More Related Content
Similar to ระบบคอมพิวเตอร์
Similar to ระบบคอมพิวเตอร์ (20)
More from ThanThai Sangwong
More from ThanThai Sangwong (6)
ระบบคอมพิวเตอร์
- 2. ระบบคอมพิวเตอร์ ( Computer System)
ในการใช้คอมพิวเตอร์ทางานแล้วให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตามความต้องการ
ของผู้ใช้งานนั้น ย่อมต้องมีองค์ประกอบที่เรียกว่า ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามา
เกี่ยวข้องเสมอ ระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลาย
ประเภททางานร่วมกัน โดยมีคาสั่งหรือที่เรียกว่าโปรแกรมเป็นตัวสั่งการให้อุปกรณ์
เหล่านั้นทางานได้ตามที่มนุษย์ต้องการ ดังนั้นเมื่อกล่าวถึงระบบคอมพิวเตอร์สิ่ง
สาคัญของระบบจึงได้แก่ ฮาร์ดแวร์(hardware) ซอฟต์แวร์(software)
และบุคลากร(Peopleware) นั่นคือ เครื่องคอมพิวเตอร์จะทางานได้ต้อง
ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ประการ คือ
- 3. • ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง ส่วนประกอบ โครงสร้าง รวมถึง
อุปกรณ์ต่อพ่วงที่สนับสนุนการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์
ต่าง ๆ เหล่านี้มนุษย์สามารถมองเห็นและสัมผัสได้ หน้าที่ของฮาร์ดแวร์
ก็คือ ทางานตามคาสั่งควบคุมการทางานต่างๆ ที่มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ แบ่งออกเป็นส่วนประกอบดังนี้
- 4. 1. หน่วยรับข้อมูล (Input unit) เป็น
อุปกรณ์รับเข้า ทาหน้าที่รับโปรแกรมและข้อมูล
เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รับเข้าที่ใช้กัน
เป็นส่วนใหญ่ คือ แป้นพิมพ์ ( Keyboard )
และเมาส์ ( Mouse) นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์
รับเข้าอื่น ๆ อีก ได้แก่ สแกนเนอร์ (
Scanner), วีดีโอคาเมรา (Video
Camera), ไมโครโฟน (Microphone),
ทัชสกรีน (Touch screen), แทร็คบอล
(Trackball), ดิจิตเซอร์ เทเบิ้ล แอนด์ ครอส
แชร์ (Digiter tablet and crosshair)
- 5. 2. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) หรือ
เรียกโดยทั่ว ๆ ไปว่า CPU ซึ่งถือว่าเป็นสมองของระบบคอมพิวเตอร์ มี
ส่วนประกอบที่สาคัญ 2 ส่วน คือ หน่วยควบคุม หน่วยคานวณ -
หน่วยควบคุม (Control Unit หรือ CU) ทาหน้าที่ควบคุมลาดับ
ขั้นตอนการทางานของหน่วยรับข้อมูล หน่วยแสดงผล หน่วยคานวณและ
หน่วยตรรก หน่วยความจาและแปลคาสั่ง
- หน่วยคานวณและตรรก (Arithmetic and Logic
Unit หรือ ALU) ทาหน้าที่ในการคานวณหาตัวเลข เช่น การบวก ลบ การ
เปรียบเทียบ
- หน่วยความจา เป็นอุปกรณ์ใช้เก็บโปรแกรมและข้อมูลที่ใช้ใน
การประมวลผล
- 6. 3. หน่วยความจาภายใน (Primary Storage Section หรือ
Memory) เป็นหน่วยความจาที่อยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถ
ติดต่อกับหน่วยงานอื่น ๆ ได้โดยตรง มี 2 ประเภท
3.1 หน่วยความจาภายใน
- หน่วยความจาแบบแรม (Random Access
Memory หรือ Ram) เป็นหน่วยความจาชั่วคราว ที่ใช้สาหรับเก็บ
โปรแกรมที่กาลังใช้งานอยู่ขณะนั้น มีความจุของหน่วยเก็บข้อมูลไม่เกิน 640
KB คือผู้ใช้สามารถเขียนหรือลบไปได้ตลอดเวลา ถ้าหากปิดเครื่อง
คอมพิวเตอร์หรือไฟฟ้าดับ จะมีผลทาให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เก็บไว้สูญหายไปหมด
และไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้
- หน่วยความจาแบบรอม (Read Only
Memory หรือ Rom) เป็นหน่วยความจาถาวร ที่สามารถอ่านได้อย่าง
เดียว ไม่สามารถบันทึกข้อมูลได้ ถึงแม้ว่าจะปิดเครื่องหรือไฟฟ้าดับ ข้อมูลที่
เก็บไว้จะยังคงอยู่
- 7. 3.2 หน่วยความจาสารอง ได้แก่ เทปแม่เหล็ก จานแม่เหล็ก แผ่นดิสก์
(Diskett) CD-ROM
แผ่นดิสก์หรือสเกต เป็นจานแม่เหล็กขนาดเล็ก ชนิดอ่อน จัดเก็บข้อมูลโดย
ใช้อานาจแม่เหล็ก การใช้งานจะต้องมี Disk Drive เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ใน
การขับเคลื่อนแผ่นดิสก์ โดยแบ่งตาแหน่งพื้นผิวออกเป็น แทร็คและเซ็คเตอร์
แบ่งออกเป็น 3 ขนาด คือ
- แผ่นดิสก์ขนาด 8 นิ้ว ปัจจุบันไม่นิยมใช้
- แผ่นดิสก์ขนาด 5.25 นิ้ว แบ่งออกเป็น DD สามรถบันทึก
ข้อมูลได้ประมาณ 360 KB และ HD สามารถบันทึกข้อมูลได้ 1.2 MB
- แผ่นดิสก์ขนาด 3.5 นิ้ว แบ่งออกเป็น DD สามารถ
บันทึกข้อมูลได้ประมาณ 720 KB และ HD สามารถบันทึกข้อมูลได้ 1.44
MB นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน
- 8. 4. หน่วยแสดงผล (Output Unit) ทาหน้าที่แสดงผลลัพธ์ที่ได้
จากการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือใช้เก็บผลลัพธ์เพื่อ
นาไปใช้ภายหลัง ได้แก่ จอภาพ (Monitor) เป็นอุปกรณ์ส่งออกมาก
ที่สุด เครื่องพิมพ์ (Printer)
- 9. ซอฟแวร์ (Software) คือ คาสั่ง หรือชุดคาสั่ง ทาหน้าที่ควบคุม
การทางานของระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นส่วนที่ทาให้ผู้ใช้
คอมพิวเตอร์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ (ฮาร์ดแวร์) สามารถสื่อสารกัน
ได้ ทั้งนี้อาจแบ่งซอฟต์แวร์ตามหน้าที่ของการทางานได้ดังนี้
- 10. 1. โปรแกรมจัดระบบ (System Software) คือ ชุดคาสั่งหรือโปรแกรมที่ควบคุม
การทางานของคอมพิวเตอร์ เป็นสื่อกลางระหว่างโปรแกรมประยุกต์กับเครื่องคอมพิวเตอร์
เพื่อช่วยในการจัดการทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ ได้แก่ โปรแกรมควบคุมเครื่อง
ระบบปฏิบัติการ เช่น DOS, Windows, Os/2, Unix
2. โปรแกรม์ประยุกต์ (Application Software) คือ ชุดคาสั่งหรือ
โปรแกรมที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทางานตามที่ผู้ใช้ต้องการ ได้แก่ โปรแกรม
สาเร็จรูปต่าง ๆ
- โปรแกรมจัดระบบฐานข้อมูล เช่น Microsoft Access Oracle
- โปรแกรมพิมพ์เอกสาร เช่น Microsoft Word
- โปรแกรสร้าง Presentation เช่น Microsoft Power Point
- โปรแกรมช่วยสอน (CAI - Computer Aids Intrruction )
- โปรแกรมคานวณ เช่น Microsoft Excel
- 11. 3. โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Software) เป็นโปรแกรมที่ใช้เครื่องมืในการช่วยให้การใช้
งานคอมพิวเตอร์มีความคล่องตัวขึ้น และสามารถแก้ปัญหาอันเกิดจากการใช้งานได้ เช่น
- โปรแกรมกาจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ เช่น Mcafee, Scan, Norton Anitivirus
- โปรแกรมที่ใช้บีบอัดข้อมูลให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สามารถคัดลอกไปใช้ได้สะดวก เช่น
Winzip เป็นต้น
4. โปรแกรมแปลงภาษา (Language Translater) ใช้ในการสร้างโปรแกรมประยุกต์เพื่อ
นาไปใช้งานด้านต่างๆ โดยการเขียนชุดคาสั่งเพื่อควบคุมให้คอมพิวเตอร์ทางาน และใช้โปรแกรมแปลง
ภาษาดังกล่าวทาหน้าที่แปลงชุดคาสั่งที่สร้างขึ้น (High Level Language) ให้ไปเป็นคาสั่งที่
เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจและปฏิบัติตามได้ (Low Level Language)
โปรแกรมแปลงภาษาโดยทั่วไปมี 2 ประเภท คือ
4.1 คอมไพเลอร์ (Compiler) โปรแกรมประเภทนี้จะทาหน้าที่แปลงชุดคาสั่งที่สร้างขึ้นทั้งหมด
(ตั้งแต่คาสั่งแรกจนถึงคาสั่งสุดท้าย) ในคราวเดียวกัน เช่น ภาษา Pascal, C, C++
4.2 อินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreter) โปรแกรมประเภทนี้จะทาหน้าที่แปลงชุดคาสั่ง แล้วแสดง
ผลลัพธ์ออกมา ทาให้ง่ายต่อการแก้ไขคาสั่งที่ผิดพลาดได้ทันที เช่น ภาษา Basic
- 12. พีเพิลแวร์ (People Ware) หรือผู้ใช้ระบบ ในระบบคอมพิวเตอร์
ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นส่วนหนึ่งที่จะก่อใ้เกิดผลลัพธ์จากการให้เครื่อง
คอมพิวเตอร์ทางาน ด้วยเหตุที่ว่ามนุษย์เป็นผู้สร้างชุดคาสั่งหรือ
โปรแกรมขึ้นมาเพื่อควบคุมการทางานของเครื่องนั่นเอง ในที่นี้จะขอ
กล่าวถึงผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในระดับต่างๆ ดังนี้
- 13. 1. ผู้บริหาร (Manager) ทาหน้าที่กากับดูแลวางแนวนโยบายในส่วนที่
เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อให้องค์กรสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
2. นักวิเคราะห์และนักออกแบบระบบ
(System Analysis & Deign) ทาหน้าที่วางแผนและออกแบบ
ระบบงาน เพื่อนาเอาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งาน
3. นักเขียนโปรแกรม (Programmer) ทาหน้าที่เขียน/สร้าง
ชุดคาสั่งเพื่อควบคุมให้คอมพิวเตอร์ทางาน
4. ผู้ปฏิบัติการ (Operator) ทาหน้าที่ควบคุมเครื่อง เตรียมข้อมูล
และป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์