SlideShare a Scribd company logo
1 of 50
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2557
“กินให้ถูกจุด (YOU ARE WHAT YOU EAT)”
จัดทาโดย
1. นายชนาธิป เลาหศักดิ์ถาวร เลขที่ 26
2. นางสาวชัชชฏา กิจไพบูลย์พงศ์ เลขที่ 30
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3
 ชื่อโครงงาน : กินให้ถูกจุด (You are what you eat)
 ชื่อผู้ทาโครงงาน : 1. นายชนาธิป เลาหศักดิ์ถาวร เลขที่ 26
2. นางสาวชัชชฏา กิจไพบูลย์พงศ์ เลขที่ 30
 คุณครูที่ปรึกษาโครงงาน : ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
 ระยะเวลาดาเนินงาน : ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เนื่องจากมีอาหารอยู่มากมายหลากหลายที่มีให้เลือกรับประทาน
ทั่งมีประโยชน์และโทษกับธาตุเจ้าเรือนของเรา ประกอบกับอาหารบ้าง
ชนิดกลับมีคุณประโยชน์และสารอาหารที่แตกต่างกันตามแต่ชนิดและธาตุ
เจ้าเรือนของเราเอง ซึ่งถ้าหากได้รับอาหารที่ต่างจากธาตุเจ้าเรือนของเรา
มากจนเกินอาจเกิดผลเสียตามมาได้อีกมาก ดังนั้นหากเราเลือดรับประ
มานอาหารให้ตรงตามธาตุเจ้าเรือนของเรามากเท่าไร ก็จะส่งผลดีต่อ
ร่างกายและสุขภาพของเรามากเท่านั้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาเกี่ยวกับอาหารในแต่ละธาตุเจ้าเรือน
2. เพื่อศึกษาเกี่ยวกับลักษณะต่างๆของแต่ละธาตุเจ้าเรือน
3. เพื่อนาความรู้ที่ได้ทามาสามารถนาไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้
ธาตุ หมายถึง สารประกอบที่มีอยู่ในธรรมชาติ ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุ
น้า ธาตุลมและธาตุไฟ ซึ่งทั้งสี่ธาตุนี้ มีอยู่ทั้งภายในและภายนอกร่างกายและ
ทั้งหมดมีอิทธิพลต่อสุขภาพของเรา ธาตุที่อยู่ภายนอกคือ สภาพแวดล้อม
รอบตัวเรา ธาตุที่อยู่ภายในได้แก่ ส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นมาเป็น
ร่างกายของเรา
แต่เดิมนั้นทางการแพทย์แผนไทยได้กล่าวไว้ว่า คนเราเมื่อเกิดมาใน
ร่างกายจะมีส่วนผสมของธาตุทั้งสี่ที่ว่านี้ โดยแต่ละคนก็จะมีธาตุประจาตัว
เป็นธาตุหลัก เรียกว่า ธาตุเจ้าเรือน ซึ่งมีอยู่ 2 ลักษณะด้วยกันคือ ธาตุเจ้า
เรือนเกิด ซึ่งจะเป็นไปตามวัน เดือน ปีเกิด และธาตุเจ้าเรือนปัจจุบัน ที่
พิจารณาจากบุคลิก ลักษณะอุปนิสัย ภาวะด้านสุขภาพ ทั้งกายและจิตใจ ว่า
สอดคล้องกับลักษณะของบุคคลธาตุเจ้าเรือนอะไร เมื่อเราทราบแน่ชัดว่า
ธาตุเจ้าเรือนของเราคือธาตุตัวใดเป็นตัวหลัก เราก็จะสามารถนามาใช้เป็น
แนวทางในการปรับสมดุลของร่างกาย เพื่อป้องกันจุดอ่อนที่ทาให้เกิดโรค
ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
หากธาตุทั้ง 4 ภายในร่างกายของเราอยู่ในภาวะสมดุลแล้ว เราก็จะไม่ค่อย
เจ็บป่วย หรือเรียกได้ว่าสุขภาพดี แต่ถ้าหากว่าธาตุทั้ง 4 ของเราเกิดขาดความสมดุล
เมื่อใด โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากจุดอ่อนทางด้านสุขภาพของแต่ละคนตามเรือนธาตุก็จะ
ตามมา ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้น สิ่งที่สามารถช่วย
เราได้ระดับหนึ่งในเบื้องต้นก็คือ การพิจารณาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารของแต่
ละคนในชีวิตประจาวัน โดยในรสของอาหารและรสของยาแต่ละชนิด จะมีสรรพคุณ
พิเศษโดยเฉพาะที่เป็นตัวช่วยปรับสมดุลของธาตุเพื่อป้องกันความเจ็บป่วย เช่น หากเรา
ท้องเสีย เราควรกินผลไม้รสฝาด เพื่อหยุดอาการท้องเสีย หากเราเป็นไข้ เราควรกิน
อาหารรสขม เช่น สะเดาหรือมะระ เพื่อลดไข้ เป็นต้น
ตามทฤษฏีโบราณของการแพทย์แผนไทยนั้น จะใช้รสชาติของ
อาหารเป็นยารักษาโรค โดยรสชาติต่าง ๆ ที่มีผลต่อร่างกาย เราสามารถ
จดจากลอนง่าย ๆ ให้ขึ้นใจจากรสยาทั้ง 9 รส ดังนี้
• ฝาดชอบทางสมาน รสฝาดช่วยในเรื่องการสมานบาดแผล
• หวานซึมซาบไปตามเนื้อ รสหวานจะซึมซาบไปตามเนื้อ ทาให้เนื้อหนัง
บริบูรณ์
• เมาเบื่อแก้พิษต่าง ๆ รสเมาเบื่อ ช่วยแก้พิษเสมหะ พิษไข้
• ขมแก้ทางโลหิตและดี รสขมช่วยบารุงเลือด แก้ร้อนในกระหายน้า
• รสมันบารุงหัวใจ รสมันช่วยแก้เส้นเอ็น บารุงเส้นเอ็น บารุงไขข้อ
• เค็มซึมซาบตามผิวหนัง รสเค็มช่วยแก้โรคผิวหนัง รักษาเนื้อไม่ให้เน่า
• เปรี้ยวแก้ทางเสมหะ รสเปรียวแก้เสมหะ ฟอกโลหิต ระบายอุจจาระ
• เผ็ดร้อนแก้ทางลม รสเผ็ดช่วยแก้ลมจุกเสียด แน่นเฟ้อ ขับผายลม
• รสจืดเย็น ช่วยแก้เสมหะ ขับปัสสาวะ แก้ร้อนในกระหายน้า
• ธาตุดิน ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม
• ธาตุน้า ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน
• ธาตุลม ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน
• ธาตุไฟ ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม
 ธาตุดิน
มักจะเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อาการปวด
ตามข้อ โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคเกี่ยวกับระบบน้าย่อย ควรกิน
อาหารรสฝาดเพื่อช่วยสมานปิดธาตุ (ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะจะทาให้
ฝืดคอ ท้องอืด และท้องผูก) อาหารรสหวาน เพราะมีสรรพคุณซึมซับตาม
เนื้อ ทาให้ชุ่มชื่นบารุงกาลัง (ไม่ควรกินมากเกินเพราะจะทาให้ง่วงนอน
และเกียจคร้าน) อาหารรสมันเพื่อแก้เส้นเอ็นพิการ ปวดเสียว ขัดยอก และ
กระตุก และอาหารรสเค็ม
เพราะมีสรรพคุณซึมซับไปตามเนื้อ ช่วยการดูดซึมอาหาร ป้องกันการ
เสื่อมของเส้นเอ็น และกระดูก นอกจากนี้ ควรกินอาหารประเภทแป้งขาวให้
น้อย เพราะร่างกายจะเผาผลาญได้ไม่หมด และควรออกกาลังเป็นประจา
โดยมีสิ่งที่สาคัญในการควบคุมสุขภาพอยู่ 3 อย่าง กล่าวคือ
- หทัยวัตถุ
: มีที่ตั้งที่หัวใจ ควบคุมความสมบูรณ์ของหัวใจ เช่น ลักษณะ
ขนาด การทางาน การเต้น ความสมบูรณ์ของกล้ามเนื้อหัวใจ บางตารา
กล่าวว่า หทัยวัตถุ เป็นที่ตั้งของจิต
- อุทริยะ
: หมายถึง อาหารใหม่ คือ อาหารที่กินเข้าไปใหม่นั่นเอง การซัก
ประวัติการกินอาหารก่อนป่วยนั้นมีความจาเป็นมาก เพราะอาหารคือธาตุ
ภายนอกร่างกายที่เรานาเข้าไปบารุงหรือปรับธาตุภายใน เรื่องอาหารจึง
สาคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนใดหรือโรคทางแผนโบราณ จึงมีเรื่อง
เกี่ยวกับการกินอาหารที่เรียกว่า กินผิด คือกินไม่ถูกกับธาตุก็จะเจ็บป่วย
กินไม่ถูกกับโรค ทาให้อาการแย่ลง ดังนั้นการแพทย์แผนไทยจึงใช้วิธีการ
กินสมุนไพร อาหารสมุนไพรมาแก้ไขการเสียสมดุลนี้ เป็นการลองผิดลอง
ถูกมาอย่างยาวนาน จนสรุปเป็นหลักการและเหตุผล
- กรีสัง
: หมายถึง อาหารเก่า คือกากอาหารในลาไส้ใหญ่ที่จะออกมาเป็น
อุจจาระนั่นเอง ลักษณะของอุจจาระเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพ หากอุจจาระ
หยาบ ละเอียด ก้อนแข็งหรือเหลว กลิ่นเป็นเช่นไร เช่น กลิ่นเหมือนปลา
เน่า-ธาตุน้าเป็นเหตุ กลิ่นเหมือนหญ้าเน่า-ธาตุไฟเป็นเหตุ กลิ่นเหมือนข้าว
บูด-ธาตุลมเป็นเหตุ กลิ่นเหมือนศพเน่า-ธาตุดินเป็นเหตุ เป็นต้น
 ธาตุน้า
มักมีปัญหาเสมหะเป็นพิษ จึงควรกินอาหารรสเปรี้ยวเพื่อกัดฟอก
เสมหะ ส่วนปัญหาสุขภาพอื่นๆ เหมือนธาตุดิน (เนื่องจากเป็นธาตุที่เอื้อ
กัน) เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ระบบทางเดินหายใจ และโรค
อ้วน ในกรณีที่ธาตุน้ามากจะมีเสมหะและน้ามูกคล้ายจะเป็นหวัด เพราะ
ร่างกายต้องการขับน้าออกมา ในช่วงอายุแรกเกิดถึง 16 ปี มักจะมีอาการ
เป็นหวัด คัดจมูก ตาแฉะ ในฤดูหนาวจะเจ็บป่วยง่ายเพราะธาตุน้ากาเริบ
จึงควรกินอาหารประเภทแป้งขาวให้น้อยเช่นกัน
โดยมีสิ่งสาคัญในการควบคุมสุขภาพอยู่ 3 อย่าง คือ
- ศอเสมหะ
: ควบคุมน้าบริเวณคอขึ้นไปเกี่ยวกับเสมหะ น้ามูกมีหรือไม่
อย่างไร มีมากเวลาใด อาจหมายถึงการทางานของต่อมต่าง ๆ น้าเมือก
น้ามูกในบริเวณดังกล่าว
- อุระเสมหะ
: ควบคุมน้าบริเวณอกเหนือกลางลาตัว จากคอลงมาถึงบริเวณ
ลิ้นปี่ เหนือสะดือ
- คูถเสมหะ
: ควบคุมน้าช่วงล่างจากสะดือลงไป น้าในลาไส้ น้าในอุจจาระ น้า
ปัสสาวะ น้าในมดลูก น้าในช่องคลอด น้าอสุจิ เป็นต้น
 ธาตุลม
ปัญหาด้านสุขภาพของคนธาตุเจ้าเรือนนี้ คือนอนไม่ค่อยหลับ ปวด
ท้อง จุกเสียด ระบบภายในมีความเป็นกรดมาก และระบบย่อยอาหารไม่ดี
เนื่องจากลักษณะนิสัยที่กินไม่ตรงเวลา บางรายอาจมีปัญหาโรคข้อและ
กระดูก ควรกินอาหารรสเผ็ดร้อนเพื่อแก้ลมจุกเสียด และช่วยให้ระบบย่อย
อาหารดีขึ้น แต่ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะอาจทาให้เกิดอาการอ่อนเพลีย
ได้ ในช่วงอายุ 32 ปีขึ้นไป มักจะมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลมง่าย
ในฤดูฝนจะเจ็บป่วยง่ายเพราะธาตุลมกาเริบ ควรกินอาหารจาพวก
เนื้อสัตว์ให้น้อย เพราะระบบการย่อยไม่แข็งแรง
โดยมีสิ่งสาคัญในการควบคุมสุขภาพอยู่ 3 อย่าง คือ
- หทัยวาตะ
: ลมที่ควบคุมอารมณ์ จิตใจ การเต้นของหัวใจ ความหวั่นไหว
ความกังวล
- สัตถกะวาตะ
: ลมที่คมเหมือนอาวุธ หมายถึง เมื่อเกิดอาการจะมีอาการ
ฉับพลัน เจ็บปวดลึก ๆ เหมือนดังอาวุธเสียบแทง จากลักษณะดังกล่าว
อาการคล้ายกับภาวะขาดเลือด เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรืออวัยวะใด
ๆ ขาดเลือดจะมีอาการเจ็บปวดรุนแรง
- สุมนาวาตะ
: ลมที่ควบคุมพลังที่อยู่เส้นกลางลาตัวตามแนวดิ่ง ในตาราการ
นวดแผนไทย เส้นสุมนา ถูกจัดเป็นเส้นสาคัญในเส้นประธานสิบ เส้นนี้จะวิ่ง
กลางลาตัวจรดปลายลิ้น เป็นตัวควบคุมระบบประสาท การไหลเวียนโลหิต
สมอง ไขสันหลัง เป็นต้น
 ธาตุไฟ
ปัญหาสุขภาพคือ เครียดง่าย โรคกระเพาะอาหาร ผิวหนังแพ้ง่าย
ท้องเสียบ่อย ร้อนใน เป็นฝี และมีแผลในปาก ในช่วงอายุ 16-32 ปี มักจะ
หงุดหงิดง่าย และอารมณ์เสียบ่อย ในฤดูร้อนจะเจ็บป่วยบ่อย อาจเป็นไข้
ตัวร้อนได้ง่าย เพราะธาตุไฟกาเริบ ควรกินอาหารรสขมแก้โลหิตเป็นพิษ
(หากกินมากไปจะทาให้อ่อนเพลีย) และอาหารรสเย็นเพื่อแก้ไข้ ร้อนใน ไข้
พิษ และดับพิษร้อน และควรกินอาหารจาพวกไขมันให้น้อย แม้ว่าร่างกาย
จะเผาผลาญเนื้อสัตว์ได้ดี แต่หากกินไขมันที่ย่อยยาก จะทาให้มีความร้อน
ในร่างกายมากเกินไปจนป่วยไข้ได้
โดยมีสิ่งสาคัญในการควบคุมสุขภาพอยู่ 3 อย่าง คือ
- พัทธปิตตะ
: คือ ดีในฝัก บางท่านอาจสับสนว่า น้าดีคือธาตุน้า เหตุใดจึง
จัดเป็นธาตุไฟ พัทธปิตตะในที่นี้คือการควบคุมการทางานของน้าดีและการ
ย่อยสลายจากการทางานของน้าดี ส่วนตัวน้าดีจัดเป็นธาตุน้า บ่งบอก
อาการทางานของน้าดีที่ผิดปกติไป เช่น น้าดีอุดตัน ภาวะการผลิตน้าดีของ
ตับผิดปกติ น้าดีอักเสบ เป็นต้น
- อพัทธะปิตตะ
: คือ ดีนอกฝัก หมายถึง การทางานของน้าดีในลาไส้ การย่อย
อาหาร ดีนอกฝักพิการจะทาให้เหลืองทั้งตัว ดีในฝักพิการจะถ่ายเป็นสี
เขียว
- กาเดา
: องค์แห่งความร้อน เป็นตัวควบคุมความร้อนในร่างกาย
 กรุ๊ปเลือดโอ
จัดเป็นพวกโปรตีน (High Protein Diet) คนที่มีเลือดกรุ๊ปโอ
น้าย่อยในระบบย่อยอาหารมีความเป็นกรดสูง เหมาะกับอาหารประเภท
เนื้อแดง เพราะสามารถย่อยได้เร็วและดูดซึมได้ดีมาก นอกจากนี้ควรกินผัก
และผลไม้ ได้แก่ บร็อคโคลี่ ผักโขม คะน้า สับปะรด พลับ พรุน จะช่วยเพิ่ม
ประสิทธิภาพในการเผาผลาญอาหาร กินปลาและอาหารทะเลเพื่อเพิ่ม
แคลเซียม และไอโอดีน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อฮอร์โมนไทรอยด์ของคนเลือด
กรุ๊ปโอที่มักจะไม่คงที่
ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ นมวัวกับชีสแทบทุกชนิดเพราะ
ย่อยยาก และอาหารที่ทาจากแป้งสาลี เพราะเลคติน (เลคตินเป็นโปรตีนที่
พบได้ในอาหารทั้งมีมาจากพืชและสัตว์ ซึ่งมีความสามารถในการจับกับ
น้าตาลหรือคาร์โบไฮเดรตที่พบในเซลล์มนุษย์ได้ และเนื่องจากเม็ดเลือด
ของคนเราประกอบด้วยน้าตาลสายโซ่ยาวซึ่งแตกต่างกันในแต่ละกรุ๊ปเลือด
ดังนั้นเลคตินที่พบในอาหารแต่ละชนิดจึงมีความจาเพาะกับน้าตาลที่พบบน
เม็ดเลือดของแต่ละกรุ๊ปเลือดที่แตกต่างกัน และหากเกิดการจับกันของเล
คตินและน้าตาลบนเม็ดเลือดก็จะทาให้เกิดความผิดปกติต่อการทางานของ
ระบบในร่างกาย
 กรุ๊ปเลือดเอ
จัดเป็นพวกมังสวิรัติ (Vegetarian Diet) คนกรุ๊ปเลือดเอนั้น
น้าย่อยในกระเพาะอาหารมีความเป็นกรดต่าจึงไม่เหมาะกับอาหารประเภท
เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดงเพราะย่อยได้ยาก และเป็นเหตุให้เกิดสารพิษ
ขึ้นในร่างกายได้ง่าย จึงควรกินปลาและไก่แต่ควรเลี่ยงปลาเนื้อขาว เช่น
ปลาตาเดียวและปลาจาระเม็ดเพราะมีเลคตินที่รบกวนระบบย่อยของคน
เลือดกรุ๊ปเอ ที่น่าระวังเป็นพิเศษ คือ อาหารสาเร็จรูปประเภทไส้กรอกหรือ
แฮม เพราะมีสารประกอบไนเตรทอยู่มาก สามารถกระตุ้นการเกิดมะเร็ง
ในกระเพาะอาหาร ผลิตภัณฑ์นมวัวและเนย ซึ่งจะชะลอระบบเผาผลาญ
อาหาร เครื่องดื่มประเภทน้าอัดลมและเบียร์
นอกจากนี้ควรกินอาหารที่มีวิตามินซีให้มาก เพราะมีส่วนช่วยใน
การทางานของระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยลดปัญหาเรื่องของกรดใน
กระเพาะอาหารต่า กินผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและถั่วลิสงเพราะมีเลคตินที่
ต่อต้านมะเร็ง ผักผลไม้ ได้แก่ หอมใหญ่และบร๊อคโคลี่ มีสารแอนตี้ออกซิ
แด้นท์สูง แครอท ฟักทอง ผักโขม และกระเทียม ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน
สับปะรด ส้มโอ และมะนาว มีกรดที่ช่วยย่อยและเพิ่มการทางานของลาไส้
เล็ก
 กรุ๊ปเลือดบี
จัดเป็นพวกผสมผสาน (B–BALANCE) คนกรุ๊ปเลือดบี เป็นกรุ๊ป
เดียวที่สามารถกินอาหารประเภทนมวัว เนย และไข่ได้ตามปกติ ยกเว้น
เนยแข็งรสเค็มเพราะจะย่อยยาก และยังกินเนื้อสัตว์ได้หลากหลาย รวมทั้ง
ผักผลไม้ก็กินได้หลากหลายประเภท โดยเฉพาะผักใบเขียว เพราะคนเลือด
กรุ๊ปบีมีระบบย่อยอาหารที่ค่อนข้างสมดุลที่สุด แต่ต้องระวังเป็นพิเศษกับ
เนื้อไก่ ซึ่งมีเลคติกที่รบกวนระบบเลือด
และควรงดหอยเชลล์ ปลาแซลมอนชนิดรมควัน กุ้ง ปู และ
หอยแครง ซึ่งเป็นอาหารที่ยังอยู่ในข่ายต้องสงสัยว่ามีผลกระทบต่อระบบ
เลือดเช่นกัน เช่นเดียวกับถั่วต่างๆ โดยเฉพาะถั่วลิสงและงา จะรบกวน
ระบบอินซูลิน ทาให้เกิดการลดน้าตาลในเลือดเฉียบพลันได้ อาหารทุกชนิด
ที่ทาจากแป้งสาลีหรือข้าวโพดมีผลต่อระบบเผาผลาญอาหาร ทาให้น้าหนัก
เพิ่ม สุดท้ายคือผักผลไม้ที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเคร่งครัด ได้แก่ มะเขือเทศ
ข้าวโพด เพราะมีผลต่อกระเพาะอาหาร ระบบการย่อยอาหาร และการลด
น้าตาลในเลือดเฉียบพลัน
 คนกรุ๊ปเลือดเอบี
จัดเป็นพวกลูกผสมของกรุ๊ปเอและบีคนกรุ๊ปเลือดเอบีนั้นอาหารที่
เหมาะสมจะค่อนข้างซับซ้อน เพราะเป็นส่วนผสมของลักษณะเลือดจากกรุ๊ป
เอและกรุ๊ปบี หมายความว่าอาหารที่ส่งผลดีต่อร่างกายของคนเลือดกรุ๊ปเอ
และคนเลือดกรุ๊ปบี ก็จะส่งผลดีต่อร่างกายคนเลือดกรุ๊ปเอบีด้วย แหล่ง
โปรตีนที่เหมาะสมของคนเลือดกรุ๊ปเอบี ได้แก่ อาหารทะเล (ยกเว้นปลา
เนื้อขาวแลแซลมอนรมควัน) เต้าหู้ เนื้อแดงบางชนิด เช่น เนื้อแกะ และ
กระต่าย แต่ควรกินในปริมาณที่ไม่มากนักในแต่ครั้ง
 ราศีมังกร
คนที่เกิดราศีมังกรมักจะเป็นคนที่อยู่ในโลกของความเป็นจริง
หรือไม่ค่อยเพ้อฝันเท่าไรนัก แล้วเมื่อใดที่ชาวมังกรรู้สึกกระตือรือร้นพร้อม
ที่จะริเริ่มทางานใดเป็นพิเศษ ก็ควรกินอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและ
โปรตีน เพื่อทาให้ร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่าอยู่ตลอดเวลา อาหาร
และผลไม้ที่ควรกินได้แก่ ข้าวกล้อง ไข่ ปลา ถั่ว องุ่น แอปเปิ้ล ลูกแพร์ คน
ราศีนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ด หรือรสจัดทุกชนิด ดังนั้นลองกิน
ร้านอาหารจีน ญี่ปุ่น หรือฝรั่งที่มีบรรยากาศอบอุ่นและสงบ แต่หากจะไป
กินอาหารไทยก็หลีกเลี่ยงเมนูที่มีรสเผ็ด
 ราศีกุมภ์
คนที่เกิดในราศีนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ยึดถือในอุดมการณ์หรือุดม
คติเป็นหลัก เป็นคนที่มีหลักการและชอบวิเคราะห์ ค่อนข้างจะเป็นคนมี
ความคิดล้าหน้ากว่าคนในยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ดีชาวกุมภ์อาจจะลดความ
พยายามที่จะควบคุมทุกเรื่องให้เป็นไปตามอุดมคติบ้าง เพื่อลดความเครียด
ให้กับตัวเอง และควรหมั่นออกกาลังกายเป็นประจา หากพูดถึงเรื่องอาหาร
ชาวกุมภ์มักจะชอบอาหารที่มีกลิ่นหอม อาหารที่ราศีนี้ควรกิน ได้แก่ แค
รอท ผักกาดแก้ว ปลา ถั่ววอล์นัท แป้งโฮลวีท ข้าวโพด โยเกิร์ต และผลไม้
ชนิดใดก็ได้ เนื่องจากชาวกุมภ์เป็นคนที่กินง่าย ดังนั้นอาหารใดก็กินได้ขอ
เพียงมีรสชาติอร่อยหรือมีกลิ่นหอมเย้ายวนก็พอ
 ราศีมีน
คนที่เกิดในราศีมีนค่อนข้างจะเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว เป็นคน
สุภาพอ่อนหวานและมีเสน่ห์ หากเป็นผู้ชายก็คงเป็นคนสุภาพ ชาวมีนเป็นคน
ที่ชอบกินอาหารทะเลมาก ชอบสังสรรค์และเป็นนักดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ตัวยง ดังนั้นชาวมีนควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดแล้วหันมา
ดื่มนมที่ให้แคลเซียมและโปรตีนสูงแทนเพื่อรักษาสุขภาพไว้ดีกว่า อาหารที่
ควรเลือกกินควรเป็นอาหารที่ให้โปรตีน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน และ
น้าตาลสูง อาหารที่ควรกินได้แก่ ซีเรียล เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่ว ไข่ นม ผักขม
หัวหอม ส่วนผลไม้ก็ควรเลือก องุ่น แอปเปิ้ล และลูกแพร์ นอกจากนี้เวลาที่
จะสังสรรค์ให้ลองเลือกร้านอาหารที่มีดนตรีขับกล่อมในบรรยากาศสบายๆ
 ราศีเมษ
ชาวเมษส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลาและ
เป็นคนที่เปิดเผยตรงไปตรงมา มีไหวพริบดี โปรดปรานการกินอาหารที่มี
รสจัด เผ็ดร้อนถึงใจเป็นพิเศษ แต่เกลียดการกินอาหารที่มีรสจืด ดังนั้น
รสชาติอาหารเผ็ดร้อนจึงเป็นตัวกระตุ้นให้ชาวเมษเป็นคนแอคทีฟอยู่ตลอด
นอกจากนี้ชาวเมษควรเลือกกินมะเขือเทศ หัวหอม มะกอก และผักใบเขียว
ให้มาก เพื่อทาลายสารอนุมูลอิสระต่างๆ ที่ตกค้างจากเครื่องปรุงอาหารที่
ไม่สะอาด และที่ขาดไม่ได้ก็คือควรกินกล้วยให้ได้อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง
เพราะชาวเมษเหมาะสมกับการกินผลไม้ประเภทกล้วยที่สุด
 ราศีพฤษภ
ชาวพฤษภจะเป็นคนที่ขี้สงสัยและอยากรู้อยากเห็นอยู่เรื่อยๆ ใน
บางครั้งก่อนจะตัดสินใจทาอะไรจึงคิดแล้วคิดอีกจนดูเหมือนเป็นคนออกจะ
หัวดื้อนิดๆ แต่มีความอดทนสูง มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง แต่มีจุดอ่อนอยู่
ตรงของหวานนี่แหล่ะ ลองชวนคนราศีนี้ออกไปกินอาหารมื้ออร่อยมื้อใหญ่
สักมื้อ และตบท้ายด้วยของหวานเลิศรสดู รับรองเลยว่าชาวพฤษภจะเป็น
คนว่าง่ายโดยทันที ชาวพฤษภควรกินอาหารที่ให้ปริมาณไขมัน น้าตาล
และไอโอดีน ในสัดส่วนที่พอดี อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารประเภท
ฟาสท์ฟู้ดส์ เช่น ไก่ทอด หรือ เฟรนช์ฟราย เพราะมีปริมาณไขมันสูง คน
ราศีนี้ควรหันมากินผลไม้ และผักแทน และให้เลือกกินส้ม หรือเชอร์รี่
 ราศีเมถุน
ชาวเมถุนเป็นคนว่องไว มักคิดและทาสิ่งใดๆ ดังนั้นจึงเป็นคนไม่
ค่อยชอบรอหรือทนกับสิ่งใดนัก อาหารประเภทฟาสท์ฟู้ด หรืออาหารจาน
ด่วนจะเหมาะสม ถ้าเป็นอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น ก็คงเป็นพวกข้าวแกง
ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ หรืออาหารจานเดียว ส่วนถ้าเป็นอาหารฝรั่งก็คงไม่พ้น
แฮมเบอร์เกอร์ หรือพิซซ่า ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่โปรดปราน แถมยัง
สามารถกินไปพร้อมกับเวลาที่ทางานหรืออ่านหนังสือไปด้วย ชาวเมถุนเป็น
คนเบื่อง่าย จึงชอบอะไรที่มีความหลากหลาย ซึ่งรวมถึงอาหารเช่นกัน และ
ชอบกินอาหารนานาชนิดเปลี่ยนบรรยากาศไปเรื่อย คนราศีนี้เหมาะที่จะ
สรรหาและลองไปกินร้านอาหารชาติต่างๆ ดู
 ราศีกรกฎ
ชาวกรกฎเป็นคนเอาจริงเอาจังไปกับทุกเรื่อง เพราะมีนิสัย
ทะเยอทะยานและชอบใช้เวลาอยู่บ้านศึกษาหรือทาในสิ่งที่ตนเองสนใจ
ด้วยความที่ชอบอยู่บ้านและมีนิสัยจริงจังไปกับทุกเรื่อง ดังนั้นถ้าได้มีเวลา
ศึกษาและลงมือทาอาหารแล้วล่ะก็รับรองใครได้ชิมเป็นติดใจไปตามๆ กัน
ชาวราศีนี้ชอบกินอาหารหรือร้านที่มีบรรยากาศไม่หรูหรามากนัก และต้อง
ไม่ใช่อาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดเช่นกัน ชอบไปนั่งกินบรรยากาศสบายๆ
 ราศีสิงห์
ชาวสิงห์อยากที่ใช้ชีวิตและกินเหมือนกษัตริย์ และชอบที่จะกิน
อาหารรสเผ็ดเหมือนชาวเมษ แต่ไม่ค่อยถูกกับกระเทียมเท่าไรนัก ดังนั้น
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ใส่กระเทียมและอาหารที่มีรสเค็มจัด ชาวสิงห์ควรกิน
อาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อ ซึ่งได้แก่ ข้าว นม ไข่ ผัก และผลไม้
เนื้อสัตว์ก็ให้เลือกกินซีฟู้ดเป็นหลัก เพราะคนราศีนี้ต้องการเสริมธาตุ
ไอโอดีนที่ได้จากสัตว์ทะเล และเลือกกินผักขมไม่ว่าจะผัด ทอด หรือกินสดๆ
เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ส่วนที่ขาดไม่ได้ก็คือผลไม้ ได้แก่ ส้ม แอปเปิ้ล ลูกพลับ
และลูกพีช คนราศีนี้ชอบกินอาหารมื้อใหญ่ครบชุดที่เริ่มตั้งแต่อาหารเรียก
น้าย่อยไปจนถึงของหวาน
 ราศีกันย์
เป็นคนสุภาพอ่อนหวาน รวมถึงอ่อนไหว จนอาจถูกทาร้ายจิตใจได้
ง่าย แต่ก็มีข้อดีคือเป็นคนมีจิตใจที่มั่นคงถึงแม้จะอ่อนไหวไปบ้างแต่ก็จัดว่า
เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษ จะเป็นอาหารที่มีส่วนผสม
ของกลิ่น หรือส่วนผสมของมินท์ วานิลา และช็อคโกแล็ต ชอบอาหารที่มี
การจัดเรียงและตกแต่งสวยงามและชอบติติงอาหารที่มีรสชาติไม่ค่อยถูก
ปากหรืออาหารที่เสิร์ฟแบบลวกๆ เช่น อาหารจานด่วน หรืออาหารแปลก
พิสดาร คนที่เกิดราศีนี้ควรเลือกกินอาหารทะเลที่ให้แร่ธาตุไอโอดีนเยอะ
รวมทั้งอาหารที่ให้แคลเซียมและใยอาหารสูง
 ราศีตุลย์
คนที่รักความยุติธรรมและความสมดุลเป็นชีวิตจิตใจจนทาให้เป็น
คนไม่ค่อยชอบหรือพยายามที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้อง
เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจให้เลือกทาอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าไม่เชื่อคุณลอง
เอาอาหารจานโปรด 2 จาน และให้คนราศีนี้เลือกกินจานใดจานหนึ่งดู
รับรองว่าทั้งเขาและเธออาจจะใช้เวลาในการเลือกนานเชียวล่ะ เนื่องจาก
ชาวตุลย์เป็นคนที่ชอบความสมดุลอยู่แล้ว ดั้งนั้นอาหารที่ชาวตุลย์เลือกกิน
ต้องเป็นอาหารที่ให้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ถึงจะถูกใจ สิ่งชาวตุลย์ควร
หลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารประเภททอด หรือผัดที่มีน้ามันมาก นอกจากนี้ควร
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
 ราศีพิจิก
เป็นคนมีบุคลิกคล่องแคล่วว่องไวไม่ชอบอยู่นิ่ง และเป็นคนที่มี
พรสวรรค์ในความคิดสร้างสรรค์ และจะเอาจริงเอาจังมากเวลาทาอะไร
แบบทุ่มสุดตัวเชียวล่ะ จนบางครั้งอาจก่อให้เกิดความความเครียดหรือ
หงุดหงิดได้ง่าย โดยเฉพาะหากเวลาที่คุณหงุดหงิดหรือเครียดแล้วล่ะก็ควร
เลิกนิสัยกินจุบกินจิบหรือว่าง่ายๆก็คือ กินแก้เครียด หากชาวพิจิกหมั่นกิน
ผักสดทุกชนิด หัวไชเท้า สับปะรด และนมสดเป็นประจา ก็จะสามารถ
บรรเทาอาการเครียดได้ดี ชาวพิจิกควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม ชา กาแฟ
น้าอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอออล์ทุกชนิด ส่วนอาหารที่ชอบจะเป็นจาพวก
แกงหรืออาหารที่ปรุงด้วยเครื่องเทศต่างๆ
 ราศีธนู
เป็นคนที่มีสัญชาติญาณความเป็นผู้นาสูง หรืออาจพูดได้ว่าเป็นคน
ที่เกิดมา เพื่อเป็นผู้นาอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย คนราศีนี้
บุคลิกร่าเริง เปิดเผย เป็นมิตร ชอบทากิจกรรมต่างๆ ไม่อยู่เฉย และชอบ
กิน อาหารที่ถูกปากก็น่าจะเป็นอาหารที่มีรสจัด เช่น ต้มยา ส้มตา น้าพริก
แกงกะทิ และยาต่างๆ ซึ่งถ้าเป็นอาหารไทยก็คงจะกินถูกปากทุกอย่าง
เพราะมีรสจัดอยู่แล้ว ถ้าเป็นซีฟู้ดส์ก็คงขอให้เลือกดูร้านที่มีน้าจิ้มสูตรเด็ด
สาหรับคนที่เกิดในราศีนี้ควรหาผักสดทุกชนิด มะเขือเทศ หรือส้ม มากิน
เป็นประจา

More Related Content

What's hot

รายงานโครงการเห็ดสุดยอดผู้ย่อยสลายสายสัมพันธ์ในดอนปู่ตา2557ศพว 1
รายงานโครงการเห็ดสุดยอดผู้ย่อยสลายสายสัมพันธ์ในดอนปู่ตา2557ศพว 1รายงานโครงการเห็ดสุดยอดผู้ย่อยสลายสายสัมพันธ์ในดอนปู่ตา2557ศพว 1
รายงานโครงการเห็ดสุดยอดผู้ย่อยสลายสายสัมพันธ์ในดอนปู่ตา2557ศพว 1Sircom Smarnbua
 
โครงงานพระพุทธศาสนา เรื่อง บุญกิริยาวัตถุ 10
โครงงานพระพุทธศาสนา เรื่อง บุญกิริยาวัตถุ 10โครงงานพระพุทธศาสนา เรื่อง บุญกิริยาวัตถุ 10
โครงงานพระพุทธศาสนา เรื่อง บุญกิริยาวัตถุ 10Jurarat Thongma
 
ลูกประคบสมุนไพร
ลูกประคบสมุนไพรลูกประคบสมุนไพร
ลูกประคบสมุนไพรaromdjoy
 
โครงงานประโยชน์ของผลไม้
โครงงานประโยชน์ของผลไม้โครงงานประโยชน์ของผลไม้
โครงงานประโยชน์ของผลไม้greatzaza007
 
คุณเคยสวดมนต์ก่อนนอนไหม
คุณเคยสวดมนต์ก่อนนอนไหมคุณเคยสวดมนต์ก่อนนอนไหม
คุณเคยสวดมนต์ก่อนนอนไหมhuloo
 
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิตพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิตTongsamut vorasan
 
สมุนไพรในรั้ววัด
สมุนไพรในรั้ววัด สมุนไพรในรั้ววัด
สมุนไพรในรั้ววัด Patcha Linsay
 
สมุนไพรไทยในครัวเรือน
สมุนไพรไทยในครัวเรือนสมุนไพรไทยในครัวเรือน
สมุนไพรไทยในครัวเรือนguest0299389a
 

What's hot (11)

รายงานโครงการเห็ดสุดยอดผู้ย่อยสลายสายสัมพันธ์ในดอนปู่ตา2557ศพว 1
รายงานโครงการเห็ดสุดยอดผู้ย่อยสลายสายสัมพันธ์ในดอนปู่ตา2557ศพว 1รายงานโครงการเห็ดสุดยอดผู้ย่อยสลายสายสัมพันธ์ในดอนปู่ตา2557ศพว 1
รายงานโครงการเห็ดสุดยอดผู้ย่อยสลายสายสัมพันธ์ในดอนปู่ตา2557ศพว 1
 
โครงงานพระพุทธศาสนา เรื่อง บุญกิริยาวัตถุ 10
โครงงานพระพุทธศาสนา เรื่อง บุญกิริยาวัตถุ 10โครงงานพระพุทธศาสนา เรื่อง บุญกิริยาวัตถุ 10
โครงงานพระพุทธศาสนา เรื่อง บุญกิริยาวัตถุ 10
 
ลูกประคบสมุนไพร
ลูกประคบสมุนไพรลูกประคบสมุนไพร
ลูกประคบสมุนไพร
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
โครงงานประโยชน์ของผลไม้
โครงงานประโยชน์ของผลไม้โครงงานประโยชน์ของผลไม้
โครงงานประโยชน์ของผลไม้
 
คุณเคยสวดมนต์ก่อนนอนไหม
คุณเคยสวดมนต์ก่อนนอนไหมคุณเคยสวดมนต์ก่อนนอนไหม
คุณเคยสวดมนต์ก่อนนอนไหม
 
Herb
HerbHerb
Herb
 
261011165736
261011165736261011165736
261011165736
 
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิตพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
 
สมุนไพรในรั้ววัด
สมุนไพรในรั้ววัด สมุนไพรในรั้ววัด
สมุนไพรในรั้ววัด
 
สมุนไพรไทยในครัวเรือน
สมุนไพรไทยในครัวเรือนสมุนไพรไทยในครัวเรือน
สมุนไพรไทยในครัวเรือน
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3 -26-30

โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30Chanathip Loahasakthavorn
 
นวัตกรรมสุขศึกษา
นวัตกรรมสุขศึกษานวัตกรรมสุขศึกษา
นวัตกรรมสุขศึกษาkrusupkij
 
อาหาร fastfood การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
อาหาร fastfood  การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อาหาร fastfood  การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
อาหาร fastfood การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง Kkae Rujira
 
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdfโภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdfVorawut Wongumpornpinit
 
โครงงาน(ติดบอด)
โครงงาน(ติดบอด)โครงงาน(ติดบอด)
โครงงาน(ติดบอด)009kkk
 
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภคชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภคtassanee chaicharoen
 
2013-03-16_แผนการสอนประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง.doc
2013-03-16_แผนการสอนประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง.doc2013-03-16_แผนการสอนประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง.doc
2013-03-16_แผนการสอนประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง.docssuserb57a3f
 
นำเสนอยาเสพติดภูดิน
นำเสนอยาเสพติดภูดินนำเสนอยาเสพติดภูดิน
นำเสนอยาเสพติดภูดินwootslide
 
สไลด์ ภูมิปัญญาไทยด้านการรักษาโรค+534+dltvhisp2+55t2his p02 f08-1page
สไลด์  ภูมิปัญญาไทยด้านการรักษาโรค+534+dltvhisp2+55t2his p02 f08-1pageสไลด์  ภูมิปัญญาไทยด้านการรักษาโรค+534+dltvhisp2+55t2his p02 f08-1page
สไลด์ ภูมิปัญญาไทยด้านการรักษาโรค+534+dltvhisp2+55t2his p02 f08-1pagePrachoom Rangkasikorn
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)tthanch chai
 
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพPresent โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพศิริวรรณ นามสวัสดิ์
 
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิตสุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิตTongsamut vorasan
 
การรักษาโรคอ้วน
การรักษาโรคอ้วนการรักษาโรคอ้วน
การรักษาโรคอ้วนKhunchit Krusawat
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่นโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่นvictorploy
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3 -26-30 (20)

โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30
 
นวัตกรรมสุขศึกษา
นวัตกรรมสุขศึกษานวัตกรรมสุขศึกษา
นวัตกรรมสุขศึกษา
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
932 pre7
932 pre7932 pre7
932 pre7
 
อาหาร fastfood การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
อาหาร fastfood  การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อาหาร fastfood  การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
อาหาร fastfood การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
 
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdfโภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
โภชนศาสตร์ ในภูมิปัญญาไทย.pdf
 
โครงงาน(ติดบอด)
โครงงาน(ติดบอด)โครงงาน(ติดบอด)
โครงงาน(ติดบอด)
 
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภคชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
 
com
comcom
com
 
2013-03-16_แผนการสอนประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง.doc
2013-03-16_แผนการสอนประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง.doc2013-03-16_แผนการสอนประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง.doc
2013-03-16_แผนการสอนประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง.doc
 
นำเสนอยาเสพติดภูดิน
นำเสนอยาเสพติดภูดินนำเสนอยาเสพติดภูดิน
นำเสนอยาเสพติดภูดิน
 
สไลด์ ภูมิปัญญาไทยด้านการรักษาโรค+534+dltvhisp2+55t2his p02 f08-1page
สไลด์  ภูมิปัญญาไทยด้านการรักษาโรค+534+dltvhisp2+55t2his p02 f08-1pageสไลด์  ภูมิปัญญาไทยด้านการรักษาโรค+534+dltvhisp2+55t2his p02 f08-1page
สไลด์ ภูมิปัญญาไทยด้านการรักษาโรค+534+dltvhisp2+55t2his p02 f08-1page
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอม (1)
 
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพPresent โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
 
M6 126 60_1
M6 126 60_1M6 126 60_1
M6 126 60_1
 
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิตสุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิต
 
การรักษาโรคอ้วน
การรักษาโรคอ้วนการรักษาโรคอ้วน
การรักษาโรคอ้วน
 
Herbarium
HerbariumHerbarium
Herbarium
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่นโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องอาหารญี่ปุ่น
 
Herbarium
HerbariumHerbarium
Herbarium
 

More from Chanathip Loahasakthavorn (10)

โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
computer project
computer projectcomputer project
computer project
 
Gat part2
Gat part2Gat part2
Gat part2
 
Gat part1
Gat part1Gat part1
Gat part1
 
o-net part.GTMs
o-net part.GTMso-net part.GTMs
o-net part.GTMs
 
o-net part.Math
o-net part.Matho-net part.Math
o-net part.Math
 
o-net part.science
o-net part.scienceo-net part.science
o-net part.science
 
o-net part.english
o-net part.englisho-net part.english
o-net part.english
 
O-net part.Social
O-net part.SocialO-net part.Social
O-net part.Social
 
O-net part.Thai
O-net part.ThaiO-net part.Thai
O-net part.Thai
 

โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3 -26-30

  • 1. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2557 “กินให้ถูกจุด (YOU ARE WHAT YOU EAT)” จัดทาโดย 1. นายชนาธิป เลาหศักดิ์ถาวร เลขที่ 26 2. นางสาวชัชชฏา กิจไพบูลย์พงศ์ เลขที่ 30 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3
  • 2.  ชื่อโครงงาน : กินให้ถูกจุด (You are what you eat)  ชื่อผู้ทาโครงงาน : 1. นายชนาธิป เลาหศักดิ์ถาวร เลขที่ 26 2. นางสาวชัชชฏา กิจไพบูลย์พงศ์ เลขที่ 30  คุณครูที่ปรึกษาโครงงาน : ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์  ระยะเวลาดาเนินงาน : ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
  • 3.  ที่มาและความสาคัญของโครงงาน เนื่องจากมีอาหารอยู่มากมายหลากหลายที่มีให้เลือกรับประทาน ทั่งมีประโยชน์และโทษกับธาตุเจ้าเรือนของเรา ประกอบกับอาหารบ้าง ชนิดกลับมีคุณประโยชน์และสารอาหารที่แตกต่างกันตามแต่ชนิดและธาตุ เจ้าเรือนของเราเอง ซึ่งถ้าหากได้รับอาหารที่ต่างจากธาตุเจ้าเรือนของเรา มากจนเกินอาจเกิดผลเสียตามมาได้อีกมาก ดังนั้นหากเราเลือดรับประ มานอาหารให้ตรงตามธาตุเจ้าเรือนของเรามากเท่าไร ก็จะส่งผลดีต่อ ร่างกายและสุขภาพของเรามากเท่านั้น
  • 5.
  • 6.
  • 7.
  • 8.
  • 9.
  • 10. ธาตุ หมายถึง สารประกอบที่มีอยู่ในธรรมชาติ ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุ น้า ธาตุลมและธาตุไฟ ซึ่งทั้งสี่ธาตุนี้ มีอยู่ทั้งภายในและภายนอกร่างกายและ ทั้งหมดมีอิทธิพลต่อสุขภาพของเรา ธาตุที่อยู่ภายนอกคือ สภาพแวดล้อม รอบตัวเรา ธาตุที่อยู่ภายในได้แก่ ส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นมาเป็น ร่างกายของเรา
  • 11. แต่เดิมนั้นทางการแพทย์แผนไทยได้กล่าวไว้ว่า คนเราเมื่อเกิดมาใน ร่างกายจะมีส่วนผสมของธาตุทั้งสี่ที่ว่านี้ โดยแต่ละคนก็จะมีธาตุประจาตัว เป็นธาตุหลัก เรียกว่า ธาตุเจ้าเรือน ซึ่งมีอยู่ 2 ลักษณะด้วยกันคือ ธาตุเจ้า เรือนเกิด ซึ่งจะเป็นไปตามวัน เดือน ปีเกิด และธาตุเจ้าเรือนปัจจุบัน ที่ พิจารณาจากบุคลิก ลักษณะอุปนิสัย ภาวะด้านสุขภาพ ทั้งกายและจิตใจ ว่า สอดคล้องกับลักษณะของบุคคลธาตุเจ้าเรือนอะไร เมื่อเราทราบแน่ชัดว่า ธาตุเจ้าเรือนของเราคือธาตุตัวใดเป็นตัวหลัก เราก็จะสามารถนามาใช้เป็น แนวทางในการปรับสมดุลของร่างกาย เพื่อป้องกันจุดอ่อนที่ทาให้เกิดโรค ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
  • 12. หากธาตุทั้ง 4 ภายในร่างกายของเราอยู่ในภาวะสมดุลแล้ว เราก็จะไม่ค่อย เจ็บป่วย หรือเรียกได้ว่าสุขภาพดี แต่ถ้าหากว่าธาตุทั้ง 4 ของเราเกิดขาดความสมดุล เมื่อใด โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากจุดอ่อนทางด้านสุขภาพของแต่ละคนตามเรือนธาตุก็จะ ตามมา ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้น สิ่งที่สามารถช่วย เราได้ระดับหนึ่งในเบื้องต้นก็คือ การพิจารณาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารของแต่ ละคนในชีวิตประจาวัน โดยในรสของอาหารและรสของยาแต่ละชนิด จะมีสรรพคุณ พิเศษโดยเฉพาะที่เป็นตัวช่วยปรับสมดุลของธาตุเพื่อป้องกันความเจ็บป่วย เช่น หากเรา ท้องเสีย เราควรกินผลไม้รสฝาด เพื่อหยุดอาการท้องเสีย หากเราเป็นไข้ เราควรกิน อาหารรสขม เช่น สะเดาหรือมะระ เพื่อลดไข้ เป็นต้น
  • 13. ตามทฤษฏีโบราณของการแพทย์แผนไทยนั้น จะใช้รสชาติของ อาหารเป็นยารักษาโรค โดยรสชาติต่าง ๆ ที่มีผลต่อร่างกาย เราสามารถ จดจากลอนง่าย ๆ ให้ขึ้นใจจากรสยาทั้ง 9 รส ดังนี้
  • 14. • ฝาดชอบทางสมาน รสฝาดช่วยในเรื่องการสมานบาดแผล • หวานซึมซาบไปตามเนื้อ รสหวานจะซึมซาบไปตามเนื้อ ทาให้เนื้อหนัง บริบูรณ์ • เมาเบื่อแก้พิษต่าง ๆ รสเมาเบื่อ ช่วยแก้พิษเสมหะ พิษไข้ • ขมแก้ทางโลหิตและดี รสขมช่วยบารุงเลือด แก้ร้อนในกระหายน้า • รสมันบารุงหัวใจ รสมันช่วยแก้เส้นเอ็น บารุงเส้นเอ็น บารุงไขข้อ • เค็มซึมซาบตามผิวหนัง รสเค็มช่วยแก้โรคผิวหนัง รักษาเนื้อไม่ให้เน่า • เปรี้ยวแก้ทางเสมหะ รสเปรียวแก้เสมหะ ฟอกโลหิต ระบายอุจจาระ • เผ็ดร้อนแก้ทางลม รสเผ็ดช่วยแก้ลมจุกเสียด แน่นเฟ้อ ขับผายลม • รสจืดเย็น ช่วยแก้เสมหะ ขับปัสสาวะ แก้ร้อนในกระหายน้า
  • 15. • ธาตุดิน ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม • ธาตุน้า ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน • ธาตุลม ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน • ธาตุไฟ ผู้ที่เกิดในช่วงเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม
  • 16.  ธาตุดิน มักจะเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อาการปวด ตามข้อ โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคเกี่ยวกับระบบน้าย่อย ควรกิน อาหารรสฝาดเพื่อช่วยสมานปิดธาตุ (ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะจะทาให้ ฝืดคอ ท้องอืด และท้องผูก) อาหารรสหวาน เพราะมีสรรพคุณซึมซับตาม เนื้อ ทาให้ชุ่มชื่นบารุงกาลัง (ไม่ควรกินมากเกินเพราะจะทาให้ง่วงนอน และเกียจคร้าน) อาหารรสมันเพื่อแก้เส้นเอ็นพิการ ปวดเสียว ขัดยอก และ กระตุก และอาหารรสเค็ม
  • 17. เพราะมีสรรพคุณซึมซับไปตามเนื้อ ช่วยการดูดซึมอาหาร ป้องกันการ เสื่อมของเส้นเอ็น และกระดูก นอกจากนี้ ควรกินอาหารประเภทแป้งขาวให้ น้อย เพราะร่างกายจะเผาผลาญได้ไม่หมด และควรออกกาลังเป็นประจา
  • 18. โดยมีสิ่งที่สาคัญในการควบคุมสุขภาพอยู่ 3 อย่าง กล่าวคือ - หทัยวัตถุ : มีที่ตั้งที่หัวใจ ควบคุมความสมบูรณ์ของหัวใจ เช่น ลักษณะ ขนาด การทางาน การเต้น ความสมบูรณ์ของกล้ามเนื้อหัวใจ บางตารา กล่าวว่า หทัยวัตถุ เป็นที่ตั้งของจิต
  • 19. - อุทริยะ : หมายถึง อาหารใหม่ คือ อาหารที่กินเข้าไปใหม่นั่นเอง การซัก ประวัติการกินอาหารก่อนป่วยนั้นมีความจาเป็นมาก เพราะอาหารคือธาตุ ภายนอกร่างกายที่เรานาเข้าไปบารุงหรือปรับธาตุภายใน เรื่องอาหารจึง สาคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนใดหรือโรคทางแผนโบราณ จึงมีเรื่อง เกี่ยวกับการกินอาหารที่เรียกว่า กินผิด คือกินไม่ถูกกับธาตุก็จะเจ็บป่วย กินไม่ถูกกับโรค ทาให้อาการแย่ลง ดังนั้นการแพทย์แผนไทยจึงใช้วิธีการ กินสมุนไพร อาหารสมุนไพรมาแก้ไขการเสียสมดุลนี้ เป็นการลองผิดลอง ถูกมาอย่างยาวนาน จนสรุปเป็นหลักการและเหตุผล
  • 20. - กรีสัง : หมายถึง อาหารเก่า คือกากอาหารในลาไส้ใหญ่ที่จะออกมาเป็น อุจจาระนั่นเอง ลักษณะของอุจจาระเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพ หากอุจจาระ หยาบ ละเอียด ก้อนแข็งหรือเหลว กลิ่นเป็นเช่นไร เช่น กลิ่นเหมือนปลา เน่า-ธาตุน้าเป็นเหตุ กลิ่นเหมือนหญ้าเน่า-ธาตุไฟเป็นเหตุ กลิ่นเหมือนข้าว บูด-ธาตุลมเป็นเหตุ กลิ่นเหมือนศพเน่า-ธาตุดินเป็นเหตุ เป็นต้น
  • 21.  ธาตุน้า มักมีปัญหาเสมหะเป็นพิษ จึงควรกินอาหารรสเปรี้ยวเพื่อกัดฟอก เสมหะ ส่วนปัญหาสุขภาพอื่นๆ เหมือนธาตุดิน (เนื่องจากเป็นธาตุที่เอื้อ กัน) เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ระบบทางเดินหายใจ และโรค อ้วน ในกรณีที่ธาตุน้ามากจะมีเสมหะและน้ามูกคล้ายจะเป็นหวัด เพราะ ร่างกายต้องการขับน้าออกมา ในช่วงอายุแรกเกิดถึง 16 ปี มักจะมีอาการ เป็นหวัด คัดจมูก ตาแฉะ ในฤดูหนาวจะเจ็บป่วยง่ายเพราะธาตุน้ากาเริบ จึงควรกินอาหารประเภทแป้งขาวให้น้อยเช่นกัน
  • 22. โดยมีสิ่งสาคัญในการควบคุมสุขภาพอยู่ 3 อย่าง คือ - ศอเสมหะ : ควบคุมน้าบริเวณคอขึ้นไปเกี่ยวกับเสมหะ น้ามูกมีหรือไม่ อย่างไร มีมากเวลาใด อาจหมายถึงการทางานของต่อมต่าง ๆ น้าเมือก น้ามูกในบริเวณดังกล่าว
  • 23. - อุระเสมหะ : ควบคุมน้าบริเวณอกเหนือกลางลาตัว จากคอลงมาถึงบริเวณ ลิ้นปี่ เหนือสะดือ - คูถเสมหะ : ควบคุมน้าช่วงล่างจากสะดือลงไป น้าในลาไส้ น้าในอุจจาระ น้า ปัสสาวะ น้าในมดลูก น้าในช่องคลอด น้าอสุจิ เป็นต้น
  • 24.  ธาตุลม ปัญหาด้านสุขภาพของคนธาตุเจ้าเรือนนี้ คือนอนไม่ค่อยหลับ ปวด ท้อง จุกเสียด ระบบภายในมีความเป็นกรดมาก และระบบย่อยอาหารไม่ดี เนื่องจากลักษณะนิสัยที่กินไม่ตรงเวลา บางรายอาจมีปัญหาโรคข้อและ กระดูก ควรกินอาหารรสเผ็ดร้อนเพื่อแก้ลมจุกเสียด และช่วยให้ระบบย่อย อาหารดีขึ้น แต่ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะอาจทาให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ได้ ในช่วงอายุ 32 ปีขึ้นไป มักจะมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลมง่าย ในฤดูฝนจะเจ็บป่วยง่ายเพราะธาตุลมกาเริบ ควรกินอาหารจาพวก เนื้อสัตว์ให้น้อย เพราะระบบการย่อยไม่แข็งแรง
  • 25. โดยมีสิ่งสาคัญในการควบคุมสุขภาพอยู่ 3 อย่าง คือ - หทัยวาตะ : ลมที่ควบคุมอารมณ์ จิตใจ การเต้นของหัวใจ ความหวั่นไหว ความกังวล - สัตถกะวาตะ : ลมที่คมเหมือนอาวุธ หมายถึง เมื่อเกิดอาการจะมีอาการ ฉับพลัน เจ็บปวดลึก ๆ เหมือนดังอาวุธเสียบแทง จากลักษณะดังกล่าว อาการคล้ายกับภาวะขาดเลือด เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรืออวัยวะใด ๆ ขาดเลือดจะมีอาการเจ็บปวดรุนแรง
  • 26. - สุมนาวาตะ : ลมที่ควบคุมพลังที่อยู่เส้นกลางลาตัวตามแนวดิ่ง ในตาราการ นวดแผนไทย เส้นสุมนา ถูกจัดเป็นเส้นสาคัญในเส้นประธานสิบ เส้นนี้จะวิ่ง กลางลาตัวจรดปลายลิ้น เป็นตัวควบคุมระบบประสาท การไหลเวียนโลหิต สมอง ไขสันหลัง เป็นต้น
  • 27.  ธาตุไฟ ปัญหาสุขภาพคือ เครียดง่าย โรคกระเพาะอาหาร ผิวหนังแพ้ง่าย ท้องเสียบ่อย ร้อนใน เป็นฝี และมีแผลในปาก ในช่วงอายุ 16-32 ปี มักจะ หงุดหงิดง่าย และอารมณ์เสียบ่อย ในฤดูร้อนจะเจ็บป่วยบ่อย อาจเป็นไข้ ตัวร้อนได้ง่าย เพราะธาตุไฟกาเริบ ควรกินอาหารรสขมแก้โลหิตเป็นพิษ (หากกินมากไปจะทาให้อ่อนเพลีย) และอาหารรสเย็นเพื่อแก้ไข้ ร้อนใน ไข้ พิษ และดับพิษร้อน และควรกินอาหารจาพวกไขมันให้น้อย แม้ว่าร่างกาย จะเผาผลาญเนื้อสัตว์ได้ดี แต่หากกินไขมันที่ย่อยยาก จะทาให้มีความร้อน ในร่างกายมากเกินไปจนป่วยไข้ได้
  • 28. โดยมีสิ่งสาคัญในการควบคุมสุขภาพอยู่ 3 อย่าง คือ - พัทธปิตตะ : คือ ดีในฝัก บางท่านอาจสับสนว่า น้าดีคือธาตุน้า เหตุใดจึง จัดเป็นธาตุไฟ พัทธปิตตะในที่นี้คือการควบคุมการทางานของน้าดีและการ ย่อยสลายจากการทางานของน้าดี ส่วนตัวน้าดีจัดเป็นธาตุน้า บ่งบอก อาการทางานของน้าดีที่ผิดปกติไป เช่น น้าดีอุดตัน ภาวะการผลิตน้าดีของ ตับผิดปกติ น้าดีอักเสบ เป็นต้น
  • 29. - อพัทธะปิตตะ : คือ ดีนอกฝัก หมายถึง การทางานของน้าดีในลาไส้ การย่อย อาหาร ดีนอกฝักพิการจะทาให้เหลืองทั้งตัว ดีในฝักพิการจะถ่ายเป็นสี เขียว - กาเดา : องค์แห่งความร้อน เป็นตัวควบคุมความร้อนในร่างกาย
  • 30.
  • 31.  กรุ๊ปเลือดโอ จัดเป็นพวกโปรตีน (High Protein Diet) คนที่มีเลือดกรุ๊ปโอ น้าย่อยในระบบย่อยอาหารมีความเป็นกรดสูง เหมาะกับอาหารประเภท เนื้อแดง เพราะสามารถย่อยได้เร็วและดูดซึมได้ดีมาก นอกจากนี้ควรกินผัก และผลไม้ ได้แก่ บร็อคโคลี่ ผักโขม คะน้า สับปะรด พลับ พรุน จะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพในการเผาผลาญอาหาร กินปลาและอาหารทะเลเพื่อเพิ่ม แคลเซียม และไอโอดีน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อฮอร์โมนไทรอยด์ของคนเลือด กรุ๊ปโอที่มักจะไม่คงที่
  • 32. ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ นมวัวกับชีสแทบทุกชนิดเพราะ ย่อยยาก และอาหารที่ทาจากแป้งสาลี เพราะเลคติน (เลคตินเป็นโปรตีนที่ พบได้ในอาหารทั้งมีมาจากพืชและสัตว์ ซึ่งมีความสามารถในการจับกับ น้าตาลหรือคาร์โบไฮเดรตที่พบในเซลล์มนุษย์ได้ และเนื่องจากเม็ดเลือด ของคนเราประกอบด้วยน้าตาลสายโซ่ยาวซึ่งแตกต่างกันในแต่ละกรุ๊ปเลือด ดังนั้นเลคตินที่พบในอาหารแต่ละชนิดจึงมีความจาเพาะกับน้าตาลที่พบบน เม็ดเลือดของแต่ละกรุ๊ปเลือดที่แตกต่างกัน และหากเกิดการจับกันของเล คตินและน้าตาลบนเม็ดเลือดก็จะทาให้เกิดความผิดปกติต่อการทางานของ ระบบในร่างกาย
  • 33.  กรุ๊ปเลือดเอ จัดเป็นพวกมังสวิรัติ (Vegetarian Diet) คนกรุ๊ปเลือดเอนั้น น้าย่อยในกระเพาะอาหารมีความเป็นกรดต่าจึงไม่เหมาะกับอาหารประเภท เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดงเพราะย่อยได้ยาก และเป็นเหตุให้เกิดสารพิษ ขึ้นในร่างกายได้ง่าย จึงควรกินปลาและไก่แต่ควรเลี่ยงปลาเนื้อขาว เช่น ปลาตาเดียวและปลาจาระเม็ดเพราะมีเลคตินที่รบกวนระบบย่อยของคน เลือดกรุ๊ปเอ ที่น่าระวังเป็นพิเศษ คือ อาหารสาเร็จรูปประเภทไส้กรอกหรือ แฮม เพราะมีสารประกอบไนเตรทอยู่มาก สามารถกระตุ้นการเกิดมะเร็ง ในกระเพาะอาหาร ผลิตภัณฑ์นมวัวและเนย ซึ่งจะชะลอระบบเผาผลาญ อาหาร เครื่องดื่มประเภทน้าอัดลมและเบียร์
  • 34. นอกจากนี้ควรกินอาหารที่มีวิตามินซีให้มาก เพราะมีส่วนช่วยใน การทางานของระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยลดปัญหาเรื่องของกรดใน กระเพาะอาหารต่า กินผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและถั่วลิสงเพราะมีเลคตินที่ ต่อต้านมะเร็ง ผักผลไม้ ได้แก่ หอมใหญ่และบร๊อคโคลี่ มีสารแอนตี้ออกซิ แด้นท์สูง แครอท ฟักทอง ผักโขม และกระเทียม ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน สับปะรด ส้มโอ และมะนาว มีกรดที่ช่วยย่อยและเพิ่มการทางานของลาไส้ เล็ก
  • 35.  กรุ๊ปเลือดบี จัดเป็นพวกผสมผสาน (B–BALANCE) คนกรุ๊ปเลือดบี เป็นกรุ๊ป เดียวที่สามารถกินอาหารประเภทนมวัว เนย และไข่ได้ตามปกติ ยกเว้น เนยแข็งรสเค็มเพราะจะย่อยยาก และยังกินเนื้อสัตว์ได้หลากหลาย รวมทั้ง ผักผลไม้ก็กินได้หลากหลายประเภท โดยเฉพาะผักใบเขียว เพราะคนเลือด กรุ๊ปบีมีระบบย่อยอาหารที่ค่อนข้างสมดุลที่สุด แต่ต้องระวังเป็นพิเศษกับ เนื้อไก่ ซึ่งมีเลคติกที่รบกวนระบบเลือด
  • 36. และควรงดหอยเชลล์ ปลาแซลมอนชนิดรมควัน กุ้ง ปู และ หอยแครง ซึ่งเป็นอาหารที่ยังอยู่ในข่ายต้องสงสัยว่ามีผลกระทบต่อระบบ เลือดเช่นกัน เช่นเดียวกับถั่วต่างๆ โดยเฉพาะถั่วลิสงและงา จะรบกวน ระบบอินซูลิน ทาให้เกิดการลดน้าตาลในเลือดเฉียบพลันได้ อาหารทุกชนิด ที่ทาจากแป้งสาลีหรือข้าวโพดมีผลต่อระบบเผาผลาญอาหาร ทาให้น้าหนัก เพิ่ม สุดท้ายคือผักผลไม้ที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเคร่งครัด ได้แก่ มะเขือเทศ ข้าวโพด เพราะมีผลต่อกระเพาะอาหาร ระบบการย่อยอาหาร และการลด น้าตาลในเลือดเฉียบพลัน
  • 37.  คนกรุ๊ปเลือดเอบี จัดเป็นพวกลูกผสมของกรุ๊ปเอและบีคนกรุ๊ปเลือดเอบีนั้นอาหารที่ เหมาะสมจะค่อนข้างซับซ้อน เพราะเป็นส่วนผสมของลักษณะเลือดจากกรุ๊ป เอและกรุ๊ปบี หมายความว่าอาหารที่ส่งผลดีต่อร่างกายของคนเลือดกรุ๊ปเอ และคนเลือดกรุ๊ปบี ก็จะส่งผลดีต่อร่างกายคนเลือดกรุ๊ปเอบีด้วย แหล่ง โปรตีนที่เหมาะสมของคนเลือดกรุ๊ปเอบี ได้แก่ อาหารทะเล (ยกเว้นปลา เนื้อขาวแลแซลมอนรมควัน) เต้าหู้ เนื้อแดงบางชนิด เช่น เนื้อแกะ และ กระต่าย แต่ควรกินในปริมาณที่ไม่มากนักในแต่ครั้ง
  • 38.
  • 39.  ราศีมังกร คนที่เกิดราศีมังกรมักจะเป็นคนที่อยู่ในโลกของความเป็นจริง หรือไม่ค่อยเพ้อฝันเท่าไรนัก แล้วเมื่อใดที่ชาวมังกรรู้สึกกระตือรือร้นพร้อม ที่จะริเริ่มทางานใดเป็นพิเศษ ก็ควรกินอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและ โปรตีน เพื่อทาให้ร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่าอยู่ตลอดเวลา อาหาร และผลไม้ที่ควรกินได้แก่ ข้าวกล้อง ไข่ ปลา ถั่ว องุ่น แอปเปิ้ล ลูกแพร์ คน ราศีนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ด หรือรสจัดทุกชนิด ดังนั้นลองกิน ร้านอาหารจีน ญี่ปุ่น หรือฝรั่งที่มีบรรยากาศอบอุ่นและสงบ แต่หากจะไป กินอาหารไทยก็หลีกเลี่ยงเมนูที่มีรสเผ็ด
  • 40.  ราศีกุมภ์ คนที่เกิดในราศีนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ยึดถือในอุดมการณ์หรือุดม คติเป็นหลัก เป็นคนที่มีหลักการและชอบวิเคราะห์ ค่อนข้างจะเป็นคนมี ความคิดล้าหน้ากว่าคนในยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ดีชาวกุมภ์อาจจะลดความ พยายามที่จะควบคุมทุกเรื่องให้เป็นไปตามอุดมคติบ้าง เพื่อลดความเครียด ให้กับตัวเอง และควรหมั่นออกกาลังกายเป็นประจา หากพูดถึงเรื่องอาหาร ชาวกุมภ์มักจะชอบอาหารที่มีกลิ่นหอม อาหารที่ราศีนี้ควรกิน ได้แก่ แค รอท ผักกาดแก้ว ปลา ถั่ววอล์นัท แป้งโฮลวีท ข้าวโพด โยเกิร์ต และผลไม้ ชนิดใดก็ได้ เนื่องจากชาวกุมภ์เป็นคนที่กินง่าย ดังนั้นอาหารใดก็กินได้ขอ เพียงมีรสชาติอร่อยหรือมีกลิ่นหอมเย้ายวนก็พอ
  • 41.  ราศีมีน คนที่เกิดในราศีมีนค่อนข้างจะเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว เป็นคน สุภาพอ่อนหวานและมีเสน่ห์ หากเป็นผู้ชายก็คงเป็นคนสุภาพ ชาวมีนเป็นคน ที่ชอบกินอาหารทะเลมาก ชอบสังสรรค์และเป็นนักดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตัวยง ดังนั้นชาวมีนควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดแล้วหันมา ดื่มนมที่ให้แคลเซียมและโปรตีนสูงแทนเพื่อรักษาสุขภาพไว้ดีกว่า อาหารที่ ควรเลือกกินควรเป็นอาหารที่ให้โปรตีน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน และ น้าตาลสูง อาหารที่ควรกินได้แก่ ซีเรียล เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่ว ไข่ นม ผักขม หัวหอม ส่วนผลไม้ก็ควรเลือก องุ่น แอปเปิ้ล และลูกแพร์ นอกจากนี้เวลาที่ จะสังสรรค์ให้ลองเลือกร้านอาหารที่มีดนตรีขับกล่อมในบรรยากาศสบายๆ
  • 42.  ราศีเมษ ชาวเมษส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลาและ เป็นคนที่เปิดเผยตรงไปตรงมา มีไหวพริบดี โปรดปรานการกินอาหารที่มี รสจัด เผ็ดร้อนถึงใจเป็นพิเศษ แต่เกลียดการกินอาหารที่มีรสจืด ดังนั้น รสชาติอาหารเผ็ดร้อนจึงเป็นตัวกระตุ้นให้ชาวเมษเป็นคนแอคทีฟอยู่ตลอด นอกจากนี้ชาวเมษควรเลือกกินมะเขือเทศ หัวหอม มะกอก และผักใบเขียว ให้มาก เพื่อทาลายสารอนุมูลอิสระต่างๆ ที่ตกค้างจากเครื่องปรุงอาหารที่ ไม่สะอาด และที่ขาดไม่ได้ก็คือควรกินกล้วยให้ได้อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง เพราะชาวเมษเหมาะสมกับการกินผลไม้ประเภทกล้วยที่สุด
  • 43.  ราศีพฤษภ ชาวพฤษภจะเป็นคนที่ขี้สงสัยและอยากรู้อยากเห็นอยู่เรื่อยๆ ใน บางครั้งก่อนจะตัดสินใจทาอะไรจึงคิดแล้วคิดอีกจนดูเหมือนเป็นคนออกจะ หัวดื้อนิดๆ แต่มีความอดทนสูง มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง แต่มีจุดอ่อนอยู่ ตรงของหวานนี่แหล่ะ ลองชวนคนราศีนี้ออกไปกินอาหารมื้ออร่อยมื้อใหญ่ สักมื้อ และตบท้ายด้วยของหวานเลิศรสดู รับรองเลยว่าชาวพฤษภจะเป็น คนว่าง่ายโดยทันที ชาวพฤษภควรกินอาหารที่ให้ปริมาณไขมัน น้าตาล และไอโอดีน ในสัดส่วนที่พอดี อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารประเภท ฟาสท์ฟู้ดส์ เช่น ไก่ทอด หรือ เฟรนช์ฟราย เพราะมีปริมาณไขมันสูง คน ราศีนี้ควรหันมากินผลไม้ และผักแทน และให้เลือกกินส้ม หรือเชอร์รี่
  • 44.  ราศีเมถุน ชาวเมถุนเป็นคนว่องไว มักคิดและทาสิ่งใดๆ ดังนั้นจึงเป็นคนไม่ ค่อยชอบรอหรือทนกับสิ่งใดนัก อาหารประเภทฟาสท์ฟู้ด หรืออาหารจาน ด่วนจะเหมาะสม ถ้าเป็นอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น ก็คงเป็นพวกข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ หรืออาหารจานเดียว ส่วนถ้าเป็นอาหารฝรั่งก็คงไม่พ้น แฮมเบอร์เกอร์ หรือพิซซ่า ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่โปรดปราน แถมยัง สามารถกินไปพร้อมกับเวลาที่ทางานหรืออ่านหนังสือไปด้วย ชาวเมถุนเป็น คนเบื่อง่าย จึงชอบอะไรที่มีความหลากหลาย ซึ่งรวมถึงอาหารเช่นกัน และ ชอบกินอาหารนานาชนิดเปลี่ยนบรรยากาศไปเรื่อย คนราศีนี้เหมาะที่จะ สรรหาและลองไปกินร้านอาหารชาติต่างๆ ดู
  • 45.  ราศีกรกฎ ชาวกรกฎเป็นคนเอาจริงเอาจังไปกับทุกเรื่อง เพราะมีนิสัย ทะเยอทะยานและชอบใช้เวลาอยู่บ้านศึกษาหรือทาในสิ่งที่ตนเองสนใจ ด้วยความที่ชอบอยู่บ้านและมีนิสัยจริงจังไปกับทุกเรื่อง ดังนั้นถ้าได้มีเวลา ศึกษาและลงมือทาอาหารแล้วล่ะก็รับรองใครได้ชิมเป็นติดใจไปตามๆ กัน ชาวราศีนี้ชอบกินอาหารหรือร้านที่มีบรรยากาศไม่หรูหรามากนัก และต้อง ไม่ใช่อาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดเช่นกัน ชอบไปนั่งกินบรรยากาศสบายๆ
  • 46.  ราศีสิงห์ ชาวสิงห์อยากที่ใช้ชีวิตและกินเหมือนกษัตริย์ และชอบที่จะกิน อาหารรสเผ็ดเหมือนชาวเมษ แต่ไม่ค่อยถูกกับกระเทียมเท่าไรนัก ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ใส่กระเทียมและอาหารที่มีรสเค็มจัด ชาวสิงห์ควรกิน อาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อ ซึ่งได้แก่ ข้าว นม ไข่ ผัก และผลไม้ เนื้อสัตว์ก็ให้เลือกกินซีฟู้ดเป็นหลัก เพราะคนราศีนี้ต้องการเสริมธาตุ ไอโอดีนที่ได้จากสัตว์ทะเล และเลือกกินผักขมไม่ว่าจะผัด ทอด หรือกินสดๆ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ส่วนที่ขาดไม่ได้ก็คือผลไม้ ได้แก่ ส้ม แอปเปิ้ล ลูกพลับ และลูกพีช คนราศีนี้ชอบกินอาหารมื้อใหญ่ครบชุดที่เริ่มตั้งแต่อาหารเรียก น้าย่อยไปจนถึงของหวาน
  • 47.  ราศีกันย์ เป็นคนสุภาพอ่อนหวาน รวมถึงอ่อนไหว จนอาจถูกทาร้ายจิตใจได้ ง่าย แต่ก็มีข้อดีคือเป็นคนมีจิตใจที่มั่นคงถึงแม้จะอ่อนไหวไปบ้างแต่ก็จัดว่า เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษ จะเป็นอาหารที่มีส่วนผสม ของกลิ่น หรือส่วนผสมของมินท์ วานิลา และช็อคโกแล็ต ชอบอาหารที่มี การจัดเรียงและตกแต่งสวยงามและชอบติติงอาหารที่มีรสชาติไม่ค่อยถูก ปากหรืออาหารที่เสิร์ฟแบบลวกๆ เช่น อาหารจานด่วน หรืออาหารแปลก พิสดาร คนที่เกิดราศีนี้ควรเลือกกินอาหารทะเลที่ให้แร่ธาตุไอโอดีนเยอะ รวมทั้งอาหารที่ให้แคลเซียมและใยอาหารสูง
  • 48.  ราศีตุลย์ คนที่รักความยุติธรรมและความสมดุลเป็นชีวิตจิตใจจนทาให้เป็น คนไม่ค่อยชอบหรือพยายามที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้อง เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจให้เลือกทาอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าไม่เชื่อคุณลอง เอาอาหารจานโปรด 2 จาน และให้คนราศีนี้เลือกกินจานใดจานหนึ่งดู รับรองว่าทั้งเขาและเธออาจจะใช้เวลาในการเลือกนานเชียวล่ะ เนื่องจาก ชาวตุลย์เป็นคนที่ชอบความสมดุลอยู่แล้ว ดั้งนั้นอาหารที่ชาวตุลย์เลือกกิน ต้องเป็นอาหารที่ให้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ถึงจะถูกใจ สิ่งชาวตุลย์ควร หลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารประเภททอด หรือผัดที่มีน้ามันมาก นอกจากนี้ควร หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • 49.  ราศีพิจิก เป็นคนมีบุคลิกคล่องแคล่วว่องไวไม่ชอบอยู่นิ่ง และเป็นคนที่มี พรสวรรค์ในความคิดสร้างสรรค์ และจะเอาจริงเอาจังมากเวลาทาอะไร แบบทุ่มสุดตัวเชียวล่ะ จนบางครั้งอาจก่อให้เกิดความความเครียดหรือ หงุดหงิดได้ง่าย โดยเฉพาะหากเวลาที่คุณหงุดหงิดหรือเครียดแล้วล่ะก็ควร เลิกนิสัยกินจุบกินจิบหรือว่าง่ายๆก็คือ กินแก้เครียด หากชาวพิจิกหมั่นกิน ผักสดทุกชนิด หัวไชเท้า สับปะรด และนมสดเป็นประจา ก็จะสามารถ บรรเทาอาการเครียดได้ดี ชาวพิจิกควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม ชา กาแฟ น้าอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอออล์ทุกชนิด ส่วนอาหารที่ชอบจะเป็นจาพวก แกงหรืออาหารที่ปรุงด้วยเครื่องเทศต่างๆ
  • 50.  ราศีธนู เป็นคนที่มีสัญชาติญาณความเป็นผู้นาสูง หรืออาจพูดได้ว่าเป็นคน ที่เกิดมา เพื่อเป็นผู้นาอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย คนราศีนี้ บุคลิกร่าเริง เปิดเผย เป็นมิตร ชอบทากิจกรรมต่างๆ ไม่อยู่เฉย และชอบ กิน อาหารที่ถูกปากก็น่าจะเป็นอาหารที่มีรสจัด เช่น ต้มยา ส้มตา น้าพริก แกงกะทิ และยาต่างๆ ซึ่งถ้าเป็นอาหารไทยก็คงจะกินถูกปากทุกอย่าง เพราะมีรสจัดอยู่แล้ว ถ้าเป็นซีฟู้ดส์ก็คงขอให้เลือกดูร้านที่มีน้าจิ้มสูตรเด็ด สาหรับคนที่เกิดในราศีนี้ควรหาผักสดทุกชนิด มะเขือเทศ หรือส้ม มากิน เป็นประจา