INFORMATION  TECHNOLOGY Computer Hardware & Software Nittaya  Wongyai
เทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี เช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์  ระบบเครือข่าย  ระบบโทรคมนาคม รวมทั้ง โปรแกรมสำเร็จรูป หรือ ระบบที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อนำมาใช้ในจัดการสารสนเทศ โดยการรวบรวม จัดเก็บ ประมวลผลสารสนเทศ  และแสดงผลลัพท์ เป็นสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ที่นำไปใช้ประโยชน์ได้ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารหรือโทรคมนาคม
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ COMPUTER  :  อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าใจคำสั่งในการรับข้อมูล (Input)   ประมวลผลข้อมูล ( Process )  และให้ผลลัพธ์ที่เป็นสารสนเทศ ( Information ) Supercomputer Mainframe Computer Mini Computer Microcomputer
Supercomputer คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุด มีประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานสูงมากเป็นพิเศษ สามารถประมวลผลงานที่มีความซับซ้อนและมีปริมาณมากๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น งานโคจรรอบโลกของดาวเทียม งานพยากรณ์อากาศ มักนิยมนำมาใช้ในองค์กรขนาดใหญ่  เช่น   องค์การนาซา ( NASA)   และ   AT&T   เป็นต้น ต้องติดตั้งในห้องที่มีสภาพแวดล้อมพิเศษ Supercomputer   ที่มีความเร็วมากที่สุดในโลกในปัจจุบันคือ   IBM’s Blue Gene
IBM’s Blue Gene
Mainframe Computer สามารถประมวลผลด้วยความเร็วที่สูงมากและมีหน่วยความจำขนาดใหญ่ แต่มีประสิทธิภาพรองลงมาจาก supercomputer เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีจำนวนข้อมูลจำนวนมากๆและมีการเข้าถึงของผู้ใช้จำนวนมากในเวลาเดียวกัน ธุรกิจที่นิยมใช้  Mainframe Computer   ได้แก่ ธุรกิจประเภทธนาคาร สายการบิน ธุรกิจประกันภัย ตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น
Mainframe Computer
Minicomputer เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า   midrange computer  เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง มีประสิทธิภาพในการทำงานในด้านความเร็วและความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล รองจาก   Mainframe computer  สามารถนำมาแชร์ทรัพยากรเพื่อใช้งานร่วมกัน ด้วยการทำหน้าที่เป็นเครื่อง   Server   ที่คอยบริการทรัพยากร แก่เครื่องลูกข่าย นิยมนำมาใช้ในสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า หรือหน่วยงานขนาดกลางเป็นต้น
Minicomputer
Microcomputer เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า  Personal Computer  หรือ  PC  เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก มีราคาถูก ใช้ในงานส่วนบุคคลในลักษณะ  Stand Alone  เหมาะกับงานทั่วไป เครื่องมีขนาดเล็กสามารถวางบนโต๊ะทำงาน หรือพกพาติดตัวไปยังที่ต่าง ๆ ได้ มักใช้ในบริษัท หรือที่ทำงานสถานศึกษา แม้แต่ในบ้าน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการทำเอกสาร หรืองานส่วนตัว เป็นคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสามารถแบ่งออกได้เป็น  4  ชนิด
Microcomputer Desktop Computer:   คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ มีขนาดเล็กเหมาะกับโต๊ะทำงาน แต่ใหญ่เกินไปสำหรับพกพาไปในที่ต่างๆ สามารถนำไปใช้กับงานในสำนักงานและงานส่วนตัว ราคาถูก
Microcomputer Notebook Computer/Laptop Computer มีประสิทธิภาพในการทำงานเหมือนกันกับ   Desktop   Computer  แต่มีขนาดเล็กกว่า มีน้ำหนักเบา สามารถพกพาไว้ในกระเป๋าเอกสารได้
Microcomputer Tablet PC เป็น Laptop Computer   ชนิดหนึ่งที่สามารถรับข้อมูลจากการเขียนแล้วเปลี่ยนให้เป็นข้อความที่สามารถประมวลผลด้วยโปรแกรมได้
Tablet /Computer Tablet
Microcomputer Handheld Computer:   คอมพิวเตอร์พกพา Personal Digital Assistant: PDA อุปกรณ์ที่สามารถจัดการข้อมูลส่วนบุคคล จดบันทึก การสื่อสาร ตลอดจนการใช้งานอินเทอร์เน็ต ใช้ปากกา   Stylus   เป็นอุปกรณ์ในการบันทึกข้อมูล
ความเร็วในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ วัดจากความเร็วในการประมวลผลคำสั่ง  ( Instruction)  ต่อวินาที  โดยมีการใช้หน่วยวัดความเร็ว ดังนี้ -   Millisecond   หมายถึง   1  พันคำสั่ง  /  วินาที -   Microsecond   หมายถึง   1  ล้านคำสั่ง  /  วินาที -   Nanosecond   หมายถึง   1  พันล้านคำสั่ง  /  วินาที -   Picosecond   หมายถึง   1  ล้านล้านคำสั่ง  /  วินาที
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ / ระบบคอมพิวเตอร์ Hardware Software Peopleware Data/Information Documentation/Procedure
Computer Hardware อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต่อพ่วงเข้ากับคอมพิวเตอร์โดยสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ Printer
Computer Hardware: Input Devices Keyboard:  เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลที่ประกอบด้วยแป้นกดเพื่อป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
Mouse:   เป็นอุปกรณ์ควบคุมการชี้ตำแหน่งบนจอภาพมีทั้งแบบ   Ball, Optical, Wireless Computer Hardware: Input Devices
Optical Character Reader (OCR):  อุปกรณ์อ่านข้อมูลลำแสง แล้วแปลงรหัสเป็นสัญญาณไฟฟ้าไปเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่นเครื่องอ่านรหัสแท่ง ( Barcode reader ) Computer Hardware: Input Devices
Optical Character Reader (OCR) Computer Hardware: Input Devices
Scanner:   อุปกรณ์นำเข้าข้อมูลที่เป็นเอกสาร หรือรูปภาพ จับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพ จากรูปแบบของแอนาลอกเป็นดิจิตอล 1.  สแกนเนอร์ดึงกระดาษ  ( Sheet - Fed Scanner) 2.  สแกนเนอร์แท่นเรียบ  ( Flatbed Scanner) 3.  สแกนเนอร์มือถือ  ( Hand - Held Scanner) Computer Hardware: Input Devices
Joy Sticks:  อุปกรณ์รับเข้าชนิดหนึ่งที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวชี้ตำแหน่งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ Computer Hardware: Input Devices
Touch Screen:  จอภาพแบบสัมผัส สามารถใช้งานแทนอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลเช่น คีย์บอร์ดและเมาส์ Resistive TouchScreen Capacitive TouchScreen Infrared TouchScreen Computer Hardware: Input Devices
Resistive TouchScreen หน้าจอประเภท   Resistive  ( หน้าจอนิ่ม )  มีราคาถูก กินไฟน้อย ความแม่นยําในการสัมผัสสูง และทนทานต่อฝุ่น ความชื้นได้ดี ใช้อะไรสัมผัสจอก็ได้ ส่วนข้อเสียหลักๆ คือ จอไม่ค่อยทนเท่าไหร่ และแสดงผลได้ไม่ค่อยละเอียด หากเทียบกับหน้าจอประเภทอื่นๆ
Capacitive TouchScreen หน้าจอประเภท  Capacitive  หรือหน้าจอแข็ง โครงสร้างของ ประกอบด้วยแผ่นแก้วเคลือบผิวด้วยอ็อกไซด์ของโลหะแบบโปร่งแสง เมื่อถึงเวลาการใช้งานก็จะมีการป้อนแรงดันไฟฟ้าที่มุมทั้งสี่ของหน้าจอเพื่อสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มสม่ำเสมอตลอดทั่วทั้งแผ่น ผู้ใช้จะต้องใช้นิ้วมือเปล่าๆ สัมผัสที่จอเพื่อดึงกระแสจากแต่ละมุมที่ให้แรงดันตกลง จากนั้นแผงวงจรควบคุมก็จะคำนวณเป็นตำแหน่งที่สัมผัสได้ ข้อดีหลักๆ คือแสดงผลได้คมชัดและทนทานมาก ตอบสนองการสัมผัสได้เร็ว รองรับระบบมัลติทัชเต็มรูปแบบ แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้นิ้วจิ้มเท่านั้น ใช้เล็บ หรือปากกาจิ้มไม่ได้
Infrared TouchScreen   Touchscreen  แบบ  infared  ถูกใช้ในจอแสดงผลขนาดใหญ่ ในสถาบันการเงินและ ทางทหารเทคโนโลยีนี้ทำงานโดยตรวจจับลำแสง ดังนั้น แทนที่จะมีแผ่นแก้วอยู่หน้าจอเหมือนกับ เทคโนโลยีอื่นแต่จะทำเป็นกรอบแทน ภายในกรอบจะมีแผงของแหล่งกำเนิดแสงที่เรียกว่า  LED  ที่ด้านหนึ่ง พร้อมกับตัวตรวจจับแสงที่ด้านตรงข้ามกันจึงเป็นเสมือนกริดของลำแสงทั่ว จอเมื่อมี วัตถุใดสัมผัสจอก็จะไป ตัดลำแสงไม่ให้ผ่านไปถึงตัวตรวจจับแสง ทำให้แผงควบคุมสามารถ ทราบตำเหน่งพิกัดสัมผัสได้  ข้อดี แสงผ่านได้  100%  เนื่องจากไม่มีอะไรมาบังหน้าจอ  มีความแม่นยำสูง
Digital Camera:  อุปกรณ์รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์โดยการแปลงข้อมูลภาพเป็นสัญญาณ Digital   เรียกดูผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทันที Computer Hardware: Input Devices
Voice Input Device:  รับเสียงพูดของผู้ใช้ส่งเข้าไปใน  computer     อุปกรณ์จะจดจำเสียง และแปลงเสียงพูดนั้นเป็นข้อมูล   binary    โดยอาศัยระบบรู้จำเสียง  ( Voice Recognition System)    ซึ่งจะเปลี่ยนเสียงพูดให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ โดยการเปรียบเทียบรูปคลื่นสัญญาณไฟฟ้าที่เปลี่ยนมาจากเสียงพูด กับรูปแบบของสัญญาณเสียงที่กําหนดไว้ Computer Hardware: Input Devices
Optical Mark Recognition (OMR) :  อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับอ่านคำตอบ โดยเครื่องโอเอ็มอาร์จะส่องไฟผ่านกระดาษที่อ่าน และจะสะท้อนแสงที่เกิดจากเครื่องหมาย ที่ทำขึ้นโดยดินสอดำ  2B   เนื่องจากรอยดินสอเกิดขึ้นจากดินสอ ที่มีตะกั่วอ่อน จึงเกิดการสะท้อนแสง ข้อมูลที่ได้จากการเทียบกระดาษคำตอบจะถูกส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ Computer Hardware: Input Devices
Card Reader :   อุปกรณ์อ่านข้อมูลจากการ์ดหน่วยความจำไปยังคอมพิวเตอร์ Computer Hardware: Input Devices
CPU :   หน่วยประมวลผลกลางทำหน้าที่ควบคุมและประมวลผลข้อมูลประกอบด้วยส่วนสำคัญ  2  ส่วนได้แก่  Control Unit   ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ทุกส่วนและ   Arithmetic/Login Unit   ทำหน้าที่คำนวณทางคณิตศาสตร์ Computer Hardware: Central Processing Unit
หน่วยความจำหลักบรรจุอยู่บนแผงวงจรหลักหรือที่เรียกว่า   Mainboard   หน่วยของข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในหน่วยความจำสามารถจำแนกได้ดังนี้ Computer Hardware: Main Memory หน่วยความจุ ตัวย่อ ความจุ Kilobyte KB 1,024 Megabyte MB 1,048,576 Gigabyte GB 1,073,741,825 Terabyte TB 1,099,511,627,776
Random Access Memory(RAM ):   อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นหน่วยความจำชั่วคราว ข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำนี้จะหายไปเมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ Computer Hardware: Main Memory
Read-Only Memory(ROM ):   หน่วยความจำที่บันทึกคำสั่งเริ่มต้นของระบบ   (Start-up)  ข้อมูลหรือคำสั่งที่จัดเก็บในหน่วยความจำรอมส่วนใหญ่จะถูกบันทึกมาจากโรงงานผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ และข้อมูลเหล่านี้จะไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ สามารถอ่านได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น Computer Hardware: Main Memory
หน่วยความจำสำรองใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการประมวลผล สามารถจัดเก็บไว้ได้ถึงแม้ว่าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงก็ตาม Computer Hardware: Secondary Memory
Floppy Disk :  อุปกรณ์บันทึกข้อมูล   มีลักษณะเป็นแผ่นบางอ่อนฉาบด้วยสารจำพวกเหล็กออกไซด์  เรียกว่าฟลอปปี้ดิสเกต  ( Floppy Diskette )  หรือดิสเกต  ( Diskette ) มี  2   ขนาด คือ ขนาด  3   นิ้ว , 5   นิ้ว Computer Hardware: Secondary Memory
Hard Disk:   อุปกรณ์บันทึกข้อมูลประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็กมากกว่า  2  แผ่นเรียงกันอยู่บนแกน  Spindle  ทำให้แผ่นแม่เหล็กหมุนไปพร้อมๆกัน  Hard Disk  ใช้หัวอ่านเพียงหัวเดียวในการทำงาน ทั้งอ่านและเขียนข้อมูล ในการเขียนข้อมูลหัวอ่านจะได้รับกระแสไฟฟ้าผ่านเข้าสู่คอยล์ของหัวอ่าน เพื่อรับข้อมูล เป็นการแปลงความหนาแน่นของสารแม่เหล็กที่เคลือบอยู่บน  Disk  ออกมาให้กับ  CPU  เพื่อทำการประมวลผล Computer Hardware: Secondary Memory
Compact Disk :   อุปกรณ์สำรองข้อมูลที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เป็นแผ่นพลาสติกกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  4.75 " ( 12   ซม .)  ผิวหน้าเคลือบด้วยโลหะสะท้อนแสง เพื่อป้องกันข้อมูลที่บันทึกไว้ ใช้แสงเลเซอร์ ในการบันทึกและอ่านข้อมูล  การเสนอข้อมูลจะเป็นลักษณะของสื่อประสมที่ให้ทั้งภาพ เสียง และตัวอักษรได้ในเวลาเดียวกัน  Computer Hardware: Secondary Memory
Digital Video Disk/Digital Versatile Disc (DVD)   อุปกรณ์บันทึกข้อมูลมีลักษณะเหมือนกับ   Compact Disk   แต่มีความสามารถในการบันทึกข้อมูลที่มากกว่าสามารถบรรจุข้อมูลได้ประมาณ  7   เท่า ของแผ่นซีดีรอม  มีขนาดความจุ  4.7 GB  และ  8.5 GB  Computer Hardware: Secondary Memory
เป็น  optical disc storage ความจุมากกว่า DVD   5  เท่า Blu-ray single layer – 25 GB Blu-ray double layer  – 50 GB ใช้แสง  laser  สีน้ำเงิน - ม่วง ความยาวของคลื่น  405nm  ( DVD   ใช้แสงสีแดง ความยาวคลื่น  650nm  ) High Definition ( HD )  Computer Hardware: Secondary Memory
Remo Flash Drive, Handy Drive, Thumb Drive, USB Drive:  เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาติดตัว มีความจุสูง ราคาถูก Computer Hardware: Secondary Memory
Monitor:   มีลักษณะคล้ายกับจอโทรทัศน์ ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงานของคอมพิวเตอร์ Computer Hardware: Output Unit
Projector:   เครื่องฉายภาพ Computer Hardware: Output Unit
Printer:  เครื่องพิมพ์ Computer Hardware: Output Unit
Modem :  อุปกรณ์แปลงสัญญาณ Analog  ที่ผ่านมาทางสายโทรศัพท์ให้เป็นสัญญาณ   Digital   เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้และในทางกลับกันก็จะแปลงสัญญาณ  Digital   ที่ออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณ   Analog   เพื่อส่งผ่านไปทางสายโทรศัพท์ได้เช่นกัน Computer Hardware: Communication devices
Computer Software Software:   ชุดคำสั่งต่างๆ ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้โดยสามารถแบ่ง   Software   ออกเป็น   2   ประเภทคือ System Software Application Software
Computer Software: System Software ซอฟท์แวร์ระบบ เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ จำแนกได้  2   ประเภทคือ Operation System Utility Programs
Operation System (OS):  ระบบปฏิบัติการทำหน้าที่เป็นสื่อกลางของการทำงานระหว่างโปรแกรมประยุกต์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เมื่อผู้ใช้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการจะถูกเรียกจาก   Harddisk   ไปไว้ที่หน่วยความจำหลัก และอนุญาตให้ผู้ใช้ทำงานกับโปรแกรมต่างๆ ได้ Computer Software: System Software
ระบบปฏิบัติการ   Microsoft Windows XP
ระบบปฏิบัติการ   Microsoft Windows 7
ระบบปฏิบัติการ   LINUX
Utility Program :   โปรแกรมอรรถประโยชน์ เป็นซอฟท์แวร์ระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมสำหรับสำรองข้อมูล ,  โปรแกรมตรวจสอบไวรัส ,  โปรแกรมบีบอัดข้อมูล Computer Software: System Software
ซอฟท์แวร์ประยุกต์พัฒนาเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานในด้านต่างๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ หากเป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำไปใช้งานเฉพาะขององค์กร จะเรียกซอฟท์แวร์ประเภทนี้ว่า ซอฟต์แวร์เฉพาะงาน   (Custom Program)  Computer Software: Application Software
โปรแกรมประมวลผลคำ   (Word Processor)  โปรแกรมสำหรับสร้าง แก้ไข ตลอดจนจัดพิมพ์งานประเภทเอกสารให้ออกมาในรูปแบบรายงาน จดหมาย หนังสือ บทความ และสิ่งพิมพ์ต่างๆ โปรแกรมประมวลผลคำที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่   Microsoft Word, OpenOffice Writer Computer Software: Application Software
Microsoft Office Word
Open Office Writer
โปรแกรมด้านการคำนวณ   (Spreadsheet)  มีลักษณะที่เน้นการคำนวณเป็นหลักโดยมี   Worksheet   ที่ประกอบไปด้วยตารางที่เรียกว่า   Cell   เรียงตามแถว และคอลัมน์ สามารถพิมพ์ข้อมูลที่เป็นตัวอักษร ตัวเลข และสูตรการคำนวณค่าต่างๆ ตัวอย่างโปรแกรมด้านการคำนวณ ได้แก่   Microsoft Excel, OpenOffice Calc Computer Software: Application Software
Microsoft Office Excel
Open Office Calc
โปรแกรมนำเสนอข้อมูล  (Presentation)   เหมาะสำหรับสร้างเอกสารในรูปแบบแผ่นสไลด์ ใช้ในงานนำเสนอหลายรูปแบบ ด้วยความสามารถของโปรแกรมที่มีเทคนิคการนำเสนอที่ตื่นเต้นน่าสนใจ โปรแกรมด้านการนำเสนอข้อมูลที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่   Microsoft PowerPoint, OpenOffice Impress Computer Software: Application Software
Microsoft PowerPoint
Open Office Impress
โปรแกรมด้านการจัดการฐานข้อมูล   (Database)  เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างฐานข้อมูล เพื่อนำไปใช้จัดเก็บข้อมูลต่างๆ โดยผู้ใช้สามารถบันทึกข้อมูลได้ทางหน้าต่างฟอร์มและนำข้อมูลไปเก็บไว้ในฐานข้อมูล ซึ่งทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตัวอย่างโปรแกรมการจัดการฐานข้อมูลที่นิยมในปัจจุบันเช่น   Microsoft Access, MySQL Computer Software: Application Software
Microsoft Access
MySQL
โปรแกรมสื่อสารข้อมูล   (DataCommunication)   ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น โดยผ่านระบบเครือข่ายทำให้สามารถใช้บริการอื่นๆ ได้ เช่นบริการ   WWW, FTP,  E-mail   โปรแกรมเหล่านี้เช่น   Internet Explorer,  Firefox, Safari, Opera Computer Software: Application Software
Internet Explorer
Mozilla Firefox
Safari
Opera
ความล้มเหลวในการทำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในองค์กร ขาดการวางแผน เทคโนโลยีที่นำมาใช้ไม่เหมาะสมกับงาน ขาดการสนับสนุนจากผู้บริหาร บุคลากรในองค์กรไม่ให้ความร่วมมือ โครงสร้างพื้นฐานด้าน   IT   ของประเทศไม่ทั่วถึง เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากเกินไป ปัญหาจากตัวแทนจำหน่าย
สัปดาห์หน้าทดสอบย่อยเกี่ยวกับ เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ

Ch3 information technology

  • 1.
    INFORMATION TECHNOLOGYComputer Hardware & Software Nittaya Wongyai
  • 2.
    เทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่าย ระบบโทรคมนาคม รวมทั้ง โปรแกรมสำเร็จรูป หรือ ระบบที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อนำมาใช้ในจัดการสารสนเทศ โดยการรวบรวม จัดเก็บ ประมวลผลสารสนเทศ และแสดงผลลัพท์ เป็นสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ที่นำไปใช้ประโยชน์ได้ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารหรือโทรคมนาคม
  • 3.
    เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ COMPUTER : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าใจคำสั่งในการรับข้อมูล (Input) ประมวลผลข้อมูล ( Process ) และให้ผลลัพธ์ที่เป็นสารสนเทศ ( Information ) Supercomputer Mainframe Computer Mini Computer Microcomputer
  • 4.
    Supercomputer คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุด มีประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานสูงมากเป็นพิเศษสามารถประมวลผลงานที่มีความซับซ้อนและมีปริมาณมากๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น งานโคจรรอบโลกของดาวเทียม งานพยากรณ์อากาศ มักนิยมนำมาใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น องค์การนาซา ( NASA) และ AT&T เป็นต้น ต้องติดตั้งในห้องที่มีสภาพแวดล้อมพิเศษ Supercomputer ที่มีความเร็วมากที่สุดในโลกในปัจจุบันคือ IBM’s Blue Gene
  • 5.
  • 6.
    Mainframe Computer สามารถประมวลผลด้วยความเร็วที่สูงมากและมีหน่วยความจำขนาดใหญ่แต่มีประสิทธิภาพรองลงมาจาก supercomputer เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีจำนวนข้อมูลจำนวนมากๆและมีการเข้าถึงของผู้ใช้จำนวนมากในเวลาเดียวกัน ธุรกิจที่นิยมใช้ Mainframe Computer ได้แก่ ธุรกิจประเภทธนาคาร สายการบิน ธุรกิจประกันภัย ตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น
  • 7.
  • 8.
    Minicomputer เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า midrange computer เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง มีประสิทธิภาพในการทำงานในด้านความเร็วและความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล รองจาก Mainframe computer สามารถนำมาแชร์ทรัพยากรเพื่อใช้งานร่วมกัน ด้วยการทำหน้าที่เป็นเครื่อง Server ที่คอยบริการทรัพยากร แก่เครื่องลูกข่าย นิยมนำมาใช้ในสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า หรือหน่วยงานขนาดกลางเป็นต้น
  • 9.
  • 10.
    Microcomputer เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า Personal Computer หรือ PC เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก มีราคาถูก ใช้ในงานส่วนบุคคลในลักษณะ Stand Alone เหมาะกับงานทั่วไป เครื่องมีขนาดเล็กสามารถวางบนโต๊ะทำงาน หรือพกพาติดตัวไปยังที่ต่าง ๆ ได้ มักใช้ในบริษัท หรือที่ทำงานสถานศึกษา แม้แต่ในบ้าน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการทำเอกสาร หรืองานส่วนตัว เป็นคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด
  • 11.
    Microcomputer Desktop Computer: คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ มีขนาดเล็กเหมาะกับโต๊ะทำงาน แต่ใหญ่เกินไปสำหรับพกพาไปในที่ต่างๆ สามารถนำไปใช้กับงานในสำนักงานและงานส่วนตัว ราคาถูก
  • 12.
    Microcomputer Notebook Computer/LaptopComputer มีประสิทธิภาพในการทำงานเหมือนกันกับ Desktop Computer แต่มีขนาดเล็กกว่า มีน้ำหนักเบา สามารถพกพาไว้ในกระเป๋าเอกสารได้
  • 13.
    Microcomputer Tablet PCเป็น Laptop Computer ชนิดหนึ่งที่สามารถรับข้อมูลจากการเขียนแล้วเปลี่ยนให้เป็นข้อความที่สามารถประมวลผลด้วยโปรแกรมได้
  • 14.
  • 15.
    Microcomputer Handheld Computer: คอมพิวเตอร์พกพา Personal Digital Assistant: PDA อุปกรณ์ที่สามารถจัดการข้อมูลส่วนบุคคล จดบันทึก การสื่อสาร ตลอดจนการใช้งานอินเทอร์เน็ต ใช้ปากกา Stylus เป็นอุปกรณ์ในการบันทึกข้อมูล
  • 16.
    ความเร็วในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ วัดจากความเร็วในการประมวลผลคำสั่ง ( Instruction) ต่อวินาที  โดยมีการใช้หน่วยวัดความเร็ว ดังนี้ -   Millisecond   หมายถึง   1 พันคำสั่ง / วินาที -   Microsecond   หมายถึง   1 ล้านคำสั่ง / วินาที -   Nanosecond   หมายถึง   1 พันล้านคำสั่ง / วินาที -   Picosecond   หมายถึง   1 ล้านล้านคำสั่ง / วินาที
  • 17.
  • 18.
    Computer Hardware อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์อื่นๆที่ต่อพ่วงเข้ากับคอมพิวเตอร์โดยสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ Printer
  • 19.
    Computer Hardware: InputDevices Keyboard: เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลที่ประกอบด้วยแป้นกดเพื่อป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
  • 20.
    Mouse: เป็นอุปกรณ์ควบคุมการชี้ตำแหน่งบนจอภาพมีทั้งแบบ Ball, Optical, Wireless Computer Hardware: Input Devices
  • 21.
    Optical Character Reader(OCR): อุปกรณ์อ่านข้อมูลลำแสง แล้วแปลงรหัสเป็นสัญญาณไฟฟ้าไปเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่นเครื่องอ่านรหัสแท่ง ( Barcode reader ) Computer Hardware: Input Devices
  • 22.
    Optical Character Reader(OCR) Computer Hardware: Input Devices
  • 23.
    Scanner: อุปกรณ์นำเข้าข้อมูลที่เป็นเอกสาร หรือรูปภาพ จับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพ จากรูปแบบของแอนาลอกเป็นดิจิตอล 1.  สแกนเนอร์ดึงกระดาษ ( Sheet - Fed Scanner) 2.  สแกนเนอร์แท่นเรียบ ( Flatbed Scanner) 3.  สแกนเนอร์มือถือ ( Hand - Held Scanner) Computer Hardware: Input Devices
  • 24.
    Joy Sticks: อุปกรณ์รับเข้าชนิดหนึ่งที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวชี้ตำแหน่งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ Computer Hardware: Input Devices
  • 25.
    Touch Screen: จอภาพแบบสัมผัส สามารถใช้งานแทนอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลเช่น คีย์บอร์ดและเมาส์ Resistive TouchScreen Capacitive TouchScreen Infrared TouchScreen Computer Hardware: Input Devices
  • 26.
    Resistive TouchScreen หน้าจอประเภท Resistive ( หน้าจอนิ่ม ) มีราคาถูก กินไฟน้อย ความแม่นยําในการสัมผัสสูง และทนทานต่อฝุ่น ความชื้นได้ดี ใช้อะไรสัมผัสจอก็ได้ ส่วนข้อเสียหลักๆ คือ จอไม่ค่อยทนเท่าไหร่ และแสดงผลได้ไม่ค่อยละเอียด หากเทียบกับหน้าจอประเภทอื่นๆ
  • 27.
    Capacitive TouchScreen หน้าจอประเภท Capacitive หรือหน้าจอแข็ง โครงสร้างของ ประกอบด้วยแผ่นแก้วเคลือบผิวด้วยอ็อกไซด์ของโลหะแบบโปร่งแสง เมื่อถึงเวลาการใช้งานก็จะมีการป้อนแรงดันไฟฟ้าที่มุมทั้งสี่ของหน้าจอเพื่อสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มสม่ำเสมอตลอดทั่วทั้งแผ่น ผู้ใช้จะต้องใช้นิ้วมือเปล่าๆ สัมผัสที่จอเพื่อดึงกระแสจากแต่ละมุมที่ให้แรงดันตกลง จากนั้นแผงวงจรควบคุมก็จะคำนวณเป็นตำแหน่งที่สัมผัสได้ ข้อดีหลักๆ คือแสดงผลได้คมชัดและทนทานมาก ตอบสนองการสัมผัสได้เร็ว รองรับระบบมัลติทัชเต็มรูปแบบ แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้นิ้วจิ้มเท่านั้น ใช้เล็บ หรือปากกาจิ้มไม่ได้
  • 28.
    Infrared TouchScreen   Touchscreen แบบ infared ถูกใช้ในจอแสดงผลขนาดใหญ่ ในสถาบันการเงินและ ทางทหารเทคโนโลยีนี้ทำงานโดยตรวจจับลำแสง ดังนั้น แทนที่จะมีแผ่นแก้วอยู่หน้าจอเหมือนกับ เทคโนโลยีอื่นแต่จะทำเป็นกรอบแทน ภายในกรอบจะมีแผงของแหล่งกำเนิดแสงที่เรียกว่า LED ที่ด้านหนึ่ง พร้อมกับตัวตรวจจับแสงที่ด้านตรงข้ามกันจึงเป็นเสมือนกริดของลำแสงทั่ว จอเมื่อมี วัตถุใดสัมผัสจอก็จะไป ตัดลำแสงไม่ให้ผ่านไปถึงตัวตรวจจับแสง ทำให้แผงควบคุมสามารถ ทราบตำเหน่งพิกัดสัมผัสได้  ข้อดี แสงผ่านได้ 100% เนื่องจากไม่มีอะไรมาบังหน้าจอ  มีความแม่นยำสูง
  • 29.
    Digital Camera: อุปกรณ์รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์โดยการแปลงข้อมูลภาพเป็นสัญญาณ Digital เรียกดูผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทันที Computer Hardware: Input Devices
  • 30.
    Voice Input Device: รับเสียงพูดของผู้ใช้ส่งเข้าไปใน  computer     อุปกรณ์จะจดจำเสียง และแปลงเสียงพูดนั้นเป็นข้อมูล   binary    โดยอาศัยระบบรู้จำเสียง ( Voice Recognition System)    ซึ่งจะเปลี่ยนเสียงพูดให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ โดยการเปรียบเทียบรูปคลื่นสัญญาณไฟฟ้าที่เปลี่ยนมาจากเสียงพูด กับรูปแบบของสัญญาณเสียงที่กําหนดไว้ Computer Hardware: Input Devices
  • 31.
    Optical Mark Recognition(OMR) : อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับอ่านคำตอบ โดยเครื่องโอเอ็มอาร์จะส่องไฟผ่านกระดาษที่อ่าน และจะสะท้อนแสงที่เกิดจากเครื่องหมาย ที่ทำขึ้นโดยดินสอดำ 2B เนื่องจากรอยดินสอเกิดขึ้นจากดินสอ ที่มีตะกั่วอ่อน จึงเกิดการสะท้อนแสง ข้อมูลที่ได้จากการเทียบกระดาษคำตอบจะถูกส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ Computer Hardware: Input Devices
  • 32.
    Card Reader : อุปกรณ์อ่านข้อมูลจากการ์ดหน่วยความจำไปยังคอมพิวเตอร์ Computer Hardware: Input Devices
  • 33.
    CPU : หน่วยประมวลผลกลางทำหน้าที่ควบคุมและประมวลผลข้อมูลประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนได้แก่ Control Unit ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ทุกส่วนและ Arithmetic/Login Unit ทำหน้าที่คำนวณทางคณิตศาสตร์ Computer Hardware: Central Processing Unit
  • 34.
    หน่วยความจำหลักบรรจุอยู่บนแผงวงจรหลักหรือที่เรียกว่า Mainboard หน่วยของข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในหน่วยความจำสามารถจำแนกได้ดังนี้ Computer Hardware: Main Memory หน่วยความจุ ตัวย่อ ความจุ Kilobyte KB 1,024 Megabyte MB 1,048,576 Gigabyte GB 1,073,741,825 Terabyte TB 1,099,511,627,776
  • 35.
    Random Access Memory(RAM): อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นหน่วยความจำชั่วคราว ข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำนี้จะหายไปเมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ Computer Hardware: Main Memory
  • 36.
    Read-Only Memory(ROM ): หน่วยความจำที่บันทึกคำสั่งเริ่มต้นของระบบ (Start-up) ข้อมูลหรือคำสั่งที่จัดเก็บในหน่วยความจำรอมส่วนใหญ่จะถูกบันทึกมาจากโรงงานผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ และข้อมูลเหล่านี้จะไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ สามารถอ่านได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น Computer Hardware: Main Memory
  • 37.
  • 38.
    Floppy Disk : อุปกรณ์บันทึกข้อมูล มีลักษณะเป็นแผ่นบางอ่อนฉาบด้วยสารจำพวกเหล็กออกไซด์ เรียกว่าฟลอปปี้ดิสเกต ( Floppy Diskette ) หรือดิสเกต ( Diskette ) มี 2 ขนาด คือ ขนาด 3 นิ้ว , 5 นิ้ว Computer Hardware: Secondary Memory
  • 39.
    Hard Disk: อุปกรณ์บันทึกข้อมูลประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็กมากกว่า 2 แผ่นเรียงกันอยู่บนแกน Spindle ทำให้แผ่นแม่เหล็กหมุนไปพร้อมๆกัน Hard Disk ใช้หัวอ่านเพียงหัวเดียวในการทำงาน ทั้งอ่านและเขียนข้อมูล ในการเขียนข้อมูลหัวอ่านจะได้รับกระแสไฟฟ้าผ่านเข้าสู่คอยล์ของหัวอ่าน เพื่อรับข้อมูล เป็นการแปลงความหนาแน่นของสารแม่เหล็กที่เคลือบอยู่บน Disk ออกมาให้กับ CPU เพื่อทำการประมวลผล Computer Hardware: Secondary Memory
  • 40.
    Compact Disk : อุปกรณ์สำรองข้อมูลที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เป็นแผ่นพลาสติกกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.75 " ( 12 ซม .) ผิวหน้าเคลือบด้วยโลหะสะท้อนแสง เพื่อป้องกันข้อมูลที่บันทึกไว้ ใช้แสงเลเซอร์ ในการบันทึกและอ่านข้อมูล การเสนอข้อมูลจะเป็นลักษณะของสื่อประสมที่ให้ทั้งภาพ เสียง และตัวอักษรได้ในเวลาเดียวกัน Computer Hardware: Secondary Memory
  • 41.
    Digital Video Disk/DigitalVersatile Disc (DVD) อุปกรณ์บันทึกข้อมูลมีลักษณะเหมือนกับ Compact Disk แต่มีความสามารถในการบันทึกข้อมูลที่มากกว่าสามารถบรรจุข้อมูลได้ประมาณ 7 เท่า ของแผ่นซีดีรอม มีขนาดความจุ 4.7 GB และ 8.5 GB Computer Hardware: Secondary Memory
  • 42.
    เป็น opticaldisc storage ความจุมากกว่า DVD 5 เท่า Blu-ray single layer – 25 GB Blu-ray double layer – 50 GB ใช้แสง laser สีน้ำเงิน - ม่วง ความยาวของคลื่น 405nm ( DVD ใช้แสงสีแดง ความยาวคลื่น 650nm ) High Definition ( HD ) Computer Hardware: Secondary Memory
  • 43.
    Remo Flash Drive,Handy Drive, Thumb Drive, USB Drive: เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาติดตัว มีความจุสูง ราคาถูก Computer Hardware: Secondary Memory
  • 44.
    Monitor: มีลักษณะคล้ายกับจอโทรทัศน์ ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงานของคอมพิวเตอร์ Computer Hardware: Output Unit
  • 45.
    Projector: เครื่องฉายภาพ Computer Hardware: Output Unit
  • 46.
    Printer: เครื่องพิมพ์Computer Hardware: Output Unit
  • 47.
    Modem : อุปกรณ์แปลงสัญญาณ Analog ที่ผ่านมาทางสายโทรศัพท์ให้เป็นสัญญาณ Digital เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้และในทางกลับกันก็จะแปลงสัญญาณ Digital ที่ออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณ Analog เพื่อส่งผ่านไปทางสายโทรศัพท์ได้เช่นกัน Computer Hardware: Communication devices
  • 48.
    Computer Software Software: ชุดคำสั่งต่างๆ ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้โดยสามารถแบ่ง Software ออกเป็น 2 ประเภทคือ System Software Application Software
  • 49.
    Computer Software: SystemSoftware ซอฟท์แวร์ระบบ เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ จำแนกได้ 2 ประเภทคือ Operation System Utility Programs
  • 50.
    Operation System (OS): ระบบปฏิบัติการทำหน้าที่เป็นสื่อกลางของการทำงานระหว่างโปรแกรมประยุกต์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เมื่อผู้ใช้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการจะถูกเรียกจาก Harddisk ไปไว้ที่หน่วยความจำหลัก และอนุญาตให้ผู้ใช้ทำงานกับโปรแกรมต่างๆ ได้ Computer Software: System Software
  • 51.
  • 52.
  • 53.
  • 54.
    Utility Program : โปรแกรมอรรถประโยชน์ เป็นซอฟท์แวร์ระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมสำหรับสำรองข้อมูล , โปรแกรมตรวจสอบไวรัส , โปรแกรมบีบอัดข้อมูล Computer Software: System Software
  • 55.
  • 56.
    โปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) โปรแกรมสำหรับสร้าง แก้ไข ตลอดจนจัดพิมพ์งานประเภทเอกสารให้ออกมาในรูปแบบรายงาน จดหมาย หนังสือ บทความ และสิ่งพิมพ์ต่างๆ โปรแกรมประมวลผลคำที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ Microsoft Word, OpenOffice Writer Computer Software: Application Software
  • 57.
  • 58.
  • 59.
    โปรแกรมด้านการคำนวณ (Spreadsheet) มีลักษณะที่เน้นการคำนวณเป็นหลักโดยมี Worksheet ที่ประกอบไปด้วยตารางที่เรียกว่า Cell เรียงตามแถว และคอลัมน์ สามารถพิมพ์ข้อมูลที่เป็นตัวอักษร ตัวเลข และสูตรการคำนวณค่าต่างๆ ตัวอย่างโปรแกรมด้านการคำนวณ ได้แก่ Microsoft Excel, OpenOffice Calc Computer Software: Application Software
  • 60.
  • 61.
  • 62.
    โปรแกรมนำเสนอข้อมูล (Presentation) เหมาะสำหรับสร้างเอกสารในรูปแบบแผ่นสไลด์ ใช้ในงานนำเสนอหลายรูปแบบ ด้วยความสามารถของโปรแกรมที่มีเทคนิคการนำเสนอที่ตื่นเต้นน่าสนใจ โปรแกรมด้านการนำเสนอข้อมูลที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่ Microsoft PowerPoint, OpenOffice Impress Computer Software: Application Software
  • 63.
  • 64.
  • 65.
    โปรแกรมด้านการจัดการฐานข้อมูล (Database) เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างฐานข้อมูล เพื่อนำไปใช้จัดเก็บข้อมูลต่างๆ โดยผู้ใช้สามารถบันทึกข้อมูลได้ทางหน้าต่างฟอร์มและนำข้อมูลไปเก็บไว้ในฐานข้อมูล ซึ่งทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตัวอย่างโปรแกรมการจัดการฐานข้อมูลที่นิยมในปัจจุบันเช่น Microsoft Access, MySQL Computer Software: Application Software
  • 66.
  • 67.
  • 68.
    โปรแกรมสื่อสารข้อมูล (DataCommunication) ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น โดยผ่านระบบเครือข่ายทำให้สามารถใช้บริการอื่นๆ ได้ เช่นบริการ WWW, FTP, E-mail โปรแกรมเหล่านี้เช่น Internet Explorer, Firefox, Safari, Opera Computer Software: Application Software
  • 69.
  • 70.
  • 71.
  • 72.
  • 73.
    ความล้มเหลวในการทำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในองค์กร ขาดการวางแผน เทคโนโลยีที่นำมาใช้ไม่เหมาะสมกับงานขาดการสนับสนุนจากผู้บริหาร บุคลากรในองค์กรไม่ให้ความร่วมมือ โครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ของประเทศไม่ทั่วถึง เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากเกินไป ปัญหาจากตัวแทนจำหน่าย
  • 74.