SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
Download to read offline
บทที่ 6
นันทนาการในโรงเรียน
โรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่มีหน้าที่จัดการศึกษาให้เด็กและเยาวชนอย่างเป็นระบบเพื่อให้
เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนตามอัตภาพของบุคคลที่พึงจะกระทาได้ นอกจากความรู้ทาง
วิชาการแล้ว ทางโรงเรียนควรจะมีการจัดกิจกรรมนันทนาการเพื่อพัฒนาจิตใจนักเรียนให้มีคุณธรรม
จริยธรรม สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้เป็นอย่างดี และเพื่อให้เยาวชนเข้าใจการเจริญเติบโตทั้งด้าน
ร่างกาย อารมณ์ สังคมศึกษาและเพื่อให้เขามีโอกาสสามารถประกอบอาชีพและเป็นพลเมืองที่ดีของ
ประเทศชาติต่อไป
การจัดนันทนาการในโรงเรียน
การจัดโปรแกรมนันทนาการในโรงเรียน จึงเป็นสิ่งจาเป็นและสาคัญที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนา
ลักษณะนิสัยพึงประสงค์ของเด็กและเยาวชนช่วยให้เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสเข้าใจ มีความรักและซาบซึ้งกับ
กิจกรรมยามว่าง รู้จักใช้เวลาให้เกิดประโยชน์โดยการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการอย่างมีจุดมุ่งหมาย
ส่งเสริมการสร้างลักษณะนิสัยและความเป็นพลเมืองที่ดีในอนาคตในปัจจุบันวิชานันทนาการไม่ได้บรรจุใน
หลักสูตรการเรียนการสอนในระดับประถมและมัธยมศึกษา แต่ได้มีวิชาต่างๆที่เรียกว่ากิจกรรมลักษณะ
สร้างนิสัยซึ่งเป็นกิจกรรมนันทนาการทั้งสิ้นโดยอยู่ในรูปวิชาดนตรีศึกษา ศิลปศึกษา หัตถศึกษา และพล
ศึกษา กิจกรรมนันทนาการสามารถจัดได้โดยคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนในรูปแบบลักษณะต่างๆที่
โรงเรียนสามารถสร้างเสริมประสบการณ์ตรง เพื่อให้เกิดอารมณ์สุข ทั้งสนุกสนานและความสุข สงบแด่
ผู้เข้าร่วม
ตัวอย่างกิจกรรมที่โรงเรียนจัดโครงการนันทนาการสาหรับนักเรียน
1.กีฬาสี หรือวันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ส่งเสริมความรัก และเข้าใจกีฬา
2. มหกรรมส่งเสริมกีฬาเพื่อสุขภาพ และสมรรถภาพ
3. เทศกาลคริสมาสต์ ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ ส่งเสริมความเข้าใจอันดี วิถีชีวิต วัฒนธรรม
ประเพณีของชุมชนและสังคม
4. เทศกาลแห่งความรัก วันครู วันเด็ก วันแม่ ส่งเสริมคุณธรรม
5. วันอาสาพัฒนาชุมชน เช่น วัด โรงเรียน ศาลา ส่งเสริมคุณค่า การให้และการรับ การบริการ
เพื่อตอบสนองเพื่อนมนุษย์
6. นิทรรศการ เทศกาลดนตรีประเภทต่างๆทาให้เกิดการเรียนรู้และซาบซึ้ง
7. การประกวดศิลปะ การฝีมือและงานหัตถกรรมของนักเรียน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ที่ดี
8.นันทนาการทางสังคม เช่น งานแสดงของโรงเรียนงานปิกนิก การแสดงละคร การเต้นรา
ส่งเสริมมนุษยสัมพันธ์และการเรียนรู้
9. กิจกรรมนันทนาการกลางแจ้ง/นอกเมือง เช่น การอยู่ค่ายพักแรม กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี
ยุวกาชาด ซึ่งผสมผสานกิจกรรมอื่น เช่น เดินทางไกล แคมป์ ไฟ ไต่เขา ศึกษาธรรมชาติ
อนุรักษ์ธรรมชาติ การศิลปหัตถกรรม ดนตรี ละคร เต้นรา การสังคมในกลุ่มต่างๆ
10. กิจกรรมทัศนศึกษาและท่องเที่ยว ช่วยส่งเสริมประสบการณ์ใหม่ การเรียนรู้ในชีวิตความ
เป็นอยู่ของชุมชน ชนบท ธรรมชาติหรือหน่วยงาน สถานที่ที่ศึกษาได้
11. กิจกรรมพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม เช่น ฟังเทศน์ ฟังธรรม ไหว้พระสวดมนตร์
12. กิจกรรมเสริมในห้องเรียน เช่น วิชาภาษาไทย – แต่งกลอน เขียนเรียงความ วิชา
ภาษาอังกฤษ – เล่นเกมCrossword วิชาคณิตศาสตร์ – คณิตคิดเร็ว เป็นต้น
การจัดนันทนาการในโรงเรียนคือ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์และลักษณะนิสัยที่พึง
ประสงค์ในรูปแบบต่างๆเพื่อสนองความต้องการของเด็กนักเรียนหรือเพื่อชดเชยให้แก่เด็กนักเรียนทั้งใน
ด้านการออกกาลังกาย และเพื่อความสนุกสนานร่าเริงนอกเวลาเรียน หรือเป็ นกิจกรรมพิเศษ
นักเรียนแต่ละคนจะประสบความสาเร็จ หรือมีความเจริญเติบโต พัฒนาทางกายและจิตใจได้มาก
น้อย หรือรวดเร็วต่างกันขึ้นอยู่กับนักเรียนได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในเวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพราะ
นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมเวลาว่าง สามารถที่จะค้นพบสิ่งที่เขาต้องการ และความถนัดตามธรรมชาติของ
ตัวเขาเองได้เป็นอย่างดี ทาให้เขาสามารถพัฒนาตัวเองไปในแนวทางที่เหมาะสมและ เป็นการส่งเสริม
สุขภาพทางด้านร่างกายและจิตใจ
วัตถุประสงค์ในการจัดนันทนาการในโรงเรียน
1.ความรู้ ให้นักเรียนมีความรู้ด้านนันทนาการเพื่อให้นาความรู้นี้ไปใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และ
พัฒนาลักษณะนิสัยที่พึ่งประสงค์
2.ทักษะ ให้นักเรียนมีทักษะในกิจกรรมเสริมสร้างลักษณะนิสัย เพื่อจะได้นาไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ในยามว่าง
3.ทัศนคติ ส่งเสริมให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
4.พฤติกรรม ให้นักเรียนได้เปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีงามให้เป็นพฤติกรรมต่างๆไปในทางที่ดีงาม
คุณค่าและประโยชน์นันทนาการสาหรับนักเรียน
นันทนาการในโรงเรียนมีบทบาทสาคัญต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนก่อให้เกิดการพัฒนา
ทางด้านการเจริญเติบโตซึ่งเมื่อนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแล้วจะก่อให้เกิดคุณค่าและประโยชน์ดังนี้
1. เพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยและฝึกความเป็นพลเมืองดีของชาติ
2.เพื่อให้เด็กรู้จักระเบียบวินัยและหน้าที่รับผิดชอบ
3.เพื่อให้มีความร่วมมือประสานงานในกลุ่มที่มีความสนใจร่วมกัน
4.เพื่อให้นักเรียนได้พบความสามารถพิเศษ ความถนัดและความสนใจของตนเองได้ฝึกฝนและ
พัฒนาความสามารถให้ดียิ่งขึ้นไป
5.เพื่อก่อให้เกิดวินัยที่ดี ส่งเสริมให้นักเรียนเคารพกฎข้อบังคับต่างๆในสังคมที่ตนอยู่และวางตนได้
ดีในสังคม
6.เพื่อให้นักเรียนมีความสามัคคีในหมู่คณะ รักโรงเรียน หยิ่งในเกียรติของโรงเรียนและมีขวัญดี
7.เป็นการส่งเสริมทักษะต่างๆเช่น ทักษะในการเป็นผู้นา การทางานร่วมกัน มีความคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์และเกิดความสนุกสนานในงานที่ตนเองสนใจ
8.เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครู กับนักเรียนและนักเรียนกับนักเรียนเอง
9.ส่งเสริมพัฒนาการด้านบุคลิกภาพ มีความรับผิดชอบและรู้จักเคารพผู้อื่น
10.เพื่อช่วยให้หลักสูตรสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการศึกษาอย่างแท้จริง
11.เพื่อช่วยส่งเสริมการเรียนวิชาต่างๆในหลักสูตรของนักเรียนให้ดีขึ้น
12.ช่วยให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์และมีประสิทธิภาพ
คุณลักษณะของกิจกรรม
1.นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมตามความสมัครใจ มีเสรีภาพในการร่วมกิจกรรมที่ตนจะร่วม
2. ได้รับความเห็นชอบตามอานาจหน้าที่ของโรงเรียน (ข้อนี้เป็นปัญหาสาคัญในโรงเรียนไทย
สาเหตุ จากผู้บริหารและนักเรียนไม่เข้าใจในเรื่องนี้)
3.ไม่มีหน่วยกิจหรือคะแนนวิชา
4.ให้ความเสมอภาคและยุติธรรมต่อนักเรียนอย่างเหมาะสมตามความสามารถความถนัดความ
สนใจ และกาลังทางด้านเศรษฐกิจของนักเรียน
ความจาเป็นที่ต้องจัดกิจกรรมนันทนาการของนักเรียน
สรุปความจาเป็นและจุดมุ่งหมายของนันทนาการ พัฒนาการนักเรียน โดยแบ่งออกเป็น 5 ด้านดังนี้
1. ความต้องการทางด้านจิตวิทยา
- ต้องการการยอมรับของเพื่อนร่วมรุ่น
- ต้องการเป็นสมาชิกของกลุ่ม
- ปลดเปลื้อง ความเหงาและเดียวดาย
-ต้องการเพื่อนที่มีจุดสนใจอันเดียวกัน
-ต้องการให้ตนเองเกิดความสาคัญในหมู่เพื่อน
-ต้องการการทดแทนในสิ่งที่ตนเองขาด เช่น การเรียนไม่เก่งโดยหันมาเอาดีทางด้านกีฬา
-การรู้จักทางานเป็นทีม ช่วยสอนความเป็นประชาธิปไตยและสร้างความร่วมมือ
-ต้องการความรัก โดยเฉพาะเด็กที่พ่อและแม่ไม่มีเวลาให้
-ต้องการความสาเร็จ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในบางประเภทของกิจกรรม
-ต้องการการยกย่องชมเชย
-ต้องการความปลอดภัย
- ต้องการฝึกทักษะและการได้รับความรู้ในสภาวะแวดล้อมที่มีความเป็นมิตรและกันเองการ
ช่วยเหลือกันทางวิชาการบรรยากาศไม่เหมือนการสอบหรือรับคาดุว่าในห้องความคิดจะ
ออกมาอย่างอิสระ
2. ดึงเอาความสนใจความกระตือรือร้นของเด็กให้ปรากฏออกมา
กิจกรรมของนักเรียนถ้าหากวางแผนและดาเนินการให้ดีแล้วจะนานักเรียนไปสู่เป้ าหมายหลาย
อย่าง ถึงแม้บางอย่างจะเห็นผลสาเร็จง่ายหรือบางอย่างจะเห็นผลได้ช้า แต่จะต้องมีเป้ าหมายที่แท้จริงที่
เด็กสามารถจะบรรลุได้ เช่น การมีสภานักเรียน จะทาให้เด็กเรียนธรรมนูญปกครองกันเอง มีการหาเสียง
เลือกตั้ง มีการแต่งตั้งผู้ดารงตาแหน่งต่างๆในสานักงานและการเข้าพบกับผู้บริหารเพื่อปรึกษา อภิปราย
ปัญหาของโรงเรียน
ตัวอย่างอีกประการหนึ่งทีพอจะมองเห็นเด่นชัด เด็กคนหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองเรียนไม่เก่งจึงคิดอยากจะ
ออกจากโรงเรียนแต่เขาได้รับเลือกให้เป็นนักกีฬาและกรีฑา เด็กคนนี้ไม่ทราบมาก่อนว่าเขามีความสามารถ
ในที่จะเป็นแชมป์ ในการวิ่งแข่ง แต่รู้ตนเองว่าตนเองสามารถวิ่งได้เร็วเขาประสบความสาเร็จในการวิ่งแข่ง
และเป็นวีรบุรุษสาหรับเพื่อนๆเขาจึงไม่ลาออก และเป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อเขาเป็นที่ยอมรับของเพื่อนเขาก็
ปรับปรุงตัวทางด้านการเรียนดีขึ้นและไม่ลาออก เด็กบางคนถูกเพื่อนชวนไปสนุกสนานทางอื่นซึ่งไม่เป็น
ประโยชน์แต่เขารู้สึกว่าจะต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมทางชุมนุมที่เขารับผิดชอบ จึงปฏิเสธเพื่อนเพราะเห็น
ความสาคัญของชุมนุมมากกว่า เป็นต้น
กิจกรรมของนักเรียนหลายประเภทที่จะดึงเอาความสนใจ ความสามารถพิเศษและความ
กระตือรือร้นออกมาให้เห็นชัด เช่น กิจกรรมทางหนังสือพิมพ์ วารสาร จัดนิทรรศการ ศิลปะ วาดเขียน
กิจกรรมที่มีกรประกวดแข่งขันต่างๆถึงแม้บางครั้งความเฉียบแหลมจะไม่ปรากฏออกมาแต่ความตั้งใจและ
กระตือรือร้นจะเห็นได้อย่างเด่นชัด
กิจกรรมพิเศษต่างๆจะมีคุณสมบัติพอที่จะทาให้เด็กแสดงความกระตือรือร้นออกมา ดังนี้
1. ต้องมีอิสระในการเลือกที่จะทา ไม่ควรมีการบังคับให้ทาเพราะกิจกรรมเหล่านี้ไม่ใช่การศึกษาใน
ชั้นเรียน เด็กจะทาโดยความสมัครใจ
2. ในการทากิจกรรม เด็กที่ไม่ตอบสนองต่อกิจกรรม ควรได้รับการช่วยเหลือเพื่อให้เด็กตระหนักถึง
ความสาคัญของความรับผิดชอบต่อกิจกรรมเช่นกิจกรรมในมหาวิทยาลัยที่ทาให้นิสิตเข้าถึงกิจกรรมและ
เป็นผู้จัดทากิจกรรมขึ้นเพื่อนสร้างจิตสานึกให้กับนิสิตและปลูกฝังความรับผิดชอบ
3.ใช้เวลาว่างให้มีคุณค่าและเกิดประโยชน์
กิจกรรมของนักเรียนจะทาให้นักเรียนรู้ถึงการใช้เวลาอย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์ต่อตนเอง
และส่วนรวม ดังจะเห็นจากเป้ าหมายที่เกิดขึ้น คือ
1.ไม่ตั้งตนเป็นผู้ต่อต้านสังคมหรือประพฤติผิดต่อสังคม เมื่อเด็กมีกิจกรรมที่เขาสนใจอยู่ในหมู่
เพื่อนและการมีผู้แนะนาที่ดี นักเรียนจะเห็นความสาคัญและเห็นประโยชน์ สร้างความเข้าใจและก่อให้เกิด
ประโยชน์
2.นักเรียนจะได้พบกับผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน เกิดการสร้างความสัมพันธ์แลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นที่ดีสร้างกลุ่มขึ้นมาเพื่อตอบสนองความรู้และความต้องการ
3.กิจกรรมนักเรียนบางประเภท อาจทาให้เด็กได้พบสิ่งที่มีค่าต่อชีวิตในภายหลัง เช่น ความรักใน
ดนตรี ทาให้เล่นดนตรี การสะสมแสตมป์ เหรียญสมัยต่างๆ การทาสวนครัว เลี้ยงกล้วยไม้เหล่านี้จะทาให้
ชีวิตในภายหลังสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
4.ก่อให้เกิดมิตรภาพระหว่างเด็กด้วยกัน และระหว่างเด็กกับครูให้แน่นแฟ้ นยิ่งขึ้น เด็กที่สนใจในสิ่ง
เดียวกันมักจะหาเวลาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนามิตรภาพ การที่เด็ก
ได้ร่วมกันรับผิดชอบช่วยเหลือในกิจกรรมที่ทาด้วยกัน จะทาให้เด็กรักกันมากขึ้น ถึงแม้จะออกจากโรงเรียน
ไปแล้วก็ตาม กับครูก็เช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ในห้องเรียนจะเกิดขึ้นยาก เพราะมีความเครียดและเป็น
ทางการ แต่ถ้าครูเข้าร่วมในกิจกรรมบางอย่างกับเด็ก ทาให้เด็กมีโอกาสคุยสังสรรค์กันแบบไม่เป็นทางการ
จะช่วยทาให้เกิดมิตรภาพและความเข้าใจซึ่งกันและกันดีขึ้น ทั้งนี้ก็ต้องพึงระวังบางประการที่เกี่ยวกับ
จรรยาบรรณ และวัฒนธรรมบางอย่างของไทยที่เป็นอุปสรรคอยู่บ้าง
5.พัฒนาความเป็นผู้นากิจกรรมของนักเรียนซึ่งอยู่นอกหลักสูตรจะช่วยพัฒนาความเป็นผู้นาของ
นักเรียนได้ดีกว่าในชั้นเรียน ข้อพึงระวังมีอยู่ว่าอาจารย์หรือครูที่ปรึกษาทุกคนจะต้องระลึกว่าขณะที่เข้าไป
เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนั้น ตนเองไม่ได้ทาหน้าที่สอน ต้องให้โอกาสเด็กแสดงไม่ใช่ครูแสดงเองเสียหมด เด็ก
ต้องได้โอกาสนากันเอง เด็กมีโอกาสเลือก และประกอบกิจกรรมเพื่อฝึกฝนตนเอง (ข้อนี้ส่วนมากครูซึ่งเป็นผู้
มีประสบการณ์สูงกว่ามักไม่ค่อยปล่อยให้เด็กทาเอง เพราะกลัวความผิดพลาด) ถ้าครูเข้าไปเกี่ยวข้องมาก
เกินไป สภาพของกิจกรรมก็คงไม่แตกต่างจากการเรียนในชั้น ถ้าเด็กได้ทากันเอง เด็กจะรู้สึกว่าตนได้
ทางานกับเพื่อนมากกว่าการทาให้กับครู ซึ่งครูไม่จาเป็นต้องพัฒนาอีกแล้วในด้านนี้นอกจากเด็กต้องการ
ความช่วยเหลือบางประการ ซึ่งครูก็ควรให้แต่ระวังอย่าให้กระทบกระเทือนถึงความเป็นผู้นาของเด็ก
กิจกรรมนันทนาการของกลุ่มบุคคลในแต่ละวัย
-ระดับอนุบาล (อายุ 4-6 ปี) กิจกรรมนันทนาการที่สามารถช่วยพัฒนาการทางด้านร่างกายได้เป็น
อย่างดี คือ การฝึกให้เด็กได้ใช้สายตา และมือให้มีความสัมพันธ์กัน โดยไม่ต้องคานึงถึงความละเอียดอ่อน
มากเกินไป
-ระดับประถมศึกษาตอนต้น (อายุ 7-9 ปี) การจัดกิจกรรมในช่วงวัยนี้ควรจะคานึงถึงการปรับ
ทักษะทางร่างกาย ให้มีความสอดคล้องและความสัมพันธ์กับการประกอบกิจกรรมต่างๆ
-ระดับประถมศึกษาตอนปลาย (อายุ 10-12 ปี) กิจกรรมที่เหมาะสมในช่วงนี้ควรจะเป็นกิจกรรม
เกี่ยวกับการใช้มือ และงานประเภทสร้างสรรค์ เช่น ศิลปกรรม หัตถกรรม ดนตรี การวาดรูป ระบายสี และ
การสร้างแบบจะลอง เป็นต้น เนื่องจากเด็กวัยนี้สามารถทางานได้ประณีตมากขึ้น
-ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (อายุ 13-15 ปี) กิจกรรมนันทนาการที่ควรจะส่งเสริมให้วัยนี้คือ
กิจกรรมการตอบสนองความอยากรู้ อยากเห็น และท้าทายความสามารถ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เขาสนใจ
ต่อการเข้าร่วมกิจกรรมได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อกิจกรรมนันทนาการ ที่จะช่วย
พัฒนาการให้แก่พวกเขาต่อไป
-ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (อายุ 16-18 ปี) เนื่องจากช่วงวัยนี้จะมีเวลาว่างมาก ดังนั้น จึงควร
เป็นในเรื่องของการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยจัดกิจกรรมนันทนาการให้มีความหลากหลายรูปแบบ
และสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะกิจกรรมภายในครอบครัว จะมีความจาเป็นอย่างยิ่งในช่วงวัยนี้
สถานที่และเครื่องอานวยความสะดวกในการจัดนันทนาการในโรงเรียน
1. สถานที่กลางแจ้ง
1.1 สนามเด็กเล่น 1.4 สวนหย่อม
1.2 สนามกีฬา 1.5 ป่าของโรงเรียน
1.3สวนครัว สวนดอกไม้ 1.6 สถานที่แสดงกลางแจ้ง
2. สถานที่ในร่ม
2.1 ห้องฝึกกีฬา และพลศึกษา 2.6 ห้องดนตรี
2.2 ห้องนันทนาการ 2.7 ห้องสมุด
2.3 ห้องประชุม และเวทีแสดง 2.8 พิพิธภัณฑ์ในโรงเรียน
2.4 ห้องฝึกฝีมือ และหัตถกรรม 2.9 โรงยิมเนเซียม
2.5 ห้องศิลปศึกษา 2.10 ห้องออกกาลังกายและแอโรบิค
3. อุปกรณ์นันทนาการ
3.1 อุปกรณ์กีฬา 3.5 อุปกรณ์ศิลปะ และหัตถกรรม
3.2 อุปกรณ์ดนตรี 3.6 อุปกรณ์สนามเด็กเล่น
3.3 อุปกรณ์ละคร 3.7 อุปกรณ์การเกษตร
3.4 อุปกรณ์นันทนาการนอกเมือง
เวลาในการจัดกิจกรรมนันทนาการ
เวลาในการจัดกิจกรรมนันทนาการจะต้องอยู่ในช่วงเวลาว่างหรือช่วงเวลาที่เป็นหยุด ซึ่งเวลาใน
การจัดกิจกรรมนันทนาการมีดังต่อไปนี้
1. ตอนเช้าก่อนเข้าเรียน
2. ตอนพักกลางวัน
3. ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
4. วันเสาร์ อาทิตย์
5. วันกีฬา
6. วันหยุดพิเศษ เช่น วันปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง วันปิดเทอม ฯลฯ
การจัดนันทนาการในรูปแบบ และชนิดต่างๆของชุมนุม
1. กิจกรรมส่งเสริม และพัฒนาทักษะ
1. ชุมนุมกีฬาและกรีฑา 5. ชุมนุมศิลปศึกษา
2. ชุมนุมดนตรี 6. ชุมนุมเกษตร
3. ชุมนุมละคร 7. ชุมนุมคอมพิวเตอร์
4. ชุมนุมสุนทรพจน์ 8. ชุมนุมนักอ่าน และโต้วาที
2. กิจกรรมที่สัมพันธ์กับเนื้อหาวิชาการ
1. ชุมนุมวิทยาศาสตร์ 5. ชุมนุมกีฬาเพื่อสุขภาพ
2. ชุมนุมภาษาอังกฤษ 6. ชุมนุมธรรมชาติศึกษา
3. ชุมนุมสังคมศึกษา 7. ชุมนุมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
4. ชุมนุมภาษาไทย 8. ชุมนุมนันทนาการ
3. ชุมนุมเพื่อการบริการ
1. ชุมนุมทัศนาจร 6. ชุมนุมแอโรบิคเพื่อสุขภาพ
2. ชุมนุมห้องสมุด วรรณกรรม 7. ชุมนุมทัศนศึกษา
3. ชุมนุมอาสาพัฒนา 8. ชุมนุมนันทนาการ
4. ชุมนุมร้านค้าของโรงเรียน
5. ชุมนุมการเชียร์
คณะกรรมการดาเนินการกิจกรรม และชุมนุม
1. ประธาน
2. รองประธาน
3. เลขานุการ
4. เหรัญญิก
5. ปฏิคม
6. กรรมการอื่นที่เห็นสมควร
7. อาจารย์ที่ปรึกษ
บทบาทหน้าที่ของผู้จัดกิจกรรมนันทนาการ
บทสรุป
นันทนาการในโรงเรียนเป็นกิจกรรม หรือกระบวนการที่สร้าง และพัฒนาลักษณะนิสัยของเด็ก และ
เยาวชนในระบบการศึกษา ให้เกิดความเจริญเติบโตทางกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา และจิตใจ ผู้จัด
กิจกรรมนันทนาการ ได้แก่ คณะกรรมการบริหารของโรงเรียน นักเรียน กลุ่ม ชุมนุม ที่มีความสนใจร่วมกัน
ครูผู้สอนประจาวิชา หรือการมอบอานาจให้กลุ่มอาชีพผู้จัด นันทนาการส่งเสริมจุดมุ่งหมาย คุณค่า และ
ประโยชน์แก่นักเรียนนานาประการ สถานที่ และเครื่องอานวยความสะดวกในโรงเรียนได้แก่ สถานที่
กลางแจ้ง ในร่ม และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง นักเรียนที่ทีความสนใจในรูปแบบชุมนุม แบ่งออกได้ 3 ชนิด ได้แก่
ชุมนุมกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาทักษะ เนื้อหาวิชาการ และเพื่อบริการ ซึ่งการทางาน และการดาเนินการ
กิจกรรม และชุมนุม สามารถกระทาได้เป็นคณะกรรมการ ซึ่งมีหน้าที่บริหาร และดาเนินการให้บรรลุ
เป้ าหมายที่วางไว้ นันทนาการช่วยส่งเสริมในคุณค่าในเรื่องของกิจกรรม การมีส่วนร่วม คุณธรรมและ
ลักษณะสินัยของเยาวชน ตลอดจนเป็นการสร้างคุณค่าในเรื่องของความสมดุลและใช้เวลาว่างให้มี
คุณภาพและสมดุลกับงาน นันทนาการช่วยให้เยาวชนรู้จักการจัดการเวลาพัฒนาคุณค่าทางสังคมระบอบ
ประชาธิปไตยและเป็นประชากรของประเทศที่มีคุณภาพในอนาคต
ตัวอย่างกิจกรรม ผู้จัดกิจกรรม
การจัดกีฬาสี กลุ่มสาระการเรียนรู้พละศึกษา
การประกวดแต่งกลอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
การประกวดวาดภาพระบายสี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
การแข่งขันคณิตคิดเร็ว กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
การแข่งขันจรวดขวดน้า กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ตัวอย่างภาพการจัดกิจกรรมนันทนาการในโรงเรียน
ตัวอย่างภาพการจัดกิจกรรมนันทนาการในโรงเรียน

More Related Content

What's hot

แผนวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
แผนวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแผนวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
แผนวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาThongsawan Seeha
 
แบบประเมินต่างๆ
แบบประเมินต่างๆแบบประเมินต่างๆ
แบบประเมินต่างๆNaphachol Aon
 
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนโครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนmadechada
 
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่พัน พัน
 
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6Napadon Yingyongsakul
 
แบบฝึกทักษะเรื่อง การแต่งโคลงสี่สุภาพ ชุดที่ ๑๐ เรื่อง กลวิธีในการแต่งโคลง...
แบบฝึกทักษะเรื่อง  การแต่งโคลงสี่สุภาพ  ชุดที่ ๑๐  เรื่อง กลวิธีในการแต่งโคลง...แบบฝึกทักษะเรื่อง  การแต่งโคลงสี่สุภาพ  ชุดที่ ๑๐  เรื่อง กลวิธีในการแต่งโคลง...
แบบฝึกทักษะเรื่อง การแต่งโคลงสี่สุภาพ ชุดที่ ๑๐ เรื่อง กลวิธีในการแต่งโคลง...Decha Sirigulwiriya
 
คำกล่าวอวยพรวันคล้ายวันเกิด
คำกล่าวอวยพรวันคล้ายวันเกิดคำกล่าวอวยพรวันคล้ายวันเกิด
คำกล่าวอวยพรวันคล้ายวันเกิดA-NKR Ning
 
ตัวอย่างโครงการสอน
ตัวอย่างโครงการสอนตัวอย่างโครงการสอน
ตัวอย่างโครงการสอนKrupol Phato
 
โครงงานวิชา Is2
โครงงานวิชา Is2โครงงานวิชา Is2
โครงงานวิชา Is2LeoBlack1017
 
ข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1 วิชาสุขศึกษา 5
ข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1  วิชาสุขศึกษา  5ข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1  วิชาสุขศึกษา  5
ข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1 วิชาสุขศึกษา 5Tikaben Phutako
 
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดีแบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดีmaethaya
 
สมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กสมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กGed Gis
 
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิตแบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิตsripayom
 
โครงงานเคมีกัญ (1)
โครงงานเคมีกัญ (1)โครงงานเคมีกัญ (1)
โครงงานเคมีกัญ (1)Guntima NaLove
 
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3Jariya Jaiyot
 
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1KruKaiNui
 
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์กมลรัตน์ ฉิมพาลี
 
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบ
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบ
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบssuserf8d051
 

What's hot (20)

แผนวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
แผนวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแผนวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
แผนวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
 
แบบประเมินต่างๆ
แบบประเมินต่างๆแบบประเมินต่างๆ
แบบประเมินต่างๆ
 
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนโครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
 
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
 
6.ชุด 3 การแพร่
6.ชุด 3 การแพร่6.ชุด 3 การแพร่
6.ชุด 3 การแพร่
 
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
 
ระดับภาษา 2
ระดับภาษา 2ระดับภาษา 2
ระดับภาษา 2
 
แบบฝึกทักษะเรื่อง การแต่งโคลงสี่สุภาพ ชุดที่ ๑๐ เรื่อง กลวิธีในการแต่งโคลง...
แบบฝึกทักษะเรื่อง  การแต่งโคลงสี่สุภาพ  ชุดที่ ๑๐  เรื่อง กลวิธีในการแต่งโคลง...แบบฝึกทักษะเรื่อง  การแต่งโคลงสี่สุภาพ  ชุดที่ ๑๐  เรื่อง กลวิธีในการแต่งโคลง...
แบบฝึกทักษะเรื่อง การแต่งโคลงสี่สุภาพ ชุดที่ ๑๐ เรื่อง กลวิธีในการแต่งโคลง...
 
คำกล่าวอวยพรวันคล้ายวันเกิด
คำกล่าวอวยพรวันคล้ายวันเกิดคำกล่าวอวยพรวันคล้ายวันเกิด
คำกล่าวอวยพรวันคล้ายวันเกิด
 
ตัวอย่างโครงการสอน
ตัวอย่างโครงการสอนตัวอย่างโครงการสอน
ตัวอย่างโครงการสอน
 
โครงงานวิชา Is2
โครงงานวิชา Is2โครงงานวิชา Is2
โครงงานวิชา Is2
 
ข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1 วิชาสุขศึกษา 5
ข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1  วิชาสุขศึกษา  5ข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1  วิชาสุขศึกษา  5
ข้อสอบกลางภาคเรียนที่ 1 วิชาสุขศึกษา 5
 
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดีแบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
 
สมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กสมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็ก
 
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิตแบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
 
โครงงานเคมีกัญ (1)
โครงงานเคมีกัญ (1)โครงงานเคมีกัญ (1)
โครงงานเคมีกัญ (1)
 
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
 
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
 
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์
 
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบ
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบ
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบ
 

Similar to บทที่ 6

นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดี
นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดีนางสาวรุ่งนภา ปัญญาดี
นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดีPayped คิคิ
 
นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดี
นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดีนางสาวรุ่งนภา ปัญญาดี
นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดีPayped คิคิ
 
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Br
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Brการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Br
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน BrProud N. Boonrak
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+477+dltvsocp5+T1 p4 6-u01-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+477+dltvsocp5+T1 p4 6-u01-socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+477+dltvsocp5+T1 p4 6-u01-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+477+dltvsocp5+T1 p4 6-u01-socPrachoom Rangkasikorn
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+494+dltvsocp6+T1 p4 6-u01-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+494+dltvsocp6+T1 p4 6-u01-socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+494+dltvsocp6+T1 p4 6-u01-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+494+dltvsocp6+T1 p4 6-u01-socPrachoom Rangkasikorn
 
บทที่ 1 นายต้นพิมให้
บทที่ 1 นายต้นพิมให้บทที่ 1 นายต้นพิมให้
บทที่ 1 นายต้นพิมให้Alisa Samansri
 
คุณธรรม 8 ประการ
คุณธรรม 8 ประการคุณธรรม 8 ประการ
คุณธรรม 8 ประการPraewpan219
 
9.หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
9.หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน9.หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
9.หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนnang_phy29
 
หลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ
หลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือหลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ
หลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือwatdang
 
วิสัยทัศน์
วิสัยทัศน์วิสัยทัศน์
วิสัยทัศน์nang_phy29
 
หลักสูตรเสริมความรู้อาเซียนศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย
หลักสูตรเสริมความรู้อาเซียนศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยหลักสูตรเสริมความรู้อาเซียนศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย
หลักสูตรเสริมความรู้อาเซียนศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยTeresa Di Gesu
 
อนุบาลศศิมา
อนุบาลศศิมาอนุบาลศศิมา
อนุบาลศศิมาhihowryou
 
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขโครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขN'Pop Intrara
 
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขโครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขN'Pop Intrara
 
9789740330790
97897403307909789740330790
9789740330790CUPress
 

Similar to บทที่ 6 (20)

นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดี
นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดีนางสาวรุ่งนภา ปัญญาดี
นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดี
 
นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดี
นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดีนางสาวรุ่งนภา ปัญญาดี
นางสาวรุ่งนภา ปัญญาดี
 
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Br
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Brการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Br
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Br
 
School curiculum
School curiculumSchool curiculum
School curiculum
 
วโรงเรียนบ้านเกาะสินไห
วโรงเรียนบ้านเกาะสินไหวโรงเรียนบ้านเกาะสินไห
วโรงเรียนบ้านเกาะสินไห
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+477+dltvsocp5+T1 p4 6-u01-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+477+dltvsocp5+T1 p4 6-u01-socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+477+dltvsocp5+T1 p4 6-u01-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+477+dltvsocp5+T1 p4 6-u01-soc
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+494+dltvsocp6+T1 p4 6-u01-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+494+dltvsocp6+T1 p4 6-u01-socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+494+dltvsocp6+T1 p4 6-u01-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 1+494+dltvsocp6+T1 p4 6-u01-soc
 
บทที่ 1 นายต้นพิมให้
บทที่ 1 นายต้นพิมให้บทที่ 1 นายต้นพิมให้
บทที่ 1 นายต้นพิมให้
 
บริหารกิจการนักเรียน
บริหารกิจการนักเรียนบริหารกิจการนักเรียน
บริหารกิจการนักเรียน
 
ชื่อโครงการ 57
ชื่อโครงการ 57ชื่อโครงการ 57
ชื่อโครงการ 57
 
คุณธรรม 8 ประการ
คุณธรรม 8 ประการคุณธรรม 8 ประการ
คุณธรรม 8 ประการ
 
9.หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
9.หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน9.หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
9.หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
 
หลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ
หลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือหลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ
หลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ
 
วิสัยทัศน์
วิสัยทัศน์วิสัยทัศน์
วิสัยทัศน์
 
หลักสูตรเสริมความรู้อาเซียนศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย
หลักสูตรเสริมความรู้อาเซียนศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยหลักสูตรเสริมความรู้อาเซียนศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย
หลักสูตรเสริมความรู้อาเซียนศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย
 
อนุบาลศศิมา
อนุบาลศศิมาอนุบาลศศิมา
อนุบาลศศิมา
 
Kam1
Kam1Kam1
Kam1
 
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขโครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
 
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขโครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
 
9789740330790
97897403307909789740330790
9789740330790
 

More from teaw-sirinapa

รายงานการประชุมครั้งที่ 1
รายงานการประชุมครั้งที่ 1รายงานการประชุมครั้งที่ 1
รายงานการประชุมครั้งที่ 1teaw-sirinapa
 
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมนันทนาการ
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมนันทนาการขั้นตอนการจัดกิจกรรมนันทนาการ
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมนันทนาการteaw-sirinapa
 
ใบความรู้ การจัดนันทนาการ
ใบความรู้ การจัดนันทนาการใบความรู้ การจัดนันทนาการ
ใบความรู้ การจัดนันทนาการteaw-sirinapa
 
การจัดและบริหารนันทนาการ
การจัดและบริหารนันทนาการการจัดและบริหารนันทนาการ
การจัดและบริหารนันทนาการteaw-sirinapa
 

More from teaw-sirinapa (20)

รายงานการประชุมครั้งที่ 1
รายงานการประชุมครั้งที่ 1รายงานการประชุมครั้งที่ 1
รายงานการประชุมครั้งที่ 1
 
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมนันทนาการ
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมนันทนาการขั้นตอนการจัดกิจกรรมนันทนาการ
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมนันทนาการ
 
ใบความรู้ การจัดนันทนาการ
ใบความรู้ การจัดนันทนาการใบความรู้ การจัดนันทนาการ
ใบความรู้ การจัดนันทนาการ
 
การจัดและบริหารนันทนาการ
การจัดและบริหารนันทนาการการจัดและบริหารนันทนาการ
การจัดและบริหารนันทนาการ
 
บทที่ 17
บทที่ 17บทที่ 17
บทที่ 17
 
บทที่ 16
บทที่ 16บทที่ 16
บทที่ 16
 
บทที่ 15
บทที่ 15บทที่ 15
บทที่ 15
 
บทที่ 14
บทที่ 14บทที่ 14
บทที่ 14
 
บทที่ 13
บทที่ 13บทที่ 13
บทที่ 13
 
บทที่ 12
บทที่ 12บทที่ 12
บทที่ 12
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
บทที่ 10
บทที่ 10บทที่ 10
บทที่ 10
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 

บทที่ 6

  • 1. บทที่ 6 นันทนาการในโรงเรียน โรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่มีหน้าที่จัดการศึกษาให้เด็กและเยาวชนอย่างเป็นระบบเพื่อให้ เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนตามอัตภาพของบุคคลที่พึงจะกระทาได้ นอกจากความรู้ทาง วิชาการแล้ว ทางโรงเรียนควรจะมีการจัดกิจกรรมนันทนาการเพื่อพัฒนาจิตใจนักเรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้เป็นอย่างดี และเพื่อให้เยาวชนเข้าใจการเจริญเติบโตทั้งด้าน ร่างกาย อารมณ์ สังคมศึกษาและเพื่อให้เขามีโอกาสสามารถประกอบอาชีพและเป็นพลเมืองที่ดีของ ประเทศชาติต่อไป การจัดนันทนาการในโรงเรียน การจัดโปรแกรมนันทนาการในโรงเรียน จึงเป็นสิ่งจาเป็นและสาคัญที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนา ลักษณะนิสัยพึงประสงค์ของเด็กและเยาวชนช่วยให้เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสเข้าใจ มีความรักและซาบซึ้งกับ กิจกรรมยามว่าง รู้จักใช้เวลาให้เกิดประโยชน์โดยการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการอย่างมีจุดมุ่งหมาย ส่งเสริมการสร้างลักษณะนิสัยและความเป็นพลเมืองที่ดีในอนาคตในปัจจุบันวิชานันทนาการไม่ได้บรรจุใน หลักสูตรการเรียนการสอนในระดับประถมและมัธยมศึกษา แต่ได้มีวิชาต่างๆที่เรียกว่ากิจกรรมลักษณะ สร้างนิสัยซึ่งเป็นกิจกรรมนันทนาการทั้งสิ้นโดยอยู่ในรูปวิชาดนตรีศึกษา ศิลปศึกษา หัตถศึกษา และพล ศึกษา กิจกรรมนันทนาการสามารถจัดได้โดยคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนในรูปแบบลักษณะต่างๆที่ โรงเรียนสามารถสร้างเสริมประสบการณ์ตรง เพื่อให้เกิดอารมณ์สุข ทั้งสนุกสนานและความสุข สงบแด่ ผู้เข้าร่วม ตัวอย่างกิจกรรมที่โรงเรียนจัดโครงการนันทนาการสาหรับนักเรียน 1.กีฬาสี หรือวันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ส่งเสริมความรัก และเข้าใจกีฬา 2. มหกรรมส่งเสริมกีฬาเพื่อสุขภาพ และสมรรถภาพ 3. เทศกาลคริสมาสต์ ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ ส่งเสริมความเข้าใจอันดี วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีของชุมชนและสังคม 4. เทศกาลแห่งความรัก วันครู วันเด็ก วันแม่ ส่งเสริมคุณธรรม 5. วันอาสาพัฒนาชุมชน เช่น วัด โรงเรียน ศาลา ส่งเสริมคุณค่า การให้และการรับ การบริการ เพื่อตอบสนองเพื่อนมนุษย์
  • 2. 6. นิทรรศการ เทศกาลดนตรีประเภทต่างๆทาให้เกิดการเรียนรู้และซาบซึ้ง 7. การประกวดศิลปะ การฝีมือและงานหัตถกรรมของนักเรียน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ที่ดี 8.นันทนาการทางสังคม เช่น งานแสดงของโรงเรียนงานปิกนิก การแสดงละคร การเต้นรา ส่งเสริมมนุษยสัมพันธ์และการเรียนรู้ 9. กิจกรรมนันทนาการกลางแจ้ง/นอกเมือง เช่น การอยู่ค่ายพักแรม กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ซึ่งผสมผสานกิจกรรมอื่น เช่น เดินทางไกล แคมป์ ไฟ ไต่เขา ศึกษาธรรมชาติ อนุรักษ์ธรรมชาติ การศิลปหัตถกรรม ดนตรี ละคร เต้นรา การสังคมในกลุ่มต่างๆ 10. กิจกรรมทัศนศึกษาและท่องเที่ยว ช่วยส่งเสริมประสบการณ์ใหม่ การเรียนรู้ในชีวิตความ เป็นอยู่ของชุมชน ชนบท ธรรมชาติหรือหน่วยงาน สถานที่ที่ศึกษาได้ 11. กิจกรรมพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม เช่น ฟังเทศน์ ฟังธรรม ไหว้พระสวดมนตร์ 12. กิจกรรมเสริมในห้องเรียน เช่น วิชาภาษาไทย – แต่งกลอน เขียนเรียงความ วิชา ภาษาอังกฤษ – เล่นเกมCrossword วิชาคณิตศาสตร์ – คณิตคิดเร็ว เป็นต้น การจัดนันทนาการในโรงเรียนคือ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์และลักษณะนิสัยที่พึง ประสงค์ในรูปแบบต่างๆเพื่อสนองความต้องการของเด็กนักเรียนหรือเพื่อชดเชยให้แก่เด็กนักเรียนทั้งใน ด้านการออกกาลังกาย และเพื่อความสนุกสนานร่าเริงนอกเวลาเรียน หรือเป็ นกิจกรรมพิเศษ นักเรียนแต่ละคนจะประสบความสาเร็จ หรือมีความเจริญเติบโต พัฒนาทางกายและจิตใจได้มาก น้อย หรือรวดเร็วต่างกันขึ้นอยู่กับนักเรียนได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในเวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพราะ นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมเวลาว่าง สามารถที่จะค้นพบสิ่งที่เขาต้องการ และความถนัดตามธรรมชาติของ ตัวเขาเองได้เป็นอย่างดี ทาให้เขาสามารถพัฒนาตัวเองไปในแนวทางที่เหมาะสมและ เป็นการส่งเสริม สุขภาพทางด้านร่างกายและจิตใจ วัตถุประสงค์ในการจัดนันทนาการในโรงเรียน 1.ความรู้ ให้นักเรียนมีความรู้ด้านนันทนาการเพื่อให้นาความรู้นี้ไปใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และ พัฒนาลักษณะนิสัยที่พึ่งประสงค์ 2.ทักษะ ให้นักเรียนมีทักษะในกิจกรรมเสริมสร้างลักษณะนิสัย เพื่อจะได้นาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ในยามว่าง 3.ทัศนคติ ส่งเสริมให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 4.พฤติกรรม ให้นักเรียนได้เปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีงามให้เป็นพฤติกรรมต่างๆไปในทางที่ดีงาม
  • 3. คุณค่าและประโยชน์นันทนาการสาหรับนักเรียน นันทนาการในโรงเรียนมีบทบาทสาคัญต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนก่อให้เกิดการพัฒนา ทางด้านการเจริญเติบโตซึ่งเมื่อนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแล้วจะก่อให้เกิดคุณค่าและประโยชน์ดังนี้ 1. เพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยและฝึกความเป็นพลเมืองดีของชาติ 2.เพื่อให้เด็กรู้จักระเบียบวินัยและหน้าที่รับผิดชอบ 3.เพื่อให้มีความร่วมมือประสานงานในกลุ่มที่มีความสนใจร่วมกัน 4.เพื่อให้นักเรียนได้พบความสามารถพิเศษ ความถนัดและความสนใจของตนเองได้ฝึกฝนและ พัฒนาความสามารถให้ดียิ่งขึ้นไป 5.เพื่อก่อให้เกิดวินัยที่ดี ส่งเสริมให้นักเรียนเคารพกฎข้อบังคับต่างๆในสังคมที่ตนอยู่และวางตนได้ ดีในสังคม 6.เพื่อให้นักเรียนมีความสามัคคีในหมู่คณะ รักโรงเรียน หยิ่งในเกียรติของโรงเรียนและมีขวัญดี 7.เป็นการส่งเสริมทักษะต่างๆเช่น ทักษะในการเป็นผู้นา การทางานร่วมกัน มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์และเกิดความสนุกสนานในงานที่ตนเองสนใจ 8.เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครู กับนักเรียนและนักเรียนกับนักเรียนเอง 9.ส่งเสริมพัฒนาการด้านบุคลิกภาพ มีความรับผิดชอบและรู้จักเคารพผู้อื่น 10.เพื่อช่วยให้หลักสูตรสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการศึกษาอย่างแท้จริง 11.เพื่อช่วยส่งเสริมการเรียนวิชาต่างๆในหลักสูตรของนักเรียนให้ดีขึ้น 12.ช่วยให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์และมีประสิทธิภาพ คุณลักษณะของกิจกรรม 1.นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมตามความสมัครใจ มีเสรีภาพในการร่วมกิจกรรมที่ตนจะร่วม 2. ได้รับความเห็นชอบตามอานาจหน้าที่ของโรงเรียน (ข้อนี้เป็นปัญหาสาคัญในโรงเรียนไทย สาเหตุ จากผู้บริหารและนักเรียนไม่เข้าใจในเรื่องนี้) 3.ไม่มีหน่วยกิจหรือคะแนนวิชา 4.ให้ความเสมอภาคและยุติธรรมต่อนักเรียนอย่างเหมาะสมตามความสามารถความถนัดความ สนใจ และกาลังทางด้านเศรษฐกิจของนักเรียน ความจาเป็นที่ต้องจัดกิจกรรมนันทนาการของนักเรียน สรุปความจาเป็นและจุดมุ่งหมายของนันทนาการ พัฒนาการนักเรียน โดยแบ่งออกเป็น 5 ด้านดังนี้
  • 4. 1. ความต้องการทางด้านจิตวิทยา - ต้องการการยอมรับของเพื่อนร่วมรุ่น - ต้องการเป็นสมาชิกของกลุ่ม - ปลดเปลื้อง ความเหงาและเดียวดาย -ต้องการเพื่อนที่มีจุดสนใจอันเดียวกัน -ต้องการให้ตนเองเกิดความสาคัญในหมู่เพื่อน -ต้องการการทดแทนในสิ่งที่ตนเองขาด เช่น การเรียนไม่เก่งโดยหันมาเอาดีทางด้านกีฬา -การรู้จักทางานเป็นทีม ช่วยสอนความเป็นประชาธิปไตยและสร้างความร่วมมือ -ต้องการความรัก โดยเฉพาะเด็กที่พ่อและแม่ไม่มีเวลาให้ -ต้องการความสาเร็จ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในบางประเภทของกิจกรรม -ต้องการการยกย่องชมเชย -ต้องการความปลอดภัย - ต้องการฝึกทักษะและการได้รับความรู้ในสภาวะแวดล้อมที่มีความเป็นมิตรและกันเองการ ช่วยเหลือกันทางวิชาการบรรยากาศไม่เหมือนการสอบหรือรับคาดุว่าในห้องความคิดจะ ออกมาอย่างอิสระ 2. ดึงเอาความสนใจความกระตือรือร้นของเด็กให้ปรากฏออกมา กิจกรรมของนักเรียนถ้าหากวางแผนและดาเนินการให้ดีแล้วจะนานักเรียนไปสู่เป้ าหมายหลาย อย่าง ถึงแม้บางอย่างจะเห็นผลสาเร็จง่ายหรือบางอย่างจะเห็นผลได้ช้า แต่จะต้องมีเป้ าหมายที่แท้จริงที่ เด็กสามารถจะบรรลุได้ เช่น การมีสภานักเรียน จะทาให้เด็กเรียนธรรมนูญปกครองกันเอง มีการหาเสียง เลือกตั้ง มีการแต่งตั้งผู้ดารงตาแหน่งต่างๆในสานักงานและการเข้าพบกับผู้บริหารเพื่อปรึกษา อภิปราย ปัญหาของโรงเรียน ตัวอย่างอีกประการหนึ่งทีพอจะมองเห็นเด่นชัด เด็กคนหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองเรียนไม่เก่งจึงคิดอยากจะ ออกจากโรงเรียนแต่เขาได้รับเลือกให้เป็นนักกีฬาและกรีฑา เด็กคนนี้ไม่ทราบมาก่อนว่าเขามีความสามารถ ในที่จะเป็นแชมป์ ในการวิ่งแข่ง แต่รู้ตนเองว่าตนเองสามารถวิ่งได้เร็วเขาประสบความสาเร็จในการวิ่งแข่ง และเป็นวีรบุรุษสาหรับเพื่อนๆเขาจึงไม่ลาออก และเป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อเขาเป็นที่ยอมรับของเพื่อนเขาก็ ปรับปรุงตัวทางด้านการเรียนดีขึ้นและไม่ลาออก เด็กบางคนถูกเพื่อนชวนไปสนุกสนานทางอื่นซึ่งไม่เป็น
  • 5. ประโยชน์แต่เขารู้สึกว่าจะต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมทางชุมนุมที่เขารับผิดชอบ จึงปฏิเสธเพื่อนเพราะเห็น ความสาคัญของชุมนุมมากกว่า เป็นต้น กิจกรรมของนักเรียนหลายประเภทที่จะดึงเอาความสนใจ ความสามารถพิเศษและความ กระตือรือร้นออกมาให้เห็นชัด เช่น กิจกรรมทางหนังสือพิมพ์ วารสาร จัดนิทรรศการ ศิลปะ วาดเขียน กิจกรรมที่มีกรประกวดแข่งขันต่างๆถึงแม้บางครั้งความเฉียบแหลมจะไม่ปรากฏออกมาแต่ความตั้งใจและ กระตือรือร้นจะเห็นได้อย่างเด่นชัด กิจกรรมพิเศษต่างๆจะมีคุณสมบัติพอที่จะทาให้เด็กแสดงความกระตือรือร้นออกมา ดังนี้ 1. ต้องมีอิสระในการเลือกที่จะทา ไม่ควรมีการบังคับให้ทาเพราะกิจกรรมเหล่านี้ไม่ใช่การศึกษาใน ชั้นเรียน เด็กจะทาโดยความสมัครใจ 2. ในการทากิจกรรม เด็กที่ไม่ตอบสนองต่อกิจกรรม ควรได้รับการช่วยเหลือเพื่อให้เด็กตระหนักถึง ความสาคัญของความรับผิดชอบต่อกิจกรรมเช่นกิจกรรมในมหาวิทยาลัยที่ทาให้นิสิตเข้าถึงกิจกรรมและ เป็นผู้จัดทากิจกรรมขึ้นเพื่อนสร้างจิตสานึกให้กับนิสิตและปลูกฝังความรับผิดชอบ 3.ใช้เวลาว่างให้มีคุณค่าและเกิดประโยชน์ กิจกรรมของนักเรียนจะทาให้นักเรียนรู้ถึงการใช้เวลาอย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์ต่อตนเอง และส่วนรวม ดังจะเห็นจากเป้ าหมายที่เกิดขึ้น คือ 1.ไม่ตั้งตนเป็นผู้ต่อต้านสังคมหรือประพฤติผิดต่อสังคม เมื่อเด็กมีกิจกรรมที่เขาสนใจอยู่ในหมู่ เพื่อนและการมีผู้แนะนาที่ดี นักเรียนจะเห็นความสาคัญและเห็นประโยชน์ สร้างความเข้าใจและก่อให้เกิด ประโยชน์ 2.นักเรียนจะได้พบกับผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน เกิดการสร้างความสัมพันธ์แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นที่ดีสร้างกลุ่มขึ้นมาเพื่อตอบสนองความรู้และความต้องการ 3.กิจกรรมนักเรียนบางประเภท อาจทาให้เด็กได้พบสิ่งที่มีค่าต่อชีวิตในภายหลัง เช่น ความรักใน ดนตรี ทาให้เล่นดนตรี การสะสมแสตมป์ เหรียญสมัยต่างๆ การทาสวนครัว เลี้ยงกล้วยไม้เหล่านี้จะทาให้ ชีวิตในภายหลังสมบูรณ์ยิ่งขึ้น 4.ก่อให้เกิดมิตรภาพระหว่างเด็กด้วยกัน และระหว่างเด็กกับครูให้แน่นแฟ้ นยิ่งขึ้น เด็กที่สนใจในสิ่ง เดียวกันมักจะหาเวลาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนามิตรภาพ การที่เด็ก ได้ร่วมกันรับผิดชอบช่วยเหลือในกิจกรรมที่ทาด้วยกัน จะทาให้เด็กรักกันมากขึ้น ถึงแม้จะออกจากโรงเรียน ไปแล้วก็ตาม กับครูก็เช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ในห้องเรียนจะเกิดขึ้นยาก เพราะมีความเครียดและเป็น
  • 6. ทางการ แต่ถ้าครูเข้าร่วมในกิจกรรมบางอย่างกับเด็ก ทาให้เด็กมีโอกาสคุยสังสรรค์กันแบบไม่เป็นทางการ จะช่วยทาให้เกิดมิตรภาพและความเข้าใจซึ่งกันและกันดีขึ้น ทั้งนี้ก็ต้องพึงระวังบางประการที่เกี่ยวกับ จรรยาบรรณ และวัฒนธรรมบางอย่างของไทยที่เป็นอุปสรรคอยู่บ้าง 5.พัฒนาความเป็นผู้นากิจกรรมของนักเรียนซึ่งอยู่นอกหลักสูตรจะช่วยพัฒนาความเป็นผู้นาของ นักเรียนได้ดีกว่าในชั้นเรียน ข้อพึงระวังมีอยู่ว่าอาจารย์หรือครูที่ปรึกษาทุกคนจะต้องระลึกว่าขณะที่เข้าไป เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนั้น ตนเองไม่ได้ทาหน้าที่สอน ต้องให้โอกาสเด็กแสดงไม่ใช่ครูแสดงเองเสียหมด เด็ก ต้องได้โอกาสนากันเอง เด็กมีโอกาสเลือก และประกอบกิจกรรมเพื่อฝึกฝนตนเอง (ข้อนี้ส่วนมากครูซึ่งเป็นผู้ มีประสบการณ์สูงกว่ามักไม่ค่อยปล่อยให้เด็กทาเอง เพราะกลัวความผิดพลาด) ถ้าครูเข้าไปเกี่ยวข้องมาก เกินไป สภาพของกิจกรรมก็คงไม่แตกต่างจากการเรียนในชั้น ถ้าเด็กได้ทากันเอง เด็กจะรู้สึกว่าตนได้ ทางานกับเพื่อนมากกว่าการทาให้กับครู ซึ่งครูไม่จาเป็นต้องพัฒนาอีกแล้วในด้านนี้นอกจากเด็กต้องการ ความช่วยเหลือบางประการ ซึ่งครูก็ควรให้แต่ระวังอย่าให้กระทบกระเทือนถึงความเป็นผู้นาของเด็ก กิจกรรมนันทนาการของกลุ่มบุคคลในแต่ละวัย -ระดับอนุบาล (อายุ 4-6 ปี) กิจกรรมนันทนาการที่สามารถช่วยพัฒนาการทางด้านร่างกายได้เป็น อย่างดี คือ การฝึกให้เด็กได้ใช้สายตา และมือให้มีความสัมพันธ์กัน โดยไม่ต้องคานึงถึงความละเอียดอ่อน มากเกินไป -ระดับประถมศึกษาตอนต้น (อายุ 7-9 ปี) การจัดกิจกรรมในช่วงวัยนี้ควรจะคานึงถึงการปรับ ทักษะทางร่างกาย ให้มีความสอดคล้องและความสัมพันธ์กับการประกอบกิจกรรมต่างๆ -ระดับประถมศึกษาตอนปลาย (อายุ 10-12 ปี) กิจกรรมที่เหมาะสมในช่วงนี้ควรจะเป็นกิจกรรม เกี่ยวกับการใช้มือ และงานประเภทสร้างสรรค์ เช่น ศิลปกรรม หัตถกรรม ดนตรี การวาดรูป ระบายสี และ การสร้างแบบจะลอง เป็นต้น เนื่องจากเด็กวัยนี้สามารถทางานได้ประณีตมากขึ้น -ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (อายุ 13-15 ปี) กิจกรรมนันทนาการที่ควรจะส่งเสริมให้วัยนี้คือ กิจกรรมการตอบสนองความอยากรู้ อยากเห็น และท้าทายความสามารถ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เขาสนใจ ต่อการเข้าร่วมกิจกรรมได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อกิจกรรมนันทนาการ ที่จะช่วย พัฒนาการให้แก่พวกเขาต่อไป
  • 7. -ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (อายุ 16-18 ปี) เนื่องจากช่วงวัยนี้จะมีเวลาว่างมาก ดังนั้น จึงควร เป็นในเรื่องของการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยจัดกิจกรรมนันทนาการให้มีความหลากหลายรูปแบบ และสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะกิจกรรมภายในครอบครัว จะมีความจาเป็นอย่างยิ่งในช่วงวัยนี้ สถานที่และเครื่องอานวยความสะดวกในการจัดนันทนาการในโรงเรียน 1. สถานที่กลางแจ้ง 1.1 สนามเด็กเล่น 1.4 สวนหย่อม 1.2 สนามกีฬา 1.5 ป่าของโรงเรียน 1.3สวนครัว สวนดอกไม้ 1.6 สถานที่แสดงกลางแจ้ง 2. สถานที่ในร่ม 2.1 ห้องฝึกกีฬา และพลศึกษา 2.6 ห้องดนตรี 2.2 ห้องนันทนาการ 2.7 ห้องสมุด 2.3 ห้องประชุม และเวทีแสดง 2.8 พิพิธภัณฑ์ในโรงเรียน 2.4 ห้องฝึกฝีมือ และหัตถกรรม 2.9 โรงยิมเนเซียม 2.5 ห้องศิลปศึกษา 2.10 ห้องออกกาลังกายและแอโรบิค 3. อุปกรณ์นันทนาการ 3.1 อุปกรณ์กีฬา 3.5 อุปกรณ์ศิลปะ และหัตถกรรม 3.2 อุปกรณ์ดนตรี 3.6 อุปกรณ์สนามเด็กเล่น 3.3 อุปกรณ์ละคร 3.7 อุปกรณ์การเกษตร 3.4 อุปกรณ์นันทนาการนอกเมือง เวลาในการจัดกิจกรรมนันทนาการ เวลาในการจัดกิจกรรมนันทนาการจะต้องอยู่ในช่วงเวลาว่างหรือช่วงเวลาที่เป็นหยุด ซึ่งเวลาใน การจัดกิจกรรมนันทนาการมีดังต่อไปนี้ 1. ตอนเช้าก่อนเข้าเรียน 2. ตอนพักกลางวัน 3. ตอนเย็นหลังเลิกเรียน 4. วันเสาร์ อาทิตย์
  • 8. 5. วันกีฬา 6. วันหยุดพิเศษ เช่น วันปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง วันปิดเทอม ฯลฯ การจัดนันทนาการในรูปแบบ และชนิดต่างๆของชุมนุม 1. กิจกรรมส่งเสริม และพัฒนาทักษะ 1. ชุมนุมกีฬาและกรีฑา 5. ชุมนุมศิลปศึกษา 2. ชุมนุมดนตรี 6. ชุมนุมเกษตร 3. ชุมนุมละคร 7. ชุมนุมคอมพิวเตอร์ 4. ชุมนุมสุนทรพจน์ 8. ชุมนุมนักอ่าน และโต้วาที 2. กิจกรรมที่สัมพันธ์กับเนื้อหาวิชาการ 1. ชุมนุมวิทยาศาสตร์ 5. ชุมนุมกีฬาเพื่อสุขภาพ 2. ชุมนุมภาษาอังกฤษ 6. ชุมนุมธรรมชาติศึกษา 3. ชุมนุมสังคมศึกษา 7. ชุมนุมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 4. ชุมนุมภาษาไทย 8. ชุมนุมนันทนาการ 3. ชุมนุมเพื่อการบริการ 1. ชุมนุมทัศนาจร 6. ชุมนุมแอโรบิคเพื่อสุขภาพ 2. ชุมนุมห้องสมุด วรรณกรรม 7. ชุมนุมทัศนศึกษา 3. ชุมนุมอาสาพัฒนา 8. ชุมนุมนันทนาการ 4. ชุมนุมร้านค้าของโรงเรียน 5. ชุมนุมการเชียร์ คณะกรรมการดาเนินการกิจกรรม และชุมนุม 1. ประธาน 2. รองประธาน 3. เลขานุการ 4. เหรัญญิก 5. ปฏิคม 6. กรรมการอื่นที่เห็นสมควร 7. อาจารย์ที่ปรึกษ
  • 9. บทบาทหน้าที่ของผู้จัดกิจกรรมนันทนาการ บทสรุป นันทนาการในโรงเรียนเป็นกิจกรรม หรือกระบวนการที่สร้าง และพัฒนาลักษณะนิสัยของเด็ก และ เยาวชนในระบบการศึกษา ให้เกิดความเจริญเติบโตทางกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา และจิตใจ ผู้จัด กิจกรรมนันทนาการ ได้แก่ คณะกรรมการบริหารของโรงเรียน นักเรียน กลุ่ม ชุมนุม ที่มีความสนใจร่วมกัน ครูผู้สอนประจาวิชา หรือการมอบอานาจให้กลุ่มอาชีพผู้จัด นันทนาการส่งเสริมจุดมุ่งหมาย คุณค่า และ ประโยชน์แก่นักเรียนนานาประการ สถานที่ และเครื่องอานวยความสะดวกในโรงเรียนได้แก่ สถานที่ กลางแจ้ง ในร่ม และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง นักเรียนที่ทีความสนใจในรูปแบบชุมนุม แบ่งออกได้ 3 ชนิด ได้แก่ ชุมนุมกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาทักษะ เนื้อหาวิชาการ และเพื่อบริการ ซึ่งการทางาน และการดาเนินการ กิจกรรม และชุมนุม สามารถกระทาได้เป็นคณะกรรมการ ซึ่งมีหน้าที่บริหาร และดาเนินการให้บรรลุ เป้ าหมายที่วางไว้ นันทนาการช่วยส่งเสริมในคุณค่าในเรื่องของกิจกรรม การมีส่วนร่วม คุณธรรมและ ลักษณะสินัยของเยาวชน ตลอดจนเป็นการสร้างคุณค่าในเรื่องของความสมดุลและใช้เวลาว่างให้มี คุณภาพและสมดุลกับงาน นันทนาการช่วยให้เยาวชนรู้จักการจัดการเวลาพัฒนาคุณค่าทางสังคมระบอบ ประชาธิปไตยและเป็นประชากรของประเทศที่มีคุณภาพในอนาคต ตัวอย่างกิจกรรม ผู้จัดกิจกรรม การจัดกีฬาสี กลุ่มสาระการเรียนรู้พละศึกษา การประกวดแต่งกลอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย การประกวดวาดภาพระบายสี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ การแข่งขันคณิตคิดเร็ว กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การแข่งขันจรวดขวดน้า กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์