More Related Content
Similar to ดอกตอนที่2 (20)
More from krabi Primary Educational Service Area Office
More from krabi Primary Educational Service Area Office (10)
ดอกตอนที่2
- 1. bracteole ( ใบประดับย่อย ) corolla ( วงกลีบดอก ) petaloid staminode ( เกสรเพศผู้เป็นหมันที่เปลี่ยนรูปไปคล้ายกลีบดอก ) sepal ( กลีบเลี้ยง ) พุทธรักษา ( Canna sp.) พุทธรักษาออกดอกเป็นช่อ ดอกย่อยแต่ละดอกมีใบประดับย่อยสีเขียวรองรับ กลีบเลี้ยง 3 กลีบ แยกจากกันเป็นอิสระ กลีบดอก 3 กลีบเชื่อมติดกันที่โคน และเชื่อมติดกับเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียด้วย ทำให้มีลักษณะคล้ายเป็นหลอด เกสรเพศผู้ 1 อัน เปลี่ยนรูปไปคล้ายเป็นกลีบดอก แต่ยังคงเห็นอับเรณูติดอยู่ที่ด้านข้างของส่วนที่คล้ายเป็นกลีบ เกสร เพศผู้เป็นหมัน 4 อัน เปลี่ยนรูปไปคล้ายเป็นกลีบดอกเช่นกัน เกสรเพศเมีย 1 อัน รังไข่ใต้วงกลีบ ก้านยอดเกสรเพศ เมีย 1 อัน แผ่ออกคล้ายเป็นกลีบ ยอดเกสรเพศเมียอยู่ที่ขอบด้านบนของก้านยอดเกสรเพศเมียที่แผ่ออก ลิขสิทธิ์ของหน่วยปฏิบัติการวิจัยพรรณไม้ประเทศไทย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 2. petaloid stamen ( เกสรเพศผู้ที่เปลี่ยนไปคล้ายกลีบ ) anther ( อับเรณู ) style ( ก้านยอดเกสรเพศเมีย ) stigma ( ยอดเกสรเพศเมีย ) sepal ( กลีบเลี้ยง ) corolla ( วงกลีบดอก ) ovary ( รังไข่ ) ovule ( ออวุล ) ลิขสิทธิ์ของหน่วยปฏิบัติการวิจัยพรรณไม้ประเทศไทย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 3. ลิขสิทธิ์ของหน่วยปฏิบัติการวิจัยพรรณไม้ประเทศไทย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดอนย่า , ใบต่างดอก ( Mussaenda spp.) ดอนย่าหรือใบต่างดอกออกดอกเป็นช่อ ดอกย่อยในช่ออาจแน่นหรือโปร่ง กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยก เป็นแฉกกลีบเลี้ยง 4-5 แฉก แฉกกลีบเลี้ยง 1 แฉกหรือทั้งหมดมักเปลี่ยนรูปไปคล้ายเป็นกลีบดอก มีสีสันสวยงาม กลีบดอก 5 กลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นแฉกกลีบดอก 5 แฉก เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดบนหลอดกลีบดอก สลับกับแฉกกลีบดอก เกสรเพศเมีย 1 อัน รังไข่ใต้วงกลีบ ก้านยอดเกสรเพศเมีย 1 อัน ยอดเกสรเพศเมีย 2 แฉก
- 5. ลิขสิทธิ์ของหน่วยปฏิบัติการวิจัยพรรณไม้ประเทศไทย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รัก ( Calotropis gigantea (L.) Dryander ex W.T.Aiton) รักออกดอกเป็นช่อ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ขนาดเล็ก แยกจากกันเป็นอิสระ กลีบดอก 5 กลีบเชื่อมติดกันเป็นรูปกงล้อ เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดอยู่บนหลอดกลีบดอก เชื่อมติดกันเองและเชื่อมติดกับยอดเกสรเพศเมีย แล้วเปลี่ยนรูปร่างไปเป็น ชั้นกะบังรอบ หรือชั้นมงกุฎ ล้อมรอบรังไข่ และก้านยอดเกสรเพศเมียเอาไว้ข้างใน อับเรณู 5 อัน มีเยื่อบาง ๆ คลุมปิด อยู่ แต่ละอับเรณูมี 2 ช่อง เรณูทั้งหมดในแต่ละช่องเกาะรวมกันเป็นหนึ่งกลุ่มเกิดเป็น “กลุ่มเรณู” ดังนั้นใน 1 อับเรณู จะมี 2 “ กลุ่มอับเรณู” แต่ “กลุ่มเรณู” ในอับเรณูเดียวกันจะไม่เชื่อมติดกัน การเชื่อมกันของ “กลุ่มเรณู” จะเกิดขึ้น ระหว่างช่องของอับเรณูที่อยู่ติดกัน เกิดเป็น “ชุดกลุ่มเรณู” ขึ้น เกสรเพศเมีย 1 อัน แต่ส่วนของรังไข่ และก้านยอด เกสรเพศเมียแยกจากกัน และไปเชื่อมติดกันที่ยอดเกสรเพศเมีย รังไข่เหนือวงกลีบ sepal ( กลีบเลี้ยง ) corolla ( วงกลีบดอก ) corona ( กะบังรอบ )
- 7. ลิขสิทธิ์ของหน่วยปฏิบัติการวิจัยพรรณไม้ประเทศไทย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย sepal ( กลีบเลี้ยง ) petal ( กลีบดอก ) stigma ( ยอดเกสรเพศเมีย ) anther ( อับเรณู ) operculum ( ฝาปิดอับเรณู ) column ( เส้าเกสร ) pollinium ( กลุ่มเรณู ) กลีบเลี้ยง ovary ( รังไข่ ) ovule ( ออวุล ) petal petal หวาย ( Dendrobium sp.) หวายออกดอกเป็นช่อ ดอกย่อยมีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลีบเลี้ยงอันบนแยกเป็นอิสระ กลีบเลี้ยงคู่ข้างเชื่อมติด กันที่โคนมีลักษณะคล้ายเป็นคางยื่นออกมา กลีบดอก 3 กลีบแยกจากกัน กลีบดอกหนึ่งกลีบที่อยู่ด้านล่างมีลักษณะแตกต่างไปจากกลีบดอกอีก 2 กลีบ เรียกกลีบปาก เกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียเชื่อมติดกันเกิดเป็นโครงสร้างที่เรียก เส้าเกสร ส่วนบนสุดเป็นอับเรณู ซึ่งมี ฝาปิดคลุมกลุ่มเรณูเอาไว้ ถัดจากอับเรณู ลงมามีลักษณะเป็นแอ่ง มีน้ำเหนียวๆ คือ ยอดเกสรเพศเมีย รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ
- 8. gland ( ต่อม ) bract ( ใบประดับ ) bract ( ใบประดับ ) pistillate flower ( ดอกเพศเมีย ) staminate flower ( ดอกเพศผู้ ) โป๊ยเซียน ( Euphorbia milii Des Moul) โป๊ยเซียนออกดอกเป็นช่อแต่ดูคล้ายเป็นดอกเดี่ยว ช่อดอกเป็นรูปถ้วย มีใบประดับขนาดใหญ่สองใบรองรับช่อดอก มีต่อมที่มีลักษณะและสีสันคล้ายกลีบติดอยู่กับใบประดับล้อมรอบดอกย่อยในช่อ ดอกย่อยแยกเพศ และไม่มีวงกลีบ ใน 1 ช่อดอกจะพบดอกเพศเมีย 1 ดอกอยู่ตรงกลางช่อ และลดรูปจนเหลือเพียงเกสรเพศเมีย 1 อันติดอยู่บนก้าน ดอกย่อย รังไข่ลักษณะเป็น 3 พู ก้านเกสรเพศเมีย 3 อัน ยอดเกสรเพศเมีย 3 อัน แต่ละอันมีลักษณะเป็นสองแฉก ดอกเพศผู้มีหลายดอกอยู่ล้อมรอบดอกเพศเมีย และลดรูปจนเหลือเพียงเกสรเพศผู้ 1 อันติดบนก้านดอกย่อย ที่โคน ก้านดอกย่อยมีใบประดับย่อยที่มีลักษณะเป็นแผ่นหรือเส้นบางๆ หรือมีลักษณะคล้ายเป็นริ้วหรือขน ลิขสิทธิ์ของหน่วยปฏิบัติการวิจัยพรรณไม้ประเทศไทย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 9. ดอกเพศเมีย ดอกเพศผู้ pistillate flower ( ดอกเพศเมีย ) staminate flower ( ดอกเพศผู้ ) gland ( ต่อม ) ต่อม style ( ก้านยอดเกสรเพศเมีย ) stigma ( ยอดเกสรเพศเมีย ) ovary ( รังไข่ ) anther ( อับเรณู ) filament ( ก้านชูอับเรณู ) bracteole ( ใบประดับย่อย ) pedicel ( ก้านดอกย่อย ) รอยต่อ pedicel ( ก้านดอกย่อย ) ลิขสิทธิ์ของหน่วยปฏิบัติการวิจัยพรรณไม้ประเทศไทย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 10. ลิขสิทธิ์ของหน่วยปฏิบัติการวิจัยพรรณไม้ประเทศไทย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 0 ยอดเกสรเพศเมีย ก้านยอดเกสรเพศเมีย รังไข่ perianth ( วงกลีบรวม ) tepal ( กลีบรวม ) รังไข่ ใบประดับ anther ( อับเรณู ) filament ( ก้านชูอับเรณู ) บัวจีน ( Zephyranthes sp.) บัวจีนมีใบประดับซึ่งมีลักษณะคล้ายปลอก ส่วนปลายแยกเป็นสองแฉก กลีบเป็นแบบ วงกลีบรวม มีจำนวน 6 กลีบ เรียงเป็น 2 ชั้นๆ ละ 3 กลีบ เชื่อมติดกันที่โคน เกสรเพศผู้จำนวน 6 อัน ก้านชูอับเรณูติดที่โคนวงกลีบรวม เกสรเพศเมีย 1 อัน รังไข่ใต้วงกลีบ ก้านยอดเกสรเพศเมีย 1 อัน ยอดเกสรเพศเมียลักษณะแยกเป็น 3 พู
- 11. petal ( กลีบดอก ) sepal ( กลีบเลี้ยง ) stigma ( ยอดเกสรเพศเมีย ) ovary ( รังไข่ ) stamen ( เกสรเพศผู้ ) fruit ( ผล ) ลิขสิทธิ์ของหน่วยปฏิบัติการวิจัยพรรณไม้ประเทศไทย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตะขบ ( Muntingia calabura L.) ดอกตะขบมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ แยกจากกันเป็นอิสระ กลีบดอก 5 กลีบแยกจากกันเป็นอิสระ เกสรเพศผู้จำนวนมาก เกสรเพศเมีย 1 อัน รังไข่เหนือวงกลีบ ไม่มีก้านยอดเกสรเพศเมีย ยอดเกสรเพศเมีย 1 อัน ลักษณะเป็นแฉก 5-6 แฉก