More Related Content
More from เตชะชิน เก้าเดือนยี่
More from เตชะชิน เก้าเดือนยี่ (19)
ศาสนาอิสลาม
- 2. 2
อิสลาม เป็นศาสนาที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วที่สุดนนโลก
ประชากรโลก (2009) 6,870,200,000
ประชากรมุสลิมโลก (1996) 1,482,596,925
จานวนประชากรมุสลิมโลก (1998) 1,678,442,000
ประชากรมุสลิมในทวีปเอเชีย (1996) 1,022,692,000 (30%)
ประชากรมุสลิมในทวีปแอฟริกา (1996) 426,282,000 (59%)
- 3. 3
Muslim World1. อินโดนีเซีย 195.272 ล้านคน
2. ปากีสถาน 157.528 ล้านคน
3. อินเดีย 154.504 ล้านคน
4. บังคลาเทศ 127.3286 ล้านคน
5. ตุรกี 72.7542 ล้านคน
6. อียิป 70.88 ล้านคน
7. อิหร่าน 68.805 ล้านคน
8. ไนจีเรีย 65.25 ล้านคน
9. จีน 39.111 ล้านคน
10. เอธิโอเปีย 37.40 ล้านคน
11. อัลจีเรีย 33.17 ล้านคน
12. โมรอคโค 31.78 ล้านคน
13. ซูดาน 30.08 ล้านคน
14. อัฟกานิสถาน 29.601 ล้านคน
15. อิรัก 28.71 ล้านคน
16. รัสเซีย 27.04 ล้านคน
17. ซาอุดิอาราเบีย 24.1
ล้านคน
18. อุสเบกิสถาน 23.232 ล้านคน
19. ยเมน 28 ล้านคน
20. ทานซาเนีย 18.95 ล้านคน
- 8. สำนักข่ำวต่ำงประเทศรำยงำนว่ำ โอมำร์ บูร์กัน อัลกำลำ (Omar Borkan Al Gala) นำยแบบ
หนุ่มอำหรับและช่ำงภำพจำกดูไบ ที่กลำยเป็นข่ำวดังคึกโครมไปทั่วโลก จำกกรณีที่ถูกทำงกำร
ซำอุดีอะรำเบียสั่งเนรเทศให้ออกจำกประเทศ พร้อมกับเพื่อนนำยแบบอีก 2 คน โดยให้เหตุผล
ว่ำ ทั้ง 3 มีรูปร่ำงหน้ำตำที่หล่อและน่ำหลงใหลเกินไป หวั่นทำให้หญิงชำวซำอุฯ คลั่งไคล้และ
เสื่อมเสียทำงวัฒนธรรม
8
- 14. ศาสดาพยากรณ์ - ประวัติศาสดา
• มุฮัมหมัด เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๑๑๑๓ ณ เมือง
เมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย มุฮัมหมัดเกิดนนตระกูล
ฮาซิม เผ่ากุเรซ อันเป็นเผ่าที่มั่งคั่งและมีชื่อเสียงของอาหรับ
• ท่านศาสดาเป็นกาพร้าตั้งแต่เยาว์วัย นนเวลาต่อมาจึงไปอยู่
นนความอุปการะของลุง ชื่อ อาบูตอลิบเรื่อยมา
• “มุฮัมหมัด” เป็นชื่อเกียรติคุณนามหลังจากเป็นศาสดาแล้ว
แปลว่า ผู้ควรบูชา ส่วนชื่อเดิมของท่านคือ “อาบูคัสซิม”
14
- 15. ศาสดาพยากรณ์ - ประวัติศาสดา
• นนสมัยที่ท่านศาสดาถือกาเนิดนั้น สังคมอาหรับอยู่นนสภาพที่เสื่อม
โทรมมาก ผู้คนมั่วสุมดื่มน้าเมาและเล่นการพนัน การละเมิดประเวณี
เกิดขึ้นเป็นประจา มีการฝังเด็กหญิงทั้งเป็นเพราะถือว่าเป็นสิ่ง
อัปมงคล การแก้แค้นด้วยการประหัตประหารเป็นเรื่องปกติ
• ความเชื่อนนสังคมสมัยนั้นส่วนนหญ่ถือว่ามีเทพเจ้าต่างๆมากมาย
แล้วสร้างรูปเคารพแทนเทพแต่ละองค์ขึ้นมา
15
- 16. ศาสดาพยากรณ์ - ประวัติศาสดา
• จนกระทั่งวันหนึ่งขณะที่ท่านอยู่นนถ้าบนภูเขาฮิรอ เทวทูตญิบรออีล
ก็ได้นาโองการของพระอัลเลาะห์ มาประทาน ท่านศาสดามุฮัมมัดจึง
เริ่มประกาศศาสนา คนแรกที่เข้ารับนับถือ ศาสนาอิสลาม ก็คือ นาง
คอดีญะฮ์ ผู้เป็นภรรยา
• หลังจากประกาศศาสนาได้ ๑๓ ปี ท่านศาสดาได้ลี้ภัยจากเมืองเมกกะ
โดยไปอยู่ที่เมืองมะดีนะฮ์ ถือเป็นการเริ่มต้นนับศักราช อิสลาม
เรียกว่า ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.) จนกระทั่งถึงปี พ.ศ.๑๑๗๓ ท่าน
ศาสดาก็สามารถรวบรวมผู้คนกลับไปยึดเมืองเมกกะไว้ได้
16
- 17. ศาสดาพยากรณ์ - ประวัติศาสดา
• สิ่งแรกที่นบีสั่งนห้สาวกทา คือ นห้ทาลายรูปเคารพนห้หมด โดย
นบีมุฮัมหมัดกล่าวว่า “เมื่อความจริงมาแล้ว ความไม่จริงย่อมหนีไป”
• นับตั้งแต่กลับเข้าเมืองเมกกะแล้ว นบีมุฮัมหมัดก็ได้ประกาศศาสนา
ออกไปอย่างกว้างไกล จึงทานห้มีศาสนิกชนมากขึ้นทุกที เกิดเป็น
อาณาจักรมุสลิมขึ้นนนโลก ท่านนบีจึงต้องวางระเบียบปกครองหมู่คณะ
โดยท่านนบีเป็นผู้ปกครองสูงสุด วินิจฉัยตัดสินปัญหาต่างๆ ด้วยตนเอง
คอยดูแลศาสนาและศาสนิกนห้อยู่กันเป็นปึกแผ่นสงบเรียบร้อย ไม่นห้
นครมาระราน
• เพราะฉะนั้น นบีมุฮัมหมัดจึงเป็นประมุขทั้งอาณาจักรและศาสนจักร
เป็นผู้ปกครองอาหรับทั้งหมดนนเวลานั้น 17
- 18. ศาสดาพยากรณ์ - ประวัติศาสดา
- ท่ำนศำสดำมุฮัมมัด ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๑๑๗๕ ตรงกับ ฮ.ศ. ๑๑ รวม
อำยุได้ ๖๒ ปี ณ เมืองมะดินะ ปัจจุบันพระศพของท่ำนถูกฝังอยู่ที่เมือง
มะดินะ เรียกว่ำ “มัสยิดนะบะวีย์” หรือ “มัสยิดนบี” อันเป็นสถำนที่ที่มุสลิม
ทั่วโลกพำกันไปทำละหมำดอยู่เสมอ
- ท่ำนได้ดำรงตนเป็นผู้เสมอต้นเสมอปลำย มีเมตตำกับทุกคน รักสันโดษ
มีควำมยุติธรรม และควำมซื่อสัตย์เป็นเลิศ จนได้รับฉำยำตั้งแต่สมัยเป็น
หนุ่มว่ำ “อัลลำมีน” ซึ่งแปลว่ำ ผู้ซื่อสัตย์
18
- 20. คัมภีร์ศาสนาอิสลาม
• คัมภีร์ของศำสนำอิสลำม คือ คัมภีร์อัลกุรอำน (Al-Quran) หรือ
ชำวตะวันตก เรียก โกรำน (Koran)
• “อัล” เท่ำกับ the / “กุรอำน” แปลว่ำ บทอ่ำน , บทท่อง, พระคัมภีร์
• คัมภีร์อัลกุรอำน หมำยถึง “อ่ำน ท่องเพื่อพระเจ้ำ” >> เป็นพระคัมภีร์
ที่ศำสนิกชนจะต้องอ่ำนและศึกษำให้เข้ำใจ สำมำรถอ่ำนด้วยทำนอง
ไพเรำะและมีศิลปะได้
20
- 22. คัมภีร์ศาสนาอิสลาม
• คัมภีร์อัลกุรอาน ได้รวบรวมเอาข้อความของคัมภีร์ต่างๆ ที่พระเจ้าได้
เคยประทานแก่ศาสดาองค์อื่นๆ ก่อนหน้านั้นมาไว้ด้วย
• *** คัมภีร์อัลกุรอานถือเป็นคัมภีร์สุดท้ายที่สมบูรณ์ที่สุด
• ลักษณะการบรรจุเนื้อหานนคัมภีร์อัลกุรอาน แบ่งเป็น “ซูเราะห์” หรือ
บท มี ๑๑๔ บท
• ๑) ซูเราะห์ที่เมืองเมกกะ >> เรื่องราวของชาติต่างๆ, ลักษณะความ
เป็นเอกภาพของพระอัลเลาะห์และศรัทธาที่ควรมีต่อพระองค์, ข้อ
พิสูจน์ความเป็นพระเจ้าของพระอัลเลาะห์ และคาสอนนห้ประพฤติดี
22
- 23. คัมภีร์ศาสนาอิสลาม
• ๒) ซูเราะห์ที่เมืองมะดีนะฮฺ >> ประมวลกฎหมาย, หลักปฏิบัติของ
มุสลิม
• อัล-ฮะดีษ >> เป็นการบันทึกหรืออธิบายเกี่ยวกับคาสอน และ
พระจริยวัตรของท่านศาสดามุฮัมหมัด มีอยู่จานวน ๔,๐๐๐ ข้อ เช่น
• - มนุษย์ที่ดีที่สุด คือ ผู้บาเพ็ญประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์
• - ผู้นดมีความพยายาม ผู้นั้นจะได้รับความสาเร็จ
• - บุรุษที่อิ่มหนาสาราญ นนขณะที่เพื่อนบ้านของเขากาลังตกยาก
นั้น ไม่นช่มุสลิม เป็นต้น
23
- 25. 25
หลักศรัทธา (อิหม่าน) 6 ประการ
1. ศรัทธานนพระเจ้าองค์เดียว คือ อัลเลาะห์
2. ศรัทธานนบรรดามลาอีกะฮ์หรือเทวฑูตของพระองค์
3. ศรัทธานนบรรดาคัมภีร์ทั้งหลายของพระองค์
4. ศรัทธานนบรรดานบี และรอซูล (ศาสดา) ทั้งหลาย
5. ศรัทธานนวันพิพากษา
6. ศรัทธานนการกาหนดกฎสภาวะของพระองค์
- 26. 26
หลักศรัทธา (อิหม่าน) 6 ประการ
1. ศรัทธานนพระเจ้าองค์เดียว คือ อัลเลาะห์
อิสลามถือว่านนสากลจักรวาลมีพระเจ้าที่เที่ยงแท้เพียง
พระองค์เดียว เป็นผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย ทรงไว้ซึ่ง
ความเมตตาและยุติธรรม ทรงรู้เห็นการกระทาและ
เข้านจนนความคิดของมนุษย์ทุกคน
***มุสลิมถือว่าศรัทธานนพระเจ้านี้เป็นหัวนจของการเป็น
มุสลิมที่แท้จริง
- 27. 27
“อัลลอฮ” พระเจ้าผู้ทรงเอกะ
• อัลลอฮ คือพระนามหนึ่งของพระเจ้าผู้ทรงเอกะ
• อัลลอฮยังมีพระนามอันวิจิตรอีก 99 พระนาม
อาทิ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงกรุณาปราณี
ผู้ทรงอ่อนโยน
ผู้ทรงสร้าง ผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงวิทยปัญญา และ
เป็นพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล ผู้เป็นองค์แรก
ผู้เป็นองค์สุดท้าย เป็นต้น
- 28. 28
หลักศรัทธา (อิหม่าน) 6 ประการ
2. ศรัทธานนบรรดามลาอีกะฮ์ หรือเทวฑุตของพระองค์
ว่ามีจริง มีชื่อและหน้าที่ต่างๆกัน
- มลาอีกะฮ์ เป็นบ่าวของอัลลอฮฺที่ถูกสร้างจากรัศมี ไม่มี
เพศไม่ขัดขืนคาสั่งของอัลลอฮฺไม่กิน ไม่ดื่ม ไม่หลับไม่นอน
- มลาอีกะฮ์ จะทาหน้าที่สาคัญบางอย่างที่อัลลอฮฺ
มอบหมายนห้
-- เช่น ญิบรออิล, รกิบ-อติ๊ด, อิสรออีล เป็นต้น
- 29. 29
หลักการศรัทธา (อิหม่าน) 6 ประการ
3. ศรัทธานนบรรดาคัมภีร์ทั้งหลายของอัลลอฮฺ
เชื่อว่าพระอัลเลาะห์ได้ประทานคัมภีร์มาแล้วจานวน
๑๐๔ เล่ม ที่สาคัญมี ๔ เล่ม
๑) คัมภีร์เตารอด (นบีมูซา)
๒) คัมภีร์อินญีล (นบีอีซา)
๓) คัมภีร์ซาบูร์ (นบีวูด หรือเดวิด)
๔) คัมภีร์อัลกุรอาน (นบีมุฮัมหมัด) เป็นเล่มสุดท้าย ที่
สมบูรณ์ที่สุด
- 30. 30
หลักศรัทธา (อิหม่าน) 6 ประการ
“จงอ่าน ! ด้วยพระนามของพระผู้อภิบาลของสูเจ้าผู้ทรงสร้าง
ผู้สร้างมนุษย์จากก้อนเลือด จงอ่านและพระผู้อภิบาลของเจ้านั้น
ทรงไพโรจน์ ผู้ทรงสอนด้วยปากกา ผู้ทรงสอนมนุษย์
นนสิ่งที่เขาไม่รู้”
- 32. 32
หลักศรัทธา (อิหม่าน) 6 ประการ
4. ศรัทธานนบรรดานบี และรอซูล (ศาสดา) หรือ
ศาสนทูตทั้งหลาย ซึ่งเป็นผู้รับเทวโองการของพระเจ้า
มุสลิมทุกคนต้องยอมรับนับถือศาสดาทั้งหลายที่มา
เทศนาก่อนศาสดามุฮัมมัด ไม่ว่าศาสดาเหล่านั้นจะ
ปรากฎชื่ออยู่นนคัมภีร์อัล-กุรอานหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่า
ศาสดาเหล่านั้นจะเป็นชนชาตินดอยู่ที่ไหนพูดภาษา
อะไรก็ตาม
- 33. 33
ศำสดำที่สำคัญในอิสลำม
1.นบีอาดัม 2.นบีอิดรีส 3.นบีนูฮฺ (โนอา) 4.นบีฮูด
5.นบีซอลิฮฺ 6.นบีอิบรอฮีม (อับราฮัม) 7.นบีลูฎ 8.นบีอิสฮาก (ไอแซค)
9.นบีอิสมาอีล 10.นบียะอฺกู๊บ (เจค็อบ) 11.นบียูซุฟ (โจเซฟ) 12.นบีซุลกิฟลี
13.นบีอัยยูบ 14.นบีมูซา (โมเสส) 15.นบีฮารูน 16.นบีอิลยาส
17.นบียูนุส 18.นบีชุอัยบ์ 19.นบีดาวุด (เดวิด) 20.นบีสุลัยมาน (โซโลมอน)
21.นบีอัลยะสะอฺ 22.นบีซะกะรียา 23.นบียะฮฺยา 24.นบีอีซา (เยซูคริสต์)
25.นบีมุฮัมมัด (ศาสดาคนสุดท้าย)
- 34. 34
หลักศรัทธา (อิหม่าน) 6 ประการ
5. ศรัทธานนวันสุดท้ายและ การเกิดนหม่นนวันปรโลก
>> วันพิพากษา
ชาวมุสลิมต้องเชื่อว่า โลกนี้เป็นที่พักพิงชั่วคราวเพื่อ
ทดลองความภักดีต่อพระอัลเลาะห์ จนถึงวันพิพากษา
มนุษย์ทุกคนจะคืนชีพ มีร่างกายขึ้นมานหม่เพื่อรับการ
พิพากษาขั้นสุดท้าย
- 35. 35
หลักศรัทธา (อิหม่าน) 6 ประการ
6. ศรัทธานนการกาหนดสภาวการณ์ของพระองค์
เชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนนเอกภพนี้ ล้วนถูกกาหนดขึ้น
โดยพระอัลเลาะห์ทั้งสิ้น พึงยอมรับสภาพด้วยนจภักดี
ต่อพระอัลเลาะห์เสมอ
ประกอบด้วย
1) กฎธรรมชาติ
2) กฎการดาเนินชีวิต (ชะรีอ๊ะฮฺ)
3) กฎแห่งชะตากรรม
- 39. 39
1. การกล่าวคาปฏิญาณตนว่า
หลักการปฏิบัติ (หลักการอิสลาม) 5 ประการ
“ไม่มีพระเจ้าอื่นนดนอกจากอัลลอฮฺ
และ มุฮัมมัด เป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ”
เป็นการยอมรับด้วยศรัทธาและความบริสุทธิ์นจว่า พระอัลเลาะห์ทรง
เป็นพระเจ้าสูงสุดเพียงองค์เดียว การปฏิญาณตนเป็นก้าวแรกที่
นาไปสู่ความเป็นมุสลิมอย่างสมบูรณ์
- 41. การละหมาด
• การละหมาดเป็นการแสดงความเคารพต่อพระเป็นเจ้า เป็น
การขอบคุณ ขอขมา และสรรเสริญพระองค์
• - มุสลิมทั้งชาย หญิงที่บรรลุนิติภาวะแล้วจะต้องปฏิบัติทุกวัน
วันละ ๕ ครั้ง นนเวลาเช้ามืด, เที่ยงวัน, บ่าย, พระอาทิตย์ตก
และเวลาค่า
• - ผู้ปฏิบัติทุกคนต้องหันหน้าไปสู่ทิศทางเดียวกัน คือ ทิศที่ตั้ง
ของวิหารกาบาห์ ที่นครเมกกะ ซาอุดิอารเบีย
• - แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของมุสลิมทั่วโลก
41
- 42. 42
3. การถือศีลอดนนเดือนรอมฎอน
คือ การงดเว้นการรับประทานอาหาร การดื่ม การร่วมประเวณี และ
การทาชั่วทั้งปวง ตั้งแต่แสงอรุณขึ้นจนหมดแสงอาทิตย์ตอนค่า
ต้องปฏิบัติตลอดเดือนรอมฎอน (เดือน ๙ ของฮิจเราะห์ศักราช)
การถือศีลอดมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกมุสลิมนห้เกิดความยาเกรง
ต่อพระเจ้า ระลึกถึงท่านนบีมุฮัมหมัดตอนไปบาเพ็ญภาวนาที่ถ้า
บนภูเขาฮิรอ และเป็นการขัดเกลาจิตนจมุสลิม ฝึกความอดทน
และเพื่อนห้เกิดความเห็นนจต่อคนขัดสนยากจน
หลักการปฏิบัติ (หลักการอิสลาม) 5 ประการ
- 44. 44
นายแพทย์ Allan Cott ชาวอเมริกันได้เขียนหนังสือ “Why Fast ?”
(ทาไมต้องถือศีลอด) ไว้ 10 ข้อ ดังนี้
1. ทานห้รู้สึกว่าสุขภาพกายและจิตนจที่ดีขึ้น
2. ทานห้มองเห็นและรู้สึกอ่อนเยาว์ขึ้น
3. ทานห้ร่างกายสะอาดสะอ้าน
4. ช่วยลดความดันโลหิตสูงและระดับคอเลสเตอรอลนนเลือด
5. ช่วยลดความรู้สึกอารมณ์นคร่
6. นห้โอกาสแก่ร่างกายได้มันบาบัดตัวมันเอง
7. ช่วยลดความตึงเครียด
8. ทานห้สติปัญญาเฉียบแหลม
9. ทานห้สามารถควบคุมตนเองได้
10. ช่วยชะลอความชรา / แก่
- 46. 46
“ซะกาต” แปลว่า การทานห้
สะอาด บริสุทธิ์ และการเจริญเติบโต
วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการยืนยันถึง
ความศรัทธา เพื่อซักฟอกทรัพย์สิน
และจิตนจของผู้จ่ายนห้มีความสะอาด
บริสุทธิ์ ขณะเดียวกันก็เพื่อเป็นการ
สร้างความเจริญนห้แก่สังคม
- 49. การกระทาที่เป็นข้ออนุญาตและส่งเสริม - Halal
• บอกทางนห้แก่ผู้หลงทาง
• ต่อสู้ถ้ามีการกดขี่
• รู้จักการนห้อภัยและยึดเอาความผ่อนปรน
• เป็นคนดีต่อบิดามารดา ต่อญาติ ต่อเด็ก
• สารวมตนนห้พ้นความชั่ว
• เตือนกันและกันนนสัจธรรม
• ศึกษาวิชาตั้งแต่อยู่นนเปลจนถึงหลุมศพ
• ตวงนห้เต็มเมื่อจะตวง และชั่งด้วยตราชั่งที่เที่ยงตรง ฯลฯ 49
- 50. การกระทาที่เป็นข้อห้ามปราม - Harom
• ห้ามยกย่องนครหรือสิ่งนดเสมอพระอัลเลาะห์
• ห้ามเคารพบูชารูปทุกชนิด
• ห้ามกราบไหว้บูชาธรรมชาติทุกชนิด
• ห้ามขายบริการหรือห้ามดื่มสุราเมรัยทุกชนิด
• ห้ามเรียกหรือนห้ดอกเบี้ย
• ห้ามเสี่ยงโชคหรือการพนันทุกชนิด
• ห้ามคุมกาเนิด ห้ามทาแท้ง
• ห้ามฆ่าตัวเองและผู้อื่น ฯลฯ 50
- 53. นิกายนนศาสนาอิสลาม
• ๑) นิกายชุนนี (Sunni) เป็นนิกายที่ยึดคัมภีร์อัลกุรอานเป็นหลัก
และถือพระวจนะของท่านนบีมุฮัมหมัดเป็นทางนา และปฏิบัติ
ตามอิหม่ามทั้ง ๔ ***ชนมุสลิมกลุ่มนหญ่นับถือนิกายนี้ รวมทั้งนน
ประเทศอินโดนิเซีย มาเลเซีย และไทยด้วย
• ๒) นิกายชีอะฮฺ (Sheite) ถือว่าผู้ที่เหมาะสมจะเป็นกาหลิบ หรือ
ผู้ปกครองชาวมุสลิมต่อจากมุฮัมหมัด คือ อาลี ซึ่งเป็นบุตรเขย
ของศาสดา (เจ้าเซ็น)
• ๓) นิกายวาฮาบี ต้องการทานห้ศาสนาบริสุทธิ์เหมือนสมัยท่าน
ศาสดา ไม่เชื่ออิหม่าม นักบุญ หรือนักปราชญ์ต่างๆ 53
- 57. Halan - เครื่องหมายการค้า ของไทยเพื่อกลุ่มอิสลาม
• เป็นศัพท์นิติศาสตร์อิสลามจากภาษาอาหรับ คือกฎบัญญัติอนุมัติ
นห้ มุกัลลัฟ (มุสลิมที่อยู่นนศาสนนิติภาวะ) กระทาได้ อันได้แก่
การนึกคิด วาจา และการกระทาที่ศาสนาได้อนุมัตินห้
• ***เช่น การรับประทานเนื้อปศุสัตว์ที่ได้รับการเชือดอย่างถูกต้อง
การค้าขายโดยสุจริตวิธี การสมรสกับสตรีตามกฏเกณฑ์ที่ได้ระบุไว้
เป็นต้น นนเมืองไทย คาว่า ฮาลาล เป็นที่รู้จักนนความหมาย
อาหาร หรือสิ่งเจือปนที่ไม่ขัดกับหลักศาสนาอิสลาม อาหาร
สาเร็จรูปประเภทนี้จะมีตราฮาลาล
57
- 59. 59
• กฎระเบียบเหล่านี้เป็น “ซุนนะฮ์”
(แบบแผน) ของ อัลลอฮฺ ที่ไม่อาจ
เปลี่ยนแปลงได้ และเป็นสิ่งที่อยู่
เบื้องหลังสิ่งที่มนุษย์เรียกว่าปรากฎ
การทางธรรมชาติ
• มนุษย์เป็นเพียงแต่ผู้ที่ค้นพบกฎ
เหล่านี้ และนามันมานช้ประโยชน์
เท่านั้น
ทัศนะของอิสลามต่อธรรมชาติ
- 63. 63
อาหารฮาลาลคืออะไร...?
• ฮาลาล หมายถึง สิ่งที่กฎหมายอิสลาม
หรือ บทบัญญัติของอัลลอฮฺ อนุมัตินห้
ปฏิบัติหรือบริโภคได้
• อาหารฮาลาล หมายถึง อาหารที่อนุมัตินห้
มุสลิมบริโภค
• ขณะเดียวกัน มุสลิม จะหลีกเลี่ยงการ
บริโภคอาหารที่ศาสนาห้าม
ซึ่งเรียกกันว่าอาหารหะรอม
- 64. 64
หะรอม
• หะรอม หมายถึง สิ่งที่กฎหมายอิสลาม หรือบทบัญญัติของอัลลอ
ฮฺไม่อนุมัตินห้กระทา และถือเป็นที่ต้องห้าม สาหรับมุสลิม
นครก็ตาม ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง จะต้องได้รับโทษจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.)
มุสลิม หรือผู้ศรัทธาต้องดาเนินชีวิตตาม แนวทางที่ฮาลาล และ
หลีกเลี่ยงสิ่งที่หะรอม
- 65. 65
• นม (จากวัว แกะ และแพะ)
• น้าผึ้ง
• ปลา
• พืชที่ไม่มีสารที่เป็นพิษ
• ผัก ผลไม้
• พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ลูกวอลนัท ฯลฯ
• เมล็ดข้าว หรือธัญพืช เช่น ข้าวสาลี ข้าวเจ้า ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ฯลฯ
• สัตว์จาพวก วัว แกะ แพะ กวาง ไก่ เป็ด นก ฯลฯ ซึ่งเป็นสัตว์ที่ฮาลาล
และจะต้องผ่านกระบวนการฆ่า ตามหลักการอิสลาม จึงจะเป็นที่อนุมัติ
นห้บริโภคสาหรับมุสลิม
อาหารฮาลาล
- 66. 66
• หมูบ้ำน, หมูป่ำ, สุนัข, ลำ, และ สัตว์กินเนื้อเช่น เสือ
• สัตว์เลื้อยคลำน และสัตว์นำโรค เช่น หนอน, หมัด, เห็บ, แมลงวันและแมลงสำบ เป็นต้น
• สัตว์ที่ตำยเอง ยกเว้นสัตว์น้ำ สัตว์ที่ถูกรัดคอตำย สัตว์ที่ถูกตี, ทุบ หรือขว้ำงตำย สัตว์ที่ตกจำกที่
สูงตำย สัตว์ที่ถูกขวิดตำย และสัตว์ที่ถูกสัตว์อื่นกินจนตำย
• สัตว์ที่ถูกเชือดด้วยนำมอื่นนอกจำกอัลลอฮฺ สัตว์ที่ถูกเชือดเพื่อบูชำเจว็ด
• สัตว์ที่มีเขี้ยวและกรงเล็บ เช่น สิงห์โต, หมี, และสัตว์อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน เช่น ลิง, แมว
• สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น กบ, จระเข้, และเต่ำ
• สัตว์ที่อิสลำมอนุญำตให้ฆ่ำได้ เช่น แมงป่อง, ตะขำบ, หนู และสัตว์สกปรก มีพิษอื่น ๆ
• สัตว์ที่ห้ำมฆ่ำในอิสลำม เช่น มด, ผึ้ง, นกหัวขวำน
• นกที่มีกรงเล็บไว้ล่ำเหยื่อ เช่น เค้ำแมว, เหยี่ยว, อินทรีย์ และนกประเภทเดียวกัน
• เนื้อสัตว์ที่ตัดจำกสัตว์ขณะมีชีวิต เช่น ขำ แขน หำง
• เลือด
• เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น สุรำ, ไวน์รวมทั้งเครื่องดื่มที่เป็นพิษและเป็นอันตรำย สิ่งเสพติด
• สิ่งที่ได้มำโดยกำรเสี่ยงทำย
• วัตถุเจือปนอำหำร (Food Additives) ที่ผลิตขึ้นจำกอำหำรต้องห้ำมข้ำงต้น
อาหารที่ไม่อนุมัติ (หะรอม) แก่มุสลิม มีดังนี้
- 72. 72
ฮิญาบ คือ การปกปิดอันถูกต้องสาหรับสตรีซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งใน
ปัจจัยที่มีผลมากที่สุดในการปกป้อง และดูแลครอบครัว สตรีที่ไม่
ปกปิดศีรษะและเรือนร่างของเธอนั้น เท่ากับเป็นการจุดไฟแห่ง
อารมณ์ของบุรุษให้ลุกโชติช่วง เปิดประกายสายตาของเขาให้เบิก
ออก และสาดส่องสายตาไปตามอารมณ์และอานาจฝ่ายต่าโดยไม่
อาจควบคุมได้อีก ตั้งมากมายของอาชญากรรมที่เกิดขึ้น หรือความ
เสื่อมทรามทางสังคมทีไม่อาจคานวณนับได้นั้น ส่วนหนึ่งมาจาก
บทบาทของสตรีที่ไม่คลุมผ้าให้มิดชิด ซึ่งชายแปลกหน้าทั้งหลายบน
โลกนี้ล้วนตกเป็นเหยื่อความสวยงามเหล่านั้นทั้งสิ้น......
- 75. 75
ศีล 5 กับมุสลิม
1. ปาณาติปาตา เวรมณี (สิกฺขาปทสมาทิยามิ)
เว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
2. อทินฺนาทานา เวรมณี (สิกฺขาปทสมาทิยามิ)
เว้นจากการลักทรัพย์
3. กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี (สิกฺขาปทสมาทิยามิ)
เว้นจากการประพฤติผิดนนกามทั้งหลาย
4. มุสาวาทา เวรมณี (สิกฺขาปทสมาทิยามิ)
เว้นจากการพูดเท็จ คาหยาบ หรือพูดส่อเสียด
5. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี (สิกฺขาปทสมาทิยามิ)
เว้นจากการดื่มน้าเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
- 76. 76
1. ปาณาติปาตา เวรมณี (สิกฺขาปทสมาทิยามิ) เว้นจากการฆ่าสัตว์
ตัดชีวิตอิสลามสอนว่า ....
• ْْاوُلُتْقَتَالَو َْسْفَّنال يِتَّال َْمَّرَح ُْ ّالل َّْالِإ ِّْقَحالِب
• และท่านทั้งหลายจงอย่าฆ่าชีวิตนดที่อัลลอฮฺได้ทรงห้ามไว้
นอกจากเพื่อสิทธิอันชอบธรรม (17:33)
ศีล 5 กับมุสลิม
- 77. 77
2. อทินฺนาทานา เวรมณี (สิกฺขาปทสมาทิยามิ) เว้นจากการลักทรัพย์
อิสลามสอนว่า
• ُْق َِّارسالَو ُْةَق َِّارسالَو ْْاُوعَطْاقَف اَمُهَيِدْيَأ اءَزَج اَمِب اَبَسَك ْاالَاكَن َْنِّم ِْ ّالل
• ส่วนขโมยผู้ชายและขโมยผู้หญิงนั้น ท่านทั้งหลายจงตัดมือมันทั้งสองเป็น
การตอบแทนสาหรับสิ่งที่มันได้กระทาไว้ เป็นการลงโทษเพื่อเป็ น
เยี่ยงอย่างจากอัลลอฮฺ (5:38)
• َْالَو ْْاُوبَرْقَت َْلاَم ِْيمِتَيْال َّْالِإ يِتَّالِب َْيِه ُْنَسْحَأ
• และท่านทั้งหลายจงอย่าเข้านกล้ทรัพย์ของเด็กกาพร้า (ด้วยเจตนาฉ้อฉล)
นอกจากเพื่อดาเนินการนนสิ่งที่ดียิ่ง (17:34)
ศีล 5 กับมุสลิม
- 78. 78
3. กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี (สิกฺขาปทสมาทิยามิ) เว้นจากการประพฤติ
ผิดนนกามทั้งหลาย
อิสลามสอนว่า
• َْالَو ْْاُوبَرْقَت ىَن ِّالز ُْهَّنِإ ََْانك ْاَةش ِاحَف اءَسَو ْاليِبَس
• และท่านทั้งหลายจงอย่าเข้านกล้การละเมิดประเวณี แท้จริงมันเป็นการ
ลามกและเป็นหนทางอันชั่วช้ายิ่ง (17:32)
ศีล 5 กับมุสลิม
- 79. 79
4. มุสาวาทา เวรมณี (สิกฺขาปทสมาทิยามิ) เว้นจากการพูดเท็จ คาหยาบ
หรือพูดส่อเสียด
อิสลามสอนว่า
• ُوابِنَتْاجَو َْل ْوَق ِْورُّالز
• และท่านทั้งหลายจงห่างไกลจากการกล่าวเท็จ (22:30)
ศีล 5 กับมุสลิม
- 80. 80
5. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี (สิกฺขาปทสมาทิยามิ) เว้นจากการ
ดื่มน้าเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
อิสลามสอนว่า
• اَي اَهُّيَأ َْينِذَّال ْْاوُنَمآ اَمَّنِإ ُْرْمَخْال ُْرِسْيَمْالَو ُْابَصنَألاَو ُْمَالْزَألاَو ْسْج ِر ِّْم
ْْن ِْلَمَع ِْانَطْيَّشال ُْهُوبِنَتْاجَف ْْمُكَّلَعَل َُْونحِلْفُت
• โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายเอ๋ย แท้จริงสุรา, การพนัน, การเซ่นสรวง
บูชา และการเสี่ยงทายนั้นเป็นความโสมมจากการกระทาของชัยฏอน
(มารร้าย) ดังนั้นท่านทั้งหลายจงห่างไกลจากมันเถิด เพื่อว่าพวกท่านจัก
ได้ชัยชนะ (5:90)
ศีล 5 กับมุสลิม
- 82. 82
5. มุสลิมเคารพศาสดาทุกคนก่อนหน้าศาสดามุฮัมมัด แต่ถือว่าศาสดา
มุฮัมมัด เป็นศาสดาคนสุดท้าย อิสลามครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
6. ไม่มีสถาบันพระ หรือนักบวช มนุษย์ทุกคนมีสิทธิที่จะนกล้ชิดพระเจ้า
7. อาศัยตัวบทกฎหมายและความเชื่อควบคุมพฤติกรรมมนุษย์
มีบทลงโทษมนุษย์ที่ทาความผิดขณะยังมีชีวิต เช่นลงโทษขโมย
ด้วยการตัดมือ และมีการลงโทษคนทาบาปหลังจากที่เขาตายไปแล้ว
ลักษณะเด่นของอิสลามที่แตกต่างไปจากศาสนาอื่น ๆ
- 83. 83
ญิฮาด (JIHAD)
• “ญิฮาด” มาจากคาว่า “ญะฮาดา”หมายถึง “ความพยายาม”
• “ญิฮาด” หมายถึง การพยายาม การดิ้นรนต่อสู้ หรือการนช้
พลังอานาจของตนเองไปนนแนวทางของอัลลอฮฺ เพื่อที่จะ
เพิ่มพูนความศรัทธานนพระเจ้า ซึ่งจะบรรลุได้ด้วยความมี
ศรัทธามั่น การกระทาความดี หลีกเลี่ยงความชั่ว
การทาตามคาสั่งของพระผู้เป็นเจ้า การเผยแพร่ศาสนา
อิสลาม และเทอดทูน ปกป้องอิสลาม
- 84. 84
นักวิชำกำรมุสลิมแบ่งกำรญิฮำด 4 ระดับ
1. ญิฮาดโดยหัวนจ คือการต่อสู้กับตัณหาราคะ
ของตัวเอง
2. ญิฮาดโดยลิ้น คือการชักชวนคนนห้หันมา
ยอมรับแนวทางที่ถูกต้อง
3. ญิฮาดโดยมือ การสนับสนุนความถูกต้อง
และแก้ไขสิ่งที่ผิด
4. ญิฮาดโดยอาวุธ สงครามเป็นวิธีการสุดท้าย
- 88. 88
ความเข้านจนนศาสนาคือแนวทางนนการดับไฟนต้
ท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) กล่าวไว้ว่า “ไม่นช่เป็นส่วนหนึ่งของ
ประชาชาติของฉันสาหรับผู้ที่เรียกร้องบนฐานแนวคิดของ
การคลั่งไคล้นนชาติพันธุ์ ไม่นช่เป็นส่วนหนึ่งของประชาชาติ
ของฉันสาหรับผู้ที่ทาสงครามบนฐานแนวคิดของการคลั่งไคล้
นนชาติพันธุ์และไม่นช่เป็นส่วนหนึ่งของประชาชาติของฉัน
สาหรับผู้ที่เสียชีวิตเนื่องจากการต่อสู้นนการปกป้องและ
พิทักษ์รักษาแนวคิดของการคลั่งไคล้นนชาติพันธุ์”