More Related Content Similar to โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
Similar to โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (20) More from Gankorn Inpia (10) โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2559
ชื่อโครงงาน คนไทยกับการใช้ภาษาอังกฤษ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1. นางสาววิลาสินี ข่ายสุวรรณ์ เลขที่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 11
2. นางสาวกรรกร อินเปี้ย เลขที่16 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 11
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาววิลาสินี ข่ายสุวรรณ์ เลขที่ 2
2. นางสาวกรรกร อินเปี้ย เลขที่ 16
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
คนไทยกับการใช้ภาษาอังกฤษ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
THinglish
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาววิลาสินี ข่ายสุวรรณ์
นางสาวกรรกร อินเปี้ย
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
"เด็กไทยเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นประถม แต่ทาไมภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง" เป็นคาถามที่ได้
ยินได้ฟังเป็นประจา กระทั่งกลายเป็นเหมือนเสียงราพึงไปในที่สุด เป็นเวลาไม่ใช่น้อย ถ้ารวมการศึกษา
ระดับอาชีวะเข้าไปด้วย นับ 20 ปี แต่นักศึกษาจานวนไม่น้อยใช้ภาษาอังกฤษได้แค่ระดับงูๆ ปลาๆ เด็ก
บางคนขยันมาก ถึงขนาดสามารถท่องพจนานุกรมได้ทั้งเล่ม ภาษาอังกฤษคาไหนแปลว่าอะไร ถามมา
สามารถตอบได้หมด แต่พอให้พูดกลับตกม้าตาย ไม่มีความกล้า พ่อแม่ยุคใหม่ที่มีฐานะจึงตัดปัญหาด้วย
การส่งลูกไปเรียนเมืองนอก และด้วยเหตุนี้ทาให้ปัจจุบันมีโรงเรียนอินเตอร์ โรงเรียนสองภาษาเกิดขึ้น
มากมาย เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนี้ โดยไม่ต้องส่งลูกไปเรียนให้ไกลหูไกลตาแล้วกับเด็กด้อยโอกาส พ่อแม่ไม่มี
เงินพอที่จะส่งเข้าโรงเรียนแพงๆ ช่องโหว่ของระบบการศึกษาของไทยว่า ส่วนหนึ่งมาจากค่านิยมของสังคม
ที่ให้ความสาคัญกับเรื่องของ "สถานะ" มากกว่าความสามารถ ทาให้เด็กไทยแข่งกันเรียนเพื่อให้ได้ใบ
ปริญญา เป็นใบเบิกทางสู่การมีหน้ามีตา มีหน้าที่การงานที่ดี
3. 3
ดังนั้น ถ้าเข้าใจหลักการการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อให้พูดได้ ฟังเข้าใจ เหมือนเจ้าของภาษา ไม่ยาก
เลย ขอเพียงมีความตั้งใจ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การเรียน
ภาษาอังกฤษทาได้ง่ายขึ้น สามารถฝึกได้เองในทุกที่ทุกเวลา
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อเพิ่มโอกาสของการได้งานดีๆ และมีรายได้มากขึ้น การเรียนภาษาอังกฤษช่วยเพิ่มศักยภาพใน
การทางาน/หางาน
2. เพื่อช่วยให้เราได้เข้าใจมากขึ้น ว่าทาไมภาษาอังกฤษจึงสาคัญ และทาไมเราควรเรียนรู้เอาไว้
เพราะภาษาอังกฤษ ถูกใช้เป็นทางการในกว่า 53 ประเทศทั่วโลก มีคนกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก
พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ในแวดวงสื่อแล้ว ยังคงใช้ภาษาอังกฤษในการนาเสนอและ
ติดต่อสื่อสารเป็นหลัก ในอินเตอร์เน็ตก็เช่นกัน ภาษาอังกฤษยังคงเป็นภาษาหลักของโลก
อินเตอร์เน็ต
3. การเรียนรู้ภาษา จะช่วยให้เกิดความภูมิใจที่ได้เรียนและเข้าใจภาษาใหม่ๆ
4. เพื่อการเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ ของประเทศนั้นผ่านภาษา โดยไม่ใช่ประเทศอังกฤษหรือสหรัฐ
อเมริกาเพียงอย่างเดียว
5. เพื่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่ปัจจุบัน ประเทศไทยของเรากาลังก้าวสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อการ
ติดต่อสื่อสารเป็นศูนย์กลางของความมั่นคงและพัฒนาประเทศ
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
การทาการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับ เรื่อง การใช้ภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง โดยรวบรวมข้อมูลจากการ
สารวจวิธีการฟัง พูด อ่าน เขียน จากเจ้าของภาษาที่ถูกต้อง
ศึกษาและใช้กระบวนการวิเคราะห์เชิงลึกควบคู่กับวิธีการต่างๆ เช่น สังเกตพฤติกรรม การ
สื่อสาร การสนทนา โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างนักเรียนไทย อาจารย์ วิทยากร หรือผู้รู้ นาความรู้
ประสบการณ์มาปรับปรุงแก้ไขและประยุกต์ใช้
ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาใช้เวลารวม 17 สัปดาห์
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ในภาวะปัจจุบันที่อิทธิพลของโลกาภิวัฒน์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และยังจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นั้น
การเรียนรู้ภาษาของประเทศอื่นย่อมได้เปรียบในการทากิจการต่างๆ เพราะคงไม่มีใครจะติดต่อสื่อ สาร
และรู้เรื่องได้ดีเท่ากับการพูดภาษาเดียวกัน เคยมีเรื่องเล่ากันเล่นว่าประเทศไทยที่ค้าขายสิงคโปร์ มาเลย์
ฮ่องกง ไต้หวัน ไม่ได้ก็เพราะว่ามาติดต่อกับประเทศไทยแล้วสื่อสารกันยังไม่ชัดเจนจึงต้องผ่านตัวแทนที่รู้
4. 4
ภาษาดีกว่าเช่นสิงค์โป มาเลย์ ฮ่องกง ไต้หวัน หรือแม้แต่ฟิลิปปินส์ก็ตาม ซึ่งเราจะเห็นว่าประเทศเหล่านั้น
ล้วนแล้วแต่ให้ความสาคัญกับการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาที่
อาจคิดได้ว่าเป็นภาษาสากล หลายประเทศประกาศให้เป็นภาษาราชการอีกภาษาหนึ่ง
นอกจากภาษาของตัวเอง แน่นอนว่าประเทศที่ให้ความสาคัญกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนั้นย่อม
ทราบดีว่า คนจะเรียนรู้ภาษาให้ซาบซึ้งสามารถใช้ภาษาเข้าสู่สังคมและวัฒนธรรม สามารถใช้ภาษาได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสมกับสังคมวัฒนธรรมตามสถานการณ์ได้ในทุกทักษะของภาษา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่
สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ดีจะมีโอกาสในการจ้างงาน และได้รับการสนับสนุนส่งเสริมในงาน
ในหน้าที่ให้ยิ่งขึ้นไป มากกว่าผู้ที่ไม่มีทักษะทางภาษาเลย ดังตัวอย่างที่หน่วยงานห้างร้านบริษัทที่ประกาศ
รับพนังงาน แต่แนบท้ายด้วยคาว่ามีความสามารถทางภาษาที่สามารถติดต่อสื่อสารได้ นั่นก็คือต้องมีทักษะ
การฟังและการพูดเป็นอย่างน้อย
อันเนื่องจากภาษาอังกฤษมีการใช้กันทั่วโลกมากกว่าภาษาอื่นๆ มีการเรียนการสอนกันทั่วโลก
มากกว่าภาษาอื่นจึงคิดให้เป็นภาษาสากลที่ติดต่อสื่อสารได้ทั่วโลก การเรียนการสอนภาษาอังกฤษประการ
แรกน่าจะใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ เช่นเดียวกับการที่เราเรียนรู้
ภาษาแรกจากพ่อแม่ พี่เลี้ยง เป็นการเรียนรู้แบบธรรมชาติ ไม่จาเป็นต้องท่องศัพท์ แปล หรือ รู้หลัก
ไวยากรณ์ ดังนั้นการเรียนการสอนในระดับเริ่มเรียนรู้ภาษานั้น คงต้องเน้นการมีส่วนร่วมทางภาษาให้มาก
ที่สุด คือผู้เรียนต้องเรียนรู้จากการฟังและพูดอย่างเป็นธรรมชาติจนเกิดทักษะ เริ่มจากการพูดใน
ชีวิตประจาวันในครอบครัว แล้วค่อยขยายออกไปสู่โลกภายนอกมากขึ้น เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ใน
การศึกษาขั้นสูงขึ้น การสอนทักษะการพูดและการฟังจึงเป็นสิ่งสาคัญยิ่ง และผู้สอนอันเป็นต้นแบบจะต้อง
พัฒนาความรู้ทางภาษาให้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาให้มากที่สุด มิฉะนั้นแล้วจะเข้าลักษณะแม่ปูสอนลูกให้
เดินให้ตรง ในเรื่องนี้ปัจจุบันแม้จะแก้ได้บ้างโดยอาศัยเทคโนโลยี ที่บันทึกเสียงการพูดคุย การออกเสียงที่
ถูกต้องไว้ แล้วก็ตาม แต่การแสดงความรู้สึก แสดงอารมณ์ที่เกี่ยวข้องนั้นก็ยังต้องใช้เจ้าของภาษามาเป็น
ผู้สอนถึงจะทาให้เกิดการเรียนรู้ทางภาษาได้เร็ว การสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ จะสื่อสารกันได้อย่างน้อย
ที่สุดก็ต้องฟังรู้เรื่องก่อนแล้วจึงจะทาให้สามารถพูดโต้ตอบได้ หรือพูดได้ พูดเป็น หรือใช้เป็น และเป็น
ประโยชน์
นอกจากการโต้ตอบแลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศกันก็คงรวมไปถึงการเล่าเรื่อง บรรยาย แสดง
ความคิด ความเห็น ความรู้สึก วิพากษ์วิจารณ์ ซึงก็ต้องมีการประเมินที่ได้ยินได้ฟังมา จากการวิเคราะห์
สังเคราะห์อีกทีหนึ่ง จึงถือว่าสุดยอดในการเรียนรู้ทางภาษา และจากที่ประเทศเรากาลังประสบกับภาวะ
วิกฤติทางเศรษฐกิจ ตากเศรษฐกิจกระแสโลก และวิกฤติการเมือง กาเรียนรู้ภาษาให้แตกฉานก็เป็นการ
ช่วยบรรเทาภาวะทางเศรษฐกิจในขณะนี้ได้ อันเนื่องมาจากที่รัฐบาลประกาศให้การท่องเที่ยวเป็นวาระ
แห่งชาติ การเข้าใจเรียนรู้ภาษาต่างประเทศจะทาให้การติดต่อสื่อสารกับชาวต่างประเทศที่จะเข้ามา
5. 5
ท่องเที่ยวประเทศไทยดีขึ้น เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจให้เข้ามาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น
สถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพ น่าจะมีส่วนส่งเสริม ช่วยเหลือประเทศในแง่นี้ได้
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจจะทา โดยทั่วไปเรื่องที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์
มักจะได้มาจากปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ และจากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
ระบบการศึกษา หรือสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ พิจารณาองค์ประกอบสาคัญ ดังนี้
1). มีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องคนไทยกับการใช้ภาษาอังกฤษ
2). จัดหาสื่อความรู้ หนังสือเรียน คู่มือ และข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทย
3). มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา
4). มีเวลาเพียงพอ
5). มีงบประมาณเพียงพอ
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่ง
รวมถึงการขอคาปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ ทาให้ผู้จัดทาได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนด ขอบเขตของเรื่องที่จะ
ศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษา จนสามารถใช้ออกแบบและ
วางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้
3. จัดทาเค้าโครงของโครงงานที่จะทา มีรายละเอียดดังนี้
1). ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิง และรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ทรงคุณวุฒิ
2). วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงการที่จะพัฒนา
3). ออกแบบการพัฒนา คิดค้นหลักการในการทาโครงงาน
4). กาหนดตารางการปฏิบัติงานของการจัดทาเค้าโครงของโครงงาน ลงมือทาโครงงานและสรุป
รายงานโครงงาน โดยกาหนดช่วงเวลาอย่างกว้างๆ
5). ทาการพัฒนาโครงงานขั้นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น โดยทาการพัฒนาส่วนย่อย
ๆ บางส่วนตามที่ได้ออกแบบไว้แล้ว นาผลจากการศึกษาในช่วงนี้ไปปรับปรุงแผนการทดลองที่ออกแบบไว้
ในครั้งแรกให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
6. 6
6). เสนอเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอคาแนะนาและปรับปรุง
แก้ไข เพื่อให้การวางแผนและดาเนินการ ทาโครงงานเป็นไปอย่างเหมาะสมเป็นขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นจน
สิ้นสุด
4. การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว
ขั้นตอนต่อไปจึงเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ เช่น จัดเตรียมวัสดุ - อุปกรณ์ ให้พร้อม
รวมทั้งการกาหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบของสมาชิกในกลุ่มให้ชัดเจน แล้วจึงดาเนินการทาโครงงาน
ขณะเดียวกันก็มีการทดสอบ ตรวจสอบ ปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาโครงงานเป็นระยะ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่า
ผลงานที่พัฒนาขึ้นนั้น สามารถใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้เรียนได้อย่างเหมาะสมที่สุด เพื่อให้ตรงกับความ
ต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมายและเกิดประสิทธิภาพสูงด้วย
5. การนาเสนอโครงงาน ซึ่งเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดาเนินการ
ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงานคนไทยกับการใช้
ภาษาอังกฤษ
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับคนไทยกับการใช้ภาษาอังกฤษ คณะ
ผู้จัดทาโครงงานมีวิธีการดาเนินงานโครงงานตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. ขั้นตอนการดาเนินการ
1). คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนาเสนออาจารย์ที่ปรึกษา
2). ศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับโครงงานในการสร้างสื่อวีดีทัศน์
3). ศึกษาโปรแกรม Adobe audition ในการสร้าง
4). จัดทาโครงร่างโครงงานเสนออาจารย์ที่ปรึกษา
5). ออกแบบสื่อวีดีทัศน์
6). จัดทาโครงงานสร้าง สื่อวีดีทัศน์ เรื่อง สื่อเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับคนไทยกับการใช้
ภาษาอังกฤษ
7). เผยแพร่ผลงานโดยการนาเสนอผ่านสื่อวีดีทัศน์
7. 7
2. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
1). ศึกษา เรื่อง คนไทยกับการใช้ภาษาอังกฤษ
2). ศึกษา เรื่อง การทางานของตัวโปรแกรมต่างๆ ได้แก่
- โปรแกรม Final cut pro
- โปรแกรม Motion 5
- โปรแกรม Adobe sound booth cs5
3. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงานเกี่ยวกับคนไทยกับการใช้
ภาษาอังกฤษ
1). เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
2). ซอฟต์แวร์
- โปรแกรม Final cut pro
- โปรแกรม Motion 5
- โปรแกรม Adobe sound booth cs5
งบประมาณ
งบประมาณ รวมทั้งสิ้น 500 บาท แบ่งเป็น
1). ค่าใช้จ่าย 430 บาท
2). ทุนสารอง 70 บาท
8. 8
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน วิลาสินี
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล กรรกร
3 จัดทาโครงร่างงาน วิลาสินี
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน กรรกร
5 ปรับปรุงทดสอบ วิลาสินี
6 การทาเอกสารรายงาน กรรกร
7 ประเมินผลงาน วิลาสินี
8 นาเสนอโครงงาน กรรกร
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1. ได้เรียนรู้และสามารถพัฒนาความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน
2. ได้นาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3. สามารถนาภาษาอังกฤษมาใช้ในการสื่อสารในระดับสากล
4. สามารถต่อยอดมาใช้ในการทางานร่วมกับผู้อื่นในอนาคตได้
5. สามารถนาความรู้ที่ได้จากเรื่อง คนไทยกับการใช้ภาษาอังกฤษ มาเผยแพร่และให้ความรู้แก่คนทั่วไปได้
สถานที่ดาเนินการ
- โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
- สถาบันภาษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
- หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1. กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
2. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
3. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
4. กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
5. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
9. 9
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
Di Rado, A. (1995, March 15). Trekking through college: Classes
explore modern society using the world of Star trek. Los Angeles
Times, p. A3.
James, N. E. (1988). Two sides of paradise: The Eden myth according
to Kirk and Spock. In D. Palumbo (Ed.), Spectrum of the fantastic
(pp. 219-223). Westport, CT: Greenwood.
Lynch, T. (1996). DS9 trials and tribble-ations review. Retrieved
October 8, 1997, from Psi Phi: Bradley's Science Fiction Club
Mershon, D. H. (1998, November/December). Star trek on the brain: Alien minds, human
minds. American Scientist, 86(6), 585. Retrieved July 29, 1999, from Expanded
Academic ASAP database.
Okuda, M., & Okuda, D. (1993). Star trek chronology: The history
of the future. New York: Pocket Books.
Sturgeon, T. (1995). Science fiction. In The encyclopedia Americana (Vol. 24, pp. 390-
392). Danbury, CT: Grolier.
ชัยเสฏฐ์ พรหมศรี. (2549). ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว, สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 26(3),
20-25.
พัชรา แสงศรี. ๒๕๔๗. จังหวัดเชียงใหม่. (ออนไลน์).
สุชาติ เผือกสกนธ์. (9 มิถุนายน 2549). ทาไมคนไทยกลัวฝรั่ง. ผู้จัดการรายวัน, น.13.