More Related Content Similar to ADM3306 Media Planning &IMC Review (20) ADM3306 Media Planning &IMC Review3. ที่มาและความสาคัญ (ต่อ)
ซึ่งการที่บริษัทนาแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานมาใช้ดาเนินงาน ย่อม
ส่งผลกระทบต่อการทางานของฝ่ายต่าง ๆ ในบริษัท ที่ได้รับอิทธิพลจากแนวคิด ในการทางาน
ภายในแต่ละฝ่ายด้วย ลักษณะสาคัญจะมองว่าเครื่องมือสื่อสารนั้นพิจารณาวิธีการติดต่อสื่อสารกับ
ผู้บริโภคทุกรูปแบบ โดยไม่จากัดเฉพาะการโฆษณาเท่านั้น
นอกจากนั้น นักวางแผนโฆษณายังต้องมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เพื่อการสื่อสาร
ข้อความฝ่าผ่านการกระจุกตัวของการสื่อสารการตลาดให้ได้ ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงใน
บทบาทของนักวางแผนสื่อโฆษณา คือ มีส่วนเกี่ยวข้องในกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดมากขึ้น โดย
เข้าร่วมกับฝ่ายบริหารลูกค้าตั้งแต่เบื้องต้นของกระบวนการวิเคราะห์สินค้าติดต่อกับลูกค้ามากขึ้น
เป็นผู้ให้คาปรึกษา แต่หากนักวางแผนสื่อโฆษณาไม่มีประสบการณ์ ก็จะต้องทางานร่วมกับผู้ที่มี
ความเชี่ยวชาญในการสื่อสารการตลาดด้านนั้น ๆ โดยตรง
เพราะว่าในปัจจุบัน บริษัทตัวแทนโฆษณา นิยมทาเป็น บริษัทวางแผนสื่อโฆษณา
เพิ่มขึ้น นักวางแผนสื่อโฆษณาจึงจาเป็นต้องศึกษา การสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน เพื่อที่จะได้
มีความรู้ในการทางานมากยิ่งขึ้น
บทนา
6. นิยามศัพท์ที่ใช้ในการวิจัย (ต่อ)
2. การวางแผนสื่อโฆษณา (Advertising Media Planning) คือ กระบวนการในการกาหนดวิธีการในการ
เลือกสรรการใช้สื่อ พื้นที่และเวลาที่ดีและเหมาะสมที่สุด ในการส่งข้อความโฆษณาไปสู่กลุ่มเป้าหมาย
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทั้งวัตถุประสงค์ด้านสื่อโฆษณา วัตถุประสงค์ทางการสื่อสารการตลาด และ
วัตถุประสงค์ทางการตลาดที่วางไว้
3. ฝ่ ายวางแผนสื่อโฆษณาในบริษัทตัวแทนโฆษณา (Media Department in Advertising Agency) เป็นฝ่าย
หนึ่งภายในบริษัทตัวแทนโฆษณาที่ดาเนินงานต้องใช้แนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน
รับผิดชอบในการวางแผนและซื้อสื่อโฆษณาให้กับลูกค้า การบริหารงานอยู่ภายใต้การบริหารของผู้บริหาร
บริษัทตัวแทนโฆษณา และไม่มีผลกาไรเป็นของตนเอง
4. การสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน (Integrated Marketing Communications) เป็นแนวคิดของการ
วางแผนสื่อสารการตลาดที่ใช้รูปแบบการสื่อสารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา การตลาดทางตรง
การส่งเสริมการขาย และการประชาสัมพันธ์ รวมถึงจุดติดต่อสื่อสารทุกรูปแบบที่ลูกค้ามีกับสินค้า และ
แผนการสื่อสารการตลาดนี้ยังต้องผสมผสานการใช้เครื่องมือสื่อสารเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อนามาซึ่งการ
สื่อสารที่มีความสอดคล้อง และบรรลุวัตถุประสงค์การสื่อสารการตลาด และการตลาดที่ตั้งไว้
บทนา
8. แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
แนวคิดเรื่องการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน
แนวคิดเรื่องการวางแผนสื่อโฆษณา
แนวคิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการสื่อสาร
การตลาดแบบผสมผสานกับการวางแผนสื่อโฆษณา
10. แนวคิดเรื่องการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน
ลักษณะสาคัญของการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน (ต่อ)
2. การสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายด้วยข้อความ ภาพลักษณ์ ที่ชัดเจน และสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งเครื่องมือต่างๆ
เหล่านั้นจะทางานเพื่อช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันและนามาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้แต่ละเครื่องมือแยกกัน
3. การวางแผนการส่อสารการตลาดแบบผสมผสานจะเริ่มต้นจากลูกค้าเป็นสาคัญ พิจารณาก่อนว่าลูกค้าต้องการอะไรเป็นการ
วางงแผนภายนอกสู่ภายใน
4. เป้าหมายของการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานคือการสร้างผลให้เกิดขึ้นกับพฤติกรรมของผู้บริโภค เป็นการสร้าง
ความสัมพันธ์กับลูกค้า
5. การสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานเป็นกระบวนการติดต่อสื่อสารสองทางเป็นการสื่อสารระหว่างนักการตลาดกับผู้บริโภค
6. การส่อสารการตลาดแบบผสมผสานมีลักษณะของการวางแผนแบบฐานศูนย์ คือแนวคิดที่การเลือกใช้เครื่องมือต่าง ๆ เกิดจาก
การประเมินความจาเป็นที่ต้องทา ณ ปัจจุบัน โดยไม่อยู่บนพื้นฐานของการจัดสรรงบประมาณของปีที่ผ่านมา
7. เป็นแผนที่มีความต่อเนื่องและมุ่งเน้นที่กลยุทธ์เป็นนสาคัญ จะต้องมีความสัมพันธ์และสอดคล้องกัน และถูกออกแบบให้
บรรลุเป้าหมายบริษัท
12. แนวคิดเรื่องการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน
กระบวนการวางแผนสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน
ขั้นตอนแรก คือ การเริ่มต้นที่ลูกค้า คือการทาความเข้าใจลูกค้าด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า และทาการวิเคราะห์
ฐานข้อมูลของลูกค้าเหล่านั้น
ขั้นตอนที่สอง คือ การแบ่งกลุ่มสามารถแบ่งได้โดยตัวแปรด้านลักษณะประชากรด้านจิตวิทยา ด้านภูมิศาสตร์ รวมถึงตัว
แปรด้านพฤติกรรมในส่วนของตัวแปรด้านพฤติกรรมสามารถแบ่งออกเป็น3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้บริโภคที่มีความภักดีกับตรา
สินค้าของเรา, กลุ่มผู้บริโภคใช้ตราสินค้าอื่น และกลุ่มผู้บริโภคที่มักเปลี่ยนจากตราสินค้าหนึ่งไปสู่ตราสินค้าอื่น
ขั้นตอนที่สาม คือ การหาสถานที่ สถานการณ์ และเวลา ที่เหมาะสมที่จะทาการสื่อสารกับลูกค้า
ขั้นตอนที่สี่ คือ การนาข้อมูลที่ได้นั้นมาเริ่มทาการวางแผนและกาหนดกลยุทธ์ทางการสื่อสาร
ขั้นตอนที่ห้า คือ การระบุวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่มีความเจาะจงสาหรับแผนการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน โดย
ต้องมีความชัดเจน และสามารถประเมินผลได้เมื่อทาการกาหนดวัตถุประสงค์แล้ว
14. แนวคิดเรื่องการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน
เครื่องมือในการทาการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน
การโฆษณา
คือ รูปแบบการสื่อสารที่มิใช่การสื่อสารส่วน
บุคคล โดยระบุผู้สนับสนุน การโฆษณามัก
ทาโดยผ่านทางสื่อมวลชน และการจ่ายเงิน
ในที่นี้หมายถึงการจ่ายเงินเพื่อซื้อเวลาและ
พื้นที่ของสื่อในโฆษณานั่นเองโฆษณาเป็น
เครื่องมือสื่อสารที่มีคววามสาคัญเนื่องจาก
เป็นวิธีการสื่อสารการตลาดที่ให้ความคุ้มค่า
กับเงินที่จ่ายไปในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค
กลุ่มใหญ่
การประชาสัมพันธ์
คือ การวางแผนและดาเนินการปฏิบัติการในการสร้างความเข้าใจ
อันดี และยอมรับในองค์กรต่อสาธารณชน โดยมีวิธีการเช่น การมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน
การตลาดทางตรง
เป็นการสื่อสารโดยตรงไปยัง
ผู้บริโภคเป้าหมายเพื่อให้เกิด
การตอบกลับ
การส่งเสริมการขาย
เป็นกิจกรรมทางการตลาดที่
กระตุ้นให้เกิดการซื้ออย่าง
ทันทีทันใดได้สามารถเพิ่ม
ยอดขายของสินค้าในช่วง
ระยะเวลาสั้น ๆ ได้
17. แนวคิดเรื่องการวางแผนสื่อโฆษณา
กระบวนการวางแผนสื่อโฆษณา (ต่อ)
3. การกาหนดกลยุทธ์การสร้างสรรค์โฆษณา(AdvertisingCreative Strategy) ซึ่งเกี่ยวข้องกับในเรื่องของการ
จะทาการสื่อสารอะไรไปสู่ผู้บริโภค
4. การกาหนดวัตถุประสงค์ของการวางแผนสื่อโฆษณา (Media Objective) ซึ่งเน้นเป้าหมายที่สาคัญที่สุด ซึ่ง
วัตถุประสงค์นี้ประกอบด้วยการระบุกลุ่มเป้าหมายจานวนกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเข้าถึง สถานที่และเวลาที่จะเข้าถึง
กลุ่มเป้าหมาย
5. การพัฒนากลยุทธ์สื่อโฆษณา(Media Strategy) เป็นลาดับขั้นตอนของการตัดสินใจซึ่งครอบคลุมในหลาย
ประเด็น เช่น ควรใช้สื่อประเภทใด ควรวางตารางเวลาในการโฆษณาอย่างไร
6. การกาหนดกลวิธี (Tactics)ในการใช้สื่อ ซึ่งประกอบไปด้วยการเลือกเครื่องมือสื่อที่จะลงโฆษณาเพราะใน
แต่ละประเภทของสื่อยังมีเครื่องมือที่แยกย่อยออกไปอีกมากมาย
18. แนวคิดเรื่องการวางแผนสื่อโฆษณา
การกาหนดวัตถุประสงค์ของการวางแผนสื่อโฆษณา
1. จานวนเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มเป้าหมายที่เห็นโฆษณาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง (Reach) โดยการวัดนั้นจะทาใน
ช่วงเวลาที่กาหนด โดยปกติ คือ 4 สัปดาห์ ในการกาหนดวัตถุประสงค์ของแผนสื่อโฆษณาโดยเน้นไปที่ค่าเปอร์เซ็นต์การ
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย หรือเน้นที่จานวนความถี่ในการเห็นโฆษณานั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ต่างกัน
2. การกาหนดความต่อเนื่องของการใช้สื่อ(Continuity)สามารถกาหนดได้ใน 3 รูปแบบด้วยกันคือ 1) ใช้สื่อ
อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการโฆษณา(ContinuityPattern) 2) รูปแบบการใช้สื่อที่ไม่สม่าเสมอ ไม่ต่อเนื่อง มีการเว้น
ว่างโดยหยุดการโฆษณา (Fightingor BurstingPattern) 3) เป็นรูปแบบที่ผสมกันของรูปแบบที่ 1 และ 2 โดยจะเป็นการใช้
การโฆษณาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี (PulsingPattern) แต่มีหลากหลายช่วงเวลาสาคัญ ๆ โดยดูจากข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้า
หรือประวัติการขายจะเป็นประโยชน์อย่างมาก
3. พื้นที่ที่จะทาการโฆษณา เป็นการกาหนดว่าพื้นที่ใดที่จะทาการโฆษณาไปถึงจะเลือกใช้สื่อเพื่อเข้าถึง
กลุ่มเป้าหมายในทั่วประเทศ หรือ ณ พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง
19. แนวคิดเรื่องการวางแผนสื่อโฆษณา
การกาหนดกลยุทธ์สื่อโฆษณา
ประกอบไปด้วยการเลือกประเภทของสื่อที่จะใช้และทาการผสมผสานสื่อเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการวางแผน
สื่อโฆษณาที่กาหนดไว้โดยแบ่งออกเป็น
1. ปัจจัยด้านผู้รับสาร (Audience Factor) คือ การวิเคราะห์ในด้านความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย,
ความถี่ในการเสนอโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมาย,การเลือกรายละเอียดของสื่อเพื่อเข้าถึงความสนใจของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง
กันได้, การครอบคลุมพื้นที่เฉพาะ และการคานึงด้านศีลธรรม
2. ปัจจัยด้ายข้อความโฆษณา (Message Factor) คือ การพิจารณาในด้านต่างๆ เช่น อายุของข้อความ, ความทันต่อ
เหตุการณ์, การดึงดูดใจด้านอารมณ์,การเลือกพื้นที่ที่จะให้โฆษณาปรากฏ,การเป็นสื่อสนับสนุนที่ดี และการตอบสนองต่อ
โฆษณา เป็นต้น
3. ปัจจัยด้านประสิทธิภาพ (EfficiencyFactor) คือ การพิจารณาในเรื่องราคาต่อชิ้น,ค่าใช้จ่ายต่อหนึ่งพันคน,
ค่าใช้จ่ายในการผลิต, ความยืดหยุ่นในการผลิต, คุณภาพของการทาสาเนา และส่วนลด
4. ความรวดเร็วในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Speed of Reach)
5. เกณฑ์เชิงคุณภาพ (QualitativeCriteria)เพื่อใช้การประเมินสื่อประเภทต่างๆ ด้วย
20. แนวคิดเรื่องการวางแผนสื่อโฆษณา
การผสมผสานสื่อ (Media Mix)
1. เพื่อให้โฆษณานั้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ยัง
ไม่ได้เห็นโฆษณาจากสื่อแรกที่เลือกใช้
2. เพื่อสร้างความถี่ที่เพิ่มขึ้นในการเห็นโฆษณา
3. เพื่อให้สร้างสรรค์โฆษณาในหลากหลาย
รูปแบบสามารถนาไปปฏิบัติได้
4. เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายจดจาข้อความ
โฆษณาได้จากการที่มีตัวกระตุ้นก็คือสื่อโฆษณาหลายๆ
แบบ
5. เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไป
6. เพื่อสนับสนุนการทากิจกรรมการตลาดอื่นๆ
ที่ทาไม่ได้ในสื่อแรกที่เลือก
การตัดสินใจในงบประมาณการวางแผนสื่อโฆษณา
1. การกาหนดงบประมาณด้านสื่อโฆษณาจง
งบประมาณด้านสื่อโฆษณาสาหรับทั้งปี
2. ตัดสินงบประมาณด้านสื่อโฆษณาโดยคิดเป็น
เปอร์เซ็นต์จากยอดขายของปีที่ผ่านมาของบริษัท
3. ตัดสินงบประมาณด้านสื่อโฆษณาโดยคิดเป็น
เปอร์เซ็นต์จากยอดขายของปีที่ผ่านมาของคู่แข่ง
4. กาหนดงบประมาณด้านสื่อโฆษณาโดยกาหนดส่วน
แบ่งของการใช้เงินให้เทียบเท่ากับส่วนแบ่งการตลาด
5. การกาหนดงบประมาณโดยคิดเป็นสัดส่วนจาก
งบประมาณการโฆษณาของทั้งตลาดซึ่งจะทาให้งบประมาณ
กาหนดนั้นแปรไปตามการใช้จ่ายเงิของทั้งตลาด
21. แนวคิดเรื่องการวางแผนสื่อโฆษณา
ข้อมูล และปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการวางแผนสื่อโฆษณา
ปัจจัยด้านการตลาด
ข้อมูลสินค้า
เช่น คุณลักษณะสินค้า, ความสามารถในการทากาไรของสินค้า
ข้อมูลด้านช่องทางการกระจายสินค้า
เช่น ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่ามีการกระจายสินค้าไปในพื้นที่ใดบ้าง, ข้อมูลด้านนโยบายการ
กระจายสินค้า, บุคลิกของร้านค้าปลีก
ข้อมูลด้านกลยุทธ์ และการตั้งราคา
1) กาหนดราคา 2) นโยบายด้านราคา 3) ผลกระทบซึ่งกันและกันระหว่างกลยุทธ์ด้านราคา และ
คุณลักษณะของสินค้า
การส่งเสริมการตลาด
เป็นกลยุทธ์ผลัก (Push Strategy) หรือดึง (Pull Strategy) ในส่วนของโฆษณานั้นอิทธิพลต่อ
การวางแผนสื่อโฆษณาใน 3 ประเด็นด้วยกัน คือ 1) วัตถุประสงค์ของโฆษณา 2) การวางตาแหน่ง
ของตราสินค้า 3) เนื้อหาข้อความโฆษณา
23. แนวคิดเรื่องการวางแผนสื่อโฆษณา
ปัญหาในการวางแผนสื่อโฆษณา
การเพิ่มจานวนขึ้นอย่างมากของสื่อ
และทางเลือกใหม่ ๆ ในการใช้สื่อ เป็น
ปัญหาที่ทาให้นักวางแผนสื่อโฆษณา
ต้องหาว่าเครื่องมือใดคือวิธีการที่ดี
ที่สุดในการส่งข้อความสินค้าไปสู่
กลุ่มเป้าหมาย
การขาดวิธีการที่ถูกต้องที่ใช้วัด
ประสิทธิภาพทาให้การประเมิน
ประสิทธิภาพของสื่อ 2 สื่อเทียบกัน
ไปเป็นค่อนข้างยาก และที่สาคัญทา
ให้เป็นการยากในการยืนยันถึง
ผลกระทบของส่วนผสมสื่อที่ใช้ใน
แผนสื่อโฆษณา
การมีข้อมูลไม่เพียงพอการขาดแคลน
ข้อมูลนั้นหมายความรวมถึงการไม่มี
ข้อมูลที่นักวางแผนสื่อโฆษณาต้องการ
ซึ่งอาจเนื่องมาจากไม่มีวิธีการที่จะเก็บ
ข้อมูลได้หรือข้อมูลที่ต้องการต้องใช้
ค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไปในการทาการ
จัดเก็บ นอกจากนั้นอาจเป็นปัญหา
เกี่ยวกับเวลาในการทาการจัดเก็บข้อมูล
ที่ต้องทาในช่วงเวลาเฉพาะ และการที่
ลูกค้ามีงบประมาณน้อยไม่มี
งบประมาณที่จะสนับสนุนในเรื่อง
ข้อมูล ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทาให้มี
ข้อมูลไม่เพียงพอ
ความกดดันจากการต้องการความ
แปลกใหม่ในแผนสื่อโฆษณาจากเดิม
แผนสื่อโฆษณามักประกอบไปด้วย
ข้อมูลตัวเลขและสถิติ โดยสิ่งที่จะทา
ให้นักโฆษณาสามารถสร้างแผนสื่อ
โฆษณาที่ดีที่แตกต่างไปจากเดิมได้ก็
คือ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์
ความกดดันจากลูกค้า ลูกค้าอาจเข้ามา
มีส่วนร่วมในการตัดสินใจวางแผน
ของนักวางแผนสื่อโฆษณา ไม่ว่าจะ
เป็นในการเลือกสื่อ และการตัดสินใจ
ว่าจะใช้สื่อที่ใช้อยู่ต่อไปหรือไม่
ความกดดันเรื่องเวลา
เนื่องจากงานของนักวางแผน
สื่อโฆษณานั้นค่อนข้าง
ละเอียด และการที่งานของนัก
วางแผนสื่อโฆษณาต้องอาศัย
เวลาในการดาเนินการ
ค่อนข้างมาก จึงมักเกิดปัญหา
เวลาในการทางานไม่เพียงพอ
30. ระเบียบ
วิธีการวิจัย
การศึกษาวิจัยเรื่อง "สถานภาพการวางแผนสื่อโฆษณากับแนวคิดการสื่อสารการตลาด
แบบผสมผสานนี้ประกอบด้วยการวิจัย 2 ส่วนคือ
การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)
ในส่วนนี้เป็นการศึกษาถึงผลกระทบของแนวคิดการสื่อสารการตลาดที่มีต่อการวางแผน
สื่อโฆษณาในด้านต่างๆรวมถึงผลกระทบที่มีต่อตัวบุคลากรด้านการวางแผนสื่อโฆษณาปัญหาที่
เกิดขึ้นจากการนาแนวคิดการสื่อสารการตลาดมาใช้ในการวางแผนสื่อโฆษณาและแนวทางใน
การแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยวิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In – depth Interview)
กลุ่มที่ทาการศึกษา
ประกอบด้วย2 กลุ่ม คือผู้บริหารของบริษัทวางแผนสื่อโฆษณาอิสระ (Media
Independent) และผู้บริหารของฝ่ายวางแผนสื่อโฆษณา (Media Department)ภายในบริษัท
ตัวแทนโฆษณาที่ใช้แนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานโดยกลุ่มที่ทาการศึกษาทั้ง2
กลุ่ม จากัดอยู่เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครเนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวโดย
ผู้วิจัยได้นารายชื่อบริษัทวางแผนสื่อโฆษณาอิสระ และบริษัทตัวแทนโฆษณามาจากหนังสือ
AdvertisingBook 2002
31. กลุ่มที่ทาการศึกษา (ต่อ)
1) ผู้บริหารของบริษัทวางแผนสื่อโฆษณาอิสระ (Media Independent) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการ
ในการวางแผนและซื้อสื่อโฆษณาให้กับลูกค้าโดยมีการบริหารงานและผลกาไรเป็นของตนเอง
ประกอบด้วย 3 ประเภทคือ
▸ บริษัทวางแผนสื่อโฆษณาอิสระที่แยกตัวมาจากฝ่ายวางแผนสื่อโฆษณาของบริษัทตัวแทนโฆษณา
แห่งเดียว
▸ บริษัทวางแผนสื่อโฆษณาอิสระที่แยกตัวมาจากฝ่ายวางแผนสื่อโฆษณาของบริษัทตัวแทนโฆษณา
หลายแห่งรวมกัน
▸ บริษัทวางแผนและซื้อสื่อโฆษณาอิสระที่ไม่อยู่ภายใต้บริษัทโฆษณาใด โดยเป็นเครือข่ายบริษัท
วางแผนและซื้อสื่อโฆษณาอิสระของต่างชาติ โดยรวมแล้วบริษัทวางแผนสื่อโฆษณาอิสระทั้ง 3
ประเภท มีทั้งสิ้น 13 บริษัท
ระเบียบ
วิธีการวิจัย
32. รายชื่อบริษัทวางแผนสื่อโฆษณาอิสระทั้ง3 ประเภท
บริษัท InitiativeMedia
บริษัท Media Com
บริษัท The Mediaedge: CIA
บริษัท Starcom Thailand
บริษัท Universal McCann
บริษัท Zenith Opti Media
บริษัท Mindshare Thailand
บริษัท Maximize Thailand
บริษัท Motivator
บริษัท Optimum Media Direction (Thailand)
บริษัท Media Intelligence
บริษัท Carat Media Service (Thailand)
บริษัท Brand Connection
ระเบียบ
วิธีการวิจัย
33. กลุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้ทาการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง(Purposive Sampling)โดยเลือกผู้บริหาร
ในระดับ Media Directorขึ้นไป
รายชื่อผู้สัมภาษณ์ ตาแหน่ง บริษัท
คุณวรรณี รัตนพล Managing Director Initiative Media
คุณอาภา เสนีย์ประกรไกร Media Director Media Com
คุณมานะ จันทนยิ่งยง Managing Director Mediaedge : CIA
คุณปรียาดา วุฒิภักดี Managing Director Starcom Thailand
คุณมาลี กิตติพงษ์ไพศาล Media Planning Director Mindshare Thailand
คุณตปนีย์แก้วประสิทธิ์ Associate Media Planning Director Maximize Thailand
คุณประพงษ์บุญสูง Business Director Motivator
คุณพรรฤดี ช.เจริญยิ่ง Associate Planning Director Optimum Media Direction (Thailand)
คุณไพจิตร เทียนทอง Chief Operating Officer Carat Media Service (Thailand)
ระเบียบ
วิธีการวิจัย
ที่มา : ชลาลัย นาควิไล (2545). สถานภาพการวางแผนสื่อโฆษณาแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน. วิทยานิพนธ์ปริญญา
นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการโฆษณา ภาควิชาการประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย .
34. กลุ่มที่ทาการศึกษา (ต่อ)
2) ผู้บริหารของฝ่ ายวางแผนสื่อโฆษณา
(Media Department) ภายในบริษัทตัวแทน
โฆษณาที่ใช้แนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบ
ผสมผสานซึ่งรับผิดชอบทั้งการวางแผนและ
ซื้อสื่อโฆษณาให้กับลูกค้าโดยไม่มีผลกาไร
เป็นของตนเองและการบริหารงานอยู่ภายใต้
การบริหารของผู้บริหารบริษัทตัวแทนโฆษณา
และมีผู้บริหารฝ่ายในระดับ Media Manager
ขึ้นไป มีทั้งสิ้น 11 บริษัทด้วยกันโดยการ
ตรวจสอบว่าบริษัทตัวแทนโฆษณามีการใช้
แนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน
หรือไม่นั้นใช้การอ้างอิงจากภูวนาท คุนผลิน
(2543)
ซึ่งบริษัททั้ง 11 บริษัท ได้แก่
▸ บริษัท Access & Associates
▸ บริษัท Amex Team Advertising
▸ บริษัท Asatsu(Thailand)
▸ บริษัท Century Advertising
▸ บริษัท CVTAdvertising
▸ บริษัท Dai-IchiKikaku (Thailand)
▸ บริษัท Dentsu (Thailand)
▸ บริษัท Fame Line
▸ บริษัท Major Advertising
▸ บริษัท Prakit Holding
▸ บริษัท SC Matchbox
ระเบียบ
วิธีการวิจัย
35. กลุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้ทาการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) โดยเลือกผู้บริหาร
ในระดับ Media Manager ขึ้นไป
รายชื่อผู้สัมภาษณ์ ตาแหน่ง บริษัท
คุณสรศัลย์ดูอนุพงษ์
Head of Media / PR
Department
Asatsu (Thailand)
คุณกรรณิการ์ ไพศาลนันท์ Media Manager Century Advertising
คุณเกษมชัย นิธิวรรณากุล
Vice Chairman / Media
Director
CVT Advertising
คุณเกษแก้ว อิทธิกุล Media Director Fame Line
คุณรัชดา หฤทัยปรีย์ Media Planning Director Prakit Holding
ระเบียบ
วิธีการวิจัย
ที่มา : ชลาลัย นาควิไล (2545). สถานภาพการวางแผนสื่อโฆษณาแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน. วิทยานิพนธ์ปริญญา
นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการโฆษณา ภาควิชาการประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย .
37. การวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยได้ใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณนา (DescriptiveAnalysis)โดยแบ่งการวิเคราะห์
ออกเป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้ การยอมรับในแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน,
ขอบเขตการให้บริการ, การนาแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานมาใช้ในการวางแผน
สื่อโฆษณา, ความต้องการข้อมูลที่ใช้ในการวางแผนสื่อโฆษณาที่มีการนาเอาแนวคิดการสื่อสาร
การตลาดแบบผสมผสานเข้ามาใช้, การเลือกใช้และให้น้าหนักกับแต่ละสื่อ,บทบาทของนัก
วางแผนสื่อโฆษณาสาหรับการวางแผนสื่อโฆษณาที่นาเอาแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบ
ผสมผสานเข้ามาใช้คุณสมบัติของนักวางแผนสื่อโฆษณาที่จะวางแผนสื่อโฆษณาโดยใช้แนวคิด
การสื่อสาร, การตลาดแบบผสมผสานความแตกต่างของการวางแผนสื่อโฆษณาที่มีการนาเอา
แนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานเข้ามาใช้กับการวางแผนสื่อโฆษณาที่ไม่ได้นา
แนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานเข้ามาใช้, ปัญหาในการวางแผนสื่อโฆษณาที่มีการ
นาแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานเข้ามาใช้, โครงสร้างการทางานภายในองค์กร,
และผลกระทบของแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานต่อธุรกิจการวางแผนสื่อโฆษณา
โดยรวม
ระเบียบ
วิธีการวิจัย
41. ขั้นตอนการดาเนินการเก็บข้อมูล
1. รวบรวมเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ งานวิจัยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนสื่อโฆษณา, การสื่อสาร
การตลาดแบบผสมผสานและบริษัทตัวแทนโฆษณา, รายชื่อบริษัทวางแผนสื่อโฆษณาอิสระและรายชื่อบริษัท
ตัวแทนโฆษณาที่ดาเนินงานด้วยแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานซึ่งมีฝ่ายวางแผนสื่อโฆษณาอยู่
ภายในบริษัท
2. ทาการตั้งแนวคาถาม เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยทั้งแนวคาถามสาหรับการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกและแนว
คาถาม สาหรับแบบสอบถาม
3. ทาการติดต่อนัดสัมภาษณ์ กับผู้บริหารองค์กรวางแผนสื่อโฆษณาและทาการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ในช่วง
เดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน พ.ศ.2546
4. ทาการปรับเพิ่มแนวคาถามของแบบสอบถาม ในเรื่องความคิดเห็นของนักวางแผนสื่อโฆษณาต่อผลกระทบ
ของการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานที่มีต่อการวางแผนสื่อโฆษณาโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์
แบบเจาะลึก
5. ทาการแจกแบบสอบถาม กับนักวางแผนสื่อโฆษณาในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนพ.ศ.2546
6. นาข้อมูลที่ได้ จากการวิจัยทั้ง 2 ประเภทมาทาการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล
ระเบียบ
วิธีการวิจัย
44. สรุปผลการวิจัย
งานวิจัยเรื่อง “สถานภาพการวางแผนสื่อโฆษณากับแนวคิดการสื่อสาร
การตลาดแบบผสมผสาน” ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) ศึกษาถึงอิทธิพลของแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานที่มีต่อการ
วางแผนสื่อโฆษณาขององค์กรทั้งฝ่ายวางแผนสื่อโฆษณาและบริษัทวางแผนสื่อโฆษณา
อิสระในประเทศไทย
2) ศึกษาความพร้อมของบุคลากรที่ทางานด้านการวางแผนสื่อโฆษณาที่มีต่อ
แนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน
ใช้การวิจัย 2 ประเภท 1. การวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก
2. วิจัยเชิงปริมาณด้วยวิธีการวิจัยเชิงสารวจโดยใช้แบบสอบถาม สรุปผลวิจัยที่ได้เป็น2
ส่วน คือ สรุปผลการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก และ สรุปผลการวิจัยเชิงสารวจ
สรุป
อภิปรายผล
และ
ข้อเสนอแนะ
45. สรุปผลการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก
การสัมภาษณ์จะประกอบด้วยผู้บริหารจากทั้งฝ่ายวางแผนโฆษณาในบริษัท
ตัวแทนโฆษณาจานวน 9 ท่าน และผู้บริหารบริษัทวางแผนสื่อโฆษณาอิสระจานวน5 ท่าน
รวมเป็น 14 ท่าน ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่ดารงตาแหน่งMedia Directorหรือ Media
Planning Directorมีประสบการณ์ด้านวางแผนสื่อโฆษณา10-15 ปี และส่วนใหญ่จบ
การศึกษาในด้านบริหารธุรกิจและสื่อสารมวลชน จากการสัมภาษณ์
การเข้ามาของแนวคิดการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานนั้นได้ส่งผลต่อธุรกิจ
การวางแผนสื่อโฆษณาโดยรวมคือทาให้ธุรกิจวางแผนสื่อโฆษณามีการขยายตัวมากขึ้น
เนื่องจากบริษัทมีการขยายขอบเขตให้บริการซึ่งทาให้สามารถดึงดูดลูกค้าใช้งบประมาณกับ
บริษัทวางแผนสื่อโฆษณาได้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนและบริษัทต่างแข่งขันกันในการนาเสนอสื่อ
ใหม่ รวมถึงทาให้ภาพรวมของการวางแผนสื่อโฆษณามีการพัฒนาและคุณภาพมากขึ้น
สรุป
อภิปรายผล
และ
ข้อเสนอแนะ