More Related Content
Similar to 2562 final-project-39 (20)
More from ssuser97d070 (6)
2562 final-project-39
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน ภาวะไม่ยอมไปโรงเรียน
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นาย ศุภกร ชังปลื้ม เลขที่ 39 ชั้น ม.6 ห้อง 5
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม .……
1.นายศุภกร ชังปลื้ม เลขที่39
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
-ภาวะไม่ยอมไปโรงเรียน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
-school refusal
ประเภทโครงงาน พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นายศุภกร ชังปลื้ม
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ในปัจจุบันมีเด็กจานวนมากมีพฤติกรรมที่ชอบไปโรงเรียน จะมีพฤติกรรมเช่น เรียกแล้วไม่ยอมตื่น งอแงเมื่อ
ถึงเวลาที่จะต้องไปโรงเรียน และพ่อแม่ก็ยังไม่รู้ว่าลูกเป็นอะไรทาไมไม่อยากไปโรงเรียน ทาให้มีการแก้ไขที่ผิดวิธี เช่น
การด่าว่า การตี ทาให้เด็กสุขภาพจิตเสีย ไม่มีกาลังใจในการทาสิ่งต่างๆ เนื่องจากพฤติกรรมนี้ พบมากในเด็กใน
ปัจจุบัน แต่ส่วนมากบางคนเรื่องผู้ปกครองของบางคนยังไม่รู้ว่ามีโรคนี้ จึงทาให้มีวิธีการแก้ไขที่ผิดๆ ทาให้เด็กที่เป็น
โรคนี้ไม่หาย ละบางคนอาจมีอาการที่รุ่นแรงขึ้น เพราะได้ถูกแก้ไขในวิธีที่ผิด ผู้จัดทาจึงได้รวบรวมข้อมูลการวิธีการ
แก้ไขของโรคนี้มา
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เรียนรู้และทาความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะไม่ยอมไปโรงเรียน
2.เพื่อศึกษาวิธีการแก้ไขอย่างถูกต้อง
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1.ศึกษาเกี่ยวกับอาการของภาวะไม่ยอมไปโรงเรียน
2.เรียนรู้วิธีการรักษาอาการของภาวะไม่ยอมไปโรงเรียน
- 3. 3
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ภาวะไม่ยอมไปโรงเรียน (school refusal) หมายถึง การที่เด็กหรือ วัยรุ่นไม่เต็มใจไปโรงเรียน อันสืบเนื่องมาจาก
ความวิตกกังวลภายใน จิตใจ แสดงออกเป็นพฤติกรรมได้หลายรูปแบบ เช่น ร้องโวยวายไม่ อยากไปโรงเรียน อ้างว่าไม่
สบายไม่ยอมลุกจากเตียงนอนในตอนเช้า
ภาวะไม่ยอมไปโรงเรียนแตกต่างจากการหนีเรียน (truancy) ซึ่ง หมายถึงการที่เด็กหรือวัยรุ่นขาดเรียน โดยเจตนาที่
จะหลีกเลี่ยงการเข้า เรียน มักจะพยายามปิดบังพฤติกรรมดังกล่าว และไม่มีความเกี่ยวข้อง กับความวิตกกังวลภายใน
จิตใจ ส่วนเด็กและวัยรุ่นที่มีภาวะไม่ยอมไป โรงเรียนมักจะแสดงพฤติกรรมต่อต้านไม่ยอมไปโรงเรียนให้เห็นอย่าง
เปิดเผย พบว่าการหนีเรียนมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับพฤติกรรมต่อ ต้านสังคมอื่นๆ (antisocial behaviors) เช่น
การโกหก การกลั่นแกล้งผู้ อื่น
นอกจากนี้ยังมีคาว่า โรคกลัวโรงเรียน (school phobia) เป็นคาที่ ถูกใช้มาก่อนคาว่า ภาวะไม่ยอมไปโรงเรียน
(school refusal) โดยทั่วไป สามารถใช้แทนกันได้ ปัจจุบันความนิยมในการใช้คาว่าโรคกลัว โรงเรียนลดลง แต่
บางครั้งอาจถูกใช้เพื่อต้องการเน้นอารมณ์กลัวที่เกิด ขึ้นในเด็กและวันรุ่นกลุ่มนี้ หรือ หมายถึงการที่เด็กมีความกลัวที่
เจาะจง ต่อสถานการณ์บางอย่างที่โรงเรียน
แม้ตามระบบการวินิจฉัยโรคทางจิตเวช DSM – IV ค.ศ. 2000 ไม่ได้ จัดภาวะไม่ยอมไปโรงเรียนเป็นโรคทางจิตเวช
แต่ในทางเวชปฏิบัติเป็น ที่ทราบกันดีว่าภาวะไม่ยอมไปโรงเรียนเป็นอาการเร่งด่วนทางจิตเวช เด็กและวัยรุ่นที่ต้อง
ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที เนื่องจากการนา เด็กกลับสู่โรงเรียนจะยิ่งยากมากขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่หยุด
เรียน ซึ่งในผู้ป่วยบางรายการหยุดเรียนอาจยาวนานเป็นปี สามารถก่อให้เกิด ผลกระทบต่อเด็กและครอบครัวทั้งด้าน
การศึกษาและความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลได้เป็นอย่างมาก
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. คิดหัวข้อโครงานที่สนใจ
2. ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล
3. ปรึกษาคุณครูและจัดทาโครงงาน
4. นาเสนอ
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
2. สื่อต่างๆ
งบประมาณ
300 บาท
- 4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.ได้เรียนรู้เกี่ยวกับอาการเบื้องต้นเกี่ยวกับภาวะไม่ยอมไปโรงเรียน
2.รู้วิธีแก้วิธีรักษาโรคไม่ยอมไปโรงเรียน
สถานที่ดาเนินการ
1.โรงเรียน
2.บ้าน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1.กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
- https://med.mahidol.ac.th/ramamental/generaldoctor/09042014-1218