More Related Content
Similar to นวัตกรรมและสารสนเทศ
Similar to นวัตกรรมและสารสนเทศ (20)
นวัตกรรมและสารสนเทศ
- 2. หน่ว ยที่1
ความหมายและความสำา คัญ ของ
นวัต กรรมและสารสนเทศ
1. ความหมายของนวัต กรรม
การศึก ษา
นวัต กรรมการศึก ษา ตรงกับคำา
ในภาษาอังกฤษว่า Education
Innovation หมายถึง การนำาเอา
สิ่งใหม่ๆที่อาจจะอยู่ในรูปแบบ
ความคิดหรือการกระทำา รวมถึงสิ่ง
ประดิษฐ์เข้ามาใช้ในกระบวนการ
- 3. 2. ความหมายของ
เทคโนโลยีก ารศึก ษา
เทคโนโลยีก ารศึก ษา หมาย
ถึง การนำาเทคโนโลยีต่างๆมา
ประยุกต์ใช้ในการ ศึกษาเพื่อสร้าง
เสริมกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดได้
ง่ายและเร็วขึ้น
- 4. 3. ความหมายของระบบ
สารสนเทศ
สารสนเทศ คือ เซ็ตขององค์
ประกอบที่สัมพันธ์กนซึ่งรวบรวม
ั
ประมวล จัดเก็บและเผยแพร่
สารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสิน
ใจและการควบคุมในองค์กร
โครงสร้างหลักของสารสนเทศ
- 5. - ข้อ มูล นำา เข้า (Input) คือ
ข้อมูลที่จำาเป็นเพื่อนำาเข้าสู่ระบบ
เพื่อจะทำาให้เกิดการประมวลผล
ขึน ข้อมูลที่จำาเป็นจะมาจาก
้
สภาพแวดล้อมของระบบ ส่วน
จะเป็นอะไรนั้นขึ้นอยู่กบแต่ละ
ั
ระบบ
- 6. - การประมวลผล
(Processing) คือ การเปลี่ยน
รูปแบบข้อมูลให้อยู่ในรูปที่มีความ
หมาย ซึ่งอาจจะได้แก่ การคำานวณ
การสรุป หรือการจัดหมวดหมูของ ่
ข้อมูลการประมวลผลประกอบด้วย
องค์ประกอบย่อย ดังนี้
- บุคลากร - กระบวนการ -
ฮาร์ดแวร์ - ซอฟต์แวร์ - แฟ้ม
- 7. - ผลลัพ ธ์ (Output) คือ
สารสนเทศที่ได้จากการประมวลผล
ซึงจะปรากฏอยู่ในรูปรายงานต่าง
่
ๆ คุณลักษณะของสารสนเทศที่มี
คุณภาพ ได้แก่
- ตรงตามความต้องการ
(Relevancy)
- ความตรงต่อเวลา
(Timeline)
- ความเที่ยงตรง (Accuracy)
- 8. - ส่ว นย้อ นกลับ (Feed
back) เป็นส่วนที่ใช้ในการ
ควบคุมการทำางานของการ
ประมวลผล เพื่อให้การประมวลผล
นันบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
้
ผลจากการเปรียบเทียบจะนำา ไปสู่
การปรับข้อมูลนำาเข้าหรือ
กระบวนการประมวลผล
- 9. 4. ประเภทของระบบ
สารสนเทศที่ใ ช้ใ นองค์ก ร
- ระบบประมวลผลรายการ
(Transaction Processing
System: TPS) ระบบประมวลผล
รายการเป็นพื้นฐานของระบบธุรกิจ
ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยผู้บริหารใน
ระดับปฏิบัติการระบบจะใช้
คอมพิวเตอร์ในการบันทึกรายการ
- 10. - ระบบสารสนเทศเพือ
่
การบริห าร
(Management Information
System: MIS) คือ ระบบที่ผลิต
สารสนเทศที่ผู้บริหารต้องการเพื่อ
ใช้ในการบริหารงานให้เป็นไป
อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปแล้ว
ระบบ MIS จะเป็นข้อมูลภายใน
องค์กร ไม่เกียวกับข้อมูลภายนอก
่
- 11. - ระบบ สนับ สนุน การตัด สิน ใจ
(Decision Support System:
DSS) ส่วนมากเป็นระบบที่พัฒนาขึ้น
เพื่อช่วยให้การตัดสินใจของผู้บริหาร
เป็นไปได้อย่างสะดวก ระบบจะ
สามารถสรุปหรือเปรียบเทียบข้อมูล
จากทุกแหล่งไม่ว่าจะเป็นข้อมูล
ภายในหรือข้อมูลภายนอกองค์กร
- 12. - ระบบสารสนเทศเพื่อ ผู้
บริห ารระดับ สูง (Executive
Support System: ESS) เป็น
ระบบที่ช่วยให้ผู้บริหารระดับสูง
ติดตามผลการปฏิบัติงานของ
องค์การ ติดตามกิจกรรมของคู่
แข่ง ชี้ให้เห็นปัญหา มองหา
โอกาส และคาดคะเนแนวโน้ม
ต่างๆ ในอนาคต
- 13. - ระบบผู้เ ชี่ย วชาญ (Expert
System) ระบบผู้เชี่ยวชาญจะแตก
ต่างกับระบบอื่นอยู่มาก เนืองจาก
่
ระบบผู้เชี่ยวชาญจะเกี่ยวข้องกับ
การจัดการความรู้ (Knowledge
management) มากกว่า
สารสนเทศ และถูกออกแบบให้
ช่วยในการตัดสินใจโดยใช้วิธีเดียว
กับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์โดยใช้
- 14. หน่ว ยที่ 2
บทบาทของสารสนเทศในการ
บริห ารองค์ก รทางการศึก ษา
1. ลัก ษณะที่เ ทคโนโลยีส ามารถ
เพิ่ม ประสิท ธิภ าพการบริห าร
จัด การ
- การทำา งานได้อ ย่า งต่อ
เนื่อ งโดยไม่ร ู้จ ัก เหน็ด เหนื่อ ย
ทำาให้สามารถประยุกต์ไปใช้ในงานที่
ต้องการให้บริการได้ตลอด 24
- 15. - การทำา งานได้โ ดยไม่ม ีผ ิด
พลาด ทำาให้สามารถนำาไปใช้
ในงานจำานวนมากที่ต้องการความ
ถูกต้องและเกิดผลที่ถกต้อง เช่น
ู
การตรวจข้อสอบ การอ่านบาร์โค้ด
- การทำา งานได้อ ย่า ง
รวดเร็ว ทำาให้สามารถนำาไปใช้
กับงานที่มีปริมาณมาก ทำาให้งาน
เสร็จได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
- การทำา งานอย่า งเป็น ระบบ
ทำาให้เกิดความชัดเจนของขั้น
- 16. 2. การใช้น วัต กรรมและ
เทคโนโลยีใ นการพัฒ นา
ประสิท ธิภ าพการบริห ารจัด การ
ศึก ษา
การเตรียมความพร้อมของทุก
องค์ประกอบ และให้องค์ประกอบ
เหล่านั้นทำางานอย่างสอดคล้องกัน
โดยต้องดำาเนินการในเรื่องที่สำาคัญ
ดังนี้
- การจัด ทำา แผนการนำา
เทคโนโลยีเ ข้า มาใช้ ต้องให้ผู้
- 17. - การพัฒ นาหรือ จัด หาระบบ
เทคโนโลยีท ี่ต ้อ งการนำา เข้า มา
ใช้ จะต้องดำาเนินการอย่างเป็น
ระบบ โดยมีการพิจารณาศึกษา
วิเคราะห์และคัดเลือกด้วยวิธีการที่
กำาหนดไว้อย่างชัดเจน
- การเลือ กเทคโนโลยีท ี่
เหมาะสม มีความสำาคัญต่อความ
สำาเร็จหรือความล้มเหลวของการ
ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการ
บริหารจัดการมาก เนื่องจากระบบ
- 18. - การพัฒ นาหรือ จัด หาระบบ
เทคโนโลยีท ี่ต ้อ งการนำา เข้า มา
ใช้ จะต้องดำาเนินการอย่างเป็น
ระบบ โดยมีการพิจารณาศึกษา
วิเคราะห์และคัดเลือกด้วยวิธีการที่
กำาหนดไว้อย่างชัดเจน
- การเลือ กเทคโนโลยีท ี่
เหมาะสม มีความสำาคัญต่อความ
สำาเร็จหรือความล้มเหลวของการ
ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการ
บริหารจัดการมาก เนื่องจากระบบ
- 19. - การพัฒ นาบุค ลากรที่
ควบคุม การใช้เ ทคโนโลยี
เป็นสิ่งจำาเป็นที่จะช่วยให้การ
ทำางานประสบความสำาเร็จและมี
ประสิทธิภาพ
- การบำา รุง รัก ษา เป็นเรื่อง
สำาคัญมากที่การใช้เทคโนโลยี
ทางการศึกษาจะต้องมีแผนการ
บำารุงรักษาระบบงาน ซึ่งมีทั้ง
Hardware, Software และ
- 20. - การติด ตามประเมิน ผล
ระบบงานบริหารจัดการที่ใช้
เทคโนโลยีเข้ามาช่วยควรมีการ
ประเมินผลอย่างน้อย 2 ส่วน ด้วย
กัน ส่วนแรกต้องประเมินผลงานที่
กำาหนดไว้ในแผนงาน ส่วนที่สองที่
มีความสำาคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันก็
คือ การประเมินความพึงพอใจของ
ผู้ใช้บริการ เพื่อสะท้อนให้เห็น
- 21. หน่ว ยที่ 3
นวัต กรรมทางการศึก ษาและ
การบริห ารการศึก ษา
1. เทคโนโลยีก ารศึก ษาใน
ฐานะองค์ค วามรู้
เทคโนโลยีทางการศึกษาใน
ฐานะที่เป็นองค์ความรู้พบได้จาก
การที่มหาวิทยาลัยต่างเปิดสอน
วิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา
ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญา
- 22. 2. เทคโนโลยีก ารศึก ษาใน
ฐานะเครื่อ งมือ ในการบริห าร
- เป็น เครื่อ งมือ ในด้า นการ
บริห ารองค์ก ร เพื่อให้ดำาเนินงาน
ตามวิธีระบบและบรรลุวัตถุประสงค์
- การเป็น เครื่อ งมือ ด้า นธุร การ
ได้แก่ การผลิตเอกสารการนัด
หมาย การทำาทะเบียนนักศึกษา
- 23. - ด้า นการบริห ารงาน
บุค ลากร เป็นการนำาเทคโนโลยี
มาใช้ด้านการบริหารงานบุคลากร
เพื่อการแต่งตั้งบุคลากรเข้ารับ
ตำาแหน่งให้เหมาะสมกับหน้าที่
โดยสอดคล้องกับความสามารถของ
แต่ละบุคคล ทั้งนี้เพื่อให้การดำาเนิน
งานขององค์กรเป็นไปอย่างมี
ประสิทธิภาพ
- การบริห ารวิช าการ จะใช้
- 24. - ด้า นการเผยแพร่แ ละ
ประชาสัม พัน ธ์ โดยการผลิตสื่อ
ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการ
ประชาสัมพันธ์กิจการของสถาบัน
การศึกษา และการสร้างความ
เข้าใจอันดีระหว่างสถาบันการ
ศึกษากับชุมชน
3. เทคโนโลยีก ารศึก ษาใน
ฐานะเครื่อ งมือ ทางวิช าการ
- 25. - การยึด สื่อ สิ่ง ของเป็น หลัก
การใช้รูปแบบนี้ตั้งอยู่บนความเชื่อ
ที่ว่า การเรียนรู้อาจเกิดขึ้นได้โดยที่
ผู้เรียนไม่ต้องเผชิญหน้ากับผู้สอน
แต่อาจเรียนได้จากสื่อประสม
ประเภทต่าง ๆ ในรูปของการ
ศึกษาทางไกลโดยทั่วไปการใช้ใน
ลักษณะนี้จะพบในมหาวิทยาลัย
แบบเปิด ซึ่งมีการใช้อยู่ 3 ลักษณะ
คือ
1.การใช้สื่อสิ่งพิมพ์เป็นแกน
- 26. 4. เทคโนโลยีก ารศึก ษาใน
ฐานะเครื่อ งมือ บริก ารทาง
วิช าการ
หน้าที่สำาคัญของสถานศึกษา
คือการบริการทางวิชาการ ให้แก่
บุคลากรภายในและให้บริการแก่
ชุมชนในฐานะเครื่องมือสำาหรับ
การบริการทางวิชาการเทคโนโลยี
การศึกษาจะช่วยเผยแพร่ความรู้
ให้แก่ประชาชนได้ ไม่ว่าจะอยู่ใน
- 27. 5. เทคโนโลยีก ารศึก ษาใน
ฐานะทรัพ ยากรเพื่อ สนับ สนุน
การเรีย น
ทรัพยากรการเรียน หมายถึง
ทรัพยากรทุกชนิดที่ผู้เรียนสามารถ
ใช้แบบเชิงเดี่ยวหรือแบบผสม
อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อเอื้อ
อำานวยต่อการเรียนรู้ ซึ่งได้แก่ ข้อ
สนเทศ/ข่าวสาร บุคคล วัสดุ เครื่อง
- 28. 6. เทคโนโลยีแ ละนวัต กรรม
ทางการศึก ษาในฐานะเครื่อ ง
มือ ในการพัฒ นาบุค ลากร
ในการพัฒนาบุคลากร การ
อบรมเป็นวิธีการหนึงที่สถาบันการ
่
ศึกษาและองค์การต่าง ๆ ใช้กัน
อย่างแพร่หลายในฐานะเครื่องมือ
ในด้านการพัฒนาบุคลากร หน่วย
งานที่จัดอบรมจะต้องรู้ว่าหัวข้อใน
การจัดอบรมได้แก่หัวข้ออะไร ส่วน
- 29. 7. เทคโนโลยีแ ละนวัต กรรม
ทางการศึก ษาในฐานะเครื่อ ง
มือ สนับ สนุน การเรีย นรู้
1. นำาหลักสูตรซึ่งตังอยู่บนพืนฐาน
้ ้
ทีเร้าใจเข้าสูห้องเรียน
่ ่
2. จัดหาเครื่องมือซึ่งจะกระตุนการ
้
เรียนรู้
3. ให้โอกาสแก่นกเรียนและครู
ั
มากขึ้นในการให้ข้อมูลย้อนกลับ
4. สร้างชุมชนวิชาการในท้องถิน ่
- 30. 8. เทคโนโลยีแ ละนวัต กรรม
ทางการศึก ษาในฐานะ
สนับ สนุน การสอน
เทคโนโลยีการศึกษามีบทบาท
อยู่ 2 ลักษณะ คือ
1. การใช้โปรแกรม
คอมพิวเตอร์ในห้องเรียนในรูป
ของการฝึกปฏิบัติ
2. การใช้โปรแกรมทำางาน
- 31. หน่ว ยที่ 4
การสื่อ สารและระบบเครือ ข่า ย
1. การนำา เทคโนโลยีส ารสนเทศ
และการสื่อ สารเข้า มาใช้ใ น
การศึก ษา
การศึกษาเป็นกิจกรรมที่สำาคัญ
ที่สุดอย่างหนึ่งของมนุษย์ จึงได้มี
การพัฒนาการศึกษามาอย่างต่อ
เนื่องโดยการพัฒนาองค์ประกอบ
และวิธีการต่าง ๆ ทำาให้เกิดการ
- 32. 2. องค์ป ระกอบของเทคโนโลยี
การศึก ษา
บริษัท IBM ได้ใช้หลักการ 4
C’s Components ในการ
ประเมินความพร้อมของประเทศ
ต่าง ๆ ในการให้บริการความรู้ด้วย
ระบบ e-Learning หลักการ 4
C’s Components ประกอบด้วย
Connectivity, Content,
- 34. - Content หมายถึง สื่อ
อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เพื่อการสื่อสาร
แลกเปลี่ยนและเรียนรู้ ประกอบ
ด้วย ข้อความ รูปภาพ
Animation และภาพเคลื่อนไหว
ซึ่งรวมถึงวิดีทัศน์ด้วย องค์
ประกอบของ Content แบ่งได้
เป็น 3 ส่วน คือ การสร้าง
การนำาเสนอ และ การเข้าถึง
- 35. - Capacity building หมาย
ถึง การสร้างขีดความสามารถการ
เรียนรู้ของผู้เกียวข้องตั้งแต่ผู้กำากับ
่
นโยบาย ผู้บริหารหน่วยงาน ครู
ผู้สอน นักเรียน ตลอดจนถึงผู้
สร้างสื่อและเจ้าหน้าที่ทางด้าน
เทคนิค ครูผู้สอนจำาเป็นต้องมี
ทักษะที่จำาเป็น 4 ด้าน คือ การใช้
สื่อ ทักษะทางด้านเทคนิค การ
- 36. - Culture หมายถึง
วัฒนธรรมในการเรียนการสอนที่
จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากการ
เรียนการสอนที่ครูพบกับนักเรียน
และให้ความรู้ตามที่กำาหนดไว้ใน
ตารางเรียน ซึ่งมีเวลาที่ชัดเจน
และจำากัด โดยครูเป็นผู้สอนให้
ความรู้แก่นักเรียนไปตามขั้นตอนที่
- 37. หน่ว ยที่ 5
นวัต กรรมกับ การพัฒ นาระบบ
สารสนเทศ
1. ใช้ใ นการคำา นวณ เครื่อง
คอมพิวเตอร์ในยุคแรก ๆที่สร้าง
ขึ้นถูกนำาไปใช้ประโยชน์ทางด้าน
คำานวณก่อน
2. ใช้เ ก็บ ข้อ มูล และคำา นวณ
ควบคู่ก ัน เกิดจากวิวัฒนาการ ใน
ความสามารถสร้างสื่อเก็บข้อมูล
- 38. 3. ใช้ท ำา งานในสำา นัก งานทั่ว ไป
เป็นวิวัฒนาการสำาคัญโดยการ
สร้างโปรแกรมชุดคำาสั่งงาน
คอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมคำา
สั่งงานที่มีขนาดใหญ่และสามารถ
เก็บข้อมูลได้มากขึ้นด้วย
วิวัฒนาการสำาคัญที่ควรกล่าวถึงก็
คือ การใช้คอมพิวเตอร์ในการ
ประมวลผลคำา (Word
- 39. 4. ใช้ใ นงานกราฟิก และภาพ
เคลื่อ นไหว เป็นวิวัฒนาการต่อ
มาในปี พ.ศ. 2527 คือ การก้าว
ไปสู่การใช้คอมพิวเตอร์ในงาน
กราฟิก รูป และภาพเคลื่อนไหว
เป็นการก้าวไปสู่ยุคสื่อผสม
(Multimedia) ซึ่งต้องมีสื่อเก็บ
ข้อมูลขนาดใหญ่และมีความเร็วสูง
- 40. 5. ใช้ใ นการสื่อ สาร เป็น
วิวัฒนาการที่สำาคัญอย่างยิ่ง ได้แก่
การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ และ
การสื่อสารทางไกลร่วมกัน เกิด
เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสาร (Information and
Telecommunication
Technology) ทำาให้เกิด
- 41. 6. การประยุก ต์เ ทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อ สาร เป็น
นวัตกรรมทางการศึกษาทีสำาคัญใน ่
ปัจจุบัน มีมากมาย ทีสำาคัญควรจะ
่
ได้ทำาความเข้าใจได้แก่ สือมัลติมเดีย,
่ ี
Digital Content, e-Library และ
e-Learning
- สือมัลติมีเดีย หมายถึง สื่อทีใช้กบ
่ ่ ั
เครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งประกอบด้วย
ตัวเลข ข้อความ ภาพนิง ภาพ ่
เคลือนไหว และเสียง
่
- 43. หน่ว ยที่ 6
การบริห ารระบบสารสนเทศใน
องค์ก ร
ความพร้อ มของบุค ลากรใน
สถานศึก ษา
1. หลัก สูต ร สถานศึกษาซึ่งสอน
ระดับอนุบาลและประถมศึกษา
นักเรียนส่วนมากยังไม่สามารถคิด
ในสิ่งที่เป็นนามธรรม ครูผู้สอนจึง
ต้องช่วยให้เด็กสามารถคิดโดยนำา
- 46. 2. นโยบายของหน่ว ยงานต้น
สัง กัด
สถานศึกษาทุกแห่งไม่ว่าจะ
ทำาการสอนในระดับใด จะต้องตอบ
สนองนโยบายของรัฐบาล แต่การ
ตอบสนองนโยบายนั้นจะทำาได้หรือ
ไม่ขึ้นอยู่กับความพร้อมภายใน
สถานศึกษา ถ้าสถานศึกษาไม่มี
ความพร้อมก็ไม่สามารถตอบสนอง
- 47. 3. การสนับ สนุน จากผู้บ ริห าร
สถานศึก ษา
อำานาจในการบริหารโรงเรียน
ส่วนมากอยู่ที่ผู้อำานวยการหรือ
อาจารย์ใหญ่ แต่ในสถาบัน
อุดมศึกษาผู้มีอำานาจสูงสุด ได้แก่
อธิการบดีหรือสภามหาวิทยาลัย
ถ้าผู้บริหารเป็นผู้ที่ไม่สนใจด้าน
- 48. 4. การใช้อ ิน เทอร์เ น็ต ในการ
เรีย นการสอน
- การสอนในชั้น เรีย นปกติ
จะเป็นการใช้สอนโดยตรงหรือ
เป็นการใช้สอนเสริมการสอนระบบ
ปกติ
- มหาวิท ยาลัย เสมือ น
(Virtual University) เป็นการ
เรียนที่ผู้เรียนจะเรียนรู้เนื้อหาจาก
- 49. - ห้อ งเรีย นเสมือ น (Virtual
classroom) ห้องเรียนลักษณะนี้
เป็นห้องเรียนที่ผู้เรียนจะอยู่ในส่วน
ต่าง ๆ ของโลก โดยผู้สอนจะสอน
อยู่ในห้องส่งซึ่งอาจจะเป็น
ห้องเรียนจริงก็ได้ แล้วส่งสัญญาณ
ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้ง
ภายในหรือภายนอกสถานศึกษา
- 50. 5. การใช้เ ทคโนโลยีด าวเทีย มเป็น
เครื่อ งมือ ในการเรีย นการสอน
ดาวเทียมสามารถใช้ในการสอน
แบบทางไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะการทำางานคือ ครูจะสอน
นักเรียนในห้องเรียนซึ่งทำาหน้าทีเป็น
่
ห้องส่งสัญญาณ ภาพและเสียงจาก
ห้องควบคุมจะถูกส่งจากสถานีสงภาค
่
พืนดินขึ้นไปยังสถานีถายทอดบน
้ ่
ดาวเทียมซึ่งลอยอยู่ในอวกาศ และ
- 51. 6. การเรีย นการสอนโดยใช้
เทคโนโลยีก ารประชุม ทาง
ไกลด้ว ยวิด ีท ัศ น์
เทคโนโลยีการประชุมทางไกล
ด้วยวิดีทัศน์ (Video
Teleconference) เป็น
เทคโนโลยีการส่งสัญญาณจาก
ห้องส่งไปยังสถานีรับโดยผ่านทาง
สายสัญญาณ ผ่านไมโครเวฟ
- 52. 7. การใช้ไ ปรษณีย ์
อิเ ล็ก ทรอนิก ส์เ พื่อ การเรีย น
การสอน
สถานศึกษาสามารถใช้ไปรษณีย์
อิเล็กทรอนิกส์มาเป็นเครื่องมือใน
การจัดการเรียนการสอนได้ใน
ลักษณะดังต่อไปนี้
1. การอภิปรายกลุ่ม
- 53. 8. การใช้เ ว็บ เพื่อ การเรีย นการ
สอน
แบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ คือ
1. ใช้เว็บทั้งวิชา ผู้เรียนจะเรียน
ผ่านทางคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อ
กับระบบอินเทอร์เน็ต
2. ใช้เว็บเสริม เป็นการเรียน
การสอนที่ผู้เรียนและผู้สอนจะพบ
กันในห้องเรียนแต่เนื้อหาและ
กิจกรรมที่จะทำาระหว่างเรียน
3. การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ
- 54. 9. การใช้ค อมพิว เตอร์ช ่ว ยสอน
เพื่อ การเรีย นการสอน
การนำาคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย
สอนหรือมาใช้งาน สามารถ
กระทำาได้หลายลักษณะ ได้แก่
1. ใช้สอนแทนผู้สอนทั้งในและ
นอกห้องเรียน ทั้งระบบสอนแทน
บททบทวน และสอนเสริม
2. ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน
ทางไกลผ่านสื่อโทรคมนาคม