More Related Content Similar to โครงงานคอม1 (20) More from Thanyalux Kanthong More from Thanyalux Kanthong (15) โครงงานคอม11. แบบเสนอโครงร่ างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร 6
ปี การศึกษา 2556
ชื่อโครงงาน สื่อการเรียนการสอนการรักษาดุลยภาพของร่ างกายมนุษย์
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.นางสาวธัญญลักษณ์
2.นางสาวภัทรวีร์
กันทอง
เยาวรัตน์
เลขที่ 3
เลขที่ 36
ชั้น ม.6 ห้ อง 2
ชั้น ม.6 ห้ อง 2
ชื่ออาจารย์ ที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขือนทอง มูลวรรณ์
่
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2556
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพืนที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
้
2. ใบงาน
การจัดทาข้ อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิ กในกลุ่ม
1.นางสาวธัญญลักษณ์
2.นางสาวภัทรวีร์
กันทอง
เยาวรัตน์
เลขที่ 3
เลขที่ 36
ชื่อโครงงาน สื่ อการเรี ยนการสอนการรักษาดุลยภาพของร่ างกายมนุษย์
ชื่อโครงงาน Human homeostasis for learning
ชื่ อผู้ทาโครงงาน
1.นางสาวธัญญลักษณ์ กันทอง
เลขที่ 3
2.นางสาวภัทรวีร์
เยาวรัตน์
เลขที่ 36
ชื่อทีปรึกษา คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
่
ระยะเวลาดาเนินงาน เดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2557
ทีมาและความสาคัญของโครงงาน
่
ในปั จจุบนอินเทอร์ เน็ตมีบทบาทและมีความสาคัญต่อชี วิตประจาวันของคนเรามากขึ้น เนื่ องจากทา
ั
ให้เราทันเหตุการณ์อยูเ่ สมอ ข้อมูลและสารสนเทศที่เสนอในอินเทอร์ เน็ตมีมากมายหลายรู ปแบบเพื่อสนอง
ความสนใจและความต้องการของผูใช้ทุกกลุ่ม อินเทอร์ เน็ตจึงเป็ นแหล่งสารสนเทศสาคัญสาหรับทุกคน
้
เพราะสามารถค้นหาสิ่ งที่ตนสนใจได้ในทันทีโดยไม่ตองเสี ยเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด หรื อแม้แต่
้
การรั บ รู ้ ข่ า วสารทัวโลกก็ ส ามารถอ่ า นได้ใ นอิ นเทอร์ เน็ ตจากเว็บ ไซต์ต่า ง ๆ ของหนัง สื อ พิ ม พ์ ดัง นั้น
่
่
อินเทอร์ เน็ตจึงมีความสาคัญกับวิถีชีวิตของคนเราในปั จจุบนเป็ นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน ไม่วาจะเป็ น ด้าน
ั
ความบันเทิงเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจรวมถึงสันทนาการ ด้านธุ รกิจเพื่อซื้ อขายสิ นค้า ทาธุ รกรรมผ่านระบบ
เครื อข่าย และด้านการศึกษาเพื่อใช้เป็ นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูลที่สนใจและกาลังศึกษาอยู่
ั
การศึกษาในปั จจุบนได้มีการนาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กบสื่ อการเรี ยนการสอนในห้องเพื่อทาให้
ั
ครู ผูสอนสะดวกในการเตรี ยมการเรี ยนการสอนรวมทั้งทาให้ผูเ้ รี ยนรู ้ สึกมี ความสนใจและมีความเข้าใจ
้
เนื้อหามากขึ้น นอกจากนี้ยงได้มีการเผยแพร่ สื่อการเรี ยนการสอนในอินเทอร์ เน็ตมากมายทาให้สื่อการเรี ยน
ั
การสอนมี กว้างขวางยิ่งขึ้ น อิ นเทอร์ เน็ ตจึ งท าหน้าที่ เปรี ย บเสมื อนเป็ นห้องสมุ ดขนาดใหญ่ให้นักเรี ย น
นักศึกษาได้ทาการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองรวมถึงได้มีการทบทวนเนื้ อหาที่ไม่เข้าใจในห้องเรี ยน ดังนั้นสื่ อ
การเรี ยนการสอนบนอินเทอร์ เน็ตจึงนับว่ามีความสาคัญไม่นอยสาหรับการศึกษาเพราะมีประโยชน์ท้ งต่อ
้
ั
ครู ผสอนและนักเรี ยนนักศึกษา
ู้
3. วัตถุประสงค์
- เพือเป็ นสื่ อการเรี ยนการสอนบนอินเทอร์ เน็ต
่
- เพื่อเพิ่มประสิ ทธิ ภาพการเรี ยนการสอนบนอินเทอร์ เน็ต
ขอบเขตโครงงาน
ส่ วนของผูจดทา
้ั
-สามารถสร้างบทเรี ยนใหม่ได้
-สามารถแก้ไขเนื้อหา บทเรี ยนที่ได้สร้างไว้แล้วได้
ส่ วนของผูที่ตองการศึกษา
้ ้
-สามารถเข้าดูเนื้อหา
-สามารถแสดงความคิดเห็น ติชมได้บนBlogของผูจดทา
้ั
หลักการและทฤษฎี
ประโยชน์ ของอินเทอร์ เน็ตทางการศึกษา
Barron and Ivers (1996, pp. 4-8) ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการใช้งานเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตทางการศึกษา
ดังนี้
1. ประโยชน์ของอินเทอร์ เน็ตที่มีต่อผูเ้ รี ยน อินเทอร์ เน็ตทาให้ผเู ้ รี ยนมีโอกาสได้รับความรู ้ใหม่
ได้เรี ยนรู ้ วฒนธรรมที่หลากหลาย เรี ยนรู ้ประสบการณ์ จากสภาพความเป็ นจริ งของโลกปั จจุบน เกิ ดทักษะ
ั
ั
ความคิดขั้นสู งและเป็ นการช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรี ยนรวมถึงเป็ นการฝึ กให้เกิดทักษะการเขียนด้วยเหตุผล
สนับสนุนดังต่อไปนี้
1.1 การศึ ก ษาวัฒนธรรมที่ หลากหลาย ในสังคมผูส อนจะเน้นให้ผูเ้ รี ย นเข้าใจและยอมรั บวัฒ นธรรมที่
้
แตกต่างจากตนเอง การสอนให้ผูเ้ รี ย นยึดแต่วฒนธรรมแบบเดิ ม จะเป็ นการเตรี ยมผูเ้ รี ยนให้เป็ นคนที่ ไ ม่
ั
สามารถท างานร่ วมเป็ นกลุ่ ม ได้ ประโยชน์ จากการใช้อิ นเทอร์ เน็ ต คื อ การส่ ง เสริ ม ให้ผูเ้ รี ย นมี โอกาส
ั
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการมีปฏิสัมพันธ์กบผูเ้ รี ยนคนอื่นที่มีภูมิหลังต่างจากตนเอง การสื่ อสารทางไกล
ทาให้ผเู ้ รี ยนมีความเข้าใจและความเคารพในวัฒนธรรมต่างแดนมากขึ้น
1.2 เรี ย นรู ้ ป ระสบการณ์ จากสภาพที่ เ ป็ นจริ ง การเรี ย นในโรงเรี ย นจะได้ป ระโยชน์ อย่า งมากเมื่ อได้จ ัด
ั
กิจกรรมให้สัมพันธ์กบแหล่งข้อมูล อินเทอร์ เน็ตทาให้ผเู ้ รี ยนเข้าถึงข้อมูลที่ทนสมัย เมื่อเปรี ยบเทียบกับการ
ั
เรี ยนแบบเดิม แล้วพบว่าการสื่ อสารทางไกลเปิ ดโลกทัศน์ของผูเ้ รี ยนให้กว้างขึ้น
4. 1.3 การเพิ่ ม ทัก ษะการคิ ดอย่า งมี ระบบ ผูเ้ รี ย นที่ ใ ช้ก ารสื่ อสารทางไกลจะมี ทก ษะการคิ ดแบบสื บ สวน
ั
สอบสวนและทักษะการคิดอย่างมีระบบ เพราะลักษณะของการใช้อินเทอร์ เน็ตที่ผเู ้ รี ยนต้องมีทกษะการคิด
ั
วิเคราะห์ในการเลือกรับข้อมูลและได้สื่อสารกับผูเ้ ชี่ยวชาญ
1.4 สร้ า งแรงจู ง ใจให้ มี ท ัก ษะในการเขี ย น ผู้เ รี ย นที่ มี ป ระสบการณ์ ก ารใช้ก าร-สื่ อ สารทางไกลจะมี
ความสามารถในการเขียนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่ าวยังช่ วยให้ผูเ้ รี ยนบรรลุ วตถุ ประสงค์ในการ
ั
ั
เขียนและเพิ่มแรงจูงใจให้มีการเขียนและแลกเปลี่ยนความรู ้และประสบการณ์กบเพื่อนผูร่วมอภิปราย
้
2. ประโยชน์ของอินเทอร์ เน็ตที่มีต่อผูสอน เมื่อมีการใช้อินเทอร์ เน็ตทาให้ผสอนสามารถเข้าถึง
้
ู้
แหล่งข้อมูลทางการศึกษา การวิจย การวางแผนการสอนและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผูเ้ ชี่ ยวชาญที่เชื่ อมต่อ
ั
เข้าสู่ ระบบเช่ นกัน คุ ณค่าของการเปิ ดรับข้อมูลทาให้ได้รับรู ้ กลยุทธ์ การสอนที่หลากหลาย สามารถนามา
ปรับปรุ งประสิ ทธิภาพของการเรี ยนการสอนที่เป็ นประโยชน์ท้ งผูเ้ รี ยนและผูสอน
ั
้
2.1 การสอนแบบร่ วมมือ (collaborative) ทาให้ผสอนมีความสามารถเพิ่มขึ้นเมื่อใช้วิธีการสอนแบบร่ วมมือ
ู้
ผ่า นเครื อ ข่ า ย เช่ น การออกแบบให้ มี ส ภาพและการประชุ ม ระหว่ า งผูส อนเพื่ อ อภิ ป รายประเด็ น อัน
้
หลากหลาย เช่น การบริ หารโรงเรี ยนการประเมิน แนวทางการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เป็ นต้น อินเทอร์ เน็ตยัง
2.2 กลยุทธ์การสอนที่หลากหลาย เมื่อมีการสื่ อสารทางไกลทาให้การสอนเปลี่ยนทิศทาง การใช้อินเทอร์ เน็ต
เป็ นการช่ วยเพิ่ มเวลาที่ ผูเ้ รี ยน ท าให้ติดต่อสื่ อสารกับ ผูส อนเป็ นรายบุ คคลมากขึ้ น ลดเวลาในการจดค า
้
บรรยายในชั้นเรี ยนและทาให้ผเู ้ รี ยนมีเวลาทารายงานมากขึ้น
2.3 พัฒนาหลักสู ตร เมื่ อการสื่ อสารทางไกลด้วยอินเทอร์ เน็ตมี อิทธิ พลกับหลักสู ตร ทาให้ประเด็นในการ
เรี ยนการสอนสอดคล้องกับสภาพของสังคมมากขึ้น ยกระดับของทักษะ ความคิดในการวิเคราะห์ ข้อมูลที่ได้
จากการเรี ยนด้วยการใช้สื่อผ่านเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตแตกต่างจากสิ่ งที่สอนในห้องเรี ยน เพราะ เป็ นวิธีการที่
นาไปสู่ โ ครงการที่ เ ขี ย นจากความร่ ว มมื อของทุ ก ฝ่ าย อิ น เทอร์ เน็ ตท าให้ไ ด้ข ้อสรุ ป จากหน่ ว ยงาน ได้
แลกเปลี่ยนข้อมูลกับผูเ้ ชี่ยวชาญ ซึ่ งทาให้การเรี ยนการสอนมีประสิ ทธิ ภาพนอกจากการสอนแบบเดิมผูสอน
้
และผูเ้ รี ยนสามารถใช้ขอมูลจากสารานุกรม หนังสื อ เอกสารงานวิจย และโปรแกรมซอฟต์แวร์ เพื่อการศึกษา
้
ั
จากอินเทอร์เน็ต
3. ประโยชน์ ที่ มี ต่อ ผูเ้ ชี่ ย วชาญการผลิ ตสื่ อ ท าให้ ไ ด้พ บกับ แหล่ ง ข้อมู ล ขนาดใหญ่ ที่ ดี ก ว่า
ประหยัดเวลากว่าและพบผลงานที่แตกต่างจากในท้องถิ่นของตนเอง
5. 3.1 แหล่งข้อมูลความรู ้ การใช้อินเทอร์ เน็ ตทาให้ได้พบกับแหล่ งข้อมูล เช่ น นิ ตยสาร วารสาร ฐานข้อมูล
ผลการวิจย การสารวจความคิดเห็น ภาพกราฟิ ก เสี ยง ภาพยนตร์ และซอฟต์แวร์ เหมือนกับย่อโลกทั้งใบมา
ั
ไว้ในจอคอมพิวเตอร์
3.2 ข้อมูลที่ทนสมัย ข้อมูลในอินเทอร์ เน็ตเป็ นข้อมูล ที่ ทนสมัยเหมาะกับการศึกษา ความสามารถในการ
ั
ั
ติดต่อกับผูเ้ ชี่ ยวชาญทาให้ได้รับข้อมูลแบบปฐมภูมิได้คาตอบครบประเด็นกับปั ญหาที่ถาม และการได้รับ
ทราบความคิดเห็นจากแหล่งอื่นอีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงเอกสารไปยังห้องสมุดหรื อแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
3.3 เครื่ องมือสอนให้ผเู้ รี ยนมีทกษะ อินเทอร์เน็ตเป็ นเครื่ องมือที่ทาให้ผเู้ รี ยนมีทกษะในการศึกษาวิจย ผูเ้ รี ยน
ั
ั
ั
สามารถตั้งสมมติฐาน วิเคราะห์และทารายงานได้โดยไม่ตองเสี ยค่าใช้จ่ายสู ง เพราะมีระบบและเครื่ องมือใน
้
การสื บค้นมากมายและทาให้ผลที่จดทาขึ้นมีแหล่งข้อมูลอ้างอิงจานวนมาก
ั
3.4 การพบปะกับสมาชิ ก พบว่าเหตุผลอันดับหนึ่ งสาหรับผูเ้ ชี่ ยวชาญด้านการสื่ อสารต่อการใช้อินเทอร์ เน็ต
คื อ ความสะดวก ประหยัดเวลา ความเป็ นหมวดหมู่ สามารถสื่ อ สารกับ สมาชิ ก อื่ น ๆ ทัว โลกโดยเสี ย
่
่
ค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง และช่วยลดความรู ้สึกว่าทางานอยูคนเดียวในโรงเรี ยน
4. ประโยชน์ที่มีต่อเจ้าหน้าที่ ในระดับของเจ้าหน้าที่ผปฏิบติงาน การใช้อินเทอร์ เน็ตช่วยลดความ
ู้ ั
ซับซ้อน การจัดเตรี ยมและเอกสาร เป็ นวิธีที่มีประสิ ทธิ ภาพและประสิ ทธิ ผลอย่างยิ่งในการรับและปรับปรุ ง
ข้อมูลให้ทนสมัย โดยเฉพาะอย่างยิงเมื่อต้องรับและส่ งข้อมูลภายนอกองค์กร
ั
่
4.1 การจัดการเอกสาร การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่ อสารเป็ นการประหยัดงบประมาณ ลดการใช้กระดาษ มี
ความรวดเร็ วมีประสิ ทธิ ผลและเป็ นการบันทึกข้อมูล รวมถึ งยังช่วยลดความผิดพลาดในการสื่ อสารผ่านสื่ อ
อิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย
4.2 การสื่ อสารภายนอกองค์กร การใช้อินเทอร์ เน็ตทาให้เจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลที่ทนสมัยทันทีจากที่ประชุ ม
ั
ทางการศึกษา การวิจย และจากผูสอน การติดต่อกับธุ รกิจเอกชนหรื อหน่วยงานอื่น ๆ ก็ตองใช้อินเทอร์ เน็ต
ั
้
้
5. ประโยชน์ของอินเทอร์ เน็ตที่ มีต่อการสื่ อสาร การใช้อินเทอร์ เน็ตเป็ นแนวทางที่ดีที่ทาให้การ
สื่ อสารระหว่า งโรงเรี ย น กองทุ นสนับ สนุ นการศึ ก ษา โครงการเพื่ อการศึ ก ษา องค์ก รพิ เศษอื่ น ๆ และ
อาสาสมัคร ในการเชื่ อมโยงไปถึงผูนาธุ รกิจในท้องถิ่น ผูเ้ ชี่ ยวชาญและเจ้าหน้าที่ผูปฏิบติงานที่สามารถเข้า
้
้ ั
ใช้อินเทอร์เน็ตได้
6. 5.1 การสื่ อสารกับโรงเรี ยน การใช้อินเทอร์ เน็ตทาให้ผปกครองมีโอกาสเป็ นผูช่วยกาหนดการบ้านของบุตร
ู้
้
หลาน และยังได้ร่วมประชุมกับครู หรื อผูปกครองคนอื่นด้วย
้
5.2 กิจกรรมการสื่ อสารของผูเ้ รี ยน การใช้อินเทอร์ เน็ตทาให้ผสูงอายุและผูที่ไม่มีโทรศัพท์ได้แลกเปลี่ ยน
ู้
้
ั
ประสบการณ์ กบผูเ้ รี ยน ผูเ้ รี ยนจานวนมากได้รับคาแนะนา คาอบรมสั่งสอนที่ มีค่าจากผูสูงอายุผ่านทาง
้
อินเทอร์ เน็ ตอิ นเทอร์ เน็ ตกับการเรี ยนการสอน การนาอิ นเทอร์ เน็ ตมาใช้ในการเรี ยนการสอนมี หลาย
รู ป แบบ แต่ ใ นประเทศไทยยัง น าอิ น เทอร์ เ น็ ต มาใช้ ใ นการเรี ยนการสอนโดยตรงนั บ ว่ า ยัง น้ อ ยอยู่
สถาบันการศึกษาทั้งในระดับโรงเรี ยน มหาวิทยาลัย จะมีการใช้อินเทอร์ เน็ตในรู ปแบบของการใช้ไปรษณี ย ์
อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการติดต่อสื่ อสารระหว่างผูสอนกับผูเ้ รี ยน และผูเ้ รี ยนกับผูเ้ รี ยน ซึ่ งการเรี ยนการสอนโดย
้
ใช้เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต สามารถทาได้หลายรู ปแบบ
คุณค่ าของสื่ อการสอน
สื่ อการสอนสามารถใช้ประโยชน์ได้ท้ งผูเ้ รี ยนและผูสอนดังต่อไปนี้ (กิดานันท์ มลิทอง,2540)
ั
้
สื่ อกับผูเ้ รี ยน
เป็ นสิ่ ง ที่ ช่ วยให้ก ารเรี ย นรู ้ อย่า งมี ป ระสิ ท ธิ ภาพ เพราะจะช่ วยให้ผูเ้ รี ย นเกิ ดความเข้า ใจเนื้ อหา
บทเรี ยนที่ยงยากซับซ้อนได้ง่ายขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และสามารถช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดใน
ุ่
เรื่ องนั้นได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ ว
ั
สื่ อจะช่ วยกระตุ นและสร้ างความสนใจให้กบผูเ้ รี ยน ทาให้เกิ ดความสนุ กสนานและไม่รู้สึกเบื่ อ
้
หน่ายการเรี ยน
การใช้สื่อจะทาให้ผเู ้ รี ยนมีความเข้าใจตรงกัน และเกิดประสบการณ์ร่วมกันในวิชาที่เรี ยนนั้น
ช่ วยให้ผูเ้ รี ยนมี ส่วนร่ วมในกิ จกรรมการเรี ยนการสอนมากขึ้ น ทาให้เกิ ดมนุ ษ ยสัมพันธ์ อนดี ใ น
ั
ระหว่างผูเ้ รี ยนด้วยกันเองและกับผูสอนด้วย
้
ช่วยสร้างเสริ มลักษณะที่ดีในการศึกษาค้นคว้าหาความรู ้ ช่วยให้ผเู ้ รี ยนเกิดความคิดสร้างสรรค์จาก
การใช้สื่อเหล่านั้น
ช่วยแก้ปัญหาเรื่ องของความแตกต่างระหว่างบุคคลโดยการจัดให้มีการใช้สื่อในการศึกษารายบุคคล
สื่ อกับผูสอน
้
การใช้สื่อวัสดุ อุปกรณ์ ต่างๆ ประกอบการเรี ยนการสอน เป็ นการช่ วยให้บรรยากาศในการสอน
น่ าสนใจยิ่งขึ้น ทาให้ผูสอนมีความสนุ กสนานในการสอนมากกว่าวิธีการที่เคยใช้การบรรยายแต่
้
เพียงอย่างเดียว และเป็ นการสร้างความเชื่อมันในตัวเองให้เพิ่มขึ้นด้วย
่
สื่ อจะช่วยแบ่งเบาภาระของผูสอนในด้านการเตรี ยมเนื้อหา เพราะบางครั้งอาจให้ผเู ้ รี ยนศึกษาเนื้ อหา
้
จากสื่ อได้เอง
7. เป็ นการกระตุนให้ผูสอนตื่นตัวอยู่เสมอในการเตรี ยมและผลิ ตวัสดุ ใหม่ๆ เพื่อใช้เป็ นสื่ อการสอน
้
้
ตลอดจนคิดค้นเทคนิควิธีการต่างๆ เพื่อให้การเรี ยนรู ้น่าสนใจยิงขึ้น
่
อย่างไรก็ตามสื่ อการสอนจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อผูสอนได้นาไปใช้อย่างเหมาะสมและถูกวิธี ดังนั้น ก่อนที่
้
จะนาสื่ อแต่ละอย่า งไปใช้ ผูสอนจึ งควรจะได้ศึกษาถึ ง ลักษณะและคุ ณสมบัติของสื่ อการสอน ข้อดี และ
้
ข้อจากัดอันเกี่ยวเนื่องกับตัวสื่ อและการใช้สื่อแต่ละอย่าง ตลอดจนการผลิตและใช้สื่อให้เหมาะสมกับสภาพ
การเรี ยนการสอนด้วย ทั้งนี้เพื่อให้การจัดกิจกรรมการสอนบรรลุผลตามจุดมุ่งหมาย และวัตถุประสงค์ที่วาง
ไว้
หลักการเลือกสื่ อการสอน
การเลือกสื่ อการสอนเพื่อนามาใช้ประกอบการสอนเพื่อให้ผเู ้ รี ยนเกิดการเรี ยนรู ้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพนั้น
เป็ นสิ่ งสาคัญยิ่ง โดยในการเลื อกสื่ อ ผูสอนจะต้องตั้งวัตถุ ประสงค์เชิ งพฤติกรรมในการเรี ยนให้แน่ นอน
้
เสี ยก่อน เพื่อใช้วตถุประสงค์น้ นเป็ นตัวชี้ นาในการเลือกสื่ อการสอนที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยงมีหลักการอื่น
ั
ั
ั
ๆ เพื่อประกอบการพิจารณา คือ
ั
สื่ อนั้นต้องสัมพันธ์กบเนื้อหาบทเรี ยนและจุดมุ่งหมายที่จะสอน
เลือกสื่ อที่มีเนื้อหาถูกต้อง ทันสมัย น่าสนใจ และเป็ นสื่ อที่ส่งผลต่อการเรี ยนรู ้มากที่สุด
เป็ นสื่ อที่เหมาะกับวัย ระดับชั้น ความรู ้ และประสบการณ์ของผูเ้ รี ยน
สื่ อนั้นควรสะดวกในการใช้ วิธีใช้ไม่ยงยากซับซ้อนเกินไป
ุ่
เป็ นสื่ อที่มีคุณภาพเทคนิคการผลิตที่ดี มีความชัดเจนเป็ นจริ ง
มีราคาไม่แพงเกินไป หรื อถ้าจะผลิตควรคุมกับเวลาและการลงทุน
้
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.เสนอหัวข้อโครงงาน
2.ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวกับหัวข้อโครงงาน
3.จัดเรี ยงข้อมูลในโปรแกรม Microsoft word
4.จัดทาและออกแบบในโปรแกรม Power point
5.แก้ไขและเพิ่มเติมข้อมูลให้สมบูรณ์
6.รายงานผลการดาเนินงาน
7.จัดทาเอกสาร
เครื่องมือและอุปกรณ์ ทใช้
ี่
8. -คอมพิวเตอร์
-หนังสื อชีววิทยา
งบประมาณ
-รู ปเล่มโครงงาน 30 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน
1
คิดหัวข้อโครงงาน
2
ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3
จัดทาโครงร่ างงาน
4
ปฏิบติการสร้างโครงงาน
ั
5
ปรับปรุ งทดสอบ
6
การทาเอกสารรายงาน
7
ประเมินผลงาน
8
นาเสนอโครงงาน
สั ปดาห์ ที่
3
4
5
6
7
8
9
10
ผู้รับผิดชอบ
1
2
11
12
13
14
ธัญญลักษณ์
ธัญญลักษณ์
ภัทรวีร์
ภัทรวีร์
ธัญญลักษณ์
ภัทรวีร์
ภัทรวีร์
ธัญญลักษณ์
ผลทีคาดว่าจะได้ รับ
่
1.เป็ นสื่ อการเรี ยนการสอนที่ให้ความรู ้ที่ถูกต้องแก่ผที่สนใจ
ู้
2.เป็ นการส่ งเสริ มการเรี ยนการสอนอีกแนวทางหนึ่ง
3.เป็ นแนวทางสาหรับบุคคลที่สนใจในการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมหรื อนาไปพัฒนาต่อ
สถานทีดาเนินการ
่
-บ้านของผูจดทา
้ั
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่เกียวข้ อง
่
-กลุ่มการระการเรี ยนรู ้วชาวิทยาศาสตร์
ิ
15
16
17
9. แหล่งอ้างอิง
หนังสื อ Biology for high school students
http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-4/introduction_to_teaching/01.html
http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/3056-00/
http://mimmira.wordpress.com