SlideShare a Scribd company logo
1 of 46
Download to read offline
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา ทัศนศิลป์ มัธยมศึกษาตอนต้น
คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. กำรวำดภำพที่มีกำรตัดเส้น หรือวำดเส้นนิยมใช้กับงำนในข้อใด
1. ภำพทิวทัศน์เสมือนจริง
2. ภำพแสดงเหตุกำรณ์สำคัญ
3. ภำพประกอบนิทำน หรือละคร
4. ภำพที่ใช้เทคนิคต่ำง ๆ ผสมกัน
2. ถ้ำจะวำดภำพตัวละครให้เป็นที่นิยมของคนทั่วไปต้องคำนึงถึงอะไร
1. ภำพสื่อให้เห็นถึงรูปแบบที่เรียบง่ำย มีควำมเหมือนจริงตำมธรรมชำติ
2. ภำพที่เรียบง่ำย สื่อสำรอำรมณ์ควำมรู้สึกได้ดี มีบุคลิกที่จำง่ำย
3. ภำพที่มีเส้นคมชัด ใช้สีที่เกินจริงจำกธรรมชำติ
4. ภำพลำยเส้นเรียบง่ำย สื่อวิถีชีวิตในสังคมได้ดี
3. กำรออกแบบโปสเตอร์ที่ดีและมีประสิทธิภำพในกำรสื่อสำรควรออกแบบให้มีคุณสมบัติตำมข้อใด
1. สะดุดตำอ่ำนง่ำยแต่แรกเห็น
2. มีควำมกลมกลืนไปกับสภำพแวดล้อม
3. ใช้ข้อควำมยำว ให้ได้รำยละเอียดมำก
4. มีแต่ภำพ ใช้ตัวอักษรให้น้อยที่สุด
4. เหตุผลข้อใดที่สนับสนุนคำกล่ำวที่ว่ำ “ผลงานทัศนศิลป์สามารถสะท้อนวัฒนธรรม” ได้ถูกต้องที่สุด
1. ผลงำนทัศนศิลป์สร้ำงขึ้นมำจำกควำมคิดของมนุษย์
2. มนุษย์สร้ำงผลงำนทัศนศิลป์เลียนแบบผลงำนทัศนศิลป์ที่มีอยู่
3. ศิลปินพัฒนำเทคนิค วิธีกำรในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม
4. วัฒนธรรมเป็นแรงผลักดันทำให้เกิดกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ ขณะเดียวกันผลงำนทัศนศิลป์
ก็ถ่ำยทอดเรื่องรำวของวัฒนธรรม
5. เมื่อเรำสำมำรถบรรยำยถึงควำมงำมที่เห็นว่ำเป็นดวงอำทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้ำยำมสนธยำ มีดวงโตสีส้ม
เหลืองสวยงำมแสดงว่ำเรำรับรู้ทำงกำรเห็นที่เกิดจำกสิ่งใด
1. เกิดจำกควำมจำที่ดี
2. เกิดจำกควำมประทับใจกับสิ่งที่เห็น
3. เกิดจำกควำมสำมำรถในกำรรับรู้ธรรมชำติ
4. เกิดจำกจินตนำกำรอันกว้ำงไกล
6. กำรออกแบบสัญลักษณ์ ผู้ออกแบบควรคำนึงถึงสิ่งใดมำกที่สุด
1. ควำมสวยงำมของสัญลักษณ์
2. ควำมโดดเด่นและน่ำสนใจ
3. เหมำะสมกับยุคสมัย
4. กำรสื่อควำมหมำย
7. งำนศิลปะใดที่เหมำะแก่กำรนำไปใช้ตกแต่งสวนสำธำรณะน้อยที่สุด
1. สถำปัตยกรรม
2. เทคนิคผสม
3. จิตรกรรม
4. ประติมำกรรม
8. นำรีสร้ำงผลงำนโดยนำควำมขัดแย้งมำใช้ในภำพ นักเรียนคิดว่ำผลงำนของนำรีจะเป็นอย่ำงไร
1. ผลงำนมีควำมน่ำสนใจ
2. ผลงำนจะเกิดควำมแปลกใหม่
3. ช่วยให้องค์ประกอบของผลงำนมีควำมกลมกลืน
4. ผลงำนสำมำรถกระตุ้นอำรมณ์ควำมรู้สึกของผู้ชมได้น้อย
9. ลักษณะเด่นของงำนสื่อผสมสอดคล้องกับข้อใด
1. สร้ำงขึ้นโดยศิลปินที่มีชื่อเสียง
2. นำวัสดุรำคำถูกมำสร้ำงงำนศิลป์
3. มีกำรใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในกำรสร้ำงงำน
4. ใช้เทคนิคและวัสดุหลำกหลำยชนิดมำผสมผสำนกัน
10.ข้อใดเป็นตัวอย่ำงของกำรนำผลงำนทัศนศิลป์มำสร้ำงสรรค์ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
1. แต่งกำยชุดนักเรียนมำโรงเรียน
2. เขียนหนังสือด้วยลำยมือที่อ่ำนง่ำย
3. นำภำพวำดมำตกแต่งบ้ำนเรือน
4. ใช้แสงไฟหลำกสีในงำนรื่นเริง
11.ข้อใดเป็นควำมสำคัญของสิ่งแวดล้อมต่อกำรสร้ำงสรรค์งำนทัศนศิลป์
1. ช่วยในเรื่องกำรจัดวำงองค์ประกอบศิลป์
2. เป็นแบบอย่ำงให้งำนทัศนศิลป์ทำตำม
3. ทำให้เกิดกำรใช้แสงเงำในตัวผลงำน
4. เป็นแหล่งวัตถุดิบเพื่อสร้ำงงำนศิลป์
12.เส้นในข้อใดที่เป็นเส้นหลักของกำรร่ำงภำพใบหน้ำตัวละคร
1. เส้นโค้ง เส้นตรง
2. เส้นโค้ง เส้นเฉียง
3. เส้นรูปไข่ เส้นแนวตั้ง
4. เส้นแนวตั้ง เส้นแนวนอน
13.ข้อใดเป็นกำรนำเอำรูปธรรมชำติมำเป็นต้นแบบ เพื่อเน้นถึงลักษณะเด่นของโครงสร้ำงกำรออกแบบ
ดอกไม้ในงำนทัศนศิลป์
1. วำดภำพดอกไม้ด้วยกำรใช้เส้นต่ำง ๆ ให้เหมือนจริงตำมต้นแบบ แล้วค่อยตัดทอนรำยละเอียดออก
เหลือไว้แต่ลักษณะเด่นของโครงสร้ำง
2. ในขั้นตอนแรกวำดรูปร่ำงของดอกไม้ให้ถูกต้องก่อน แล้วจึงใส่รำยละเอียดตำมที่ต้องกำร
3. วำดดอกไม้มีลักษณะเป็นวงกลม มีกลีบดอกเป็นรูปหอก มำจัดวำงซ้อนกันจนเป็นภำพดอกไม้
4. ใช้เส้นโค้งครึ่งวงกลมเป็นหลัก แบ่งกลีบดอกตำมจำนวนกลีบดอกไม้และตกแต่งรำยละเอียด
โดยใช้จุด
14.เมื่อเรำวำดภำพระบำยสีผลส้มโอหนึ่งผลจะเกิดทัศนธำตุอะไรบ้ำง
1. รูปร่ำงของผลส้มโอที่มีสีเขียว
2. ส้มโอหนึ่งผลมีขนำดใหญ่กว่ำผลมะยม
3. รูปทรง สี แสงเงำ น้ำหนักอ่อน-แก่
4. ผลส้มโอมีรูปร่ำงรูปทรงและสีสันสวยงำมเหมือนจริง
15.ควำมกลมกลืนจะช่วยให้ผลงำนดูแล้วมีควำมรู้สึกเป็นอย่ำงไร
1. เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
2. เกิดควำมขัดแย้งกันในผลงำน
3. เกิดกำรกระตุ้นและเร้ำควำมรู้สึก
4. สร้ำงควำมแตกต่ำงจำกผลงำนอื่น
16.ถ้ำนักเรียนต้องกำรให้ผลงำนไม่กระจัดกระจำยจะต้องใช้หลักกำรออกแบบในข้อใด
1. ควำมสมดุล
2. ควำมขัดแย้ง
3. ควำมเป็นเอกภำพ
4. ควำมสม่ำเสมอ
17.สีที่มีควำมบำงเบำมักจะระบำยระยะใด
1. ระยะตื้น
2. ระยะใกล้
3. ระยะไกล
4. ระยะใดก็ได้
18.ถ้ำต้องกำรสร้ำงผลงำนที่สื่อถึงควำมแข็งแรง มั่นคง ควรใช้เส้นลักษณะใดเป็นหลักในผลงำน
1. เส้นแนวนอน
2. เส้นแนวตั้ง
3. เส้นโค้งคด
4. เส้นฟันปลำ
19.ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกในกำรวำดภำพตัวละครจำกวรรณคดีไทย
1. เลือกวรรณคดีไทยในเรื่องที่ตนเองชื่นชอบ
2. เลือกเหตุกำรณ์ หรือสถำนกำรณ์ที่ตนเองประทับใจ
3. ดูตัวอย่ำงผลงำนกำรวำดภำพของศิลปิน
4. ออกแบบตัวละครทั้งรูปร่ำง หน้ำตำและเครื่องแต่งกำย
20.ข้อใดเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมไทยมำกที่สุด
1. กำรทำมำหำกิน
2. ศำสนำและควำมเชื่อ
3. สภำพลมฟ้ำอำกำศ
4. กำรต่อสู้ทำศึกสงครำม
21.ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยกับสำกลมีควำมคล้ำยคลึงกันในเรื่องใดมำกที่สุด
1. หน้ำที่ใช้สอย
2. กำรรับอิทธิพลศิลปะ
3. ประวัติควำมเป็นมำ
4. กำรเลือกใช้อุปกรณ์
22.กำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยได้รับอิทธิพลจำกเรื่องใดมำกที่สุด
1. ควำมเชื่อ ควำมศรัทธำทำงพระพุทธศำสนำ
2. แนวควำมคิดสร้ำงสรรค์ของศิลปิน
3. อิทธิพลจำกอินเดีย จีนและศรีลังกำ
4. รูปแบบ เทคนิค วัสดุอุปกรณ์จำกตะวันตก
23.คำว่ำ “สีเอกรงค์” (Monochrome) ในงำนจิตรกรรมฝำผนังสมัยสุโขทัยมีลักษณะอย่ำงไร
1. สีเพียงสีเดียว คือ สีแดง
2. สีเพียงสีเดียว คือ สีส้ม
3. สี 2 สี คือ สีแดงและสีดำ
4. สี 2 สี คือ สีแดงและสีทอง
24.แนวคิดในกำรสร้ำงผลงำนจิตรกรรมไทยในสมัยโบรำณมำจำกเรื่องใดมำกที่สุด
1. บุคคลสำคัญ
2. พุทธประวัติ
3. นิทำนพื้นบ้ำน
4. เหตุกำรณ์ในยุคนั้น ๆ
25.ผลงำนจิตรกรรมไทยของแต่ละภำคมีควำมคล้ำยคลึงกันมำกที่สุดในเรื่องใด
1. รูปแบบกำรเขียน
2. เรื่องรำวที่นำเสนอ
3. กำรจัดองค์ประกอบ
4. สภำพของชุมชน
26.งำนจิตรกรรมไทยนิยมสร้ำงสรรค์ไว้ที่บริเวณใด
1. บ้ำนเรือนทั่วไป
2. สิ่งก่อสร้ำงทรงสูง
3. ฝำผนังในพระอุโบสถ
4. กำแพงพระนคร
27.ใครสร้ำงงำนทัศนศิลป์ประเภทจิตรกรรมที่สะท้อนถึงคุณค่ำของวัฒนธรรมไทย
1. แอมแกะสลักรูปคุณปู่
2. เอ้พิมพ์ภำพด้วยเศษวัสดุ
3. เด่นปั้นตุ๊กตำตัวกำร์ตูนที่ชื่นชอบ
4. ก้อยวำดภำพประเพณีกำรแห่เทียนพรรษำ
28.อิทธิพลข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญในกำรสร้ำงสถำปัตยกรรมไทย
1. ศำสนำและควำมเชื่อ
2. สภำพภูมิอำกำศ
3. วิถีชีวิตควำมเป็นอยู่
4. เครื่องมือและวัสดุก่อสร้ำง
29.สถำปัตยกรรมมีควำมสัมพันธ์กับข้อใด
1. ผลงำนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งก่อสร้ำง
2. ผลงำนด้ำนกำรละคร
3. ผลงำนศิลปะที่มีรูปทรง 3 มิติ
4. ผลงำนที่เกิดจำกกำรวำดภำพและกำรระบำยสี
30.ลักษณะของผลงำนทัศนศิลป์แบบสำกลมีลักษณะที่สอดคล้องกับข้อใด
1. ใช้เทคนิควิธีกำรแบบตะวันตก
2. เน้นเรื่องรำวของกรีกและโรมัน
3. มีรูปแบบเหมือนศิลปะยุโรป
4. ไม่มีรูปแบบของชำติใดชำติหนึ่ง
31.ข้อใดเป็นลักษณะของศิลปะสำกล
1. เป็นรูปแบบศิลปะตะวันตก
2. มีลักษณะเหมือนศิลปะยุโรป
3. คล้ำยคลึงกับศิลปะของอเมริกำ
4. เป็นนำนำชำติไม่สื่อว่ำเป็นของชำติใด
32.เหตุผลที่ถือว่ำผลงำนทัศนศิลป์เป็นภำษำสำกลในวงกำรศิลปะเนื่องจำกอะไร
1. ภำพถือเป็นสัญลักษณ์ทำงภำษำ
2. ผู้ชมเข้ำใจควำมหมำยได้ตรงกัน
3. กำรวำดภำพเหมือนกำรเขียนตัวอักษร
4. ภำพใช้สื่อควำมแทนคำพูด
33.แนวทำงกำรประเมินผลงำนในข้อใดถูกต้องที่สุด
1. กิจชัยใช้พื้นฐำนควำมรู้ของตนเองมำเป็นเกณฑ์ในกำรประเมินผลงำน
2. สุนันทำประเมินผลงำนทัศนศิลป์จำกภำพรวมของผลงำนแต่ละประเภท
3. นพวรรณกำหนดหลักกำรและตัวบ่งชี้ของผลงำนขึ้นมำก่อนที่จะประเมิน
4. นันทพรประเมินผลงำนตำมแนวทำงที่เคยเรียนรู้มำจำกศิลปินที่ตนชื่นชอบ
34.กำรวิจำรณ์ผลงำนศิลปะในข้อใดที่ใช้คำกล่ำวที่ ไม่เหมาะสม
1. ผลงำนแสดงถึงประวัติศำสตร์ชำติไทย
2. ผลงำนมีกำรออกแบบได้อย่ำงดีเยี่ยม
3. ผลงำนต้องให้ผู้ชมตีควำมได้ง่ำยขึ้น
4. ผลงำนไม่ควรค่ำแก่กำรชื่นชมแต่อย่ำงใด
35.กำรวิจำรณ์เพื่อประเมินงำนทัศนศิลป์ ควรคำนึงถึงเรื่องใดเป็นสำคัญ
1. หลักเกณฑ์และแบบประเมิน
2. หลักเกณฑ์และเหตุผล
3. กำรวิเครำะห์และเหตุผล
4. กำรแสดงควำมคิดเห็น
36.ข้อใดเป็นกำรวิเครำะห์รูปแบบทัศนธำตุ เมื่อดูภำพวำดภำพหนึ่ง
1. เห็นเส้นขอบ เนื้อหำในผลงำน
2. เห็นควำมคิดจินตนำกำรของศิลปิน
3. เห็นกำรใช้เส้น สี รูปทรง น้ำหนักแสงเงำ
4. เห็นควำมสมดุลและกลมกลืนของภำพ
37.ภำพวำดภำพหนึ่งเป็นผลงำนที่ศิลปินใช้สีม่วงน้ำเงิน สีน้ำเงิน สีฟ้ำ สีน้ำเงินดำ สีเทำ สร้ำงสรรค์เป็นภำพ
ขึ้นมำ ภำพนี้เป็นกำรใช้สีอย่ำงเป็นเอกภำพแบบใด
1. กำรใช้สีแบบประสำน
2. กำรใช้สีแบบผสม
3. กำรใช้สีแบบขัดแย้ง
4. กำรใช้สีแบบน้ำหนักไม่เท่ำกัน
38.เมื่อลำกเส้นตรง 1, 2 และ 3 มำต่อกันดังนี้ จะได้รูปแบบทัศนธำตุที่เด่นชัดคืออะไร
1. รูปทรง
2. รูปร่ำง
3. สีและพื้นผิว
4. แสงและเงำ
39.ที่ว่ำงลวงตำ (Illusion Space) เกิดขึ้นโดยวิธีใด
1. โดยกำรเขียนภำพทิวทัศน์แบบทัศนียภำพมีระยะใกล้-ไกล
2. โดยกำรเว้นช่องว่ำงภำยในงำนประติมำกรรม
3. โดยกำรเว้นระยะช่องว่ำงระหว่ำงอำคำรกับสิ่งแวดล้อม
4. โดยกำรเว้นช่องว่ำงระหว่ำงประติมำกรรมกองทรำย
40.“เป็นจุดเริ่มต้นของทัศนศิลป์สมัยใหม่” ข้อควำมดังกล่ำวหมำยถึงผลงำนทัศนศิลป์แนวใด
1. แนวโรแมนติก
2. แนวอิมเพรสชันนิสม์
3. แนวนีโอคลำสสิก
4. แนวคิวบิสม์
1 2
3
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา ดนตรี
คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. เพรำะเหตุใดจึงมีกำรใช้เพลงโหมโรงเป็นเพลงแรกที่บรรเลงก่อนกำรแสดง
1. เป็นเพลงที่มีทำนองที่ไพเรำะ
2. เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงเพื่อประกำศว่ำจะมีกำรแสดง
3. เป็นเพลงเล่นได้ง่ำย มีจังหวะและทำนองที่สนุกสนำน
4. เป็นเพลงที่ได้รับควำมนิยมในหมู่นักดนตรี
2. เพรำะเหตุใดเรำจึงต้องใช้ดอกมะเขือ หญ้ำแพรก ข้ำวตอก ดอกเข็ม ในพิธีกำรไหว้ครู
1. หำซื้อได้ง่ำย
2. มีรำคำไม่แพง
3. เป็นของที่มีควำมหมำยที่ดี
4. เป็นของที่กำหนดไว้ให้ใช้มำตั้งแต่โบรำณ
3. ข้อใดคือสิ่งสำคัญของกำรฝึกขับร้องเพลงไทยเบื้องต้น
1. วิธีกำรนั่งขับร้องเพลง
2. กำรใช้กำลังเสียงและกำรผ่อนลมหำยใจ
3. จังหวะในกำรแบ่งส่วนย่อยของเพลง
4. กำรออกเสียงอักขระและกำรออกเสียงเอื้อน
4. ข้อใดกล่ำวเกี่ยวกับคำว่ำ “กานล” ได้ถูกต้อง
1. เครื่องดนตรีไทยชนิดหนึ่ง
2. เครื่องคำนับหรือเครื่องบูชำครู
3. เพลงไทยประเภทอัตรำจังหวะชั้นเดียว
4. กำรฟ้อนรำที่มีมำตั้งแต่สมัยโบรำณ
5. วงดุริยำงค์ หรือวงออร์เคสตรำเปรียบได้กับวงดนตรีไทยประเภทใด
1. วงเครื่องสำยเครื่องคู่
2. วงปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์
3. วงมโหรีเครื่องใหญ่
4. วงปี่พำทย์เครื่องใหญ่
6. เครื่องดนตรีในข้อใดจับคู่ได้อย่ำงเหมำะสม
1. โหวต - ปี่ใน
2. หมำกกั๊บแก็บ - จะเข้
3. สะล้อ - พิณ
4. รือบับ - กลองปูเจ่
7. จำกภำพเป็นกำรใช้หน้ำทับชนิดใด
- - ติง ทั่ง - ติง - - ติงทั่ง - ติง - ติงทั่ง - ทั่ง
1. หน้ำทับปรบไก่ชั้นเดียว
2. หน้ำทับปรบไก่ 2 ชั้น
3. หน้ำทับสองไม้ชั้นเดียว
4. หน้ำทับสองไม้ 2 ชั้น
8. เพรำะเหตุใดกำรแสดงของไทยจึงต้องมีดนตรีบรรเลงประกอบ
1. ดนตรีจะช่วยถ่ำยทอดอำรมณ์ต่ำง ๆ ของตัวละคร
2. ต้องมีกำรเตรียมตัวนักแสดง
3. เป็นกำรประกำศให้รู้ว่ำจะมีกำรแสดง
4. ต้องกำรเอำฤกษ์เอำชัย
9. เพลงลำวดวงเดือนให้อำรมณ์สอดคล้องกับบทประพันธ์ในข้อใด
1. จะหักอื่นขืนหักก็จักได้ หักอำลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก
2. ครั้นรักจำงห่ำงเหินไปเนิ่นนำน แต่น้ำตำลว่ำเปรี้ยวไม่เหลียวแล
3. แม่รักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ำรัก ใครอื่นสักหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน
4. แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนจะแคลนคลำย เจ็บจนตำยเพรำะเหน็บให้เจ็บใจ
10.ข้อใด ไม่ เข้ำพวก
1. เบลไลรำ กลอง ฉำบ
2. กีตำร์ ทูบำ ออร์แกน
3. คลำริเน็ต ฟลูต ฮอร์น
4. ไวโอลิน เชลโล กีตำร์
11.ข้อใดแตกต่ำงจำกพวก
1. เพลฝรั่งรำเท้ำ เพลงเวสสุกรรม เพลงหงส์ทอง
2. เพลงตระบองกัน เพลงเสมอข้ำมสมุทร เพลงเชิดฉำน
3. เพลงลำวเล่นน้ำ เพลงสำวกระตุกกี่ เพลงกระแตเล็ก
4. เพลงพรำหมณ์เก็บหัวแหวน เพลงแขกบรเทศ เพลงเชิดนอก
12.ข้อใดวิเครำะห์ธำตุประกอบเพลงพระรำชนิพนธ์พรปีใหม่ได้ถูกต้องที่สุด
1. จังหวะปำนกลำง สง่ำ ผ่ำเผย บรรเลงด้วยเสียงดังปำนกลำงและมีอำรมณ์ด้ำนบวก
2. จังหวะเร็ว ให้ควำมสนุกสนำน บรรเลงด้วยเสียงเบำและมีอำรมณ์ด้ำนบวก
3. จังหวะช้ำ แสดงควำมเข้มขึง บรรเลงด้วยเสียงเบำและมีอำรมณ์ด้ำนลบ
4. จังหวะปำนกลำง ให้ควำมสงบ บรรเลงด้วยเสียงเบำและมีอำรมณ์ด้ำนลบ
13.“เปรียบเธอเพชรงามน้าหนึ่ง หวานปานน้าผึ้งเดือนห้า หยาดเพชรเกล็ดแก้วแววฟ้า ร่วงมาจากฟ้า
หรือไร” จำกเนื้อเพลงข้ำงต้น ผู้ฟังเพลงจะได้รับรสทำงวรรณศิลป์ที่ทำให้เกิดอำรมณ์ควำมรู้สึกใด
1. รสแห่งควำมรัก
2. รสแห่งควำมสงบ
3. รสแห่งควำมโกรธ
4. รสแห่งควำมขบขัน
14.เพลงในข้อใดนำมำใช้บรรเลงประกอบกิริยำของตัวละครที่แสดงควำมโศกเศร้ำเสียใจ
1. เพลงทยอย
2. เพลงกลองโยน
3. เพลงตระบองกัน
4. เพลงคุกพำทย์
15.ข้อใดคือกำรดูแลรักษำเครื่องดนตรีได้ถูกวิธี
1. วำงเครื่องดนตรีนอนรำบกับพื้น เพื่อป้องกันกำรชำรุด
2. นำผ้ำเปียกเช็ดเครื่องดนตรี เพื่อเป็นกำรทำควำมสะอำด
3. ลดสำยของเครื่องดนตรีที่มีสำยลง เพื่อยืดเวลำในกำรใช้งำน
4. นำเครื่องดนตรีวำงซ้อนทับกัน เพื่อจะได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
16.บทเพลงที่ร้องประกอบกับดนตรีพื้นบ้ำนของภำคเหนือให้ควำมรู้สึกอย่ำงไร
1. คึกคัก สนุกสนำน
2. คล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง
3. นุ่มนวล อ่อนหวำน
4. เศร้ำสร้อย ผิดหวัง
17.ข้อใด ไม่ใช่ สำเหตุที่ทำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงทำงดนตรีในประเทศไทย
1. กำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครองตำมนโยบำยของรัฐบำล
2. ภำยหลังเหตุกำรณ์ 14 ตุลำคม พ.ศ.2516
3. สภำพทำงภูมิอำกำศและภูมิประเทศเกิดกำรเปลี่ยนแปลง
4. ปฏิรูปกำรปกครองแผ่นดินในสมัยรัชกำลที่ 5
18.เพลงใดที่ ไม่ ได้รับอิทธิพลมำจำกวิถีชีวิต
1. เพลงเรือ
2. เพลงสำธุกำร
3. เพลงเกี่ยวข้ำว
4. เพลงลำวกระทบไม้
19.ข้อใดกล่ำว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับเพลงปลุกใจ
1. เพลงที่มีควำมหมำยมุ่งปลุกจิตสำนึกของคนไทยให้เกิดควำมรักชำติบ้ำนเมือง
2. เพลงปลุกใจของไทยเริ่มขึ้นในสมัยพระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย รัชกำลที่ 2
3. เป็นเพลงที่มีเนื้อร้อง ทำนอง จังหวะเร้ำใจ ชวนให้ผู้ฟังเกิดอำรมณ์ฮึกเหิมและคึกคัก
4. เพลงปลุกใจมีอยู่หลำยบทเพลง เช่น เพลงตื่นเถิดไทย เพลงใต้ร่มธงไทย เพลงถิ่นเมืองไทย
เพลงไทยรวมกำลัง เป็นต้น
20.“จะขอตามรอยของพ่อ ท่องคาว่าเพียงและพอจากหัวใจ เป็นลูกที่ดีของพ่อ ด้วยความรัก ด้วยภักดี
ตลอดไป” จำกเนื้อร้องข้ำงต้น เกิดจำกจินตนำกำรในกำรสร้ำงสรรค์บทเพลงจำกสิ่งใด
1. ควำมรักชำติ
2. ควำมเชื่อและศำสนำ
3. ควำมสุขและควำมทุกข์
4. ควำมจงรักภักดีต่อพระมหำกษัตริย์
21.บทเพลงในข้อใดต่อนี้ ไม่ จัดอยู่ในประเภทเพลงปลุกใจ
1. เพลงใต้ร่มธงไทย เพลงเทียนคุณธรรม
2. เพลงไทยรวมกำลัง เพลงสุดแผ่นดิน
3. เพลงสำยโลหิต เพลงพรุ่งนี้ต้องดีกว่ำ
4. เพลงควำมฝันอันสูงสุด เพลงแผ่นดินของเรำ
22.เพลงใดต่อนี้มีกำรแสดงอำรมณ์เศร้ำ เหงำและปลงกับชีวิต
1. เพลงพระรำชนิพนธ์ยำมเย็น
2. เพลงพระรำชนิพนธ์ใกล้รุ่ง
3. เพลงพระรำชนิพนธ์แสงเทียน
4. เพลงพระรำชนิพนธ์รัก
23.ข้อใดเป็นกำรประพันธ์เพลงขึ้นจำกปัจจัยภำยนอก
1. นักประพันธ์เพลงแต่งเพลงที่แสดงออกถึงควำมจงรักภักดีต่อพระมหำกษัตริย์
2. นักประพันธ์เพลงไม่สมหวังในควำมรัก จึงแต่งเพลงเกี่ยวกับควำมรักที่ผิดหวัง
3. นักประพันธ์เพลงรู้สึกมีควำมทุกข์ เพรำะชีวิตไม่มีควำมสุขจึงแต่งเพลงเศร้ำขึ้น
4. นักประพันธ์เพลงรู้สึกโกรธแค้นบุคคล จึงแต่งเพลงล้อเลียนบุคคลในทำงที่ไม่ดี
24.ใครเลือกใช้เทคนิคและกำรแสดงออกถึงกำรจินตนำกำรในกำรสร้ำงสรรค์บทเพลงได้ถูกต้อง
1. เอเลือกแต่งเพลงเศร้ำด้วยจังหวะที่กระชับ เร้ำใจ
2. บียึดรูปแบบเพลงเก่ำ เพรำะกลัวไม่ได้รับควำมนิยม
3. ซีใช้เสียงที่อยู่ในระดับปำนกลำงในกำรแต่งเพลง
4. ดีนำผลงำนของผู้อื่นมำดัดแปลงเป็นผลงำนของตนเอง
25.อิริยำบถใดที่ถือว่ำ ไม่ สุภำพในกำรขับร้องเพลง
1. แสดงสีหน้ำและอำรมณ์สอดคล้องกับบทเพลง
2. ควบคุมสมำธิไม่ได้ สำยตำไม่หยุดนิ่งอยู่กับผู้ฟัง
3. วำงมือทั้ง 2 ข้ำง ไว้ข้ำงลำตัวอย่ำงสุภำพเรียบร้อย
4. ยืนตัวตรง หลังไม่ค่อม อกผำย ไหล่ผึ่ง เท้ำวำงห่ำงกันเล็กน้อย
26.บทเพลงในข้อใดแสดงถึงอำรมณ์โศกเศร้ำ
1. รุกขชำติดำดำษดอกดก ใบตกร่วงลงชลำสำย
2. เจ้ำนกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำลงแล้วจะนอนที่รังไหน
3. พญำครุฑฟังนุชสุดสวำท ประคองนำฏรับขวัญขนิษฐำ
4. อนิจจำโอ้พระจอมกระหม่อมโลก มำซัดเสียให้เมียโศกน่ำสงสำร
27.ถ้ำนักเรียนต้องกำรบรรเลงเพลงต้นวรเชษฐ์สองชั้น ควรฝึกอ่ำนและเคำะจังหวะด้วยอัตรำจังหวะใดจึงจะ
ถูกต้อง
1. | - - - - | | - - - ฉิ่ง | | - - - - | | - - - ฉับ |
2. | - - - ฉิ่ง | | - - - ฉับ | | - - - ฉิ่ง | | - - - ฉับ |
3. | - ฉิ่ง - ฉับ | | - ฉิ่ง - ฉับ | | - ฉิ่ง - ฉับ | | - ฉิ่ง - ฉับ |
4. | - ฉิ่ง ฉับ - | | - ฉิ่ง ฉับ - | | - ฉิ่ง ฉับ - | | - ฉิ่ง ฉับ - |
28.ข้อใดให้ควำมหมำยของคำว่ำหน้ำที่ผู้บรรเลงเพลงได้ถูกต้องที่สุด
1. ทำหน้ำที่เล่นเครื่องดนตรีให้ถูกต้องและไพเรำะ
2. ทำหน้ำที่เป็นตัวแปรสำคัญในกำรดึงดูดควำมสนใจจำกผู้ขับร้อง
3. ทำหน้ำที่เป็นสื่อกลำงเชื่อมควำมสัมพันธ์ระหว่ำงผู้ขับร้องกับผู้ฟัง
4. ทำหน้ำที่เป็นสื่อกลำงในกำรถ่ำยทอดอำรมณ์ควำมรู้สึกที่สอดแทรกในบทเพลง
29.ใครขับร้องเพลงไทยได้ถูกต้องตำมหลักกำรมำกที่สุด
1. หนึ่งฝึกกำรออกเสียงให้เต็มเสียง
2. สองฝึกแบ่งระยะกำรหำยใจให้เหมำะสม
3. สำมฝึกเอื้อนทำนองเปล่ำสอดแทรกไปกับบทร้อง
4. สี่พยำยำมรักษำระดับเสียงให้เป็นไปตำมทำนองเพลงที่ถูกต้อง
30.เครื่องดนตรีชนิดใดจัดอยู่ในประเภทเดียวกันทั้งหมด
1. ไวโอลิน กีตำร์ ฮำร์ป เบลไลรำ
2. ริคอร์เดอร์ โอโบ ฟลูต ทูบำ
3. ออร์แกน เปียนโน อิเล็กโทน เฟรนซ์ฮอร์น
4. ทอมบำ ทรัยแองเกิ้ล มำรำคำ บองโก
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา นาฏศิลป์
คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. กำรแสดงนำฏศิลป์ไทยประเภทใดที่นิยมนำมำแสดงสลับฉำก
1. รำเดี่ยว
2. รำคู่
3. รำหมู่
4. ฟ้อน
2. “เค้าโมงจับโมงมองเมียง คู่เค้าโมงเคียง
เคียงคู่อยู่ปลายไม้โมง
ลางลิงลิงเหนี่ยวลดาโยง ค่อยยุดฉุดโชลง
โลดไล่ในกลางลางลิง”
บทประพันธ์นี้เป็นกำรพำกย์ลักษณะใด
1. พำกย์เมือง
2. พำกย์รถ
3. พำกย์โอ้
4. พำกย์ชมดง
3. ดนตรีและนำฏศิลป์ในช่วงรัชกำลที่ 7 มีกำรเปลี่ยนแปลง เพรำะเหตุใดเป็นสำคัญ
1. ค่ำนิยม
2. นโยบำยของรัฐบำล
3. สภำพสังคมและวิถีชีวิต
4. ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
4. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ เข้ำพวก
1. ฟ้อนเล็บ ฟ้อนแพน ฟ้อนที
2. ฟ้อนมำลัย ฟ้อนดำบ ฟ้อนเจิง
3. ฟ้อนภูไท ฟ้อนเก็บฝ้ำย ฟ้อนตังหวำย
4. ฟ้อนเทียน ฟ้อนสำวไหม ฟ้อนจ้อง
5. “ยวนยาเหล ยวนยาเหล หัวใจว้าเหว่ ไม่รู้จะเห่ไปหาใคร จะซื้อเปลยวน ที่ด้ายหย่อน หย่อน (ซ้า)
จะเอาน้องนอนไกวเช้าไกวเย็น” จำกข้อควำมนี้มีควำมเกี่ยวข้องกับข้อใด
1. เพลงรำโทน
2. เพลงร้องเรือ
3. เพลงรำวงมำตรฐำน
4. เพลงระบำพื้นเมือง
6. ข้อใด ไม่ใช่ จุดมุ่งหมำยหลักของกำรแสดงนำฏศิลป์พื้นเมือง
1. เป็นกิจกรรมกลุ่ม
2. สร้ำงควำมสำมัคคี
3. ประกอบพิธีกรรม
4. ควำมสนุกสนำน
7. เซิ้งแหย่ไข่มดแดง ไม่ได้ สื่อถึงภูมิปัญญำท้องถิ่นในข้อใด
1. ลักษณะนิสัยของชำวอีสำน
2. วิถีชีวิตของชำวอีสำน
3. อำชีพของชำวอีสำน
4. ภำษำท้องถิ่นอีสำน
8. ข้อใดกล่ำวถึงกำรแสดงโขนได้ถูกต้องที่สุด
1. นักแสดงโขนต้องสวมหัวโขนทั้งหมด
2. กำรแสดงโขนนักแสดงจะต้องร้องและเจรจำเอง
3. เรำสำมำรถทรำบถึงตัวละครต่ำง ๆ ได้จำกกำรสังเกตลักษณะของหัวโขน
4. โขนนิยมนำเรื่องรำมเกียรติ์ อิเหนำและพระอภัยมณีมำแสดง
9. “ชาย มาเถิดหนาแม่มา มาเล่นพาดผ้ากันเอย พี่ตั้งวงไว้ท่า อย่านิ่งรอช้าเลยเอย พี่ตั้งวงไว้คอย อย่าให้วง
กร่อยเลยเอย หญิง ให้พี่ยื่นแขนขวา เข้ามาพาดผ้าเถิดเอย”
จำกบทร้องนี้หมำยถึงกำรแสดงนำฏศิลป์พื้นเมืองประเภทใด
1. ลำตัด
2. ลิเก
3. รำเหย่อย
4. อีแซว
10.จำกบทประพันธ์นี้ผู้แสดงจะต้องใช้กำรตีบทแสดงออกมำเป็นท่ำรำใด
“บัดนั้น ลูกลมมองเขม้นเห็นยักษี
กริ้วโกรธโดดตามข้ามอัคคี ขุนกระบี่เหาะไล่ไขว่คว้า”
1. ดีใจ
2. โศกเศร้ำ
3. โกรธแค้น
4. เก้อเขิน
11.ถ้ำนักเรียนจะวิเครำะห์ วิจำรณ์องค์ประกอบของกำรร่ำยรำ ควรเลือกวิเครำะห์ วิจำรณ์เรื่องใดจึงจะ
เหมำะสม
1. รูปแบบของกำรแสดง
2. กำรแต่งกำยของนักแสดง
3. ควำมเป็นเอกภำพของนักแสดง
4. ควำมถูกต้องตำมแบบแผนของท่ำรำ
12.ข้อใดกล่ำว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับนำฏศิลป์ไทย
1. ศิลปะที่สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมของชำติ
2. กำรร่ำยรำมีควำมประณีต อ่อนช้อย งดงำม
3. นำฏศิลป์ไทยมีท่ำรำที่ตำยตัว ไม่สำมำรถปรับเปลี่ยนท่ำรำได้
4. เป็นกำรแสดงที่ประกอบไปด้วยระบำ รำ ฟ้อน โขน ละครและกำรแสดงพื้นเมือง
13.ข้อใด ไม่ใช่ วิธีกำรเผยแพร่นำฏศิลป์พื้นบ้ำน
1. กำรออกงำนเพื่อแสดงนำฏศิลป์พื้นบ้ำน
2. กำรอ่ำนหนังสือเกี่ยวกับนำฏศิลป์พื้นบ้ำน
3. กำรติดประกำศกำรแสดงนำฏศิลป์พื้นบ้ำนตำมสถำนศึกษำ
4. กำรโฆษณำขำยอุปกรณ์กำรแสดงนำฏศิลป์พื้นบ้ำนตำมสื่อต่ำง ๆ
14.
จำกภำพเหมำะแก่กำรนำไปใช้เป็นฉำกแสดงละครประเภทใด
1. ละครใน
2. ละครพูด
3. ละครเสภำ
4. ละครสังคีต
15.“ดงบงคมกลองด้วยเสียงพาด เสียงพิณ เสียงเลื่อน เสียงขับ ใครจักมักเล่น เล่น ใครจักมักหัว หัว ใครจัก
มักเลื้อน เลื้อน” จำกข้อควำมข้ำงต้นสะท้อนให้เห็นถึงกำรแสดงละครไทยอย่ำงไร
1. กำรแสดงละครไทยมีมำช้ำนำน
2. ประชำชนทุกคนต้องแสดงละครได้
3. ประชำชนทุกคนชอบดูกำรแสดงละคร
4. กำรแสดงละครไทยต้องมีเครื่องดนตรีประกอบ
16.รูปหน้ำในข้อใดที่เหมำะสมสำหรับแสดงเป็นตัวนำง
1.
2.
3.
4.
17.ลักษณะวิธีกำรแสดงตำรีกีปัสมีควำมคล้ำยคลึงกับกำรแสดงชุดใด
1. ร่อนแร่
2. กรีดยำง
3. ซำเป็ง
4. รองเง็ง
18.ศิลปะกำรแสดงที่มีควำมสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในภำคกลำงคือข้อใด
1. ระบำเก็บใบชำ
2. เต้นกำรำเคียว
3. เซิ้งแหย่ไข่มดแดง
4. ระบำร่อนแร่
19.ข้อใด ไม่ใช่ กำรแสดงที่เรียกได้ว่ำเป็น “มหรสพ”
1. งิ้ว
2. ลิเก
3. หนังใหญ่
4. ผีตำโขน
20.ชื่อของรำโทนมีที่มำจำกสิ่งใด
1. จำนวนของผู้รำ
2. เครื่องดนตรีที่ใช้
3. แหล่งกำเนิดกำรแสดง
4. บทร้องประกอบกำรร่ำยรำ
21.กำรแปลงบทละครที่เป็นอักษรให้เป็นกำรแสดง จัดเป็นองค์ประกอบของกำรแสดงละครด้ำนใด
1. กำรสมมติ
2. จินตนำกำร
3. กำรสร้ำงสมำธิ
4. กำรสื่อสำรสัมพันธ์
22.ถ้ำนักเรียนรับมอบหมำยให้เป็นตัวละครเอกของละคร 1 เรื่อง สิ่งแรกที่นักเรียนจะต้องทำคือข้อใด
1. ศึกษำบทละครให้เข้ำใจ
2. ศึกษำประวัติควำมเป็นมำของผู้เขียนบท
3. ทำควำมรู้จักกับทีมงำนผู้สร้ำงละครทุกคน
4. เตรียมออกแบบเครื่องแต่งกำยประกอบกำรแสดงที่เหมำะสม
23.ข้อใดเป็นบรรยำกำศที่เหมำะสมที่สุดในกำรจัดกำรแสดงละครเวทีเรื่องแผลเก่ำ
1. ฉำกวิถีชีวิตชำวชนบท มีกระท่อม ทุ่งนำ วัว ควำย แม่น้ำ
2. ฉำกในสนำมรบ มีปืนใหญ่ มีดดำบ กำแพง ทุ่งหญ้ำ ก้อนหิน
3. ฉำกชุมชนแออัด มีบ้ำนเรือนตั้งหนำแน่น ลำคลอง สะพำนไม้
4. ฉำกป่ำเขำลำเนำไพร มีต้นไม้ เสียงนกร้อง น้ำตก สัตว์นำนำชนิด
24.เพลงประกอบละครมีควำมสำคัญในด้ำนใด
1. ทำให้เห็นภำพชัดเจน
2. กำหนดอำรมณ์ของตัวละคร
3. เป็นแนวคิดสำคัญของเรื่อง
4. ทำให้ผู้ชมมีควำมรู้สึกคล้อยตำม
25.องค์ประกอบของกำรแสดงละครในข้อใดเป็นแรงกระตุ้นที่สำคัญในกำรสร้ำงอำรมณ์ของตัวละคร
1. กำรสมมติ
2. จินตนำกำร
3. กำรสร้ำงสมำธิ
4. กำรสื่อสำรสัมพันธ์
26.ละครในข้อใดแสดงให้เห็นถึงกำรมุ่งเน้นประชำชนให้เกิดควำมรักชำติ
1. ละครพันทำง
2. ละครปลุกใจ
3. ละครดึกดำบรรพ์
4. ละครหลวงวิจิตรวำทกำร
27.กำรประเมินผลกำรแสดงมีประโยชน์ในด้ำนใดมำกที่สุด
1. เพื่อนำมำให้คะแนนได้
2. เพื่อคัดเลือกนักแสดงให้เหมำะสม
3. เพื่อวัดควำมนิยมของผู้ชม
4. เพื่อปรับปรุงแก้ไขกำรแสดงในครั้งต่อไป
28.กำรแสดงบทบำทสมมติเป็นบุคคลในอำชีพต่ำงๆ จะต้องปฏิบัติอย่ำงไร จึงจะสำมำรถเลียนแบบได้
เหมือนจริงที่สุด
1. ศึกษำจำกสภำพควำมเป็นจริง
2. ศึกษำจำกรูปภำพและกำรแต่งกำย
3. สังเกตจำกกริยำท่ำทำงและกำรแนะนำตัว
4. ทำควำมเข้ำใจกับเอกลักษณ์เฉพำะของตัวละคร
19.สิ่งที่พึงปฏิบัติหลังจบกำรแสดงละครคือข้อใด
1. จัดพิธีไหว้ครู
2. ฝึกซ้อมอย่ำงต่อเนื่อง
3. เชิญวิทยำกรมำอบรม
4. ทำกำรประเมินผล
30.ประโยชน์ในกำรทำให้รู้จักคุณค่ำของศิลปะ และควำมงำมของกำรแสดงละครมีควำมหมำยตรงกับข้อใด
1. แบบกำรวิจำรณ์
2. งำนออกแบบฉำก
3. แบบกำรวิเครำะห์
4. งำนออกแบบตัวละคร
ชุดที่ 2 ข้อสอบ O-Net วิชา ศิลปะ 2552
ตอนที่ 1 ศิลปะ : จำนวน 35 ข้อ (รวม 40 คะแนน)
ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
จำนวน 30 ข้อ (ข้อ 1-30) : ข้อละ 1 คะแนน (รวม 30 คะแนน)
1. ข้อใดจัดเป็นงำนประติมำกรรมทั้งหมด
1. กำแพงเมืองจีน / วัดโพธิ์ / เหรียญบำท
2. พระแก้วมรกต / พระเครื่อง / อนุสำวรีย์ชัยสมรภูมิ
3. โต๊ะนักเรียน / ธนบัตร / พระแก้วมรกต
4. เหรียญทองโอลิมปิก / สะพำนพระรำม 8 / พระพุทธมณฑล
2. กำรแบ่งประเภทของประติมำกรรมใช้เกณฑ์ในข้อใด
1. ปริมำตรของรูปทรง
2. ควำมลึกของส่วนที่ถูกแกะออกไป
3. วัสดุที่นำมำขึ้นรูป
4. ควำมสูงของส่วนที่นูนขึ้นมำ
3. งำนจิตรกรรมและงำนภำพพิมพ์แตกต่ำงกันอย่ำงไร
1. งำนจิตรกรรมจัดเป็นงำนศิลปะ แต่งำนภำพพิมพ์เกิดจำกแท่นพิมพ์
2. งำนจิตรกรรมต้องใช้เวลำนำนในกำรสร้ำงงำน ส่วนงำนภำพพิมพ์ใช้เวลำสั้นในกำรสร้ำงงำน
3. งำนภำพพิมพ์จะต้องมีแม่พิมพ์ ส่วนงำนจิตรกรรมไม่เกี่ยวข้องกับแท่นพิมพ์
4. งำนจิตรกรรมสำมำรถทำซ้ำได้ ส่วนงำนภำพพิมพ์ไม่สำมำรถทำซ้ำได้
4. ประติมำกรรมในข้อใดจัดเป็นกระบวนกำรเชิงบวก
1. รูปปั้นหน้ำคนจำกดินเหนียว
2. บำนประตูวัดสุทัศน์
3. ประติมำกรรมหินรูปเจ้ำแม่กวนอิม
4. งำนแกะสลักน้ำแข็ง
ปีการศึกษา
5. ประเภทของงำนสถำปัตยกรรมในข้อใดไม่เข้ำพวก
1. พระที่นั่งอนันตสมำคม
2. พิพิธภัณฑสถำนแห่งชำติ
3. เจดีย์ศรีสุริโยทัย
4. พระรำชวังบำงปะอิน
6. ดินสอที่ใช้ในกำรร่ำงภำพได้แก่ดินสอประเภทใด
1. ดินสอ 2B
2. ดินสอ 3B
3. ดินสอ 4B
4. ดินสอ 5B
7. จำนผสมสีมีหลำยขนำดส่วนมำกจำนผสมสีจะมีสีอะไร
1. สีแดง
2. สีเหลือง
3. สีขำว
4. สีดำ
8. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของสีน้ำ
1. สีน้ำเป็นสีที่มีลักษณะโปร่งใส
2. เนื้อสีของสีน้ำบำงเบำเมื่อระบำยสีบนกระดำษจะเห็นควำมใสของสีบนผิวกระดำษ
3. เวลำระบำยสีน้ำต้องรู้จักคอยจังหวะเวลำ เพื่อกำหนดควำมชุ่มเปียกของผิวกระดำษ
4. ใช้สีขำวผสมสีให้อ่อนหรือสว่ำงขึ้นและใช้สีดำผสมสีให้เข้มหรือมืดลง
9. ข้อใดไม่ใช่หลักกำรจัดองค์ประกอบศิลป์
1. เอกภำพ
2. จินตนำกำร
3. ควำมสมดุล
4. จุดสนใจ
10.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะเด่นของจิตรกรรมไทย
1. เป็นภำพเขียนแบบสองมิติ
2. แสดงควำมรู้สึกของภำพด้วยเส้นและท่ำทำง
3. แสดงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลด้วยสี
4. แสดงจุดสนใจโดยคำนึงถึงสัดส่วน
11.ในคำร้องของเพลงสรรเสริญพระบำรมี “ข้ำวรพุทธเจ้ำ เอำมโนและศิระกรำน” พยำงค์ใดตรงกับ
จังหวะหนัก
1. พุทธ
2. และ
3. ศิ
4. กรำน
12.ถ้ำท่ำนจัดงำนเลี้ยงสังสรรค์ในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อแสดงควำมยินดีในโอกำสที่
ญำติผู้ใหญ่ของท่ำนได้รับพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ ชั้นสูง ซึ่งจะมีแขกมำร่วมงำนประมำณ
100 คน ท่ำนคิดว่ำควรใช้วงดนตรีประเภทใดบรรเลงในงำนนี้
1. วงโยธวำทิต
2. วงขับร้องประสำนเสียง
3. วงสตริงควอร์เต็ต
4. วงซิมโฟนีออร์เคสตร้ำ
13.ข้อใดเป็นระดับเสียงของนักร้องหญิง
1. อัลโต
2. เทเนอร์
3. บำริโทน
4. เบส
14.เครื่องดนตรีในข้อใดมักใช้เล่นเสียงประสำนเมื่ออยู่ในวงดนตรี
1. ฮอร์น
2. ฟลู้ต
3. คลำริเน็ต
4. ปิคโคโล
15.ข้อใดไม่ถูกต้องในกำรดูแลรักษำเครื่องดนตรี
1. ล้ำงปำกเป่ำทรัมเป็ตด้วยน้ำ
2. ล้ำงตัวเครื่องทรอมโบนด้วยน้ำ
3. ล้ำงตัวเครื่องแซกโซโฟนด้วยน้ำ
4. ล้ำงปำกเป่ำคลำริเน็ตด้วยน้ำ
16.ข้อใดเป็นเครื่องดนตรีของภำคกลำงทั้งหมด
1. ซอสำมสำย กระจับปี่ พิณน้ำเต้ำ
2. จะเข้ ซอด้วง พิณน้ำเต้ำ
3. จะเข้ กระจับปี่ พิณเพียะ
4. ซออู้ ซอด้วง ซอสำมสำย
17.ข้อใดกล่ำวถึงลักษณะของเพลงเถำไม่ถูกต้อง
1. เริ่มจำกทำนองที่ยำวไปหำทำนองที่สั้น
2. เริ่มจำกทำนองที่สั้นไปหำทำนองที่ยำว
3. เริ่มจำกอัตรำจังหวะช้ำไปหำอัตรำจังหวะเร็ว
4. บรรเลงโดยมีกำรขับร้อง หรือไม่มีกำรขับร้องก็ได้
18.ลักษณะของเพลงหน้ำพำทย์ที่แตกต่ำงจำกเพลงประเภทอื่น คือ
1. ต้องมีบทร้องประกอบเสมอเมื่อมีกำรบรรเลง
2. ใช้ประกอบกำรแสดงระบำในกำรแสดงละคร
3. ใช้ในพิธีกรรม หรือประกอบกำรแสดง
4. ใช้เฉพำะเจ้ำนำยชั้นสูง หรือพระรำชพิธีเท่ำนั้น
19.ข้อใดคือลักษณะเด่นของดนตรีไทย
1. กำรขับร้องที่ต้องใช้เสียงสูงมำก
2. เครื่องตีที่ใช้มือตีทั้ง 2 ข้ำงตีประกอบกัน
3. กลองที่สำมำรถตีเป็นเสียงต่ำงๆ ได้ในใบเดียวกัน
4. เครื่องเป่ำ ที่สำมำรถเป่ำได้โดยไม่ต้องหยุดหำยใจ
20.ข้อใดกล่ำวถึงควำมสัมพันธ์ของดนตรีกับภำษำไทยได้ถูกต้องที่สุด
1. ลักษณะของร้อยกรองมีลักษณะใกล้เคียงลักษณะของดนตรี
2. คำในภำษำไทยทุกคำสำมำรถร้องได้ทุกระดับเสียงโดยควำมหมำยไม่เปลี่ยนแปลง
3. กำรเอื้อน คือ กำรใช้คำหลำยคำ เชื่อมโยงด้วยเสียงหลำยเสียง
4. เสียงในภำษำไทยไม่มีกำรเน้นกำรออกเสียงเฉพำะที่เหมือนภำษำอังกฤษ จึงไม่มีลักษณะของ
เสียงดนตรี
21.กำรจีบตำมหลักนำฏศิลป์ไทยที่ถูกต้องคือข้อใด
1.
2.
3.
4.
22.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของระบำศิลปำชีพ
1. เป็นกำรอนุรักษ์ภูมิปัญญำท้องถิ่น
2. ได้รับอิทธิพลจำกวิถีกำรดำเนินชีวิต
3. มุ่งเน้นกำรร่ำยรำตำมแบบแผน มีควำมประณีต
4. สะท้อนค่ำนิยม ประเพณีอันดีงำม
23.ข้อใดเป็นองค์ประกอบของละคร
1. เรื่องรำว + กำรแสดง + นักแสดง
2. เหตุกำรณ์ + นักแสดง + ผู้ชม
3. กำรแสดง + ศิลปะ + เรื่องรำว + นักแสดง + ผู้ชม
4. ศิลปะ + กำรแสดง + เรื่องรำว + ผู้กำกับ + นักแสดง + ผู้ชม
24.“...วิวัฒนำกำรมำจำกหนังใหญ่ ต่อมำใช้ตัวโขนสลับกำรเชิดหนังใหญ่ที่เรียกว่ำหนังติดตัวโขน
เมื่อควำมนิยมเรื่องหนังใหญ่เลิกลงจึงนิยมแสดงโขนชนิดนี้...” จำกข้อควำม หมำยถึงกำรแสดงชนิดใด
1. โขนหน้ำจอ
2. โขนฉำก
3. โขนโรงนอก
4. โขนสลับฉำก
25.ข้อใดมีควำมสัมพันธ์กัน
1. รำมเกียรติ์ + รำศุภลักษณ์อุ้มสม + ปี่พำทย์เครื่องคู่
2. อิเหนำ + ปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์ + แต่งกำยยืนเครื่อง
3. ผู้ชนะสิบทิศ + ปี่พำทย์มอญ + พำกย์ชมดง
4. ผิดทุกข้อ
26.ข้อใดเป็นคุณลักษณะของนำฏศิลป์ในรำชสำนัก
1. คนงำม
2. รำงำม
3. เครื่องแต่งกำยงำม
4. ถูกทุกข้อ
27.ข้อใดไม่สัมพันธ์กับสุนทรียภำพที่เกิดจำกกำรรับชมนำฏศิลป์
1. โขนยกรบ - ควำมยิ่งใหญ่
2. ละครใน - ควำมละเมียดละไม
3. ละครนอก - ควำมกระฉับกระเฉง
4. กำยกรรม - ควำมอลังกำร
28.ข้อใดเป็นหลักของกำรวิจำรณ์ละครที่ดี
1. เลือกใช้ภำษำรุนแรงเพื่อเร้ำอำรมณ์ผู้ฟังหรือผู้อ่ำน
2. ติหรือชมเพื่อให้เกิดผลในทำงบวก
3. กำรเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นข้อบกพร่องอย่ำงชัดเจน
4. ถูกทุกข้อ
29.ข้อใดเป็นกำรใช้จินตนำกำรในกำรแสดงออกซึ่งควำมคิดโดยผ่ำนกำรแสดงละครได้อย่ำงเหมำะสม
1. พอลล่ำเล่ำเหตุกำรณ์ตื่นเต้นที่ตนประสบมำให้เพื่อนๆ ในห้องฟังพร้อมแสดงท่ำทำงประกอบเพื่อให้
เห็นภำพ
2. น้ำเชื่อมยืนเอำมือไพล่หลังเวลำพูดเพื่อไม่ให้ดูเกะกะ
3. ตุ้มติ้มทำท่ำทำงล้อเลียนเพื่อให้เกิดควำมอับอำย
4. ตุ๊กติ๊กแสดงท่ำทำงมั่นใจตลอดเวลำแม้ไม่มีใครมอง
30.ข้อใดเป็นกำรประยุกต์ใช้องค์ประกอบของนำฏศิลป์มำใช้ในกำรแสดงอย่ำงเหมำะสม
1. สมชำยนำบทละครเสภำเรื่องขุนช้ำงขุนแผนมำจัดแสดงเป็นละครเวทีเนื่องในวันภำษำไทย
2. สมศรีแต่งกำยยืนเครื่องพระ แสดงเป็นเจ้ำชำยในละครโรงเรียน
3. สมหวังจัดสร้ำงเครื่องแต่งกำยละครรำโดยไม่ศึกษำค้นคว้ำถึงที่มำก่อน
4. สมเกียรตินำละครนอกมำแสดงให้นักเรียนชั้นอนุบำลได้ชมฟรี
ส่วนที่ 2 : แบบระบำยคำตอบที่สัมพันธ์กันจำนวน4ข้อ : (ข้อ31-34): ข้อละ2คะแนน (รวม8คะแนน)
ข้อ 31-34 จงพิจำรณำคำตอบจำกข้อมูลแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 คำตอบ
ที่สัมพันธ์กันและเกี่ยวข้องกับโจทย์ให้ถูกต้องครบทุกกลุ่ม จึงจะได้คะแนน
31. กำรสร้ำงบรรยำกำศและกำรตกแต่งร้ำนอำหำรเหนือของไทย
กลุ่ม กลุ่ม กลุ่ม
1. เครื่องปั้นดินเผำ 1. ฟ้อนสำวไหม 1. วงพิณแคน
2. ปลำตะเพียนสำน 2. ฟ้อนสำละวัน 2. วงมโหรี
3. ตัวหนังตะลุงประดับผนัง 3. รำวรเชษฐ์ 3. วงสะล้อ
4. ผ้ำปักชำวเขำประดับผนัง 4. ตำลียอเก็จ 4. รองเง็ง
5. เขำควำยประดับผนัง 5. ละครหุ่น 5. วงกำหลอ
32. กำรจัดกำรแสดงดนตรีและนำฏศิลป์ในงำนขึ้นบ้ำนใหม่ตำมประเพณีไทย
กลุ่ม กลุ่ม
1. รำฉุยฉำย 1. วงปี่พำทย์นำงหงส์
2. รำอวยพร 2. วงปี่พำทย์มอญ
3. ละครเรื่องพระเวสสันดรชำดก 3. วงเครื่องสำยปี่ชวำ
4. รำถวำยพระพร 4. วงบัวลอย
5. รำวงมำตรฐำน 5. วงเครื่องสำยผสมขิม
33. กำรแสดงถึงอำรมณ์โกรธ มีควำมสัมพันธ์กับข้อใด
กลุ่ม กลุ่ม
1. ขำว 1. กระทืบเท้ำ
2. เหลือง 2. มือประสำนที่อก
3. เทำ 3. ก้มหน้ำลงมือประสำนที่หน้ำตัก
4. ชมพู 4. จีบที่มุมปำก
5. แดง 5. ฝ่ำมือแตะที่แก้ม
CA B
A B
A B
34. องค์ประกอบในข้อใดแสดงถึง “ควำมสมดุล”
กลุ่ม กลุ่ม
1. พระปฐมเจดีย์ 1. อนุสำวรีย์เทพีเสรีภำพ
2. สะพำนพระรำมแปด 2. กำแพงเมืองจีน
3. จิตรกรรมฝำผนัง 3. หอไอเฟิล
4. พระบรมรูปทรงม้ำ 4. หอเอนปิซ่ำ
5. ลำยกระหนก 5. สโตนเฮนจ์
ส่วนที่ 3 : แบบระบำยตัวเลือกมำกกว่ำ 1 ตัวเลือก : จำนวน 1 ข้อ : ข้อละ 2 คะแนน (รวม 2 คะแนน)
35.ข้อใดจัดเป็นกำรแสดงนำฏศิลป์ประยุกต์โดยใช้หลักองค์ประกอบศิลป์มำเป็นส่วนหนึ่งของกำรแสดง
(มีคำตอบที่ถูกต้องมำกกว่ำ 1 ข้อ ต้องตอบให้ครบทุกข้อ)
1. กำรร่ำยรำ โดยใช้ผ้ำเส้นยำว เป็นส่วนประกอบกำรแสดง
2. กำรร่ำยรำ โดยผู้แสดงอยู่หลังม่ำนขำว ผู้ชมเห็นเพียงเงำดำ
3. กำรร่ำยรำ โดยผู้แสดงแต่งกำยสีสันไม่ซ้ำกัน
4. กำรร่ำยรำ โดยผู้แสดงถือพู่กันวำดภำพประกอบกำรแสดง
A B
ชุดที่ 2 ข้อสอบ O-Net วิชา ศิลปะ 2553
ตอนที่ 1 ศิลปะ : จำนวน 12 ข้อ (รวม 20 คะแนน)
ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
จำนวน 5 ข้อ (ข้อ 1-5) : ข้อละ 1.5 คะแนน (รวม 7.5 คะแนน)
1. ข้อใดไม่ใช่งำนศิลปะพื้นบ้ำน
1. เครื่องปั้นดินเผำด่ำนเกวียน
2. กำรทอผ้ำพื้นเมือง
3. กำรทำโอ่งมังกร
4. กำรเขียนภำพสีน้ำมัน
2. ข้อใดจัดเป็นงำนประติมำกรรมลอยตัวทั้งหมด
1. เจดีย์ / วัดพระแก้ว / เหรียญบำท
2. พระพุทธชินรำช / พระบรมรำชำนุสำวรีย์ / อนุสำวรีย์ชัยสมรภูมิ
3. เสำธงชำติ / ธนบัตร / อนุสำวรีย์ย่ำเหล
4. ป้ำยรถเมล์ / สะพำนลอย / รำงรถไฟฟ้ำ
3. กำรแปรอักษรบนอัฒจันทร์ใช้องค์ประกอบศิลป์ในเรื่องใดน้อยที่สุด
1. จุด
2. สี
3. น้ำหนัก
4. รูปทรง
4. ศิลปะไทยได้รับอิทธิพลมำจำกสิ่งใดมำกที่สุด
1. ธรรมชำติ
2. วัฒนธรรม
3. ศำสนำ
4. ประเพณี
ปีการศึกษา
5. ข้อใดเปรียบเทียบได้ไม่ถูกต้องเมื่อคำนึงถึงประเภทของเครื่องดนตรีที่ใช้ในวงเท่ำนั้น
1. วงมโหรีและวงออร์เคสตรำ
2. ปี่พำทย์และวงซิมโฟนิกแบนด์
3. วงเครื่องสำยประสมเปียโนและวงเปียนโนควอร์เต็ต
4. ปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์และวงซิมโฟนิกแบนด์
ส่วนที่ 2 : แบบปรนัยหลำยตัวเลือก จำนวน 2 ข้อ (ข้อ 6-7) : ข้อละ 2.5 คะแนน (รวม 5 คะแนน)
ข้อ 6-7 จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องให้ครบ 3 คำตอบ จึงจะได้คะแนน
6. เครื่องดนตรีในข้อใดใช้ในวงปี่พำทย์หรือวงออร์เคสตรำเท่ำนั้น
1. เครื่องกระทบ (Percussion)
2. เครื่องสำยใช้ดีด (Bowed string instrument)
3. เครื่องสำยใช้สี (Plucked string instrument)
4. เครื่องลมไม้ ( Woodwind instrument)
5. เครื่องลมทองเหลือง (Brass instrument)
7. องค์ประกอบของกำรบันทึกโน้ตสำกลในข้อใดไม่มีในดนตรีไทย
1. เส้นกั้นห้อง (Barline)
2. เครื่องหมำยโยงเสียง (Tie)
3. ตัวหยุด (Rest)
4. เครื่องหมำยกำหนดจังหวะ (Time Signature)
5. เครื่องหมำยย้อน (Repeat)
ส่วนที่ 3 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 5 ข้อ
(ข้อ 8-12) : ข้อละ 1.5 คะแนน (รวม 7.5 คะแนน)
8. ข้อใดแสดงทัศนคติที่ไม่เหมำะสมเกี่ยวกับกำรฟังหรือกำรเล่นดนตรี
1. สมชำยวิจำรณ์กำรแสดงของนักเปียโนให้เพื่อนฟังหลังจำกจบคอนเสิร์ต
2. สมชำยออกควำมเห็นว่ำไม่ชอบผลงำนเพลงของโมสำร์ต
3. สมชำยซ้อมหนักเพื่อให้กำรแสดงดนตรีของตนเองออกมำดี
4. สมชำยคิดว่ำตนเองเล่นดนตรีเก่งที่สุดในห้องเรียนจึงไม่ต้องฝึกซ้อมมำก
9. ข้อใดถูกต้อง
1. โขนจัดเป็นรำชูปโภคอย่ำงหนึ่ง
2. ละครจัดเป็นรำชูปโภคอย่ำงหนึ่ง
3. โขนและละครจัดเป็นรำชูปโภคอย่ำงหนึ่ง
4. โขนและละครไม่จัดเป็นรำชูปโภค
10.ข้อใดถูกต้องในรำวงมำตรฐำน
1. งำมแสงเดือน ท่ำรำ ชักแป้งผัดหน้ำ
2. ชำวไทย ท่ำรำ ยูงฟ้อนหำง
3. หญิงไทยใจงำม ท่ำรำ สอดสร้อยมำลำ
4. ดวงจันทร์ขวัญฟ้ำ ท่ำรำ ช้ำงประสำนงำ
11.ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. โขนเป็นนำฏศิลป์ไทยโบรำณ
2. ผู้แสดงโขนสวมหัวปิดหน้ำทั้งหมด
3. เรื่องที่ใช้แสดงโขนเรื่องรำมเกียรติ์
4. เพลงที่ใช้ประกอบกิริยำในกำรแสดงโขนและละครรำไทยเรียกว่ำเพลงหน้ำพำทย์
12.ข้อใดถูกต้อง
1. พระบิดำของพระรำม คือ พระพรต
2. ลิงยอด คือ หนุมำน
3. ลิงยอด คือ สุครีพ
4. สมุนวำนรตัวแรกของพระรำม คือ องคต
เฉลยข้อสอบ
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา ทัศนศิลป์
ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ
1. 3
กำรวำดภำพโดยกำรตัดเส้น หรือวำดเส้นทับโครงร่ำงภำพเดิม โดยใช้สีดำ หรือสีเข้ม
อื่นๆ มีจุดมุ่งหมำยเพื่อให้ภำพเด่นชัดและตกแต่งรำยละเอียดของภำพให้สมบูรณ์
ซึ่งนิยมใช้กับกำรวำดภำพประกอบเรื่องที่เป็นนิทำน วรรณคดี ละคร ภำพจินตนำกำร
แต่กำรใช้เทคนิคนี้จะทำให้ภำพมีควำมแตกต่ำงจำกของจริงที่จะไม่ปรำกฏเส้น
ขอบภำพออกมำให้เห็นอย่ำงชัดเจน
2. 2 กำรวำดภำพตัวละครให้เป็นที่นิยมของคนทั่วไป ผู้วำดจะต้องวำดภำพที่สื่อให้เห็นถึง
รูปแบบที่เรียบง่ำย สื่อสำรอำรมณ์และควำมรู้สึกได้ดี แต่ต้องมีเอกลักษณ์เฉพำะของ
ตัวละคร จึงจะทำให้ผู้ชมแยกแยะควำมแตกต่ำงของตัวละครแต่ละตัวได้ง่ำย
3. 1
โปสเตอร์ที่ดีจะต้องสะดุดตำแต่แรกเห็น อ่ำนง่ำย ผู้อ่ำนเข้ำใจสิ่งที่ต้องกำรจะสื่อได้
อย่ำงรวดเร็ว ทั้งนี้เพรำะผู้อ่ำนโปสเตอร์จะใช้เวลำดูไม่นำน ดังนั้นโปสเตอร์จึงไม่
ควรใช้ข้อควำมที่กำกวม ข้อควำมยำว หรือมีข้อควำมมำกเกินไป
4. 4
เพรำะวัฒนธรรมเป็นแรงผลักดันทำให้เกิดกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ และใน
ขณะเดียวกันผลงำนทัศนศิลป์ก็ถ่ำยทอดลักษณะเรื่องรำวของวัฒนธรรมลงไปด้วย
ในลักษณะที่มีควำมเกื้อหนุนกันจึงเป็นเหตุผลที่สะท้อนคำกล่ำวที่ว่ำผลงำน
ทัศนศิลป์สำมำรถสะท้อนวัฒนธรรมได้ดีที่สุด
5. 2
เพรำะควำมรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อควำมงำมในธรรมชำติที่เห็นนั้นเป็นควำมรู้สึกที่
ประทับใจไม่รู้ลืม ควำมรู้สึกประทับใจจะทำให้เกิดควำมติดตำตรึงใจในภำพที่เห็น
6. 4
เนื่องจำกเป้ำหมำยหลักของกำรสร้ำงสัญลักษณ์ต่ำงๆ นั้น เพื่อกำรสื่อสำรควำมหมำย
ให้มนุษย์เข้ำใจร่วมกัน ปฏิบัติร่วมกันได้อย่ำงถูกต้อง ดังนั้น ในกำรออกแบบ
สัญลักษณ์ผู้ออกแบบควรคำนึงถึงกำรสื่อควำมหมำยของสัญลักษณ์มำกที่สุด
โดยสัญลักษณ์นั้นต้องสำมำรถสื่อควำมหมำยได้อย่ำงชัดเจนให้ผู้ที่พบเห็นได้เข้ำใจ
ตรงกัน
7. 3
เนื่องจำกงำนจิตรกรรมเป็นกำรเขียนภำพระบำยสี ซึ่งผลงำนอำจจะชำรุดเสียหำยได้
ถ้ำนำไปตั้งไว้ไม่ถูกที่ เช่น โดนน้ำฝน โดนแดด เป็นต้น ดังนั้น ผลงำนจิตรกรรม
ทุกประเภทจึงไม่เหมำะกับกำรนำไปใช้ตกแต่งสวนสำธำรณะ
8. 1
กำรออกแบบผลงำนทัศนศิลป์ บำงครั้งควำมขัดแย้งกับควำมกลมกลืนก็มีควำม
เกี่ยวข้องกัน เพรำะถ้ำส่วนมำกมีควำมกลมกลืนมำกเกินไป อำจทำให้ผู้ชมเกิด
ควำมรู้สึกซ้ำซำก ไม่น่ำสนใจ ดังนั้น กำรออกแบบโดยกำรนำควำมขัดแย้งมำใช้ใน
ภำพก็จะช่วยทำให้ผลงำนเด่นสะดุดตำ น่ำสนใจมำกยิ่งขึ้น
9. 4
งำนสื่อผสมเป็นผลงำนทัศนศิลป์ที่เกิดขึ้นจำกกำรนำเทคนิควิธีกำรที่หลำกหลำยมำ
ผสมผสำนกัน เพื่อสร้ำงสรรค์เป็นผลงำนออกมำ ซึ่งผลงำนที่ออกกมำนั้นก็จะมีควำม
แปลกตำและน่ำสนใจแตกต่ำงไปจำกงำนทัศนศิลป์ประเภทอื่นๆ
10. 3
กำรนำภำพซึ่งเป็นผลงำนจิตรกรรมอันเป็นงำนประเภทหนึ่งของงำนทัศนศิลป์มำใช้
ประดับตกแต่งบ้ำนให้น่ำดูให้มีสีสัน ช่วยดึงดูดสำยตำ ถือเป็นกำรนำเอำผลงำน
ทัศนศิลป์มำใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ส่วนกำรใช้แสงไฟหลำกสีไม่ถือเป็น
ผลงำนทัศนศิลป์
11. 2
กำรสร้ำงผลงำนทัศนศิลป์ ไม่ว่ำจะเป็นรูปแบบใดก็ตำม ผู้สร้ำงสรรค์ล้วนได้รับ
อิทธิพลหรือแบบอย่ำงมำจำกสิ่งแวดล้อมตำมธรรมชำติ เช่น กำรใช้สีเขียวในกำรวำด
ใบไม้ กำรวำดรูปพระอำทิตย์เป็นวงกลมมีแสงสีสัน เป็นต้น
12. 4
เส้นแนวตั้งและเส้นแนวนอนเป็นหลักสำคัญในกำรบอกทิศทำงกำรหันใบหน้ำของ
ตัวละครว่ำตัวละครจะหันใบหน้ำไปทำงซ้ำย หันไปทำงขวำ ก้มหน้ำ หรือเงยหน้ำ
กำรจัดเส้นแนวตั้งและแนวนอนก็จะโค้งไปตำมรูปทรงของใบหน้ำ
13. 1
เพรำะหลักกำรออกแบบที่ดีนั้น ก็คือ กำรศึกษำจำกต้นแบบของจริงก่อนแล้วค่อยตัด
ทอนเหลือเป็นโครงสร้ำงเด่นๆ ไว้ ซึ่งผู้ชมสำมำรถรับรู้ได้ว่ำเป็นดอกไม้
14. 3
เพรำะข้อ 3. ระบุถึงทัศนธำตุต่ำงๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนข้อ 1. เป็นกำรกล่ำวถึงสิ่งที่มองเห็น
ข้อ 2. เป็นกำรกล่ำวแบบเปรียบเทียบ ส่วนข้อ 4. เป็นกำรกล่ำวถึงควำมรู้สึกด้ำนควำม
งำมที่ได้เห็นจำกภำพส้มโอ
15. 1
ควำมกลมกลืนช่วยให้กำรจัดองค์ประกอบศิลป์ เกิดกำรประสำนกลมกลืนสอดคล้อง
สัมพันธ์เข้ำกันได้ จนกลำยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งควำมกลมกลืนมีทั้งควำม
กลมกลืนของทัศนธำตุและควำมกลมกลืนของเนื้อหำสำระทั้งหมด
16. 3
เพรำะควำมเป็นเอกภำพในทำงศิลปะ คือ กำรจัดภำพให้เกิดควำมสัมพันธ์อยู่ในกลุ่ม
เดียวกัน มีควำมสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ไม่กระจัดกระจำย หรือก่อให้เกิดควำมสับสน
แม้จะมีส่วนแตกแยกไปบ้ำงก็เป็นเพียงส่วนประกอบย่อยเท่ำนั้น
17. 3
ในทำงทัศนศิลป์กำรระบำยสีมีหลักกำรที่สำคัญประกำรหนึ่งคือ สีบอกระยะ
ใกล้-ไกล คือ สีเข้ม บอกระยะใกล้ สีอ่อน บอกระยะไกล ซึ่งจะทำให้ภำพเกิดควำม
สวยงำม เกิดควำมสมจริงและมองเห็นเป็นมิติระยะใกล้-ไกล
18. 2
เนื่องจำกเส้นแนวตั้ง หรือเส้นตั้ง ดังเช่นรูปทรงของวัตถุที่เป็นแนวตั้ง เช่น ตึกทรง
สูง เสำไฟฟ้ำ เป็นต้น จะให้ควำมรู้สึกในกำรมองว่ำมีควำมมั่นคง ตั้งมั่น แข็งแรง
สง่ำงำม เป็นระเบียบ
19. 1
ขั้นตอนแรกของกำรวำดภำพตัวละครจำกวรรณคดีไทย คือ ผู้วำดต้องเลือกวรรณคดี
ไทยเรื่องที่ตนเองชื่นชอบและควรอ่ำนเนื้อเรื่องโดยรวมก่อนทั้งเล่ม จนเกิดควำม
เข้ำใจและเกิดมโนภำพของตัวละครที่จะวำด จำกนั้นจึงค่อยลงมือวำดภำพตัวละคร
20. 2
ศำสนำและควำมเชื่อเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์
ประเภทต่ำงๆ โดยเฉพำะผลงำนที่มีควำมยิ่งใหญ่และมีควำมประณีต สวยงำม ศิลปิน
และผู้ร่วมสร้ำงสรรค์ผลงำนจะต้องมีควำมเชื่อถือและควำมศรัทธำเป็นหลัก จึงจะมี
พลังกำยและพลังใจที่จะสร้ำงสรรค์ผลงำนดังกล่ำวไว้เป็นมรดกของแผ่นดิน
สืบต่อไป
21. 1
หน้ำที่ใช้สอย กล่ำวคือ ผลงำนทัศนศิลป์ทั้งไทยและสำกลสร้ำงขึ้นเพื่อนำไปใช้
ตอบสนองเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้ คือ เพื่อชื่นชม หรือเพื่อแสดงออกทำงควำมงำม
ใช้ประดับตกแต่ง เพื่อเป็นที่เคำรพบูชำ หรือเพื่อเผยแผ่ศำสนำ
22. 1
อิทธิพลที่มีผลต่อกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยมีอยู่หลำยปัจจัยด้วยกัน
แต่ปัจจัยที่เด่นชัดที่สุด คือ ปัจจัยด้ำนควำมเชื่อ ควำมศรัทธำทำงพระพุทธศำสนำ
เพรำะผลงำนทัศนศิลป์ของไทยในแต่ละยุคสมัยล้วนสร้ำงขึ้นเพื่อแสดงออกซึ่งควำม
ศรัทธำต่อศำสนำ ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยที่เกิดขึ้นจำกควำมเชื่อ ควำมศรัทธำทำง
พระพุทธศำสนำเป็นจำนวนมำก เช่น วัด สถูป เจดีย์ พระพุทธรูป ภำพจิตรกรรม
เป็นต้น
23. 4
งำนจิตรกรรมฝำผนังสมัยสุโขทัยสีที่ใช้จะเป็นแบบดำ แดง เรียกว่ำ “สีเอกรงค์”
(Monochrome) ภำพเขียนที่สำคัญ คือ ภำพจิตรกรรมฝำผนังพระพุทธรูป
ปำงมำรวิชัยในเจดีย์วัดเจดีย์เจ็ดแถว อำเภอศรีสัชนำลัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นภำพที่
ได้รับอิทธิพลมำจำกศิลปะอินเดีย ลังกำและเขมรผสมผสำนกัน
24. 2
ผลงำนจิตรกรรมไทยในอดีตนิยมเขียนเกี่ยวกับพุทธประวัติจำกพระปฐมสมโพธิกถำ
และเรื่องรำวทำงศำสนำ โดยจะนิยมเขียนขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชำตำมผนังโบสถ์ วิหำร
ศำลำกำรเปรียญและผนังถ้ำ ทั้งนี้เพื่อประดับตกแต่งสถำนที่แล้วยังถือเป็นกำรเผยแผ่
ศำสนำในอีกทำงหนึ่งด้วย
25. 2
จิตรกรรมไทยถึงแม้ในแต่ละภำคจะมีวิธีกำรเขียน รูปแบบที่ใช้ คตินิยมในกำรสร้ำงที่
แตกต่ำงกันไป ทำให้ผลงำนที่แล้วเสร็จออกมำมีควำมแตกต่ำงกัน ดูแล้วสำมำรถจะ
บอกได้ว่ำเป็นของภำคใด แต่เรื่องรำวที่นิยมนำมำวำดส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องรำว
พุทธประวัติ หรือแสดงเรื่องรำวที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศำสนำ
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)

More Related Content

What's hot

5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะSiwadolChaimano
 
775. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
775. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0775. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
775. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0sincerecin
 
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 05. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0just2miwz
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะSuriyawaranya Asatthasonthi
 
ข้อสอบ O net art (2)
ข้อสอบ  O  net  art (2)ข้อสอบ  O  net  art (2)
ข้อสอบ O net art (2)Navaphat Phromsala
 
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2Anawat Supappornchai
 
ปลายภาค ม1
ปลายภาค ม1ปลายภาค ม1
ปลายภาค ม1peter dontoom
 
ปลายภาค ม.2
ปลายภาค ม.2ปลายภาค ม.2
ปลายภาค ม.2peter dontoom
 
ข้อสอบ O-net - ศิลปะ
ข้อสอบ O-net - ศิลปะข้อสอบ O-net - ศิลปะ
ข้อสอบ O-net - ศิลปะbowing3925
 
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1teerachon
 
ปลายภาค ม4 2557
ปลายภาค ม4 2557ปลายภาค ม4 2557
ปลายภาค ม4 2557peter dontoom
 
เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557peter dontoom
 
บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานของการวาดเส้น
บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานของการวาดเส้นบทที่ 1 ความรู้พื้นฐานของการวาดเส้น
บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานของการวาดเส้นLtid_2017
 
ทัศนธาตุ
ทัศนธาตุทัศนธาตุ
ทัศนธาตุNattapon
 
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์peter dontoom
 
ปกหน้า-ทัศนธาตุ
ปกหน้า-ทัศนธาตุปกหน้า-ทัศนธาตุ
ปกหน้า-ทัศนธาตุNattapon
 
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะ
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะตัวชี้วัดและสาระศิลปะ
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะพิพัฒน์ ตะภา
 
วิชาศิลปะ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...วิชาศิลปะ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...Kruthai Kidsdee
 
6. หลักสูตรศิลปะ
6. หลักสูตรศิลปะ6. หลักสูตรศิลปะ
6. หลักสูตรศิลปะnang_phy29
 

What's hot (20)

5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
 
775. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
775. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0775. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
775. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
 
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 05. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
 
ข้อสอบ O net art (2)
ข้อสอบ  O  net  art (2)ข้อสอบ  O  net  art (2)
ข้อสอบ O net art (2)
 
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
 
ปลายภาค ม1
ปลายภาค ม1ปลายภาค ม1
ปลายภาค ม1
 
ปลายภาค ม.2
ปลายภาค ม.2ปลายภาค ม.2
ปลายภาค ม.2
 
ข้อสอบ O-net - ศิลปะ
ข้อสอบ O-net - ศิลปะข้อสอบ O-net - ศิลปะ
ข้อสอบ O-net - ศิลปะ
 
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
 
ปลายภาค ม4 2557
ปลายภาค ม4 2557ปลายภาค ม4 2557
ปลายภาค ม4 2557
 
เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557เฉลยปลายภาค ม42557
เฉลยปลายภาค ม42557
 
บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานของการวาดเส้น
บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานของการวาดเส้นบทที่ 1 ความรู้พื้นฐานของการวาดเส้น
บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานของการวาดเส้น
 
ทัศนธาตุ
ทัศนธาตุทัศนธาตุ
ทัศนธาตุ
 
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์
ข้อสอบกศน ศิลป ดนตรี นาฏศิลป์
 
ปกหน้า-ทัศนธาตุ
ปกหน้า-ทัศนธาตุปกหน้า-ทัศนธาตุ
ปกหน้า-ทัศนธาตุ
 
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะ
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะตัวชี้วัดและสาระศิลปะ
ตัวชี้วัดและสาระศิลปะ
 
วิชาศิลปะ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...วิชาศิลปะ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
 
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตรแผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
 
6. หลักสูตรศิลปะ
6. หลักสูตรศิลปะ6. หลักสูตรศิลปะ
6. หลักสูตรศิลปะ
 

Viewers also liked

3.แนวข้อสอบ o net สังคมศึกษา(ม.6)
3.แนวข้อสอบ o net สังคมศึกษา(ม.6)3.แนวข้อสอบ o net สังคมศึกษา(ม.6)
3.แนวข้อสอบ o net สังคมศึกษา(ม.6)teerachon
 
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)teerachon
 
7.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.6)
7.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.6)7.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.6)
7.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.6)teerachon
 
1.แนวข้อสอบ o net ภาษาไทย(ม.3)
1.แนวข้อสอบ o net ภาษาไทย(ม.3)1.แนวข้อสอบ o net ภาษาไทย(ม.3)
1.แนวข้อสอบ o net ภาษาไทย(ม.3)teerachon
 
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)teerachon
 
7.แนวข้อสอบ o net การงานอาชีพและเทคโนโลยี(ม.3)
7.แนวข้อสอบ o net การงานอาชีพและเทคโนโลยี(ม.3)7.แนวข้อสอบ o net การงานอาชีพและเทคโนโลยี(ม.3)
7.แนวข้อสอบ o net การงานอาชีพและเทคโนโลยี(ม.3)teerachon
 
แบบทดสอบ การงานอาชีฯ ม.3
แบบทดสอบ การงานอาชีฯ ม.3แบบทดสอบ การงานอาชีฯ ม.3
แบบทดสอบ การงานอาชีฯ ม.3teerachon
 
2.แนวข้อสอบ o net คณิตศาสตร์(ม.3)
2.แนวข้อสอบ o net คณิตศาสตร์(ม.3)2.แนวข้อสอบ o net คณิตศาสตร์(ม.3)
2.แนวข้อสอบ o net คณิตศาสตร์(ม.3)teerachon
 
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6teerachon
 
3.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.3)
3.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.3)3.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.3)
3.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.3)teerachon
 
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 2แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 2teerachon
 
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.6แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.3แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6teerachon
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2teerachon
 
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3teerachon
 
8.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.3)
8.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.3)8.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.3)
8.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.3)teerachon
 
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6teerachon
 

Viewers also liked (20)

3.แนวข้อสอบ o net สังคมศึกษา(ม.6)
3.แนวข้อสอบ o net สังคมศึกษา(ม.6)3.แนวข้อสอบ o net สังคมศึกษา(ม.6)
3.แนวข้อสอบ o net สังคมศึกษา(ม.6)
 
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
 
7.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.6)
7.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.6)7.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.6)
7.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.6)
 
1.แนวข้อสอบ o net ภาษาไทย(ม.3)
1.แนวข้อสอบ o net ภาษาไทย(ม.3)1.แนวข้อสอบ o net ภาษาไทย(ม.3)
1.แนวข้อสอบ o net ภาษาไทย(ม.3)
 
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
 
7.แนวข้อสอบ o net การงานอาชีพและเทคโนโลยี(ม.3)
7.แนวข้อสอบ o net การงานอาชีพและเทคโนโลยี(ม.3)7.แนวข้อสอบ o net การงานอาชีพและเทคโนโลยี(ม.3)
7.แนวข้อสอบ o net การงานอาชีพและเทคโนโลยี(ม.3)
 
แบบทดสอบ การงานอาชีฯ ม.3
แบบทดสอบ การงานอาชีฯ ม.3แบบทดสอบ การงานอาชีฯ ม.3
แบบทดสอบ การงานอาชีฯ ม.3
 
2.แนวข้อสอบ o net คณิตศาสตร์(ม.3)
2.แนวข้อสอบ o net คณิตศาสตร์(ม.3)2.แนวข้อสอบ o net คณิตศาสตร์(ม.3)
2.แนวข้อสอบ o net คณิตศาสตร์(ม.3)
 
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
 
3.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.3)
3.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.3)3.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.3)
3.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.3)
 
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 2แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
 
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
 
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.6แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.6
 
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.3แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.3
 
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
 
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
 
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
 
8.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.3)
8.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.3)8.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.3)
8.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.3)
 
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
 

Similar to 6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)

5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 05. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0Jc C' Twc
 
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1rojanasak tipnek
 
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2พัน พัน
 
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...Kruthai Kidsdee
 
สื่อที่ใช้ ชุดการสอน
สื่อที่ใช้  ชุดการสอนสื่อที่ใช้  ชุดการสอน
สื่อที่ใช้ ชุดการสอนLampang Rajabhat University
 
แพท ๖
แพท ๖แพท ๖
แพท ๖snitcher
 
รหัสวิชา 76 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ (PAT 6)
รหัสวิชา 76 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ (PAT 6)รหัสวิชา 76 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ (PAT 6)
รหัสวิชา 76 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ (PAT 6)woottipol2
 
Pat6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
Pat6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์Pat6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
Pat6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์Theyok Tanya
 
ข้อสอบการอ่านม.๖
ข้อสอบการอ่านม.๖ข้อสอบการอ่านม.๖
ข้อสอบการอ่านม.๖kruart2010
 
Is โสรยา ประวัติส่วนตัว
Is โสรยา ประวัติส่วนตัวIs โสรยา ประวัติส่วนตัว
Is โสรยา ประวัติส่วนตัวKaembum Soraya
 
แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้10871885581
 
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศนข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศนpeter dontoom
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศกลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศYatphirun Phuangsuwan
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2Yatphirun Phuangsuwan
 
แผน 1 นวัตกรรม (1)
แผน 1 นวัตกรรม (1)แผน 1 นวัตกรรม (1)
แผน 1 นวัตกรรม (1)Jirathorn Buenglee
 

Similar to 6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3) (20)

5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 05. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
 
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตรแผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
แผนพื้นที่ผิวและปริมาตร
 
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
 
O net
O netO net
O net
 
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
 
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
 
สื่อที่ใช้ ชุดการสอน
สื่อที่ใช้  ชุดการสอนสื่อที่ใช้  ชุดการสอน
สื่อที่ใช้ ชุดการสอน
 
แพท ๖
แพท ๖แพท ๖
แพท ๖
 
รหัสวิชา 76 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ (PAT 6)
รหัสวิชา 76 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ (PAT 6)รหัสวิชา 76 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ (PAT 6)
รหัสวิชา 76 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ (PAT 6)
 
Pat6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
Pat6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์Pat6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
Pat6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
 
Pat6 2
Pat6 2Pat6 2
Pat6 2
 
แผนการสอน
แผนการสอนแผนการสอน
แผนการสอน
 
ข้อสอบการอ่านม.๖
ข้อสอบการอ่านม.๖ข้อสอบการอ่านม.๖
ข้อสอบการอ่านม.๖
 
Is โสรยา ประวัติส่วนตัว
Is โสรยา ประวัติส่วนตัวIs โสรยา ประวัติส่วนตัว
Is โสรยา ประวัติส่วนตัว
 
แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1
 
Sci 2009 03
Sci 2009 03Sci 2009 03
Sci 2009 03
 
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศนข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศกลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
 
แผน 1 นวัตกรรม (1)
แผน 1 นวัตกรรม (1)แผน 1 นวัตกรรม (1)
แผน 1 นวัตกรรม (1)
 

More from teerachon

แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
แบบทดสอบ  ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6แบบทดสอบ  ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1teerachon
 
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ เทคโน ม.3
แบบทดสอบ เทคโน ม.3แบบทดสอบ เทคโน ม.3
แบบทดสอบ เทคโน ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1teerachon
 
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.2
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.2แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.2
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.2teerachon
 
แบบทดสอบ สังคมศึกษา ม.2
แบบทดสอบ สังคมศึกษา ม.2แบบทดสอบ สังคมศึกษา ม.2
แบบทดสอบ สังคมศึกษา ม.2teerachon
 
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2teerachon
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.2teerachon
 

More from teerachon (19)

แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
แบบทดสอบ  ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6แบบทดสอบ  ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
 
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
 
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
 
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
 
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
 
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
 
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
 
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
 
แบบทดสอบ เทคโน ม.3
แบบทดสอบ เทคโน ม.3แบบทดสอบ เทคโน ม.3
แบบทดสอบ เทคโน ม.3
 
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
 
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.2
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.2แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.2
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.2
 
แบบทดสอบ สังคมศึกษา ม.2
แบบทดสอบ สังคมศึกษา ม.2แบบทดสอบ สังคมศึกษา ม.2
แบบทดสอบ สังคมศึกษา ม.2
 
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.2
 

6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)

  • 1. ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา ทัศนศิลป์ มัธยมศึกษาตอนต้น คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. กำรวำดภำพที่มีกำรตัดเส้น หรือวำดเส้นนิยมใช้กับงำนในข้อใด 1. ภำพทิวทัศน์เสมือนจริง 2. ภำพแสดงเหตุกำรณ์สำคัญ 3. ภำพประกอบนิทำน หรือละคร 4. ภำพที่ใช้เทคนิคต่ำง ๆ ผสมกัน 2. ถ้ำจะวำดภำพตัวละครให้เป็นที่นิยมของคนทั่วไปต้องคำนึงถึงอะไร 1. ภำพสื่อให้เห็นถึงรูปแบบที่เรียบง่ำย มีควำมเหมือนจริงตำมธรรมชำติ 2. ภำพที่เรียบง่ำย สื่อสำรอำรมณ์ควำมรู้สึกได้ดี มีบุคลิกที่จำง่ำย 3. ภำพที่มีเส้นคมชัด ใช้สีที่เกินจริงจำกธรรมชำติ 4. ภำพลำยเส้นเรียบง่ำย สื่อวิถีชีวิตในสังคมได้ดี 3. กำรออกแบบโปสเตอร์ที่ดีและมีประสิทธิภำพในกำรสื่อสำรควรออกแบบให้มีคุณสมบัติตำมข้อใด 1. สะดุดตำอ่ำนง่ำยแต่แรกเห็น 2. มีควำมกลมกลืนไปกับสภำพแวดล้อม 3. ใช้ข้อควำมยำว ให้ได้รำยละเอียดมำก 4. มีแต่ภำพ ใช้ตัวอักษรให้น้อยที่สุด 4. เหตุผลข้อใดที่สนับสนุนคำกล่ำวที่ว่ำ “ผลงานทัศนศิลป์สามารถสะท้อนวัฒนธรรม” ได้ถูกต้องที่สุด 1. ผลงำนทัศนศิลป์สร้ำงขึ้นมำจำกควำมคิดของมนุษย์ 2. มนุษย์สร้ำงผลงำนทัศนศิลป์เลียนแบบผลงำนทัศนศิลป์ที่มีอยู่ 3. ศิลปินพัฒนำเทคนิค วิธีกำรในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม 4. วัฒนธรรมเป็นแรงผลักดันทำให้เกิดกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ ขณะเดียวกันผลงำนทัศนศิลป์ ก็ถ่ำยทอดเรื่องรำวของวัฒนธรรม 5. เมื่อเรำสำมำรถบรรยำยถึงควำมงำมที่เห็นว่ำเป็นดวงอำทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้ำยำมสนธยำ มีดวงโตสีส้ม เหลืองสวยงำมแสดงว่ำเรำรับรู้ทำงกำรเห็นที่เกิดจำกสิ่งใด 1. เกิดจำกควำมจำที่ดี 2. เกิดจำกควำมประทับใจกับสิ่งที่เห็น 3. เกิดจำกควำมสำมำรถในกำรรับรู้ธรรมชำติ 4. เกิดจำกจินตนำกำรอันกว้ำงไกล
  • 2. 6. กำรออกแบบสัญลักษณ์ ผู้ออกแบบควรคำนึงถึงสิ่งใดมำกที่สุด 1. ควำมสวยงำมของสัญลักษณ์ 2. ควำมโดดเด่นและน่ำสนใจ 3. เหมำะสมกับยุคสมัย 4. กำรสื่อควำมหมำย 7. งำนศิลปะใดที่เหมำะแก่กำรนำไปใช้ตกแต่งสวนสำธำรณะน้อยที่สุด 1. สถำปัตยกรรม 2. เทคนิคผสม 3. จิตรกรรม 4. ประติมำกรรม 8. นำรีสร้ำงผลงำนโดยนำควำมขัดแย้งมำใช้ในภำพ นักเรียนคิดว่ำผลงำนของนำรีจะเป็นอย่ำงไร 1. ผลงำนมีควำมน่ำสนใจ 2. ผลงำนจะเกิดควำมแปลกใหม่ 3. ช่วยให้องค์ประกอบของผลงำนมีควำมกลมกลืน 4. ผลงำนสำมำรถกระตุ้นอำรมณ์ควำมรู้สึกของผู้ชมได้น้อย 9. ลักษณะเด่นของงำนสื่อผสมสอดคล้องกับข้อใด 1. สร้ำงขึ้นโดยศิลปินที่มีชื่อเสียง 2. นำวัสดุรำคำถูกมำสร้ำงงำนศิลป์ 3. มีกำรใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในกำรสร้ำงงำน 4. ใช้เทคนิคและวัสดุหลำกหลำยชนิดมำผสมผสำนกัน 10.ข้อใดเป็นตัวอย่ำงของกำรนำผลงำนทัศนศิลป์มำสร้ำงสรรค์ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน 1. แต่งกำยชุดนักเรียนมำโรงเรียน 2. เขียนหนังสือด้วยลำยมือที่อ่ำนง่ำย 3. นำภำพวำดมำตกแต่งบ้ำนเรือน 4. ใช้แสงไฟหลำกสีในงำนรื่นเริง 11.ข้อใดเป็นควำมสำคัญของสิ่งแวดล้อมต่อกำรสร้ำงสรรค์งำนทัศนศิลป์ 1. ช่วยในเรื่องกำรจัดวำงองค์ประกอบศิลป์ 2. เป็นแบบอย่ำงให้งำนทัศนศิลป์ทำตำม 3. ทำให้เกิดกำรใช้แสงเงำในตัวผลงำน 4. เป็นแหล่งวัตถุดิบเพื่อสร้ำงงำนศิลป์
  • 3. 12.เส้นในข้อใดที่เป็นเส้นหลักของกำรร่ำงภำพใบหน้ำตัวละคร 1. เส้นโค้ง เส้นตรง 2. เส้นโค้ง เส้นเฉียง 3. เส้นรูปไข่ เส้นแนวตั้ง 4. เส้นแนวตั้ง เส้นแนวนอน 13.ข้อใดเป็นกำรนำเอำรูปธรรมชำติมำเป็นต้นแบบ เพื่อเน้นถึงลักษณะเด่นของโครงสร้ำงกำรออกแบบ ดอกไม้ในงำนทัศนศิลป์ 1. วำดภำพดอกไม้ด้วยกำรใช้เส้นต่ำง ๆ ให้เหมือนจริงตำมต้นแบบ แล้วค่อยตัดทอนรำยละเอียดออก เหลือไว้แต่ลักษณะเด่นของโครงสร้ำง 2. ในขั้นตอนแรกวำดรูปร่ำงของดอกไม้ให้ถูกต้องก่อน แล้วจึงใส่รำยละเอียดตำมที่ต้องกำร 3. วำดดอกไม้มีลักษณะเป็นวงกลม มีกลีบดอกเป็นรูปหอก มำจัดวำงซ้อนกันจนเป็นภำพดอกไม้ 4. ใช้เส้นโค้งครึ่งวงกลมเป็นหลัก แบ่งกลีบดอกตำมจำนวนกลีบดอกไม้และตกแต่งรำยละเอียด โดยใช้จุด 14.เมื่อเรำวำดภำพระบำยสีผลส้มโอหนึ่งผลจะเกิดทัศนธำตุอะไรบ้ำง 1. รูปร่ำงของผลส้มโอที่มีสีเขียว 2. ส้มโอหนึ่งผลมีขนำดใหญ่กว่ำผลมะยม 3. รูปทรง สี แสงเงำ น้ำหนักอ่อน-แก่ 4. ผลส้มโอมีรูปร่ำงรูปทรงและสีสันสวยงำมเหมือนจริง 15.ควำมกลมกลืนจะช่วยให้ผลงำนดูแล้วมีควำมรู้สึกเป็นอย่ำงไร 1. เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 2. เกิดควำมขัดแย้งกันในผลงำน 3. เกิดกำรกระตุ้นและเร้ำควำมรู้สึก 4. สร้ำงควำมแตกต่ำงจำกผลงำนอื่น 16.ถ้ำนักเรียนต้องกำรให้ผลงำนไม่กระจัดกระจำยจะต้องใช้หลักกำรออกแบบในข้อใด 1. ควำมสมดุล 2. ควำมขัดแย้ง 3. ควำมเป็นเอกภำพ 4. ควำมสม่ำเสมอ
  • 4. 17.สีที่มีควำมบำงเบำมักจะระบำยระยะใด 1. ระยะตื้น 2. ระยะใกล้ 3. ระยะไกล 4. ระยะใดก็ได้ 18.ถ้ำต้องกำรสร้ำงผลงำนที่สื่อถึงควำมแข็งแรง มั่นคง ควรใช้เส้นลักษณะใดเป็นหลักในผลงำน 1. เส้นแนวนอน 2. เส้นแนวตั้ง 3. เส้นโค้งคด 4. เส้นฟันปลำ 19.ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกในกำรวำดภำพตัวละครจำกวรรณคดีไทย 1. เลือกวรรณคดีไทยในเรื่องที่ตนเองชื่นชอบ 2. เลือกเหตุกำรณ์ หรือสถำนกำรณ์ที่ตนเองประทับใจ 3. ดูตัวอย่ำงผลงำนกำรวำดภำพของศิลปิน 4. ออกแบบตัวละครทั้งรูปร่ำง หน้ำตำและเครื่องแต่งกำย 20.ข้อใดเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมไทยมำกที่สุด 1. กำรทำมำหำกิน 2. ศำสนำและควำมเชื่อ 3. สภำพลมฟ้ำอำกำศ 4. กำรต่อสู้ทำศึกสงครำม 21.ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยกับสำกลมีควำมคล้ำยคลึงกันในเรื่องใดมำกที่สุด 1. หน้ำที่ใช้สอย 2. กำรรับอิทธิพลศิลปะ 3. ประวัติควำมเป็นมำ 4. กำรเลือกใช้อุปกรณ์ 22.กำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยได้รับอิทธิพลจำกเรื่องใดมำกที่สุด 1. ควำมเชื่อ ควำมศรัทธำทำงพระพุทธศำสนำ 2. แนวควำมคิดสร้ำงสรรค์ของศิลปิน 3. อิทธิพลจำกอินเดีย จีนและศรีลังกำ 4. รูปแบบ เทคนิค วัสดุอุปกรณ์จำกตะวันตก
  • 5. 23.คำว่ำ “สีเอกรงค์” (Monochrome) ในงำนจิตรกรรมฝำผนังสมัยสุโขทัยมีลักษณะอย่ำงไร 1. สีเพียงสีเดียว คือ สีแดง 2. สีเพียงสีเดียว คือ สีส้ม 3. สี 2 สี คือ สีแดงและสีดำ 4. สี 2 สี คือ สีแดงและสีทอง 24.แนวคิดในกำรสร้ำงผลงำนจิตรกรรมไทยในสมัยโบรำณมำจำกเรื่องใดมำกที่สุด 1. บุคคลสำคัญ 2. พุทธประวัติ 3. นิทำนพื้นบ้ำน 4. เหตุกำรณ์ในยุคนั้น ๆ 25.ผลงำนจิตรกรรมไทยของแต่ละภำคมีควำมคล้ำยคลึงกันมำกที่สุดในเรื่องใด 1. รูปแบบกำรเขียน 2. เรื่องรำวที่นำเสนอ 3. กำรจัดองค์ประกอบ 4. สภำพของชุมชน 26.งำนจิตรกรรมไทยนิยมสร้ำงสรรค์ไว้ที่บริเวณใด 1. บ้ำนเรือนทั่วไป 2. สิ่งก่อสร้ำงทรงสูง 3. ฝำผนังในพระอุโบสถ 4. กำแพงพระนคร 27.ใครสร้ำงงำนทัศนศิลป์ประเภทจิตรกรรมที่สะท้อนถึงคุณค่ำของวัฒนธรรมไทย 1. แอมแกะสลักรูปคุณปู่ 2. เอ้พิมพ์ภำพด้วยเศษวัสดุ 3. เด่นปั้นตุ๊กตำตัวกำร์ตูนที่ชื่นชอบ 4. ก้อยวำดภำพประเพณีกำรแห่เทียนพรรษำ 28.อิทธิพลข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญในกำรสร้ำงสถำปัตยกรรมไทย 1. ศำสนำและควำมเชื่อ 2. สภำพภูมิอำกำศ 3. วิถีชีวิตควำมเป็นอยู่ 4. เครื่องมือและวัสดุก่อสร้ำง
  • 6. 29.สถำปัตยกรรมมีควำมสัมพันธ์กับข้อใด 1. ผลงำนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งก่อสร้ำง 2. ผลงำนด้ำนกำรละคร 3. ผลงำนศิลปะที่มีรูปทรง 3 มิติ 4. ผลงำนที่เกิดจำกกำรวำดภำพและกำรระบำยสี 30.ลักษณะของผลงำนทัศนศิลป์แบบสำกลมีลักษณะที่สอดคล้องกับข้อใด 1. ใช้เทคนิควิธีกำรแบบตะวันตก 2. เน้นเรื่องรำวของกรีกและโรมัน 3. มีรูปแบบเหมือนศิลปะยุโรป 4. ไม่มีรูปแบบของชำติใดชำติหนึ่ง 31.ข้อใดเป็นลักษณะของศิลปะสำกล 1. เป็นรูปแบบศิลปะตะวันตก 2. มีลักษณะเหมือนศิลปะยุโรป 3. คล้ำยคลึงกับศิลปะของอเมริกำ 4. เป็นนำนำชำติไม่สื่อว่ำเป็นของชำติใด 32.เหตุผลที่ถือว่ำผลงำนทัศนศิลป์เป็นภำษำสำกลในวงกำรศิลปะเนื่องจำกอะไร 1. ภำพถือเป็นสัญลักษณ์ทำงภำษำ 2. ผู้ชมเข้ำใจควำมหมำยได้ตรงกัน 3. กำรวำดภำพเหมือนกำรเขียนตัวอักษร 4. ภำพใช้สื่อควำมแทนคำพูด 33.แนวทำงกำรประเมินผลงำนในข้อใดถูกต้องที่สุด 1. กิจชัยใช้พื้นฐำนควำมรู้ของตนเองมำเป็นเกณฑ์ในกำรประเมินผลงำน 2. สุนันทำประเมินผลงำนทัศนศิลป์จำกภำพรวมของผลงำนแต่ละประเภท 3. นพวรรณกำหนดหลักกำรและตัวบ่งชี้ของผลงำนขึ้นมำก่อนที่จะประเมิน 4. นันทพรประเมินผลงำนตำมแนวทำงที่เคยเรียนรู้มำจำกศิลปินที่ตนชื่นชอบ 34.กำรวิจำรณ์ผลงำนศิลปะในข้อใดที่ใช้คำกล่ำวที่ ไม่เหมาะสม 1. ผลงำนแสดงถึงประวัติศำสตร์ชำติไทย 2. ผลงำนมีกำรออกแบบได้อย่ำงดีเยี่ยม 3. ผลงำนต้องให้ผู้ชมตีควำมได้ง่ำยขึ้น 4. ผลงำนไม่ควรค่ำแก่กำรชื่นชมแต่อย่ำงใด
  • 7. 35.กำรวิจำรณ์เพื่อประเมินงำนทัศนศิลป์ ควรคำนึงถึงเรื่องใดเป็นสำคัญ 1. หลักเกณฑ์และแบบประเมิน 2. หลักเกณฑ์และเหตุผล 3. กำรวิเครำะห์และเหตุผล 4. กำรแสดงควำมคิดเห็น 36.ข้อใดเป็นกำรวิเครำะห์รูปแบบทัศนธำตุ เมื่อดูภำพวำดภำพหนึ่ง 1. เห็นเส้นขอบ เนื้อหำในผลงำน 2. เห็นควำมคิดจินตนำกำรของศิลปิน 3. เห็นกำรใช้เส้น สี รูปทรง น้ำหนักแสงเงำ 4. เห็นควำมสมดุลและกลมกลืนของภำพ 37.ภำพวำดภำพหนึ่งเป็นผลงำนที่ศิลปินใช้สีม่วงน้ำเงิน สีน้ำเงิน สีฟ้ำ สีน้ำเงินดำ สีเทำ สร้ำงสรรค์เป็นภำพ ขึ้นมำ ภำพนี้เป็นกำรใช้สีอย่ำงเป็นเอกภำพแบบใด 1. กำรใช้สีแบบประสำน 2. กำรใช้สีแบบผสม 3. กำรใช้สีแบบขัดแย้ง 4. กำรใช้สีแบบน้ำหนักไม่เท่ำกัน 38.เมื่อลำกเส้นตรง 1, 2 และ 3 มำต่อกันดังนี้ จะได้รูปแบบทัศนธำตุที่เด่นชัดคืออะไร 1. รูปทรง 2. รูปร่ำง 3. สีและพื้นผิว 4. แสงและเงำ 39.ที่ว่ำงลวงตำ (Illusion Space) เกิดขึ้นโดยวิธีใด 1. โดยกำรเขียนภำพทิวทัศน์แบบทัศนียภำพมีระยะใกล้-ไกล 2. โดยกำรเว้นช่องว่ำงภำยในงำนประติมำกรรม 3. โดยกำรเว้นระยะช่องว่ำงระหว่ำงอำคำรกับสิ่งแวดล้อม 4. โดยกำรเว้นช่องว่ำงระหว่ำงประติมำกรรมกองทรำย 40.“เป็นจุดเริ่มต้นของทัศนศิลป์สมัยใหม่” ข้อควำมดังกล่ำวหมำยถึงผลงำนทัศนศิลป์แนวใด 1. แนวโรแมนติก 2. แนวอิมเพรสชันนิสม์ 3. แนวนีโอคลำสสิก 4. แนวคิวบิสม์ 1 2 3
  • 8. ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา ดนตรี คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. เพรำะเหตุใดจึงมีกำรใช้เพลงโหมโรงเป็นเพลงแรกที่บรรเลงก่อนกำรแสดง 1. เป็นเพลงที่มีทำนองที่ไพเรำะ 2. เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงเพื่อประกำศว่ำจะมีกำรแสดง 3. เป็นเพลงเล่นได้ง่ำย มีจังหวะและทำนองที่สนุกสนำน 4. เป็นเพลงที่ได้รับควำมนิยมในหมู่นักดนตรี 2. เพรำะเหตุใดเรำจึงต้องใช้ดอกมะเขือ หญ้ำแพรก ข้ำวตอก ดอกเข็ม ในพิธีกำรไหว้ครู 1. หำซื้อได้ง่ำย 2. มีรำคำไม่แพง 3. เป็นของที่มีควำมหมำยที่ดี 4. เป็นของที่กำหนดไว้ให้ใช้มำตั้งแต่โบรำณ 3. ข้อใดคือสิ่งสำคัญของกำรฝึกขับร้องเพลงไทยเบื้องต้น 1. วิธีกำรนั่งขับร้องเพลง 2. กำรใช้กำลังเสียงและกำรผ่อนลมหำยใจ 3. จังหวะในกำรแบ่งส่วนย่อยของเพลง 4. กำรออกเสียงอักขระและกำรออกเสียงเอื้อน 4. ข้อใดกล่ำวเกี่ยวกับคำว่ำ “กานล” ได้ถูกต้อง 1. เครื่องดนตรีไทยชนิดหนึ่ง 2. เครื่องคำนับหรือเครื่องบูชำครู 3. เพลงไทยประเภทอัตรำจังหวะชั้นเดียว 4. กำรฟ้อนรำที่มีมำตั้งแต่สมัยโบรำณ 5. วงดุริยำงค์ หรือวงออร์เคสตรำเปรียบได้กับวงดนตรีไทยประเภทใด 1. วงเครื่องสำยเครื่องคู่ 2. วงปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์ 3. วงมโหรีเครื่องใหญ่ 4. วงปี่พำทย์เครื่องใหญ่
  • 9. 6. เครื่องดนตรีในข้อใดจับคู่ได้อย่ำงเหมำะสม 1. โหวต - ปี่ใน 2. หมำกกั๊บแก็บ - จะเข้ 3. สะล้อ - พิณ 4. รือบับ - กลองปูเจ่ 7. จำกภำพเป็นกำรใช้หน้ำทับชนิดใด - - ติง ทั่ง - ติง - - ติงทั่ง - ติง - ติงทั่ง - ทั่ง 1. หน้ำทับปรบไก่ชั้นเดียว 2. หน้ำทับปรบไก่ 2 ชั้น 3. หน้ำทับสองไม้ชั้นเดียว 4. หน้ำทับสองไม้ 2 ชั้น 8. เพรำะเหตุใดกำรแสดงของไทยจึงต้องมีดนตรีบรรเลงประกอบ 1. ดนตรีจะช่วยถ่ำยทอดอำรมณ์ต่ำง ๆ ของตัวละคร 2. ต้องมีกำรเตรียมตัวนักแสดง 3. เป็นกำรประกำศให้รู้ว่ำจะมีกำรแสดง 4. ต้องกำรเอำฤกษ์เอำชัย 9. เพลงลำวดวงเดือนให้อำรมณ์สอดคล้องกับบทประพันธ์ในข้อใด 1. จะหักอื่นขืนหักก็จักได้ หักอำลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก 2. ครั้นรักจำงห่ำงเหินไปเนิ่นนำน แต่น้ำตำลว่ำเปรี้ยวไม่เหลียวแล 3. แม่รักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ำรัก ใครอื่นสักหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน 4. แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนจะแคลนคลำย เจ็บจนตำยเพรำะเหน็บให้เจ็บใจ 10.ข้อใด ไม่ เข้ำพวก 1. เบลไลรำ กลอง ฉำบ 2. กีตำร์ ทูบำ ออร์แกน 3. คลำริเน็ต ฟลูต ฮอร์น 4. ไวโอลิน เชลโล กีตำร์
  • 10. 11.ข้อใดแตกต่ำงจำกพวก 1. เพลฝรั่งรำเท้ำ เพลงเวสสุกรรม เพลงหงส์ทอง 2. เพลงตระบองกัน เพลงเสมอข้ำมสมุทร เพลงเชิดฉำน 3. เพลงลำวเล่นน้ำ เพลงสำวกระตุกกี่ เพลงกระแตเล็ก 4. เพลงพรำหมณ์เก็บหัวแหวน เพลงแขกบรเทศ เพลงเชิดนอก 12.ข้อใดวิเครำะห์ธำตุประกอบเพลงพระรำชนิพนธ์พรปีใหม่ได้ถูกต้องที่สุด 1. จังหวะปำนกลำง สง่ำ ผ่ำเผย บรรเลงด้วยเสียงดังปำนกลำงและมีอำรมณ์ด้ำนบวก 2. จังหวะเร็ว ให้ควำมสนุกสนำน บรรเลงด้วยเสียงเบำและมีอำรมณ์ด้ำนบวก 3. จังหวะช้ำ แสดงควำมเข้มขึง บรรเลงด้วยเสียงเบำและมีอำรมณ์ด้ำนลบ 4. จังหวะปำนกลำง ให้ควำมสงบ บรรเลงด้วยเสียงเบำและมีอำรมณ์ด้ำนลบ 13.“เปรียบเธอเพชรงามน้าหนึ่ง หวานปานน้าผึ้งเดือนห้า หยาดเพชรเกล็ดแก้วแววฟ้า ร่วงมาจากฟ้า หรือไร” จำกเนื้อเพลงข้ำงต้น ผู้ฟังเพลงจะได้รับรสทำงวรรณศิลป์ที่ทำให้เกิดอำรมณ์ควำมรู้สึกใด 1. รสแห่งควำมรัก 2. รสแห่งควำมสงบ 3. รสแห่งควำมโกรธ 4. รสแห่งควำมขบขัน 14.เพลงในข้อใดนำมำใช้บรรเลงประกอบกิริยำของตัวละครที่แสดงควำมโศกเศร้ำเสียใจ 1. เพลงทยอย 2. เพลงกลองโยน 3. เพลงตระบองกัน 4. เพลงคุกพำทย์ 15.ข้อใดคือกำรดูแลรักษำเครื่องดนตรีได้ถูกวิธี 1. วำงเครื่องดนตรีนอนรำบกับพื้น เพื่อป้องกันกำรชำรุด 2. นำผ้ำเปียกเช็ดเครื่องดนตรี เพื่อเป็นกำรทำควำมสะอำด 3. ลดสำยของเครื่องดนตรีที่มีสำยลง เพื่อยืดเวลำในกำรใช้งำน 4. นำเครื่องดนตรีวำงซ้อนทับกัน เพื่อจะได้เป็นระเบียบเรียบร้อย 16.บทเพลงที่ร้องประกอบกับดนตรีพื้นบ้ำนของภำคเหนือให้ควำมรู้สึกอย่ำงไร 1. คึกคัก สนุกสนำน 2. คล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง 3. นุ่มนวล อ่อนหวำน 4. เศร้ำสร้อย ผิดหวัง
  • 11. 17.ข้อใด ไม่ใช่ สำเหตุที่ทำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงทำงดนตรีในประเทศไทย 1. กำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครองตำมนโยบำยของรัฐบำล 2. ภำยหลังเหตุกำรณ์ 14 ตุลำคม พ.ศ.2516 3. สภำพทำงภูมิอำกำศและภูมิประเทศเกิดกำรเปลี่ยนแปลง 4. ปฏิรูปกำรปกครองแผ่นดินในสมัยรัชกำลที่ 5 18.เพลงใดที่ ไม่ ได้รับอิทธิพลมำจำกวิถีชีวิต 1. เพลงเรือ 2. เพลงสำธุกำร 3. เพลงเกี่ยวข้ำว 4. เพลงลำวกระทบไม้ 19.ข้อใดกล่ำว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับเพลงปลุกใจ 1. เพลงที่มีควำมหมำยมุ่งปลุกจิตสำนึกของคนไทยให้เกิดควำมรักชำติบ้ำนเมือง 2. เพลงปลุกใจของไทยเริ่มขึ้นในสมัยพระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย รัชกำลที่ 2 3. เป็นเพลงที่มีเนื้อร้อง ทำนอง จังหวะเร้ำใจ ชวนให้ผู้ฟังเกิดอำรมณ์ฮึกเหิมและคึกคัก 4. เพลงปลุกใจมีอยู่หลำยบทเพลง เช่น เพลงตื่นเถิดไทย เพลงใต้ร่มธงไทย เพลงถิ่นเมืองไทย เพลงไทยรวมกำลัง เป็นต้น 20.“จะขอตามรอยของพ่อ ท่องคาว่าเพียงและพอจากหัวใจ เป็นลูกที่ดีของพ่อ ด้วยความรัก ด้วยภักดี ตลอดไป” จำกเนื้อร้องข้ำงต้น เกิดจำกจินตนำกำรในกำรสร้ำงสรรค์บทเพลงจำกสิ่งใด 1. ควำมรักชำติ 2. ควำมเชื่อและศำสนำ 3. ควำมสุขและควำมทุกข์ 4. ควำมจงรักภักดีต่อพระมหำกษัตริย์ 21.บทเพลงในข้อใดต่อนี้ ไม่ จัดอยู่ในประเภทเพลงปลุกใจ 1. เพลงใต้ร่มธงไทย เพลงเทียนคุณธรรม 2. เพลงไทยรวมกำลัง เพลงสุดแผ่นดิน 3. เพลงสำยโลหิต เพลงพรุ่งนี้ต้องดีกว่ำ 4. เพลงควำมฝันอันสูงสุด เพลงแผ่นดินของเรำ
  • 12. 22.เพลงใดต่อนี้มีกำรแสดงอำรมณ์เศร้ำ เหงำและปลงกับชีวิต 1. เพลงพระรำชนิพนธ์ยำมเย็น 2. เพลงพระรำชนิพนธ์ใกล้รุ่ง 3. เพลงพระรำชนิพนธ์แสงเทียน 4. เพลงพระรำชนิพนธ์รัก 23.ข้อใดเป็นกำรประพันธ์เพลงขึ้นจำกปัจจัยภำยนอก 1. นักประพันธ์เพลงแต่งเพลงที่แสดงออกถึงควำมจงรักภักดีต่อพระมหำกษัตริย์ 2. นักประพันธ์เพลงไม่สมหวังในควำมรัก จึงแต่งเพลงเกี่ยวกับควำมรักที่ผิดหวัง 3. นักประพันธ์เพลงรู้สึกมีควำมทุกข์ เพรำะชีวิตไม่มีควำมสุขจึงแต่งเพลงเศร้ำขึ้น 4. นักประพันธ์เพลงรู้สึกโกรธแค้นบุคคล จึงแต่งเพลงล้อเลียนบุคคลในทำงที่ไม่ดี 24.ใครเลือกใช้เทคนิคและกำรแสดงออกถึงกำรจินตนำกำรในกำรสร้ำงสรรค์บทเพลงได้ถูกต้อง 1. เอเลือกแต่งเพลงเศร้ำด้วยจังหวะที่กระชับ เร้ำใจ 2. บียึดรูปแบบเพลงเก่ำ เพรำะกลัวไม่ได้รับควำมนิยม 3. ซีใช้เสียงที่อยู่ในระดับปำนกลำงในกำรแต่งเพลง 4. ดีนำผลงำนของผู้อื่นมำดัดแปลงเป็นผลงำนของตนเอง 25.อิริยำบถใดที่ถือว่ำ ไม่ สุภำพในกำรขับร้องเพลง 1. แสดงสีหน้ำและอำรมณ์สอดคล้องกับบทเพลง 2. ควบคุมสมำธิไม่ได้ สำยตำไม่หยุดนิ่งอยู่กับผู้ฟัง 3. วำงมือทั้ง 2 ข้ำง ไว้ข้ำงลำตัวอย่ำงสุภำพเรียบร้อย 4. ยืนตัวตรง หลังไม่ค่อม อกผำย ไหล่ผึ่ง เท้ำวำงห่ำงกันเล็กน้อย 26.บทเพลงในข้อใดแสดงถึงอำรมณ์โศกเศร้ำ 1. รุกขชำติดำดำษดอกดก ใบตกร่วงลงชลำสำย 2. เจ้ำนกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำลงแล้วจะนอนที่รังไหน 3. พญำครุฑฟังนุชสุดสวำท ประคองนำฏรับขวัญขนิษฐำ 4. อนิจจำโอ้พระจอมกระหม่อมโลก มำซัดเสียให้เมียโศกน่ำสงสำร 27.ถ้ำนักเรียนต้องกำรบรรเลงเพลงต้นวรเชษฐ์สองชั้น ควรฝึกอ่ำนและเคำะจังหวะด้วยอัตรำจังหวะใดจึงจะ ถูกต้อง 1. | - - - - | | - - - ฉิ่ง | | - - - - | | - - - ฉับ | 2. | - - - ฉิ่ง | | - - - ฉับ | | - - - ฉิ่ง | | - - - ฉับ | 3. | - ฉิ่ง - ฉับ | | - ฉิ่ง - ฉับ | | - ฉิ่ง - ฉับ | | - ฉิ่ง - ฉับ | 4. | - ฉิ่ง ฉับ - | | - ฉิ่ง ฉับ - | | - ฉิ่ง ฉับ - | | - ฉิ่ง ฉับ - |
  • 13. 28.ข้อใดให้ควำมหมำยของคำว่ำหน้ำที่ผู้บรรเลงเพลงได้ถูกต้องที่สุด 1. ทำหน้ำที่เล่นเครื่องดนตรีให้ถูกต้องและไพเรำะ 2. ทำหน้ำที่เป็นตัวแปรสำคัญในกำรดึงดูดควำมสนใจจำกผู้ขับร้อง 3. ทำหน้ำที่เป็นสื่อกลำงเชื่อมควำมสัมพันธ์ระหว่ำงผู้ขับร้องกับผู้ฟัง 4. ทำหน้ำที่เป็นสื่อกลำงในกำรถ่ำยทอดอำรมณ์ควำมรู้สึกที่สอดแทรกในบทเพลง 29.ใครขับร้องเพลงไทยได้ถูกต้องตำมหลักกำรมำกที่สุด 1. หนึ่งฝึกกำรออกเสียงให้เต็มเสียง 2. สองฝึกแบ่งระยะกำรหำยใจให้เหมำะสม 3. สำมฝึกเอื้อนทำนองเปล่ำสอดแทรกไปกับบทร้อง 4. สี่พยำยำมรักษำระดับเสียงให้เป็นไปตำมทำนองเพลงที่ถูกต้อง 30.เครื่องดนตรีชนิดใดจัดอยู่ในประเภทเดียวกันทั้งหมด 1. ไวโอลิน กีตำร์ ฮำร์ป เบลไลรำ 2. ริคอร์เดอร์ โอโบ ฟลูต ทูบำ 3. ออร์แกน เปียนโน อิเล็กโทน เฟรนซ์ฮอร์น 4. ทอมบำ ทรัยแองเกิ้ล มำรำคำ บองโก
  • 14. ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา นาฏศิลป์ คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. กำรแสดงนำฏศิลป์ไทยประเภทใดที่นิยมนำมำแสดงสลับฉำก 1. รำเดี่ยว 2. รำคู่ 3. รำหมู่ 4. ฟ้อน 2. “เค้าโมงจับโมงมองเมียง คู่เค้าโมงเคียง เคียงคู่อยู่ปลายไม้โมง ลางลิงลิงเหนี่ยวลดาโยง ค่อยยุดฉุดโชลง โลดไล่ในกลางลางลิง” บทประพันธ์นี้เป็นกำรพำกย์ลักษณะใด 1. พำกย์เมือง 2. พำกย์รถ 3. พำกย์โอ้ 4. พำกย์ชมดง 3. ดนตรีและนำฏศิลป์ในช่วงรัชกำลที่ 7 มีกำรเปลี่ยนแปลง เพรำะเหตุใดเป็นสำคัญ 1. ค่ำนิยม 2. นโยบำยของรัฐบำล 3. สภำพสังคมและวิถีชีวิต 4. ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป 4. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ เข้ำพวก 1. ฟ้อนเล็บ ฟ้อนแพน ฟ้อนที 2. ฟ้อนมำลัย ฟ้อนดำบ ฟ้อนเจิง 3. ฟ้อนภูไท ฟ้อนเก็บฝ้ำย ฟ้อนตังหวำย 4. ฟ้อนเทียน ฟ้อนสำวไหม ฟ้อนจ้อง
  • 15. 5. “ยวนยาเหล ยวนยาเหล หัวใจว้าเหว่ ไม่รู้จะเห่ไปหาใคร จะซื้อเปลยวน ที่ด้ายหย่อน หย่อน (ซ้า) จะเอาน้องนอนไกวเช้าไกวเย็น” จำกข้อควำมนี้มีควำมเกี่ยวข้องกับข้อใด 1. เพลงรำโทน 2. เพลงร้องเรือ 3. เพลงรำวงมำตรฐำน 4. เพลงระบำพื้นเมือง 6. ข้อใด ไม่ใช่ จุดมุ่งหมำยหลักของกำรแสดงนำฏศิลป์พื้นเมือง 1. เป็นกิจกรรมกลุ่ม 2. สร้ำงควำมสำมัคคี 3. ประกอบพิธีกรรม 4. ควำมสนุกสนำน 7. เซิ้งแหย่ไข่มดแดง ไม่ได้ สื่อถึงภูมิปัญญำท้องถิ่นในข้อใด 1. ลักษณะนิสัยของชำวอีสำน 2. วิถีชีวิตของชำวอีสำน 3. อำชีพของชำวอีสำน 4. ภำษำท้องถิ่นอีสำน 8. ข้อใดกล่ำวถึงกำรแสดงโขนได้ถูกต้องที่สุด 1. นักแสดงโขนต้องสวมหัวโขนทั้งหมด 2. กำรแสดงโขนนักแสดงจะต้องร้องและเจรจำเอง 3. เรำสำมำรถทรำบถึงตัวละครต่ำง ๆ ได้จำกกำรสังเกตลักษณะของหัวโขน 4. โขนนิยมนำเรื่องรำมเกียรติ์ อิเหนำและพระอภัยมณีมำแสดง 9. “ชาย มาเถิดหนาแม่มา มาเล่นพาดผ้ากันเอย พี่ตั้งวงไว้ท่า อย่านิ่งรอช้าเลยเอย พี่ตั้งวงไว้คอย อย่าให้วง กร่อยเลยเอย หญิง ให้พี่ยื่นแขนขวา เข้ามาพาดผ้าเถิดเอย” จำกบทร้องนี้หมำยถึงกำรแสดงนำฏศิลป์พื้นเมืองประเภทใด 1. ลำตัด 2. ลิเก 3. รำเหย่อย 4. อีแซว
  • 16. 10.จำกบทประพันธ์นี้ผู้แสดงจะต้องใช้กำรตีบทแสดงออกมำเป็นท่ำรำใด “บัดนั้น ลูกลมมองเขม้นเห็นยักษี กริ้วโกรธโดดตามข้ามอัคคี ขุนกระบี่เหาะไล่ไขว่คว้า” 1. ดีใจ 2. โศกเศร้ำ 3. โกรธแค้น 4. เก้อเขิน 11.ถ้ำนักเรียนจะวิเครำะห์ วิจำรณ์องค์ประกอบของกำรร่ำยรำ ควรเลือกวิเครำะห์ วิจำรณ์เรื่องใดจึงจะ เหมำะสม 1. รูปแบบของกำรแสดง 2. กำรแต่งกำยของนักแสดง 3. ควำมเป็นเอกภำพของนักแสดง 4. ควำมถูกต้องตำมแบบแผนของท่ำรำ 12.ข้อใดกล่ำว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับนำฏศิลป์ไทย 1. ศิลปะที่สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมของชำติ 2. กำรร่ำยรำมีควำมประณีต อ่อนช้อย งดงำม 3. นำฏศิลป์ไทยมีท่ำรำที่ตำยตัว ไม่สำมำรถปรับเปลี่ยนท่ำรำได้ 4. เป็นกำรแสดงที่ประกอบไปด้วยระบำ รำ ฟ้อน โขน ละครและกำรแสดงพื้นเมือง 13.ข้อใด ไม่ใช่ วิธีกำรเผยแพร่นำฏศิลป์พื้นบ้ำน 1. กำรออกงำนเพื่อแสดงนำฏศิลป์พื้นบ้ำน 2. กำรอ่ำนหนังสือเกี่ยวกับนำฏศิลป์พื้นบ้ำน 3. กำรติดประกำศกำรแสดงนำฏศิลป์พื้นบ้ำนตำมสถำนศึกษำ 4. กำรโฆษณำขำยอุปกรณ์กำรแสดงนำฏศิลป์พื้นบ้ำนตำมสื่อต่ำง ๆ 14. จำกภำพเหมำะแก่กำรนำไปใช้เป็นฉำกแสดงละครประเภทใด 1. ละครใน 2. ละครพูด 3. ละครเสภำ 4. ละครสังคีต
  • 17. 15.“ดงบงคมกลองด้วยเสียงพาด เสียงพิณ เสียงเลื่อน เสียงขับ ใครจักมักเล่น เล่น ใครจักมักหัว หัว ใครจัก มักเลื้อน เลื้อน” จำกข้อควำมข้ำงต้นสะท้อนให้เห็นถึงกำรแสดงละครไทยอย่ำงไร 1. กำรแสดงละครไทยมีมำช้ำนำน 2. ประชำชนทุกคนต้องแสดงละครได้ 3. ประชำชนทุกคนชอบดูกำรแสดงละคร 4. กำรแสดงละครไทยต้องมีเครื่องดนตรีประกอบ 16.รูปหน้ำในข้อใดที่เหมำะสมสำหรับแสดงเป็นตัวนำง 1. 2. 3. 4.
  • 18. 17.ลักษณะวิธีกำรแสดงตำรีกีปัสมีควำมคล้ำยคลึงกับกำรแสดงชุดใด 1. ร่อนแร่ 2. กรีดยำง 3. ซำเป็ง 4. รองเง็ง 18.ศิลปะกำรแสดงที่มีควำมสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในภำคกลำงคือข้อใด 1. ระบำเก็บใบชำ 2. เต้นกำรำเคียว 3. เซิ้งแหย่ไข่มดแดง 4. ระบำร่อนแร่ 19.ข้อใด ไม่ใช่ กำรแสดงที่เรียกได้ว่ำเป็น “มหรสพ” 1. งิ้ว 2. ลิเก 3. หนังใหญ่ 4. ผีตำโขน 20.ชื่อของรำโทนมีที่มำจำกสิ่งใด 1. จำนวนของผู้รำ 2. เครื่องดนตรีที่ใช้ 3. แหล่งกำเนิดกำรแสดง 4. บทร้องประกอบกำรร่ำยรำ 21.กำรแปลงบทละครที่เป็นอักษรให้เป็นกำรแสดง จัดเป็นองค์ประกอบของกำรแสดงละครด้ำนใด 1. กำรสมมติ 2. จินตนำกำร 3. กำรสร้ำงสมำธิ 4. กำรสื่อสำรสัมพันธ์ 22.ถ้ำนักเรียนรับมอบหมำยให้เป็นตัวละครเอกของละคร 1 เรื่อง สิ่งแรกที่นักเรียนจะต้องทำคือข้อใด 1. ศึกษำบทละครให้เข้ำใจ 2. ศึกษำประวัติควำมเป็นมำของผู้เขียนบท 3. ทำควำมรู้จักกับทีมงำนผู้สร้ำงละครทุกคน 4. เตรียมออกแบบเครื่องแต่งกำยประกอบกำรแสดงที่เหมำะสม
  • 19. 23.ข้อใดเป็นบรรยำกำศที่เหมำะสมที่สุดในกำรจัดกำรแสดงละครเวทีเรื่องแผลเก่ำ 1. ฉำกวิถีชีวิตชำวชนบท มีกระท่อม ทุ่งนำ วัว ควำย แม่น้ำ 2. ฉำกในสนำมรบ มีปืนใหญ่ มีดดำบ กำแพง ทุ่งหญ้ำ ก้อนหิน 3. ฉำกชุมชนแออัด มีบ้ำนเรือนตั้งหนำแน่น ลำคลอง สะพำนไม้ 4. ฉำกป่ำเขำลำเนำไพร มีต้นไม้ เสียงนกร้อง น้ำตก สัตว์นำนำชนิด 24.เพลงประกอบละครมีควำมสำคัญในด้ำนใด 1. ทำให้เห็นภำพชัดเจน 2. กำหนดอำรมณ์ของตัวละคร 3. เป็นแนวคิดสำคัญของเรื่อง 4. ทำให้ผู้ชมมีควำมรู้สึกคล้อยตำม 25.องค์ประกอบของกำรแสดงละครในข้อใดเป็นแรงกระตุ้นที่สำคัญในกำรสร้ำงอำรมณ์ของตัวละคร 1. กำรสมมติ 2. จินตนำกำร 3. กำรสร้ำงสมำธิ 4. กำรสื่อสำรสัมพันธ์ 26.ละครในข้อใดแสดงให้เห็นถึงกำรมุ่งเน้นประชำชนให้เกิดควำมรักชำติ 1. ละครพันทำง 2. ละครปลุกใจ 3. ละครดึกดำบรรพ์ 4. ละครหลวงวิจิตรวำทกำร 27.กำรประเมินผลกำรแสดงมีประโยชน์ในด้ำนใดมำกที่สุด 1. เพื่อนำมำให้คะแนนได้ 2. เพื่อคัดเลือกนักแสดงให้เหมำะสม 3. เพื่อวัดควำมนิยมของผู้ชม 4. เพื่อปรับปรุงแก้ไขกำรแสดงในครั้งต่อไป 28.กำรแสดงบทบำทสมมติเป็นบุคคลในอำชีพต่ำงๆ จะต้องปฏิบัติอย่ำงไร จึงจะสำมำรถเลียนแบบได้ เหมือนจริงที่สุด 1. ศึกษำจำกสภำพควำมเป็นจริง 2. ศึกษำจำกรูปภำพและกำรแต่งกำย 3. สังเกตจำกกริยำท่ำทำงและกำรแนะนำตัว 4. ทำควำมเข้ำใจกับเอกลักษณ์เฉพำะของตัวละคร
  • 20. 19.สิ่งที่พึงปฏิบัติหลังจบกำรแสดงละครคือข้อใด 1. จัดพิธีไหว้ครู 2. ฝึกซ้อมอย่ำงต่อเนื่อง 3. เชิญวิทยำกรมำอบรม 4. ทำกำรประเมินผล 30.ประโยชน์ในกำรทำให้รู้จักคุณค่ำของศิลปะ และควำมงำมของกำรแสดงละครมีควำมหมำยตรงกับข้อใด 1. แบบกำรวิจำรณ์ 2. งำนออกแบบฉำก 3. แบบกำรวิเครำะห์ 4. งำนออกแบบตัวละคร
  • 21. ชุดที่ 2 ข้อสอบ O-Net วิชา ศิลปะ 2552 ตอนที่ 1 ศิลปะ : จำนวน 35 ข้อ (รวม 40 คะแนน) ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 30 ข้อ (ข้อ 1-30) : ข้อละ 1 คะแนน (รวม 30 คะแนน) 1. ข้อใดจัดเป็นงำนประติมำกรรมทั้งหมด 1. กำแพงเมืองจีน / วัดโพธิ์ / เหรียญบำท 2. พระแก้วมรกต / พระเครื่อง / อนุสำวรีย์ชัยสมรภูมิ 3. โต๊ะนักเรียน / ธนบัตร / พระแก้วมรกต 4. เหรียญทองโอลิมปิก / สะพำนพระรำม 8 / พระพุทธมณฑล 2. กำรแบ่งประเภทของประติมำกรรมใช้เกณฑ์ในข้อใด 1. ปริมำตรของรูปทรง 2. ควำมลึกของส่วนที่ถูกแกะออกไป 3. วัสดุที่นำมำขึ้นรูป 4. ควำมสูงของส่วนที่นูนขึ้นมำ 3. งำนจิตรกรรมและงำนภำพพิมพ์แตกต่ำงกันอย่ำงไร 1. งำนจิตรกรรมจัดเป็นงำนศิลปะ แต่งำนภำพพิมพ์เกิดจำกแท่นพิมพ์ 2. งำนจิตรกรรมต้องใช้เวลำนำนในกำรสร้ำงงำน ส่วนงำนภำพพิมพ์ใช้เวลำสั้นในกำรสร้ำงงำน 3. งำนภำพพิมพ์จะต้องมีแม่พิมพ์ ส่วนงำนจิตรกรรมไม่เกี่ยวข้องกับแท่นพิมพ์ 4. งำนจิตรกรรมสำมำรถทำซ้ำได้ ส่วนงำนภำพพิมพ์ไม่สำมำรถทำซ้ำได้ 4. ประติมำกรรมในข้อใดจัดเป็นกระบวนกำรเชิงบวก 1. รูปปั้นหน้ำคนจำกดินเหนียว 2. บำนประตูวัดสุทัศน์ 3. ประติมำกรรมหินรูปเจ้ำแม่กวนอิม 4. งำนแกะสลักน้ำแข็ง ปีการศึกษา
  • 22. 5. ประเภทของงำนสถำปัตยกรรมในข้อใดไม่เข้ำพวก 1. พระที่นั่งอนันตสมำคม 2. พิพิธภัณฑสถำนแห่งชำติ 3. เจดีย์ศรีสุริโยทัย 4. พระรำชวังบำงปะอิน 6. ดินสอที่ใช้ในกำรร่ำงภำพได้แก่ดินสอประเภทใด 1. ดินสอ 2B 2. ดินสอ 3B 3. ดินสอ 4B 4. ดินสอ 5B 7. จำนผสมสีมีหลำยขนำดส่วนมำกจำนผสมสีจะมีสีอะไร 1. สีแดง 2. สีเหลือง 3. สีขำว 4. สีดำ 8. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของสีน้ำ 1. สีน้ำเป็นสีที่มีลักษณะโปร่งใส 2. เนื้อสีของสีน้ำบำงเบำเมื่อระบำยสีบนกระดำษจะเห็นควำมใสของสีบนผิวกระดำษ 3. เวลำระบำยสีน้ำต้องรู้จักคอยจังหวะเวลำ เพื่อกำหนดควำมชุ่มเปียกของผิวกระดำษ 4. ใช้สีขำวผสมสีให้อ่อนหรือสว่ำงขึ้นและใช้สีดำผสมสีให้เข้มหรือมืดลง 9. ข้อใดไม่ใช่หลักกำรจัดองค์ประกอบศิลป์ 1. เอกภำพ 2. จินตนำกำร 3. ควำมสมดุล 4. จุดสนใจ 10.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะเด่นของจิตรกรรมไทย 1. เป็นภำพเขียนแบบสองมิติ 2. แสดงควำมรู้สึกของภำพด้วยเส้นและท่ำทำง 3. แสดงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลด้วยสี 4. แสดงจุดสนใจโดยคำนึงถึงสัดส่วน
  • 23. 11.ในคำร้องของเพลงสรรเสริญพระบำรมี “ข้ำวรพุทธเจ้ำ เอำมโนและศิระกรำน” พยำงค์ใดตรงกับ จังหวะหนัก 1. พุทธ 2. และ 3. ศิ 4. กรำน 12.ถ้ำท่ำนจัดงำนเลี้ยงสังสรรค์ในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อแสดงควำมยินดีในโอกำสที่ ญำติผู้ใหญ่ของท่ำนได้รับพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ ชั้นสูง ซึ่งจะมีแขกมำร่วมงำนประมำณ 100 คน ท่ำนคิดว่ำควรใช้วงดนตรีประเภทใดบรรเลงในงำนนี้ 1. วงโยธวำทิต 2. วงขับร้องประสำนเสียง 3. วงสตริงควอร์เต็ต 4. วงซิมโฟนีออร์เคสตร้ำ 13.ข้อใดเป็นระดับเสียงของนักร้องหญิง 1. อัลโต 2. เทเนอร์ 3. บำริโทน 4. เบส 14.เครื่องดนตรีในข้อใดมักใช้เล่นเสียงประสำนเมื่ออยู่ในวงดนตรี 1. ฮอร์น 2. ฟลู้ต 3. คลำริเน็ต 4. ปิคโคโล 15.ข้อใดไม่ถูกต้องในกำรดูแลรักษำเครื่องดนตรี 1. ล้ำงปำกเป่ำทรัมเป็ตด้วยน้ำ 2. ล้ำงตัวเครื่องทรอมโบนด้วยน้ำ 3. ล้ำงตัวเครื่องแซกโซโฟนด้วยน้ำ 4. ล้ำงปำกเป่ำคลำริเน็ตด้วยน้ำ
  • 24. 16.ข้อใดเป็นเครื่องดนตรีของภำคกลำงทั้งหมด 1. ซอสำมสำย กระจับปี่ พิณน้ำเต้ำ 2. จะเข้ ซอด้วง พิณน้ำเต้ำ 3. จะเข้ กระจับปี่ พิณเพียะ 4. ซออู้ ซอด้วง ซอสำมสำย 17.ข้อใดกล่ำวถึงลักษณะของเพลงเถำไม่ถูกต้อง 1. เริ่มจำกทำนองที่ยำวไปหำทำนองที่สั้น 2. เริ่มจำกทำนองที่สั้นไปหำทำนองที่ยำว 3. เริ่มจำกอัตรำจังหวะช้ำไปหำอัตรำจังหวะเร็ว 4. บรรเลงโดยมีกำรขับร้อง หรือไม่มีกำรขับร้องก็ได้ 18.ลักษณะของเพลงหน้ำพำทย์ที่แตกต่ำงจำกเพลงประเภทอื่น คือ 1. ต้องมีบทร้องประกอบเสมอเมื่อมีกำรบรรเลง 2. ใช้ประกอบกำรแสดงระบำในกำรแสดงละคร 3. ใช้ในพิธีกรรม หรือประกอบกำรแสดง 4. ใช้เฉพำะเจ้ำนำยชั้นสูง หรือพระรำชพิธีเท่ำนั้น 19.ข้อใดคือลักษณะเด่นของดนตรีไทย 1. กำรขับร้องที่ต้องใช้เสียงสูงมำก 2. เครื่องตีที่ใช้มือตีทั้ง 2 ข้ำงตีประกอบกัน 3. กลองที่สำมำรถตีเป็นเสียงต่ำงๆ ได้ในใบเดียวกัน 4. เครื่องเป่ำ ที่สำมำรถเป่ำได้โดยไม่ต้องหยุดหำยใจ 20.ข้อใดกล่ำวถึงควำมสัมพันธ์ของดนตรีกับภำษำไทยได้ถูกต้องที่สุด 1. ลักษณะของร้อยกรองมีลักษณะใกล้เคียงลักษณะของดนตรี 2. คำในภำษำไทยทุกคำสำมำรถร้องได้ทุกระดับเสียงโดยควำมหมำยไม่เปลี่ยนแปลง 3. กำรเอื้อน คือ กำรใช้คำหลำยคำ เชื่อมโยงด้วยเสียงหลำยเสียง 4. เสียงในภำษำไทยไม่มีกำรเน้นกำรออกเสียงเฉพำะที่เหมือนภำษำอังกฤษ จึงไม่มีลักษณะของ เสียงดนตรี
  • 26. 22.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของระบำศิลปำชีพ 1. เป็นกำรอนุรักษ์ภูมิปัญญำท้องถิ่น 2. ได้รับอิทธิพลจำกวิถีกำรดำเนินชีวิต 3. มุ่งเน้นกำรร่ำยรำตำมแบบแผน มีควำมประณีต 4. สะท้อนค่ำนิยม ประเพณีอันดีงำม 23.ข้อใดเป็นองค์ประกอบของละคร 1. เรื่องรำว + กำรแสดง + นักแสดง 2. เหตุกำรณ์ + นักแสดง + ผู้ชม 3. กำรแสดง + ศิลปะ + เรื่องรำว + นักแสดง + ผู้ชม 4. ศิลปะ + กำรแสดง + เรื่องรำว + ผู้กำกับ + นักแสดง + ผู้ชม 24.“...วิวัฒนำกำรมำจำกหนังใหญ่ ต่อมำใช้ตัวโขนสลับกำรเชิดหนังใหญ่ที่เรียกว่ำหนังติดตัวโขน เมื่อควำมนิยมเรื่องหนังใหญ่เลิกลงจึงนิยมแสดงโขนชนิดนี้...” จำกข้อควำม หมำยถึงกำรแสดงชนิดใด 1. โขนหน้ำจอ 2. โขนฉำก 3. โขนโรงนอก 4. โขนสลับฉำก 25.ข้อใดมีควำมสัมพันธ์กัน 1. รำมเกียรติ์ + รำศุภลักษณ์อุ้มสม + ปี่พำทย์เครื่องคู่ 2. อิเหนำ + ปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์ + แต่งกำยยืนเครื่อง 3. ผู้ชนะสิบทิศ + ปี่พำทย์มอญ + พำกย์ชมดง 4. ผิดทุกข้อ 26.ข้อใดเป็นคุณลักษณะของนำฏศิลป์ในรำชสำนัก 1. คนงำม 2. รำงำม 3. เครื่องแต่งกำยงำม 4. ถูกทุกข้อ
  • 27. 27.ข้อใดไม่สัมพันธ์กับสุนทรียภำพที่เกิดจำกกำรรับชมนำฏศิลป์ 1. โขนยกรบ - ควำมยิ่งใหญ่ 2. ละครใน - ควำมละเมียดละไม 3. ละครนอก - ควำมกระฉับกระเฉง 4. กำยกรรม - ควำมอลังกำร 28.ข้อใดเป็นหลักของกำรวิจำรณ์ละครที่ดี 1. เลือกใช้ภำษำรุนแรงเพื่อเร้ำอำรมณ์ผู้ฟังหรือผู้อ่ำน 2. ติหรือชมเพื่อให้เกิดผลในทำงบวก 3. กำรเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นข้อบกพร่องอย่ำงชัดเจน 4. ถูกทุกข้อ 29.ข้อใดเป็นกำรใช้จินตนำกำรในกำรแสดงออกซึ่งควำมคิดโดยผ่ำนกำรแสดงละครได้อย่ำงเหมำะสม 1. พอลล่ำเล่ำเหตุกำรณ์ตื่นเต้นที่ตนประสบมำให้เพื่อนๆ ในห้องฟังพร้อมแสดงท่ำทำงประกอบเพื่อให้ เห็นภำพ 2. น้ำเชื่อมยืนเอำมือไพล่หลังเวลำพูดเพื่อไม่ให้ดูเกะกะ 3. ตุ้มติ้มทำท่ำทำงล้อเลียนเพื่อให้เกิดควำมอับอำย 4. ตุ๊กติ๊กแสดงท่ำทำงมั่นใจตลอดเวลำแม้ไม่มีใครมอง 30.ข้อใดเป็นกำรประยุกต์ใช้องค์ประกอบของนำฏศิลป์มำใช้ในกำรแสดงอย่ำงเหมำะสม 1. สมชำยนำบทละครเสภำเรื่องขุนช้ำงขุนแผนมำจัดแสดงเป็นละครเวทีเนื่องในวันภำษำไทย 2. สมศรีแต่งกำยยืนเครื่องพระ แสดงเป็นเจ้ำชำยในละครโรงเรียน 3. สมหวังจัดสร้ำงเครื่องแต่งกำยละครรำโดยไม่ศึกษำค้นคว้ำถึงที่มำก่อน 4. สมเกียรตินำละครนอกมำแสดงให้นักเรียนชั้นอนุบำลได้ชมฟรี
  • 28. ส่วนที่ 2 : แบบระบำยคำตอบที่สัมพันธ์กันจำนวน4ข้อ : (ข้อ31-34): ข้อละ2คะแนน (รวม8คะแนน) ข้อ 31-34 จงพิจำรณำคำตอบจำกข้อมูลแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 คำตอบ ที่สัมพันธ์กันและเกี่ยวข้องกับโจทย์ให้ถูกต้องครบทุกกลุ่ม จึงจะได้คะแนน 31. กำรสร้ำงบรรยำกำศและกำรตกแต่งร้ำนอำหำรเหนือของไทย กลุ่ม กลุ่ม กลุ่ม 1. เครื่องปั้นดินเผำ 1. ฟ้อนสำวไหม 1. วงพิณแคน 2. ปลำตะเพียนสำน 2. ฟ้อนสำละวัน 2. วงมโหรี 3. ตัวหนังตะลุงประดับผนัง 3. รำวรเชษฐ์ 3. วงสะล้อ 4. ผ้ำปักชำวเขำประดับผนัง 4. ตำลียอเก็จ 4. รองเง็ง 5. เขำควำยประดับผนัง 5. ละครหุ่น 5. วงกำหลอ 32. กำรจัดกำรแสดงดนตรีและนำฏศิลป์ในงำนขึ้นบ้ำนใหม่ตำมประเพณีไทย กลุ่ม กลุ่ม 1. รำฉุยฉำย 1. วงปี่พำทย์นำงหงส์ 2. รำอวยพร 2. วงปี่พำทย์มอญ 3. ละครเรื่องพระเวสสันดรชำดก 3. วงเครื่องสำยปี่ชวำ 4. รำถวำยพระพร 4. วงบัวลอย 5. รำวงมำตรฐำน 5. วงเครื่องสำยผสมขิม 33. กำรแสดงถึงอำรมณ์โกรธ มีควำมสัมพันธ์กับข้อใด กลุ่ม กลุ่ม 1. ขำว 1. กระทืบเท้ำ 2. เหลือง 2. มือประสำนที่อก 3. เทำ 3. ก้มหน้ำลงมือประสำนที่หน้ำตัก 4. ชมพู 4. จีบที่มุมปำก 5. แดง 5. ฝ่ำมือแตะที่แก้ม CA B A B A B
  • 29. 34. องค์ประกอบในข้อใดแสดงถึง “ควำมสมดุล” กลุ่ม กลุ่ม 1. พระปฐมเจดีย์ 1. อนุสำวรีย์เทพีเสรีภำพ 2. สะพำนพระรำมแปด 2. กำแพงเมืองจีน 3. จิตรกรรมฝำผนัง 3. หอไอเฟิล 4. พระบรมรูปทรงม้ำ 4. หอเอนปิซ่ำ 5. ลำยกระหนก 5. สโตนเฮนจ์ ส่วนที่ 3 : แบบระบำยตัวเลือกมำกกว่ำ 1 ตัวเลือก : จำนวน 1 ข้อ : ข้อละ 2 คะแนน (รวม 2 คะแนน) 35.ข้อใดจัดเป็นกำรแสดงนำฏศิลป์ประยุกต์โดยใช้หลักองค์ประกอบศิลป์มำเป็นส่วนหนึ่งของกำรแสดง (มีคำตอบที่ถูกต้องมำกกว่ำ 1 ข้อ ต้องตอบให้ครบทุกข้อ) 1. กำรร่ำยรำ โดยใช้ผ้ำเส้นยำว เป็นส่วนประกอบกำรแสดง 2. กำรร่ำยรำ โดยผู้แสดงอยู่หลังม่ำนขำว ผู้ชมเห็นเพียงเงำดำ 3. กำรร่ำยรำ โดยผู้แสดงแต่งกำยสีสันไม่ซ้ำกัน 4. กำรร่ำยรำ โดยผู้แสดงถือพู่กันวำดภำพประกอบกำรแสดง A B
  • 30. ชุดที่ 2 ข้อสอบ O-Net วิชา ศิลปะ 2553 ตอนที่ 1 ศิลปะ : จำนวน 12 ข้อ (รวม 20 คะแนน) ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 5 ข้อ (ข้อ 1-5) : ข้อละ 1.5 คะแนน (รวม 7.5 คะแนน) 1. ข้อใดไม่ใช่งำนศิลปะพื้นบ้ำน 1. เครื่องปั้นดินเผำด่ำนเกวียน 2. กำรทอผ้ำพื้นเมือง 3. กำรทำโอ่งมังกร 4. กำรเขียนภำพสีน้ำมัน 2. ข้อใดจัดเป็นงำนประติมำกรรมลอยตัวทั้งหมด 1. เจดีย์ / วัดพระแก้ว / เหรียญบำท 2. พระพุทธชินรำช / พระบรมรำชำนุสำวรีย์ / อนุสำวรีย์ชัยสมรภูมิ 3. เสำธงชำติ / ธนบัตร / อนุสำวรีย์ย่ำเหล 4. ป้ำยรถเมล์ / สะพำนลอย / รำงรถไฟฟ้ำ 3. กำรแปรอักษรบนอัฒจันทร์ใช้องค์ประกอบศิลป์ในเรื่องใดน้อยที่สุด 1. จุด 2. สี 3. น้ำหนัก 4. รูปทรง 4. ศิลปะไทยได้รับอิทธิพลมำจำกสิ่งใดมำกที่สุด 1. ธรรมชำติ 2. วัฒนธรรม 3. ศำสนำ 4. ประเพณี ปีการศึกษา
  • 31. 5. ข้อใดเปรียบเทียบได้ไม่ถูกต้องเมื่อคำนึงถึงประเภทของเครื่องดนตรีที่ใช้ในวงเท่ำนั้น 1. วงมโหรีและวงออร์เคสตรำ 2. ปี่พำทย์และวงซิมโฟนิกแบนด์ 3. วงเครื่องสำยประสมเปียโนและวงเปียนโนควอร์เต็ต 4. ปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์และวงซิมโฟนิกแบนด์ ส่วนที่ 2 : แบบปรนัยหลำยตัวเลือก จำนวน 2 ข้อ (ข้อ 6-7) : ข้อละ 2.5 คะแนน (รวม 5 คะแนน) ข้อ 6-7 จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องให้ครบ 3 คำตอบ จึงจะได้คะแนน 6. เครื่องดนตรีในข้อใดใช้ในวงปี่พำทย์หรือวงออร์เคสตรำเท่ำนั้น 1. เครื่องกระทบ (Percussion) 2. เครื่องสำยใช้ดีด (Bowed string instrument) 3. เครื่องสำยใช้สี (Plucked string instrument) 4. เครื่องลมไม้ ( Woodwind instrument) 5. เครื่องลมทองเหลือง (Brass instrument) 7. องค์ประกอบของกำรบันทึกโน้ตสำกลในข้อใดไม่มีในดนตรีไทย 1. เส้นกั้นห้อง (Barline) 2. เครื่องหมำยโยงเสียง (Tie) 3. ตัวหยุด (Rest) 4. เครื่องหมำยกำหนดจังหวะ (Time Signature) 5. เครื่องหมำยย้อน (Repeat) ส่วนที่ 3 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 5 ข้อ (ข้อ 8-12) : ข้อละ 1.5 คะแนน (รวม 7.5 คะแนน) 8. ข้อใดแสดงทัศนคติที่ไม่เหมำะสมเกี่ยวกับกำรฟังหรือกำรเล่นดนตรี 1. สมชำยวิจำรณ์กำรแสดงของนักเปียโนให้เพื่อนฟังหลังจำกจบคอนเสิร์ต 2. สมชำยออกควำมเห็นว่ำไม่ชอบผลงำนเพลงของโมสำร์ต 3. สมชำยซ้อมหนักเพื่อให้กำรแสดงดนตรีของตนเองออกมำดี 4. สมชำยคิดว่ำตนเองเล่นดนตรีเก่งที่สุดในห้องเรียนจึงไม่ต้องฝึกซ้อมมำก
  • 32. 9. ข้อใดถูกต้อง 1. โขนจัดเป็นรำชูปโภคอย่ำงหนึ่ง 2. ละครจัดเป็นรำชูปโภคอย่ำงหนึ่ง 3. โขนและละครจัดเป็นรำชูปโภคอย่ำงหนึ่ง 4. โขนและละครไม่จัดเป็นรำชูปโภค 10.ข้อใดถูกต้องในรำวงมำตรฐำน 1. งำมแสงเดือน ท่ำรำ ชักแป้งผัดหน้ำ 2. ชำวไทย ท่ำรำ ยูงฟ้อนหำง 3. หญิงไทยใจงำม ท่ำรำ สอดสร้อยมำลำ 4. ดวงจันทร์ขวัญฟ้ำ ท่ำรำ ช้ำงประสำนงำ 11.ข้อใดไม่ถูกต้อง 1. โขนเป็นนำฏศิลป์ไทยโบรำณ 2. ผู้แสดงโขนสวมหัวปิดหน้ำทั้งหมด 3. เรื่องที่ใช้แสดงโขนเรื่องรำมเกียรติ์ 4. เพลงที่ใช้ประกอบกิริยำในกำรแสดงโขนและละครรำไทยเรียกว่ำเพลงหน้ำพำทย์ 12.ข้อใดถูกต้อง 1. พระบิดำของพระรำม คือ พระพรต 2. ลิงยอด คือ หนุมำน 3. ลิงยอด คือ สุครีพ 4. สมุนวำนรตัวแรกของพระรำม คือ องคต
  • 33. เฉลยข้อสอบ ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา ทัศนศิลป์ ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ 1. 3 กำรวำดภำพโดยกำรตัดเส้น หรือวำดเส้นทับโครงร่ำงภำพเดิม โดยใช้สีดำ หรือสีเข้ม อื่นๆ มีจุดมุ่งหมำยเพื่อให้ภำพเด่นชัดและตกแต่งรำยละเอียดของภำพให้สมบูรณ์ ซึ่งนิยมใช้กับกำรวำดภำพประกอบเรื่องที่เป็นนิทำน วรรณคดี ละคร ภำพจินตนำกำร แต่กำรใช้เทคนิคนี้จะทำให้ภำพมีควำมแตกต่ำงจำกของจริงที่จะไม่ปรำกฏเส้น ขอบภำพออกมำให้เห็นอย่ำงชัดเจน 2. 2 กำรวำดภำพตัวละครให้เป็นที่นิยมของคนทั่วไป ผู้วำดจะต้องวำดภำพที่สื่อให้เห็นถึง รูปแบบที่เรียบง่ำย สื่อสำรอำรมณ์และควำมรู้สึกได้ดี แต่ต้องมีเอกลักษณ์เฉพำะของ ตัวละคร จึงจะทำให้ผู้ชมแยกแยะควำมแตกต่ำงของตัวละครแต่ละตัวได้ง่ำย 3. 1 โปสเตอร์ที่ดีจะต้องสะดุดตำแต่แรกเห็น อ่ำนง่ำย ผู้อ่ำนเข้ำใจสิ่งที่ต้องกำรจะสื่อได้ อย่ำงรวดเร็ว ทั้งนี้เพรำะผู้อ่ำนโปสเตอร์จะใช้เวลำดูไม่นำน ดังนั้นโปสเตอร์จึงไม่ ควรใช้ข้อควำมที่กำกวม ข้อควำมยำว หรือมีข้อควำมมำกเกินไป 4. 4 เพรำะวัฒนธรรมเป็นแรงผลักดันทำให้เกิดกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ และใน ขณะเดียวกันผลงำนทัศนศิลป์ก็ถ่ำยทอดลักษณะเรื่องรำวของวัฒนธรรมลงไปด้วย ในลักษณะที่มีควำมเกื้อหนุนกันจึงเป็นเหตุผลที่สะท้อนคำกล่ำวที่ว่ำผลงำน ทัศนศิลป์สำมำรถสะท้อนวัฒนธรรมได้ดีที่สุด 5. 2 เพรำะควำมรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อควำมงำมในธรรมชำติที่เห็นนั้นเป็นควำมรู้สึกที่ ประทับใจไม่รู้ลืม ควำมรู้สึกประทับใจจะทำให้เกิดควำมติดตำตรึงใจในภำพที่เห็น 6. 4 เนื่องจำกเป้ำหมำยหลักของกำรสร้ำงสัญลักษณ์ต่ำงๆ นั้น เพื่อกำรสื่อสำรควำมหมำย ให้มนุษย์เข้ำใจร่วมกัน ปฏิบัติร่วมกันได้อย่ำงถูกต้อง ดังนั้น ในกำรออกแบบ สัญลักษณ์ผู้ออกแบบควรคำนึงถึงกำรสื่อควำมหมำยของสัญลักษณ์มำกที่สุด โดยสัญลักษณ์นั้นต้องสำมำรถสื่อควำมหมำยได้อย่ำงชัดเจนให้ผู้ที่พบเห็นได้เข้ำใจ ตรงกัน 7. 3 เนื่องจำกงำนจิตรกรรมเป็นกำรเขียนภำพระบำยสี ซึ่งผลงำนอำจจะชำรุดเสียหำยได้ ถ้ำนำไปตั้งไว้ไม่ถูกที่ เช่น โดนน้ำฝน โดนแดด เป็นต้น ดังนั้น ผลงำนจิตรกรรม ทุกประเภทจึงไม่เหมำะกับกำรนำไปใช้ตกแต่งสวนสำธำรณะ
  • 34. 8. 1 กำรออกแบบผลงำนทัศนศิลป์ บำงครั้งควำมขัดแย้งกับควำมกลมกลืนก็มีควำม เกี่ยวข้องกัน เพรำะถ้ำส่วนมำกมีควำมกลมกลืนมำกเกินไป อำจทำให้ผู้ชมเกิด ควำมรู้สึกซ้ำซำก ไม่น่ำสนใจ ดังนั้น กำรออกแบบโดยกำรนำควำมขัดแย้งมำใช้ใน ภำพก็จะช่วยทำให้ผลงำนเด่นสะดุดตำ น่ำสนใจมำกยิ่งขึ้น 9. 4 งำนสื่อผสมเป็นผลงำนทัศนศิลป์ที่เกิดขึ้นจำกกำรนำเทคนิควิธีกำรที่หลำกหลำยมำ ผสมผสำนกัน เพื่อสร้ำงสรรค์เป็นผลงำนออกมำ ซึ่งผลงำนที่ออกกมำนั้นก็จะมีควำม แปลกตำและน่ำสนใจแตกต่ำงไปจำกงำนทัศนศิลป์ประเภทอื่นๆ 10. 3 กำรนำภำพซึ่งเป็นผลงำนจิตรกรรมอันเป็นงำนประเภทหนึ่งของงำนทัศนศิลป์มำใช้ ประดับตกแต่งบ้ำนให้น่ำดูให้มีสีสัน ช่วยดึงดูดสำยตำ ถือเป็นกำรนำเอำผลงำน ทัศนศิลป์มำใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ส่วนกำรใช้แสงไฟหลำกสีไม่ถือเป็น ผลงำนทัศนศิลป์ 11. 2 กำรสร้ำงผลงำนทัศนศิลป์ ไม่ว่ำจะเป็นรูปแบบใดก็ตำม ผู้สร้ำงสรรค์ล้วนได้รับ อิทธิพลหรือแบบอย่ำงมำจำกสิ่งแวดล้อมตำมธรรมชำติ เช่น กำรใช้สีเขียวในกำรวำด ใบไม้ กำรวำดรูปพระอำทิตย์เป็นวงกลมมีแสงสีสัน เป็นต้น 12. 4 เส้นแนวตั้งและเส้นแนวนอนเป็นหลักสำคัญในกำรบอกทิศทำงกำรหันใบหน้ำของ ตัวละครว่ำตัวละครจะหันใบหน้ำไปทำงซ้ำย หันไปทำงขวำ ก้มหน้ำ หรือเงยหน้ำ กำรจัดเส้นแนวตั้งและแนวนอนก็จะโค้งไปตำมรูปทรงของใบหน้ำ 13. 1 เพรำะหลักกำรออกแบบที่ดีนั้น ก็คือ กำรศึกษำจำกต้นแบบของจริงก่อนแล้วค่อยตัด ทอนเหลือเป็นโครงสร้ำงเด่นๆ ไว้ ซึ่งผู้ชมสำมำรถรับรู้ได้ว่ำเป็นดอกไม้ 14. 3 เพรำะข้อ 3. ระบุถึงทัศนธำตุต่ำงๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนข้อ 1. เป็นกำรกล่ำวถึงสิ่งที่มองเห็น ข้อ 2. เป็นกำรกล่ำวแบบเปรียบเทียบ ส่วนข้อ 4. เป็นกำรกล่ำวถึงควำมรู้สึกด้ำนควำม งำมที่ได้เห็นจำกภำพส้มโอ 15. 1 ควำมกลมกลืนช่วยให้กำรจัดองค์ประกอบศิลป์ เกิดกำรประสำนกลมกลืนสอดคล้อง สัมพันธ์เข้ำกันได้ จนกลำยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งควำมกลมกลืนมีทั้งควำม กลมกลืนของทัศนธำตุและควำมกลมกลืนของเนื้อหำสำระทั้งหมด 16. 3 เพรำะควำมเป็นเอกภำพในทำงศิลปะ คือ กำรจัดภำพให้เกิดควำมสัมพันธ์อยู่ในกลุ่ม เดียวกัน มีควำมสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ไม่กระจัดกระจำย หรือก่อให้เกิดควำมสับสน แม้จะมีส่วนแตกแยกไปบ้ำงก็เป็นเพียงส่วนประกอบย่อยเท่ำนั้น 17. 3 ในทำงทัศนศิลป์กำรระบำยสีมีหลักกำรที่สำคัญประกำรหนึ่งคือ สีบอกระยะ ใกล้-ไกล คือ สีเข้ม บอกระยะใกล้ สีอ่อน บอกระยะไกล ซึ่งจะทำให้ภำพเกิดควำม สวยงำม เกิดควำมสมจริงและมองเห็นเป็นมิติระยะใกล้-ไกล
  • 35. 18. 2 เนื่องจำกเส้นแนวตั้ง หรือเส้นตั้ง ดังเช่นรูปทรงของวัตถุที่เป็นแนวตั้ง เช่น ตึกทรง สูง เสำไฟฟ้ำ เป็นต้น จะให้ควำมรู้สึกในกำรมองว่ำมีควำมมั่นคง ตั้งมั่น แข็งแรง สง่ำงำม เป็นระเบียบ 19. 1 ขั้นตอนแรกของกำรวำดภำพตัวละครจำกวรรณคดีไทย คือ ผู้วำดต้องเลือกวรรณคดี ไทยเรื่องที่ตนเองชื่นชอบและควรอ่ำนเนื้อเรื่องโดยรวมก่อนทั้งเล่ม จนเกิดควำม เข้ำใจและเกิดมโนภำพของตัวละครที่จะวำด จำกนั้นจึงค่อยลงมือวำดภำพตัวละคร 20. 2 ศำสนำและควำมเชื่อเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ ประเภทต่ำงๆ โดยเฉพำะผลงำนที่มีควำมยิ่งใหญ่และมีควำมประณีต สวยงำม ศิลปิน และผู้ร่วมสร้ำงสรรค์ผลงำนจะต้องมีควำมเชื่อถือและควำมศรัทธำเป็นหลัก จึงจะมี พลังกำยและพลังใจที่จะสร้ำงสรรค์ผลงำนดังกล่ำวไว้เป็นมรดกของแผ่นดิน สืบต่อไป 21. 1 หน้ำที่ใช้สอย กล่ำวคือ ผลงำนทัศนศิลป์ทั้งไทยและสำกลสร้ำงขึ้นเพื่อนำไปใช้ ตอบสนองเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้ คือ เพื่อชื่นชม หรือเพื่อแสดงออกทำงควำมงำม ใช้ประดับตกแต่ง เพื่อเป็นที่เคำรพบูชำ หรือเพื่อเผยแผ่ศำสนำ 22. 1 อิทธิพลที่มีผลต่อกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยมีอยู่หลำยปัจจัยด้วยกัน แต่ปัจจัยที่เด่นชัดที่สุด คือ ปัจจัยด้ำนควำมเชื่อ ควำมศรัทธำทำงพระพุทธศำสนำ เพรำะผลงำนทัศนศิลป์ของไทยในแต่ละยุคสมัยล้วนสร้ำงขึ้นเพื่อแสดงออกซึ่งควำม ศรัทธำต่อศำสนำ ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยที่เกิดขึ้นจำกควำมเชื่อ ควำมศรัทธำทำง พระพุทธศำสนำเป็นจำนวนมำก เช่น วัด สถูป เจดีย์ พระพุทธรูป ภำพจิตรกรรม เป็นต้น 23. 4 งำนจิตรกรรมฝำผนังสมัยสุโขทัยสีที่ใช้จะเป็นแบบดำ แดง เรียกว่ำ “สีเอกรงค์” (Monochrome) ภำพเขียนที่สำคัญ คือ ภำพจิตรกรรมฝำผนังพระพุทธรูป ปำงมำรวิชัยในเจดีย์วัดเจดีย์เจ็ดแถว อำเภอศรีสัชนำลัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นภำพที่ ได้รับอิทธิพลมำจำกศิลปะอินเดีย ลังกำและเขมรผสมผสำนกัน 24. 2 ผลงำนจิตรกรรมไทยในอดีตนิยมเขียนเกี่ยวกับพุทธประวัติจำกพระปฐมสมโพธิกถำ และเรื่องรำวทำงศำสนำ โดยจะนิยมเขียนขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชำตำมผนังโบสถ์ วิหำร ศำลำกำรเปรียญและผนังถ้ำ ทั้งนี้เพื่อประดับตกแต่งสถำนที่แล้วยังถือเป็นกำรเผยแผ่ ศำสนำในอีกทำงหนึ่งด้วย 25. 2 จิตรกรรมไทยถึงแม้ในแต่ละภำคจะมีวิธีกำรเขียน รูปแบบที่ใช้ คตินิยมในกำรสร้ำงที่ แตกต่ำงกันไป ทำให้ผลงำนที่แล้วเสร็จออกมำมีควำมแตกต่ำงกัน ดูแล้วสำมำรถจะ บอกได้ว่ำเป็นของภำคใด แต่เรื่องรำวที่นิยมนำมำวำดส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องรำว พุทธประวัติ หรือแสดงเรื่องรำวที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศำสนำ