More Related Content
Similar to กาแฟดีต่อสุขภาพ
Similar to กาแฟดีต่อสุขภาพ (20)
More from Ploy Jutamas (11)
กาแฟดีต่อสุขภาพ
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง 33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน กาแฟดีต่อสุขภาพ (Coffee Good)
ชื่อผู้ทำาโครงงาน
1. น.ส.จุฑามาศ แก้วคำามูล เลขที่ 20 ชั้น ม.6 ห้อง 4
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดำาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สำานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน
การจัดทำาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม กาแฟดีต่อสุขภาพ
1.น.ส.จุฑามาศ แก้วคำามูล เลขที่ 20
- 2. 2
คำาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อ
ไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) กาแฟดีต่อสุขภาพ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Coffee Good
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทำาโครงงาน น.ส.จุฑามาศ แก้วคำามูล
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดำาเนินงาน 29 กันยายน 2558 – 20 ธันวาคม 2558
ที่มาและความสำาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล
ของการทำาโครงงาน)
ปัจจุบันมีการดื่มกาแฟกันเป็นจำานวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
และร้านกาแฟก็เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ภายในร้านมีทั้งกาแฟ ชา และนม แต่
หลายคนกลับไม่รู้ว่ากาแฟมีประโยชน์และโทษอย่างไรบ้าง ประโชยน์ของ
กาแฟอาจจะมีมากกว่าโทษ แต่โทษอาจจะให้ผลที่ร้ายแรงกว่า โครงงานนี้
เลยจะสำารวจร้านกาแฟและสำารวจผู้ที่ดื่มกาแฟ ว่ารู้เกี่ยวกับกาแฟมากน้อย
แค่ไหน เพื่อจะให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทำาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อให้รู้ถึงคุณและโทษของกาแฟ
2. เพื่อให้เข้าใจถึงกาแฟ
3. เพื่อเพิ่มความรู้เรื่องกาแฟ
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจำากัดของการ
ทำาโครงงาน)
1. สิ่งที่ศึกษา ศึกษาเรื่องของกาแฟ
2. สถานที่ศึกษา ร้านกาแฟรอบๆเมืองเชียงใหม่
3. ระยะเวลาในการศึกษา 29 กันยายน 2558 – 20 ธันวาคม 2558
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทำาโครง
งาน)
กาแฟมีคุณหลายอย่าง อาทิ
1. กาแฟมีคาเฟอิน ซึ่งสามารถกระตุ้นประสาทส่วนกลางและกล้ามเนื้อ
ทำาให้ผู้ดื่มรู้สึกสมองสดชื่น ตื่นเต้น และช่วยแก้ความอ่อนเพลียของกล้ามเนื้อ
เพิ่มประสิทธิภาพการทำางานให้สูงขึ้น
- 3. 3
2. กาแฟเป็นผลดีต่อผิวพรรณ เพราะว่ากาแฟสามารถทำาให้เลือดไหลเวียน
ได้คล่อง ช่วยให้อวัยวะย่อยอาหารทำางานได้ดีขึ้น ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก
และเวลาอาบนำ้า ผสมผงกาแฟลงไปด้วย จะมีบทบาทช่วยลดไขมัน
3. กาแฟช่วยแก้เมา เพราะคาเฟอินจะไปเสริมสมรรถนะของตับและไต หลัง
ดื่มเหล้าแล้ว จะช่วยละลายแอลกอฮอร์ให้เป็นนำ้าและไคบอนไดออกไซต์ ขับ
ออกจากร่างกาย
4. ดื่มกาแฟวันละ 3 ถ้วย จะป้องกันนิ่วในถุงนำ้าดีได้ เพราะว่าคาเฟอิน
สามารถกระตุ้นให้ถุงนำ้าดีหดตัว ลดคอเลสเตอรอลในถุงนำ้าดี ซึ่งเป็นสารที่จะ
ทำาให้เกิดนิ่วในถุงนำ้าดี ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด สหรัฐฯ ปรากฎ
ว่า ผู้ชายที่ดื่มกาแฟ 2-3 ถ้วยต่อวัน จะเป็นนิ่วในถุงนำ้าดีตำ่ากว่าผู้ไม่ดื่ม
กาแฟ 40%
5. กาแฟมีผลป้องกันหัวใจ ทำาให้เจริญอาหาร ขจัดไขมัน ขจัดความชื้นออก
จากร่างกาย
6. กาแฟสามารถขจัดกลิ่นปาก เมื่อรับประทานกระเทียมหรืออาหารที่มีกลิ่น
แรง สามารถดื่มกาแฟสักถ้วยหนึ่งเพื่อช่วยขจัดกลิ่นปาก
7. กาแฟช่วยป้องกันมะเร็งลำาไส้ใหญ่และมะเร็งตับ
8. เมื่อรับประทานอาหารประเภทเนื้อมากแล้ว ดื่มกาแฟจะทำาให้กระเพาะ
อาหารมีนำ้าย่อยออกมามากขึ้น ช่วยละลายไขมัน แต่สำาหรับผู้ป่วยเป็นโรค
กระเพาะอาหาร ไม่ดื่มกาแฟดีกว่า
9. กาแฟดำามีผลช่วยลดความอ้วนได้ หลังอาหารเที่ยงครึ่งชั่วโมงถึง 1
ชั่วโมง และก่อนเลิกงานดื่มกาแฟดำาข้นที่ไม่ใส่นำ้าตาล และเดินเล่นอีกสักพัก
จะได้ช่วยเผาผลาญไขมัน จนลดความอ้วน
10. กาแฟดำาสามารถช่วยแก้อาการความดันโลหิตตำ่า
โทษของกาแฟมีดังนี้
1. ทำาให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ผลการวิจัยปรากฎว่า ดื่มกาแฟแก้วหนึ่งแล้ว
ความดันโลหิตจะสูงขึ้นนานถึง 12 ชั่วโมง ดังนั้น กลุ่มคนที่เป็นความดัน
โลหิตสูง ไม่ควรดื่มกาแฟขณะรู้สึกเครียด หรือมีแรงกดดันมากจากการ
ทำางาน
- 4. 4
2. กาแฟจะส่งผลกระทบต่อการดูดซึมแร่ธาตุ คาเฟอินจะส่งผลกระทบต่อ
การดูดซึมแร่ธาตุของลำาไส้ เช่นแคลเซียม เหล็กและสังกะสี ดังนั้น เด็กไม่
ควรดื่มกาแฟ
3. กาแฟจะทำาให้ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารเป็นแผลร้ายแรงขึ้น เนื่องจาก
กาแฟจะทำาให้กระเพาะอาหารมีนำ้าย่อยออกมามากขึ้น จนทำาให้เป็นแผลมาก
ขึ้น ดังนั้น ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารที่เป็นแผลในกระเพาะไม่ควรดื่มกาแฟ
มาก โดยเฉพาะในช่วงท้องว่าง
4. กาแฟจะทำาให้กระดูกพรุน เนื่องจากคาเฟอินมีคุณประโยชน์ทำาให้ขับ
ปัสสาวะมากขึ้น ถ้าดื่มกาแฟเป็นเวลานาน จะทำาให้สูญเสีแคลเซียมยไปกับ
ปัสสาวะมาก จนกระดูกพรุน โดยเฉพาะสำาหรับผู้หญิงหลังวัยทอง ไม่ควรดื่ม
กาแฟมากเกินควร
5. หญิงตั้งครรภ์ถ้าดื่มกาแฟมาก จะทำาให้ทารกที่อยู่ในครรภ์เติบโตไม่เป็น
ปกติ หรืออาจแท้งได้
6. กาแฟจะทำาลายวิตามิน B1 ซึ่งเป็นวิตามินที่รักษาความสมดุลและความ
มั่นคงของระบบประสาท ดังนั้น ผู้ที่ขาดวิตามิน B1 ไม่ควรดื่มกาแฟ
วิธีดำาเนินงาน
แนวทางการดำาเนินงาน
1. กำาหนดหัวข้อที่ต้องการศึกษา
2. รวบรวมข้อมูลที่จะทำาการศึกษา
3. ทำาโครงร่างของโครงงานที่ทำาการศึกษา
4. เริ่มทำาการศึกษาในหัวข้อที่ต้องการ
5. รวบรวมข้อมูลที่ได้ศึกษา
6. ทำาเป็นโครงงานให้สมบูรณ์ที่สุด
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิงเตอร์
2. อินเตอร์เน็ต
3. CD
4. รูปเล่มโครงงาน
งบประมาณ 500 บาท
- 5. 5
ขั้นตอนและแผนดำำเนินงำน
ลำำ
ดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดำห์ที่ ผู้รับผิด
ชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครง
งำน
2 ศึกษำและ
ค้นคว้ำข้อมูล
3 จัดทำำโครงร่ำง
งำน
4 ปฏิบัติกำรสร้ำง
โครงงำน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 กำรทำำเอกสำร
รำยงำน
7 ประเมินผลงำน
8 นำำเสนอโครง
งำน
ผลที่คำดว่ำจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องกำรให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดกำรทำำโครง
งำน)
1. มีผู้รู้จักเรื่องกำแฟมำกขึ้น
2. มีผู้เข้ำใจถึงคุณและโทษของกำแฟมำกขึ้น
3. มีผู้ต่อยอดเรื่องกำแฟมำกขึ้น
สถำนที่ดำำเนินกำร
- โรงเรียนยุพรำชวิทยำลัย
- ร้ำนกำแฟรอบเมืองเชียงใหม่
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ในรำยวิชำ ชีววิทยำ
แหล่งอ้ำงอิง (เอกสำร หรือแหล่งข้อมูลต่ำง ๆ ที่นำำมำใช้กำรทำำโครงงำน)
http://thai.cri.cn/461/2009/12/30/224s166762.htm
- 6. 5
ขั้นตอนและแผนดำำเนินงำน
ลำำ
ดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดำห์ที่ ผู้รับผิด
ชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครง
งำน
2 ศึกษำและ
ค้นคว้ำข้อมูล
3 จัดทำำโครงร่ำง
งำน
4 ปฏิบัติกำรสร้ำง
โครงงำน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 กำรทำำเอกสำร
รำยงำน
7 ประเมินผลงำน
8 นำำเสนอโครง
งำน
ผลที่คำดว่ำจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องกำรให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดกำรทำำโครง
งำน)
1. มีผู้รู้จักเรื่องกำแฟมำกขึ้น
2. มีผู้เข้ำใจถึงคุณและโทษของกำแฟมำกขึ้น
3. มีผู้ต่อยอดเรื่องกำแฟมำกขึ้น
สถำนที่ดำำเนินกำร
- โรงเรียนยุพรำชวิทยำลัย
- ร้ำนกำแฟรอบเมืองเชียงใหม่
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ในรำยวิชำ ชีววิทยำ
แหล่งอ้ำงอิง (เอกสำร หรือแหล่งข้อมูลต่ำง ๆ ที่นำำมำใช้กำรทำำโครงงำน)
http://thai.cri.cn/461/2009/12/30/224s166762.htm