เบาหวาน
- 2. เบาหวาน สาเหตุของโรคเบาหวาน เบาหวาน สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ โรคเบาหวานชนิดที่ 1 สาเหตุ เกิดจากภูมิต้านทานของร่างกายทำลายเซลล์ที่สร้างอินซูลิน ในตับอ่อน ทำให้ร่างกายหยุดการสร้างอินซูลิน ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 จึงจำเป็นต้องฉีดอินซูลิน เพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือดระยะยาว โรคเบาหวานชนิดที่ 2 สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบชัดเจน แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พันธุกรรม นอกจากนี้ ยังมีความสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนักตัวมาก การขาดการออกกำลังกาย และวัยที่เพิ่มขึ้น เซลล์ของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ร่างกายยังคงมีการสร้างอินซูลิน แต่ทำงานไม่เป็นปกติเนื่องจากมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้เซลล์ที่สร้างอินซูลินค่อยๆถูกทำลายไป บางคนเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนโดยไม่รู้ตัว และต้องการยาในการรับประทาน และบางรายต้องใช้อินซูลินชนิดฉีด เพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด สรุปว่ายังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคเบาหวานเช่น 1. กรรมพันธุ์ คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากรรมพันธุ์มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอนกับเบาหวาน คุณคงเคยเห็นว่ามีญาติเป็นเบาหวานแล้วในครอบครัวนั้นก็เป็นเบาหวานกัน 2. ความอ้วน เนื่องจากในคนอ้วนมีไขมันสะสมมาก ทำให้มีภาวะดื้อต่อการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนอินสุลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่นำน้ำตาลเข้าเซลล์ ทำให้มีน้ำตาลส่วนเกินอยู่ในกระแสเลือด
- 3. อาการของโรคเบาหวาน ถ้าหากพบอาการดังต่อไปนี้ควรปรึกษาแพทย์ ปัสสาวะมากขึ้นและบ่อยครั้งขึ้น ปัสสาวะกลางคืนบ่อยขึ้น ( ระหว่างช่วงเวลาที่เข้านอนแล้วจนถึงเวลาตื่นนอน ) หิวน้ำบ่อยและดื่มน้ำในปริมาณที่มากๆ เหนื่อยง่ายไม่มีเรี่ยวแรง อาการแทรกซ้อน ภาวะแทรกซ้อนทางสายตา (Diabetic retinopathy) เกิดจากการที่น้ำตาลเข้าไปใน endothelium ของ หลอดเลือดเล็กๆ ในลูกตา ทำให้หลอดเลือดเหล่านี้มีการสร้างไกลโคโปรตีนซึ่งจะถูกขนย้ายออกมาเป็น Basement membrane มากขึ้น ทำให้ Basement membrane หนา แต่เปราะหลอดเลือดเหล่านี้จะฉีกขาดได้ง่าย เลือดและสารบางอย่างที่อยู่ในเลือดจะรั่วออกมา และมีส่วนทำให้ Macula บวม ซึ่งจะทำให้เกิด Blurred vision หลอดเลือดที่ฉีกขาดจะสร้างแขนงของหลอดเลือดใหม่ออกมามากมายจนบดบังแสงที่มาตกกระทบยัง Retina ทำให้การมองเห็นของผู้ป่วยแย่ลง ยังมีแทรกซ้อนอีกหน่อยคือ ภาวะแทรกซ้อนทางไต (Diabetic nephropathy) พยาธิสภาพของหลอดเลือดเล็กๆ ที่ Glomeruli จะทำให้ Nephron ยอมให้ albumin รั่วออกไปกับ filtrate ได้ Proximal tubule จึงต้องรับภาระในการดูดกลับสารมากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นนานๆ ก็จะทำให้เกิด Renal failure ได้ ซึ่งผู้ป่วยมักจะเสียชีวิตภายใน 2- 3 ปี นับเข้าสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้าย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี และยังมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆอีกมากมาย
- 4. วิธีการป้องกันโรคเบาหวานสามารถทำได้ 2 วิธีคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งมีวิธีดังนี้ 1. ลดน้ำหนัก ลงให้ได้ร้อยละ 5-7 จากน้ำหนักเบื้องต้น โดยเฉพาะผู้ที่อ้วน ( ชาวเอเซียใช้ดัชนีมวลกายเท่ากับหรือมากกว่า 23) 2. ออกกำลัง สัปดาห์ละ 150 นาที โดยการเดินหรือวิ่ง วิธีการป้องกันโรคเบาหวาน การป้องกันโรคเบาหวานจะใช้ยาหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแนะนำให้ใช้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเนื่องจากสามารถลดการเกิดโรคเบาหวานได้ถึงร้อยละ 58 ในขณะที่ใช้ยาลดได้ร้อยละ 36 และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมยังช่วยลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ในขณะที่ใช้ยายังไม่มีรายงานดังกล่าว นอกจากนั้นการใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจจะเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา Metformin สามารถลดการเกิดโรคเบาหวานลงได้ร้อยละ 31 ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่อายุน้อย 20-44 ปี และอ้วน สรุปหากท่านเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือ Prediabetic ท่านจะต้องเจาะเลือดเพื่อตรวจประเมินความเสี่ยงหากท่าน เป็นกลุ่มเสี่ยงท่านจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ออกกำลังกาย ท่านต้องลดน้ำหนักลง 5-7% โดยการเดินให้เร็ววิ่งสลับกับเดินเร็ว การใช้ยาเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน เช่น Acarbose สามารถลดอัตราการเกิดโรคเบาหวานได้ร้อยละ 32 Troglitazone สามารถลดการเกิดโรคเบาหวานได้ร้อยละ 56
- 5. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ในฐานะโฆษกเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กล่าวว่า ในปี 2543 คาดการณ์ไว้ว่า เมื่อถึงปี 2553 ทั่วโลกจะมีผู้ป่วยโรคเบาหวาน 220 ล้านคน แต่ขณะนี้เพียงแค่ปี 2550 กลับพบผู้ป่วยเบาหวานแล้วถึง 246 ล้านคน ขณะนี้เพียงแค่ปี 2550 กลับพบผู้ป่วยเบาหวานแล้วถึง 246 ล้านคน สูงกว่าที่คาดไว้ 26 ล้านคน จึงเป็นไปได้ว่าคนเป็นโรคเบาหวานทั่วโลก จะเพิ่มเป็น 380 ล้านคน ในปี 2568 โดยผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลก 4 ใน 5 เป็นชาวเอเชีย มีต้นเหตุใหญ่จากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เป็นสัญญาณที่บอกว่าเสี่ยงกับภาวะเบาหวาน โดยกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง กลายเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญ เป็นสาเหตุการเจ็บป่วยและตายอันดับต้นๆ ของคนไทย สถิติการเฝ้าระวังโรค 2549 บอกว่ามีผู้ป่วย ถึง 1 ล้าน 5 แสนคน เรื่องนี้น่าห่วงมาก เพราะอดีตโรคหัวใจขาดเลือดและโรคเบาหวาน มักเกิดในผู้อายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ตอนนี้กลับพบผู้ป่วยอายุน้อยลงเรื่อยๆ จุดเริ่มต้นหนึ่งมาจากปัญหาเด็กอ้วน ข้อมูลของไทยพบ 20% ของเด็กที่อ้วนไปแล้ว จะมีความผิดปกติในการเผาผลาญกลูโคสในเลือด และในกลุ่มนี้ เราพบเบาหวานประเภทที่ 2 แล้วถึง 3% โรคเบาหวานประเภทที่ 2 ไม่ได้เกิดจากพันธุกรรม แต่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภค