More Related Content
Similar to เทคนิคการสอน กระบวนการกลุ่ม
Similar to เทคนิคการสอน กระบวนการกลุ่ม (20)
เทคนิคการสอน กระบวนการกลุ่ม
- 1. วิธีจัดการเรียนการสอนแบบเทคนิคกระบวนการกลุม
่
1. แนวคิด / ทฤษฏีการเรียนการสอนแบบเทคนิคกระบวนการกลุม
่
ทฤษฏีการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Theory of Cooperative or Collaborative Learning)
สลาวิน (Slavin) เดวิด จอห์นสัน (David Johnson) และรอเจอร์ จอห์นสัน (Roger Johnson)
เป็นนักการศึกษาคนสาคัญ มีแนวคิดว่า ในการเรียนรู้ของผู้เรียนปฎิสมพันธ์ระหว่างผูเ้ รียน มี 3ลักษณะ ได้แก่
ั
ลักษณะการแข่งขันกัน ลักษณะต่างคนต่างเรียนและลักษณะร่วมมือกัน หรือช่วยกันในการเรียนรู้ ซึงการจัด
่
การศึกษาควรให้โอกาสผู้เรียนได้เรียนรู้ทง 3 ลักษณะ โดยรูจักใช้ลักษณะการเรียนรูอย่างเหมาะสมกับ
ั้ ้ ้
สภาพการณ์ทงนี้เพราะในชีวิตประจาวัน ผู้เรียนจะต้องเผชิญสถานการณ์ที่มีทง 3 ลักษณะ แต่เนื่องจาก
ั้ ั้
การศึกษาปัจจุบันมีการส่งเสริมการเรียนแบบแข่งขันและแบบรายบุคคลอยู่แล้วเราจึงจาเป็นต้องหันมาส่งเสริม
การเรียนรู้แบบร่วมมือ ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี รวมทั้งได้เรียนรูทักษะทางสังคมและการ
้
ทางานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นทักษะทีจาเป็นอย่างยิ่งในการดารงชีวิตด้วย ซึ่งองค์ประกอบของการเรียนรู้แบบ
่
ร่วมมือ มี 5 ประการได้แก่ การพึงพาและเกือกูลกัน การปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด ความรับผิดชอบ ที่
่ ้
ตรวจสอบได้ของสมาชิกแต่ละคน การใช้ทักษะการปฏิสมพันธ์ระหว่างบุคคลและทักษะการทางานกลุมย่อย
ั ่
และการวิเคราะห์กระบวนการกลุม (อ้างในทิศนา แขมณี, 2547 : 98-99)
่
การประยุกต์ใช้ทฤษฏีในการเรียนการสอน
ครูสามารถนาทฤษฏีของการเรียนรู้แบบร่วมมือ ไปจัดการเรียนการสอนของตนได้ โดยการพยายาม
จัดกลุมการเรียนรู้ให้มีองค์ประกอบครบ 5 ประการดังกล่าวข้างต้นและใช้เทคนิค วิธีการต่าง ๆ ในการช่วยให้
่
องค์ประกอบทั้ง 5 สัมฤทธิผล โดยทั่วไปการวางแผนบทเรียนและจัดการเรียนการสอนให้ผเู้ รียนได้เรียนรู้แบบ
์
ร่วมมือมีประเด็นทีสาคัญดังนี้ (Johnson , Johnson and Holubec , 1994 : 1 : 13 – 1 : 14 อ้างในทิศนา
่
แขมณี , 2547)
1. ด้านการวางแผนการจัดการเรียนการสอน
1.1 กาหนดจุดมุ่งหมายของบทเรียนทั้งทางด้านความรู้และทักษะแระบวนการต่าง ๆ
1.2 กาหนดขนาดของกลุม กลุ่มควรมีขนาดเล็กประมาณ 3-6 คน กลุ่มขนาด 4 คน จะเป็นขนาดที่
่
เหมาะที่สุด
- 2. 1.3 กาหนดองค์ประกอบของกลุ่มหมายถึงการจัดผูเ้ รียนเข้ากลุ่ม ซึงอาจทาโดยการสุ่ม หรือการ
่
เลือกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ โดยทั่วไปกลุมจะต้องประกอบไปด้วยสมาชิกที่คละกันในด้านต่าง ๆ เช่น เพศ
่
ความสามารถ ความถนัด เป็นต้น
1.4 กาหนดบทบาทของสมาชิกแต่ละคนในกลุม เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดและ
่
มีส่วนในการทางานอย่างทั่วถึง ครูควรมอบหมายบทบาทหน้าที่ในการทางานให้ทกคน และบทบาทหนาที่นั้น
ุ
ๆ จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของงานอนเป็นจุดมุงหมายของกลุ่ม ครูควรจัดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกให้อยู่ใน
่
ลักษณะทีจะต้องพึ่งพาอาศัยกันและเกื้อกูลกัน บทบาทหน้าที่ในการทางานเพื่อการเรียนรู้มจานวนมาก เช่น
่ ี
บทบาทผู้นากลุ่ม ผู้สงเกตการณ์ เลขานุการ ผูเ้ สนอผลงาน ผู้ตรวจสอบผลงาน เป็นต้น
ั
1.5 จัดสถานที่ให้เหมาะสมในการทางานและการมีปฏิสมพันธ์กัน ครูจาเป็นต้องคิดออกแบบจัด
ั
ห้องเรียนหรือสถานที่ทจะใช้ในการเรียนรู้ให้เอื้อและสะดวกต่อการทางานของกลุ่ม
ี่
1.6 จัดสาระ วัสดุ หรืองานที่จะให้ผเู้ รียนทา วิเคราะห์สาระ/งาน/หรือวัสดุทจะให้ผู้เรียนได้เรียนรู้
ี่
และจัดแบ่งสาระหรืองานนั้นในลักษณะที่ให้ผู้เรียนแต่ละคนมีส่วนในการช่วยกลุมและพึ่งพากันในการเรียนรู้
่
2. ด้านการสอน
ครุควรมีการเตรียมกลุ่มเพื่อการเรียนรูร่วมกันดังนี้
้
2.1 อธิบายชี้แจงเกี่ยวกับงานกลุ่ม ครูควรอธิบายถึงจุดมุงหมายของบทเรียน เหตุผลในการ
่
ดาเนินการต่างๆ รายละเอียดของงานและขั้นตอนในการทางาน
2.2 อธิบายเกณฑ์การประเมินผลงาน ผูเ้ รียนจะต้องมีความเข้าใจตรงกันว่าความสาเร็จของงานอยู่
ตรงไหน งานที่คาดหวังจะมีลกษณะอย่างไร เกณฑ์ทจะใช้ในการวัดความสาเร็จของงานคืออะไร
ั ี่
2.3 อธิบายถึงความสาคัญและวิธีการของการพึ่งพาเกื้อกูลกัน ครูควรอธิบายกฎเกณฑ์ ระเบียบ
กติกา บทบาทหน้าที่ และระบบการให้รางวัลหรือประโยชน์ที่กลุมจะได้รับในการร่วมมือกันเรียนรู้
่
2.4 อธิบายวิธีการช่วยเหลือกันระหว่างกลุ่ม
2.5 อธิบายถึงความสาคัญและวิธีการในการตรวจสอบความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่แต่ละคนได้รับ
มอบหมาย เช่น การสุ่มเรียกชื่อผู้เสนอผลงาน การทดสอบ การตรวจสอบผลงาน เป็นต้น
2.6 ชี้แจงพฤติกรรมที่คาดหวัง ว่าต้องการให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมอะไรบ้างจะช่วยให้ผเู้ รียนรู้ความ
คาดหวังที่มีต่อตนและพยายามจะแสดงผลพฤติกรรมนั้น
- 3. 3. ด้านการควบคุมกากับและการช่วยเหลือกลุ่ม
3.1 ดูแลให้สมาชิกกลุ่มมีการปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด
3.2 สังเกตการณ์การทางานร่วมกันของกลุม ตรวจสอบว่าสมาชิกกลุ่มมีความเข้าใจในงาน หรือ
่
บทบาทหน้าทีที่ได้รับมอบหมายหรือไม่ สังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ของสมาชิกให้ข้อมูลป้อนกลับ ให้แรงเสริม
่
และบันทึกข้อมูลทีจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของกลุ่ม
่
3.3 เข้าไปช่วยเหลือกลุ่มตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงานและการทางาน เมื่อ
พบว่ากลุ่มต้องการความช่วยเหลือ ครูสามารถเข้าไปชี้แจง สอนซ้า หรือ ให้ความช่วยเหลือ ครูสามารถเข้าไป
ชี้แจง สอนซ้า หรือให้ความช่วยเหลืออื่นๆ
3.4 สรุปการเรียนรู้ ครูควรให้กลุ่มสรุปประเด็นการเรียนรู้ที่ได้จากการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อช่วยให้
การเรียนรูมีความชัดเจนขึ้น
้
4. ด้านการประเมินผลและวิเคราะห์กระบวนการเรียนรู้
4.1 ประเมินผลการเรียนรู้ของผูเ้ รียนทังทางด้านปริมานปละคุณภาพโดยใช้วิธีการที่หลากหลาย
้
และควรให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการประเมิน
4.2 วิเคราะห์กระบวนการทางานและกระบวนการเรียนรูร่วมกัน ครูควรจัดให้ผเู้ รียนมีเวลาในการ
้
วิเคราะห์การทางานของกลุ่มและพฤติกรรมของสมาชิกกลุ่ม เพื่อให้กลุ่มมีโอกาสเรียนรูที่จะปรับปรุงสวน
้
บกพร่องของกลุม่
การดาเนินงานในด้านต่าง ๆ ดังกล่าว เป็นสิ่งที่ครูจาเป็นต้องทาในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดย
ทั่ว ๆไป ซึ่งครูแต่ละคนสามารถคิดวางแผนออกแบบการเรียนการสอนของตน โดยอาศัยวิธีการและเทคนิค
ต่างๆเข้ามาช่วยอย่างหลากหลายแตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามได้มีนักการศึกษาและนักคิดหลายคน ที่ได้
ค้นคิดวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือที่มรูปแบบ ลักษณะ หรือขั้นตอนแตกต่างกันออกไป เพื่อให้เหมาะกับ
ี
สถานการณ์การเรียนรู้ต่าง ๆ เดวินสัน (Davidson , 1994 : 13-30 ) ได้รวบรวมรูปแบบการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือ ทั้งที่เรียกว่า Cooperative Learning และ Collaborative Learning ที่ได้รับความนิยมอย่าง
กว้างขวางมาก ได้ทั้งหมด 6 รูปแบบ คือ Student Team Learning Learning Together Group
Investigation The structural Approach Complex Instruction และ The collaborative Approach
การเรียนการสอนแบบร่วมมือมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีวิธีดาเนินการหลัก ๆ ซึ่ง
ได้แก่ การจัดกลุ่ม การศึกษาเนือหาสาระ การทดสอบ การคิดคะแนน และระบบการให้รางวัลแตกต่างกัน
้
ออกไป เพื่อสนองวัตถุประสงค์เฉพาะ แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ต่างก็ใช้หลักการเดียวกัน คือ หลักการเรียนรู้
แบบร่วมมือ 5 ประการ และมีวัตถุประสงค์มงตรงไปทางทิศเดียวกัน คือ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ใน
ุ่
- 4. เรื่องที่ศึกษาอย่างมากทีสุด โดยอาศัยการร่วมมือกัน ช่วยเหลือกัน และแลกเปลี่ยนความรู้กันระหว่างกลุม
่ ่
ผู้เรียนด้วยกัน ความแตกต่างของรูปแบบแต่ละรูปแบบจะอยู่ที่เทคนิคในการศึกษาเนื้อหาสาระ และวิธีการ
เสริมแรงและการให้รางวัลเป็นประการสาคัญ ซึงในการสอนกระบวนการกุลมได้เลือกใช้กระบวนการกลุ่ม
่ ่
แบบจิกซอว์ (Jigsaw) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
๊
1. การเรียนการสอนแบบจิกซอว์ (Jigsaw)
๊
การเรียนการสอนแบบจิ๊กซอว์ มีขั้นตอนการสอนดังนี้
1.1 จัดผู้เรียนเข้ากลุ่มคละความสามารถ (เก่ง กลาง อ่อน) กลุ่มละ 4 คน และเรียกกลุมนี้ว่า กลุ่ม
่
บ้านของเรา (Home Group)
1.2 สมาชิกในกลุ่มบ้านของเรา ได้รบมอบหมายให้ศึกษาเนือหาสาระ คนละ 1 ส่วน (เปรียบเสมือน
ั ้
ได้ชิ้นส่วนของภาพตัดต่อคนละ 1 ชิ้น) และหาคาตอบในประเด็นปัญหาทีผสอนมอบหมายให้
่ ู้
1.3 สมาชิกในกลุ่มบ้านของเรา แยกย้ายไปรวมกับสมาชิกกลุ่มอื่นซึ่งได้รบเนื้อหาเดียวกัน ตั้งกลุ่ม
ั
ผู้เชี่ยวชาญ (Expert Group) ขึ้นมา และร่วมกันทาความเข้าใจในเนื้อหาสาระนั้นอย่างละเอียด และร่วมกัน
อภิปรายหาคาตอบประเด็นปัญหาทีผู้สอนมอบหมายให้
่
1.4 สมาชอกกลุมผูเ้ ชี่ยวชาญ กลับไปสู่กลุ่มบ้านของเรา แต่ละคนช่วยสอนเพือนในกลุมให้เข้าใจใน
่ ่ ่
สาระที่ตนได้ศึกษาร่วมกับกลุมผูเ้ ชียวชาญ เช่น สมาชิกทุกคนก็จะได้เรียนรู้ภาพรวมของสาระทั้งหมด
่
1.5 ผู้เรียนทุกคนทาแบบทดสอบ แต่ละคนจะได้คะแนนเป็นราบบุคคลและนาคะแนนของทุกคนใน
กลุ่มบ้านของเรามารวมกัน (หรือหาค่าเฉลี่ย) เป็นคะแนนกลุม กลุ่มที่ได้คะแนนสูงสุดได้รับรางวัล
่
2. วิธีการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคกระบวนการกลุ่ม
กระบวนการกลุ่มเป็นเทคนิคที่ประยุกต์มาจากแนวคิดของ Peggy A . Sharp, Robert Garmston
& Bruce wellman (www.ncrtec.org/pd/lwtres) ซึ่งทิศนา แขมณี (2547 : 144) เสนอว่ากระบวนการ
กลุ่มมีตัวบ่งชี้ดังนี้
1. ผู้เรียนมีการปฏิสัมพันธ์/ทางาน/ทากิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่มเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถ
ประสงค์
2. ผู้สอนมีการฝึก/ชี้แนะ/สอนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางานกลุ่มที่ดีในจุดใด
จุดหนึ่งของกระบวนการ เช่น ในเรื่องบทบาทผู้นากลุ่ม บทบาทสมาชิกกลุ่ม กระบวนการทางานกลุม
่
องค์ประกอบอื่นๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง
3. ผู้เรียนมีการวิเคราะห์การเรียนรู้ด้วยตนเองทั้งในด้านเนือหา สาระที่เรียนและกระบวนการทางาน
้
ร่วมกัน
- 5. 4. ผู้สอนมีการวิเคราะห์และประเมินผลการเรียนทังทางด้านเนื้อหา สาระ และกระบวนการกลุ่ม
้
กิรติ ศรีสุชาติ (2544) ได้ประยุกต์ใช้ทฤษฏีการเรียนรู้แบบร่วมมือ และแนวคิดวิธีการจัดการเรียน
การสอนแบบเทคนิคกระบวนการกลุ่มของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (2542) เฉลิม วราวิทย์
(2537) และวีณษ วโรตมะวิชญ (2530) ซึ่งได้เสนอวิธีจัดการเรียนการสอนแบบเทคนิคกระบวนการกลุ่มมี
ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 ขั้นตั้งจุดมุ่งหมายการเรียน ครูกาหนดและแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้ผเู้ รียนทราบ
ขั้นที่ 2 ขั้นรวมกลุ่ม ผู้เรียนเข้ากลุ่มตามที่แบ่งไว้
ขั้นที่ 3 ขั้นระดมความคิด ผู้เรียนนาเสนอความคิด
ขั้นที่ 4 ขั้นวิเคราะห์ ผู้เรียนร่วมกันอภิปราย และนาความรูมาสร้างผลงาน
้
ขั้นที่ 5 ขั้นสรุปและประยุกต์ใช้ ผู้เรียนสรุปและประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิตประจาวัน
ขั้นที่ 6 ขั้นประเมินผล ครูและผูเ้ รียนร่วมกันประเมินผล