งให้เป็นสถานที่สาคัญทางพุทธศาสนา ควำมเป็นมำของพระธำตุนำดูน อาเภอนาดูน เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณแห่งหนึ่งที่มีประวัติอนยาวนาน โดยบริเวณที่ตั้งของอาเภอนาดูนคือ เมืองจัมปาศรี ั ที่เจริญรุ่งเรือนในสมัยทวารวดี เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-15 ซึ่งมีหลักฐานทางประวัตศาสตร์และโบราณคดีที่คนพบ ิ ้ มากมาย สรุปความดังนี้ ถิ่นฐานอารยธรรมจัมปาศรีในอดีตกาล สันนิษฐานได้ว่ามีความเจริญรุ่งเรืองมา 2 ยุค คือ 1. ยุคทวารวดี ระหว่าง พ.ศ. 1000-1200 2. ยุคลพบุรี ระหว่าง พ.ศ. 1600-1800 ในราวพุทธศตวรรษที่ 13-16 ภายในตัวเมืองและนอกเมืองมีเจดีย์สมัยทวารวดีอยู่ 25 องค์ (ขณะนี้ได้ขุดค้นพบแล้ว 10 องค์) เจ้าผูครองเมืองนครจาปาศรี นับตังแต่ พระเจ้ายศวรราช ได้สร้างสถานที่สักการะบูชาในพิธีทางศาสนาพราหมณ์และพุทธ ้ ้ เช่น เทวาลัย ปรางค์กู่ เป็นต้น ซึงถือว่าได้เจริญรุ่งเรืองทังในด้านศาสนา วัฒนธรรม และการปกครอง จนถึงขีดสุดแล้วได้ ่ ้ เสื่อมถอยลงจนถึงยุคอวสานในสมัยพระเจ้าฟ้างุ่มแหล่งหล้า ธรณี
  • 3. ค้นพบและการก่อสร้างพระธาตุนาดูน เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2522 ได้ขุดค้นพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สถูปทาด้วยทองสาริด แยกเป็น 2 ส่วน คือ 1. ตัวสถูปหรือองค์ระฆัง แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตัวสถูป เป็นส่วนที่บรรจุ พระอังคาร (ขีเ้ ถ้า) เทียนดอกไม้ ตอนคอสถูป เป็นส่วนทีบรรจุผอบพระบรมสารีริกธาตุโดยผอบจะบรรจุพร้อมกัน 3 ชั้น คือ ผอบทองคา จะซ้อนอยู่ในผอบเงิน ผอบเงิน ่ จะซ้อนอยู่ในผอบทองสาริด ทุกผอบมีฝาปิดมิดชิด ภายในผอบทองคามีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ 1 องค์ มีลักษณะเป็น เกล็ดสีขาวขุ่นขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารหักครึ่ง หล่อเลี้ยงไว้ด้วยน้ามันจันทน์เมือเปิดออกมาจะมีกลิ่นหอมมาก ่ 2. ส่วนยอดทาด้วยทองสาริดกลมตัน ทาเป็นปล้องไฉนลูกแก้วและปลียอด ตอนต้นทาเป็นเกลียวสามารถปิดประกอบกับ ส่วนตัวองค์สถูปได้พอดี พระธาตุนาดูน จาลองแบบสถูปทองสาริดที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นศิลปะทวารวดี ก่อสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2530 โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดาเนินแทนพระองค์มาประกอบพิธี อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นประดิษฐานไว้ในองค์พระธาตุนาดูน เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2530 กำรเดินทำงจาก ตัวเมืองมหาสารคาม โดยใช้เส้นทางหมายเลข 2040 ผ่านอาเภอแกดา อาเภอวาปีปทุม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทาง หลวงหมายเลข 2045 ถึงอาเภอนาดูน ทางลาดยางตลอด ห่างจากตัวเมืองประมาณ 65 กิโลเมตร พระพุทธรูปยืนมงคล อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม พระ พุทธรูปยืนมงคล เป็นพระพุทธรูปคูเ่ มืองมหาสารคาม อยู่ที่ตาบล คันธารราษฎร์ บนทางหลวงหมายเลข 213 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 14 กิโลเมตร เป็นพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี สร้างขึ้น ด้วยหินทรายแดง เหมือนพระพุทธมิ่งเมือง เชื่อกันว่าอาเภอกันทรวิชัยฝนแล้ง ชาวบ้านที่เป็นผู้ชายจึงสร้างพระพุทธรูปมิ่ง เมือง และผู้หญิงสร้างพระพุทธรูปยืนมงคลขึ้นเพื่อขอฝน แล้วเสร็จพร้อมกันจึงจัดงานฉลองอย่างมโหฬาร นับแต่นั้นมาฝน ก็ตกต้องตามฤดูกาล ทาให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ แก่ท้องที่นเี้ ป็นอันมาก
  • 4. พระพุทธรูปมิ่งเมือง หรือ พระพุทธรูปสุวรรณมำลี อาเภอกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พระ พุทธรูปมิ่งเมือง หรือ พระพุทธรูปสุวรรณมาลี สร้างด้วยหินทรายแดง เป็น พระพุทธรูปศักดิ์สทธิ์สมัยทวาราวดีที่ ชาวมหาสารคามนับถือกัน มาประดิษฐานที่วัดสุวรรณาวาส ตาบลโคกพระ อาเภอ ิ กันทรวิชัย กำรเดินทำงใช้เส้นทางหมายเลข 213 (มหาสารคากาฬสินธุ) ห่างจากตัวเมืองประมาณ 14 กิโลเมตรเศษ (อยูทางด้านซ้ายมือ) ์ ่ เขตห้ำมล่ำสัตว์ป่ำดูนลำพัน อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม เขต ห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลาพัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะเป็นป่ธรรมชาติ มี น้าไหลเฉพาะที่ตลอดเวลาหรือที่เรียกว่าป่าน้าซับ นอกจากนั้นยังมีพืชและสัตว์ที่ไม่ค่อยพบในที่อื่นๆ และหายากเช่น ต้นลา พัน, เห็ดลาบ, ปลาคอกั้ง, งูขา และ ปูทูลกระหม่อม หรือปูแป้งเป็นปูน้าจืดที่สวยที่สุดในโลก ตัวขนาดใหญ่กว่าปูนา ลาตัวมี หลายสี เช่นม่วง, ส้ม, เหลือง และขาว และจะพบเฉพาะที่ป่าดูนลาพันแห่งนีเ้ ท่านัน ้ โรงแรม รีสอร์ทจังหวัดมหำสำรคำม ที่พัก มหำสำรคำม ร้ำน อำหำรในจังหวัดมหำสำรคำม
  • 5. ข้อมูลสถำนที่ท่องเที่ยว จังหวัดมหำสำรคำม พระธำตุนำดูน อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม พระ ธาตุนาดูน พุทธมณฑลแห่งอีสาน ตั้งอยู่ที่บ้านนาดูน เขตอาเภอนาดูน เป็นเขตที่มีการขุดพบหลักฐานทางประวัตศาสตร์ โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เพราะบริเวณนี้ได้เคยเป็น ิ ที่ตั้งของนครจาปาศรีมาก่อน โบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบได้นาไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่นและที่ สาคัญ ยิ่งก็คือ การขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคา เงิน และสาริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13-15 สมัยทวาราวดี รัฐบาลจึงอนุมัติให้ดาเนินการก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึนในเนื้อที่ 902 ไร่ โดยบริเวณรอบๆ จะมี ้ พิพิธภัณฑ์ทางศาสนาและวัฒนธรรม สวนรุกขชาติ สวนสมุนไพร ซึ่งตกแต่งให้เป็นสถานที่สาคัญทางพุทธศาสนา ควำมเป็นมำของพระธำตุนำดูน อาเภอนาดูน เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณแห่งหนึ่งที่มีประวัติอนยาวนาน โดยบริเวณที่ตั้งของอาเภอนาดูนคือ เมืองจัมปาศรี ั ที่เจริญรุ่งเรือนในสมัยทวารวดี เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-15 ซึ่งมีหลักฐานทางประวัตศาสตร์และโบราณคดีที่คนพบ ิ ้ มากมาย สรุปความดังนี้ ถิ่นฐานอารยธรรมจัมปาศรีในอดีตกาล สันนิษฐานได้ว่ามีความเจริญรุ่งเรืองมา 2 ยุค คือ 1. ยุคทวารวดี ระหว่าง พ.ศ. 1000-1200 2. ยุคลพบุรี ระหว่าง พ.ศ. 1600-1800 ในราวพุทธศตวรรษที่ 13-16 ภายในตัวเมืองและนอกเมืองมีเจดีย์สมัยทวารวดีอยู่ 25 องค์ (ขณะนี้ได้ขุดค้นพบแล้ว 10 องค์) เจ้าผูครองเมืองนครจาปาศรี นับตังแต่ พระเจ้ายศวรราช ได้สร้างสถานที่สักการะบูชาในพิธีทางศาสนาพราหมณ์และพุทธ ้ ้ เช่น เทวาลัย ปรางค์กู่ เป็นต้น ซึ่งถือว่าได้เจริญรุ่งเรืองทังในด้านศาสนา วัฒนธรรม และการปกครอง จนถึงขีดสุดแล้วได้ ้ เสื่อมถอยลงจนถึงยุคอวสานในสมัยพระเจ้าฟ้างุ่มแหล่งหล้า ธรณี ค้นพบและการก่อสร้างพระธาตุนาดูน เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2522 ได้ขุดค้นพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สถูปทาด้วยทองสาริด แยกเป็น 2 ส่วน คือ 1. ตัวสถูปหรือองค์ระฆัง แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตัวสถูป เป็นส่วนที่บรรจุ พระอังคาร (ขีเ้ ถ้า) เทียนดอกไม้ ตอนคอสถูป เป็นส่วนทีบรรจุผอบพระบรมสารีริกธาตุโดยผอบจะบรรจุพร้อมกัน 3 ชั้น คือ ผอบทองคา จะซ้อนอยู่ในผอบเงิน ผอบเงิน ่ จะซ้อนอยู่ในผอบทองสาริด ทุกผอบมีฝาปิดมิดชิด ภายในผอบทองคามีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ 1 องค์ มีลักษณะเป็น
  • 6. เกล็ดสีขาวขุ่นขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารหักครึ่ง หล่อเลี้ยงไว้ด้วยน้ามันจันทน์เมือเปิดออกมาจะมีกลิ่นหอมมาก ่ 2. ส่วนยอดทาด้วยทองสาริดกลมตัน ทาเป็นปล้องไฉนลูกแก้วและปลียอด ตอนต้นทาเป็นเกลียวสามารถปิดประกอบกับ ส่วนตัวองค์สถูปได้พอดี พระธาตุนาดูน จาลองแบบสถูปทองสาริดที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นศิลปะทวารวดี ก่อสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2530 โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดาเนินแทนพระองค์มาประกอบพิธี อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นประดิษฐานไว้ในองค์พระธาตุนาดูน เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2530 กำรเดินทำงจาก ตัวเมืองมหาสารคาม โดยใช้เส้นทางหมายเลข 2040 ผ่านอาเภอแกดา อาเภอวาปีปทุม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทาง หลวงหมายเลข 2045 ถึงอาเภอนาดูน ทางลาดยางตลอด ห่างจากตัวเมืองประมาณ 65 กิโลเมตร พระพุทธรูปยืนมงคล อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม พระ พุทธรูปยืนมงคล เป็นพระพุทธรูปคูเ่ มืองมหาสารคาม อยู่ที่ตาบล คันธารราษฎร์ บนทางหลวงหมายเลข 213 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 14 กิโลเมตร เป็นพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี สร้างขึ้น ด้วยหินทรายแดง เหมือนพระพุทธมิ่งเมือง เชื่อกันว่าอาเภอกันทรวิชัยฝนแล้ง ชาวบ้านที่เป็นผู้ชายจึงสร้างพระพุทธรูปมิ่ง เมือง และผู้หญิงสร้างพระพุทธรูปยืนมงคลขึ้นเพื่อขอฝน แล้วเสร็จพร้อมกันจึงจัดงานฉลองอย่างมโหฬาร นับแต่นั้นมาฝน ก็ตกต้องตามฤดูกาล ทาให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ แก่ท้องที่นเี้ ป็นอันมาก พระพุทธรูปมิ่งเมือง หรือ พระพุทธรูปสุวรรณมำลี อาเภอกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม
  • 7. พระ พุทธรูปมิ่งเมือง หรือ พระพุทธรูปสุวรรณมาลี สร้างด้วยหินทรายแดง เป็น พระพุทธรูปศักดิ์สทธิ์สมัยทวาราวดีที่ ชาวมหาสารคามนับถือกัน มาประดิษฐานที่วัดสุวรรณาวาส ตาบลโคกพระ อาเภอ ิ กันทรวิชัย กำรเดินทำงใช้เส้นทางหมายเลข 213 (มหาสารคากาฬสินธุ) ห่างจากตัวเมืองประมาณ 14 กิโลเมตรเศษ (อยูทางด้านซ้ายมือ) ์ ่ เขตห้ำมล่ำสัตว์ป่ำดูนลำพัน อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม เขต ห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลาพัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะเป็นป่ธรรมชาติ มี น้าไหลเฉพาะที่ตลอดเวลาหรือที่เรียกว่าป่าน้าซับ นอกจากนั้นยังมีพืชและสัตว์ที่ไม่ค่อยพบในที่อื่นๆ และหายากเช่น ต้นลา พัน, เห็ดลาบ, ปลาคอกั้ง, งูขา และ ปูทูลกระหม่อม หรือปูแป้งเป็นปูน้าจืดที่สวยที่สุดในโลก ตัวขนาดใหญ่กว่าปูนา ลาตัวมี หลายสี เช่นม่วง, ส้ม, เหลือง และขาว และจะพบเฉพาะที่ป่าดูนลาพันแห่งนีเ้ ท่านัน ้ วนอุทยำนโกสัมพี อาเภอเมือง จ.มหาสารคาม
  • 8. วน อุทยานโกสัมพี มีเนื้อที่ 125 ไร่ มีลักษณะเป็นสวนป่ามีตนไม้หลายชนิด ้ เช่น ต้นยางขนาดใหญ่ ต้นตะแบก และยังมีลิงแสมฝูงใหญ่จานวนหลายพันตัว มีลิงแสมขนสีทอง ซึงเป็นพันธุ์ที่หายาก ไม่ดุ ่ ร้าย วนอุทยานโกสัมพีมีสิ่งที่น่าสนใจคือแก่งตาด ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม น้าจะตื้นเขินมองเห็นหินดาน และ ยังมีลานข่อย ซึ่งมีต้อนข่อยกว่า 200 ต้น ดัดแปลงเป็นไม้แคระตกแต่งเป็นรูปต่างๆ ข้อมูลสถำนที่ท่องเที่ยว จังหวัดอุบลรำชธำนี อุทยำนแห่งชำติผำแต้ม อาเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานี ได้ รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2534 ครอบคลุมพื้นที่อาเภอโขงเจียม อาเภอศรีเมืองใหม่ และ อาเภอโพธิ์ไทรมีพื้นที่ติดกับประเทศลาว โดยมีแม่น้าโขงเป็นเส้นแบ่งพรมแดน มีพื้นที่ประมาณ 140 ตารางกิโลเมตร สภาพ ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขา มีหน้าผาสูงชันซึ่งเกิดจากการแยกตัวของผิวโลก สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าเต็งรัง มีหิน ทรายลักษณะแปลกตากระจายอยูทั่วบริเวณ มีพันธุ์ไม้ดอกที่สวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน การเดินทางจากอาเภอโขงเจียมใช้ ่ เส้นทาง 2134 ต่อด้วยเส้นทาง 2112 แล้วแยกขวาไปผาแต้มอีกราว 5 กิโลเมตร รวมระยะทางจากโขงเจียมประมาณ 18 กิโลเมตร สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่ เสำเฉลียง อยู่ ก่อนถึงผาแต้มประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นเสาหินธรรมชาติที่เกิด จากการกัดเซาะของน้าและลมนับล้านปี มีลักษณะคล้ายดอกเห็ดเรียงรายกันอยู่มากมาย ซึ่งหินดังกล่าวจะปรากฏเห็นซาก เปลือกหอย กรวด ทราย อยู่ในเนือหิน ซึ่งนักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่า เมื่อประมาณล้านกว่าปีมาแล้ว บริเวณนี้คงจะเป็นทะเล ้ มาก่อน ชาวบ้านบริเวณนี้เรียกเสาหินทีคล้ายดอกเห็ดนี้ว่า “เสาเฉลียง” ซึ่งแผลงมาจากคาว่า “สะเลียง” ที่หมายถึง “เสาหิน” ่ ผำแต้มและผำขำม เป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนสีกอนประวัตศาสตร์ ่ ิ ปรากฏเรียงรายอยู่ เป็นระยะ มีอายุไม่ต่ากว่าสามพันถึงสี่พันปี ทางอุทยานฯ ได้ทาทางเดินจากหน้าผาด้านบนลงไปชม ภาพเขียนสีเหล่านีที่หน้าผาด้านล่าง ระยะทางประมาณ 500 เมตร ภาพเขียนจะอยูบนผนังหน้าผายาวติดต่อกันประมาณ 170 ้ ่ เมตร ซึ่งเป็นมุมต่ากว่า 90 องศา มีภาพทั้งหมดประมาณ 300 ภาพ แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ สัตว์ เครืองมือเครื่องใช้ ่
  • 9. สัญลักษณ์ และคน ด้านตรงข้ามผาแต้มคือ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวโดยมีแม่น้าโขงเป็นเส้นกั้น พรมแดนทา ให้ผาแต้ม เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหมาะสาหรับผู้ที่สนใจจะชมพระอาทิตย์ขนก่อนที่แห่งใด ึ้ ในประเทศไทย เช่นเดียวกันกับทีหมู่บ้านเวินบึกทีตั้งอยู่ริมฝังแม่นาโขง ไม่ไกลจากบริเวณแม่น้าสองสีมากนัก ซึ่งทุกวันนี้ ่ ่ ่ ้ จะมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจานวนมาก ถำมืด ตั้งอยู่ทบ้านซะซอม ตามทางหลวงหมายเลข 2112 เลี้ยวซ้ายไปทางบ้านทุ่งนาเมือง ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นถ้า ี่ ขนาดกว้าง 4 เมตร สูง 6 เมตร ภายในถ้ามีพระพุทธรูปไม้แกะสลักเรียงรายกันมากมาย แสดงว่าคงจะเคยใช้เป็นที่ประกอบ พิธีกรรมทางศาสนามาก่อน นำตกสร้อยสวรรค์ ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 2112 ห่างจากตัวอาเภอโขงเจียมประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นน้าตกขนาด ใหญ่เกิดจากลาธาร 2 สายคือห้วยสร้อยและห้วยไผ่ที่ไหลจากหน้าผาคนละมาบรรจบกันซึ่งสูงประมาณ 20 เมตร มองดู คล้ายสร้อยที่แขวนคอ บริเวณน้าตกเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณมีมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว น้าตกสร้อย สวรรค์จะสวยงามมากในช่วงปลายฤดูฝนเช่นเดียวกับน้าตกอื่น ๆ ในบริเวณนี้ นำตกทุ่งนำเมือง ตั้ง อยู่บนทางหลวงหมายเลข 2112 ห่างจากน้าตกสร้อยสวรรค์ ประมาณ 13 กิโลเมตร โดยมีทางแยกขวาจากบ้านนาโพธิ์กลางไป 10 กิโลเมตร เป็นน้าตกขนาดกลางที่มีความสวยงาม ไหล ลดหลั่นลงมาตามโขดหิน ชั้นบนสูงสุดประมาณ 25 เมตร บริเวณโดยรอบมีดอกไม้ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะในเดือน ตุลาคม-ธันวาคม นำตกแสงจันทร์ (นำตกรู) ก่อนถึงน้าตกทุ่งนาเมือง 1 กิโลเมตร มีทางแยกขวาที่บ้านทุ่งนาเมืองไปน้าตกแสงจันทร์ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้าตกขนาดเล็กทีมีความสวยงามและมีลักษณะพิเศษ เกิดจากลาห้วยเล็ก ๆ บนลานหินไหลลอดผ่านหน้าผา ่ หินที่มีลักษณะเป็นรูลงสู่เพิงผาด้านล่าง หากเดินทางมาชมตอนช่วงเที่ยงวัน ซึ่งแสงอาทิตย์ลอดผ่านรูพอดีจะมองเห็นสาย น้าตกเหมือนแสงจันทร์ ป่ำดงนำทำม อยู่ในบริเวณภูนาทามทางตอนเหนือของอุทยานฯ ห่างจากที่ทาการอุทยานฯ ประมาณ 36 กิโลเมตร การ ท่องเที่ยวที่ป่าดงนาทามเป็นลักษณะการเดินป่าชมธรรมชาติป่าไม้ ภูผาและแม่น้าโขง ซึ่งจุดที่น่าสนใจได้แก่ ลานหิน พลาน ถ้าไฮ เสาเฉลียงคู่ สนสองใบ น้าตกห้วยพอก ผาชนะได (จุดชมพระอาทิตย์ขนก่อนใครในสยาม) ผากาปั่น ผาหินแตก น้าตก ึ้ กวางโตน หินโยกมหัศจรรย์ (มีนาหนัก 50 ตันแต่โยกได้ด้วยคนเดียว) ภูจ้อมก้อม ถ้าปาติหารย์ ภาพเขียนสีก่อน ้ ประวัติศาสตร์ตามหลืบผา เป็นต้น สาหรับการท่องเที่ยวตามฤดูกาลต่าง ๆ ในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน จะเหมาะในการชมดอกไม้ตามลานหินเช่น เช่น หยาดน้าค้าง แดงอุบล เอนอ้า เหลืองพิสมร และทุ่งดอกไม้ชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
  • 10. ได้แก่ ดุสิตา สร้อยสุวรรณา มณีเทวา ทิพเกสร สรัสจันทร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี น้าตกที่มีน้ามากช่วงกันยายนถึงธันวาคม และทะเลหมอกริมโขง ส่วนในช่วงเดือนฤดูแล้งมกราคม-มีนาคม จะเหมาะในการชมป่าไม้เปลี่ยนสี ดอกไม้หน้าแล้ง อาทิ ต้นรัง ตะแบกเลือด พุดผา ช้างน้าว และล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งลาน้าโขงระหว่างบ้านปากลา-คันท่าเกวียน นัก ท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดการเดินป่าดงนาทามได้ที่ ที่ทาการอุทยานแห่งชาติผาแต้ม หรือที่อบต.นา โพธิ์กลาง (โทร. 0 4538 1063) วัดภูอำนนท์ อยู่ทางทิศเหนือของบ้านซะซอม ห่างจากถนนหมายเลข 2112 ที่บ้าน นาโพธิ์กลาง ประมาณ 10 กิโลเมตร รถยนต์เข้าถึงสะดวก ภายในบริเวณวัดมีสภาพธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น ลานหิน รอยเท้าใหญ่ ตุ่มหินธรรมชาติ ภาพเขียนสีศิลปะถ้า เป็นต้น เหมาะสาหรับการท่องเที่ยวชมธรรมชาติในช่วงสั้นๆ อุทยานแห่งชาติผา แต้ม ยังไม่มีบริการบ้านพักสาหรับนักท่องเที่ยว ผู้ประสงค์จะค้างแรมในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ต้อง เตรียมอุปกรณ์การพักแรมมาเอง และต้องกางเต็นท์ในที่ซึ่งอุทยานฯ จัดเตรียมไว้ให้ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อได้ที่อทยาน ุ แห่งชาติผาแต้ม ตู้ปณ. 5 อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี 34220 โทร. 0 4524 9780 ,0 4524 6332 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 www.dnp.go.th เขื่อนสิรินธร อาเภอสิรินธร จ.อุบลราชธานี เขื่อน สิรินธร ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง 70 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 217 แยกขวาที่กิโลเมตร 71 ไปอีก 500 เมตร เป็นเขื่อนหินแกนดินเหนียว สร้างกั้นลาโดมน้อยอันเป็นสาขาของแม่น้ามูล ตัว เขื่อนสูง 42 เมตร ยาว 940 เมตร อานวยประโยชน์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและการชลประทาน บริเวณริมทะเลสาบมีสวนสิ รินธร ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ มีรปปั้นและน้าพุสวยงาม มีบริการบ้านพักสาหรับนักท่องเที่ยว ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ ู ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทร. 0 2436 6046-8 หรือ ที่เขื่อนสิรินธรโทร. 0 4536 6081-3
  • 11. แก่งสะพือ อาเภอพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี แก่ง สะพือ เป็นแก่งหินที่สวยงามในแม่น้ามูล ตั้งอยู่ในตัวอาเภอพิบูลมังสา หาร ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานี ตามทางหลวงหมายเลข 217 ประมาณ 45 กิโลเมตร คาว่า “สะพือ” เพี้ยนมาจากคาว่า “ซาฟืด” หรือ “ซาปึ้ด” ซึ่งเป็นภาษาส่วยแปลว่า งูใหญ่ หรืองูเหลือม เป็นแก่งที่มีหินน้อยใหญ่สลับซับซ้อน เมื่อกระแสน้า ไหลผ่านกระทบหิน เกิดเป็นฟองขาวมีเสียงดังตลอดเวลา ช่วงที่เหมาะสาหรับเที่ยวชมแก่งสะพือคือหน้าแล้ง ราวเดือน มกราคม-พฤษภาคม เพราะน้าจะลดเห็นแก่งหินชัดเจนสวยงาม ส่วนหน้าฝนน้าจะท่วมมองไม่เห็นแก่ง พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดาเนินมาชมแก่งนี้ 2 ครั้ง ริมฝั่งแม่น้ามีศาลาพัก ร้อน และร้านขายสินค้าพื้นเมือง ในวันหยุดมีประชาชนมาเที่ยวพักผ่อนกันเป็นจานวนมาก นอกจากนี้แล้วในเดือนเมษายนของทุกปี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีการจัดงานประเพณีสงกรานต์แก่งสะพือ เพื่อส่งเสริมการ ท่องเที่ยวและประเพณีอันดีงามด้วย แก่งสองคอน สำมพันโบก อาเภอโพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ที่ หมู่บ้านสองคอน ตาบลสองคอน อาเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ชุมชนเล็ก ๆ สงบร่มรื่นฝังโขงด้านตะวันออกสุด ่ สยาม เป็นจุดที่แม่น้าโขงไหลพาดปะทะกับแนวเทือกเขาภูพานตอนปลาย การปะทะกันของพลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ก่อให้เกิดภูมิประเทศที่มหัศจรรย์มากมาย ซึ่งจะสัมผัสได้ยามที่แม่น้าโขงลดระดับลงได้ทในยามฤดูแล้งราวเดือน มกราคม- ี่ เมษายน ปำกบ้อง ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้าโขงแคบที่สุด ตลอดระยะทางยาวกว่า 700
  • 12. กิโลเมตร โดยมีความกว้างของแม่น้าเพียง 56 เมตร หินหัวพะเนียง เกาะหินขนาดใหญ่กลางแม่น้าโขง รูปลักษณ์แปลกตาที่ขนาบข้างด้วย 2 แก่งน้าโขง ทาให้แม่น้าโขงแยก ออกเป็นสองสาย หรือสองคอนในภาษาท้องถิ่น จึงเป็นที่มาของชือ บ้านสองคอน ่ หำดหงส์ เนินทรายชายโขงขนาดมหึมา หำดหินสี หลักศิลาเลข เป็นการวัดระดับน้าโขงในสมัยฝรังเศส ่ ทุ่งหินเหลื่อม ทุ่งก้อนหินมันวาวราวกับเซรามิคธรรมชาติ แก่งสองคอน สำมพันโบก เป็นแก่งหินที่อยูใต้ลาน้าโขง เนื่องจากในช่วงฤดูน้าหลาก แก่งหินดังกล่าวจะจมอยู่ใต้บาดาล ด้วย ่ แรงน้าวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3,000 โบก และจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้ง การเดินทางท่องเที่ยวทางเรือไปยังแก่งสามพันโบก นิยมนั่งเรือจากหาดสลึง ที่บ้านสองคอน ล่องตามลาน้าโขงระยะทาง 4 กิโลเมตร ระหว่างทางจะผ่าน "ปากบ้อง" จุดแคบที่สดของแม่น้าโขง และ หิน ุ หัวพะเนียง เป็นแก่งหินกลางแม่น้าที่ทาให้แม่น้าโขงแยกออกเป็นสองสาย หรือสองคอนในภาษาท้องถิ่น จึงเป็นที่มาของชื่อ บ้านสองคอน นอกจากนี้ยังมีสวนเกษตรลาไย และมะขามหวาน ให้ชิมตามฤดูกาล มีที่พักและร้านอาหารไทยและอีสาน ไว้รองรับ นักท่องเที่ยวริมหาดสลึงหาดทรายยาวเหยียดอีกด้วย กำรเดินทำง จากจังหวัดอุบลราชธานี ตามทางหลวงหมายเลข 2050 ผ่านอาเภอตระการพืชผล ไปยังอาเภอโพธิ์ไทร ด้วย ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร และเดินทางต่อไปยังบ้านสองคอนเข้าไปหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร สอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อบต. สองคอน อาเภอโพธิ์ไทร โทร. 0 4533 8057 , 0 4533 8015 เลย อุทยานแห่งชาตินาแห้ว สถานทีตั้ง ่ อำเภอนำแห้ว จังหวัดเลย สิ่งดึงดูดใจ เป็นสถำนที่ท่องเที่ยวที่มีทรัพยำกรธรรมชำติ ป่ำไม้และสัตว์ป่ำอุดมสมบูรณ์ มีภูเขำรำยรอบจำนวนมำก และ อำกำศหนำวเย็นจัดในฤดูหนำว มีดอกไม้ปำขึ้นตำมบริเวณต่ำง ๆ ทำให้บรรยำกำศโดยรอบสวยงำมมำก เหมำะ ่ แก่กำรพักผ่อนหย่อนใจยิ่ง นอกจำกนี้ยงมีสถำนที่ท่องเทียวมำกมำยภำยในอุทยำนรวมทังมีนำตกที่สวยงำม ั ่ ้ ้ หลำยแห่ง สิ่งอานวยความสะดวกในอุทยานแห่งชาตินาแห้ว มีศูนย์บริกำรนักท่องเที่ยว เพื่อคอยให้บริกำรด้ำนข้อมูล แผนที่เส้นทำงท่องเที่ยวบริเวณอุทยำนแห่งชำตินำแห้ว
  • 13. มีบริกำรคนนำทำง ลูกหำบ อำหำร และบ้ำนพักนักท่องเที่ยว และยังมีหน่วยพิทักษ์อุทยำนคอยอำนวยควำม สะดวกตลอดเส้นทำง เส้นทางเข้าสู่อทยานแห่งชาตินาแห้ว ุ จำกจังหวัดเลยใช้เส้นทำง เลย - ด่ำนซ้ำย ตรงเข้ำสู่ทำงหลวงหมำยเลข 2113 ถึง อำเภอนำแห้ว ใช้เวลำ ประมำณ 2-3 ชั่วโมง ระยะทำง 118 กิโลเมตร ชมทุ่งดอกกระเจียว ที่ภูแลนคำ จังหวัดเลย สถำนที่ท่องเที่ยวเลย ชมทุ่งดอกกระเจียว ที่ภูแลนคา จังหวัดเลย ทุ่งดอกกระเจียวเป็น แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของทางภาคอีสาน ในช่วงฤดูฝนจะมีนักท่องเที่ยวมาเทียวกันอย่างหนาแน่น ่ สาหรับแหล่งท่องเที่ยวทีจะพาทุกท่านไปก็คืออุทยำนแห่งชำติภูแลนคำ อุทยานใหม่มของดีซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยครับ สาหรับ ่ ี เส้นทางการศึกษาธรรมชาติ สภาพป่าเป็นป่าเต็งรัง เบืองล่างเป็นต้นหญ้าเขียวไสว ถ้ามองดูให้ดีท่านจะพบกับแมลง ้
  • 14. หลากหลายชนิด ท่านจะเดินทางตัดผืนป่าจนมาถึงหินรูปปราสาท เป็นผาหินขนาดใหญ่ นอกจากนั้นท่านจะพบกับหิน รูปร่างแปลกตาอีกหลายแห่งครับ เมื่อชื่นชมกับป่าเต็งรังจนเต็มอิ่มแล้ว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ท่านก็สามารถนอนพักค้างแรมทีจุดชมวิวของทางอุทยานแห่งชาติได้ ยิ่งในยามค่าคืนอากาศ ก็เย็นสบาย ตกเช้าตื่นมาก็พบ ่ กับสายหมอกและอากาศเย็นยามเช้า ระหว่างทางเดินลงเชิงเขาก็แวะชมทิวทัศน์ของท้องนาสีเขียวขจีสลับกับที่กาลัง รอการ ปักดา ท้องฟ้ายามเช้าในฤดูฝนอากาศขมุกขมัวไร้แสงเป็นวันพักผ่อนที่สบายไม่ต้องเร่ง รีบระหว่างทางกลับ เราแวะไหว้พระและชมวัดผาเกิ้งหรือวัดชัยภูมิพิทักษ์ ซึ่งอยู่ใกล้กับทางเข้าอุทยาน จุดเด่นของอุทยานแห่งนี้ นอกจาก ทัศนียภาพของป่าเต็งรังที่สมบูรณ์แล้วยังมีทุ่งดอกกระเจียว บานรอบยังกับท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ติดต่ออุทยานแห่งชาติภูแลนคา 044-810902-3 การ เดินทางจากกรุงเทพมหานคร ใช้ทางหลวงหมายเลข1จนถึงจังหวัดสระบุรี แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ผ่านอาเภอ หมวกเหล็ก จังหวัดนครราชสีมาจากนั้นแยกขวาใช้ทางหลวงหมายเลข 201 ผ่านอาเภอสีคิ้ว อาเภอจัตุรัส ถึงจังหวัดชัยภูมิ เมื่อถึงชัยภูมิใช้ทางหลวง หมายเลข 2051 ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีแยกซ้ายมือเข้าทางหลวงหมายเลข 2159 อีก 26 กิโลเมตรจะมีแยกซ้ายมือเข้าทีทาการอุทยาน ่ สาหรับการเดินทางด้วยรถโดยสาร ก็มีรถหลากหลายบริษัทครับยังไงก็ไปติดต่อที่สถานีขนส่งกรุงเทพ-หมอชิตก็แล้วกัน
  • 16. Palio Khaoyai (ปำลิโอ เขำใหญ่) สถำนที่ในเขำใหญ่ที่กำลัง HIP คือ Palio หรือ ปำลิโอ ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชต์ หลักกิโลเมตรที่ 17 ติดกับโรงแรม จุลดิศ เขำใหญ่ รีสอร์ท แอนด์ สปำ ท่ำนจะได้สัมผัส Palio เขำใหญ่ในบรรยำกำศอิตำลี จนเผลอคิดว่ำเรำอยูใน ่ อิตำลีจริงๆ เพรำะไม่วำจะเป็นอำคำรถูกออกแบบให้เป็นกลุ่มอำคำรถนนคนเดิน หรือสถำปัตยกรรมยุโรป ่ ปาลิโอ เขาใหญ่ โบรำณแนวอิตำเลี่ยนสไตล์ที่รำยล้อม แถมคำว่ำ Palio ยังเป็นภำษำอิตำเลียน หมำยถึง "รำงวัล" อีกด้วย walking street & shopping center ปาลิโอ เขาใหญ่ : จัง New walking stree อำณำจักรใหม่ของชีวต ิ สะดวก สู่ศูนย์กลำงคว เมือง ค้นพบจินตนำกำ สิ้นสุดได้ด้วยตัวคุณ แร ทุกวินำทีที่ Khaoyai V สุนทรีย์แห่งควำมบันเท ต้องกำร ในบรรยำกำศ เรำอยูในอิตำลีจริงๆ เพ ่ อำคำรถูกออกแบบให้เ คนเดิน หรือสถำปัตยก อิตำเลี่ยนสไตล์ที่รำยล
  • 17. ร้ำนเล็กๆ น่ำรักๆ เป็นแนวลดหลั่นเรียงกันมำกมำย ภำยใน Palio เขำใหญ่ มีรำนเล็ก ๆ เป็นแนวลดหลั่นเรียงกันมำกมำย มีสินค้ำแทบจะทุกประเภท ไม่ว่ำจะเป็น ้ ของแต่งบ้ำน, เสื้อผ้ำแฟชั่น, เครื่องประดับ, เครื่องเสียง, งำนดีไซน์ต่ำง ๆ, ธนำคำร, ร้ำนขำยของทีระลึก, พืชผัก ่ ปลอดสำรพิษ ร้ำนไวน์ Coffee Shop, Pub & Restaurant, Bakery ร้ำนเสริมสวย Spa ร้ำนขำยยำ ร้ำนขำย หนังสือ ศูนย์อำหำร ร้ำน IT ฯลฯ โดยแต่ละร้ำนจะได้รับกำรออกแบบให้มีสไตล์ และเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ กลมกลืนเข้ำภูมิทัศน์ล้อมรอบที่ดำรงควำมเป็นธรรมชำติของเขำใหญ่
  • 18. บรรยำกำศสไตล์อิตำเลี่ยน นอกจำกนี้ยังมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ได้แก่ สวนหย่อม น้ำพุ ลำนอเนกประสงค์สำหรับจัดกำรแสดงหรือดนตรี ห้องแสดงสินค้ำหรือนิทรรศกำร แต่ถ้ำอยำกเต็มอิ่มกับ Palio เขำใหญ่ ก็ลองหำที่พักทีเ่ หมำะสมกับกระเป๋ำ ตัวเองที่มให้เลือกหลำยรำคำ และนี่ก็คือ Palio เขำใหญ่ สถำนที่ทองเที่ยวสุด Chic ี ่
  • 19. Palio เขำใหญ่ หากอยากไปสัมผัสบรรยากาศสไตล์ อิตาเลี่ยนแบบนี้ Palio เขาใหญ่ เปิด บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. ที่พัก Palio Inn ห้องพักสไตล์ บูติค เปิดให้บริกำรแล้ว
  • 20. สำหรับผู้ที่ชอบบรรยำกำศ ท่ำมกลำงสถำปัตยกรรมแบบอิตำลี่ ณ. ปำลิโอ เขำใหญ่ ห้องพักอยู่ในบริเวณ Palio Khao Yai walking street & shopping center มีทั้งหมด 12 ห้อง แต่ละห้องตกแต่ง ไม่ เหมือนกันซึงมีควำมสวยงำมแตกต่ำงกันไป ่ รูปเหมือนหลวงปู่ทวด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก วัด ป่าแสงธรรมพรหมรังสี โคราช สร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ทใหญ่ที่สดในโลก ขนาดหน้าตักกว้าง 38 เมตร สูง 49 เมตร ี่ ุ แหล่งท่องเที่ยวทาบุญแห่งใหม่ของพุทธศาสนิกชนชาวไทย นครราชสีมา วันนี้ (4 ม.ค. 54) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้จังหวัดนครราชสีมามีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใหม่อีกแห่งหนึ่ง และน่าจะเป็นสถานที่ที่สามารถดึงดูดใจ นักท่องเที่ยวให้แวะไปเยี่ยมชมได้ คือ ที่วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี ตาบลปรุใหญ่ อาเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่ง ที่วัดดังกล่าวกาลังมีการจัดสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยปูน และแกะสลักรูปเหมือนอย่างสวยงาม โดยใช้เวลาก่อสร้าง จนถึงขณะนี้นานกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกมีขนาดหน้าตักกว้าง 38 เมตร ความสูงรวม 49 เมตร ซึ่งรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกดัง กล่าว ถูกสร้างขึ้นด้วยความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน และศิษยานุศิษย์ของพระครูปลัดภูมิ ญาณสัมปัญโน เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมรังสี ที่ต้องการก่อสร้างสถานที่ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 18 ล้านบาท ซึ่งจนถึงขณะนี้การก่อสร้าง แล้วเสร็จไปประมาณ 90% แล้ว และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ปี 2554 นี้
  • 21. ทั้งนี้หาก การก่อสร้างแล้วเสร็จวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสีก็จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่ง ใหม่ของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนทั่วไป สามารถแวะไปทาบุญ และกราบสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวได้ นอดีตป่ำลำนที่อดมสมบูรณ์มขึ้นอยู่กระจำยทั่วๆ ไปในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมำมีกำรขยำยตัวของพื้นที่ ุ ี เกษตรกรรม จึงทำให้ปำลำนได้ถกบุกรุกทำลำยลงไปมำก จนปัจจุบันคงเหลือป่ำลำนแห่งสุดท้ำย คือ บริเวณ ่ ู บ้ำนทับลำน บ้ำนขุนศรี บ้ำนบุพรำหมณ์ และบ้ำนวังมืด จังหวัดปรำจีนบุรี ในกำรไปตรวจสอบสภำพป่ำลำนเมือ ่ วันที่ 24 มีนำคม 2517 นำยประดิษฐ์ วนำพิทักษ์ อธิบดีกรมป่ำไม้ พบว่ำ ป่ำลำนในบริเวณดังกล่ำวเป็นป่ำลำน แห่งสุดท้ำยของประเทศเพื่ออนุรกษ์ป่ำลำน ไว้ จึงมีดำริให้จัดตังป่ำลำนนี้เนื้อที่ประมำณ 36,250 ไร่ หรือ 58 ั ้ ตำรำงกิโลเมตร เป็นวนอุทยำน และในกำรประชุมคณะกรรมกำรอุทยำนแห่งชำติครั้งที่ 1/2518 เมื่อวันที่ 4 เมษำยน 2518 ได้มีมติให้ดำเนินกำรวำงแผนปฏิบัติกำรที่ป่ำลำนกบินทร์บุรี ซึ่งสำนักงำนป่ำไม้เขตปรำจีนบุรี ได้ มีคำสั่งที่ 169/2518 ลงวันที่ 11 เมษำยน 2518 และคำสั่งที่ 194/2518 ลงวันที่ 15 เมษำยน 2518 ให้ นำยสุ ชล ผำติเสนะ นักวิชำกำรป่ำไม้ตรี และ นำยยัณห์ ทักสูงเนิน พนักงำนประจำเขต โดยอยู่ในควำมควบคุมกำร ดำเนินงำนของนำยไพโรจน์ เชี่ยวเอี่ยมวัฒนำ นักวิชำกำรป่ำไม้โท ไปดำเนินกำรรังวัดหมำยแนวเขต และจัดพื้นที่ ปรับปรุงให้เป็นวนอุทยำนป่ำลำน ในพื้นที่ป่ำสงวนแห่งชำติแก่งดินสอ-แก่งใหญ่-เขำสะโตน จังหวัดปรำจีนบุรี ต่อมำกองอุทยำนแห่งชำติ กรมป่ำไม้ ได้มีคำสั่งที่ 2383/2520 ลงวันที่ 8 ธันวำคม 2520 ให้นำยเชำวลิต เลิศช ยันตรี นักวิชำกำรป่ำไม้ 5 ทำหน้ำที่หัวหน้ำวนอุทยำนทับลำน และในปี พ.ศ. 2523 กองอุทยำนแห่งชำติ ได้ให้ วนอุทยำนทับลำนสำรวจพื้นที่โดยรอบ เพื่อผนวกพื้นที่บริเวณใกล้เคียงแนวเขตติดต่อวนอุทยำน ยกฐำนะวน อุทยำนทับลำนเป็นอุทยำนแห่งชำติ ผลกำรสำรวจปรำกฏว่ำ บริเวณป่ำดังกล่ำวโดยรอบมีสภำพป่ำสมบูรณ์ มี ทิวทัศน์สวยงำม สัตว์ป่ำชุกชุมเป็นป่ำต้นน้ำลำธำรของแม่นำบำงปะกงและแม่นำมูล ตำมหนังสือรำยงำนผลกำร ้ ้ สำรวจ ที่ กส 0708(ทล.)/16 ลงวันที่ 25 กุมภำพันธ์ 2523 ทั้งเพือเป็นกำรสนองมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ่ มกรำคม 2522 ที่ให้รักษำป่ำไว้โดยกำรประกำศให้เป็นอุทยำนแห่งชำติ
  • 22. กรมป่ำไม้จงเสนอให้คณะกรรมกำรอุทยำนแห่งชำติ ซึ่งได้มีมติในกำรประชุมครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหำคม ึ 2523 เห็นสมควรออกพระรำชกฤษฎีกำกำหนดพื้นที่ป่ำดังกล่ำวเป็นอุทยำนแห่งชำติ โดยได้มีพระรำชกฤษฎีกำ กำหนดบริเวณที่ดินป่ำวังน้ำเขียวและป่ำครบุรี ในท้องที่ตำบลสะแกรำช ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอปักธงชัย ตำบลครบุรี ตำบลจระเข้หิน ตำบลโคกกระชำย อำเภอครบุรี และตำบลสระตะเคียน ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอ เสิงสำง จังหวัดนครรำชสีมำ และป่ำแก่งดินสอ ป่ำแก่งใหญ่ และป่ำเขำสะโตน ในท้องที่ตำบลบุพรำหมณ์ ตำบล ทุ่งโพธิ์ อำเภอนำดี จังหวัดปรำจีนบุรี ให้เป็นอุทยำนแห่งชำติ ซึ่งประกำศไว้ในรำชกิจจำนุเบกษำเล่ม 98 ตอนที่ 210 ลงวันที่ 23 ธันวำคม 2524 นับเป็นอุทยำนแห่งชำติลำดับที่ 39 ของประเทศ ต่อมำได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มิถุนำยน 2531 อนุญำตให้กรมชลประทำนใช้พื้นที่ในเขตอุทยำน แห่งชำติทับลำนบริเวณป่ำวังน้ำ เขียว ป่ำครบุรี ป่ำแก่งดินสอ ป่ำแก่งใหญ่ และป่ำเขำสะโตน บำงส่วนในท้องที่ ตำบลจระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครรำชสีมำ ก่อสร้ำงอ่ำงเก็บน้ำลำมูลบน เพื่อพัฒนำภำค ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีเนื้อที่ 2,625 ไร่ หรือ 4.20 ตำรำงกิโลเมตร โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินกำรตำมพระรำชกฤษฎีกำเพิกถอนพื้นที่ส่วน นี้ออก และในปี 2532 จึงได้มีพระรำชกฤษฎีกำเพิกถอน อุทยำนแห่งชำติป่ำวังน้ำเขียว ป่ำครบุรี ป่ำแก่งดินสอ ป่ำแก่งใหญ่ และป่ำเขำสะโตน บำงส่วนในท้องที่ตำบล จระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครรำชสีมำ ออกจำกกำรเป็นอุทยำนแห่งชำติตำมที่กำหนดไว้โดยพระรำช กฤษฎีกำเดิมปี พ.ศ. 2524 ซึ่งประกำศไว้ในรำชกิจจำนุเบกษำเล่ม 106 ตอนที่ 107 ลงวันที่ 7 กรกฎำคม 2532
  • 23. อุบล เสำเฉลียง จำนวนผูเ้ ข้ำชม 489 ครั้ง
  • 24. เสาเฉลียง เสำเฉลียง จ.อุบลรำชธำนี เสา เฉลียง ตั้งอยู่ที่ ตาบลห้วยไผ่ อาเภอโขงเจียม การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 217 จาก จังหวัดอุบลราชธานี ไปอาเภอพิบูลมังสาหาร แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 2222 ไปอาเภอโขงเจียม จากอาเภอโขงเจียมใช้ เส้นทางสาย 2134 (โขงเจียม – ศรีเมืองใหม่) ประมาณ 5 กิโลเมตร แยกขวา เข้าเส้นทางสาย 2112 อีกประมาณ 9 กิโลเมตร มี ทางแยกขวาไปผาแต้ม จะถึงเสาเฉลียงประมาณ 1.5 กิโลเมตรก่อนถึงผาแต้ม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัตศาสตร์ของ ิ จังหวัดอุบลราชธานี
  • 25. เสาเฉลียง เสำเฉลียง เสา เฉลียงเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ สืบเนื่องมาจากกระบวนการกัดเซาะและกัดกร่อนด้วยอิทธิพลของ น้าและลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการสึกกร่อนโดยแม่น้าหรือธารน้าไหลกัดเซาะเป็นเวลาชั่ว นาตาปี เกิดขึ้นในชั้นหินที่ วางตัวอยู่ในแนวราบหรือเกือบราบและในแต่ละชั้นมีส่วน ประกอบของแร่ที่แตกต่างกัน จึงทาให้มความแข็งและทนทานที่ ี ไม่เหมือนกัน
  • 26. เสาเฉลียง ประติมากรรมชิ้นเอกร่วมกันของหินทราย 2 ยุค คือ หินทรายยุค ครีเตเซียส ซึ่งมีอายุประมาณ 130 ล้านปี เป็นส่วนดอกเห็ด อยู่ท่อนบน และหินทราย ยุคไดโนเสาร์ มีอายุประมาณ 180 ล้านปี เป็นส่วนต้น เสาหินท่อนล่างโดยผ่านการถูกชะล้าง พังทลายอันเกิดจากสภาพอากาศ ฝนและลมพายุเป็นเวลาหลายล้านปี ซึ่งคุณสมบัติทางธรณีวิทยาของหินทรายนั้นง่ายต่อ การสึกกร่อนกว่าหินชนิดอื่น ที่จดอยู่ในกลุ่มหินชึ้นเดียวกัน และเมื่อผ่านการสึกกร่อนไปได้ระยะหนึ่งก็มีสิ่งทีเ่ รียกว่า ั กระบวนการต้านทานทางธรรมชาติ และแรงกดทับของเม็ดฝนทาให้หินทรายแข็งยิ่งขึน เป็นผลให้สามารถรักษาสภาพให้ ้ คงรูปได้ดังที่เห็นอยู่ในรูปข้างๆนี้ “เสาเฉลียง” แผลงมาจาก “สะเลียง” แปลว่า “เสาหิน” ที่มา www.thai-tour.com อุทยำนแห่งชำติผำแต้ม จำนวนผูเ้ ข้ำชม 354 ครั้ง
  • 27. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุทยำนแห่งชำติผำแต้ม จ. อุบลรำชธำนี มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ผาแต้มและผาขาม เป็นหน้าผาสูงที่สวยงาม ตามธรรมชาติ บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนสีก่อนประวัตศาสตร์ปรากฏเรียงรายอยู่ เป็นระยะ มีอายุไม่ต่ากว่าสาม ิ พันถึงสี่พันปี เสาเฉลียง ซึ่งเป็นเสาหินธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้าและลมนับล้านปี น้าตกสร้อยสวรรค์ น้าตกทุ่ง นาเมือง น้าตกแสงจันทร์ ป่าดงนาทาม และ วัดภูอานนท์ วันนี้ ทาง UpYim.com นาข้อมูล พร้อมภาพ มานาเสนอให้ท่านได้ อ่านกันคะ่ อุทยำนแห่งชำติผำแต้ม ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2534 ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอโขง เจียม อาเภอศรีเมืองใหม่ และอาเภอโพธิ์ไทร มีพื้นที่ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้าโขงเป็น เส้นแบ่งพรมแดน มีพื้นที่ประมาณ 140 ตารางกิโลเมตร สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขา มีหน้าผาสูงชันซึ่งเกิด จากการแยกตัวของผิวโลก สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าเต็งรัง มีหนทรายลักษณะแปลกตากระจายอยู่ทวบริเวณ มีพันธุ์ไม้ดอก ิ ั่ ที่สวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน การเดินทาง จากอาเภอโขงเจียมใช้ ทำงหลวงหมำยเลข 2134 ต่อด้วย ทำงหลวงหมำยเลข 2112 ถึงกิโลเมตรที่ 8 แล้วเลี้ยว ขวาไปผาแต้มอีกราว 5 กิโลเมตร รวมระยะทางจากโขงเจียมประมาณ 18 กิโลเมตร สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ เสำเฉลียง อยู่ก่อนถึงผาแต้มประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นเสาหินธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้าและลมนับล้านปี มี ลักษณะคล้ายดอกเห็ดเรียงรายกันอยู่มากมาย ซึ่งหินดังกล่าวจะปรากฏเห็นซากเปลือกหอย กรวด ทราย อยู่ในเนื้อหิน ซึ่งนัก ธรณีวิทยาสันนิษฐานว่า เมื่อประมาณล้านกว่าปีมาแล้ว บริเวณนีคงจะเป็นทะเลมาก่อน ชาวบ้านบริเวณนี้เรียกเสาหินที่คล้าย ้
  • 28. ดอกเห็ดนี้ว่า “เสำเฉลียง” ซึ่งแผลงมาจากคาว่า “สะเลียง” ที่หมายถึง “เสำหิน” บริเวณนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ นักท่องเที่ยวเดินเที่ยวชมแต่ต้องมีเจ้าหน้าที่นาทาง อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ผำแต้มและผำขำม เป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนสีกอนประวัตศาสตร์ ่ ิ ปรากฏเรียงรายอยู่ เป็นระยะ มีอายุไม่ต่ากว่าสามพันถึงสี่พันปี ทางอุทยานฯ ได้ทาทางเดินจากหน้าผาด้านบนลงไปชม ภาพเขียนสีเหล่านีที่หน้าผาด้านล่าง ระยะทางประมาณ 500 เมตร ภาพเขียนจะอยูบนผนังหน้าผายาวติดต่อกันประมาณ 180 ้ ่ เมตร ซึ่งเป็นมุมต่ากว่า 90 องศา มีภาพทั้งหมดประมาณ 300 ภาพ แบ่งเป็น 5 ประเภท คือ สัตว์ ลายเรขาคณิต คนทานา ภาพ มือ และภาพตุ้ม (เครื่องมือจับปลาของชาวประมงริมโขง) ด้านตรงข้ามผาแต้มคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้าโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดนทาให้ผา แต้ม เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสาหรับผู้ที่สนใจจะชม พระ อาทิตย์ขึ้นก่อนที่แห่งใดในประเทศไทย เช่นเดียวกันกับทีหมู่บ้านเวินบึกที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้าโขงไม่ไกล จากบริเวณ ่ แม่น้าสองสีมากนัก ซึ่งทุกวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจานวนมาก
  • 29. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม นำตกสร้อยสวรรค์ เป็นน้าตกขนาดใหญ่เกิดจากลาธาร 2 สาย คือ ห้วยสร้อย และห้วยไผ่ที่ไหลจากหน้าผาคนละด้านมา บรรจบกันซึ่งสูงประมาณ 20 เมตร มองดูคล้ายสร้อยที่แขวนคอ บริเวณน้าตกเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณมี มากในช่วงปลายฝนต้นหนาว น้าตกสร้อยสวรรค์จะสวยงามมากในช่วงปลายฤดูฝนเช่นเดียวกับน้าตกอื่น ๆ ในบริเวณนี้ การเดินทาง ตามทางหลวงหมายเลข 2112 กิโลเมตรที่ 20 เลี้ยวขวา 5 กิโลเมตร ถึงบริเวณลานจอดรถยนต์เดินเท้าอีก 500 เมตร นำตกทุ่งนำเมือง ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 2112 ห่างจากน้าตกสร้อยสวรรค์ ประมาณ 13 กิโลเมตร โดยมีทางแยกขวา จากบ้านนาโพธิ์กลางไป 10 กิโลเมตร เป็นน้าตกขนาดกลางที่มีความสวยงาม ไหลลดหลั่นลงมาโขดหิน ชั้นบนสูงสุด ประมาณ 25 เมตร บริเวณโดยรอบมีดอกไม้ต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม-ธันวาคม
  • 30. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม นำตกแสงจันทร์ (น้าตกรู) อยู่ก่อนถึงน้าตกทุ่งนาเมือง 1 กิโลเมตร มีทางแยกขวาที่บ้านทุ่งนาเมืองไปน้าตกแสงจันทร์ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้าตกขนาดเล็กที่มความสวยงามและมีลักษณะพิเศษ เกิดจากลาห้วยเล็ก ๆ บนลานหินไหลลอด ี ผ่านหน้าผาหินที่มีลักษณะเป็นรูลงสู่เพิงผาด้านล่าง หากเดินทางมาชมตอนช่วงเที่ยงวัน ซึ่งแสงอาทิตย์ลอดผ่านรูพอดีจะ มองเห็นสายน้าตกเหมือนแสงจันทร์ ป่ำดงนำทำม อยู่ในบริเวณภูนาทาม ห่างจากที่ทาการอุทยานฯ ประมาณ 36 กิโลเมตร การท่องเที่ยวที่ป่าดงนาทามเป็น ลักษณะการเดินป่าชมธรรมชาติปาไม้ ภูผาและแม่น้าโขง ซึ่งจุดทีนาสนใจได้แก่ ลานหิน พลานถ้าไฮ เสาเฉลียงคู่ สนสองใบ ่ ่ ่ น้าตกห้วยพอก ผาชนะได ผากาปั่น ผาหินแตก น้าตกกวางโตน หินโยก ภูจ้อมก้อม เป็นต้น ในช่วงเดือนกันยายน- พฤศจิกายน เป็นช่วงที่เหมาะในการชมดอกไม้ดิน น้าตกและทะเลหมอกริมโขง ส่วนในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม จะเป็น ช่วงเวลาในการชมป่าไม้เปลี่ยนสี ดอกไม้หน้าแล้ง และล่องเรือตามลาน้าโขงระหว่างบ้านปากลา-คันท่าเกวียน อุทยาน แห่งชาติผาแต้มจัดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไว้ 3 เส้นทาง สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปีคือ เส้นทางผาแต้ม-น้าตกสร้อย สวรรค์ เส้นทางทุงนาเมือง-ผาชนะได และเส้นทางถ้าปาฏิหารย์-ผาชนะได สอบถามรายละเอียดได้ที่ องค์กำรบริหำรส่วน ่ ตำบลนำโพธิกลำง โทร. 0 4524 9002 ์