More Related Content
Similar to 2560 project (20)
2560 project
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน ไดโนเสาร์ (Dinosaur)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นายธนัตถ์ ใจกว้าง เลขที่ 13 ชั้น ม.6 ห้อง 15
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.นาย ธนัตถ์ ใจกว้าง เลขที่ 13
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
-ไดโนเสาร์
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
-Dinosaur
ประเภทโครงงาน - โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน - นาย ธนัตถ์ ใจกว้าง
ชื่อที่ปรึกษา - นาย ณัฐกรธ์ อัศวธีรศักดิ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม - นาย ณัฐปรัชญ์ รักสวน
ระยะเวลาดาเนินงาน - 1-2 สัปดาห์
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ที่มาของการศึกษาเรื่องไดโนเสาร์ของผม คือ การได้ไปท่องเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ต่างจังหวัด
และได้ศึกษาที่มาที่ไปของมันรวมทั้งรอยเท้าของมัน นอกจากจะได้ความรู้ในเรื่องไดโนเสาร์แล้ว ยังได้ความรู้
เรื่อง ธรณีวิทยามาด้วย เช่น ชั้นของดินสามารถบ่งบอกอายุของไดโนเสาร์ตัวนี้ได้ ยกตัวอย่างคือ ชั้นดินมีการ
ปกคลุมเป็นชั้นๆ(และจะแบ่งสีของดินได้ชัดเจน) ถ้าชั้นดินยิ่งลึกเท่าไหร่ก็จะสามารถบ่งบอกอายุของดินได้ เช่น
ในชั้นดินที่10 (ที่มีอายุของดินประมาณ 1ล้านปีที่แล้ว) และถ้ามีซากไดโนเสาร์อยู่ในชั้นนั้น นักวิทยาศาสตร์จะ
ประมาณอายุของไดโนเสาร์ตัวนี้ว่ามีอายุประมาณ 1ล้านปีที่แล้ว และในไทยมีช่วงปี พ.ศ.2519 เกิดข่าวที่ดัง
มากใน เขตอาเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น มีการค้นพบซากของไดโนเสาร์ที่มีชื่อว่า ซอโรพอต มีความยาว
ประมาณ 15 เมตร ซึ่งนับว่าเป็น ซากไดโนเสาร์ตัวแรกที่ถูกค้นพบในประเทศไทย นั้นตอนนั้นถือว่าเป็นข่าวที่
ถูก ทั่วโลกจับตามองไดโนเสาร์ในประเทศไทย ถ้าสังเกต ไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบในไทยมักจะพบในพื้นที่ แถบ
ภาคอีสาน เพราะแถวอีสานจะเป็นที่ราบ
ซึ่งไดโนเสาร์ชอบที่ราบ ในภาคเหนือจึงไม่พบซากไดโนเสาร์เลยแม้แต่ตัวเดียว เพราะสภาพแวดล้อมเป็นภูเขา
และป่าไดโนเสาร์จึงไม่ค่อยจะอยู่ในแถบภาคเหนือสักเท่าไหร่
- 3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพิ่มเติมความรู้ในด้านธรณีวิทยา
2.เพิ่มความรู้เกี่ยวกับสัตว์ล้านปี
3.วิเคราะห์การแก้ไขปัญหา
4.นาความรู้ที่ได้จากเรื่องนี้ไปต่อยอดในเรื่องต่างๆได้อีก
5.เพิ่มความสามารถในการหาข้อมูลเพื่อนาไปใช้ในงานอื่นๆได้อีก
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
-ไม่สามารถนาไดโนเสาร์ตัวเป็นๆมาให้ดูได้
-พิพิธภัณฑ์อยู่ค่อนข้างไกล จึงไม่สามารถหาข้อมูลได้มากนัก
-งานการวิจัยส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษจึงค่อนข้างยากในการหาข้อมูลมาลง
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ไดโนเสาร์ (dinosaur) เป็นชื่อเรียกโดยรวมของสัตว์ดึกดาบรรพ์ในอันดับใหญ่ Dinosauria ซึ่งเคยครอง
ระบบนิเวศบนพื้นพิภพ ในมหายุคมีโซโซอิก เป็นเวลานานถึง 165 ล้านปี ก่อนจะสูญพันธุ์ ไปเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว คน
ส่วนใหญ่เข้าใจว่าไดโนเสาร์เป็นสัตว์เลื้อยคลาน แต่อันที่จริงไดโนเสาร์เป็นสัตว์ในอันดับหนึ่งที่มีลักษณะก้ากึ่งระหว่าง
สัตว์เลื้อยคลานและนก คาว่า ไดโนเสาร์ ในภาษาอังกฤษ dinosaur ถูกตั้งขึ้นโดย เซอร์ ริชาร์ด โอเวน นักบรรพชีวิน
วิทยา ชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นการผสมของคาในภาษากรีกสองคา คือคาว่า (ใหญ่จนน่าสะพรึงกลัว) และคาว่า sauros
(สัตว์เลื้อยคลาน) หลายคนเข้าใจผิดว่า ไดโนเสาร์ คือสัตว์ที่อาศัยอยู่ในมหายุคมีโซโซอิกทั้งหมด แต่จริง ๆ แล้ว
ไดโนเสาร์ คือสัตว์ชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่บนพื้นดินเท่านั้น สัตว์บกบางชนิดที่คล้ายไดโนเสาร์ สัตว์น้าและสัตว์ปีกที่มี
ลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ ไม่ถือว่าเป็นไดโนเสาร์ เป็นเพียงสัตว์ชนิดที่อาศัยอยู่ในยุคเดียวกับไดโนเสาร์เท่านั้น
https://f4.jarm.com/news/00/1k/jr/1481267962_11.jpg
- 4. 4
ประวัติการค้นพบ มนุษย์ค้นพบซากดึกดาบรรพ์ไดโนเสาร์มาเป็นเวลานับพันปีแล้ว แต่ยังไม่มีผู้ใดเข้าใจอย่าง
ถ่องแท้ว่าเศษซากเหล่านี้เป็นของสัตว์ชนิดใด และพากันคาดเดาไปต่าง ๆ นานา ชาวจีนมีความคิดว่านี่คือกระดูกของ
มังกร ขณะที่ชาวยุโรปเชื่อว่านี่เป็นสิ่งหลงเหลือของสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปเมื่อครั้งเกิดน้าท่วมโลกครั้งใหญ่ จนกระทั่งเมื่อมี
การค้นพบซากดึกดาบรรพ์ในปี ค.ศ. 1822 โดย กิเดียน แมนเทล นักธรณีวิทยาชาวอังกฤษ ไดโนเสาร์ชนิดแรกของ
โลกจึงได้ถูกตั้งชื่อขึ้นว่า อิกัวโนดอน เนื่องจากซากดึกดาบรรพ์นี้มีลักษณะละม้ายคล้ายคลึงกับโครงกระดูกของตัวอิกัว
นาในปัจจุบัน สองปีต่อมา วิลเลียม บักแลนด์ ศาสตราจารย์ด้านธรณีวิทยา ประจามหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ก็ได้เป็น
คนแรกที่ตีพิมพ์ข้อเขียนอธิบายเกี่ยวกับไดโนเสาร์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์ โดยเป็นไดโนเสาร์ชนิด เมกะโลซอรัส
บักแลนดี และการศึกษาซากดึกดาบรรรพ์ของสัตว์พวกกิ้งก่า ขนาดใหญ่นี้ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จาก
นักวิทยาศาสตร์ทั้งในยุโรปและอเมริกา จากนั้นในปี ค.ศ. 1842 เซอร์ ริชาร์ด โอเวน เห็นว่าซากดึกดาบรรพ์ขนาด
ใหญ่ที่ถูกค้นพบมีลักษณะหลายอย่างร่วมกัน จึงได้บัญญัติคาว่า ไดโนเสาร์ เพื่อจัดให้สัตว์เหล่านี้อยู่ในกลุ่ม
อนุกรมวิธานเดียวกัน นอกจากนี้ เซอร์ริชาร์ด โอเวน ยังได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ขึ้น ที่เซาท์เคนซิง
ตัน กรุงลอนดอน เพื่อแสดงซากดึกดาบรรพ์ไดโนเสาร์
http://www.majorcineplex.com/uploads/content/images/tyrannosaurus-rex-info-graphic.png
ลักษณะทางชีววิทยา ไดโนเสาร์เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์ซึ่งพวกมันมีผิวหนังที่ปกคลุมเป็นเกล็ด
เช่นเดียวกับ งู จระเข้ หรือ เต่า กระเพาะอาหารของไดโนเสาร์กินพืช มักมีขนาดใหญ่แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจาก
เซลลูโลสของพืชทาให้บางครั้งมันจึงต้องกลืนก้อนหินไปช่วยย่อย ส่วนไดโนเสาร์กินเนื้อจะย่อยอาหาร ได้เร็วกว่า แต่
กระนั้น ข้อมุลของไดโนเสาร์ยังไม่ทราบแน่ชัดนัก เนื่องจากไดโนเสาร์สูญพันธ์ไปหมดเหลือเพียงซากดึกดาบรรพ์
ดังนั้น นักบรรพชีวินวิทยาจึงต้องใช้ซากฟอสซิลนี้ในการสันนิษฐานของ ข้อมูลต่าง ๆ พฤติกรรม การล่าเหยื่อ และการ
ดารงชีวิตของไดโนเสาร์ขึ้นมาซึ่งอาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่าไรนัก
- 5. 5
วิวัฒนาการ บรรพบุรุษของไดโนเสาร์คือ อาร์โคซอร์ (archosaur) ซึ่งไดโนเสาร์เริ่มแยกตัวออกมาจากอาร์โค
ซอร์ในยุค ไทรแอสซิก ไดโนเสาร์ชนิดแรกถือกาเนิดขึ้นราว ๆ 230 ล้านปีที่แล้ว หรือ 20 ล้านปี หลังจากเกิดการสูญ
พันธุ์เพอร์เมียน-ไทรแอสซิก ซึ่งคร่าชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกสมัยนั้นไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ สายพันธุ์ไดโนเสาร์
แพร่กระจายอย่างรวดเร็วหลังยุคไทรแอสซิก กล่าวได้ว่าในยุคทองของไดโนเสาร์ (ยุคจูแรสซิก และยุคครีเทเชียส) ทุก
สิ่งมีชีวิตบนพื้นพิภพที่มีขนาดใหญ่กว่าหนึ่งเมตรคือไดโนเสาร์ จนกระทั่งเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว การการสูญพันธุ์ครีเท
เชียส-เทอร์เทียรี (Cretaceous-Tertiary extinction) ก็ได้กวาดล้างไดโนเสาร์จนสูญพันธุ์ เหลือเพียงไดโนเสาร์บาง
สายพันธุ์ที่เป็นบรรพบุรุษของนกในปัจจุบัน ยุคต่าง ๆของไดโนเสาร์ มหายุคมีโซโซอิก (Mesaozoic Era) 65-225
ล้านปี ในยุคนี้มี 3 ยุค คือ ยุคไทรแอสซิก ยุคจูแรสซิก และยุคครีเทเชียส ในยุคไทรแอสซิกนี้ สภาพอากาศในขณะนั้น
จะมี สภาพร้อนและแล้งมากขึ้นกว่าในอดีต ทาให้ต้นไม้ใหญ่น้อยในเขตร้อนสามารถเจริญเติบโตได้ ดีมาก จนกระทั่ง
ไดโนเสาร์ตัวแรกได้ถือกาเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ ไดโนเสาร์กลุ่มแรกที่ได้กาเนิดขึ้นมาจะมีขนาดเล็ก เดิน 2 เท้า และมี
ลักษณะพิเศษ คือ เท้ามีลักษณะคล้ายกับเท้าของนก ต่อมาในยุคจูแรสซิกนี้จัดว่าเป็นยุคที่เฟื่องฟูเป็นอย่างมาก
บรรดาพืชพรรณธัญญาหารที่อุดมสมบูรณ์ ทาให้ไดโนเสาร์จานวนมากขยายพันธุ์ไปอย่างรวดเร็ว ทาให้มีร่างกาย
ใหญ่โต ซึ่งส่วนใหญ่จะกินพืชเป็นอาหาร และนกยังได้ถือกาเนิดขึ้นมาเป็นครั้งแรกในยุคนี้อีกด้วย ต่อมาในยุคครีเท
เชียสนี้ จัดว่า เป็นยุคที่ไดโนเสาร์นั้นรุ่งเรื่องที่สุด เพราะยุคนี้ไดโนเสาร์ได้มีการพัฒนาพันธุ์ออกมาอย่างมากมาย
https://f.ptcdn.info/483/032/000/1434429914-IndominusR-o.png
- 6. 6
ยุคของไดโนเสาร์ ยุคไทรแอสซิก การครอบครองโลกของไดโนเสาร์ในยุคนี้โลกถูกปกคลุมด้วยป่าไม้จานวน
มาก พืชตระกูลที่ใช้สปอร์ในการขยายพันธ์ประสบความสาเร็จและมีวิวัฒนาการถึงขั้นสูงสุด ในป่ายุคไทรแอสซิก
ช่วงแรกนั้นมีสัตว์ใหญ่ไม่มากนักสัตว์ปีกที่ใหญ่ที่สุดคือแมลงปอยักษ์ที่ปีกกว้างถึง2ฟุตและได้ชื่อว่าเป็นนักล่าเวหาเพียง
ชนิดเดียวของยุคนี้ เนื่องจากในช่วงปลายของยุคเปอร์เมียนเกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตทาให้พวก
สัตว์เลื้อยคลานกึ่งเลี้ยงลูกด้วยนมจานวนมาก สูญพันธุ์ไปพวกที่เหลือได้สืบทอดเผ่าพันธุ์มาจนถึงต้นยุคไทรแอสซิกใน
กลุ่มสัตว์เหล่านี้เจ้าซินนอกนาตัสเป็นสัตว์นักล่าที่น่าเกรงขามที่สุด ในหมู่พวกมันและในช่วงนี้เองไดโนเสาร์ก็ถือกาเนิด
ขึ้นโดยพวกมันวิวัฒนาการมาจากสัตว์เลื้อยคลานที่เดินด้วยขาหลังอย่างเจ้าธีโคดอนซึ่งถือกันว่าเป็นบรรพบุรุษของ
ไดโนเสาร์ การสูญพันธ์ครั้งใหญ่ในยุคเปอร์เมียนทาให้พวกมันสามารถขยายเผ่าพันธุ์ได้อย่างมากมายในช่วงต้นยุคไทร
แอสซิกและกลายมาเป็นคู่แข่งของพวกสัตว์เลื้อยคลานกึ่งเลี้ยงลูกด้วยนมที่เหลือ ไดโนเสาร์ในยุคแรกเป็นพวกเดินสอง
ขา เช่น พลาทีโอซอร์ ไดโนเสาร์กินพืชคอยาวที่เป็นบรรพบุรุษของพวก ซอโรพอด หรือเจ้าซีโลไฟซิส บรรพบุรุษของ
พวกกินเนื้อ นักล่าสองขาความสูง 1 เมตร การที่มันสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยสองขาหลังทาให้พวกมันมีความ
คล่องตัวในการล่าสูงกว่า ซินนอกนาตัส หรืออีรีโทรซูคัสที่ยาวถึง 15 ฟุตซึ่งมีกรามขนาด ใหญ่และแข็งแรงนักล่า
เหล่านี้ได้เปรียบซินนอกนาตัสและสัตว์เลื้อยคลานกึ่งเลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆทาให้พวกนี้ต้องวิวัฒนาการให้มีขนาดเล็กลง
เพื่อที่จะหลบหนีพวกไดโนเสาร์ และหลีกทางให้เผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์ก้าวมาครองโลกนี้แทนในที่สุด ยุคจูแรสซิก
ไดโนเสาร์ครอบครองโลกได้สาเร็จในตอนปลายยุคไทรแอสซิก จนเมื่อเข้าถึงยุคจูแรสซิกพวกมันก็ขยายเผ่าพันธุ์ไปทั่ว
โลกในยุคนี้ผืนแผ่นดินถูกปกคลุมด้วยพืชขนาดยักษ์จาพวกสนและเฟิร์น อย่างไรก็ตามได้เริ่มมีพืชดอกปรากฏขึ้นเป็น
ครั้งแรกในช่วงกลางของยุคนี้ นับว่าเป็นจุดเริ่มของการขยายพันธุ์รูปแบบใหม่ของพวกพืช ยุคจูแรสซิกนับได้ว่าเป็นยุค
ที่พวกไดโนเสาร์คอยาวตระกูลซอโรพอด (Sauropod) ขยายเผ่าพันธุ์อย่างกว้างขวาง ไดโนเสาร์ขนาดยักษ์สายพันธุ์ที่
รู้จักกันดีก็คือ แบรกคิโอซอรัส (Brachiosaurus) ดิปโพลโดคัส (Diplodocus) และอะแพโทซอรัส (Apatosaurus)
หรืออีกชื่อคือบรอนโทซอรัส นอกจากนี้ยังมีชนิดอื่น ๆ อีกมากมายสัตว์ยัก
http://vignette3.wikia.nocookie.net/jurassicpark/images/e/ef/Jurassic_world_indomi
nus_rex_v2_by_sonichedgehog2-d9j1f9q.png/revision/latest?cb=20160229002819