แนวทางการรักษาโรคลมชักสําหรับแพทย์
Clinical Practice Guidelines for epilepsy
ราชวิทยาลัยประสาทศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย
แหล่งข้อมุล:
http://thaiepilepsysociety.com/wp-content/uploads/2013/07/Thai_CPG-for-epilepsy.pdf
แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง
ของร้านขายยา CDE ในจังหวัดขอนแก่น
The Approach of Risk Management that Affecting the
Inventory Management Cost of CDE Drugstore in Khonkaen Province
Best Practice in Communication
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
บรรณาธิการ วินัดดา ปิยะศิลป์ วันดี นิงสานนท์
ISBN 978-616-91972-1-8
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...Utai Sukviwatsirikul
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated
diarrhoea in children: a randomized double-blind placebo-controlled
trial
M. KOTOWSKA, P. ALBRECHT & H. SZAJEWSKA
Department of Pediatric Gastroenterology and Nutrition, The Medical University of Warsaw, Warsaw, Poland
Accepted for publication 24 November 2004
5. 5
การให้น้าหนักของหลักฐานและระดับคาแนะนา
การให้น้าหนักของหลักฐาน (Level of evidence)
ระดับ I หลักฐำนได้จำกงำนวิจัยที่เป็น randomized controlled trials หรือ systematic review
ที่ดีอย่ำงน้อย 1 งำนวิจัย
ระดับ II หลักฐำนที่ได้จำกกำรศึกษำที่เป็น non-randomized controlled trials หรือ before &
after clinical trials หรือ cohort studies
ระดับ III หลักฐำนที่ได้จำกกำรศึกษำที่เป็น case-control studies
ระดับ IV หลักฐำนที่ได้จำกกำรศึกษำที่เป็น descriptive, case reports หรือ case series
ระดับที่ V หลักฐำนที่เป็น expert opinion หรือฉันทำมติ (consensus) ของคณะผู้เชี่ยวชำญ
หมำยเหตุ: น้ำหนักของหลักฐำน (Level of evidence) นี้ประยุกต์มำจำก Cochrane data base study,
Oxford cetre for evidence-based medicine 2001 (http://wwwcebm.net) และ School of Health and
Related Research, University of Sheffield, UK (source: pshipman@mail.mcg.edu)
การให้ระดับของคาแนะนาสาหรับแนวทางปฏิบัติ (Grade of recommendation)
ระดับ A แนวทำงปฏิบัตินี้ให้มีกำรนำไปใช้ (Strongly recommended)
ระดับ B แนวทำงปฏิบัตินี้ควรนำไปใช้ (Recommended)
ระดับ C แนวทำงปฏิบัตินี้เป็นทำงเลือกหนึ่งในกำรนำไปใช้ (Optional)
ระดับ D แนวทำงปฏิบัตินี้ไม่แนะนำให้นำไปใช้ในกรณีทั่วไป (Not recommended in normal
situation)
ระดับ E แนวทำงปฏิบัตินี้ไม่แนะนำให้ไปใช้ (Not recommended in all situations)
หมำยเหตุ: ระดับของคำแนะนำสำหรับแนวทำงปฏิบัติ (Grade of recommendation) นี้ได้จำกมติของ
คณะอนุกรรมกำรจัดทำ CPG โดยประยุกต์มำจำก Classifying recommendations for clinical practice
guidelines, American Academy of Pediatrics ใน Pediatrics 2004; 114: 874-877
13. 13
2. การเตรียมครอบครัวและผู้ดูแลผู้ป่วย
ผู้ดูแลผู้ป่วยควรได้รับกำรฝึกฝนทักษะกำรใช้และดูแลเครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจน วิธีกำรต่อ
เครื่องทำควำมชื้น, nasal cannula และกำรปรับ flow meter รวมถึงกำรทำควำมสะอำดอุปกรณ์ต่ำงๆ สำยต่อ
และ nasal cannula นอกจำกนี้ผู้ดูแลต้องฝึกทักษะกำรสังเกตเมื่ออุปกรณ์เกิดขัดข้องในกรณีต่ำงๆที่สำคัญ
ก่อนกลับบ้ำน เช่น สำย nasal cannula หลุดหรืออุดตัน, ถังออกซิเจนหมด หรือวำล์วปิด ผู้ดูแลจำเป็นจะต้อง
มีควำมสำมำรถในกำรประเมินอำกำรของผู้ป่วย โดยเฉพำะกำรสังเกตลักษณะสีผิวที่แสดงถึงภำวะกำรขำด
ออกซิเจน และสำมำรถปรับออกซิเจนตำมควำมเหมำะสมกับสภำวะที่เด็กต้องกำรได้ (Level V, Grade B)
ทีมบุคลำกรทำงแพทย์ควรตรวจสภำพบ้ำนและอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งำนก่อนส่งผู้ป่วยกลับบ้ำน ผู้ดูแล
จะต้องมีหมำยเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อกับทีมบุคลำกรทำงกำรแพทย์ได้ตลอดเวลำหำกมีปัญหำขัดข้อง
(Level V, Grade B)
3. การติดตามผู้ป่วย
ภำยหลังจำกจำหน่ำยผู้ป่วยกลับบ้ำนแล้ว ทีมบุคลำกรทำงกำรแพทย์ควรมีกำรติดตำมประเมินผลหลัง
กลับบ้ำนโดยกำรเยี่ยมบ้ำนและกำรติดต่อทำงโทรศัพท์ แพทย์ควรนัดผู้ป่วยกลับมำตรวจที่โรงพยำบำลตำม
ควำมจำเป็น เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีควำมมั่นใจในกำรดูแลผู้ป่วยมำกขึ้น และสำมำรถขอคำแนะนำ
ในกำรดูแลผู้ป่วยได้สะดวกขึ้น (Level V, Grade B)
4. การลดออกซิเจน
เมื่อผู้ป่วยอำกำรดีขึ้น สำมำรถลดปริมำณกำรให้ออกซิเจนได้ โดยกำรติดตำมระดับ SpO2 และอัตรำ
กำรเต้นของหัวใจ ให้ระดับ SpO2 ≥ 92% ตลอดเวลำและอัตรำกำรเต้นของหัวใจไม่เร็วขึ้นขณะลดออกซิเจน
(Level V, Grade A) โดยทั่วไป จะลดปริมำณออกซิเจนที่ให้แก่ผู้ป่วยในเวลำกลำงวันก่อน ถ้ำผู้ป่วยอำกำรดี
คงที่จึงลดปริมำณออกซิเจนที่ให้ขณะหลับ ควรติดตำมค่ำ SpO2 ขณะหลับอย่ำงต่อเนื่องตลอดคืน เพื่อให้
มั่นใจว่ำสำมำรถหยุดกำรใช้ออกซิเจนขณะหลับได้จริง (Level IV, Grade B) ถ้ำผู้ป่วยมีน้ำหนักลดลงโดยหำ
สำเหตุอื่นไม่ได้ ควรพิจำรณำให้ออกซิเจนกลับเข้ำไปใหม่ (Level IV, Grade C)
การดูแลรักษาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง (Level V, Grade B)
- ผู้ทำหน้ำที่ดูแลผู้ป่วยที่บ้ำนต้องได้รับคำแนะนำและฝึกฝนกำรใช้อุปกรณ์ จนมีควำมรู้และทักษะ
สำมำรถปฏิบัติได้ถูกต้อง และมีควำมมั่นใจในกำรใช้ก่อนที่จะให้ผู้ป่วยกลับบ้ำน
- มีคู่มือกำรใช้งำนและบำรุงรักษำอุปกรณ์สำหรับ home oxygen therapy
- ตรวจสอบควำมพร้อมของอุปกรณ์ทุกชิ้นอย่ำงน้อยวันละ 1 ครั้ง โดยตรวจสอบกำรทำงำนของ
อุปกรณ์, flow rate ของก๊ำซออกซิเจน, ปริมำณก๊ำซที่เหลือในถัง compressed gas cylinders หรือ
liquid oxygen system ทั้งถังที่ใช้งำนและถังสำรอง
- oxygen source เช่น oxygen concentrator, liquid oxygen system ควรได้รับบริกำรบำรุงรักษำ
ตรวจสอบกำรทำงำนของเครื่องจำกบริษัทที่จำหน่ำยตำมวงรอบอย่ำงน้อยปีละ 1 ครั้ง
14. 14
เอกสารอ้างอิง
1. American Association for Respiratory Care. AARC Clinical practice guideline: selection of an
oxygen delivery device for neonatal and pediatric patients-2002 Revision & Update. Respir
Care 2002; 47:707-16.
2. American Association for Respiratory Care. AARC clinical practice guideline: oxygen therapy
for adults in the acute care facility-2002 Revision & Update. Respir Care 2002; 47:717-20.
3. American Association for Respiratory Care. AARC clinical practice guideline: oxygen therapy
in the home or alternate site health care facility-2007 Revision & Update. Respir Care 2007;
52:1063-8.
4. Balfour-Lynn IM, Primhak R A, Shaw B N J. Home oxygen for children: who, how and when?
Thorax 2005; 60:76-81.
5. Fitzgerald DA, Massie RJH, Nixon GM, et al. Infant with chronic neonatal lung disease:
recommendations for the use of home oxygen therapy. MJA 2008; 189:578-82.
6. Balfour-Lynn IM. Domiciliary oxygen for children. Pediatr Clin N Am 2009; 56:275-96.
7. Askie LM, Henderson-Smart DJ, Irwig L, et al. Oxygen-saturation targets and outcomes in
extremely preterm infants. N Engl J Med 2003; 349:959-67.
8. Anonymous. Supplemental therapeutic oxygen for prethreshold retinopathy of prematurity
(STOP-ROP), a randomized, controlled trial. I: primary outcomes. Pediatrics 2000:105:295-310.