More Related Content
More from Chanthawan Suwanhitathorn (20)
แบบจำลองอะตอม
- 4. ดิโมคริตุส (Democritus)
ดิโมคริตุส นักปราชญ์ชาวกรีก ได้เสนอ
แนวคิดเกี่ยวกับอะตอมไว้ว่า
- สสารทุกชนิดประกอบด้วยอนุภาคที่เล็ก
ที่สุด เรียกว่า อะตอม
- อะตอมเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด ไม่สามารถ
แบ่งแยกต่อไปได้อีก
- คําว่า “อะตอม” มาจากภาษากรีกว่า
atomos ซึ่งแปลว่าแบ่งแยกอีกไม่ได้
- 5. จอห์น ดอลตัน (John Dalton)
ทฤษฎีอะตอมของดอลตัน
1. สสารประกอบด้วยอะตอมซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด แบ่งแยกต่อ
ไปอีกไม่ได้และไม่สามารถสร้างขึ้นหรือทําลายให้สูญหายไป
ได้โดยมีแรงซึ่งไม่ทราบแน่ชัดกระทําระหว่างอะตอมเพื่อยึด
อะตอมเข้าด้วยกัน
2. อะตอมของธาตุชนิดเดียวกันจะมีมวลและสมบัติเหมือนกันทุก
ประการ ส่วนอะตอมของธาตุต่างชนิดกันจะมีลักษณะต่างกัน
โดยอะตอมของธาตุแต่ละชนิดจะมีรูปร่างและนํ้าหนักเฉพาะตัว
- 6. จอห์น ดอลตัน (John Dalton) (ต่อ)
ทฤษฎีอะตอมของดอลตัน
3. อะตอมของธาตุหนึ่งจะเปลี่ยนไปเป็นอะตอมของธาตุอื่นไม่ได้
4. สารประกอบเกิดจากการรวมตัวของอะตอมของธาตุตั้งแต่ 2
ชนิดขึ้นไปในสัดส่วนที่คงตัว โดยอะตอมจะจัดเรียงตัวกันใหม่
เกิดเป็นสารประกอบชนิดใหม่ขึ้นมา
- 8. เซอร์โจเซฟ จอห์น ทอมสัน (Sir Joseph John Thomson)
ทอมสัน นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ ได้ศึกษาและทดลองเกี่ยวกับหลอดรังสี
แคโทด ซึ่งเป็นหลอดแก้วสุญญากาศ (บรรจุแก๊สความดันตํ่า) ที่
ประกอบด้วยขั้วไฟฟ้าแคโทดและแอโนด เมื่อให้ความต่างศักย์สูงกับขั้ว
ไฟฟ้าทั้งสองจะเกิดรังสีพุ่งออกจากขั้วแคโทด เรียกว่า รังสีแคโทด
(Cathode ray)
- 12. สิ่งที่ทอมสันค้นพบ
- อัตราส่วนประจุต่อมวลเท่ากับ 1.76x1011
C/kg
- “อนุภาคลบในรังสีแคโทดต้องมีลักษณะเหมือนกัน และอะตอมทุก
ชนิดย่อมจะมีอนุภาคที่มีประจุลบเป็นองค์ประกอบเหมือนกัน”
เป็นการค้นพบอนุภาคที่มีประจุลบซึ่งเป็นองค์ประกอบของอะตอม
การศึกษาต่อมา...
- ในเวลาต่อมาอนุภาคลบ ถูกเรียกว่า “อิเล็กตรอน (Electron)”
- เนื่องจากอะตอมเป็นกลางทางไฟฟ้า แสดงว่าต้องมีประจุบวกใน
จํานวนที่เท่ากับอิเล็กตรอน
- ออยเกิน โกลด์ชไตน์(Eugen Goldstein) ได้ทดลองโดยใช้หลอด
รังสีแคโทดที่แตกต่างจากทอมสันเล็กน้อย และได้ค้นพบอนุภาคที่
มีประจุบวก เรียกว่า โปรตอน (Proton)