SlideShare a Scribd company logo
1 of 56
Download to read offline
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา สังคมศึกษา
คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. กำรอยู่ร่วมกันของศำสนิกชนหลำยศำสนำอย่ำงสงบสุขควรเริ่มต้นอย่ำงไร
1. เข้ำร่วมศำสนพิธีของทุกศำสนำ
2. เข้ำใจควำมแตกต่ำงของแต่ละศำสนำ
3. เปรียบเทียบหลักธรรมของแต่ละศำสนำ
4. พัฒนำแนวทำงกำรรวมแต่ละศำสนำเข้ำด้วยกัน
2. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ หลักควำมเชื่อหรือหลักปฏิบัติของคริสต์ศำสนำนิกำยโรมันคำทอลิก
1. สัญลักษณ์เป็นไม้กำงเขนที่มีพระเยซูคริสต์ถูกตรึง
2. องค์ประมุขของคริสต์ศำสนิกชนคำทอลิกทั่วโลก คือ พระสันตะปำปำ
3. ประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ 2 พิธี คือ พิธีศีลล้ำงบำปและพิธีศีลมหำสนิท
4. ยกย่องพระนำงมำรีอำและยกย่องผู้ทำควำมดีให้แก่ศำสนำเป็น “นักบุญ”
3. หลักปฏิบัติ 5 ประกำร ของศำสนำอิสลำมข้อใด ที่มุสลิมอำจเลือกกระทำในลำดับสุดท้ำย โดยรอให้มี
ควำมพร้อมทั้งด้ำนสุขภำพและทุนทรัพย์ก่อน
1. กำรละหมำด 2. กำรถือศีลอด
3. กำรบริจำคซะกำต 4. กำรประกอบพิธีฮัจญ์
4. เหตุกำรณ์ใดเป็นจุดเริ่มต้นนับศักรำชอิสลำม หรือที่เรียกว่ำ “ฮิจเรำะฮ์ศักรำช”
1. ศำสดำมุฮัมมัดประสูติ
2. ศำสดำมุฮัมมัดสิ้นพระชนม์
3. ศำสดำมุฮัมมัดอพยพไปเมืองมะดีนะฮ์
4. ศำสดำมุฮัมมัดได้รับโองกำรจำกอัลออฮ์
5. พิธีรับศีลในข้อใดของคริสต์ศำสนำที่เป็นกำรยืนยันถึงกำรนับถือคริสต์ศำสนำ
1. ศีลกำลัง 2. ศีลล้ำงบำป
3. ศีลอภัยบำป 4. ศีลมหำสนิท
6. วิธีถ่ำยทอดคำสอนของพระพุทธเจ้ำในสมัยพุทธกำล มีกำรปฏิบัติกันอย่ำงไร
1. จำรึกลงในใบลำน
2. จำรึกลงในศิลำจำรึก
3. ท่องจำด้วยปำกเปล่ำ
4. ท่องจำและบันทึกลงในใบลำน
7. เจ้ำชำยสิทธัตถะเสด็จพระดำเนิน 7 ก้ำว สำมำรถตีควำมหมำยได้ว่ำอย่ำงไร
1. พระพุทธองค์จะทำสงควำม ชนะศึกทั้งหมด 7 แคว้น
2. พระมำรดำของพระองค์จะทรงเสด็จสวรรคตในอีก 7 วัน
3. พระพุทธองค์ได้ทรงประกำศพระพุทธศำสนำไปใน 7 แคว้น
4. พระพุทธองค์จะทรงมีพระธิดำและพระโอรสทั้งหมด 7 พระองค์
8. พระพุทธเจ้ำทรงสอนให้มนุษย์เรียนรู้เกี่ยวกับสมุทัยอย่ำงไร
1. ให้ละทิ้ง
2. ให้นำมำปฏิบัติ
3. ให้เข้ำใจอย่ำงถ่องแท้
4. ให้นำมำใช้ในกำรแก้ปัญหำ
9. ทุกครั้งที่ลักขณำได้ยินเพื่อนต่ำงห้องนิทำว่ำร้ำยเพื่อนสนิทของตน เธอจะเข้ำไปพูดแก้ต่ำง ชี้แจงควำมจริง
ให้แก่เพื่อนของเธอ จำกพฤติกรรมของลักขณำ จัดว่ำเป็นลักษณะของมิตรประเภทใด
1. มิตรมีน้ำใจ
2. มิตรอุปกำระ
3. มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข
4. มิตรแนะนำประโยชน์
10. กำรตักบำตรเทโวโรหณะสอดคล้องกับเหตุกำรณ์ตอนใดในพุทธประวัติ
1. มำรผจญ 2. ปรินิพพำน
3. ลงจำกเทวโลก 4. รับข้ำวมธุปำยำส
11. พระพุทธเจ้ำทรงสอนให้เห็นถึงควำมสำคัญของปัญญำ เพรำะเหตุผลในข้อใด
1. ทำให้มีอำชีพที่มั่นคง
2. ทำให้มีทรัพย์สินมำก
3. ทำให้เข้ำใจพฤติกรรมของผู้อื่น
4. ทำให้รู้วิธีแก้ปัญหำที่เกิดจำกทุกข์ด้วยเหตุและผล
12. บุโรพุทโธที่ตั้งอยู่บนเกำะชวำ สะท้อนข้อมูลตำมข้อใด
1. พระพุทธเจ้ำทรงเคยเสด็จมำประทับที่เกำะชวำ
2. ในอดีตพระพุทธศำสนำบนเกำะชวำเคยเจริญรุ่งเรืองอย่ำงมำก
3. พุทธศำสนิกชนนิยมเดินทำงมำสร้ำงพุทธสถำนที่ใหญ่โตบนเกำะชวำ
4. พระสมณทูตจำกชมพูทวีปมำเผยแผ่พระพุทธศำสนำเป็นแห่งแรกในสุวรรณภูมิ
13. บุคคลที่มีส่วนสำคัญทำให้อุปติสสะได้เป็นสำวกของพระพุทธเจ้ำคือใคร
1. พระอัสสชิ 2. โกณฑัญญะ
3. พระมหำกัสสปะ 4. พระโมคคัลลำนะ
14. ข้อใดเป็นกำรปฏิบัติตนที่สอดคล้องกับกำรประพฤติทำงกำยที่ดีตำมหลักกุศลกรรมบถ 10
1. ประภำปล่อยให้ยุงกัดเพรำะกำรฆ่ำสัตว์นั้นเป็นบำป
2. สมภพลงโทษสุนัขโดยไม่ให้อำหำรและน้ำเป็นเวลำ 3 วัน
3. กมลซื้อโทรศัพท์มือสองต่อจำกเพื่อนที่ขโมยมำเพรำะรำคำถูก
4. สินสมุทรเก็บเงินได้จำกสนำมเด็กเล่นจึงนำไปคืนครูประจำชั้น
15. บุคคลใดต่อไปนี้ทำบุญแบบอำมิสทำน
1. วิหคให้อภัยเพื่อนที่ทำหนังสือของตนหำย
2. สกุณำติวหนังสือให้เพื่อนก่อนสอบ
3. ปักษีบริจำคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
4. ปักษำหมั่นไปถำมพระอำจำรย์เกี่ยวกับพระธรรมะที่ตนสงสัย
16. ในฐำนะที่นักเรียนเป็นคนไทย สำมำรถมีส่วนช่วยสืบทอดพระพุทธศำสนำได้อย่ำงไร
1. บวชเณรหรือบวชชีพรำหมณ์
2. เป็นอำสำสมัครออกเผยแผ่พระพุทธศำสนำ
3. พิมพ์เผยแผ่ตำรำทำงพระพุทธศำสนำให้หลำกหลำยภำษำ
4. ศึกษำคำสอนทำงพระพุทธศำสนำให้ถ่องแท้และนำไปปฏิบัติเพื่อเป็นแบบอย่ำงแก่ผู้อื่น
17. บุคคลใดต่อไปนี้ปฏิบัติตนไม่ถูกต้องในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3
1. เง็กตื่นมำตักบำตรแต่เช้ำตรู่
2. เม้งชวนเพื่อนๆ ไปเวียนเทียนที่วัดตอนค่ำ
3. เกียวไปฟังพระเทศน์เรื่องโอวำทปำฏิโมกข์
4. กิมไปถวำยผ้ำอำบน้ำฝนแด่พระสงฆ์ที่วัด
18. กำรกระทำในข้อใดเป็นวิธีกำรคิดแบบปลุกเร้ำคุณธรรม
1. สมหญิงอุทิศร่ำงกำยให้แก่สภำกำชำดเพื่อกำรศึกษำวิจัยก่อนเสียชีวิต
2. สมชำยขยันทำงำนเพื่อสร้ำงทรัพย์สมบัติให้ได้มำกที่สุด
3. สมโชคเดินทำงท่องเที่ยวรอบโลกเพื่อสร้ำงควำมสุขให้กับตนเอง
4. สมทรงไม่กระทำกำรอันใดที่เป็นกำรสร้ำงภำระให้กับตนเองและผู้อื่น
19. กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำหลังพุทธปรินิพพำนที่เป็นรูปธรรมมำกที่สุดคือข้อใด
1. กำรทำสังคำยนำครั้งที่ 1
2. กำรร้อยกรองพระธรรมวินัย
3. กำรแบ่งพระบรมสำรีริกธำตุ
4. กำรส่งสมณทูตของพระเจ้ำอโศกมหำรำช
20. ข้อใดแสดงควำมสัมพันธ์กันได้ถูกต้อง
1. วันมำฆบูชำ – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8
2. วันวิสำขบูชำ – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6
3. วันอัฏฐมีบูชำ – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
4. วันอำสำฬหบูชำ – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3
21. พฤติกรรมใดต่อไปนี้ ถือว่ำเป็นผู้ที่ ไม่ ประพฤติตนเคำรพกฎกติกำของสังคม
1. ข้ำมถนนบนทำงม้ำลำย
2. ขี่รถจักรยำนยนต์แข่งกันบนทำงด่วน
3. เข้ำร่วมชุมนุมทำงกำรเมืองอย่ำงสงบ
4. หยุดรถในขณะที่เห็นสัญญำณไฟเหลือง
22. ข้อใดต่อไปนี้แสดงถึงลักษณะของสังคมไทยที่ควรจะเป็น
1. คนในชุมชนเน้นกำรสร้ำงรำยได้เป็นหลัก
2. สมำชิกในครอบครัวยึดถือเอำควำมคิดตนเองเป็นใหญ่
3. สมำชิกในหมู่บ้ำนร่วมหำรือกันเพื่อพัฒนำชุมชน
4. เด็กรุ่นใหม่ให้ควำมสนใจเทคโนโลยีมำกกว่ำจริยธรรม
23. ข้อใดถือเป็นสิทธิเสรีภำพตำมบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย
1. ห้ำมไม่ให้คนแปลกหน้ำเข้ำมำยังที่พักอำศัย
2. ลงโทษลูกจ้ำงของตนโดยกำรทุบตีจนบำดเจ็บ
3. ต่อว่ำผู้ที่นับถือศำสนำต่ำงจำกตนอย่ำงรุนแรง
4. ทำลำยสำธำรณสมบัติเพื่อต่อต้ำนนโยบำยของรัฐ
24. เป้ำหมำยหลักของกำรถ่วงดุลอำนำจของทั้ง 3 ฝ่ำยคืออะไร
1. มีกำรควบคุมและกำรตรวจสอบกำรใช้อำนำจอย่ำงมีประสิทธิภำพ
2. มีส่วนช่วยให้กำรปฏิบัติตำมนโยบำยกำรบริหำรประเทศมีประสิทธิภำพมำกขึ้น
3. อำนำจหน้ำที่ในกำรบริหำรประเทศของแต่ละฝ่ำยมีควำมชัดเจนมำกขึ้น
4. สอดคล้องกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยตำมแบบอย่ำงสำกลนิยม
25. กำรให้ประชำชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในกำรกำหนดนโยบำยกำรปกครองท้องถิ่นของตน สอดคล้องกับ
หลักกำรของระบอบประชำธิปไตยข้อใด
1. ประชำชนมีควำมเสมอภำคกัน
2. อำนำจอธิปไตยเป็นของปวงชน
3. กำรถ่วงดุลอำนำจระหว่ำงรัฐกับประชำชน
4. อำนำจกำรปกครองต้องอยู่ที่ส่วนกลำงเพียงแห่งเดียว
26. กำรกระทำในข้อใดถือเป็นกำรละเมิดสิทธิ
1. แอบลอกข้อสอบภำยในชั้นเรียน
2. นำแผ่นซีดีเพลงมำก๊อปปี้แจกเพื่อน
3. ยืมหนังสือห้องสมุดมำอ่ำนแล้วไม่คืน
4. ถ่ำยรูปทิวทัศน์ธรรมชำติเพื่อทำโปสกำร์ดขำย
27. กำรกระทำในข้อใดต่อไปนี้ เป็นควำมผิดตำมกฎหมำยคุ้มครองผู้บริโภค
1. เด็กวัยรุ่นใช้ธนบัตรปลอมเข้ำไปซื้อสินค้ำในร้ำนสะดวกซื้อ
2. ภัตตำคำรแห่งหนึ่งขำยอำหำรในรำคำสูงเพรำะใช้วัตถุดิบที่มีคุณภำพ
3. พบผลไม้กระป๋องยี่ห้อหนึ่งไม่ได้ระบุวันที่ผลิตและวันหมดอำยุไว้บนกระป๋อง
4. ร้ำนตัดเสื้อแห่งหนึ่งมีกำรติดป้ำยรำคำค่ำตัดเสื้อผ้ำในรำคำที่สูงมำก
28. ในงำนแต่งงำนของคนไทย มีพิธีกรรมใดที่มำจำกกำรผสมผสำนกับศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู
1. กำรรดน้ำสังข์
2. กำรแห่ขันหมำก
3. กำรโยนช่อดอกไม้
4. กำรกั้นประตูเงินประตูทอง
29. ศำสนำเป็นปัจจัยทำงวัฒนธรรมที่จะสำมำรถสร้ำงควำมสัมพันธ์อันดีระหว่ำงประเทศสมำชิกอำเซียนได้
เพรำะเหตุใด
1. ศำสนำต่ำงๆ ล้วนสอนให้คนเป็นคนดี มีเมตตำต่อกัน
2. ประชำกรส่วนใหญ่ในประเทศต่ำงๆ ล้วนนับถือศำสนำเดียวกัน
3. ส่งเสริมให้เกิดควำมรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชำกรในภูมิภำค
4. พิธีกรรมทำงศำสนำที่คนส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องกำรกระทำร่วมกัน
30. ลักษณะในข้อใดที่แสดงถึงกำรเป็นสังคมประชำธิปไตย
1. มีผู้นำทำงกำรเมืองที่มำจำกกำรแต่งตั้ง
2. ประชำชนยอมรับควำมแตกต่ำงทำงควำมคิด
3. เมื่อเกิดควำมขัดแย้งมักใช้ควำมรุนแรงในกำรแก้ปัญหำ
4. รัฐบำลมีอำนำจในกำรแทรกแซงกำรเผยแพร่ข่ำวสำรของสื่อมวลชน
31. หำกนักเรียนสนทนำกับเพื่อนแล้วมีควำมคิดเห็นไม่ตรงกัน นักเรียนควรทำอย่ำงไรจึงถือได้ว่ำเป็นกำร
ปฏิบัติตำมวิถีประชำธิปไตย
1. ต่อว่ำเพื่อนอย่ำงรุนแรง
2. ไม่สนทนำกับเพื่อนคนนั้นอีก
3. รับฟังควำมคิดเห็นของเพื่อน
4. เลิกคบหำสมำคมกับเพื่อนคนนี้
32. กำรพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติในวุฒิสภำ ถ้ำสภำลงมติเห็นชอบ บุคคลใดจะต้องนำทูลเกล้ำถวำยฯ
พระมหำกษัตริย์ เพื่อทรงลงพระปรมำภิไธย
1. นำยกรัฐมนตรี
2. ประธำนรัฐสภำ
3. ประธำนศำลรัฐธรรมนูญ
4. เลขำธิกำรสำนักพระรำชวัง
33. องค์กำรหรือหน่วยงำนรำชกำรในข้อใดมีลักษณะของกำรปกครองแบบรวมอำนำจไว้ที่ส่วนกลำง
1. เมืองพัทยำ 2. จังหวัด อำเภอ
3. กรุงเทพมหำนคร 4. สำนักนำยกรัฐมนตรี
34. ปัจจัยใดที่ทำให้เมืองพัทยำมีกำรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
1. เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีรำยได้สูง
2. อยู่ในเขตพื้นที่ตะเข็บชำยแดนของไทย
3. มีจำนวนประชำกรต่อตำรำงกิโลเมตรต่ำ
4. ตั้งอยู่ในภำคตะวันออกและติดทะเลอ่ำวไทย
35. ครอบครัวของหน่อย ประกอบด้วยสมำชิกจำนวน 5 คน คือ พ่อ แม่ พี่ชำย หน่อย และน้องสำว ดังนั้น
ครอบครัวของหน่อยเป็นครอบครัวลักษณะใด
1. ครอบครัวเดี่ยว 2. ครอบครัวขยำย
3. ครอบครัวเชิงซ้อน 4. ครอบครัวกลุ่มย่อย
36. ข้อใดต่อไปนี้ เป็นลักษณะควำมสัมพันธ์ของสถำบันทำงสังคมทำงตรง
1. โรงเรียนจัดให้นักเรียนไปเข้ำค่ำยคุณธรรมที่วัดแห่งหนึ่ง
2. โพลสำรวจพบว่ำคนส่วนใหญ่นิยมรับชมข่ำวบันเทิงมำกที่สุด
3. ประชำกรส่วนใหญ่ของประเทศอินเดียนับถือศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู
4. ครอบครัวในเมืองมีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยวมำกกว่ำครอบครัวขยำย
37. ข้อใดต่อไปนี้แสดงถึงวัฒนธรรมที่มำจำกสภำพแวดล้อมทำงภูมิศำสตร์
1. กำรยืนตรงเคำรพธงชำติ
2. กำรสร้ำงพระอุโบสถถวำยวัด
3. กำรรับประทำนปลำร้ำของคนอีสำน
4. กำรใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยทำรำยงำน
38. วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับศำสนำของไทย มีควำมคล้ำยคลึงกับวัฒนธรรมทำงศำสนำของประเทศใดใน
อำเซียนมำกที่สุด
1. ลำว 2. ฟิลิปปินส์
3. อินโดนีเซีย 4. บรูไนดำรุสซำลำม
39. วัฒนธรรมในข้อใดถือเป็นวัฒนธรรมสำกล
1. กำรลอยกระทง 2. กำรเล่นอินเทอร์เน็ต
3. กำรทำพิธีบำยศรีสู่ขวัญ 4. กำรทำบุญตำนก๋วยสลำก
40. ในปัจจุบันวัฒนธรรมสำกลในข้อใดที่ควรให้ควำมสนใจเพื่อนำมำใช้ในชีวิตประจำวัน
1. เครื่องสำอำง 2. ของแบรนด์เนม
3. ภำษำอังกฤษ 4. แฟชั่นกำรแต่งตัว
41. ทรัพย์สินในข้อใดซื้อขำยกัน ไม่ได้
1. บ้ำน 2. รถยนต์
3. อำคำรพำณิชย์ 4. ที่ในเขตป่ำสงวน
42. กำรกระทำในข้อใด เป็นกำรปฏิบัติตำมสิทธิเสรีภำพตำมบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
1. แดง ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
2. ต้อม หลีกเลี่ยงกำรเสียภำษีเงินได้
3. เอก เข้ำร่วมชุมนุมทำงกำรเมืองอย่ำงสงบ
4. หนุ่ม ไม่ยอมเข้ำรับกำรตรวจเลือกเกณฑ์ทหำร
43. หลักกำรในข้อใดที่จะช่วยส่งเสริมให้สำมำรถดำรงชีวิตได้อย่ำงมีควำมสุข
1. ทฤษฎีควำมขัดแย้ง 2. แนวคิดแบบสุขนิยม
3. แนวคิดแบบวัตถุนิยม 4. ปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง
44. ข้อใดคือลักษณะของชุมชนสมำนฉันท์
1. คนในชุมชนมีฐำนะดี
2. คนในชุมชนมีควำมรู้สูง
3. คนในชุมชนมีควำมสำมัคคี
4. คนในชุมชนมีควำมทะเยอทะยำน
45. ข้อใดคืออุดมกำรณ์ของระบอบประชำธิปไตย
1. อำนำจเป็นของผู้นำเท่ำนั้น
2. อำนำจอธิปไตยเป็นของประชำชน
3. ประชำชนเป็นเพียงกลไกหนึ่งของรัฐบำล
4. กฎหมำยและนโยบำยต่ำงๆ อยู่ภำยใต้กำรตัดสินใจของผู้นำคนเดียวเท่ำนั้น
46. เพรำะเหตุใดวิชำเศรษฐศำสตร์จึงให้ควำมสำคัญกับกำรจัดสรรทรัพยำกรให้เกิดประโยชน์อย่ำงคุ้มค่ำ
1. เพรำะทรัพยำกรมีรำคำแพง
2. เพรำะทรัพยำกรมีอยู่อย่ำงจำกัด
3. เพรำะทรัพยำกรเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป
4. เพรำะทรัพยำกรไม่สำมำรถเกิดขึ้นใหม่ได้
47. ค่ำเสียโอกำสของหนูดีที่เลือกไปเที่ยวกับเพื่อนแทนกำรอ่ำนหนังสือเตรียมสอบอยู่ที่บ้ำนคืออะไร
1. กำรสอบไม่ผ่ำน 2. กำรไม่ได้อ่ำนหนังสือ
3. กำรไม่ได้ปฏิบัติตนเป็นนักเรียนที่ดี 4. กำรเสียค่ำใช้จ่ำยในกำรไปเที่ยวกับเพื่อน
48. เพรำะเหตุใดจึงต้องมีกำรคุ้มครองผู้บริโภค
1. เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกำสซื้อสินค้ำและบริกำรในรำคำถูก
2. เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกำสเลือกสินค้ำและบริกำรตำมที่ต้องกำร
3. เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับควำมพอใจในกำรบริโภคสินค้ำและบริกำร
4. เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับควำมปลอดภัยในกำรบริโภคสินค้ำและบริกำร
49. ข้อใดเป็นสิทธิผู้บริโภคขั้นพื้นฐำนตำมพระรำชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับ
ที่ 2) พ.ศ. 2541
1. สิทธิที่จะได้รับอิสระในกำรเลือกใช้สินค้ำ
2. สิทธิที่จะได้รับกำรบริโภคสินค้ำในรำคำที่เหมำะสม
3. สิทธิที่จะได้รับกำรยกเว้นในกำรเลือกซื้อสินค้ำผูกขำด
4. สิทธิที่จะได้รับกำรประกันสินค้ำเป็นระยะเวลำ 3 เดือนหลังกำรซื้อ
50. หำกนักเรียนซื้อผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวและเกิดอันตรำยต่อร่ำงกำย นักเรียนสำมำรถร้องเรียนได้ที่
หน่วยงำนใด
1. สำนักงำนมำตรฐำนอุตสำหกรรม
2. กรมกำรแพทย์ กระทรวงสำธำรณสุข
3. สำนักงำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำ
4. สำนักงำนคณะกรรมกำรคุ้มครองผู้บริโภค
51. บุคคลใดปฏิบัติตำมพระรำชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ได้ถูกต้อง
1. ใจดีซื้อแผ่นซีดีของแท้มำฟัง
2. น้ำฝนก๊อปปี้หนังต่ำงประเทศมำวำงขำยแผ่นละ 40 บำท
3. น้ำขิงไปซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ลอกเลียนแบบของจริงมำใช้ที่สำนักงำน
4. สำยฟ้ำนำเพลงของนักร้องขวัญใจวัยรุ่นไปใส่ทำนองใหม่แล้ววำงขำยในกลุ่มเพื่อน
52. ข้อใดเป็นกำรเพิ่มมูลค่ำในกำรผลิตสินค้ำและบริกำร โดยกำรนำควำมถนัดของตนเองมำสร้ำงสรรค์ผลิต
สินค้ำและบริกำร
1. ต้นพัฒนำบ้ำนสวนของตนให้กลำยเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน
2. ต้องออกแบบสบู่สมุนไพรให้มีรูปทรงแปลกตำและมีควำมทันสมัย
3. ตุ้มนำผ้ำซิ่นไทลื้อที่มีลวดลำยสวยงำมมำทำกระเป๋ำถือเพื่อขำยนักท่องเที่ยว
4. แต้วดัดแปลงบ้ำนพักริมแม่น้ำโขงของตนให้เป็นห้องจัดแสดงภำพถ่ำยที่สะท้อนวิถีชีวิตของผู้คน
53. ข้อใดมีควำมสอดคล้องกับกำรออมมำกที่สุด
1. แตงกวำมีเงินจำกกำรใช้จ่ำยเดือนละ 3,000 บำท
2. สมโอได้รับเงินเดือน 15,000 บำท มีรำยจ่ำยเพื่อกำรลงทุน 14,000 บำท
3. ชมพู่นำเงินที่เหลือเก็บไปลงทุนเปิดร้ำนอำหำร ต่อมำเกิดปัญหำสภำพคล่องต้องปิดกิจกำร
4. น้อยหน่ำใช้จ่ำยอย่ำงประหยัดและทำงำนพิเศษหำรำยได้เสริมเพื่อให้เพียงพอกับค่ำใช้จ่ำยใน
ครอบครัว
54. ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์หลักของภำครัฐในกำรสนับสนุนส่งเสริมสินค้ำ OTOP
1. เพื่อเป็นกำรเพิ่มรำยได้ให้กับประเทศ
2. เพื่อสร้ำงควำมมั่นคงทำงเศรษฐกิจให้กับคนในชุมชน
3. เพื่อต้องกำรเพิ่มปริมำณสินค้ำส่งออกของไทยสู่ตลำดต่ำงประเทศ
4. เพื่อเปลี่ยนค่ำนิยมของคนไทยให้หันมำบริโภคสินค้ำภำยในประเทศ
55. ข้อใดเป็นปัญหำสำคัญที่สุดของกำรออมในสังคมไทย
1. ประชำกรส่วนใหญ่มีรำยได้น้อย
2. ประชำกรขำดควำมรู้เรื่องกำรออม
3. สถำบันกำรเงินกระจุกตัวอยู่ในเมือง
4. เงินฝำกธนำคำรมีอัตรำดอกเบี้ยต่ำเกินไป
56. ข้อใดสอดคล้องกับกฎอุปสงค์
1. คนไทยเชื้อสำยจีนซื้อของเซ่นไหว้มำกขึ้นในช่วงตรุษจีน
2. ชำวบ้ำนซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคมำกขึ้นในช่วงที่ห้ำงสรรพสินค้ำลดรำคำ
3. ผู้ปกครองซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์กำรศึกษำมำกขึ้นในช่วงก่อนเปิดเทอม
4. ประชำชนจำนวนมำกเดินทำงท่องเที่ยวและจับจ่ำยใช้สอยมำกขึ้นในช่วงเทศกำลสงกรำนต์
57. กำรเปลี่ยนแปลงของสินค้ำในข้อใดเป็นไปตำมกฎของอุปทำน
1. ยอดจำหน่ำยน้ำส้มคั้นสูงขึ้น เพรำะมีผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
2. บ้ำนจัดสรรปรับรำคำสูงขึ้น เพรำะต้นทุนกำรผลิตเพิ่มขึ้น
3. จำกเหตุกำรณ์อุทกภัยทำให้ผลผลิตผักลดลงมำก รำคำผักจึงสูงขึ้น
4. รำคำน้ำมันปำล์มสูงขึ้น พ่อค้ำจึงสั่งน้ำมันปำล์มจำกต่ำงประเทศเข้ำมำขำย
58. รำคำดุลยภำพกำรตลำดจะเกิดขึ้นเมื่อใด
1. จำนวนผู้ซื้อเท่ำกับจำนวนผู้ขำย
2. ปริมำณเสนอซื้อสมดุลกับรำคำเสนอขำย
3. ผู้ซื้อสำมำรถซื้อสินค้ำได้ตำมจำนวนที่ต้องกำร
4. อุปสงค์ส่วนเกินและอุปทำนส่วนเกินมีค่ำเท่ำกับศูนย์
59. ข้อใดเป็นกำรดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง
1. กินอยู่อย่ำงประหยัดไม่ฟุ้งเฟ้อ
2. อยู่ดีกินดีตำมอย่ำงเพื่อนฝูง
3. ประหยัดและเก็บเงินให้ได้มำก
4. กู้เงินมำใช้เพื่อรักษำฐำนะ
60. ทำงสำยกลำงตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง สอดคล้องกับแนวกำรประพฤติในข้อใด
1. ไม่คบค้ำกับต่ำงชำติ
2. ค้ำขำยโดยไม่มุ่งกำไร
3. ไม่ซื้อสินค้ำที่ชอบเลย แม้มีรำยได้มำกก็ตำม
4. ประกอบอำชีพสุจริต มีควำมประหยัด มีคุณธรรม
61. ข้อใดเป็นแนวทำงกำรแก้ปัญหำเศรษฐกิจในระดับชุมชนที่ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง
1. ยึดแนวทำงบริโภคนิยมและวัตถุนิยม
2. ดำเนินชีวิตตำมควำมต้องกำรของตนเอง
3. ดำเนินชีวิตตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง
4. ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบำยงบประมำณเพื่อให้ชำวบ้ำนกู้ยืม
62. สถำบันกำรเงินในข้อใดมีบทบำทหน้ำที่หลักแตกต่ำงจำกสถำบันกำรเงินอื่น
1. ธนำคำรออมสิน
2. สหกรณ์ออมทรัพย์
3. ธนำคำรอิสลำมแห่งประเทศไทย
4. ธนำคำรเพื่อกำรส่งออกและนำเข้ำแห่งประเทศไทย
63. ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดกำรลงทุนในข้อใดมีควำมสัมพันธ์กับภำวะเงินเฟ้อและเงินฝืดมำกที่สุด
1. ค่ำของเงิน
2. ผลตอบแทนและควำมเสี่ยง
3. จำนวนทรัพย์สินที่จำหน่ำยในตลำด
4. กำรคำดคะเนที่เกี่ยวกับเหตุกำรณ์ต่ำงๆ ในอนำคต
64. “เกิดช่องว่ำงทำงเศรษฐกิจและสังคม ทำให้เกิดกำรผูกขำดของผู้ที่มีกำลังทุนในทำงเศรษฐกิจ และอำจมี
กำรเอำรัดเอำเปรียบซึ่งเกิดจำกกำรผูกขำดของเจ้ำของทุน” เป็นข้อเสียของระบบเศรษฐกิจใด
1. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม
2. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
3. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม
4. ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์
65. กำรรวมเป็นประชำคมเศรษฐกิจอำเซียน มีเป้ำหมำยสำคัญอย่ำงไร
1. เพื่อกำรแบ่งตลำดและฐำนกำรผลิตเดียว
2. กำจัดอุปสรรคที่กีดกันกำรค้ำและบริกำร
3. เป็นตัวกลำงประสำนงำนด้ำนนโยบำยน้ำมัน
4. เพื่อประโยชน์ด้ำนกำรค้ำเสรีระหว่ำงประเทศสมำชิก
66. เพรำะเหตุใดในกำรศึกษำเรื่องรำวสมัยก่อนประวัติศำสตร์ จึงต้องอำศัยผลจำกเครื่องมือเครื่องใช้ของ
มนุษย์เป็นหลัก
1. ให้ข้อมูลที่เป็นจริง 2. วิเครำะห์ตีควำมง่ำย
3. ยังไม่มีกำรจดบันทึก 4. มีหลักฐำนให้ศึกษำมำก
67. ถ้ำในปัจจุบันประเทศไทยยังใช้ระบบศักรำชแบบรัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) พุทธศักรำช 2555 จะตรงกับ
รัตนโกสินทร์ศกใด
1. ร.ศ. 230 2. ร.ศ. 231
3. ร.ศ. 232 4. ร.ศ. 233
68. เพรำะเหตุใดกำรตีควำมข้อมูลจำกหลักฐำนชิ้นเดียวกันหรือในเรื่องเดียวกันจึงมีควำมแตกต่ำงกัน
1. ถูกตีควำมในพื้นที่ที่ต่ำงกัน 2. ถูกตีควำมในช่วงเวลำที่ต่ำงกัน
3. ถูกตีควำมจำกทฤษฎีที่ต่ำงกัน 4. ถูกตีควำมจำกผู้ศึกษำที่ต่ำงกัน
69. ข้อควำมในศิลำจำรึกที่กล่ำวว่ำ “เมื่อชั่วพ่อขุนรำมคำแหงเมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลำ ในนำมีข้ำว...”
แสดงว่ำสุโขทัยมีควำมอุดมสมบูรณ์ดี ข้อควำมดังกล่ำวนี้จัดอยู่ในขั้นตอนใดของวิธีกำรทำงประวัติศำสตร์
1. กำรรวบรวมหลักฐำน 2. กำรประเมินคุณค่ำของหลักฐำน
3. กำรวิเครำะห์ สังเครำะห์ข้อมูล 4. กำรเรียบเรียงหรือกำรนำเสนอ
70. กำรวิเครำะห์ข้อมูลและกำรสังเครำะห์ข้อมูลมีประโยชน์อย่ำงไร
1. ทำให้ข้อมูลมีควำมกระชับรัดกุมยิ่งขึ้น
2. แสดงควำมสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องกันของเหตุกำรณ์
3. ทำให้ทรำบองค์ประกอบที่ก่อให้เกิดเหตุกำรณ์ขึ้น
4. สำมำรถแยกข้อมูลจริงและข้อมูลปลอมออกจำกกัน
71. ควำมเจริญของชุมชนโบรำณในแต่ละแห่ง เรำสำมำรถพิจำรณำได้จำกอะไร
1. ขนำดพื้นที่ของชุมชน 2. ซำกเมล็ดพืชที่บริโภค
3. คุณภำพของเครื่องมือที่ใช้ 4. จำนวนโครงกระดูกที่ขุดพบ
72. หลักฐำนใดที่ช่วยยืนยันว่ำ สุโขทัยเป็นเมืองที่มีควำมเจริญมำก่อนที่คนไทยจะสถำปนำเป็นรำชธำนี
1. ศำสนสถำนศิลปะขอม 2. เจดีย์ทรงพุ่มข้ำวบิณฑ์
3. ข้อควำมจำกศิลำจำรึก 4. เรื่องรำวจำกเอกสำรจีน
73. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ ภูมิปัญญำในสมัยสุโขทัยที่เกิดจำกลักษณะทำงภูมิศำสตร์
1. กำรสร้ำงตระพังไว้เก็บน้ำ
2. กำรผสมตะกั่วในกำรหลอมสำริด
3. กำรใช้ศิลำแลงสร้ำงโบสถ์และวิหำร
4. กำรเผำเครื่องสังคโลกด้วยเตำทุเรียงในฤดูฝน
74. ลักษณะทำงเศรษฐกิจของภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในข้อใดที่คงอยู่ตั้งแต่สมัยโบรำณจนถึง
ปัจจุบัน
1. กำรแบ่งชนชั้นทำงสังคมระหว่ำงเจ้ำนำยกับทำส
2. กำรทำสงครำมเพื่อกวำดต้อนผู้คนและทรัพย์สินมีค่ำ
3. กำรประกอบอำชีพทำงกำรเกษตรและค้ำขำยกับภำยนอก
4. กำรปกครองที่ยึดพระปรีชำสำมำรถของกษัตริย์ผู้เป็นประมุข
75. ประชำคมอำเซียนเกิดขึ้นจำกควำมจำเป็นในด้ำนใดเป็นสำคัญ
1. ควำมมั่นคง
2. กำรพัฒนำเศรษฐกิจ
3. กำรป้องกันภัยพิบัติ
4. ควำมสำคัญของวัฒนธรรม
76.แหล่งมรดกโลกทำงวัฒนธรรมในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ข้อใดที่มีควำมเป็นมำแตกต่ำงจำกแหล่งอื่น
1. เมืองมะละกำ มำเลเซีย
2. พรหมบะนัน อินโดนีเซีย
3. โบสถ์สมัยบำโรก ฟิลิปปินส์
4. กลุ่มโบรำณสถำนมิเซิน เวียดนำม
77. อุทยำนประวัติศำสตร์สุโขทัยได้รับกำรขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทำงวัฒนธรรมด้วยเหตุผลที่ว่ำเป็น
ตัวแทนถึงผลงำนชิ้นเอกอันทรงคุณค่ำและมีเอกลักษณ์เฉพำะตัว โบรำณสถำนใดที่สะท้อนเอกลักษณ์
ของสุโขทัยได้ดีที่สุด
1. วัดศรีชุม 2. วัดช้ำงล้อม
3. วัดมหำธำตุ 4. วัดนำงพญำ
78. เพรำะเหตุใดเรำจึงควรศึกษำสภำพกำรณ์ทั่วไปของชุมชนไทยในช่วงก่อนกำรสถำปนำอำณำจักรอยุธยำ
1. เพื่อให้เห็นควำมสำคัญของผู้นำไทย
2. เพื่อให้เข้ำใจภำพรวมของชุมชนไทย
3. เพื่อยืนยันว่ำอำณำจักรอยุธยำมีอยู่จริง
4. เพื่อให้รู้ว่ำชำติไทยเป็นชนชำติที่เก่ำแก่ที่สุดในภูมิภำค
79. กำรปฏิรูปกำรปกครองในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนำถมีลักษณะอย่ำงไร
1. กระจำยอำนำจและรวมหน้ำที่
2. กระจำยอำนำจและแบ่งแยกหน้ำที่
3. รวมอำนำจเข้ำสู่ศูนย์กลำงและรวมหน้ำที่
4. รวมอำนำจเข้ำสู่ศูนย์กลำงและแบ่งแยกหน้ำที่
80. กำรสร้ำงสรรค์ศิลปวัฒนธรรมของชำวไทยสมัยอยุธยำได้รับอิทธิพลจำกข้อใดมำกที่สุด
1. พระพุทธศำสนำ 2. กำรประกอบอำชีพ
3. ธรรมชำติที่งดงำม 4. อำรยธรรมตะวันตก
81. เหตุกำรณ์ในข้อใดต่อไปนี้ที่แสดงถึงพระปรีชำสำมำรถและควำมกล้ำหำญของสมเด็จพระนเรศวร
มหำรำชมำกที่สุด
1. ปีนค่ำยข้ำศึก 2. โจมตีเมืองแครง
3. กระทำยุทธหัตถี 4. ประกำศอิสรภำพ
82. นโยบำยกำรต่ำงประเทศของอยุธยำในสมัยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำชสำมำรถสรุปได้ตำมข้อใด
1. พึ่งพิงเป็นหลัก 2. โอนอ่อนผ่อนตำม
3. ปิดประตูไม่ยอมรับ 4. ให้ถ่วงดุลอำนำจกัน
83. ภำยหลังที่สมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชทรงกอบกู้เอกรำชได้สำเร็จ ข้อใดนับว่ำเป็นจุดเริ่มต้นของกำร
รวบรวมพระรำชอำณำจักรที่แตกแยกให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
1. ปรำบปรำมกลุ่มชุมนุมต่ำงๆ
2. รบชนะดินแดนต่ำงๆ ใกล้เคียง
3. สถำปนำกรุงธนบุรีเป็นรำชธำนี
4. จัดระบบกำรปกครองให้เป็นระเบียบ
84. ข้อใดกล่ำวถึงลักษณะประชำกรและวัฒนธรรมของภูมิภำคเอเชียใต้ ไม่ ถูกต้อง
1. มีประเพณีวัฒนธรรมเดียวกัน
2. ส่วนใหญ่มีควำมคิดอนุรักษนิยม
3. มีประชำกรหลำกหลำยเชื้อชำติ
4. นับถือศำสนำและพูดภำษำต่ำงกัน
85. เพรำะเหตุใดประชำกรในภูมิภำคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้จึงมีวัฒนธรรมกำรตั้งถิ่นฐำนแบบเร่ร่อน
1. มีควำมเชื่อในศำสนำเกี่ยวกับกำรเดินทำง
2. อพยพตำมฝูงสัตว์เพื่อล่ำสัตว์ในฤดูต่ำงๆ
3. มีภูมิประเทศแห้งแล้ง ซึ่งยำกลำบำกต่อกำรเพำะปลูก
4. เกิดภัยธรรมชำติในแต่ละพื้นที่ จึงต้องหลบหนีเพื่อควำมอยู่รอด
86. ควำมเชื่อเรื่องอำณัติแห่งสวรรค์ส่งผลต่อชำวจีนโบรำณอย่ำงไร
1. ชำวจีนขำดควำมกระตือรือร้นและรอควำมช่วยเหลือจำกสวรรค์
2. เกิดกำรลุกฮือของรำษฎรเพื่อล้มล้ำงรำชวงศ์เดิมแล้วตั้งรำชวงศ์ใหม่
3. ชำวจีนอยู่อย่ำงสันติสุขเพรำะทุกคนยอมรับผู้ปกครองที่สวรรค์เลือกให้
4. เกิดกำรเลือกผู้นำด้วยวิธีกำรเสี่ยงทำยเพื่อจะได้ผู้นำตำมที่สวรรค์ต้องกำร
87. สำเหตุใดที่ทำให้รัชกำลที่ 1 โปรดเกล้ำฯ ให้มีกำรตรวจชำระกฎหมำยขึ้นใหม่
1. กฎหมำยเดิมที่ใช้อยู่ไม่มีควำมยุติธรรม
2. ชำติอื่นดูถูกว่ำกฎหมำยไทยไร้ควำมศักดิ์สิทธิ์
3. โบรำณรำชประเพณีกำหนดให้มีกำรตรวจชำระทุกครั้งที่เปลี่ยนรัชกำลใหม่
4. พระองค์เกรงว่ำผู้รู้กฎหมำยจะค่อยๆ หำยไป จึงให้รวบรวมไว้เป็นลำยลักษณ์อักษร
88. ลักษณะเด่นของระบบเจ้ำภำษีนำยอำกรตรงกับข้อใด
1. กำรเก็บภำษีเป็นเงินแทนสิ่งของ
2. กำรผูกขำดกำรจัดเก็บภำษีโดยรัฐ
3. กำรเปิดโอกำสให้เอกชนประมูลจัดเก็บภำษี
4. กำรจัดเก็บภำษีจำกกำรชักส่วนผลผลิตที่รำษฎรทำได้
89. ข้อใดเป็นกลไกสำคัญในกำรควบคุมกำลังคนในระบบไพร่
1. ไพร่ต้องสังกัดมูลนำย
2. ไพร่จับจองที่ดินไม่ได้
3. ไพร่เปลี่ยนแปลงสถำนะไม่ได้
4. ไพร่ต้องมำทำงำนให้กับทำงรำชกำร
90. กำรปกครองแบบเทศำภิบำลเป็นกำรปกครองในลักษณะเช่นใด
1. แบ่งอำนำจกันปกครอง
2. รวมอำนำจเข้ำสู่ศูนย์กลำง
3. กระจำยอำนำจสู่ท้องถิ่น
4. ปกครองกันเองอย่ำงอิสระ
91. หลังกำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครองมำเป็นระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข
กำรเปลี่ยนแปลงที่แตกต่ำงจำกระบอบสมบูรณำญำสิทธิรำชย์ที่เห็นได้อย่ำงชัดเจนที่สุดคือข้อใด
1. อำนำจสูงสุดอยู่ในมือประชำชนอย่ำงแท้จริง
2. ประชำชนได้รับสิทธิเสรีภำพในด้ำนต่ำงๆ มำกขึ้นทันที
3. กำรมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมำยสูงสุดในกำรปกครองประเทศ
4. ผู้นำประเทศมีอำนำจเด็ดขำดในกำรตัดสินใจเรื่องกำรบริหำรประเทศ
92. หนังสือพระรำชนิพนธ์ในพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเรื่องใดที่ทรงได้รับแรงบันดำล
พระทัยจำกชำดกในพระพุทธศำสนำ
1. ติโต 2. พระมหำชนก
3. เรื่องทองแดง 4. นำยอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ
93. งำนศิลปะของยุโรปสมัยกลำงสะท้อนให้เห็นถึงอะไรมำกที่สุด
1. อิทธิพลครอบงำของคริสต์ศำสนำ
2. ควำมสนใจในธรรมชำติและสังคม
3. ควำมงดงำมของศิลปะสมัยคลำสสิก
4. พระรำชอำนำจของพระมหำกษัตริย์
94. มรดกทำงกำรเมืองที่ออสเตรเลียทิ้งไว้ให้แก่สังคมโลกคือข้อใด
1. ระบอบคอมมิวนิสต์ 2. ระบอบประชำธิปไตย
3. แนวคิดเรื่องสิทธิมนุษยชน 4. กำรลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ
95. ภำยหลังสงครำมโลกครั้งที่ 2 ประเทศต่ำงๆ มักใช้วิธีกำรใดในกำรเพิ่มอำนำจกำรต่อรองของตน
1. กำรตั้งกำแพงภำษีสูง 2. ใช้นโยบำยปิดประเทศ
3. รวมตัวเป็นกลุ่มประเทศ 4. คบแต่กับชำติมหำอำนำจ
96. เครื่องมือทำงภูมิศำสตร์ในข้อใดสำมำรถใช้เปรียบเทียบกำรเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่ำชำยเลนในประเทศ
ไทยระหว่ำง พ.ศ. 2530 กับ พ.ศ. 2555 ได้ดีที่สุด
1. แผนที่ภูมิประเทศ
2. ภำพจำกดำวเทียม
3. ภำพถ่ำยทำงอำกำศ
4. แผนที่ทรัพยำกรธรรมชำติ
97. วิธีกำรใดต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของกำรใช้ระบบสำรสนเทศภูมิศำสตร์ (GIS)
1. กำรขำยสินค้ำทำงสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2. กำรใช้คอมพิวเตอร์ทำกรำฟแสดงกำรส่งออกสินค้ำ
3. กำรรับฟังข่ำวกำรพยำกรณ์อำกำศประจำวันทำงวิทยุ
4. กำรใช้แผนที่สำรวจเส้นทำงคมนำคมภำยในกรุงเทพมหำนคร
98. วันที่ 25 มิถุนำยน เวลำ 18.00 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น ที่ประเทศพม่ำ
จะตรงกับวันและเวลำใด
1. วันที่ 25 มิถุนำยน เวลำ 14.00 น.
2. วันที่ 25 มิถุนำยน เวลำ 15.00 น.
3. วันที่ 24 มิถุนำยน เวลำ 10.00 น.
4. วันที่ 24 มิถุนำยน เวลำ 09.00 น.
99. กำรนำเสนอข้อมูลทำงภูมิศำสตร์รูปแบบใดมีควำมเหมำะสมมำกที่สุดสำหรับข้อมูลกำรจำแนกประเภท
ดินของแต่ละประเทศในยุโรป
1. แบบแผนภูมิ และแบบแผนที่
2. แบบบรรยำย และแบบตำรำง
3. แบบแผนที่ และแบบตำรำง
4. แบบตำรำง และแบบแผนภูมิ
100. อิทธิพลในข้อใดที่ส่งผลให้ภำคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดอุทกภัยบ่อยครั้ง
1. พำยุไซโคลน 2. พำยุดีเปรสชัน
3. ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ 4. ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
101. เพรำะเหตุใดภำคตะวันออกเฉียงเหนือจึงมีกำรเลี้ยงสัตว์ประเภทโคเนื้อและโคนมมำกกว่ำภำคอื่นๆ
1. มีทุ่งหญ้ำกว้ำงขวำง
2. มีกำรคมนำคมสะดวก
3. มีผู้สนับสนุนด้ำนเงินทุน
4. มีแรงงำนจำนวนมำกและค่ำแรงถูก
102. กำรเปลี่ยนแปลงทำงสังคมและวัฒนธรรมไทยในปัจจุบันเกิดจำกปัจจัยใดเป็นหลัก
1. ระดับกำรศึกษำของประชำกร
2. จำนวนประชำกรที่เพิ่มมำกขึ้น
3. ควำมเจริญทำงด้ำนเทคโนโลยี
4. กำรติดต่อค้ำขำยกับต่ำงประเทศ
103. เพรำะเหตุใดเขตเกำะและหมู่เกำะในทวีปเอเชีย จึงมักจะเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง
1. เปลือกโลกมีอำยุน้อย 2. อิทธิพลจำกกระแสน้ำ
3. ปริมำณน้ำใต้ดินมีน้อย 4. มีเกำะและหมู่เกำะจำนวนมำก
104. เพรำะเหตุใดภูมิภำคเอเชียกลำงจึงมีกำรเจริญเติบโตทำงด้ำนเศรษฐกิจช้ำกว่ำภูมิภำคอื่นๆ ในทวีปเอเชีย
1. ลักษณะที่ตั้งของภูมิภำค
2. จำนวนประชำกรภำยในภูมิภำค
3. กำรแยกตัวออกจำกสหภำพโซเวียต
4. กำรนับถือศำสนำของประชำชนในภูมิภำค
105. เพรำะเหตุใดวัฒนธรรมของประเทศภูมิภำคเอเชียตะวันออกจึงมีควำมคล้ำยคลึงกัน
1. นับถือศำสนำเหมือนกัน
2. เป็นกลุ่มชำติพันธุ์เดียวกัน
3. มีกำรติดต่อค้ำขำยกันมำนำน
4. ได้รับอำรยธรรมจำกแหล่งเดียวกัน
106. ปัจจัยข้อใดที่ทำให้ชำวยุโรปอพยพเข้ำมำอยู่อำศัยในทวีปออสเตรเลียจำนวนมำก
1. สภำพทำงสังคมดี
2. สภำพทำงเศรษฐกิจดี
3. มีภูมิอำกำศคล้ำยคลึงกับยุโรป
4. มีเสถียรภำพทำงกำรเมืองมั่นคง
107. กำรผลิตไวน์เหมำะกับลักษณะภูมิอำกำศแบบใดในประเทศออสเตรเลีย
1. ภูมิอำกำศแบบสะวันนำ
2. ภูมิอำกำศแบบอบอุ่นชื้น
3. ภูมิอำกำศแบบกึ่งทะเลทรำย
4. ภูมิอำกำศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
108. ข้อใดเป็นโครงกำรในพระรำชดำริของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวเพื่อแก้ปัญหำดินถล่ม
1. โครงกำรแก้มลิง
2. โครงกำรแกล้งดิน
3. โครงกำรฝำยทดน้ำ
4. โครงกำรปลูกหญ้ำแฝก
109. แนวทำงกำรป้องกันในระยะยำวข้อใดที่สำมำรถช่วยบรรเทำผลกระทบจำกกำรเกิดสึนำมิได้ดีที่สุด
1. กำรปลูกป่ำชำยเลน
2. กำรสร้ำงแนวกำแพงป้องกันคลื่น
3. กำรสร้ำงศูนย์อพยพและศูนย์เตือนภัย
4. กำรรื้อถอนสิ่งปลูกสร้ำงบริเวณชำยหำด
110. ปัจจัยข้อใดที่ทำให้ทวีปยุโรปมีควำมเหมำะสมในกำรตั้งถิ่นฐำนมำกที่สุด
1. มีตำแหน่งที่ตั้งเหมำะสม
2. มีลักษณะภูมิอำกำศเอื้อต่อกำรอยู่อำศัย
3. มีลักษณะพืชพรรณธรรมชำติที่หลำกหลำย
4. มีทรัพยำกรธรรมชำติต่ำงๆ อุดมสมบูรณ์มำก
111. เขตที่รำบลุ่มแม่น้ำและที่รำบชำยฝั่งทะเลของทวีปแอฟริกำมีกำรประกอบกิจกรรมทำงเศรษฐกิจที่
สำคัญคล้ำยคลึงกับเขตภูมิลักษณ์ใดในทวีปยุโรป
1. เขตที่รำบสูงตอนกลำง
2. เขตภูเขำหินใหม่ตอนใต้
3. เขตที่รำบใหญ่ตอนกลำง
4. เขตเทือกเขำหินเก่ำทำงตะวันตกเฉียงใต้
112. เพรำะอะไรประเทศต่ำงๆ ในทวีปยุโรปจึงมีอัตรำกำรเพิ่มของประชำกรต่ำ
1. มีควำมเจริญทำงด้ำนเศรษฐกิจมำก
2. ลักษณะพันธุกรรมของชำวผิวขำวที่มีบุตรน้อย
3. ขนำดพื้นที่ของทวีปมีจำกัดไม่เพียงพอต่อจำนวนประชำกรที่เพิ่มขึ้น
4. ทัศนคติของประชำกรที่ไม่นิยมกำรมีบุตรมำกและนโยบำยวำงแผนครอบครัว
113. สำเหตุข้อใดที่ส่งผลให้บริเวณชำยฝั่งตะวันตกทำงตอนใต้ของทวีปแอฟริกำเกิดลักษณะภูมิประเทศ
แบบทะเลทรำย
1. อิทธิพลของกระแสน้ำเย็น 2. กำรตัดไม้ทำลำยป่ำในอดีต
3. กำรเกิดแนวพัดสอบของลม 4. ปรำกฏกำรณ์น้ำเกิด-น้ำตำย
114. เพรำะอะไรกำรทำเหมืองแร่ของทวีปแอฟริกำจึงจำกัดอยู่ในบำงบริเวณเท่ำนั้น
1. ขำดแคลนแรงงำนมีฝีมือ
2. ขำดกำรสำรวจและบุกเบิก
3. ทรัพยำกรแร่นำมำใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่ำ
4. ทรัพยำกรแร่มีอยู่อย่ำงจำกัดในบำงบริเวณเท่ำนั้น
115. กำรแก้ปัญหำสิ่งแวดล้อมของทวีปแอฟริกำควรดำเนินกำรตำมข้อใดมำกที่สุด
1. ให้ควำมรู้แก่ประชำชน
2. ออกกฎหมำยที่มีโทษรุนแรง
3. จัดตั้งองค์กรสิ่งแวดล้อมเอกชน
4. ขอเงินทุนช่วยเหลือจำกต่ำงประเทศ
116. บริเวณที่เรียกว่ำ เกรตเพลนส์ (Great Plains) ในทวีปอเมริกำเหนือเหมำะสมที่จะประกอบอำชีพใด
1. กำรเลี้ยงสัตว์
2. กำรเกษตรกรรม
3. กำรพำณิชยกรรม
4. กำรอุตสำหกรรม
117. ประชำกรในทวีปอเมริกำเหนือกลุ่มแองโกลอเมริกำมีลักษณะทำงวัฒนธรรมแบบใด
1. ยุโรปใต้ 2. อังกฤษ
3. ฝรั่งเศส 4. โปรตุเกส
118. ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้องเกี่ยวกับลักษณะทำงประชำกรของทวีปอเมริกำใต้
1. เป็นเขตที่มีประชำกรเบำบำงของโลก
2. เป็นเขตที่มีประชำกรหนำแน่นของโลก
3. ประชำกรตั้งถิ่นฐำนมำกบริเวณเทือกเขำแอนดีส
4. ประชำกรอำศัยอยู่หนำแน่นบริเวณที่รำบลุ่มน้ำแอมะซอน
119. ประเทศเวเนซุเอลำสำมำรถพัฒนำเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตได้อย่ำงรวดเร็วเนื่องมำจำกอะไร
1. มีแรงงำนที่มีคุณภำพมำก
2. อยู่ติดกับประเทศขนำดใหญ่
3. มีรำยได้สูงจำกกำรส่งออกน้ำมัน
4. ไม่ได้รับผลกระทบจำกภัยธรรมชำติ
120. ข้อใดเป็นปัญหำสิ่งแวดล้อมที่เกิดในเมืองใหญ่ของประเทศบรำซิล อำร์เจนตินำ เปรู เวเนซุเอลำ และ
โคลอมเบีย
1. กำรทำไร่เลื่อนลอย
2. ไฟป่ำและควำมแห้งแล้งที่ยำวนำน
3. กำรปล่อยของเสียลงแหล่งน้ำธรรมชำติ
4. เกิดมลพิษมำกจำกยำนยนต์และโรงงำน
เฉลยข้อสอบ
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา สังคมศึกษา
ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ
1. 2 กำรอยู่ร่วมกันของศำสนิกชนศำสนำต่ำงๆ อย่ำงสงบสุขนั้น ควรเริ่มต้นจำกกำรมี
ควำมรู้ควำมเข้ำใจในควำมแตกต่ำงของแต่ละศำสนำ อันจะนำไปสู่กำรปฏิบัติต่อกัน
อย่ำงถูกต้องและเคำรพซึ่งกันและกัน
2. 2 คริสต์ศำสนำนิกำยโรมันคำทอลิกมีพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ 7 พิธี ได้แก่ พิธีศีลล้ำงบำป พิธี
ศีลกำลัง พิธีศีลมหำสนิท พิธีศีลแก้บำป พิธีศีลบวชหรือศีลอนุกรม และพิธีศีลสมรส
แต่คริสต์ศำสนำนิกำยโปรเตสแตนต์ จะมีพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์เพียง 2 พิธี ได้แก่ พิธีศีล
ล้ำงบำป (นิกำยโปรเตสแตนต์ เรียกว่ำ “พิธีบัปติสมำ” หรือ “พิธีบัพติศมำ”) และพิธี
ศีลมหำสนิท
3. 4 กำรประกอบพิธีฮัจญ์นั้น หำกมุสลิมคนใดยังไม่มีควำมพร้อมด้ำนกำรเงินและ
สุขภำพ ก็ยังไม่ต้องปฏิบัติก็ได้ โดยไม่ถือว่ำผิดหลักศำสนำแต่อย่ำงใด แต่คนที่มี
ควำมพร้อมแล้วจะต้องเดินทำงไปประกอบพิธีฮัจญ์ในเดือน 12 ตำมปฏิทินอิสลำม
ณ มัสญิดอัลกะอ์บะฮ์ นครมักกะฮ์ ประเทศซำอุดีอำระเบีย ซึ่งจุดมุ่งหมำยของกำร
ประกอบพิธีฮัจญ์ คือ มุ่งให้ชำวมุสลิมรำลึกและนอบน้อมต่ออัลลอฮ์ รวมถึงเป็นกำร
เจริญรอยตำมแบบอย่ำงศำสดำมุฮัมมัดที่เสด็จมำนมัสกำรสถำนที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
ก่อนสิ้นพระชนม์
4. 3 กำรนับศักรำชอิสลำมหรือฮิจเรำะฮ์ศักรำช (ฮ.ศ.) เริ่มต้นขึ้นเมื่อศำสดำมุฮัมมัดอพยพ
หนีภัยจำกนครมักกะฮ์ไปที่เมืองยัทริบ ซึ่งตรงกับปี ค.ศ.622 เมืองยัทริบนี้เป็นเมือง
แรกที่ศำสนำอิสลำมประดิษฐำนอย่ำงมั่นคง จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “มะดีนะฮ์”
แปลว่ำ นครของท่ำนศำสดำ
5. 1 ศีลกำลังเป็นพิธีกรรมที่มุขนำยกเขตมิซซังเจิมน้ำมันเป็นรูปกำงเขนบนหน้ำผำกของ
เด็กโตที่รู้รับผิดชอบแล้ว เพื่อแสดงว่ำพระจิตเสด็จเข้ำสู่จิตใจของผู้นั้นแล้ว หลังจำก
ทำพิธีนี้แล้วจึงจะถือว่ำผู้นั้นเป็นชนชำวคริสต์โดยสมบูรณ์
6. 3 วิธีถ่ำยทอดคำสอนของพระพุทธเจ้ำในสมัยพุทธกำล ใช้วิธีกำรท่องจำด้วยปำกเปล่ำ
ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ
เพื่อกำรท่องจำที่แม่นยำ ซึ่งเรียกว่ำ มุขปำฐะ
7. 3 สำมำรถตีควำมหมำยได้ 2 ลักษณะ กล่ำวคือ พระพุทธองค์จะได้ทรงประกำศ
พระพุทธศำสนำให้เผยแผ่ขยำยไปใน 7 แคว้น คือ แคว้นกำสีกับโกศล แคว้นมคธกับ
อังคะ แคว้นสักกะ แคว้นวัชชี แคว้นมัลละ และแคว้นกุรุ ทั้งนี้ยังอำจตีควำมได้ว่ำ
พระองค์จะทรงบรรลุโพชฌงค์ คือ ธรรมที่เป็นองค์แห่งกำรตรัสรู้ 7 ประกำร
8. 1 สมุทัย คือ ควำมจริงว่ำด้วยเหตุเกิดแห่งควำมทุกข์ ซึ่งเมื่อทรำบแล้วก็ควรละเสีย เช่น
ควำมอยำกได้อยำกมีเกินควำมพอดี ย่อมเป็นสำเหตุของควำมทุกข์ทั้งปวง หำกละจำก
ควำมอยำกที่เกินพอดีเหล่ำนี้เสีย ก็จะดำรงชีวิตอย่ำงมีควำมสุข
9. 1 มิตรมีน้ำใจจะคอยช่วยเหลือ เมื่อเพื่อนเป็นทุกข์ ตลอดจนคอยยับยั้งคนที่มำกล่ำว
ติเตียน และชี้แจงควำมจริงให้คนนั้นฟัง
10. 3 กำรตักบำตรเทโวโรหณะในวันออกพรรษำ เป็นกำรระลึกถึงกำรเสด็จกลับลงจำก
เทวโลกหลังจำกทรงโปรดพุทธมำรดำในสวรรค์ชั้นดำวดึงส์
11. 4 ปัญญำในทำงพระพุทธศำสนำ หมำยถึงกำรรู้เหตุรู้ผลตำมควำมเป็นจริง ไม่ตกอยู่
ภำยใต้อำนำจของกิเลส อันจะทำให้มองเห็นปัญหำที่แท้จริงและรู้จักวิธีแก้ปัญหำ
ที่ถูกต้องเหมำะสม
12. 2 บุโรพุทโธตั้งอยู่ที่เกำะชวำ ประเทศอินโดนีเซีย เป็นศำสนสถำนของพระพุทธ-
ศำสนำนิกำยมหำยำน สร้ำงขึ้นโดยกษัตริย์แห่งรำชวงศ์ไศเลนทร เป็นหลักฐำนที่
แสดงให้เห็นว่ำเกำะชวำและพื้นที่อีกหลำยส่วนของประเทศอินโดนีเซียนั้น
พระพุทธศำสนำเคยเจริญรุ่งเรืองอย่ำงมำกในอดีต ขณะที่ปัจจุบันอินโดนีเซียเป็น
ประเทศที่มีประชำกรนับถือศำสนำอิสลำมมำกที่สุดในโลก
13. 1 อุปติสสะได้พบพระอัสสชิขณะท่ำนกำลังออกโปรดสัตว์ จึงเข้ำไปนมัสกำรขอให้
ท่ำนแสดงธรรมให้ฟัง พระอัสสชิได้แสดงธรรมอันเป็นแก่นแห่งอริยสัจ 4 หลังจำก
อุปติสสะได้ฟังแล้วเกิดดวงตำเห็นธรรม บรรลุโสดำปัตติผล และบวชเป็นสำวกของ
พระพุทธเจ้ำ ซึ่งต่อมำท่ำนได้รับแต่งตั้งเป็นพระอัครสำวกเบื้องขวำ
14. 4 กำรปฏิบัติตำมหลักกุศลกรรมบถ 10 คือ กำรกระทำเพื่อให้เกิดควำมดีและควำม
ถูกต้อง ดังนั้น กำรประพฤติทำงกำยที่ดี มี 3 ประกำร เว้นจำกกำรฆ่ำสัตว์ ไม่ทรมำน
หรือเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลำย เว้นจำกกำรขโมย ไม่นำสิ่งของของผู้อื่นมำครอบครอง
และเว้นจำกกำรประพฤติผิดในกำม ไม่ล่วงเกินคู่ครองของผู้อื่น คำตอบในข้อ 4. ถือ
เป็นกำรเว้นจำกกำรขโมย
ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ
15. 3 อำมิสทำน คือ กำรให้ทำนด้วยวัตถุสิ่งของ ดังนั้น กำรที่ปักษีบริจำคสิ่งของช่วยเหลือ
ผู้ประสบอุทกภัย จึงจัดเป็นอำทิสทำน
ข้อ 1. จัดเป็นอภัยทำน คือ กำรสละควำมโกรธเป็นทำน กำรยกโทษด้วยกำรไม่
พยำบำทจองเวร
ข้อ 2. จัดเป็นธรรมทำนประเภทวิทยำทำน คือ กำรให้ควำมรู้ทำงโลก เช่น วิชำกำร
ต่ำงๆ เป็นต้น
ข้อ 4. จัดเป็นธัมมัสสวนมัย คือ กำรทำบุญด้วยกำรฟังธรรม
16. 4 ศึกษำคำสอนของพระพุทธเจ้ำเพื่อนำไปเป็นแบบอย่ำงแก่ผู้อื่น หรือเผยแผ่เป็นธรรม
ทำน โดยสอนให้ผู้อื่นปฏิบัติตำมคำสอนของพระพุทธเจ้ำ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วย
สืบทอดพระพุทธศำสนำให้คนทั่วไปตระหนักและเข้ำใจพระธรรมคำสอนมำกยิ่งขึ้น
17. 4 เพรำะวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันมำฆบูชำ ซึ่งเป็นวันที่พระอรหันต์ 1,250 รูป มำ
ประชุมพร้อมกัน ณ เวฬุวันมหำวิหำรโดยมิได้นัดหมำย และพระสงฆ์เหล่ำนั้นได้รับ
กำรอุปสมบทจำกพระพุทธเจ้ำโดยตรง รวมถึงพระพุทธเจ้ำได้ทรงแสดงโอวำทปำฏิ-
โมกข์ ดังนั้น กิจกรรมที่พุทธศำสนิกชนควรปฏิบัติ ได้แก่ ทำบุญตักบำตร ฟังธรรม
และเวียนเทียน ส่วนกำรถวำยผ้ำอำบน้ำฝนจะกระทำกันในวันเข้ำพรรษำ คือ วันแรม
1 ค่ำ เดือน 8
18. 1 เนื่องจำกวิธีกำรคิดแบบปลุกเร้ำคุณธรรม เป็นกำรใช้เหตุผลหรืออุบำยเพื่อให้เกิดกำร
กระทำที่เป็นกุศล สำหรับควำมตำยนั้น กำรคิดแบบปลุกเร้ำคุณธรรมมักจะเน้นให้คิด
อยู่เสมอว่ำมนุษย์มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่นำน ดังนั้น ควรจะทำควำมดีให้มำกๆ ดัง
คำกล่ำวที่ว่ำ “เกิดมำทั้งทีทำดีให้ได้ จะตำยทั้งทีทำควำมดีฝำกไว้” ซึ่งกำรที่สมหญิง
บริจำคร่ำงกำยเพื่อกำรศึกษำวิจัยถือเป็นกำรคิดแบบปลุกเร้ำคุณธรรม
19. 4 หลังกำรสังคำยนำพระไตรปิฎกครั้งที่ 3 พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระเกรงว่ำ อนำคต
ภำยภำคหน้ำ พระพุทธศำสนำอำจเสื่อมสูญไปจำกชมพูทวีปได้ จึงสมควรส่งพระ
สมณทูตออกไปเผยแผ่พระพุทธศำสนำยังดินแดนต่ำงๆ ซึ่งพระเจ้ำอโศกมหำรำช
ทรงเห็นชอบด้วย จึงทรงจัดแบ่งพระสมณทูตออกเป็น 9 สำย เดินทำงไปประกำศ
ศำสนำยังดินแดนต่ำงๆ และในที่สุดกำรคำดกำรณ์ของพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ
ก็เป็นจริง กำลต่อมำพระพุทธศำสนำได้ค่อยๆ เสื่อมสูญไปจำกอินเดียจนหมดสิ้น
แต่ไปเจริญรุ่งเรืองอยู่ในดินแดนอื่น เช่น ประเทศศรีลังกำ ไทย พม่ำ ลำว กัมพูชำ
เวียดนำม จีน เกำหลี ญี่ปุ่น เป็นต้น
20. 2 วันวิสำขบูชำ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เป็นวันที่พระพุทธเจ้ำประสูติ ตรัสรู้ และ
ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ
ปรินิพพำน ส่วนข้อ 1. วันมำฆบูชำ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3
ข้อ 3. วันอัฏฐมีบูชำ ตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6
ข้อ 4 . วันอำสำฬหบูชำ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8
21. 2 เพรำะถือเป็นกำรกระทำที่ผิดกฎหมำยจรำจร อีกทั้งยังอำจเกิดอุบัติเหตุสร้ำงควำม
เดือดร้อนแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไปด้วย
22. 3 เนื่องจำกกำรที่ชำวบ้ำนมีส่วนร่วมคิดตัดสินใจ เพื่อพัฒนำหมู่บ้ำนของตน เป็น
ลักษณะของสังคมประชำธิปไตยที่มีรำกฐำนมำจำกควำมร่วมมือชำวบ้ำนเอง
ซึ่งจะช่วยให้สังคมไทยเข้มแข็งและน่ำอยู่
23. 1 เนื่องจำกถือเป็นเสรีภำพในเคหสถำนตำมบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในมำตรำ 33
ว่ำ “บุคคลย่อมมีเสรีภำพในเคหสถำน บุคคลย่อมได้รับควำมคุ้มครองในกำรที่จะอยู่
อำศัยและครอบครองเคหสถำนโดยปกติสุข กำรเข้ำไปในเคหสถำนหรือในที่
รโหฐำน จะกระทำไม่ได้ เว้นแต่มีคำสั่งหรือหมำยของศำล หรือมีเหตุอย่ำงอื่นตำมที่
กฎหมำยบัญญัติ” ส่วนกำรกระทำในข้ออื่นๆ ที่ใช้กำลังหรือควำมรุนแรงถือว่ำผิด
แนวทำงของหลักสิทธิมนุษยชน
24. 1 เนื่องจำกกำรใช้อำนำจของทั้ง 3 ฝ่ำยจะต้องเป็นไปอย่ำงโปร่งใสและอำนำจจะต้อง
ไม่ตกอยู่กับฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ง ซึ่งกำรที่ 3 ฝ่ำยสำมำรถตรวจกำรทำงำนซึ่งกันและกันได้
ก็จะช่วยให้กำรทำงำนมีประสิทธิภำพ ส่งผลดีต่อกำรพัฒนำประเทศในด้ำนต่ำงๆ
25. 2 เนื่องจำกกำรปกครองส่วนท้องถิ่นมีเป้ำหมำยสำคัญเพื่อกระจำยอำนำจจำกส่วนกลำง
ไปสู่ชนบท เป็นกำรเปิดโอกำสให้คนในพื้นที่ชนบท สำมำรถบริหำรจัดกำร รวมถึง
หำแนวทำงกำรแก้ไขปัญหำในพื้นที่ของตนได้อย่ำงเหมำะสมกับวิถีชีวิต และควำม
ต้องกำรอย่ำงแท้จริง
26. 2 เพรำะแผ่นซีดีเพลง ถือเป็นงำนอันมีลิขสิทธิ์ ซึ่งกำรแก้ไข ดัดแปลง ทำซ้ำ ย่อมมี
ควำมผิดตำม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
27. 3 เพรำะตำม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ได้บัญญัติสิทธิ
ของผู้บริโภคไว้ ซึ่งสิทธิด้ำนหนึ่งคือ สิทธิที่จะได้รับกำรแสดงฉลำกสินค้ำ รวมถึง
สิทธิที่จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้ำอย่ำงถูกต้อง
28. 1 เนื่องจำกในศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู มีควำมเชื่อว่ำ หอยสังข์ เป็นวัตถุมงคล ดังนั้น น้ำ
ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ
ที่อยู่ในหอยสังข์ จึงมีควำมศักดิ์สิทธิ์ สำมำรถช่วยปัดเป่ำควำมชั่วร้ำยทั้งหลำย ซึ่งใน
พิธีแต่งงำนของคนไทยมีกำรรดน้ำสังข์ ซึ่งเชื่อว่ำจะเป็นสิริมงคลแก่คู่บ่ำว-สำว
29. 1 ศำสนำต่ำงๆ ล้วนสอนให้คนเป็นคนดี มีเมตตำต่อกัน กำรนำหลักคำสอนทำงศำสนำ
มำเป็นแนวทำงในกำรปฏิบัติตน เช่น กำรให้ควำมช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้ำนที่
ได้รับควำมเดือดร้อนจำกภัยพิบัติต่ำงๆ กำรไม่เข้ำไปแทรกแซงกิจกำรภำยในของ
ประเทศเพื่อนบ้ำน จะส่งผลให้ประเทศในอำเซียนเกิดควำมเข้ำใจอันดีระหว่ำงกัน
ได้ดียิ่งขึ้น
30. 2 เพรำะในสังคมประชำธิปไตย ประชำชนทุกคนมีสิทธิเสรีภำพเท่ำเทียมกัน ทุกคนมี
สิทธิที่แสดงออกซึ่งควำมเป็นประชำธิปไตยโดยอยู่ภำยใต้กฎหมำย เมื่อสังคมมีควำม
คิดเห็นที่แตกต่ำงกัน จะต้องใช้หลักเหตุและผลในกำรตัดสินปัญหำและข้อขัดแย้ง
เพื่อกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสงบสุข
31. 3 หลักกำรสำคัญข้อหนึ่งตำมวิถีประชำธิปไตย คือ กำรเคำรพในควำมคิดเห็นที่
แตกต่ำงของผู้อื่น ซึ่งกำรรับฟังควำมคิดเห็นของผู้อื่นและแสดงควำมคิดเห็นของ
ตนเองอย่ำงมีเหตุผล จะช่วยลดควำมขัดแย้งและสร้ำงควำมเข้ำใจอันดีต่อกัน
32. 1 หลังจำกที่วุฒิสภำให้ควำมเห็นชอบในร่ำงพระรำชบัญญัติแล้ว นำยกรัฐมนตรีจะต้อง
เป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้ำถวำยฯ พระมหำกษัตริย์ เพื่อทรงลงพระปรมำภิไธย และประกำศ
ใช้ในรำชกิจจำนุเบกษำ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
33. 4 เพรำะหลักกำรปกครองแบบรวมอำนำจจะจัดระเบียบกำรปกครองโดยรวมอำนำจไว้
ที่ส่วนกลำง เพื่อกำหนดนโยบำยและควบคุมกำรปฏิบัติงำนรำชกำรทั่วประเทศ
ซึ่งประเทศไทยได้จัดระเบียบกำรบริหำรรำชกำรส่วนกลำงไว้ ได้แก่ สำนักนำยก
รัฐมนตรี กระทรวง และกรม
34. 1 กำรพิจำรณำพื้นที่ให้มีกำรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษจะพิจำรณำจำกลักษณะ
ต่ำงๆ ได้แก่ เขตที่เป็นเมืองหลวง เขตพื้นที่ชำยแดน เขตแหล่งท่องเที่ยว และเขต
พื้นที่เป็นเกำะและชนบท ซึ่งในกรณีของเมืองพัทยำนั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
ซึ่งมีกำรจัดเก็บรำยได้เข้ำจำนวนมหำศำล และมีนักท่องเที่ยวจำกทั่วทุกมุมโลก
เดินทำงเข้ำมำ จึงเหมำะสมที่จะมีกำรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)

More Related Content

What's hot

แบบทดสอบวัดผลสำเร็จทางการเรียน O net ม.6 ปี 2556
แบบทดสอบวัดผลสำเร็จทางการเรียน O net ม.6  ปี  2556แบบทดสอบวัดผลสำเร็จทางการเรียน O net ม.6  ปี  2556
แบบทดสอบวัดผลสำเร็จทางการเรียน O net ม.6 ปี 2556pitak srikhot
 
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอกโครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอกRatarporn Ritmaha
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะSuriyawaranya Asatthasonthi
 
การแก้สมการ
การแก้สมการการแก้สมการ
การแก้สมการAon Narinchoti
 
ปริซึม
ปริซึมปริซึม
ปริซึมkrookay2012
 
ทัศนธาตุ นวัตกรรมเล่ม 2 ส่งเผยแพร่
ทัศนธาตุ นวัตกรรมเล่ม 2 ส่งเผยแพร่ทัศนธาตุ นวัตกรรมเล่ม 2 ส่งเผยแพร่
ทัศนธาตุ นวัตกรรมเล่ม 2 ส่งเผยแพร่Nichakorn Sengsui
 
ใบความรู้ 5.2การเขียนบทคัดย่อโครงงาน
ใบความรู้ 5.2การเขียนบทคัดย่อโครงงานใบความรู้ 5.2การเขียนบทคัดย่อโครงงาน
ใบความรู้ 5.2การเขียนบทคัดย่อโครงงานsa_jaimun
 
แนวทางการจัดค่ายยุวชนคนคุณธรรม
แนวทางการจัดค่ายยุวชนคนคุณธรรมแนวทางการจัดค่ายยุวชนคนคุณธรรม
แนวทางการจัดค่ายยุวชนคนคุณธรรมnorrasweb
 
G biology bio9
G biology bio9G biology bio9
G biology bio9Bios Logos
 
สรุปแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผล ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...
สรุปแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผล ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...สรุปแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผล ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...
สรุปแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผล ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...TupPee Zhouyongfang
 
ชุดการเรียนรู้ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เรื่อง ซากดึกดำบรรพ์ โดยครูกอบวิทย์ พิร...
ชุดการเรียนรู้ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เรื่อง ซากดึกดำบรรพ์ โดยครูกอบวิทย์  พิร...ชุดการเรียนรู้ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เรื่อง ซากดึกดำบรรพ์ โดยครูกอบวิทย์  พิร...
ชุดการเรียนรู้ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เรื่อง ซากดึกดำบรรพ์ โดยครูกอบวิทย์ พิร...Kobwit Piriyawat
 
Best practice โรงเรียนสุจริต
Best practice โรงเรียนสุจริตBest practice โรงเรียนสุจริต
Best practice โรงเรียนสุจริตAon Narinchoti
 
แบบทดสอบ เรื่อง การวัด
แบบทดสอบ  เรื่อง การวัดแบบทดสอบ  เรื่อง การวัด
แบบทดสอบ เรื่อง การวัดPiriya Sisod
 
ค่าสัมบูรณ์ของจำนวนจริง
ค่าสัมบูรณ์ของจำนวนจริงค่าสัมบูรณ์ของจำนวนจริง
ค่าสัมบูรณ์ของจำนวนจริงAon Narinchoti
 
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไรไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไรnative
 
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความsripayom
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สุขศึกษาฯ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สุขศึกษาฯข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สุขศึกษาฯ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สุขศึกษาฯSuriyawaranya Asatthasonthi
 

What's hot (20)

แบบทดสอบก่อนเรียน ม.3 งานธุรกิจ
แบบทดสอบก่อนเรียน ม.3 งานธุรกิจแบบทดสอบก่อนเรียน ม.3 งานธุรกิจ
แบบทดสอบก่อนเรียน ม.3 งานธุรกิจ
 
แบบทดสอบวัดผลสำเร็จทางการเรียน O net ม.6 ปี 2556
แบบทดสอบวัดผลสำเร็จทางการเรียน O net ม.6  ปี  2556แบบทดสอบวัดผลสำเร็จทางการเรียน O net ม.6  ปี  2556
แบบทดสอบวัดผลสำเร็จทางการเรียน O net ม.6 ปี 2556
 
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอกโครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
 
การแก้สมการ
การแก้สมการการแก้สมการ
การแก้สมการ
 
ปริซึม
ปริซึมปริซึม
ปริซึม
 
ทัศนธาตุ นวัตกรรมเล่ม 2 ส่งเผยแพร่
ทัศนธาตุ นวัตกรรมเล่ม 2 ส่งเผยแพร่ทัศนธาตุ นวัตกรรมเล่ม 2 ส่งเผยแพร่
ทัศนธาตุ นวัตกรรมเล่ม 2 ส่งเผยแพร่
 
ใบความรู้ 5.2การเขียนบทคัดย่อโครงงาน
ใบความรู้ 5.2การเขียนบทคัดย่อโครงงานใบความรู้ 5.2การเขียนบทคัดย่อโครงงาน
ใบความรู้ 5.2การเขียนบทคัดย่อโครงงาน
 
แนวทางการจัดค่ายยุวชนคนคุณธรรม
แนวทางการจัดค่ายยุวชนคนคุณธรรมแนวทางการจัดค่ายยุวชนคนคุณธรรม
แนวทางการจัดค่ายยุวชนคนคุณธรรม
 
Bio3 62 photosyn_2
Bio3 62 photosyn_2Bio3 62 photosyn_2
Bio3 62 photosyn_2
 
G biology bio9
G biology bio9G biology bio9
G biology bio9
 
สรุปแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผล ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...
สรุปแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผล ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...สรุปแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผล ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...
สรุปแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผล ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...
 
ชุดการเรียนรู้ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เรื่อง ซากดึกดำบรรพ์ โดยครูกอบวิทย์ พิร...
ชุดการเรียนรู้ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เรื่อง ซากดึกดำบรรพ์ โดยครูกอบวิทย์  พิร...ชุดการเรียนรู้ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เรื่อง ซากดึกดำบรรพ์ โดยครูกอบวิทย์  พิร...
ชุดการเรียนรู้ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์เรื่อง ซากดึกดำบรรพ์ โดยครูกอบวิทย์ พิร...
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
Best practice โรงเรียนสุจริต
Best practice โรงเรียนสุจริตBest practice โรงเรียนสุจริต
Best practice โรงเรียนสุจริต
 
แบบทดสอบ เรื่อง การวัด
แบบทดสอบ  เรื่อง การวัดแบบทดสอบ  เรื่อง การวัด
แบบทดสอบ เรื่อง การวัด
 
ค่าสัมบูรณ์ของจำนวนจริง
ค่าสัมบูรณ์ของจำนวนจริงค่าสัมบูรณ์ของจำนวนจริง
ค่าสัมบูรณ์ของจำนวนจริง
 
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไรไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
 
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สุขศึกษาฯ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สุขศึกษาฯข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สุขศึกษาฯ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สุขศึกษาฯ
 

Similar to 4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)

วิชาสังคมศึกษา Onat
วิชาสังคมศึกษา Onatวิชาสังคมศึกษา Onat
วิชาสังคมศึกษา Onatvipawee613_14
 
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)rutchadaphun123
 
วิชาสังคมศึกษา Onat
วิชาสังคมศึกษา Onatวิชาสังคมศึกษา Onat
วิชาสังคมศึกษา Onatvipawee613_14
 
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษาข้อสอบ O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษาAon NP
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0just2miwz
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0Supisara Jaibaan
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษาSiwadolChaimano
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษาSiwadolChaimano
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0sincerecin
 
006 social โควต้า 53
006 social โควต้า 53006 social โควต้า 53
006 social โควต้า 53Seohyunjjang
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0neenpd11
 
แผนจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 1
แผนจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 1แผนจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 1
แผนจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 1tassanee chaicharoen
 
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_03. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0Kaka619
 
ช้อสอบสังคมศึกษา
ช้อสอบสังคมศึกษาช้อสอบสังคมศึกษา
ช้อสอบสังคมศึกษาPhichak Penpattanakul
 
สังคม
สังคมสังคม
สังคมyyyim
 

Similar to 4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3) (20)

วิชาสังคมศึกษา Onat
วิชาสังคมศึกษา Onatวิชาสังคมศึกษา Onat
วิชาสังคมศึกษา Onat
 
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
 
วิชาสังคมศึกษา Onat
วิชาสังคมศึกษา Onatวิชาสังคมศึกษา Onat
วิชาสังคมศึกษา Onat
 
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น) (1)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น) (1)3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น) (1)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น) (1)
 
Social onet
Social onetSocial onet
Social onet
 
Social onet
Social onetSocial onet
Social onet
 
โครงสร้างสังคม
โครงสร้างสังคมโครงสร้างสังคม
โครงสร้างสังคม
 
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษาข้อสอบ O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษา
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
 
006 social โควต้า 53
006 social โควต้า 53006 social โควต้า 53
006 social โควต้า 53
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๘
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๘แผนการจัดการเรียนรู้ที่๘
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๘
 
แผนจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 1
แผนจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 1แผนจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 1
แผนจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 1
 
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_03. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0
 
ช้อสอบสังคมศึกษา
ช้อสอบสังคมศึกษาช้อสอบสังคมศึกษา
ช้อสอบสังคมศึกษา
 
สังคม
สังคมสังคม
สังคม
 

More from teerachon

แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6teerachon
 
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
แบบทดสอบ  ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6แบบทดสอบ  ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6teerachon
 
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2teerachon
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1teerachon
 
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3teerachon
 
แบบทดสอบ เทคโน ม.3
แบบทดสอบ เทคโน ม.3แบบทดสอบ เทคโน ม.3
แบบทดสอบ เทคโน ม.3teerachon
 

More from teerachon (20)

แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
 
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
 
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
 
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
 
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
 
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
แบบทดสอบ  ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6แบบทดสอบ  ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6แบบทดสอบ  ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
 
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
 
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
 
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
 
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
 
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
 
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
 
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
 
แบบทดสอบ เทคโน ม.3
แบบทดสอบ เทคโน ม.3แบบทดสอบ เทคโน ม.3
แบบทดสอบ เทคโน ม.3
 

4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)

  • 1. ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา สังคมศึกษา คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. กำรอยู่ร่วมกันของศำสนิกชนหลำยศำสนำอย่ำงสงบสุขควรเริ่มต้นอย่ำงไร 1. เข้ำร่วมศำสนพิธีของทุกศำสนำ 2. เข้ำใจควำมแตกต่ำงของแต่ละศำสนำ 3. เปรียบเทียบหลักธรรมของแต่ละศำสนำ 4. พัฒนำแนวทำงกำรรวมแต่ละศำสนำเข้ำด้วยกัน 2. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ หลักควำมเชื่อหรือหลักปฏิบัติของคริสต์ศำสนำนิกำยโรมันคำทอลิก 1. สัญลักษณ์เป็นไม้กำงเขนที่มีพระเยซูคริสต์ถูกตรึง 2. องค์ประมุขของคริสต์ศำสนิกชนคำทอลิกทั่วโลก คือ พระสันตะปำปำ 3. ประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ 2 พิธี คือ พิธีศีลล้ำงบำปและพิธีศีลมหำสนิท 4. ยกย่องพระนำงมำรีอำและยกย่องผู้ทำควำมดีให้แก่ศำสนำเป็น “นักบุญ” 3. หลักปฏิบัติ 5 ประกำร ของศำสนำอิสลำมข้อใด ที่มุสลิมอำจเลือกกระทำในลำดับสุดท้ำย โดยรอให้มี ควำมพร้อมทั้งด้ำนสุขภำพและทุนทรัพย์ก่อน 1. กำรละหมำด 2. กำรถือศีลอด 3. กำรบริจำคซะกำต 4. กำรประกอบพิธีฮัจญ์ 4. เหตุกำรณ์ใดเป็นจุดเริ่มต้นนับศักรำชอิสลำม หรือที่เรียกว่ำ “ฮิจเรำะฮ์ศักรำช” 1. ศำสดำมุฮัมมัดประสูติ 2. ศำสดำมุฮัมมัดสิ้นพระชนม์ 3. ศำสดำมุฮัมมัดอพยพไปเมืองมะดีนะฮ์ 4. ศำสดำมุฮัมมัดได้รับโองกำรจำกอัลออฮ์ 5. พิธีรับศีลในข้อใดของคริสต์ศำสนำที่เป็นกำรยืนยันถึงกำรนับถือคริสต์ศำสนำ 1. ศีลกำลัง 2. ศีลล้ำงบำป 3. ศีลอภัยบำป 4. ศีลมหำสนิท 6. วิธีถ่ำยทอดคำสอนของพระพุทธเจ้ำในสมัยพุทธกำล มีกำรปฏิบัติกันอย่ำงไร 1. จำรึกลงในใบลำน 2. จำรึกลงในศิลำจำรึก 3. ท่องจำด้วยปำกเปล่ำ 4. ท่องจำและบันทึกลงในใบลำน
  • 2. 7. เจ้ำชำยสิทธัตถะเสด็จพระดำเนิน 7 ก้ำว สำมำรถตีควำมหมำยได้ว่ำอย่ำงไร 1. พระพุทธองค์จะทำสงควำม ชนะศึกทั้งหมด 7 แคว้น 2. พระมำรดำของพระองค์จะทรงเสด็จสวรรคตในอีก 7 วัน 3. พระพุทธองค์ได้ทรงประกำศพระพุทธศำสนำไปใน 7 แคว้น 4. พระพุทธองค์จะทรงมีพระธิดำและพระโอรสทั้งหมด 7 พระองค์ 8. พระพุทธเจ้ำทรงสอนให้มนุษย์เรียนรู้เกี่ยวกับสมุทัยอย่ำงไร 1. ให้ละทิ้ง 2. ให้นำมำปฏิบัติ 3. ให้เข้ำใจอย่ำงถ่องแท้ 4. ให้นำมำใช้ในกำรแก้ปัญหำ 9. ทุกครั้งที่ลักขณำได้ยินเพื่อนต่ำงห้องนิทำว่ำร้ำยเพื่อนสนิทของตน เธอจะเข้ำไปพูดแก้ต่ำง ชี้แจงควำมจริง ให้แก่เพื่อนของเธอ จำกพฤติกรรมของลักขณำ จัดว่ำเป็นลักษณะของมิตรประเภทใด 1. มิตรมีน้ำใจ 2. มิตรอุปกำระ 3. มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข 4. มิตรแนะนำประโยชน์ 10. กำรตักบำตรเทโวโรหณะสอดคล้องกับเหตุกำรณ์ตอนใดในพุทธประวัติ 1. มำรผจญ 2. ปรินิพพำน 3. ลงจำกเทวโลก 4. รับข้ำวมธุปำยำส 11. พระพุทธเจ้ำทรงสอนให้เห็นถึงควำมสำคัญของปัญญำ เพรำะเหตุผลในข้อใด 1. ทำให้มีอำชีพที่มั่นคง 2. ทำให้มีทรัพย์สินมำก 3. ทำให้เข้ำใจพฤติกรรมของผู้อื่น 4. ทำให้รู้วิธีแก้ปัญหำที่เกิดจำกทุกข์ด้วยเหตุและผล 12. บุโรพุทโธที่ตั้งอยู่บนเกำะชวำ สะท้อนข้อมูลตำมข้อใด 1. พระพุทธเจ้ำทรงเคยเสด็จมำประทับที่เกำะชวำ 2. ในอดีตพระพุทธศำสนำบนเกำะชวำเคยเจริญรุ่งเรืองอย่ำงมำก 3. พุทธศำสนิกชนนิยมเดินทำงมำสร้ำงพุทธสถำนที่ใหญ่โตบนเกำะชวำ 4. พระสมณทูตจำกชมพูทวีปมำเผยแผ่พระพุทธศำสนำเป็นแห่งแรกในสุวรรณภูมิ 13. บุคคลที่มีส่วนสำคัญทำให้อุปติสสะได้เป็นสำวกของพระพุทธเจ้ำคือใคร 1. พระอัสสชิ 2. โกณฑัญญะ 3. พระมหำกัสสปะ 4. พระโมคคัลลำนะ
  • 3. 14. ข้อใดเป็นกำรปฏิบัติตนที่สอดคล้องกับกำรประพฤติทำงกำยที่ดีตำมหลักกุศลกรรมบถ 10 1. ประภำปล่อยให้ยุงกัดเพรำะกำรฆ่ำสัตว์นั้นเป็นบำป 2. สมภพลงโทษสุนัขโดยไม่ให้อำหำรและน้ำเป็นเวลำ 3 วัน 3. กมลซื้อโทรศัพท์มือสองต่อจำกเพื่อนที่ขโมยมำเพรำะรำคำถูก 4. สินสมุทรเก็บเงินได้จำกสนำมเด็กเล่นจึงนำไปคืนครูประจำชั้น 15. บุคคลใดต่อไปนี้ทำบุญแบบอำมิสทำน 1. วิหคให้อภัยเพื่อนที่ทำหนังสือของตนหำย 2. สกุณำติวหนังสือให้เพื่อนก่อนสอบ 3. ปักษีบริจำคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 4. ปักษำหมั่นไปถำมพระอำจำรย์เกี่ยวกับพระธรรมะที่ตนสงสัย 16. ในฐำนะที่นักเรียนเป็นคนไทย สำมำรถมีส่วนช่วยสืบทอดพระพุทธศำสนำได้อย่ำงไร 1. บวชเณรหรือบวชชีพรำหมณ์ 2. เป็นอำสำสมัครออกเผยแผ่พระพุทธศำสนำ 3. พิมพ์เผยแผ่ตำรำทำงพระพุทธศำสนำให้หลำกหลำยภำษำ 4. ศึกษำคำสอนทำงพระพุทธศำสนำให้ถ่องแท้และนำไปปฏิบัติเพื่อเป็นแบบอย่ำงแก่ผู้อื่น 17. บุคคลใดต่อไปนี้ปฏิบัติตนไม่ถูกต้องในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 1. เง็กตื่นมำตักบำตรแต่เช้ำตรู่ 2. เม้งชวนเพื่อนๆ ไปเวียนเทียนที่วัดตอนค่ำ 3. เกียวไปฟังพระเทศน์เรื่องโอวำทปำฏิโมกข์ 4. กิมไปถวำยผ้ำอำบน้ำฝนแด่พระสงฆ์ที่วัด 18. กำรกระทำในข้อใดเป็นวิธีกำรคิดแบบปลุกเร้ำคุณธรรม 1. สมหญิงอุทิศร่ำงกำยให้แก่สภำกำชำดเพื่อกำรศึกษำวิจัยก่อนเสียชีวิต 2. สมชำยขยันทำงำนเพื่อสร้ำงทรัพย์สมบัติให้ได้มำกที่สุด 3. สมโชคเดินทำงท่องเที่ยวรอบโลกเพื่อสร้ำงควำมสุขให้กับตนเอง 4. สมทรงไม่กระทำกำรอันใดที่เป็นกำรสร้ำงภำระให้กับตนเองและผู้อื่น 19. กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำหลังพุทธปรินิพพำนที่เป็นรูปธรรมมำกที่สุดคือข้อใด 1. กำรทำสังคำยนำครั้งที่ 1 2. กำรร้อยกรองพระธรรมวินัย 3. กำรแบ่งพระบรมสำรีริกธำตุ 4. กำรส่งสมณทูตของพระเจ้ำอโศกมหำรำช
  • 4. 20. ข้อใดแสดงควำมสัมพันธ์กันได้ถูกต้อง 1. วันมำฆบูชำ – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 2. วันวิสำขบูชำ – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 3. วันอัฏฐมีบูชำ – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 4. วันอำสำฬหบูชำ – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 21. พฤติกรรมใดต่อไปนี้ ถือว่ำเป็นผู้ที่ ไม่ ประพฤติตนเคำรพกฎกติกำของสังคม 1. ข้ำมถนนบนทำงม้ำลำย 2. ขี่รถจักรยำนยนต์แข่งกันบนทำงด่วน 3. เข้ำร่วมชุมนุมทำงกำรเมืองอย่ำงสงบ 4. หยุดรถในขณะที่เห็นสัญญำณไฟเหลือง 22. ข้อใดต่อไปนี้แสดงถึงลักษณะของสังคมไทยที่ควรจะเป็น 1. คนในชุมชนเน้นกำรสร้ำงรำยได้เป็นหลัก 2. สมำชิกในครอบครัวยึดถือเอำควำมคิดตนเองเป็นใหญ่ 3. สมำชิกในหมู่บ้ำนร่วมหำรือกันเพื่อพัฒนำชุมชน 4. เด็กรุ่นใหม่ให้ควำมสนใจเทคโนโลยีมำกกว่ำจริยธรรม 23. ข้อใดถือเป็นสิทธิเสรีภำพตำมบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย 1. ห้ำมไม่ให้คนแปลกหน้ำเข้ำมำยังที่พักอำศัย 2. ลงโทษลูกจ้ำงของตนโดยกำรทุบตีจนบำดเจ็บ 3. ต่อว่ำผู้ที่นับถือศำสนำต่ำงจำกตนอย่ำงรุนแรง 4. ทำลำยสำธำรณสมบัติเพื่อต่อต้ำนนโยบำยของรัฐ 24. เป้ำหมำยหลักของกำรถ่วงดุลอำนำจของทั้ง 3 ฝ่ำยคืออะไร 1. มีกำรควบคุมและกำรตรวจสอบกำรใช้อำนำจอย่ำงมีประสิทธิภำพ 2. มีส่วนช่วยให้กำรปฏิบัติตำมนโยบำยกำรบริหำรประเทศมีประสิทธิภำพมำกขึ้น 3. อำนำจหน้ำที่ในกำรบริหำรประเทศของแต่ละฝ่ำยมีควำมชัดเจนมำกขึ้น 4. สอดคล้องกับกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยตำมแบบอย่ำงสำกลนิยม 25. กำรให้ประชำชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในกำรกำหนดนโยบำยกำรปกครองท้องถิ่นของตน สอดคล้องกับ หลักกำรของระบอบประชำธิปไตยข้อใด 1. ประชำชนมีควำมเสมอภำคกัน 2. อำนำจอธิปไตยเป็นของปวงชน 3. กำรถ่วงดุลอำนำจระหว่ำงรัฐกับประชำชน 4. อำนำจกำรปกครองต้องอยู่ที่ส่วนกลำงเพียงแห่งเดียว
  • 5. 26. กำรกระทำในข้อใดถือเป็นกำรละเมิดสิทธิ 1. แอบลอกข้อสอบภำยในชั้นเรียน 2. นำแผ่นซีดีเพลงมำก๊อปปี้แจกเพื่อน 3. ยืมหนังสือห้องสมุดมำอ่ำนแล้วไม่คืน 4. ถ่ำยรูปทิวทัศน์ธรรมชำติเพื่อทำโปสกำร์ดขำย 27. กำรกระทำในข้อใดต่อไปนี้ เป็นควำมผิดตำมกฎหมำยคุ้มครองผู้บริโภค 1. เด็กวัยรุ่นใช้ธนบัตรปลอมเข้ำไปซื้อสินค้ำในร้ำนสะดวกซื้อ 2. ภัตตำคำรแห่งหนึ่งขำยอำหำรในรำคำสูงเพรำะใช้วัตถุดิบที่มีคุณภำพ 3. พบผลไม้กระป๋องยี่ห้อหนึ่งไม่ได้ระบุวันที่ผลิตและวันหมดอำยุไว้บนกระป๋อง 4. ร้ำนตัดเสื้อแห่งหนึ่งมีกำรติดป้ำยรำคำค่ำตัดเสื้อผ้ำในรำคำที่สูงมำก 28. ในงำนแต่งงำนของคนไทย มีพิธีกรรมใดที่มำจำกกำรผสมผสำนกับศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู 1. กำรรดน้ำสังข์ 2. กำรแห่ขันหมำก 3. กำรโยนช่อดอกไม้ 4. กำรกั้นประตูเงินประตูทอง 29. ศำสนำเป็นปัจจัยทำงวัฒนธรรมที่จะสำมำรถสร้ำงควำมสัมพันธ์อันดีระหว่ำงประเทศสมำชิกอำเซียนได้ เพรำะเหตุใด 1. ศำสนำต่ำงๆ ล้วนสอนให้คนเป็นคนดี มีเมตตำต่อกัน 2. ประชำกรส่วนใหญ่ในประเทศต่ำงๆ ล้วนนับถือศำสนำเดียวกัน 3. ส่งเสริมให้เกิดควำมรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชำกรในภูมิภำค 4. พิธีกรรมทำงศำสนำที่คนส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องกำรกระทำร่วมกัน 30. ลักษณะในข้อใดที่แสดงถึงกำรเป็นสังคมประชำธิปไตย 1. มีผู้นำทำงกำรเมืองที่มำจำกกำรแต่งตั้ง 2. ประชำชนยอมรับควำมแตกต่ำงทำงควำมคิด 3. เมื่อเกิดควำมขัดแย้งมักใช้ควำมรุนแรงในกำรแก้ปัญหำ 4. รัฐบำลมีอำนำจในกำรแทรกแซงกำรเผยแพร่ข่ำวสำรของสื่อมวลชน 31. หำกนักเรียนสนทนำกับเพื่อนแล้วมีควำมคิดเห็นไม่ตรงกัน นักเรียนควรทำอย่ำงไรจึงถือได้ว่ำเป็นกำร ปฏิบัติตำมวิถีประชำธิปไตย 1. ต่อว่ำเพื่อนอย่ำงรุนแรง 2. ไม่สนทนำกับเพื่อนคนนั้นอีก 3. รับฟังควำมคิดเห็นของเพื่อน 4. เลิกคบหำสมำคมกับเพื่อนคนนี้
  • 6. 32. กำรพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติในวุฒิสภำ ถ้ำสภำลงมติเห็นชอบ บุคคลใดจะต้องนำทูลเกล้ำถวำยฯ พระมหำกษัตริย์ เพื่อทรงลงพระปรมำภิไธย 1. นำยกรัฐมนตรี 2. ประธำนรัฐสภำ 3. ประธำนศำลรัฐธรรมนูญ 4. เลขำธิกำรสำนักพระรำชวัง 33. องค์กำรหรือหน่วยงำนรำชกำรในข้อใดมีลักษณะของกำรปกครองแบบรวมอำนำจไว้ที่ส่วนกลำง 1. เมืองพัทยำ 2. จังหวัด อำเภอ 3. กรุงเทพมหำนคร 4. สำนักนำยกรัฐมนตรี 34. ปัจจัยใดที่ทำให้เมืองพัทยำมีกำรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ 1. เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีรำยได้สูง 2. อยู่ในเขตพื้นที่ตะเข็บชำยแดนของไทย 3. มีจำนวนประชำกรต่อตำรำงกิโลเมตรต่ำ 4. ตั้งอยู่ในภำคตะวันออกและติดทะเลอ่ำวไทย 35. ครอบครัวของหน่อย ประกอบด้วยสมำชิกจำนวน 5 คน คือ พ่อ แม่ พี่ชำย หน่อย และน้องสำว ดังนั้น ครอบครัวของหน่อยเป็นครอบครัวลักษณะใด 1. ครอบครัวเดี่ยว 2. ครอบครัวขยำย 3. ครอบครัวเชิงซ้อน 4. ครอบครัวกลุ่มย่อย 36. ข้อใดต่อไปนี้ เป็นลักษณะควำมสัมพันธ์ของสถำบันทำงสังคมทำงตรง 1. โรงเรียนจัดให้นักเรียนไปเข้ำค่ำยคุณธรรมที่วัดแห่งหนึ่ง 2. โพลสำรวจพบว่ำคนส่วนใหญ่นิยมรับชมข่ำวบันเทิงมำกที่สุด 3. ประชำกรส่วนใหญ่ของประเทศอินเดียนับถือศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู 4. ครอบครัวในเมืองมีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยวมำกกว่ำครอบครัวขยำย 37. ข้อใดต่อไปนี้แสดงถึงวัฒนธรรมที่มำจำกสภำพแวดล้อมทำงภูมิศำสตร์ 1. กำรยืนตรงเคำรพธงชำติ 2. กำรสร้ำงพระอุโบสถถวำยวัด 3. กำรรับประทำนปลำร้ำของคนอีสำน 4. กำรใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยทำรำยงำน 38. วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับศำสนำของไทย มีควำมคล้ำยคลึงกับวัฒนธรรมทำงศำสนำของประเทศใดใน อำเซียนมำกที่สุด 1. ลำว 2. ฟิลิปปินส์ 3. อินโดนีเซีย 4. บรูไนดำรุสซำลำม
  • 7. 39. วัฒนธรรมในข้อใดถือเป็นวัฒนธรรมสำกล 1. กำรลอยกระทง 2. กำรเล่นอินเทอร์เน็ต 3. กำรทำพิธีบำยศรีสู่ขวัญ 4. กำรทำบุญตำนก๋วยสลำก 40. ในปัจจุบันวัฒนธรรมสำกลในข้อใดที่ควรให้ควำมสนใจเพื่อนำมำใช้ในชีวิตประจำวัน 1. เครื่องสำอำง 2. ของแบรนด์เนม 3. ภำษำอังกฤษ 4. แฟชั่นกำรแต่งตัว 41. ทรัพย์สินในข้อใดซื้อขำยกัน ไม่ได้ 1. บ้ำน 2. รถยนต์ 3. อำคำรพำณิชย์ 4. ที่ในเขตป่ำสงวน 42. กำรกระทำในข้อใด เป็นกำรปฏิบัติตำมสิทธิเสรีภำพตำมบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 1. แดง ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 2. ต้อม หลีกเลี่ยงกำรเสียภำษีเงินได้ 3. เอก เข้ำร่วมชุมนุมทำงกำรเมืองอย่ำงสงบ 4. หนุ่ม ไม่ยอมเข้ำรับกำรตรวจเลือกเกณฑ์ทหำร 43. หลักกำรในข้อใดที่จะช่วยส่งเสริมให้สำมำรถดำรงชีวิตได้อย่ำงมีควำมสุข 1. ทฤษฎีควำมขัดแย้ง 2. แนวคิดแบบสุขนิยม 3. แนวคิดแบบวัตถุนิยม 4. ปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง 44. ข้อใดคือลักษณะของชุมชนสมำนฉันท์ 1. คนในชุมชนมีฐำนะดี 2. คนในชุมชนมีควำมรู้สูง 3. คนในชุมชนมีควำมสำมัคคี 4. คนในชุมชนมีควำมทะเยอทะยำน 45. ข้อใดคืออุดมกำรณ์ของระบอบประชำธิปไตย 1. อำนำจเป็นของผู้นำเท่ำนั้น 2. อำนำจอธิปไตยเป็นของประชำชน 3. ประชำชนเป็นเพียงกลไกหนึ่งของรัฐบำล 4. กฎหมำยและนโยบำยต่ำงๆ อยู่ภำยใต้กำรตัดสินใจของผู้นำคนเดียวเท่ำนั้น 46. เพรำะเหตุใดวิชำเศรษฐศำสตร์จึงให้ควำมสำคัญกับกำรจัดสรรทรัพยำกรให้เกิดประโยชน์อย่ำงคุ้มค่ำ 1. เพรำะทรัพยำกรมีรำคำแพง 2. เพรำะทรัพยำกรมีอยู่อย่ำงจำกัด 3. เพรำะทรัพยำกรเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป 4. เพรำะทรัพยำกรไม่สำมำรถเกิดขึ้นใหม่ได้
  • 8. 47. ค่ำเสียโอกำสของหนูดีที่เลือกไปเที่ยวกับเพื่อนแทนกำรอ่ำนหนังสือเตรียมสอบอยู่ที่บ้ำนคืออะไร 1. กำรสอบไม่ผ่ำน 2. กำรไม่ได้อ่ำนหนังสือ 3. กำรไม่ได้ปฏิบัติตนเป็นนักเรียนที่ดี 4. กำรเสียค่ำใช้จ่ำยในกำรไปเที่ยวกับเพื่อน 48. เพรำะเหตุใดจึงต้องมีกำรคุ้มครองผู้บริโภค 1. เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกำสซื้อสินค้ำและบริกำรในรำคำถูก 2. เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกำสเลือกสินค้ำและบริกำรตำมที่ต้องกำร 3. เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับควำมพอใจในกำรบริโภคสินค้ำและบริกำร 4. เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับควำมปลอดภัยในกำรบริโภคสินค้ำและบริกำร 49. ข้อใดเป็นสิทธิผู้บริโภคขั้นพื้นฐำนตำมพระรำชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับ ที่ 2) พ.ศ. 2541 1. สิทธิที่จะได้รับอิสระในกำรเลือกใช้สินค้ำ 2. สิทธิที่จะได้รับกำรบริโภคสินค้ำในรำคำที่เหมำะสม 3. สิทธิที่จะได้รับกำรยกเว้นในกำรเลือกซื้อสินค้ำผูกขำด 4. สิทธิที่จะได้รับกำรประกันสินค้ำเป็นระยะเวลำ 3 เดือนหลังกำรซื้อ 50. หำกนักเรียนซื้อผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวและเกิดอันตรำยต่อร่ำงกำย นักเรียนสำมำรถร้องเรียนได้ที่ หน่วยงำนใด 1. สำนักงำนมำตรฐำนอุตสำหกรรม 2. กรมกำรแพทย์ กระทรวงสำธำรณสุข 3. สำนักงำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำ 4. สำนักงำนคณะกรรมกำรคุ้มครองผู้บริโภค 51. บุคคลใดปฏิบัติตำมพระรำชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ได้ถูกต้อง 1. ใจดีซื้อแผ่นซีดีของแท้มำฟัง 2. น้ำฝนก๊อปปี้หนังต่ำงประเทศมำวำงขำยแผ่นละ 40 บำท 3. น้ำขิงไปซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ลอกเลียนแบบของจริงมำใช้ที่สำนักงำน 4. สำยฟ้ำนำเพลงของนักร้องขวัญใจวัยรุ่นไปใส่ทำนองใหม่แล้ววำงขำยในกลุ่มเพื่อน 52. ข้อใดเป็นกำรเพิ่มมูลค่ำในกำรผลิตสินค้ำและบริกำร โดยกำรนำควำมถนัดของตนเองมำสร้ำงสรรค์ผลิต สินค้ำและบริกำร 1. ต้นพัฒนำบ้ำนสวนของตนให้กลำยเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน 2. ต้องออกแบบสบู่สมุนไพรให้มีรูปทรงแปลกตำและมีควำมทันสมัย 3. ตุ้มนำผ้ำซิ่นไทลื้อที่มีลวดลำยสวยงำมมำทำกระเป๋ำถือเพื่อขำยนักท่องเที่ยว 4. แต้วดัดแปลงบ้ำนพักริมแม่น้ำโขงของตนให้เป็นห้องจัดแสดงภำพถ่ำยที่สะท้อนวิถีชีวิตของผู้คน
  • 9. 53. ข้อใดมีควำมสอดคล้องกับกำรออมมำกที่สุด 1. แตงกวำมีเงินจำกกำรใช้จ่ำยเดือนละ 3,000 บำท 2. สมโอได้รับเงินเดือน 15,000 บำท มีรำยจ่ำยเพื่อกำรลงทุน 14,000 บำท 3. ชมพู่นำเงินที่เหลือเก็บไปลงทุนเปิดร้ำนอำหำร ต่อมำเกิดปัญหำสภำพคล่องต้องปิดกิจกำร 4. น้อยหน่ำใช้จ่ำยอย่ำงประหยัดและทำงำนพิเศษหำรำยได้เสริมเพื่อให้เพียงพอกับค่ำใช้จ่ำยใน ครอบครัว 54. ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์หลักของภำครัฐในกำรสนับสนุนส่งเสริมสินค้ำ OTOP 1. เพื่อเป็นกำรเพิ่มรำยได้ให้กับประเทศ 2. เพื่อสร้ำงควำมมั่นคงทำงเศรษฐกิจให้กับคนในชุมชน 3. เพื่อต้องกำรเพิ่มปริมำณสินค้ำส่งออกของไทยสู่ตลำดต่ำงประเทศ 4. เพื่อเปลี่ยนค่ำนิยมของคนไทยให้หันมำบริโภคสินค้ำภำยในประเทศ 55. ข้อใดเป็นปัญหำสำคัญที่สุดของกำรออมในสังคมไทย 1. ประชำกรส่วนใหญ่มีรำยได้น้อย 2. ประชำกรขำดควำมรู้เรื่องกำรออม 3. สถำบันกำรเงินกระจุกตัวอยู่ในเมือง 4. เงินฝำกธนำคำรมีอัตรำดอกเบี้ยต่ำเกินไป 56. ข้อใดสอดคล้องกับกฎอุปสงค์ 1. คนไทยเชื้อสำยจีนซื้อของเซ่นไหว้มำกขึ้นในช่วงตรุษจีน 2. ชำวบ้ำนซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคมำกขึ้นในช่วงที่ห้ำงสรรพสินค้ำลดรำคำ 3. ผู้ปกครองซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์กำรศึกษำมำกขึ้นในช่วงก่อนเปิดเทอม 4. ประชำชนจำนวนมำกเดินทำงท่องเที่ยวและจับจ่ำยใช้สอยมำกขึ้นในช่วงเทศกำลสงกรำนต์ 57. กำรเปลี่ยนแปลงของสินค้ำในข้อใดเป็นไปตำมกฎของอุปทำน 1. ยอดจำหน่ำยน้ำส้มคั้นสูงขึ้น เพรำะมีผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2. บ้ำนจัดสรรปรับรำคำสูงขึ้น เพรำะต้นทุนกำรผลิตเพิ่มขึ้น 3. จำกเหตุกำรณ์อุทกภัยทำให้ผลผลิตผักลดลงมำก รำคำผักจึงสูงขึ้น 4. รำคำน้ำมันปำล์มสูงขึ้น พ่อค้ำจึงสั่งน้ำมันปำล์มจำกต่ำงประเทศเข้ำมำขำย 58. รำคำดุลยภำพกำรตลำดจะเกิดขึ้นเมื่อใด 1. จำนวนผู้ซื้อเท่ำกับจำนวนผู้ขำย 2. ปริมำณเสนอซื้อสมดุลกับรำคำเสนอขำย 3. ผู้ซื้อสำมำรถซื้อสินค้ำได้ตำมจำนวนที่ต้องกำร 4. อุปสงค์ส่วนเกินและอุปทำนส่วนเกินมีค่ำเท่ำกับศูนย์
  • 10. 59. ข้อใดเป็นกำรดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง 1. กินอยู่อย่ำงประหยัดไม่ฟุ้งเฟ้อ 2. อยู่ดีกินดีตำมอย่ำงเพื่อนฝูง 3. ประหยัดและเก็บเงินให้ได้มำก 4. กู้เงินมำใช้เพื่อรักษำฐำนะ 60. ทำงสำยกลำงตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง สอดคล้องกับแนวกำรประพฤติในข้อใด 1. ไม่คบค้ำกับต่ำงชำติ 2. ค้ำขำยโดยไม่มุ่งกำไร 3. ไม่ซื้อสินค้ำที่ชอบเลย แม้มีรำยได้มำกก็ตำม 4. ประกอบอำชีพสุจริต มีควำมประหยัด มีคุณธรรม 61. ข้อใดเป็นแนวทำงกำรแก้ปัญหำเศรษฐกิจในระดับชุมชนที่ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง 1. ยึดแนวทำงบริโภคนิยมและวัตถุนิยม 2. ดำเนินชีวิตตำมควำมต้องกำรของตนเอง 3. ดำเนินชีวิตตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง 4. ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบำยงบประมำณเพื่อให้ชำวบ้ำนกู้ยืม 62. สถำบันกำรเงินในข้อใดมีบทบำทหน้ำที่หลักแตกต่ำงจำกสถำบันกำรเงินอื่น 1. ธนำคำรออมสิน 2. สหกรณ์ออมทรัพย์ 3. ธนำคำรอิสลำมแห่งประเทศไทย 4. ธนำคำรเพื่อกำรส่งออกและนำเข้ำแห่งประเทศไทย 63. ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดกำรลงทุนในข้อใดมีควำมสัมพันธ์กับภำวะเงินเฟ้อและเงินฝืดมำกที่สุด 1. ค่ำของเงิน 2. ผลตอบแทนและควำมเสี่ยง 3. จำนวนทรัพย์สินที่จำหน่ำยในตลำด 4. กำรคำดคะเนที่เกี่ยวกับเหตุกำรณ์ต่ำงๆ ในอนำคต 64. “เกิดช่องว่ำงทำงเศรษฐกิจและสังคม ทำให้เกิดกำรผูกขำดของผู้ที่มีกำลังทุนในทำงเศรษฐกิจ และอำจมี กำรเอำรัดเอำเปรียบซึ่งเกิดจำกกำรผูกขำดของเจ้ำของทุน” เป็นข้อเสียของระบบเศรษฐกิจใด 1. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม 2. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม 3. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม 4. ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์
  • 11. 65. กำรรวมเป็นประชำคมเศรษฐกิจอำเซียน มีเป้ำหมำยสำคัญอย่ำงไร 1. เพื่อกำรแบ่งตลำดและฐำนกำรผลิตเดียว 2. กำจัดอุปสรรคที่กีดกันกำรค้ำและบริกำร 3. เป็นตัวกลำงประสำนงำนด้ำนนโยบำยน้ำมัน 4. เพื่อประโยชน์ด้ำนกำรค้ำเสรีระหว่ำงประเทศสมำชิก 66. เพรำะเหตุใดในกำรศึกษำเรื่องรำวสมัยก่อนประวัติศำสตร์ จึงต้องอำศัยผลจำกเครื่องมือเครื่องใช้ของ มนุษย์เป็นหลัก 1. ให้ข้อมูลที่เป็นจริง 2. วิเครำะห์ตีควำมง่ำย 3. ยังไม่มีกำรจดบันทึก 4. มีหลักฐำนให้ศึกษำมำก 67. ถ้ำในปัจจุบันประเทศไทยยังใช้ระบบศักรำชแบบรัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) พุทธศักรำช 2555 จะตรงกับ รัตนโกสินทร์ศกใด 1. ร.ศ. 230 2. ร.ศ. 231 3. ร.ศ. 232 4. ร.ศ. 233 68. เพรำะเหตุใดกำรตีควำมข้อมูลจำกหลักฐำนชิ้นเดียวกันหรือในเรื่องเดียวกันจึงมีควำมแตกต่ำงกัน 1. ถูกตีควำมในพื้นที่ที่ต่ำงกัน 2. ถูกตีควำมในช่วงเวลำที่ต่ำงกัน 3. ถูกตีควำมจำกทฤษฎีที่ต่ำงกัน 4. ถูกตีควำมจำกผู้ศึกษำที่ต่ำงกัน 69. ข้อควำมในศิลำจำรึกที่กล่ำวว่ำ “เมื่อชั่วพ่อขุนรำมคำแหงเมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลำ ในนำมีข้ำว...” แสดงว่ำสุโขทัยมีควำมอุดมสมบูรณ์ดี ข้อควำมดังกล่ำวนี้จัดอยู่ในขั้นตอนใดของวิธีกำรทำงประวัติศำสตร์ 1. กำรรวบรวมหลักฐำน 2. กำรประเมินคุณค่ำของหลักฐำน 3. กำรวิเครำะห์ สังเครำะห์ข้อมูล 4. กำรเรียบเรียงหรือกำรนำเสนอ 70. กำรวิเครำะห์ข้อมูลและกำรสังเครำะห์ข้อมูลมีประโยชน์อย่ำงไร 1. ทำให้ข้อมูลมีควำมกระชับรัดกุมยิ่งขึ้น 2. แสดงควำมสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องกันของเหตุกำรณ์ 3. ทำให้ทรำบองค์ประกอบที่ก่อให้เกิดเหตุกำรณ์ขึ้น 4. สำมำรถแยกข้อมูลจริงและข้อมูลปลอมออกจำกกัน 71. ควำมเจริญของชุมชนโบรำณในแต่ละแห่ง เรำสำมำรถพิจำรณำได้จำกอะไร 1. ขนำดพื้นที่ของชุมชน 2. ซำกเมล็ดพืชที่บริโภค 3. คุณภำพของเครื่องมือที่ใช้ 4. จำนวนโครงกระดูกที่ขุดพบ 72. หลักฐำนใดที่ช่วยยืนยันว่ำ สุโขทัยเป็นเมืองที่มีควำมเจริญมำก่อนที่คนไทยจะสถำปนำเป็นรำชธำนี 1. ศำสนสถำนศิลปะขอม 2. เจดีย์ทรงพุ่มข้ำวบิณฑ์ 3. ข้อควำมจำกศิลำจำรึก 4. เรื่องรำวจำกเอกสำรจีน
  • 12. 73. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ ภูมิปัญญำในสมัยสุโขทัยที่เกิดจำกลักษณะทำงภูมิศำสตร์ 1. กำรสร้ำงตระพังไว้เก็บน้ำ 2. กำรผสมตะกั่วในกำรหลอมสำริด 3. กำรใช้ศิลำแลงสร้ำงโบสถ์และวิหำร 4. กำรเผำเครื่องสังคโลกด้วยเตำทุเรียงในฤดูฝน 74. ลักษณะทำงเศรษฐกิจของภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในข้อใดที่คงอยู่ตั้งแต่สมัยโบรำณจนถึง ปัจจุบัน 1. กำรแบ่งชนชั้นทำงสังคมระหว่ำงเจ้ำนำยกับทำส 2. กำรทำสงครำมเพื่อกวำดต้อนผู้คนและทรัพย์สินมีค่ำ 3. กำรประกอบอำชีพทำงกำรเกษตรและค้ำขำยกับภำยนอก 4. กำรปกครองที่ยึดพระปรีชำสำมำรถของกษัตริย์ผู้เป็นประมุข 75. ประชำคมอำเซียนเกิดขึ้นจำกควำมจำเป็นในด้ำนใดเป็นสำคัญ 1. ควำมมั่นคง 2. กำรพัฒนำเศรษฐกิจ 3. กำรป้องกันภัยพิบัติ 4. ควำมสำคัญของวัฒนธรรม 76.แหล่งมรดกโลกทำงวัฒนธรรมในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ข้อใดที่มีควำมเป็นมำแตกต่ำงจำกแหล่งอื่น 1. เมืองมะละกำ มำเลเซีย 2. พรหมบะนัน อินโดนีเซีย 3. โบสถ์สมัยบำโรก ฟิลิปปินส์ 4. กลุ่มโบรำณสถำนมิเซิน เวียดนำม 77. อุทยำนประวัติศำสตร์สุโขทัยได้รับกำรขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทำงวัฒนธรรมด้วยเหตุผลที่ว่ำเป็น ตัวแทนถึงผลงำนชิ้นเอกอันทรงคุณค่ำและมีเอกลักษณ์เฉพำะตัว โบรำณสถำนใดที่สะท้อนเอกลักษณ์ ของสุโขทัยได้ดีที่สุด 1. วัดศรีชุม 2. วัดช้ำงล้อม 3. วัดมหำธำตุ 4. วัดนำงพญำ 78. เพรำะเหตุใดเรำจึงควรศึกษำสภำพกำรณ์ทั่วไปของชุมชนไทยในช่วงก่อนกำรสถำปนำอำณำจักรอยุธยำ 1. เพื่อให้เห็นควำมสำคัญของผู้นำไทย 2. เพื่อให้เข้ำใจภำพรวมของชุมชนไทย 3. เพื่อยืนยันว่ำอำณำจักรอยุธยำมีอยู่จริง 4. เพื่อให้รู้ว่ำชำติไทยเป็นชนชำติที่เก่ำแก่ที่สุดในภูมิภำค
  • 13. 79. กำรปฏิรูปกำรปกครองในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนำถมีลักษณะอย่ำงไร 1. กระจำยอำนำจและรวมหน้ำที่ 2. กระจำยอำนำจและแบ่งแยกหน้ำที่ 3. รวมอำนำจเข้ำสู่ศูนย์กลำงและรวมหน้ำที่ 4. รวมอำนำจเข้ำสู่ศูนย์กลำงและแบ่งแยกหน้ำที่ 80. กำรสร้ำงสรรค์ศิลปวัฒนธรรมของชำวไทยสมัยอยุธยำได้รับอิทธิพลจำกข้อใดมำกที่สุด 1. พระพุทธศำสนำ 2. กำรประกอบอำชีพ 3. ธรรมชำติที่งดงำม 4. อำรยธรรมตะวันตก 81. เหตุกำรณ์ในข้อใดต่อไปนี้ที่แสดงถึงพระปรีชำสำมำรถและควำมกล้ำหำญของสมเด็จพระนเรศวร มหำรำชมำกที่สุด 1. ปีนค่ำยข้ำศึก 2. โจมตีเมืองแครง 3. กระทำยุทธหัตถี 4. ประกำศอิสรภำพ 82. นโยบำยกำรต่ำงประเทศของอยุธยำในสมัยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำชสำมำรถสรุปได้ตำมข้อใด 1. พึ่งพิงเป็นหลัก 2. โอนอ่อนผ่อนตำม 3. ปิดประตูไม่ยอมรับ 4. ให้ถ่วงดุลอำนำจกัน 83. ภำยหลังที่สมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชทรงกอบกู้เอกรำชได้สำเร็จ ข้อใดนับว่ำเป็นจุดเริ่มต้นของกำร รวบรวมพระรำชอำณำจักรที่แตกแยกให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 1. ปรำบปรำมกลุ่มชุมนุมต่ำงๆ 2. รบชนะดินแดนต่ำงๆ ใกล้เคียง 3. สถำปนำกรุงธนบุรีเป็นรำชธำนี 4. จัดระบบกำรปกครองให้เป็นระเบียบ 84. ข้อใดกล่ำวถึงลักษณะประชำกรและวัฒนธรรมของภูมิภำคเอเชียใต้ ไม่ ถูกต้อง 1. มีประเพณีวัฒนธรรมเดียวกัน 2. ส่วนใหญ่มีควำมคิดอนุรักษนิยม 3. มีประชำกรหลำกหลำยเชื้อชำติ 4. นับถือศำสนำและพูดภำษำต่ำงกัน 85. เพรำะเหตุใดประชำกรในภูมิภำคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้จึงมีวัฒนธรรมกำรตั้งถิ่นฐำนแบบเร่ร่อน 1. มีควำมเชื่อในศำสนำเกี่ยวกับกำรเดินทำง 2. อพยพตำมฝูงสัตว์เพื่อล่ำสัตว์ในฤดูต่ำงๆ 3. มีภูมิประเทศแห้งแล้ง ซึ่งยำกลำบำกต่อกำรเพำะปลูก 4. เกิดภัยธรรมชำติในแต่ละพื้นที่ จึงต้องหลบหนีเพื่อควำมอยู่รอด
  • 14. 86. ควำมเชื่อเรื่องอำณัติแห่งสวรรค์ส่งผลต่อชำวจีนโบรำณอย่ำงไร 1. ชำวจีนขำดควำมกระตือรือร้นและรอควำมช่วยเหลือจำกสวรรค์ 2. เกิดกำรลุกฮือของรำษฎรเพื่อล้มล้ำงรำชวงศ์เดิมแล้วตั้งรำชวงศ์ใหม่ 3. ชำวจีนอยู่อย่ำงสันติสุขเพรำะทุกคนยอมรับผู้ปกครองที่สวรรค์เลือกให้ 4. เกิดกำรเลือกผู้นำด้วยวิธีกำรเสี่ยงทำยเพื่อจะได้ผู้นำตำมที่สวรรค์ต้องกำร 87. สำเหตุใดที่ทำให้รัชกำลที่ 1 โปรดเกล้ำฯ ให้มีกำรตรวจชำระกฎหมำยขึ้นใหม่ 1. กฎหมำยเดิมที่ใช้อยู่ไม่มีควำมยุติธรรม 2. ชำติอื่นดูถูกว่ำกฎหมำยไทยไร้ควำมศักดิ์สิทธิ์ 3. โบรำณรำชประเพณีกำหนดให้มีกำรตรวจชำระทุกครั้งที่เปลี่ยนรัชกำลใหม่ 4. พระองค์เกรงว่ำผู้รู้กฎหมำยจะค่อยๆ หำยไป จึงให้รวบรวมไว้เป็นลำยลักษณ์อักษร 88. ลักษณะเด่นของระบบเจ้ำภำษีนำยอำกรตรงกับข้อใด 1. กำรเก็บภำษีเป็นเงินแทนสิ่งของ 2. กำรผูกขำดกำรจัดเก็บภำษีโดยรัฐ 3. กำรเปิดโอกำสให้เอกชนประมูลจัดเก็บภำษี 4. กำรจัดเก็บภำษีจำกกำรชักส่วนผลผลิตที่รำษฎรทำได้ 89. ข้อใดเป็นกลไกสำคัญในกำรควบคุมกำลังคนในระบบไพร่ 1. ไพร่ต้องสังกัดมูลนำย 2. ไพร่จับจองที่ดินไม่ได้ 3. ไพร่เปลี่ยนแปลงสถำนะไม่ได้ 4. ไพร่ต้องมำทำงำนให้กับทำงรำชกำร 90. กำรปกครองแบบเทศำภิบำลเป็นกำรปกครองในลักษณะเช่นใด 1. แบ่งอำนำจกันปกครอง 2. รวมอำนำจเข้ำสู่ศูนย์กลำง 3. กระจำยอำนำจสู่ท้องถิ่น 4. ปกครองกันเองอย่ำงอิสระ 91. หลังกำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครองมำเป็นระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข กำรเปลี่ยนแปลงที่แตกต่ำงจำกระบอบสมบูรณำญำสิทธิรำชย์ที่เห็นได้อย่ำงชัดเจนที่สุดคือข้อใด 1. อำนำจสูงสุดอยู่ในมือประชำชนอย่ำงแท้จริง 2. ประชำชนได้รับสิทธิเสรีภำพในด้ำนต่ำงๆ มำกขึ้นทันที 3. กำรมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมำยสูงสุดในกำรปกครองประเทศ 4. ผู้นำประเทศมีอำนำจเด็ดขำดในกำรตัดสินใจเรื่องกำรบริหำรประเทศ
  • 15. 92. หนังสือพระรำชนิพนธ์ในพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเรื่องใดที่ทรงได้รับแรงบันดำล พระทัยจำกชำดกในพระพุทธศำสนำ 1. ติโต 2. พระมหำชนก 3. เรื่องทองแดง 4. นำยอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ 93. งำนศิลปะของยุโรปสมัยกลำงสะท้อนให้เห็นถึงอะไรมำกที่สุด 1. อิทธิพลครอบงำของคริสต์ศำสนำ 2. ควำมสนใจในธรรมชำติและสังคม 3. ควำมงดงำมของศิลปะสมัยคลำสสิก 4. พระรำชอำนำจของพระมหำกษัตริย์ 94. มรดกทำงกำรเมืองที่ออสเตรเลียทิ้งไว้ให้แก่สังคมโลกคือข้อใด 1. ระบอบคอมมิวนิสต์ 2. ระบอบประชำธิปไตย 3. แนวคิดเรื่องสิทธิมนุษยชน 4. กำรลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ 95. ภำยหลังสงครำมโลกครั้งที่ 2 ประเทศต่ำงๆ มักใช้วิธีกำรใดในกำรเพิ่มอำนำจกำรต่อรองของตน 1. กำรตั้งกำแพงภำษีสูง 2. ใช้นโยบำยปิดประเทศ 3. รวมตัวเป็นกลุ่มประเทศ 4. คบแต่กับชำติมหำอำนำจ 96. เครื่องมือทำงภูมิศำสตร์ในข้อใดสำมำรถใช้เปรียบเทียบกำรเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่ำชำยเลนในประเทศ ไทยระหว่ำง พ.ศ. 2530 กับ พ.ศ. 2555 ได้ดีที่สุด 1. แผนที่ภูมิประเทศ 2. ภำพจำกดำวเทียม 3. ภำพถ่ำยทำงอำกำศ 4. แผนที่ทรัพยำกรธรรมชำติ 97. วิธีกำรใดต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของกำรใช้ระบบสำรสนเทศภูมิศำสตร์ (GIS) 1. กำรขำยสินค้ำทำงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 2. กำรใช้คอมพิวเตอร์ทำกรำฟแสดงกำรส่งออกสินค้ำ 3. กำรรับฟังข่ำวกำรพยำกรณ์อำกำศประจำวันทำงวิทยุ 4. กำรใช้แผนที่สำรวจเส้นทำงคมนำคมภำยในกรุงเทพมหำนคร 98. วันที่ 25 มิถุนำยน เวลำ 18.00 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น ที่ประเทศพม่ำ จะตรงกับวันและเวลำใด 1. วันที่ 25 มิถุนำยน เวลำ 14.00 น. 2. วันที่ 25 มิถุนำยน เวลำ 15.00 น. 3. วันที่ 24 มิถุนำยน เวลำ 10.00 น. 4. วันที่ 24 มิถุนำยน เวลำ 09.00 น.
  • 16. 99. กำรนำเสนอข้อมูลทำงภูมิศำสตร์รูปแบบใดมีควำมเหมำะสมมำกที่สุดสำหรับข้อมูลกำรจำแนกประเภท ดินของแต่ละประเทศในยุโรป 1. แบบแผนภูมิ และแบบแผนที่ 2. แบบบรรยำย และแบบตำรำง 3. แบบแผนที่ และแบบตำรำง 4. แบบตำรำง และแบบแผนภูมิ 100. อิทธิพลในข้อใดที่ส่งผลให้ภำคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดอุทกภัยบ่อยครั้ง 1. พำยุไซโคลน 2. พำยุดีเปรสชัน 3. ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ 4. ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ 101. เพรำะเหตุใดภำคตะวันออกเฉียงเหนือจึงมีกำรเลี้ยงสัตว์ประเภทโคเนื้อและโคนมมำกกว่ำภำคอื่นๆ 1. มีทุ่งหญ้ำกว้ำงขวำง 2. มีกำรคมนำคมสะดวก 3. มีผู้สนับสนุนด้ำนเงินทุน 4. มีแรงงำนจำนวนมำกและค่ำแรงถูก 102. กำรเปลี่ยนแปลงทำงสังคมและวัฒนธรรมไทยในปัจจุบันเกิดจำกปัจจัยใดเป็นหลัก 1. ระดับกำรศึกษำของประชำกร 2. จำนวนประชำกรที่เพิ่มมำกขึ้น 3. ควำมเจริญทำงด้ำนเทคโนโลยี 4. กำรติดต่อค้ำขำยกับต่ำงประเทศ 103. เพรำะเหตุใดเขตเกำะและหมู่เกำะในทวีปเอเชีย จึงมักจะเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง 1. เปลือกโลกมีอำยุน้อย 2. อิทธิพลจำกกระแสน้ำ 3. ปริมำณน้ำใต้ดินมีน้อย 4. มีเกำะและหมู่เกำะจำนวนมำก 104. เพรำะเหตุใดภูมิภำคเอเชียกลำงจึงมีกำรเจริญเติบโตทำงด้ำนเศรษฐกิจช้ำกว่ำภูมิภำคอื่นๆ ในทวีปเอเชีย 1. ลักษณะที่ตั้งของภูมิภำค 2. จำนวนประชำกรภำยในภูมิภำค 3. กำรแยกตัวออกจำกสหภำพโซเวียต 4. กำรนับถือศำสนำของประชำชนในภูมิภำค 105. เพรำะเหตุใดวัฒนธรรมของประเทศภูมิภำคเอเชียตะวันออกจึงมีควำมคล้ำยคลึงกัน 1. นับถือศำสนำเหมือนกัน 2. เป็นกลุ่มชำติพันธุ์เดียวกัน 3. มีกำรติดต่อค้ำขำยกันมำนำน 4. ได้รับอำรยธรรมจำกแหล่งเดียวกัน
  • 17. 106. ปัจจัยข้อใดที่ทำให้ชำวยุโรปอพยพเข้ำมำอยู่อำศัยในทวีปออสเตรเลียจำนวนมำก 1. สภำพทำงสังคมดี 2. สภำพทำงเศรษฐกิจดี 3. มีภูมิอำกำศคล้ำยคลึงกับยุโรป 4. มีเสถียรภำพทำงกำรเมืองมั่นคง 107. กำรผลิตไวน์เหมำะกับลักษณะภูมิอำกำศแบบใดในประเทศออสเตรเลีย 1. ภูมิอำกำศแบบสะวันนำ 2. ภูมิอำกำศแบบอบอุ่นชื้น 3. ภูมิอำกำศแบบกึ่งทะเลทรำย 4. ภูมิอำกำศแบบเมดิเตอร์เรเนียน 108. ข้อใดเป็นโครงกำรในพระรำชดำริของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวเพื่อแก้ปัญหำดินถล่ม 1. โครงกำรแก้มลิง 2. โครงกำรแกล้งดิน 3. โครงกำรฝำยทดน้ำ 4. โครงกำรปลูกหญ้ำแฝก 109. แนวทำงกำรป้องกันในระยะยำวข้อใดที่สำมำรถช่วยบรรเทำผลกระทบจำกกำรเกิดสึนำมิได้ดีที่สุด 1. กำรปลูกป่ำชำยเลน 2. กำรสร้ำงแนวกำแพงป้องกันคลื่น 3. กำรสร้ำงศูนย์อพยพและศูนย์เตือนภัย 4. กำรรื้อถอนสิ่งปลูกสร้ำงบริเวณชำยหำด 110. ปัจจัยข้อใดที่ทำให้ทวีปยุโรปมีควำมเหมำะสมในกำรตั้งถิ่นฐำนมำกที่สุด 1. มีตำแหน่งที่ตั้งเหมำะสม 2. มีลักษณะภูมิอำกำศเอื้อต่อกำรอยู่อำศัย 3. มีลักษณะพืชพรรณธรรมชำติที่หลำกหลำย 4. มีทรัพยำกรธรรมชำติต่ำงๆ อุดมสมบูรณ์มำก 111. เขตที่รำบลุ่มแม่น้ำและที่รำบชำยฝั่งทะเลของทวีปแอฟริกำมีกำรประกอบกิจกรรมทำงเศรษฐกิจที่ สำคัญคล้ำยคลึงกับเขตภูมิลักษณ์ใดในทวีปยุโรป 1. เขตที่รำบสูงตอนกลำง 2. เขตภูเขำหินใหม่ตอนใต้ 3. เขตที่รำบใหญ่ตอนกลำง 4. เขตเทือกเขำหินเก่ำทำงตะวันตกเฉียงใต้
  • 18. 112. เพรำะอะไรประเทศต่ำงๆ ในทวีปยุโรปจึงมีอัตรำกำรเพิ่มของประชำกรต่ำ 1. มีควำมเจริญทำงด้ำนเศรษฐกิจมำก 2. ลักษณะพันธุกรรมของชำวผิวขำวที่มีบุตรน้อย 3. ขนำดพื้นที่ของทวีปมีจำกัดไม่เพียงพอต่อจำนวนประชำกรที่เพิ่มขึ้น 4. ทัศนคติของประชำกรที่ไม่นิยมกำรมีบุตรมำกและนโยบำยวำงแผนครอบครัว 113. สำเหตุข้อใดที่ส่งผลให้บริเวณชำยฝั่งตะวันตกทำงตอนใต้ของทวีปแอฟริกำเกิดลักษณะภูมิประเทศ แบบทะเลทรำย 1. อิทธิพลของกระแสน้ำเย็น 2. กำรตัดไม้ทำลำยป่ำในอดีต 3. กำรเกิดแนวพัดสอบของลม 4. ปรำกฏกำรณ์น้ำเกิด-น้ำตำย 114. เพรำะอะไรกำรทำเหมืองแร่ของทวีปแอฟริกำจึงจำกัดอยู่ในบำงบริเวณเท่ำนั้น 1. ขำดแคลนแรงงำนมีฝีมือ 2. ขำดกำรสำรวจและบุกเบิก 3. ทรัพยำกรแร่นำมำใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่ำ 4. ทรัพยำกรแร่มีอยู่อย่ำงจำกัดในบำงบริเวณเท่ำนั้น 115. กำรแก้ปัญหำสิ่งแวดล้อมของทวีปแอฟริกำควรดำเนินกำรตำมข้อใดมำกที่สุด 1. ให้ควำมรู้แก่ประชำชน 2. ออกกฎหมำยที่มีโทษรุนแรง 3. จัดตั้งองค์กรสิ่งแวดล้อมเอกชน 4. ขอเงินทุนช่วยเหลือจำกต่ำงประเทศ 116. บริเวณที่เรียกว่ำ เกรตเพลนส์ (Great Plains) ในทวีปอเมริกำเหนือเหมำะสมที่จะประกอบอำชีพใด 1. กำรเลี้ยงสัตว์ 2. กำรเกษตรกรรม 3. กำรพำณิชยกรรม 4. กำรอุตสำหกรรม 117. ประชำกรในทวีปอเมริกำเหนือกลุ่มแองโกลอเมริกำมีลักษณะทำงวัฒนธรรมแบบใด 1. ยุโรปใต้ 2. อังกฤษ 3. ฝรั่งเศส 4. โปรตุเกส 118. ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้องเกี่ยวกับลักษณะทำงประชำกรของทวีปอเมริกำใต้ 1. เป็นเขตที่มีประชำกรเบำบำงของโลก 2. เป็นเขตที่มีประชำกรหนำแน่นของโลก 3. ประชำกรตั้งถิ่นฐำนมำกบริเวณเทือกเขำแอนดีส 4. ประชำกรอำศัยอยู่หนำแน่นบริเวณที่รำบลุ่มน้ำแอมะซอน
  • 19. 119. ประเทศเวเนซุเอลำสำมำรถพัฒนำเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตได้อย่ำงรวดเร็วเนื่องมำจำกอะไร 1. มีแรงงำนที่มีคุณภำพมำก 2. อยู่ติดกับประเทศขนำดใหญ่ 3. มีรำยได้สูงจำกกำรส่งออกน้ำมัน 4. ไม่ได้รับผลกระทบจำกภัยธรรมชำติ 120. ข้อใดเป็นปัญหำสิ่งแวดล้อมที่เกิดในเมืองใหญ่ของประเทศบรำซิล อำร์เจนตินำ เปรู เวเนซุเอลำ และ โคลอมเบีย 1. กำรทำไร่เลื่อนลอย 2. ไฟป่ำและควำมแห้งแล้งที่ยำวนำน 3. กำรปล่อยของเสียลงแหล่งน้ำธรรมชำติ 4. เกิดมลพิษมำกจำกยำนยนต์และโรงงำน
  • 20. เฉลยข้อสอบ ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วิชา สังคมศึกษา ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ 1. 2 กำรอยู่ร่วมกันของศำสนิกชนศำสนำต่ำงๆ อย่ำงสงบสุขนั้น ควรเริ่มต้นจำกกำรมี ควำมรู้ควำมเข้ำใจในควำมแตกต่ำงของแต่ละศำสนำ อันจะนำไปสู่กำรปฏิบัติต่อกัน อย่ำงถูกต้องและเคำรพซึ่งกันและกัน 2. 2 คริสต์ศำสนำนิกำยโรมันคำทอลิกมีพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ 7 พิธี ได้แก่ พิธีศีลล้ำงบำป พิธี ศีลกำลัง พิธีศีลมหำสนิท พิธีศีลแก้บำป พิธีศีลบวชหรือศีลอนุกรม และพิธีศีลสมรส แต่คริสต์ศำสนำนิกำยโปรเตสแตนต์ จะมีพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์เพียง 2 พิธี ได้แก่ พิธีศีล ล้ำงบำป (นิกำยโปรเตสแตนต์ เรียกว่ำ “พิธีบัปติสมำ” หรือ “พิธีบัพติศมำ”) และพิธี ศีลมหำสนิท 3. 4 กำรประกอบพิธีฮัจญ์นั้น หำกมุสลิมคนใดยังไม่มีควำมพร้อมด้ำนกำรเงินและ สุขภำพ ก็ยังไม่ต้องปฏิบัติก็ได้ โดยไม่ถือว่ำผิดหลักศำสนำแต่อย่ำงใด แต่คนที่มี ควำมพร้อมแล้วจะต้องเดินทำงไปประกอบพิธีฮัจญ์ในเดือน 12 ตำมปฏิทินอิสลำม ณ มัสญิดอัลกะอ์บะฮ์ นครมักกะฮ์ ประเทศซำอุดีอำระเบีย ซึ่งจุดมุ่งหมำยของกำร ประกอบพิธีฮัจญ์ คือ มุ่งให้ชำวมุสลิมรำลึกและนอบน้อมต่ออัลลอฮ์ รวมถึงเป็นกำร เจริญรอยตำมแบบอย่ำงศำสดำมุฮัมมัดที่เสด็จมำนมัสกำรสถำนที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ก่อนสิ้นพระชนม์ 4. 3 กำรนับศักรำชอิสลำมหรือฮิจเรำะฮ์ศักรำช (ฮ.ศ.) เริ่มต้นขึ้นเมื่อศำสดำมุฮัมมัดอพยพ หนีภัยจำกนครมักกะฮ์ไปที่เมืองยัทริบ ซึ่งตรงกับปี ค.ศ.622 เมืองยัทริบนี้เป็นเมือง แรกที่ศำสนำอิสลำมประดิษฐำนอย่ำงมั่นคง จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “มะดีนะฮ์” แปลว่ำ นครของท่ำนศำสดำ 5. 1 ศีลกำลังเป็นพิธีกรรมที่มุขนำยกเขตมิซซังเจิมน้ำมันเป็นรูปกำงเขนบนหน้ำผำกของ เด็กโตที่รู้รับผิดชอบแล้ว เพื่อแสดงว่ำพระจิตเสด็จเข้ำสู่จิตใจของผู้นั้นแล้ว หลังจำก ทำพิธีนี้แล้วจึงจะถือว่ำผู้นั้นเป็นชนชำวคริสต์โดยสมบูรณ์ 6. 3 วิธีถ่ำยทอดคำสอนของพระพุทธเจ้ำในสมัยพุทธกำล ใช้วิธีกำรท่องจำด้วยปำกเปล่ำ
  • 21. ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ เพื่อกำรท่องจำที่แม่นยำ ซึ่งเรียกว่ำ มุขปำฐะ 7. 3 สำมำรถตีควำมหมำยได้ 2 ลักษณะ กล่ำวคือ พระพุทธองค์จะได้ทรงประกำศ พระพุทธศำสนำให้เผยแผ่ขยำยไปใน 7 แคว้น คือ แคว้นกำสีกับโกศล แคว้นมคธกับ อังคะ แคว้นสักกะ แคว้นวัชชี แคว้นมัลละ และแคว้นกุรุ ทั้งนี้ยังอำจตีควำมได้ว่ำ พระองค์จะทรงบรรลุโพชฌงค์ คือ ธรรมที่เป็นองค์แห่งกำรตรัสรู้ 7 ประกำร 8. 1 สมุทัย คือ ควำมจริงว่ำด้วยเหตุเกิดแห่งควำมทุกข์ ซึ่งเมื่อทรำบแล้วก็ควรละเสีย เช่น ควำมอยำกได้อยำกมีเกินควำมพอดี ย่อมเป็นสำเหตุของควำมทุกข์ทั้งปวง หำกละจำก ควำมอยำกที่เกินพอดีเหล่ำนี้เสีย ก็จะดำรงชีวิตอย่ำงมีควำมสุข 9. 1 มิตรมีน้ำใจจะคอยช่วยเหลือ เมื่อเพื่อนเป็นทุกข์ ตลอดจนคอยยับยั้งคนที่มำกล่ำว ติเตียน และชี้แจงควำมจริงให้คนนั้นฟัง 10. 3 กำรตักบำตรเทโวโรหณะในวันออกพรรษำ เป็นกำรระลึกถึงกำรเสด็จกลับลงจำก เทวโลกหลังจำกทรงโปรดพุทธมำรดำในสวรรค์ชั้นดำวดึงส์ 11. 4 ปัญญำในทำงพระพุทธศำสนำ หมำยถึงกำรรู้เหตุรู้ผลตำมควำมเป็นจริง ไม่ตกอยู่ ภำยใต้อำนำจของกิเลส อันจะทำให้มองเห็นปัญหำที่แท้จริงและรู้จักวิธีแก้ปัญหำ ที่ถูกต้องเหมำะสม 12. 2 บุโรพุทโธตั้งอยู่ที่เกำะชวำ ประเทศอินโดนีเซีย เป็นศำสนสถำนของพระพุทธ- ศำสนำนิกำยมหำยำน สร้ำงขึ้นโดยกษัตริย์แห่งรำชวงศ์ไศเลนทร เป็นหลักฐำนที่ แสดงให้เห็นว่ำเกำะชวำและพื้นที่อีกหลำยส่วนของประเทศอินโดนีเซียนั้น พระพุทธศำสนำเคยเจริญรุ่งเรืองอย่ำงมำกในอดีต ขณะที่ปัจจุบันอินโดนีเซียเป็น ประเทศที่มีประชำกรนับถือศำสนำอิสลำมมำกที่สุดในโลก 13. 1 อุปติสสะได้พบพระอัสสชิขณะท่ำนกำลังออกโปรดสัตว์ จึงเข้ำไปนมัสกำรขอให้ ท่ำนแสดงธรรมให้ฟัง พระอัสสชิได้แสดงธรรมอันเป็นแก่นแห่งอริยสัจ 4 หลังจำก อุปติสสะได้ฟังแล้วเกิดดวงตำเห็นธรรม บรรลุโสดำปัตติผล และบวชเป็นสำวกของ พระพุทธเจ้ำ ซึ่งต่อมำท่ำนได้รับแต่งตั้งเป็นพระอัครสำวกเบื้องขวำ 14. 4 กำรปฏิบัติตำมหลักกุศลกรรมบถ 10 คือ กำรกระทำเพื่อให้เกิดควำมดีและควำม ถูกต้อง ดังนั้น กำรประพฤติทำงกำยที่ดี มี 3 ประกำร เว้นจำกกำรฆ่ำสัตว์ ไม่ทรมำน หรือเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลำย เว้นจำกกำรขโมย ไม่นำสิ่งของของผู้อื่นมำครอบครอง และเว้นจำกกำรประพฤติผิดในกำม ไม่ล่วงเกินคู่ครองของผู้อื่น คำตอบในข้อ 4. ถือ เป็นกำรเว้นจำกกำรขโมย
  • 22. ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ 15. 3 อำมิสทำน คือ กำรให้ทำนด้วยวัตถุสิ่งของ ดังนั้น กำรที่ปักษีบริจำคสิ่งของช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย จึงจัดเป็นอำทิสทำน ข้อ 1. จัดเป็นอภัยทำน คือ กำรสละควำมโกรธเป็นทำน กำรยกโทษด้วยกำรไม่ พยำบำทจองเวร ข้อ 2. จัดเป็นธรรมทำนประเภทวิทยำทำน คือ กำรให้ควำมรู้ทำงโลก เช่น วิชำกำร ต่ำงๆ เป็นต้น ข้อ 4. จัดเป็นธัมมัสสวนมัย คือ กำรทำบุญด้วยกำรฟังธรรม 16. 4 ศึกษำคำสอนของพระพุทธเจ้ำเพื่อนำไปเป็นแบบอย่ำงแก่ผู้อื่น หรือเผยแผ่เป็นธรรม ทำน โดยสอนให้ผู้อื่นปฏิบัติตำมคำสอนของพระพุทธเจ้ำ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วย สืบทอดพระพุทธศำสนำให้คนทั่วไปตระหนักและเข้ำใจพระธรรมคำสอนมำกยิ่งขึ้น 17. 4 เพรำะวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันมำฆบูชำ ซึ่งเป็นวันที่พระอรหันต์ 1,250 รูป มำ ประชุมพร้อมกัน ณ เวฬุวันมหำวิหำรโดยมิได้นัดหมำย และพระสงฆ์เหล่ำนั้นได้รับ กำรอุปสมบทจำกพระพุทธเจ้ำโดยตรง รวมถึงพระพุทธเจ้ำได้ทรงแสดงโอวำทปำฏิ- โมกข์ ดังนั้น กิจกรรมที่พุทธศำสนิกชนควรปฏิบัติ ได้แก่ ทำบุญตักบำตร ฟังธรรม และเวียนเทียน ส่วนกำรถวำยผ้ำอำบน้ำฝนจะกระทำกันในวันเข้ำพรรษำ คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 18. 1 เนื่องจำกวิธีกำรคิดแบบปลุกเร้ำคุณธรรม เป็นกำรใช้เหตุผลหรืออุบำยเพื่อให้เกิดกำร กระทำที่เป็นกุศล สำหรับควำมตำยนั้น กำรคิดแบบปลุกเร้ำคุณธรรมมักจะเน้นให้คิด อยู่เสมอว่ำมนุษย์มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่นำน ดังนั้น ควรจะทำควำมดีให้มำกๆ ดัง คำกล่ำวที่ว่ำ “เกิดมำทั้งทีทำดีให้ได้ จะตำยทั้งทีทำควำมดีฝำกไว้” ซึ่งกำรที่สมหญิง บริจำคร่ำงกำยเพื่อกำรศึกษำวิจัยถือเป็นกำรคิดแบบปลุกเร้ำคุณธรรม 19. 4 หลังกำรสังคำยนำพระไตรปิฎกครั้งที่ 3 พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระเกรงว่ำ อนำคต ภำยภำคหน้ำ พระพุทธศำสนำอำจเสื่อมสูญไปจำกชมพูทวีปได้ จึงสมควรส่งพระ สมณทูตออกไปเผยแผ่พระพุทธศำสนำยังดินแดนต่ำงๆ ซึ่งพระเจ้ำอโศกมหำรำช ทรงเห็นชอบด้วย จึงทรงจัดแบ่งพระสมณทูตออกเป็น 9 สำย เดินทำงไปประกำศ ศำสนำยังดินแดนต่ำงๆ และในที่สุดกำรคำดกำรณ์ของพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ก็เป็นจริง กำลต่อมำพระพุทธศำสนำได้ค่อยๆ เสื่อมสูญไปจำกอินเดียจนหมดสิ้น แต่ไปเจริญรุ่งเรืองอยู่ในดินแดนอื่น เช่น ประเทศศรีลังกำ ไทย พม่ำ ลำว กัมพูชำ เวียดนำม จีน เกำหลี ญี่ปุ่น เป็นต้น 20. 2 วันวิสำขบูชำ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เป็นวันที่พระพุทธเจ้ำประสูติ ตรัสรู้ และ
  • 23. ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ ปรินิพพำน ส่วนข้อ 1. วันมำฆบูชำ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ข้อ 3. วันอัฏฐมีบูชำ ตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 ข้อ 4 . วันอำสำฬหบูชำ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 21. 2 เพรำะถือเป็นกำรกระทำที่ผิดกฎหมำยจรำจร อีกทั้งยังอำจเกิดอุบัติเหตุสร้ำงควำม เดือดร้อนแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไปด้วย 22. 3 เนื่องจำกกำรที่ชำวบ้ำนมีส่วนร่วมคิดตัดสินใจ เพื่อพัฒนำหมู่บ้ำนของตน เป็น ลักษณะของสังคมประชำธิปไตยที่มีรำกฐำนมำจำกควำมร่วมมือชำวบ้ำนเอง ซึ่งจะช่วยให้สังคมไทยเข้มแข็งและน่ำอยู่ 23. 1 เนื่องจำกถือเป็นเสรีภำพในเคหสถำนตำมบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในมำตรำ 33 ว่ำ “บุคคลย่อมมีเสรีภำพในเคหสถำน บุคคลย่อมได้รับควำมคุ้มครองในกำรที่จะอยู่ อำศัยและครอบครองเคหสถำนโดยปกติสุข กำรเข้ำไปในเคหสถำนหรือในที่ รโหฐำน จะกระทำไม่ได้ เว้นแต่มีคำสั่งหรือหมำยของศำล หรือมีเหตุอย่ำงอื่นตำมที่ กฎหมำยบัญญัติ” ส่วนกำรกระทำในข้ออื่นๆ ที่ใช้กำลังหรือควำมรุนแรงถือว่ำผิด แนวทำงของหลักสิทธิมนุษยชน 24. 1 เนื่องจำกกำรใช้อำนำจของทั้ง 3 ฝ่ำยจะต้องเป็นไปอย่ำงโปร่งใสและอำนำจจะต้อง ไม่ตกอยู่กับฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ง ซึ่งกำรที่ 3 ฝ่ำยสำมำรถตรวจกำรทำงำนซึ่งกันและกันได้ ก็จะช่วยให้กำรทำงำนมีประสิทธิภำพ ส่งผลดีต่อกำรพัฒนำประเทศในด้ำนต่ำงๆ 25. 2 เนื่องจำกกำรปกครองส่วนท้องถิ่นมีเป้ำหมำยสำคัญเพื่อกระจำยอำนำจจำกส่วนกลำง ไปสู่ชนบท เป็นกำรเปิดโอกำสให้คนในพื้นที่ชนบท สำมำรถบริหำรจัดกำร รวมถึง หำแนวทำงกำรแก้ไขปัญหำในพื้นที่ของตนได้อย่ำงเหมำะสมกับวิถีชีวิต และควำม ต้องกำรอย่ำงแท้จริง 26. 2 เพรำะแผ่นซีดีเพลง ถือเป็นงำนอันมีลิขสิทธิ์ ซึ่งกำรแก้ไข ดัดแปลง ทำซ้ำ ย่อมมี ควำมผิดตำม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 27. 3 เพรำะตำม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ได้บัญญัติสิทธิ ของผู้บริโภคไว้ ซึ่งสิทธิด้ำนหนึ่งคือ สิทธิที่จะได้รับกำรแสดงฉลำกสินค้ำ รวมถึง สิทธิที่จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้ำอย่ำงถูกต้อง 28. 1 เนื่องจำกในศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู มีควำมเชื่อว่ำ หอยสังข์ เป็นวัตถุมงคล ดังนั้น น้ำ
  • 24. ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ ที่อยู่ในหอยสังข์ จึงมีควำมศักดิ์สิทธิ์ สำมำรถช่วยปัดเป่ำควำมชั่วร้ำยทั้งหลำย ซึ่งใน พิธีแต่งงำนของคนไทยมีกำรรดน้ำสังข์ ซึ่งเชื่อว่ำจะเป็นสิริมงคลแก่คู่บ่ำว-สำว 29. 1 ศำสนำต่ำงๆ ล้วนสอนให้คนเป็นคนดี มีเมตตำต่อกัน กำรนำหลักคำสอนทำงศำสนำ มำเป็นแนวทำงในกำรปฏิบัติตน เช่น กำรให้ควำมช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้ำนที่ ได้รับควำมเดือดร้อนจำกภัยพิบัติต่ำงๆ กำรไม่เข้ำไปแทรกแซงกิจกำรภำยในของ ประเทศเพื่อนบ้ำน จะส่งผลให้ประเทศในอำเซียนเกิดควำมเข้ำใจอันดีระหว่ำงกัน ได้ดียิ่งขึ้น 30. 2 เพรำะในสังคมประชำธิปไตย ประชำชนทุกคนมีสิทธิเสรีภำพเท่ำเทียมกัน ทุกคนมี สิทธิที่แสดงออกซึ่งควำมเป็นประชำธิปไตยโดยอยู่ภำยใต้กฎหมำย เมื่อสังคมมีควำม คิดเห็นที่แตกต่ำงกัน จะต้องใช้หลักเหตุและผลในกำรตัดสินปัญหำและข้อขัดแย้ง เพื่อกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสงบสุข 31. 3 หลักกำรสำคัญข้อหนึ่งตำมวิถีประชำธิปไตย คือ กำรเคำรพในควำมคิดเห็นที่ แตกต่ำงของผู้อื่น ซึ่งกำรรับฟังควำมคิดเห็นของผู้อื่นและแสดงควำมคิดเห็นของ ตนเองอย่ำงมีเหตุผล จะช่วยลดควำมขัดแย้งและสร้ำงควำมเข้ำใจอันดีต่อกัน 32. 1 หลังจำกที่วุฒิสภำให้ควำมเห็นชอบในร่ำงพระรำชบัญญัติแล้ว นำยกรัฐมนตรีจะต้อง เป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้ำถวำยฯ พระมหำกษัตริย์ เพื่อทรงลงพระปรมำภิไธย และประกำศ ใช้ในรำชกิจจำนุเบกษำ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป 33. 4 เพรำะหลักกำรปกครองแบบรวมอำนำจจะจัดระเบียบกำรปกครองโดยรวมอำนำจไว้ ที่ส่วนกลำง เพื่อกำหนดนโยบำยและควบคุมกำรปฏิบัติงำนรำชกำรทั่วประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้จัดระเบียบกำรบริหำรรำชกำรส่วนกลำงไว้ ได้แก่ สำนักนำยก รัฐมนตรี กระทรวง และกรม 34. 1 กำรพิจำรณำพื้นที่ให้มีกำรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษจะพิจำรณำจำกลักษณะ ต่ำงๆ ได้แก่ เขตที่เป็นเมืองหลวง เขตพื้นที่ชำยแดน เขตแหล่งท่องเที่ยว และเขต พื้นที่เป็นเกำะและชนบท ซึ่งในกรณีของเมืองพัทยำนั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งมีกำรจัดเก็บรำยได้เข้ำจำนวนมหำศำล และมีนักท่องเที่ยวจำกทั่วทุกมุมโลก เดินทำงเข้ำมำ จึงเหมำะสมที่จะมีกำรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ