Recommended
Recommended
More Related Content
What's hot
What's hot (20)
การกำหนดราคาโดยอุปสงค์และอุปทาน
- 2. อุปสงค์ (demand) คือ ปริมาณความต้องการซือสินค้า/บริการ ชนิดหนึง ในตลาดแห่งหนึง ณ ระดับราคาต่างๆ อุปสงค์ทีเปนจริง (effective demand) จะต้องประกอบด้วย • ความต้องการ (wants) • อํานาจซือ (purchasing power) อุปสงค์ (DEMAND)
- 3. อุปสงค์ส่วนบุคคลและ อุปสงค์ตลาด • อุปสงค์ส่วนบุคคล (individual demand) คือ ความต้องการซือของบุคคลใดบุคคลหนึงในตลาด • อุปสงค์ตลาด (market demand) คือ ความต้องการซือของทุกคนในตลาดรวมกัน
- 4. กฎแห่งอุปสงค์ (LAW OF DEMAND) ถ้าปจจัยอืนๆคงที ปริมาณซือจะแปรผกผันกับราคา ราคา ⬆ ปริมาณซือ ⬇ ราคา ⬇ ปริมาณซือ ⬆
- 6. กฎแห่งอุปสงค์ (law of demand) การทีอุปสงค์แปรผกผันกันราคาเปนเพราะ 1. ผลทางรายได้ (income effect) 2. ผลทางการทดแทน (substitution effect) 3. กฎแห่งการลดน้อยถอยลงของอรรถประโยชน์ส่วนเพิม (law of diminishing marginal utility)
- 7. ผลทางรายได้ (INCOME EFFECT) • รายได้ทีแท้จริง คือ ปริมาณสินค้า/บริการทีผู้บริโภคสามารถซือได้ • เมือราคาเปลียนจะทําให้รายได้ทีแท้จริงเปลียน ราคา ⬆ รายได้ทีแท้จริง ⬇ ราคา ⬇ รายได้ทีแท้จริง ⬆
- 8. ผลทางการทดแทน (substitution effect) •เมือราคาสินค้าเปลียนจะทําให้ราคาเปรียบเทียบของราคาสินค้าเปลียน ex. ถ้าราคาของมังคุดสูงขึน ราคาผลไม้อีกชนิดจะดูถูกลงเมือเปรียบ เทียบกับมังคุด ผู้บริโภคก็จะหันไปซือสินค้าอืนแทนมังคุด
- 9. กฎแห่งการลดน้อยถอย ลงของอรรถประโยชน์ส่วนเพิม (law of diminishing marginal utility) •อรรถประโยชน์ (utility) คือความพอใจทีผู้บริโภคได้รับ จากการบริโภคสินค้าหรือบริการหนึงๆ •อรรถประโยชน์ส่วนเพิม คือ ความพอใจทีผู้บริโภคได้รับเพิมขึน จากการบริโภคสินค้า/บริการเพิมอีก 1 หน่วย •ในช่วงเวลาหนึงๆ หากผู้บริโภคบริโภคสินค้า/บริการ ชนิดหนึงเพิมขึนเรือยๆอย่างต่อเนือง อรรถประโยชน์ส่วนเพิมจะค่อยๆ ลดลงตามลําดับ
- 10. • ราคาสินค้าชนิดนัน • รายได้ของผู้บริโภค • ราคาสินค้าอืนทีเกียวข้อง • จํานวนผู้บริโภค • การคาดคะเนของผู้บริโภค • การกระจายรายได้ในระบบเศรษฐกิจ • รสนิยม ฤดูกาล เปนต้น ปจจัยกําหนดอุปสงค์
- 11. • กรณีของสินค้าปกติ (normal goods) - เปลียนแปลงไปตามกฎของอุปสงค์ รายได้ ⬆ อุปสงค์ ⬆ รายได้ ⬇ อุปสงค์ ⬇ ความสัมพันธ์ระหว่าง รายได้ผู้บริโภคกับอุปสงค์ • กรณีของสินค้าด้อยคุณภาพ (inferior goods) - ไม่เปลียนแปลงไปตามกฎของอุปสงค์ รายได้ ⬆ อุปสงค์ ⬇ รายได้ ⬇ อุปสงค์ ⬆
- 12. • สินค้าใช้ทดแทนกัน (substitution goods) ราคาสินค้าA ⬆ อุปสงค์สินค้าB ⬆ ราคาสินค้าA ⬇ อุปสงค์สินค้าB ⬇ กําหนดให้AและBเปนสินค้าทีใช้ทดแทนกัน ความสัมพันธ์ระหว่าง ราคาสินค้าอืนกับอุปสงค์ • สินค้าใช้ประกอบกัน (complementary goods) ราคาสินค้าC ⬆ อุปสงค์สินค้าD ⬇ ราคาสินค้าC ⬇ อุปสงค์สินค้าD ⬆ กําหนดให้CและDเปนสินค้าทีใช้ประกอบกัน
- 13. การเปลียนแปลงอุปสงค์ การเปลียนแปลงของอุปสงค์มี 2 ลักษณะ 1.การเปลียนแปลงปริมาณซือ (change in quantity demanded) สาเหตุ เนืองจากราคาสินค้านันเปลียน (ปจจัยอืนคงที) 2.การย้ายเส้นอุปสงค์(change in demand)สาเหตุ สาเหตุ เนืองจากปจจัยอืนทีไม่ใช่ราคานันเปลียน (เช่น รายได้ รสนิยม เปนต้น)
- 14. การเปลียนแปลงปริมาณซือ (CHANGE IN QUANTITY DEMANDED) ลักษณะการเปลียนแปลง : ย้ายจากจุดหนึงไปอีกจุดหนึง บนเส้นอุปสงค์เดิม moves along the curve
- 15. การเปลียนแปลงปริมาณซือ (change in quantity demanded)
- 18. อุปทาน (supply) คือ ปริมาณเสนอขายสินค้า/บริการชนิดหนึง ณ ระดับราคาต่างๆ อุปทาน (supply)
- 19. อุปทานส่วนบุคคล (individual supply) คือ ปริมาณเสนอขายของผู้ผลิต/ขายรายหนึงในตลาด อุปทานตลาด (market supply) คือ ปริมาณเสนอขายของผู้ผลิต/ขายทุกรายในตลาดรวมกัน อุปทานส่วนบุคคล และอุปทานตลาด
- 20. ถ้าปจจัยอืนๆคงที ปริมาณซือจะแปรผันตรงกับราคา ราคา ⬆ ปริมาณซือ ⬆ ราคา ⬇ ปริมาณซือ ⬇ กฏแห่งอุปทาน (law of supply)
- 22. • ราคาสินค้านัน • เทคโนโลยีในการผลิต • ราคาสินค้าอืนทีแย่งใช้ทรัพยากร • ราคาปจจัยการผลิต • จํานวนผู้ผลิต • สภาพดินฟาอากาศ เปนต้น ปจจัยกําหนดอุปทาน
- 23. การเปลียนแปลงอุปทาน การเปลียนแปลงของอุปทานมี2ลักษณะ 1.การเปลียนแปลงปริมาณขาย (change in quantity supplied) สาเหตุเนืองจากราคาสินค้านันเปลียน ปจจัยอืนคงที 2.การย้ายเส้นอุปทาน (change in supply) สาเหตุ เนืองจากปจจัยอืนทีไม่ใช่ราคาสินค้านันเปลียน เช่น ต้นทุน เทคโนโลยี เปนต้น
- 24. ลักษณะการเปลียนแปลง : ย้ายจากจุดหนึงไปอีกจุดหนึง บนเส้นอุปทานเดิม (moves along the curve) การเปลียนแปลงปริมาณขาย (change in quantity supplied)
- 25. การเปลียนแปลงปริมาณขาย (change in quantity supplied)
- 28. ภาวะดุลยภาพ (equilibrium) ภาวะดุลยภาพของตลาดสินค้าใดสินค้าหนึงคือ ภาวะทีอุปสงค์ = อุปทานของสินค้านัน หรือคือ ภาวะทีความต้องการซือ = ปริมาณทีผลิตมาเสนอขายพอดี ในภาวะดุลยภาพจึงไม่มีสินค้าเหลือขาย และ สินค้าไม่ขาดแคลน ดุลยภาพของตลาด
- 29. ดุลยภาพของตลาด ราคาทีอุปสงค์ = อุปทานเรียกว่า ราคาดุลยภาพ ปริมาณทีอุปสงค์ = อุปทานเรียกว่า ปริมาณดุลยภาพ ถ้าหากอุปสงค์ไม่เท่ากับอุปทาน ภาวะทีอุปสงค์ > อุปทาน เรียกว่า เกิดอุปสงค์ส่วนเกิน (excess demand) หรือ ภาวะสินค้าขาดแคลน ภาวะทีอุปสงค์ < อุปทาน เรียกว่า เกิดอุปทานส่วนเกิน (excess supply) หรือภาวะสินค้าล้นตลาด ถ้าปจจัยอืนๆคงที ตลาดจะอยู่ในภาวะดุลยภาพเสมอ
- 31. ถ้าขณะใดขณะหนึง ตลาดไม่อยู่ในดุลยภาพ กลไกราคาจะปรับให้ตลาดเข้าสู่ดุลยภาพเสมอ • ถ้าราคาตํากว่าดุลยภาพอุปสงค์มากกว่าอุปทาน สินค้ามีน้อยกว่าความต้องการราคาจะปรับสูงขึน • ถ้าราคาสูงกว่าดุลยภาพอุปสงค์น้อยกว่าอุปทาน สินค้ามีมากกว่าความต้องการราคาจะปรับลง การปรับเข้าสู่ดุลยภาพ
- 32. การเปลียนแปลงดุลยภาพ การเปลียนแปลงดุลยภาพแบ่งเปน 3 กรณีคือ • อุปสงค์เปลียนอุปทานคงเดิม • อุปทานเปลียนอุปสงค์คงเดิม • ทังอุปทานและอุปสงค์เปลียนพร้อมๆกัน