Ec214 7 adas_2yr561. 7 ปส์ 1
7. อุสงคมวลรวม และอุป
ทานมวลรวม
7.1 อุุปสงค์มวลรวม
7.2 อุปทานมวลรวม
7.3 ดดุลยภภาาพของรระะบบเเศศรษฐกกิจ
7.4 การประยุกต์ใช้แบบจำลอง AD-AS วิเคราะห์ผลกระทบ
ต่อเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจ
7.5 สสาาเเหหตตุของเเงงินเเฟฟ้อ
7.6 ความสัมพันธ์ระหว่างเงินเฟ้อกับการว่างงาน
ศ 214 เศรษฐศาสตร์มหภาคเบื้องต้น
ภาค 2/2556
ความผันผวนของระบบเศรษฐกิจในระยะสั้น
(Short-Run Economic Fluctuations)
ปิิีัั้่ โ
2
ปกติระบบเศรษฐกิจจะมีความผันผวนด้วยตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยการ
เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น อาจมาจากการปรับตัวของ
ความต้้องการของประชาชน หรืือ
ปัญหาจากผลผลิตที่อาจเป็นไปตามฤดูกาล
ผลที่เกิดขึ้นทำใให้ขนาดของผลผลิต และการเจริญเติบโโตของระบบเศรษฐกิจ
มีการผันผวนตลอดเวลา
ตัวอย่างปัจจุบัน ปัญหาการถดถอยในเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ยุโรปที่่เกิด
จากความไม่มีเสถียรภาพจากภาคการเงินที่ส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจแท้จริง ที่
ทํำใให้้ระบบเศรษฐกิิจโโดยรวมขาดเสถีียรภาพ และการเจริิญเติิบโโตของ
เศรษฐกิจ
ความผันผวนของระบบเศรษฐกิจในระยะสั้น
(Short-Run Economic Fluctuations)
ี่
3
นิยามของความผันผวนเศรษฐกิจทีสำคัญ
เศรษฐกิจถดถอย recession คือสภาวะการณ์ที่ระบบเศรษฐกิจมีรายได้ลด
ตํ่าลง และการว่างงานเพิ่มขึ้น
เเศศรษฐกกิจตกตตํ่าา depression คคือสภภาาพเเศศรษฐกกิจทที่มมีกกาารตกตตํ่าาอยย่าาง
รุนแรง (หมายเหตุความรุนแรงขึ้นกับขนาดและสภาพเศรษฐกิจของแต่ละ
ปรระะเเททศ)
ปปัจจจัยทที่แแสสดงสภภาาววะะคววาามผผันผวนของเเศศรษฐกกิจ
ไ ไ ไ
4
ความผันผวนของเศรษฐกิจจะไม่มีความแน่นอน และไม่อาจคาดเดาได้ง่าย
ความผันผวนของเศรษฐกิจนี้ ปัจจุบันนิยมเรียกว่า วัฎจักรธุรกิจ business
cycle.
เป็นสภาพที่ตัวแปรทางเศรษฐกิจมหภาคทั้งหลาย อาทิ อัตราการ
เจริญเติบโตของเศรษฐกิจ การว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย เป็นต้น
มีการปรับตัว
2. 5
กกาารอธธิบบาายคววาามผผันผวนเเศศรษฐกกิจใในนรระะยยะะสสั้น-รระะยยะะยยาาว
คต่างของความผันผวนของเศรษฐกิจใน6
วามแตกตาผกระยะ
สั้นและระยะยาว
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อในทฤษฎีของสำนัก
classics ทที่มมุ่งอธธิบบาายปรราากฏกกาารณณ์ททาางเเศศรษฐกกิจใในนรระะยยะะ
ยาว มากกว่าในระยะสั้น นั่นคือ
การเปปลีี่ยนแปปลงของปริิมาณเงิินจะนํำไไปปสู่่การปรัับตััวของตััวแปปร
ทางเศรษฐกิจมหภาค แต่ไม่ใช่ตัวแปรที่แท้จริงที่ต้องใช้เวลา
ปรัับตััวใในระยะยาว
แบบจำลองเศรษฐกิจมหภาคแบบง่ายเพื่อแสดง
ความผัันผวนของระบบเศรษฐกิิจ
ี่ ใ้ ไ้่
7
ตัวแปร 2 ตัวทีสามารถใช้สาธิตการปรับตัวของระบบเศรษฐกิจ ได้แก่
ระดับผลผลิต หรือรายได้แท้จริง real GDP
ระดับราคาของระบบเศรษฐกิจที่วัดโดย CPI หรือ GDP deflator
กกาารปรรับตตัวของตตัวแแปปรเเศศรษฐกกิจททั้งสองสสาามมาารถททำาโโดดยกกาารใใชช้Aggregate
Demand: AD และ Aggregate Supply: AS
AD – AS สสาามมาารถใใชช้สสาาธธิตกกาารปรรับตตัวของรระะบบเเศศรษฐกกิจใในนรระะยยะะสสั้นทที่สส่งผลตต่อ
แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวได้
แบบจำลองเศรษฐกิจมหภาคแบบง่ายเพื่อแสดง
ความผัันผวนของระบบเศรษฐกิิจ
้ใ้์่้ื้ใ้
8
เส้น aggregate-demand ใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างความต้องการซือ (ใช้
จ่าย) ผลผลิตมวลรวมกับระดับราคาต่างๆ ของผลผลิตที่ผลิตได้
หมายความว่าเส้น AD จะมีลักษณะเหมือนกับเส้นอุปสงค์ทั่วไป แต่ในที่น้ี้
แทนที่จะเป็น เส้นอุปสงค์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นเส้นอุปสงค์ของคน
ท้ั้งประเทศที่มีต่อผลผลิตท้ั้งประเทศ
ทำนองเดียวกัน เส้นอุุปทาน aggregate supply: AS แสดงปริมาณความต้องการ
ขายของผู้ผลิตที่ ณ ระดับราคาต่างๆ ของผลผลิต
แแตต่เเปป็นออุปททาานของผผู้ผลลิตททั้งปรระะเเททศ
3. 7.1.1 ความหมายของอุปสงค์มวลรวม
(Aggregate Demand: AD)
9
ความหมาย: ผลรวมของอุปสงค์์สิินค้้าและบริิการขััน้สุดท้้ายใในระบบเศรษฐกิิจ
(Real GDP) ณ ระดับราคาต่างๆ ที่ทำให้ทัง้ตลาดผลผลิตและตลาดเงินเข้าสู่ดุลยภาพ
อุปสงค์์สิินค้้าและบริิการขัน้สุดท้้ายประกอบด้้วย
การบริโภค (Consumption: C)
การลงทุน (Investment: I)
การใช้จ่ายของรัฐบาล (Government Spending: G)
การส่งออกสุทธิ (Net Export: X-M)
อุปสงค์มวลรวมมีความสัมพันธ์ผกผันกับระดับราคา เนื่องจาก
ผลด้านอัตราดอกเบ้ี้ย (Interest Effect)
ผลด้านความมัง่คัง่ที่แท้จริง (Real Wealth Effect)
ผลด้านการค้าระหว่างประเทศ (Open Economy Effect)
การสร้างเส้นอุปสงค์มวลรวมจาก DAE
DAE Y=DAE
E DAE0 P=P0 0
DAE DAE1 P=P
P1
DAE2 P=P2
E1
E2
45 Y
Y2 Y1
Y0
P2
P1
Y
1
P0
10 AD
การเคลื่อนย้ายเส้นอุปสงค์มวลรวมจาก DAE
DAE Y=DAE
E DAE0 P=P0 0
การปรบตวเพง
DAE เกิดได้หลาย
สาเหตุ เช่นการลงทุน E2ุุ
เอกชน ที่สำคัญ คือการ
ปรับตัวของนโยบาย
รัตัเพิ่มขอDAE DAE1 P=P
P0
DAE2 P=P0
E1
E
45 Y
Y2 Y1
Y0
รัฐบาลได้แก่นโยบาย
การคลัง หรือนโยบาย
กกาารเเงงิน
P0
Y
0
AD2
AD1
AD0
11
7.1.2 การสร้างเส้นอุุปสงค์มวลรวม
ผลด้านอัตราดอกเบี้ย
P ↓ (P P ) MS ↑ (MS
MS
)
ตลาดผลผลิต
DAE
P0→P1) → real 0 →1)
→ r ↓ (r0 → r1)
→ I ↑ (I0 → I1)
→ DAE ↑ (DAE →DAE )
DAE1 (I1)
DAE0 (I0)
E1
E DAE0→DAE1)
→ Y ↑ (Y0 → Y1)
Real GDP
E0
ตลาดเงิน
Y0 Y1 Price (p) อัตราดอกเบี้ย
P0
MS
0
r0
E0
A
MS
1
อุปสงค์มวลรวม (AD)
P1
Md
0
r1 E1
B
12 Y0 Y1
Real GDP ปริมาณเงิน
4. 7.1.2 การสร้างเส้นอุุปสงค์มวลรวม
ผลด้าน Real Wealth Effect
P ↓ (P P ) ัั่่ี่ิิ้่ึ้
ตลาดผลผลิต
DAE
P0→P1) → ความมงคงทแทจรงเพมขน
→ C ↑ (C0 → C1)
→ DAE ↑ (DAE0→DAE1)
DAE1 (C1)
DAE0 (C0)
E1
E 0 1
→ Y ↑ (Y0 → Y1)
Real GDP
E0
Y0 Y1 Price (p)
P0 A
อุปสงค์มวลรวม (AD)
P1 B
13 Y0 Y1
Real GDP
7.1.2 การสร้างเส้นอุุปสงค์มวลรวม
ผลด้าน Open Economy Effect
P ↓ (P →P ) → X↑ M↓
ตลาดผลผลิต
DAE
P0P1) , → (X-M)↑ (X-M)0 → (X-M)1)
→ DAE ↑ (DAE0→DAE1)
DAE1 (X-M)1
DAE0 (X-M)0
E1
E 0 1
→ Y ↑ (Y0 → Y1)
Real GDP
E0
Y0 Y1 Price (p)
P0 A
อุปสงค์มวลรวม (AD)
P1 B
14 Y0 Y1
Real GDP
Aggregate-Demand Curve
Price
Level
P
P2
Aggregate
demand
การปรับราคา
Quantity of
Output
0 Y Y2
การปรับตัวของปริมาณความต้องการ
15
เหตุผลใดเส้น AD จึงมีslope เป็นลบ
ื่่ึ้ใ้่่ปี่ไป่
16
เนืองจากการเพิมขึนของราคาทำให้ความมันคังของประเทศ ทีนำไปสู่
ความสามารถในการบริโภคของประเทศลดลงหรือเรียกว่า Wealth Effect
ระดับราคากับการบริโภค: Wealth Effect
การลดลง (เพิ่มขึ้น) ของราคาทำให้ผูู้บริโภครูู้สึกว่ามีความมั่นคั่งเพิ่มขึ้น (ลดลง) ทำ
ให้ส่งเสริมความต้องการใช้จ่ายเพิ่มการบริโภคเพิ่มขึ้น (ลดลง)
ซึ่งหมายถึงผูู้บริโภคจะใช้จ่ายมากขึ้น (น้อยลง) เพื่อสินค้าและบริการต่างๆ
5. เหตุผลใดเส้น AD จึงมีslope เป็นลบ
่ี้
17
ผลของราคาต่ออัตราดอกเบีย: Interest Rate Effect
การลดลงของระดับราคา (เงินเฟ้อ) ทำให้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะลดลง ทำให้
เกิดการลงทุนเพิ่่มมากข้ึ้น
การเพิ่มขึ้นของการลงทุนย่อมหมายความถึงความต้องการซื้อสินค้าและบริการเพิ่ม
มากข้ึ้น
ผลของราคาต่อการส่งออก: The Exchange-Rate Effect
การลดลงของระดับราคาทำให้ นอกจากทำให้ราคาสินค้าส่งออกมีราคาถูกลงแล้ว ยัง
มีผลทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของประเทศเพิ่มขึ้น (ค่าเงินลดลง) ซึ่งจะส่งเสริมการ
ส่งออกของประเทศ
การเพิ่มการส่งออกจะไปกระตุุ้นให้มีความต้องการใช้จ่ายเพื่อสินค้าและบริการ
เพิ่มขึ้นในประเทศ
กกาาร Shift ของเเสส้น Aggregate Demand
18
Price
Level
P1
D2
Aggregate
demand, D1
Quantity of
Output
0 Y1 Y2
7.1.3 การย้ายเส้นอุปสงค์มวลรวม
ตลาดผลผลิต
DAE
ปัจจัย ทำให้ AD เพิ่มขึ้น
DAE การบริโภค (C)
1
DAE0
E1
E
E0 เงโอน เพขร-ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ลดลง
-เงินเพิ่มขึ้น
Real GDP
-ความมัน่ใจผู้บริโภค เพิ่มขึ้น
-ความมัง่คัง่เพิ่มขึ้น
Y0 Y1 Price (p) การลงทุน (I)
-อัตราดอกเบี้ย ลดลง
P0 A B
-การคาดการณ์เศรษฐกิจ ดีขึ้น
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล ลดลง
AD0
AD1
การใช้จ่ายของรัฐบาล (G)
- งบประมาณ ขาดดุล
ิ่
19 Y0 Y1
Real GDP
การส่งออกสุทธิ (X-M)
-เศรษฐกิจต่างประเทศ ดีขึ้น
7.1.3 การย้ายเส้นอุปสงค์มวลรวม
ตลาดผลผลิต
DAE
ปัจจัย ทำให้ AD ลดลง
DAE การบริโภค (C)
0
DAE1
E0
E
E1 เงโอน ร-ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพิ่มขึ้น
-เงินลดลง
Real GDP
-ความมัน่ใจผู้บริโภค ลดลง
-ความมัง่คัง่ลดลง
Y1 Y0 Price (p) การลงทุน (I)
-อัตราดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น
P0 B A
-การคาดการณ์เศรษฐกิจ แย่ลง
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล เพิ่มขึ้น
AD1
AD0
การใช้จ่ายของรัฐบาล (G)
- งบประมาณ เกินดุล
ิ่
20 Y1 Y0
Real GDP
การส่งออกสุทธิ (X-M)
-เศรษฐกิจต่างประเทศ แย่งลง
6. 7.2.1 ความหมายของอุปทานมวลรวม
21
ความหมาย: ปริมาณสินค้้าและบริการทีี่ภาคการผลิตผลิตขึึ้น ณ ระดัับราคา
ต่างๆ
การผลิตแบ่งออกเป็น 2 ระยะ
ระยะสัน้: การผลิตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผลตอบแทน/ราคาปจัจัยการผลิต
บางอย่าง (ค่าจ้าง) ไม่สามารถปรับตัวได้ (โดยเฉพาะปรับตัวลดลง)
รระะยยะะยยาาว: กกาารผลลิตทที่เเกกิดขขึ้นใในนชช่วงเเววลลาาทที่ผลตอบแแททน/รราาคคาาปจจัจจัยกกาารผลลิต
สามารถปรับตัว (เพิ่ม/ลด) ได้เพื่อให้ตลาดปจัจัยการผลิตเข้าสู่ดุลยภาพ
(ออุปสงคค์ปจจัจจัยกกาารผลลิตเเทท่าากกับออุปททาานปจจัจจัยกกาารผลลิต)
7.2.1 ความหมายของอุปทานมวลรวม
22
Say’s Law Keynesian School
ยุค ศตวรรษที่ 19 1936 The General Theory of
Employment, Interest and Money
แนวคิดหลัก ราคาสินค้าและปจัจัยการผลิต
ปัั ไ้
รายได้ของครัวเรือนจากการขายปจัจัยการ
สามารถปรบตวได้ตามการิิไ้ใ้ื่ืิ้ิ้ใ
เปลี่ยนแปลงของ อุปสงค์และอุปทาน
เพื่อให้เข้าส่ดผลิต มิได้ใช้เพือซือสินค้าและบริการในระบบ
เศรษฐกิจทัง้หมด เนื่องจากถูกเก็บภาษีและ
เพใหตลาดเขาสูดุลยภาพ
กกาารออม
Supply creates its own demand. Supply does not automatically create an
adequate demand.
ผล ไม่มีการว่างงานอย่างอย่างต่อเนื่อง
เป็นระยะเวลานาน
การว่างงานเกิดขึ้นได้และอาจต่อเนื่องเป็น
ระยะเวลายาวนานได้ เนื่องจากค่าจ้างไม่
สามารถปรับตัวลดลง
7.2.1 ความหมายของอุปทานมวลรวม
23
ค่าจ้้างไไม่สามารถปรัับตััวลดลงไได้้เนืื่องจาก
การทำสัญญาการจ้างงานระยะยาว
สหภาพแรงงาน
กฎหมายค่าจ้างแรงงานขัน้ต่ำ
ปจัจัยอื่นๆ (เช่น Menu Cost, Efficient Wage)
7.2.2 ลักษณะของอุปทานมวลรวมระยะสันัและลั้กษณะของอุปทานมวลรวมระยะยาว
24
รราาคคาา (P) อุปทานมวลรวมระยะสัน้้เส้อสัน้สัมพันธ์ระหว่าง
(Short-run Aggregate Supply: SRAS)
เสนอุปทานมวลรวมระยะสนแสดงความสพธวาระดับราคาสินค้าโดยทัว่ไป (P) กับปริมาณสินค้าและ
บริการที่ผลิตได้ในระบบเศรษฐกิจ (Y)
B โดยเมื่อระดับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ปริมาณสินค้าและบริการ
่่้ P1
ที่ผลิตในระบบเศรษฐกิจก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เช่น
ณ ดัP มีริสิค้าและบริการเท่ากับ Y
P0
A ระดบราคา P0 มปรมาณสนคารเทากY0
(จุด A)
แต่เมื่อราคาเพิ่มเป็น P1 ปริมาณสินค้าและบริการเพิ่มเป็น
Y0 Y1 0
ไ้่้
Y1 (จุด B)
• ผลของการขยายปริมาณการผลิตต่อราคา
รายได้ประชาชาติที่แท้จริง (Real Y) คือ เมื่อปริมาณการผลิตเพิ่มมากขึ้น ทำให้มี
ความต้องการใช้ปจัจัยการผลิตเพิ่มขึ้น ราคา
ปจจัจจัยกกาารผลลิตแแลละะตต้นททุนกกาารผลลิตเเพพิ่ม ททำาใใหห้
ราคาสินค้าโดยัว่ไปเพิ่ม
7. 7.2.2 ลักษณะของอุปทานมวลรวมระยะสันัและลั้กษณะของอุปทานมวลรวมระยะยาว
25
รราาคคาา (P) อุปทานมวลรวมระยะสัน้้
(Short-run Aggregate Supply: SRAS) เมื่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้น แล้วปริมาณสินค้าและบริการ
ในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นด้วยนั้น เนื่องจาก
• ผด้ากำไร (Profit Effect) คืเมื่เพิ่ขณะที่
P1
B ลดานกาคอ เมอราคาเพม ท
ต้นทุน ยังไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ผลิตจะมีกำไรเพิ่มมากขึ้น
กำไรที่เพิ่มขึ้นนี้จูงใจให้ผู้ผลิตขยายปริมาณการผลิตขึ้น
P0
A ปริมาณสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจจึงเพิ่ม
• ผลด้านความเข้าใจผิด (Misperception Effect) คือ
เมื่อราเพิ่ผ้ผลิเข้าเองว่า ราคาที่เพิ่ขึ้นนี้ เป็น
Y0 Y1 0
ไ้่้
เมคาเพม ผูลตเขาใจไปวา ทเพมขน เปการเพิ่มขึ้นเฉพาะราคาสินค้าและบริการที่ตนเองผลิต ทำ
ให้ผู้ผลิตขยายปริมาณการผลิต
รายได้ประชาชาติที่แท้จริง (Real Y) ปริมาณสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจจึงเพิ่่มข้ึ้น ทัง้้
ที่ อันที่จริงแล้ว ราคาสินค้าและบริการโดยทัว่ไปต่าง
เเพพิ่มขขึ้น ไไมม่ไไดด้จจำากกัดเเฉฉพพาาะะรราาคคาาสสินคค้าาแแลละะบรริกกาารทที่ผผู้ผลลิต
คิดไปเองเท่านั้น
Short Short-run Aggregate Supply Curve
Price
26
Level
Short-run
aggregate
supply
P
1. A decrease
in the price
2. . . . reduces the quantity
of goods and services
P2
level . . . supplied in the short run.
0 Quantity of
Y2 Y y
Output
2
Copyright © 2004 South-Western
เส้น Long-Run Aggregate-Supply Curve
Price
Level
27
Long-run
aggregate
supply
P
P2
1. A change
in the price
l l
2. . . . does not affect
the quantity of goods
and services supplied
Quantity of
O t t
level in the long run.
0 จำนวน ผลผลิต
Output
7.2.2 ลักษณะของอุปทานมวลรวมระยะสันัและลั้กษณะของอุปทานมวลรวมระยะยาว
28
รราาคคาา (P) อุปทานมวลรวมระยะยาว
(Long-run Aggregate Supply: LRAS) เส้นอุปทานมวลรวมระยะยาวแสดงระดับปริมาณสินค้าและ
บริการที่ระบบเศรษฐกิจผลิตได้ ณ ระดับการจ้างงานอย่าง
็ี่
P1
B เต็มที (Full Employment: YF)
ในระยะยาวแล้ว เมื่อระดับราคาสินค้าและบริการ รวมถึง
ราคาปจัจัยการผลิตปรับตัวได้ ( เพิ่ม/ลด)
เมื่อราคาสินค้าและ
P0
A
บริการเพิ่มขึ้น ราคาปจัจัยการผลิต ก็ปรับเพิ่มขึ้นในอัตรา
เดียวกัน เช่น ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 10
ราคาปจัจัรผลิตก็เพิ่ขึ้ร้ล 10 เช่กัน
YF 0
จจยกาลกเพมขนรอยละ เชนกดังนั้นเส้นอุปทานมวลรวมระยะยาวจึงเป็นเส้นตัง้ฉากกับแกน
นอน ณ ระดับการผลิตที่ก่อให้เกิด
รายได้ประชาชาติที่แท้จริง (Real Y) การจ้างงานอย่างเต็มที่ (YF)
8. Long-run Aggregate Supply Curve
29
ใในระยะยาว เส้น aggregate-supply จะเป็็นเส้นต้ั้งฉากแกนนอน
(Vertical)
ในระยะยาวแล้วการผลิตของระบบเศรษฐกิจถูกกำหนดจากจำนวนปัจจัยการผลิต
ที่มีของประเทศที่ประกอบทั้ง แรงงาน ทุน ทรัพยากรต่างๆ เทคโนโลยีที่ใช้ในการ
ผลิตเพื่่อสร้างสินค้าและบริการต่างๆ โดยในระยะยาวเท่าน้ั้นจึงจะมีการ
เปลี่ยนแปลงจำนวนหรือคุณภาพของปัจจัยการผลิตได้
ดังน้ั้นระดับราคาจึงไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยการผลิตในระยะยาว
ในระยะสั้นเส้น aggregate-supply จะมีslope เป็นแบบ
upward
เเสส้น Long-Run Aggregate-Supply Curve
30
จะเป็็นเส้้นตัั้งฉาก โโดยระดัับผลผลิตทีี่ไได้้จะเป็็นระดัับผลผลิตตามธรรมชาติ
Natural Rate of Output.
ระดับผลผลิตดังกล่าวยังเรียกไได้ว่าเป็็น Potential Output หรือระดับ
ผลผลิตที่ Full Employment
ปัจจัยท่ี่ทำให้แส้น AS เคล่ื่อนย้ายท้ั้งเส้น คือ
Labor
Capital
Natural Resources
Technological Knowledge
7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
31
ปปััจจััย SRAS LRAS
น
แ
ถาวร
ปริมาณหรือคุณภาพปจัจัยทุนเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น (ลดลง) เพิ่มขึ้น (ลดลง)
บ
ต่อต้นทุลิ
ตเป็นการถ
(ลดลง)
ที่ดิน/ทรัพยากรมีเพิ่มขึ้น (ลดลง) เพิ่มขึ้น (ลดลง) เพิ่มขึ้น (ลดลง)
่ึ้่ึ้่ึ้
ส่
งผลกระทมาณการผจำนวนแรงงานเพิมขึน เพิมขึน (ลดลง) เพิมขึน (ลดลง)
ทุนมนุษย์เพิ่มขึ้น (ลดลง) เพิ่มขึ้น (ลดลง) เพิ่มขึ้น (ลดลง)
ปริม
การกำกับดูแลของรัฐผ่อนคลาย (เข้มงวด) เพิ่มขึ้น (ลดลง) เพิ่มขึ้น (ลดลง)
ทบ
น
ทุน
ค่าจ้าง/ราคาปจัจัยการผลิตลดลง (เพิ่มขึ้น) เพิ่มขึ้น (ลดลง) -
ส่งผลกระ
เฉพาะต้สภาพอากาศที่ดีขึ้น (ภัยพิบัติธรรมชาติ) เพิ่มขึ้น (ลดลง)
ราคาน้ำมันลดลง (เพิ่มขึ้น) เพิ่มขึ้น (ลดลง)
7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
32
รราาคคาา (P) LRAS
SRAS1
SRAS
ปัจจัย SRAS LRAS
ทุน
ค่าจ้า/จัจัย
P B
SRAS0
ท
บเฉพาะต้นท
คาจางราคาปจจการผลิตเพิ่มขึ้น ลดลง -
P1 ภัยพิบัติธรรมชาติลดลง
-
ส่งผลกระภพบตต ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ลดลง -
(Y)
P0
YF 0
A
9. 7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
33
รราาคคาา (P) LRAS
SRAS0
SRAS
ปัจจัย SRAS LRAS
ทุ
น
ค่าจ้า/จัจัย่ึ้
P A
SRAS1
บ
เฉพาะต้นคาจางราคาปจจย
การผลิตลดลง เพิมขึน -
สภาพอากาศที่ดีขึ้น เพิ่มขึ้น -
P0 ส่งผลกระทราคาน้ำมันลดลง
(เพิ่มขึ้น) เพิ่มขึ้น
-
(Y)
P1
YF 0
B
7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
34
รราาคคาา (P)
SRAS1
SRAS
ปัจจัย SRAS
ณ
การ
ปริมาณหรือคุณภาพ
ปจัจัทลดลง
SRAS0
ทุนและปริมาการถาวร
จจยทุนลดลง
ที่ดิน/ทรัพยากร
มีลดลง ลดลง
B
ระทบต่อต้นท
ผลิตเป็นก
จำนวนแรงงานลดลง ลดลง
ทุนมนุษย์ลดลง ลดลง
Y
P0
0
A
ส่งผลกร
การกำกับดูแลของรัฐ
เข้มงวด/ล่าช้า ลดลง
7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
35
รราาคคาา (P) LRAS1 LRAS0 ปปัจจัย LRAS
าณการ
ปริมาณหรือคุณภาพ
ปจัจัยทุนลดลง ลดลง
น
ทุนและปริมา
การถาวร
ุ
ที่ดิน/ทรัพยากร
มีลดลง ลดลง
B
ก
ระทบต่อต้ผลิตเป็น
จำนวนแรงงานลดลง ลดลง
ทุนมนุษย์ลดลง ลดลง
ํัั
Y
P0
0 *
YF
** YF
A
ส่งผลการกำกับดูแลของรัฐ
เข้มงวด/ล่าช้า ลดลง
F F
7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
36
รราาคคาา (P) LRAS LRAS1 LRAS0
ปัั
SRAS1
SRAS
ปัจจัย SRAS LRAS
าณการ
ปริมาณหรือคุณภาพ
ปจัจัยทนลดลง ลดลง ลดลง
P
B
SRAS0
A
ทุนและปริมา
การถาวร
ุ
ที่ดิน/ทรัพยากร
มีลดลง ลดลง ลดลง
P0 ระทบต่อต้นท
ผลิตเป็นก
จำนวนแรงงานลดลง ลดลง ลดลง
ทุนมนุษย์ลดลง ลดลง ลดลง
ัั
0 *
** YF
YF Y
ส่งผลก
การกำกับดูแลของรัฐ
เข้มงวด/ล่าช้า ลดลง ลดลง
F F
10. 7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
37
รราาคคาา (P)
SRAS0
SRAS
ปัจจัย SRAS
ารผลิต
ปริมาณหรือคุณภาพ
ปจัจัทเพิ่มขึ้น
เพิ่มขึ้น
SRAS1
ละปริมาณกา
าวร
จจยทุนเพขที่ดิน/ทรัพยากร
มีเพิ่มขึ้น
เพิ่มขึ้น
บ
ต่อต้นทุนแล
เป็นการถา
จำนวนแรงงาน
เพิ่มขึ้น
เพิ่มขึ้น
์ิ่ึิ้่ึ้
A
(Y)
P1
0
B
ส่งผลกระททุนมนุษยเพมขน เพมขน
การกำกับดูแลของรัฐ
ผ่อนคลาย
เพิ่มขึ้น
7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
38
รราาคคาา (P) LRAS0 LRAS1 ปัจจัย LRAS
ร
ผลิต
ปริมาณหรือคุณภาพ
ปจัจัทเพิ่มขึ้น
เพิ่มขึ้น
P
A
ะปริมาณกาวร
จจยทุนเพขที่ดิน/ทรัพยากร
มีเพิ่มขึ้น
เพิ่มขึ้น
B
P0
ต่อต้นทุนและ
เป็นการถา
จำนวนแรงงาน
เพิ่มขึ้น
เพิ่มขึ้น
่้่้
0 **
* YF
YF (Y)
ส่งผลกระทบต
ทุนมนุษย์เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น
การกำกับดูแลของรัฐ
ผ่อนเพิ่มขึ้น
F F
ส
ผคลาย
7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
39
รราาคคาา (P) LRAS LRAS0 LRAS1
SRAS0
SRAS
ปัจจัย SRAS LRAS
ผ
ลิต
ปริมาณหรือคุณภาพ
ัั่ึ้
เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น
SRAS1
P A B
ปริมาณการว
ร
ปจจัยทุนเพิมขึน
ที่ดิน/ทรัพยากร
มีเพิ่มขึ้น
เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น
P0 ต่อต้นทุนและ
เป็นการถามเพขจำนวนแรงงาน
เพิ่มขึ้น
เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น
0 (Y)
ง
ผลกระทบต
ทุนมนุษย์เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น
การกำกับดูแลของรัฐ
เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น
ผ่อนYF
* YF
**
F F ผคลาย
ส่7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
40
รราาคคาา (P) LRAS LRAS0 LRAS1
สินค้า Y
SRAS0
SRAS
สคา เส้นความเป็นไปได้ในการผลิต
SRAS1
P P0 A B
B
Y1
Y0
A
0 YF YF* Y (GDP) X0 X1 สินค้า X
เศรษฐกิจ
ิ โ
1
เติบโต
11. 7.2.3 การย้ายเส้นอุปทานมวลรวม
41
รราาคคาา (P) LRAS LRAS1 LRAS0
สินค้า Y
SRAS1
SRAS
สคา เส้นความเป็นไปได้ในการผลิต
SRAS0
P P0 B A
A
Y0
Y1
B
YF* YF Y (GDP) 0 X1 X สินค้า X 0
เศรษฐกิจ
ั
หดตัว
The Short-run Equilibrium
Price
Level
42
Aggregate
supply
Equilibrium
price level
Aggregate
d d
demand
0 Equilibrium
Quantity of
Output
output
The Long-Run Equilibrium
Price
Level
43
Short-run
Long-run
aggregate
supply
aggregate
supply
Equilibrium A
price
Aggregate
demand
0
Quantity of
Natural rate
of output
Output
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
44
รราาคคาา (P) ปส์ิึ่ีิิ้้
SRAS0
หากอุสงคมวลรวมเพมขนจะมการผลตสนคา
และบริการเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองกับความ
ต้องการของระบบเศรษฐกิจ
P
E1
ราคาเพิ่ม
สะท้อนได้
ว่าอาจเกิด
ทำให้รายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้น จาก Y0 เป็น Y1
อย่างไรก็ตาม การผลิตสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นนี้
P1 E0
ทำให้มีต้นทการผลิตเพิ่ขึ้ผ้ประกอบการจะ
P0
AD1
เงินเฟ้อ
AD0
ทาใหมตทุนลเพมขน ผูเรียกร้องราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น
ทำให้ระดับราคาสินค้าและบริการเพิ่มจาก P0
Y0 Y1 Y 0
เป็น P1
• รายได้ประชาชาติที่เพิ่มขึ้นสะท้อนได้ว่า มีการ
ริเติษฐกิมีจ้างงาน
รายได้ประชาติเพิ่มขึ้นสะท้อนได้ว่า
มีเติเศรษฐกิจและการจ้างงานเพิ่ม
เจรญเตบโตทางเศรกจและมการจาเพิ่มขึ้น
• ส่วนราคาเพิ่มขึ้นสะท้อนว่าอาจเกิดปญัหาเงิน
มการเตบโตทางกจาเพเฟ้้อ
12. ผลการปรับตัวลดลงของ Aggregate Demand
2. . . . causes output to fall in the short run . . . 45
Price
Level
Short-run aggregate
supply, AS
P A
P B
1. A decrease in
aggregate demand . . .
Aggregate
P2 demand, AD
AD2
0 Quantity of
Y2 Y y
Output
2
ผลการปรับตัวลดลงของ Aggregate Demand
2. . . . causes output to fall in the short run . . . 46
Price
Level
Short-run aggregate
supply, AS
AS2
3. . . . but over
time, the short-run
aggregate-supply
curve shifts . . .
P A
P B
1. A decrease in
P C aggregate demand . . . 3
Aggregate
P2 demand, AD
AD2
0 Quantity of
Y2 Y y
4. . . . and output returns Output
to its natural rate.
2
ผลการปรับตัวลดลงของ Aggregate Demand
2. . . . causes output to fall in the short run . . . 47
Price
Level
Long-run
aggregate pp y
Short-run aggregate
supply, AS
AS2
3. . . . but over
supply
time, the short-run
aggregate-supply
curve shifts . . .
P A
P B
1. A decrease in
P C aggregate demand . . . 3
Aggregate
P2 demand, AD
AD2
0 Quantity of
Y2 Y y
4. . . . and output returns Output
to its natural rate.
2
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
Y=DAE
DAE (X & I )
Y ตลาดผลผลิต
DAE1 X1 I0)
DAE2 (X1 & I1 )
DAE0 (X0)
E
E1
E2
E0
Y Y
0 Y2 Y1
ตลาดเงิน
Ms
P1 P0
P SRAS r Ms
E E
P1 r0
AD
AD1
E0
E2
P0
r1
Md
0 (Y0)
E0
E2
Md
1 (Y2)
48 Y0 Y2 Y1
AD0
Y M
13. 7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
49
ตลลาาดผลผลลิต (1)
เมื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น โดยที่สิ่งอื่นๆ คงที่ ความต้องการใช้จ่ายมวลรวมเพิ่มขึ้น (DAE0 เป็น DAE1)
ณ ดุลยภาพเดิม E0 ภาคการผลิตพบว่า ปริมาณการผลิตเดิม (Y0) น้อยกว่าความต้องการใช้จ่ายมวลรวม
ใหม่ (DAE1) สินค้าคงคลังลดลง ทำให้ภาคการผลิตขยายปริมาณการผลิตเพ่ิ่มข้ึ้น (Y1) ผ่านตัวทวีคูณ
การส่งออก
อยย่าางไไรรกก็ตตาาม เเมมื่อภภาาคกกาารผลลิตขยยาายปรริมมาาณกกาารผลลิตขขึ้น ททำาใใหห้ตต้นททุนกกาารผลลิตเเพพิ่มขขึ้นดด้วย รราาคคาาสสินคค้าา
และบริการเพิ่มขึ้น (จาก P0 เป็น P1 ปรับตัวตามเส้น SRAS)
ตลาดเงิน (1)
เมืื่อราคาสิินค้้าและบริิการค่่อยๆ ปรัับตััวเพิิ่มมากขึึ้น ทํำใให้้ปริิมาณเงิินทีี่แท้้จริิงลดลง (MS/P0 เปป็็น MS/P1)
ณ อัตราดอกเบี้ยดุลยภาพเดิม ( r0) มีความต้องการถือเงินมากกว่าปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ
ประชาชนขายพันธบัตร เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงิน ทำให้ราคาพันธบัตรค่อยๆๆ ปรับตัวลดลง
เมื่อราคาพันธบัตรปรับตัวลดลง อัตราดอกเบี้ยจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น (เนื่องจากราคาพันธบัตรกับ
อัตราดอกเบี้ยมีความสัมพันธ์แบบผกผันกัน)r1
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
50
ตลลาาดผลผลลิต (2)
เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้น การใช้จ่ายเพื่อการลงทุน ( I ) จะค่อยๆ ปรับตัวลดลง
เนื่องจากการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนมีความสัมพันธ์ผกผันกับอัตราดอกเบี้ย ทำให้ความต้องการใช้จ่ายมวล
รวมลดลงจาก DAE1 เป็น DAE2 (การลดลงจาก Y1 เป็น Y2 นั้้น เป็นผลมาจากตัวทวีคูณของการลงทุน)
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง การส่งงออกที่เพิ่มขึ้น ทำให้ DAE เพิ่มขึ้นเพียง DAE2 เท่านั้น (ไม่ใช่ DAE1 ) เพราะ
ปจจัจจัยดด้าานรราาคคาาสสินคค้าาทที่เเพพิ่มขขึ้นแแลละะออัตรราาดอกเเบบี้ยทที่เเพพิ่มขขึ้น
ในที่สุด รายได้ประชาชาติดุลยภาพใหม่ เพิ่มขึ้นเป็นที่ Y2 เท่านั้น ไม่ขยายตัวไปถึงระดับ Y1
ตลาดเงิน (2)
เมืื่อรายไได้้ประชาชาติิเพิิ่มขึึ้น (จาก Y0 เปป็็น Y2 ) ความต้้องการหรืืออุปสงค์์เงิินเพิิ่มขึึ้น (Md ป็d
0 เป็น Md
1) และ
อัตราดอกเบี้ยดุลยภาพเป็น r1
แบบจำลอง AD-AS
ในท้ายที่สุดแล้ว เมื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น ทำให้อุปสงค์มวลรวม (AD) เพิ่มขึ้น (AD0 เป็น AD1) ปริมาณการ
ผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น จาก Y0 เป็น Y2 และระดับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจาก P0 เป็น P1 ณ ดุลยภาพใหม่ที่ E2
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
51
รราาคคาา (P) หากอปสงค์มวลรวมมีการผลิต
SRAS0
อุคลดลงจะมลสินค้าและบริการลดน้อยลง เพื่อตอบสนองกับ
ความต้องการของระบบเศรษฐกิจ ทำให้รายได้
็
P
E0
ราคาลด
สะท้อนได้
ว่าอาจเกิด
ประชาชาติลดลงจาก Y0 เป็น Y1
อย่างไรก็ตาม การผลิตสินค้าและบริการลดลง
นี้ทำให้มีต้นทุนการผลิตลดลง ผู้ประกอบการ
P0
P1
E1
AD0
เงินฝืด
AD1
จะตัง้ราคาสินค้าและบริการลดลง
ทำให้ระดับราคาสินค้าและบริการลดจาก P0
เป็น P1
Y1 Y0 Y 0
1
• รายได้ประชาชาติที่ลดลงสะท้อนได้ว่า
เศรษฐกิจหดตัวและการจ้างงานลดลง
• ส่ราคาลดลงท้อนว่าเกิดปญัหาเงิน
รายได้ประชาติลดลงสะท้อนได้ว่า
เศรษฐกิจหดตัวและการจ้างงานลดลง
สวนสะทวาอาจเกญเงฝืด
กตจา7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
Y=DAE
DAE (X & I )
Y ตลาดผลผลิต
DAE0 X0 I0)
DAE2 (X1 & I1)
DAE1 (X1 & I0)
E
E0
E2
E1
Y Y
1 Y2 Y0
P SRAS r
ตลาดเงิน
Ms Ms
P0 P1
E0
P0 E
E
E2 P1 r1
AD1
AD0
r0
Md
0 (Y0)
E0
E2
Md
1 (Y2)
52 Y1 Y2 Y0
Y Quantity of Money
14. 7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
53
ตลาดผลผลิิต (1)
เมื่อการส่งออกลดลง โดยที่สิ่งอื่นๆ คงที่ ความต้องการใช้จ่ายมวลรวมลดลง (DAE0 เป็น DAE1)
ณ ดุลยภาพเดิม E0 ภาคการผลิตพบว่า ปริมาณการผลิตเดิม (Y0) มากกว่าความต้องการใช้จ่ายมวลรวม
ใหม่ (DAE1) สินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น ทำให้ภาคการผลิตลดปริมาณการผลิตล งและรายได้ประชาชาติปรับตัว
ลดลง (จาก Y0 เป็น Y1 ผ่านตัวคูณการส่งออก) อย่างไรก็ตาม เมื่อภาคการผลิตลดปริมาณการผลิตลงทำให้
ต้้นทุนการผลิิตลดลงด้้วย ราคาสิินค้้าและบริิการลดลง (จาก P0 เปป็็น P1 ตามเส้้น SRAS)
ตลาดเงิน (1)
เมื่อราคาสินค้าและบริการค่อยๆ ปรับตัวลดน้อยลง ทำให้ปริมาณเงินที่แท้จริงเพิ่มขึ้น (MS/P0 เป็น MS/P1)
ณ อัตราดอกเบี้ยดุลยภาพเดิม (r0) มีความต้องการถือเงินน้อยกว่าปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ ประชาชน
นำปริมาณเงิน ที่เกินกว่าความต้องการถือเงินไปซื้อพันธบัตร ทำให้ราคาพันธบัตรค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น
เเมมื่อรราาคคาาพพันธบบัตรปรรับตตัวเเพพิ่มขขึ้น ออัตรราาดอกเเบบี้ยจจะะคค่อยๆๆ ปรรับตตัวลดนน้อยลง (เเนนื่องจจาากรราาคคาาพพันธบบัตรกกับ
อัตราดอกเบี้ยมีความสัมพันธ์แบบผกผันกัน) โดยมีอัตราดอกเบี้ย ณ ดุลยภาพใหม่ลดลงเป็น r1
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
54
ตลาดผลผลิต (2)
เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินค่อยๆ ปรับตัวลดลง การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น
เเนนื่องจจาากกกาารใใชช้จจ่าายเเพพื่อกกาารลงททุน ( I ) มมีคววาามสสัมพพันธธ์ผกผผันกกับออัตรราาดอกเเบบี้ย ททำาใใหห้คววาามตต้องกกาารใใชช้
จ่ายมวลรวมเพิ่มขึ้นจาก DAE1 เป็น DAE2 (การเพิ่ม Y1 เป็น Y2 นั้น เป็นผลมาจากตัวคูณของการลงทุน)
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง การส่งงออกที่ลดลง ทำให้ DAE ลดลงเพียง DAE2 เท่านั้น (ไม่ใช่ DAE1 ) เพราะ
ปจัจััยด้้านราคาสิินค้้าทีี่ลดลงและอััตราดอกเบีี้ยทีี่ลดลง
ในที่สุด รายได้ประชาชาติดุลยภาพใหม่ ลดลงเป็นที่ Y2 เท่านั้น (ไม่ลดลงไปถึงระดับ Y1)
ตลาดเงิน (2)
เมื่อรายได้ประชาชาติเริ่มลดลง (จาก Y0 เป็น Y2) ความต้องการถือเงินหรืออุปสงค์ของเงินลดลง (Md
0
(Y0) เป็น Md
1(Y2))
แบบจำลอง AD-AS
ในท้ายที่สุดแล้ว เมื่อการส่งออกลดลง ทำให้อุปสงค์มวลรวม (AD) ลดลง (AD0 เป็น AD1) ปริมาณการ
ผลิิตสิินค้้าลดลง จาก Y0 เปป็็น Y2 และระดัับราคาสิินค้้าลดลงจาก P0 เปป็็น P1 ณ ดุลยภาพใใหม่่ทีี่ E2
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
55
รราาคคาา (P)
SRAS0
ราคา SRAS
หากต้นทุนการผลิตลดลง ทำให้อุปทาน
มวลรวมระยะสัน้เพิ่มมากขึ้น (SRAS0 เป็น
SRAS ) ราคาสินค้าปรับตัวลดลง จาก P
P
E0
SRAS1
ลดลง
สะท้อนไดิ
้
SRAS1) สคารตP0
เป็น P1
เมื่อราคาสินค้าปรับตัวลดลง อุปสงค์สินค้า
P0่ึ้ื่์
P1 E1
AD
ว่าอาจเกิด
เงินฝืด
ทยอยเพิมขึน เมืออุปสงค์สินค้าทยอย
เพิ่มขึ้น ภาคการผลิตผลิตสินค้าและบริการ
เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองกับความ
Y0 Y1 (Y) 0
ต้องการของระบบเศรษฐกิจ ทำให้รายได้
ประชาชาติเพิ่มขึ้น จาก Y0 เป็น Y1
• รายไ้ได้ประชาชาติทีเพิมขึนสะปิีิ่่ึ้้ท้อนได้ไ้่
ว่า
รายได้ประชาติเพิ่มขึ้นสะท้อนได้ว่า
เศรษฐกิจขยายตัวและการจ้างงานเพิ่มขึ้น
มมีการเตเติบโตทางเศรษฐกกิจและการจาจ้างงานเพเพิ่ม
• ส่วนราคาลดลงสะท้อนว่าอาจเกิดปัญหา
เงินฝืด
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
Y=DAE
Y ตลาดผลผลิต
DAE1 (I1)
DAE0 (I0)
E
E1
E0
Y Y
0 Y1
P r
SRAS1
ตลาดเงิน
SRAS0 Ms
P0
Ms
P1
E0
P0 E
E
AD
E1 P1
r0
r1 E1
Md
1 (Y1) Md
0 (Y0)
E0
56 Y0 Y1
Y Quantity of Money
15. 7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
57
เมืื่อต้้นทุนการผลิิตลดลง ราคาสิินค้้าและบริิการใในระบบเศรษฐกิิจปรัับตััวลดลง
ตลาดเงิน (1)
เมื่อราคาสินค้าและบริการปรับตัวลดลง ( move along AD) ทำให้ปริมาณเงินที่แท้จริงลดลง ( MS
0 เป็น MS
g ) 1)
ณ อัตราดอกเบี้ยดุลยภาพเดิม ( r0) มีความต้องการถือเงินน้อยกว่าปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ
นำปริมาณเงินที่เกินกว่า ความต้องการถือเงินไปซื้อพันธบัตร ทำให้ราคาพันธบัตรค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น
เมืื่อราคาพันธบัตรปรับตัวเพิิ่มขึึ้น อัตราดอกเบีี้ยจะค่่อยๆ ปรับตัวลดน้้อยลง (เนืื่องจากราคาพันธบัตรกับอัตรา
ดอกเบี้ยมีความสัมพันธ์แบบผกผันกัน)
ตลาดผลผลิต
เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินค่อยๆ ปรับตัวลดลง (Interest Effect) การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนจะค่อยๆ
ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนมีความสัมพันธ์ผกผันกับอัตราดอกเบี้ย ทำให้ความต้องการ
ใใชช้จจ่าายมวลรวมเเพพิ่มขขึ้นเเปป็น DAE1 (นอกจจาากนนี้ รราาคคาาสสินคค้าาทที่ลดลงยยังสส่งผลตต่อกกาารบรริโโภภคจจาากผลกรระะทบดด้าาน
Real Wealth Effect และการส่งออกสุทธิจากผลกระทบด้าน Open Economy Effect)
ณ ระดับการผลิตเดิม Y0 ความต้องการใช้จ่ายมวลรวมมากกว่าปริมาณการผลิต ภาคการผลิตขยายปริมาณ
การผลิตขึ้น จาก Y0 เป็น Y1 (ผ่านตัวทวีคูณการลงทุน)
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
58
เมื่อต้้นทุนการผลิตลดลง ราคาสินค้้าและบริการใในระบบเศรษฐกิจปรับตัวลดลง (ต่อ)
ตลาดเงิน (2)
อย่างไรก็ตาม รายได้ประชาชาติที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการหรืออุปสงค์เงินเพิ่มขึ้น (Md
0 (Y0) เป็น
Md
1(Y1))
ใในท้้ายทีี่สุดแล้้ว อััตราดอกเบีี้ยใใหม่่ลดลงเปป็็น r1
แบบจำลอง AD-AS
ใในท้ายที่สุดแล้ว เมื่อต้นทุนการผลิตลดลง ทำใให้อุปทานมวลรวมระยะสัน้้ (SRAS) เพิ่มข้ึ้น (SRAS0 เป็น
SRAS1) ปริมาณการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นจาก Y0 เป็น Y1 และระดับราคาสินค้าลดลงจาก P0 เป็น P1 ณ
ดุลยภาพใหม่ที่ E1
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
59
รราาคคาา (P) หากต้นทผลิเพิ่ขึ้น ทำให้อปทานSRAS1
ราคา SRAS
ตทุนการลตเพมขทาใหอุมวล
รวมระยะสัน้ลดน้อยลง (SRAS0 เป็น SRAS1)
ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก P0 เป็น P1
P
E1
SRAS0
เพิ่มขึ้น
สะท้อนไดิ
้
เมื่อราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น อุปสงค์สินค้า
ทยอยลดลงเมื่ออุปสงค์สินค้าทยอยลดลง ภาค
P1 การผลิลิสิค้าริน้ง เพื่อ
P0 E0
AD
ว่าอาจเกิด
เงินเฟ้อ
ลตผลตสนคาและบรการลดนอยลเพตอบสนองกับความต้องการของระบบเศรษฐกิจ
ทำให้รายได้ประชาชาติลดลง จาก Y0 เป็น Y1
่
Y1 Y0 (Y) 0
• รายได้ประชาชาติที่ลดลงสะท้อนได้ว่า
เศรษฐกิจหดตัวและการจ้างงานลดลง
• ส่เพิ่ขึ้ท้ว่าอาจเกิดปญัหาเงิน
รายได้ประชาติลดลงสะท้อนได้ว่า
เศรษฐกิจหดตัวและการจ้างงานลดลง
สวนราคาเพมขนสะทอนวาเกญเงเฟ้อ
• ภาวะเศรษฐกิจที่เศรษฐกิจหดตัวและมีเงินเฟ้อ
กตจาเรีียกว่า Stagflation
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
Y=DAE
Y ตลาดผลผลิต
DAE0 (I0)
DAE1 (I1)
E
E0
E1
Y Y
1 Y0
P r
SRAS0
ตลาดเงิน
SRAS1 Ms Ms
P1 P0
E1
E
E0 P0 r0
P1
AD
r1
Md
0 (Y0)
Md
(Y )
E0
E1
60 Y1 Y0
Y
1 Y1)
Quantity of Money
16. 7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
61
เเมมื่อตต้นททุนกกาารผลลิตเเพพิ่มขขึ้น รราาคคาาสสินคค้าาแแลละะบรริกกาารใในนรระะบบเเศศรษฐกกิจปรรับตตัวเเพพิ่มขขึ้น
ตลาดเงิน (1)
เมื่อราคาสินค้าและบริการค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น (move along AD) ทำให้ปริมาณเงินที่แท้จริงลดลง
(MS/P0 เป็น MS/P1)
ณ อัตราดอกเบี้ยดุลยภาพเดิม (r0) มีความต้องการถือเงินมากกว่าปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ
ปรระะชชาาชนขขาายพพันธบบัตรเเพพื่อถถือเเปป็นเเงงิน ททำาใใหห้รราาคคาาพพันธบบัตรคค่อยๆๆ ปรรับตตัวลดลง
เมื่อราคาพันธบัตรปรับตัวลดลง อัตราดอกเบี้ยจะค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้น (เนื่องจากราคาพันธบัตรกับอัตรา
ดอกเบี้ยมีความสัมพันธ์แบบผกผันกัน)
ตลาดผลผลิิต
เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น (Interest Effect) การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนจะค่อยๆ
ปรับตัวลดลง เนื่องจากการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนมีความสัมพันธ์ผกผันกับอัตราดอกเบี้ย ทำให้ความ
ต้องการใช้จ่ายมวลรวมลดลงเป็น DAE1 (นอกจากนี้ ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลต่อการบริโภคจาก
ผลกระทบด้าน Real Wealth Effect และการส่งออกสุทธิจากผลกระทบด้าน Open Economy Effect)
ใในท้้ายทีี่สุดแล้้ว รายไได้้ประชาชาติิหรืือปริิมาณการผลิิตสิินค้้าใในระบบเศรษฐกิิจลดลงจาก Y0 เปป็็น Y1 (ซึึ่ง
เป็นผลมาจากตัวคูณการลงทุน)
7.3.1 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะสัน้
62
เมื่อต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น (ต่อ)
ตลาดเงิิน (2)
เมื่อรายได้ประชาชาติค่อยๆ ลดลง ความต้องการถือเงินหรืออุปสงค์เงินลดลง (Md
0 (Y0) เป็น Md
1 (Y1))
ในท้ายที่สุุดแล้ว อัตราดอกเบี้ย ดุุลยภาพใหม่อยูู่ที่ r1
แบบจำลอง AD-AS
ใในนทท้าายทที่สสุดแแลล้ว เเมมื่อตต้นททุนกกาารผลลิตเเพพิ่มขขึ้น ททำาใใหห้ออุปททาานมวลรวมรระยยะสสันน้ (SRAS) ลดลง (SRAS0 เเปป็น
SRAS1) ปริมาณการผลิตสินค้าลดลงจาก Y0 เป็น Y1 และระดับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจาก P0 เป็น P1 ณ ดุลย
ภาพใหม่ที่ E1
ตัวอย่างการปรับตัวทางลบของ Aggregate Supply
Price
1. An adverse shift in the short-63
run aggregate-supply curve . . .
Level
SRAS
SRAS1
SRAS2
A
B
P2
3. . . . and
the P
Aggregate Demand
0
Q tit f
price
level to rise.
Y Y
Quantity of
Output
Y2 2. . . . causes output to fall . . .
ตัวอย่างการปรับตัวทางลบของ Aggregate Supply
Price
1 A d hiftithl
64
Level
1. An adverse shift in the long-run
aggregate supply
LRAS0
LRAS1
A
B
P2
3. . . . and
the P
Aggregate demand
0
Q tit f
price
level to rise.
Y Y
Quantity of
Output
Y2 2. . . . causes output to fall . . .
17. ผลการปรับตัวของเส้น AS
Stagflation
65
การลดลงของเส้น AS (SRAS หรือ LRAS) ก่อให้เกิดปรากฎการณ์ที่เรียกว่า
stagflation— คือเป็นสภาวะการณ์ที่เศรษฐกิจมีปัญหาการตกต่ำของผลผลิต
พร้อมกับระดับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
ทำให้ผู้มีอำนาจกำหนดนโยบายไม่อาจแก้ไขปัญหาทั้งสองอย่างได้พร้อมๆ กัน
อาจต้้องเลืือกนโโยบายเพืื่อแก้้ไไขปปััญหาใใดปปััญหาหนึึ่งก่่อน ซึึ่งเปป็็นความ
ละเอียดอ่อนในการทำหน้าที่ของการกำหนดนโยบาย
แแนนวททาางแแกก้ไไขขปปัญหหาา Stagflation ออาาจททำาไไดด้หลลาายววิธธีตตาามคววาามเเชชื่อ
ของแต่ละสำนักเศรษฐกิจ:
ไไมม่ททำาออะะไไรรเเลลย ปลล่อยใใหห้รระะบบเเศศรษฐกกิจปรรับโโดดยตตัวเเออง (Classic)
การใช้นโยบายเข้าแทรกแซง (Keynesian) ผ่าน นโยบายการเงิน หรือ นโยบาย
การคลัง หรือ ทั้งสองนโยบาย
7.3.2 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว
สมมติให้อุปสงค์มวลรวมเพิ่มขึ้น จาก AD0 เป็น AD1
ดุลยภาพในระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากจุด E0 เป็น E1 SRAS 0
P SRAS1
SRAS0
P2
E2
P E1 1
ุ ฐุ 0 1
ทำให้รายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้นจาก YF เป็น Y1 และทำให้ระดับ
ราคาสินค้าและบริการเพิ่มจาก P0 เป็น P1 เมื่อระดับราคา
เพิ่ขึ้น เกิว่าที่ไว้ทำให้ได้ที่แท้จริง
AD0
E0 P0
AD1
เพมขเกนกวาทแรงงานคาดหมายไว ทาใหรายไดทแทรของแรงงาน (Wage/Price) ลดลง แรงงานจึงเรียกร้องให้
ภาคการผลิตเพิ่มค่าจ้างขึ้น
YF Y1
0
Y
P
ในระยะยาวแล้ว เมื่อภาคการผลิตเพิ่มค่าจ้างตามข้อเรียกร้อง
ของแรงงาน ต้นทุนการผลิตจึงเพิ่มมากขึ้น อุปทานมวลรวม
ระยะสัน้ลดลงจาก SRAS เป็น SRAS ดลยภาพในระบบ
P2
E2
LRAS สนSRAS0 เปSRAS1 ดุเศรษฐกิจเปลี่ยนจากจุด E1 เป็น E2 ณ ดุลยภาพใหม่นี้ (E2)
ราคาเพิ่มขึ้นจาก P1 เป็น P2 การผลิตสินค้าและบริการในระบบ
E่0 P0
เศรษฐกิจกลับมาผลิต ณ ระดับการจ้างงานอย่างเต็มที่ (YF)
ในระยะยาวแล้ว แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้น แต่การผลิตก็คงอยู่ที่
ระดัจ้าย่างเต็มที่ เส้อ66
YF
Y
ดบการจางงานอยาเตท เสนอุปทานมวลรวมระยะยาว
จึงเป็นเส้นตรงตัง้ฉากกับแกนนอน ณ ระดับการจ้างงานเต็มที่
7.3.2 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว
67
รราาคคาา (P) การ ปลี่ปลงโครงสร้างปร ชากร ทำ
SRAS1 ราคา SRAS
เปลยน แปราระทา
ให้แรงงานในระบบเศรษฐกิจลดลง
ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้อุปทานมวล
P E1
SRAS0
เพิ่มขึ้น
สะท้อนไดิ
ว่าอาจุ
เกิด
เงินเฟ้อ ดุลยภาพในระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากจุด
ุ้
รวม
ระยะสัน้ลดน้อยลง (SRAS0 เป็น SRAS1)
P1
P0
E0
AD
E0 เป็น E1
0 Y2 Y1 (Y)
ณ ดุลยภาพใหม่ (E1) พบว่า ราคาสินค้า
และบริการในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น (P0
เป็น P )
รายได้ประชาติลดลง
สะท้อนได้ว่าเศรษฐกิจหดตัว
เปP1)
ปริมาณการผลิตสินค้าและบริการในระบบ
ทไดวากตเศรษฐกิจ
ลดลงจาก (Y1 เป็น Y2)
7.3.2 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว
68
รราาคคาา (P) ปี่ป โ้ป ํ
ราคา
การเปลียนแปลงโครงสรางระชากร ทา
ให้แรงงานในระบบเศรษฐกิจลดลง
ในลักษณะค่อนข้างถาวร ทำให้อุปทานมวล
LRAS1 LRAS0
P E1
เพิ่มขึ้น
สะท้อนไดิ
ุ
้
รวมระยะยาวลดลง (LRAS0 เป็น LRAS1)
ดุลยภาพในระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากจุด
P1 E เป็น E
P0
E0
AD
ว่าอาจเกิด
เงินเฟ้อ
E0 เปE1
ณ ดุลยภาพใหม่ (E1) พบว่า ราคาสินค้า
ิใิิ่ึ้
YF* YF (Y) 0
และบริการในระบบเศรษฐกิจเพิมขึน (P0
เป็น P1)
รายได้ประชาติลดลง (full employment) สะท้อน
ได้ว่ากิตัว
ปริมาณการผลิตสินค้าและบริการในระบบ
เศรษฐกิจลดลงจาก (YF เป็น YF*) ระดับ
ไดวาเศรษฐกจหดตกกาารผลลิตทที่กก่อใใหห้เเกกิดกกาารจจ้าางงงาานอยย่าางเเตต็มทที่
ก็ลดลงด้วยเช่นกัน
18. 7.3.2 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว
69
รราาคคาา (P)ั้โ โีีีึ่้
SRAS0 ราคา SRAS
การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีทีดีขึน
ต้นทุนการผลิตลดลง ทำให้อุปทานมวล
รวม
P E0
SRAS1
ลดลง
สะท้อนไดิ
้
ระยะสัน้เพิ่มมากขึ้น (SRAS0 เป็น
SRAS1)
P0 ใิปี่
P1
E1
AD
ว่าอาจเกิด
เงินฝืด
ดุลยภาพในระบบเศรษฐกิจเปลียนจากจุด
E0 เป็น E1
ณ ดุลยภาพใหม่ (E1) พบว่า ราคาสินค้า
0 Y1 Y2 (Y)
ุ 1
และบริการในระบบเศรษฐกิจลดลง (P0
เป็น P1)
รายได้ประชาติเพิ่มขึ้น สะท้อนได้ว่า
เศรษฐกิจขยายตัว
ปริมาณการผลิตสินค้าและบริการใน
กตระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจาก (Y1 เป็น Y2)
7.3.2 ดุลยภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว
70
รราาคคาา (P)ั้โ โีีีึ่้
ราคา
การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีทีดีขึน
ต้นทุนการผลิตลดลง ในลักษณะค่อนข้าง
ถาวร ทำให้อปทานมวลรวมระยะยาว
LRAS1 LRAS1
P E0
ลดลง
สะท้อนไดิ
ุ
้
เพิ่มขึ้น (LRAS0 เป็น LRAS1)
ดุลยภาพในระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากจุด
P0 ป็
P1
E1
AD
ว่าอาจเกิด
เงินฝืด
E0 เป็น E1
ณ ดุลยภาพใหม่ (E1) พบว่า ราคาสินค้า
และบริการในระบบเศรษฐ กิจลดลง (P0
0 YF YF* (Y)
0
เป็น P1)
ปริมาณการผลิสินค้าและบริการในระบบ
รายได้ประชาติเพิ่มขึ้น (full employment) สะท้อน
ได้ว่ากิจขตัว
รลตสคารเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจาก (YF เป็น YF*) ระดับ
ไดวาเศรษฐกยายตการผลิตที่ก่อให้เกิด การจ้างงานอย่าง
เต็มที่ก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ผลการปรับตัวเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
1. When short-run aggregate
supply falls . . .
71
Price
Level
SRAS
SRAS1
SRAS2
P2
A
2. . . . policymakers can
accommodate the shift
b di t
B
C
P3
P
by expanding aggregate
3. . . . which demand . . .
causes the
price level
to rise AD2
further . . .
AD1
0
Q tit Quantity of
f
Output
ผลการปรับตัวเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
1. When short-run aggregate
supply falls . . .
72
Price
Level
LRAS
SRAS1
SRAS2
P2
A
2. . . . policymakers can
accommodate the shift
b di t
P3 C
3. . . . which P
causes the
price level
by expanding aggregate
demand . . .
AD
0
N t l t Q tit f
to rise
further . . .
4. . . . but keeps output
at its natural rate.
AD2
Quantity of
Output
Natural rate
of output
19. Keynesian Short-run AS
73
Y=DAE
Y ตลาดผลผลิต
E DAE (X )
DAE1 X1)
DAE0 (X0)
E
E1
E0
Y Y
0 Y1
P เนื่องจาก Keynes เห็นว่าค่าจ้างแรงงานไม่
สามารถปรับตัวลดลงได้
ประกอบกับในยุคของ Keynes มีการว่างงาน
จำนมาก
SRAS
AD
AD1
E0
P0
จานวดังนั้นเส้นอุปทานมวลรวมในทัศนะแบบเคนส์จึง
มีลักษณะ เป็นเส้นตรงขนานกับแกนนอน
Y0 Y1
AD0
Y
LRAS
SRAS
E3 P3
E2
P2
AD
AD1 AD2
AD3
E0 E1
P1
P0
AD0
Y0 Y1 Y2 Y3 YF
ในช่วงที่มีการว่างงานจำนวนมาก
้ ปั้
ในช่วงที่มีเข้าใกล้การจ้างงานอย่างเต็มที่
เสนอุปทานมวลรวมระยะสน เส้อสัน้
จะมีลักษณะที่ค่อนข้างลาด
เศรษฐกิจปรับตัวทางด้านการผลิต
เสนอุปทานมวลรวมระยะสน
จะมีลักษณะที่ค่อนข้างชัน
เศรษฐกิจปรับตัวทางด้านราคามากกว่า
74
มากกว่าทางด้านราคา ทางด้านการผลิต
ผภัฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทย ณ ราคาปี 2002
9,000,000
8,000,000
ลภณฑป แนวโน้มการขยายตัวเศรษฐกิจไทย
(Trend)
ล้านบาท
รุ่งเรือง
(Peak)
วัจัธกิจ
7,000,000
6,000,000
รุ่งเรือง
(Peak)
วฏจกรธุรก(Business Cycle)
5,000,000
4,000,000
Gross domestic product,
่
ฟื้นตัว
(Recovery)
หตั3,000,000
2,000,000
(GDP) ตกตํ่า
(Trough)
ดตว
(Depression)
,000,000
1,000,000
0
เศรษฐกิจไทยปี
2010 มีขนาด 2.4
1990
1992
1994
1996
1998
2000
2002
2004
2006
2008
2010p
เท่าของปี 1990
75
ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (ปี 2007 เป็นปีฐาน)
140
120
ู ฐ
112 1
100
112.1
80
60
53.7
ราคาสินค้าและบริการ
ที่ผ้บริโภคซื้ลี่ย
40
ทผูรซอโดยเฉลในปี 2011 แพงกว่าปี
1990 ประมาณ 2 เท่า
20
0
1990 1992 1994 1996 1998 2000 2002 2004 2006 2008 2010 2012
Consumer Price Index (CPI)
76
20. 7.4.1 การประยุกต์ใช้แบบจำลอง AD-AS
เพืื่อวิิเคราะห์์ผลกระทบของนโโยบายการคลััง 77
P LRAS
SRAS
เมื่อเกิด Recessionary Gap (ปญัหาการว่างงาน)
เพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจแล้ว
รัใช้ลัยายตัว
E
รฐบาลจะใชนโยบายการคลงแบบขต• T↓→ Yd ↑→C↑
• R ↑→ Yd ↑→C↑ DAE AD↑
E0
E1
P1
AD1 P0
• T↓→ I↑
• G↑
↑
AD0
Y0 YF
Y เมื่ออุปสงค์มวลรวมเพิ่มขึ้น (AD0 เป็น AD1)
• ราคาเพิ่มขึ้น (P0 เป็น P1)
Recessionary Gap • ปริมาณการผลิตเพิ่มขึึ้น (Y0 เป็น YF)
7.4.1 การประยุกต์ใช้แบบจำลอง AD-AS
เพืื่อวิิเคราะห์์ผลกระทบของนโโยบายการคลััง 78
ั่้
P LRAS
เมือเกิด Inflationary Gap (ปญัหาเงินเฟ้อ)
เพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจแล้ว
รัใช้คลัตัว
P E0 0
SRAS
รฐบาลจะใชนโยบายการลงแบบหดต• T↑→ Yd ↓→C↓
E1 AD ↓ ↑ ↓ 0
AD1
P1
• R ↓→ Yd ↑→C↓
• T↑→ I↓
• G↓
DAEAD↓
YF Y0
Y
↓
เมื่ออุปสงค์มวลรวมลดลง (AD0 เป็น AD1)
• (P ป็ P )
Inflationary Gap
ราคาลดลง P0 เปน P1)
• ปริมาณการผลิตลดลง (Y0 เป็น YF)
7.4.1 การประยุุกต์ใช้แบบจำลอง AD-AS เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายการคลัง
79
•• กกาารเเกก็บภภาาษษีมมาากไไปป • การออมลดลง
• การโอนเงินมากไป
(จัดสวัสดิการ)
ัี่ไ
• การทำงานที่ลดลง
(รอรับแต่สวัสดิการ)
อุปทานมวลรวม
ของเศรษฐกิจ
• การกำกับดูแลทีมากไป • การลงทุนลดลง ใในนรระะยยะะยยาาว
นโยบายการคลังที่เน้นการจัดการด้านอุปทาน
• ลดภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
• ลดการกํำกัับดูแลจากรััฐ
• เพิ่มงบประมาณการวิจัยและพัฒนา
ระดับรายได้ประชาชาติ
การออมและการสะสมทุนเพิ่มขึ้น
กระตุ้นการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ
ในระยะยาว
7.4.1 การประยุกต์ใช้แบบจำลอง AD-AS
เพืื่อวิิเคราะห์์ผลกระทบของนโโยบายการคลััง 80
P LRAS0
SRAS0
การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา
• ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง
LRAS1
ุ
อุปทานมวลรวมระยะสัน้เพิ่ม (SRAS0 เป็น SRAS1)
• ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตเพิ่ม
อมวลวระยาวเพิ่ม (LRAS เป็น LRAS )
SRAS1
E0
E1
P1
P0 AD1
อุปทานรมยะเพLRAS0 เปLRAS1)
การลดภาษีและเพิ่มการอุดหนุนให้แก่ภาคธุรกิจแล้ว
AD0
YF YF *
0
Y
ุุุ
• ความต้องการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนเพิ่ม
อุปสงค์มวลรวมเพิ่ม (AD0 เป็น AD1)
F F
ทำให้รายได้ประชาชาติเพิ่ม (YF เป็น YF*)
Supply-side Management
21. 7.4.1 การประยุกต์ใช้แบบจำลอง AD-AS
เพืื่อวิิเคราะห์์ผลกระทบของนโโยบายการคลััง 81
P
SRAS0
การลดภาษีและลดการกำกับดูแลลง
1. ผลทางด้านอุปทานมวลรวมระยะสัน้
ททำาใใหห้ตต้นททุนกกาารผลลิตลดลง
อุปทานมวลรวมระยะสัน้เพิ่ม (SRAS0 เป็น SRAS1)
2. ผลทางด้านอุปสงค์มวลรวม
ใื่่
SRAS1
E0
E1
P1
AD1 P0
ความต้องการใช้จ่ายเพือการลงทุนเพิม
อุปสงค์มวลรวมเพิ่ม (AD0 เป็น AD1)
AD0
Y0 Y1
Y
หากผลทางด้านของ AD > ผลทางด้าน SRAS
• รายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้น (Y0 เป็น Y1)
0 •• ราคาเพิิ่มขึึ้น (P0 เปป็น P1)
หากผลทางด้านของ AD < ผลทางด้าน SRAS
Supply side Management
• รายได้ประชาชาติ…?…. • ราคา…?… Supply-7.4.1 การประยุกต์ใช้แบบจำลอง AD-AS
เพืื่อวิิเคราะห์์ผลกระทบของนโโยบายการคลััง 82
การลดภาษีและลดการกำกับดแลลง
P
SRAS0
ษกากดู1. ผลทางด้านอุปทานมวลรวมระยะสัน้
ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง
อุปทานมวลรวมระยะสััน้เพิิ่ม (SRAS0 เปป็็น
SRAS1)
2. ผลทางด้านอุปสงค์มวลรวม
SRAS1
E0 E1 AD1 P0
ุ
ความต้องการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนเพิ่ม
อุปสงค์มวลรวมเพิ่ม (AD0 เป็น AD1)
AD0
Y0 Y1
Y
หากผลทางด้านของ AD = ผลทางด้าน SRAS
• รายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้น (Y0 เป็น Y1)
0 • ราคาไไม่่เปปลีี่ยนแปปลง (P0)
หากผลทางด้านของ AD > ผลทางด้าน SRAS
• รายได้ประชาชาติ….?....ราคา…?.... Supply side Management
หากผลทางด้านของ AD < ผลทางด้าน SRAS
• รายได้ประชาชาติ….?....ราคา…?....
Supply-7.4.2 การประยุกต์ใช้แบบจำลอง AD-AS
เพืื่อวิิเคราะห์์ผลกระทบของนโโยบายการเงิิน 83 P LRAS
ืิ่ R i G (ปั่)
SRAS
เมอเกด Recessionary Gap ปญหาการวางงานเพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจแล้ว
ธนาคารกลางจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
E0
E1
AD
P1
ทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง
เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง
• ช่แรก C↑ และ I ↑
AD0
AD1
Y Y
P0
Y
ชองทาง• ช่องทางที่สอง
• เงินทุนไหลออกไปต่างประเทศ
Y0 YF
Recessionary Gap
• เงินบาทบาท (฿/$) อ่อนค่าลง
• (X-M) ↑
ททำาใใหห้ออุปสงคค์มวลรวมเเพพิ่มขขึ้น
เมื่ออุปสงค์มวลรวมเพิ่มขึ้น (AD0 เป็น AD1)
่้
Recessionary
Gap • ราคาเพิมขึ้น (P0 เป็น P1)
• ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น (Y0 เป็น YF)
p
7.4.2 การประยุกต์ใช้แบบจำลอง AD-AS
เพืื่อวิิเคราะห์์ผลกระทบของนโโยบายการเงิิน 84
ืิ่ I fl ti G ปัิฟ้)
P LRAS
เมอเกด Inflationary Gap (ปญหาเงนเฟอเพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจแล้ว
SRAS
P E0 ธนาคารกลางจะใช้นโยบายการเงินแบบ
P0
P1 ชองทางเข้มงวด ทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
• ช่แรก C↓ และ I ↓
0
E1 AD0
AD
• ช่องทางที่สอง
• เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามา
้
AD1
Y Y
Y
• เงินบาทบาท (฿/$) แข็งค่าขึ้น
• (X-M) ↓
ทำให้อสงค์มวลรวมลดลง
YF Y0
Inflationary Gap
ทาใหอุปคเมื่ออุปสงค์มวลรวมลดลง (AD0 เป็น AD1)
Inflationary
Gap • ราคาลดลง (P0 เป็น P1)
• ปริมาณการผลิตลดลง (Y0 เป็น YF)
p
22. 7.4.2 การประยุกต์ใช้แบบจำลอง AD-AS
เพืื่อวิิเคราะห์์ผลกระทบของนโโยบายการเงิิน 85
่
ธนาคารกลางประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
Interest Rate
• อัตราดอกเบี้ย
ในตลาดเงินลดลง
Asset Price
• อัตราดอกเบี้ย
ในตลาดเงินลดลง
Exchange Rate
• ส่วนต่างดอกเบี้ย
ใน ปท. กับ ตปท.
สินเชื่อ
• อัตราดอกเบี้ย
ในตลาดเงินลด
Expectation
• คนคาดการณ์ว่า
เศรษฐกิจดีขึ้น
• การลงทุนและ
การบริโภคเพิ่มขึ้น
• ประชาชนออม
เงินในรูปแบบอื่น
แทนการฝากเงิน
ลดลง
• เงินทุนไหลออก
• เงินบาทอ่อนค่า
• ภาระหนี้สินธุรกิจ
ลดลง
• ฐานะทางการเงิน
(แย่ยง)
• การใช้จ่ายเพื่อ
การบริโภคและการ
• ราคาสินทรัพย์
เพิ่ม
• ริเพิ่ม
• การส่งออกสุทธิ
เพิ่ม
ฐ
ธุรกิจดีขึ้น
• ธนาคารปล่อยกู้
ขึ้น
ลงทุนเพิ่มขึ้น
(แย่ลง)
การบรโภคเพมากขอุปสงค์มวลรวมเพิ่มมากขึ้น
7.5.1 เงินเฟ้อจากอุปสงค์มวลรวม(Demand Pull
Inflation) 86
หากอปสค์มเพิ่ขึ้มีการผลิตสินค้า
ราคา (P)
อุงควลรวมเพมขนจะมลสคา
และบริการเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองกับความ
ต้องการของระบบเศรษฐกิจ ทำให้รายได้ประชาชาติ
SRAS0ิ่ึ้ป็ใั้
ราคาเพิ่ม
สะท้อนได้
เพิมขึน จาก YF เป็น Y1 (ในระยะสัน)
อย่างไรก็ตาม การผลิตสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นนี้
LRAS
P E
P1
P0
E1
E0
ทได
ว่าอาจเกิด
เงินเฟ้อ
ทำให้มีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการ
จะเรียกร้องราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ทำให้
ระดัสิค้าริเพิ่จาก P เป็น P (ใน
P2 E2
AD1 AD0
ดบราคาสนคาและบรการเพมP0 เปP1 ระยะสัน้)
รายได้ประชาชาติที่เพิ่มขึ้นสะท้อนได้ว่า มีการ
ิิโิีิ้่ึ้
YF Y1 Y 0
ไ้ปิิ่ึ้้ไ้่
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและมีการจ้างงานเพิมขึน
ส่วนราคาเพิ่มขึ้นสะท้อนว่าอาจเกิดปญัหาเงินเฟ้อ
รายได้ประชาติเพิมขึนสะท้อนได้ว่า
มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานเพิ่ม
ในระยะยาว รายได้ฯ และ ระดับราคา จะเป็น
อย่างไร
7.5.2 เงินเฟ้อจากต้นทุนเพิ่มขึ้น (Cost Push
Inflation) 87
รราาคคาา (P) หากต้นทนการผลิเพิ่มขึ้น ทำให้อปทาSRAS1
ราคา
ตทุลตเพขทาใหอุนมวลรวม
ระยะสัน้ลดน้อยลง (SRAS0 เป็น SRAS1)
ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก P0 เป็น P1
ืิ่้ปััิ่ึ้ป์ิ้
LRAS
P
E1
SRAS0
เพิ่มขึ้น
สะท้อนไดิ
้
เมือราคาสินค้าปรับตัวเพิมขึน อุปสงค์สินค้าทยอย
ลดลง
เมื่ออุปสงค์สินค้าทยอยลดลง ภาคการผลิตผลิต P1
P0 E0
AD
ว่าอาจเกิด
เงินเฟ้อ
ุ
สินค้าและบริการลดน้อยลง เพื่อตอบสนองกับ
ความต้องการของระบบเศรษฐกิจ ทำให้รายได้
ประชาชาติลดY เป็น Y
Y1 YF (Y) 0
ตลง จาก YF เปY1
รายได้ประชาชาติที่ลดลงสะท้อนได้ว่า เศรษฐกิจ
ั้่ิ่ึ้
รายได้ประชาติลดลงสะท้อนได้ว่า
เศรษฐกิจหดตัวและการจ้างงานลดลง
หดตวและการจ้างงานลดลง ส่วนราคาเพิมขึน
สะท้อนว่าอาจเกิดปญัหาเงินเฟ้อ
กตจาภาวะเศรษฐกิจที่เศรษฐกิจหดตัวและมีเงินเฟ้อ
เรียกว่า Stagflation
Demand Pull Inflation
ัํใ้้ไ้่ปัิิ ไ้
88
จากลักษณะของ AD และ AS ทำให้รู้ได้ว่าปัญหาเงินเกิดได้จากสองสาเหตุ
Demand pull inflation
Cost (supply) push inflation
เป็นการเกิดเงินเฟ้อจากการมี AD มากกว่า AS (หมายถึงเกิดการ shift ของ AD)
โดยอาจมีสาเหตุจาก
รราายไไดด้ผผู้บรริโโภภคเเพพิ่มขขึ้น
มีการลงทุนมากขึ้น
รรัฐบบาาลกรระะตตุ้นเเศศรษฐกกิจโโดดยกกาารใใชช้จจ่าายมมาากขขึ้น
มีการขยายสินเชื่อของสถาบันการเงินมากขึ้น