SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
โรคเบำหวำน
   (Diabetic Mellitus หรือ DM)
                     จัดทำำโดย
1. เด็กหญิงโชติกำ        เกตุอู่       เลขที่ 8
2. เด็กหญิงธำรำริน       ลี้กำำจร   เลขที่ 18
3. เด็กชำยปัณชญำ         ชนะชัยไพบูลย์     เลขที่ 24
4. เด็กหญิงภัทรกันย์     สุขวำรี    เลขที่ 32
5. เด็กชำยลภน            จำรุเกษตรพร เลขที่ 38


                    ม. 1 / 15                   ต่อไป
สำเหตุ

      เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิต
ฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อันส่งผลทำาให้ระดับ
นำ้ำตำลในกระแสเลือดสูงเกิน โรคเบาหวานจะมี
อาการเกิดขึ้นเนื่องมาจากการทีร่างกายไม่สามารถใช้
                                ่
นำ้าตาลได้อย่างเหมาะสม ซึ่งโดยปกตินำ้าตาลจะเข้าสู่
เซลล์ร่างกายเพื่อใช้เป็นพลังงานภายใต้การควบคุม
ของฮอร์โมนอินซูลน ซึ่งผูทเป็นโรคเบาหวานร่างกายจะ
                   ิ       ้ ี่
ไม่สามารถนำานำ้าตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลทีเกิดขึ้นทำาให้ระดับนำ้าตาลในเลือดสูงขึ้น ในระยะ
      ่
ยาวจะมีผลในการทำาลายหลอดเลือด ถ้าหากไม่ได้รับ
การรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำาไปสู่สภาวะแทรกซ้อน
ที่รุนแรงได้
 กลับ                                            ต่อไป
อำกำรเบื้องต้น
•ปวดปัสสาวะบ่อย ครั้ง
•ปัสสาวะกลางคืนบ่อยขึ้น
•กระหายนำ้า และดื่มนำ้าในปริมาณมากๆ
•อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายไม่มีเรี่ยวแรง
•เบื่ออาหาร
•นำ้าหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
•ติดเชื้อบ่อยกว่าปรกติ เช่นติดเชื้อทางผิวหนังและกระเพาะ
อาหาร สังเกตได้จากเมื่อเป็นแผลแล้วแผลจะหายยาก
•สายตาพร่ามองไม่ชัดเจน
•อาการชาไม่ค่อยมีความรู้สึก
•อาจจะมีอาการของโรคหัวใจ และโรคไต
 กลับ                                          ต่อไป
กำรป้องกัน
  2.ควบคุ ม นำ ้ า ตาลในเลื อ ดให้ อ ยู ่ ใ นเกณฑ์ ป กติ และ
  แก้ไขปัจจัยเสี่ยงอื่นๆอันจะก่อให้เกิดโรคเบาหวาน
  3.ควบคุ ม โภชนาการ ให้มีความสมดุลทั้งในด้านโภชนาการ
  การออกกำาลังกาย รวมไปจนถึงการใช้ยารักษาโรค
  4.ควรตรวจเช็ ค ระดั บ นำ ้ า ตาลในเลื อ ดสมำ ่ า เสมอ โดย
  ปรึกษาแพทย์ว่าควรตรวจเช็คเมื่อใด และ ระยะเวลาห่างในการ
  ตรวจที่เหมาะสม
  5.ยาบางชนิดหรือยาสมุนไพร อาจมีผลต่อการควบคุมนำ้าตาล
  ในเลือด จะต้องปรึ ก ษาแพทย์ แ ละเภสั ช กรก่ อ นใช้ ย า
  หรือ สมุนไพร เหล่านี้




 กลับ                                                 ต่อไป
สถิติ
 โรคเบำหวำน นับวันจะกลำยเป็นโรคยอดฮิต มีผู้
 ป่วยเพิ่มมำกขึ้นทุกปี และที่สำำคัญ ผู้ป่วยเบำหวำน
 อำยุน้อยลงเรื่อยๆ ในประเทศไทยมีผู้ป่วยเบำหวำน
 ประมำณ 4.2 ล้ำนคน และจะถึง 5.4 ล้ำนคน ในปี
 2553 ต้องบอกว่ำสถำนกำรณ์ยำ่ำแย่มำกกว่ำที่คิด
 เนื่องจำกทุกวันนี้ ผู้ป่วยเบำหวำนในไทย มีไตวำย
 ร่วมด้วยเกินครึ่ง คือ 60% ส่วนผู้ที่ควบคุมโรคได้
 และใช้ชีวิตตำมปกติมีเพียง 4 แสนคนเท่ำนั้น
 สถำนกำรณ์โลกในวันนี้ มีผู้ป่วยเบำหวำน 246 ล้ำน
 คน จำกสถิติในปี 2550 ในจำำนวนนี้ 4 ใน 5 เป็นชำว
 เอเชีย ในสหรัฐอเมริกำประเทศเดียว มีผู้ป่วยเบำ
 หวำนทั้งสิ้น 5.9% ประมำณ 16 ล้ำนคน และมีผู้เสีย
 ชีวิตจำกเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคเบำหวำนปีละ
 200,000 คน
   กลับ                                        ต่อไป
• บรรนำนุกรม                 คลิ๊ก


• http://thaidiabetes.blogspot.com/ คลิ๊ก
• http://www.absolute-health.org/article.htm




            หน้า
    กลับ                              ต่อไป
            แรก

More Related Content

What's hot

งานนำเสนอเบาหวาน
งานนำเสนอเบาหวานงานนำเสนอเบาหวาน
งานนำเสนอเบาหวานMuay Muay Somruthai
 
โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003maprang1962
 
ผลิตภัณฑ์พูดวันอังคาร
ผลิตภัณฑ์พูดวันอังคารผลิตภัณฑ์พูดวันอังคาร
ผลิตภัณฑ์พูดวันอังคารEASY ROOM
 
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานweerawatkatsiri
 
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานweerawatkatsiri
 
โรคอ้วน
โรคอ้วนโรคอ้วน
โรคอ้วนsumethinee
 
โรคที่เกิดจากสูบบุหรี่ (1)
โรคที่เกิดจากสูบบุหรี่ (1)โรคที่เกิดจากสูบบุหรี่ (1)
โรคที่เกิดจากสูบบุหรี่ (1)Wan Ngamwongwan
 
Powerpoint
PowerpointPowerpoint
Powerpointnin261
 
อาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพอาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพDashodragon KaoKaen
 
การรักษาโรคอ้วน
การรักษาโรคอ้วนการรักษาโรคอ้วน
การรักษาโรคอ้วนKhunchit Krusawat
 
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานyadatada
 

What's hot (16)

งานนำเสนอเบาหวาน
งานนำเสนอเบาหวานงานนำเสนอเบาหวาน
งานนำเสนอเบาหวาน
 
โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003
 
ผลิตภัณฑ์พูดวันอังคาร
ผลิตภัณฑ์พูดวันอังคารผลิตภัณฑ์พูดวันอังคาร
ผลิตภัณฑ์พูดวันอังคาร
 
Dm
DmDm
Dm
 
Ppt.dlp
Ppt.dlpPpt.dlp
Ppt.dlp
 
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน
 
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ โรคอ้วน
โครงงานคอมพิวเตอร์ โรคอ้วนโครงงานคอมพิวเตอร์ โรคอ้วน
โครงงานคอมพิวเตอร์ โรคอ้วน
 
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน
 
โรคอ้วน
โรคอ้วนโรคอ้วน
โรคอ้วน
 
โรคที่เกิดจากสูบบุหรี่ (1)
โรคที่เกิดจากสูบบุหรี่ (1)โรคที่เกิดจากสูบบุหรี่ (1)
โรคที่เกิดจากสูบบุหรี่ (1)
 
Powerpoint
PowerpointPowerpoint
Powerpoint
 
อาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพอาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพ
 
การรักษาโรคอ้วน
การรักษาโรคอ้วนการรักษาโรคอ้วน
การรักษาโรคอ้วน
 
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน
 
เส้นทางสู่ความสำเร็จSmbg
เส้นทางสู่ความสำเร็จSmbgเส้นทางสู่ความสำเร็จSmbg
เส้นทางสู่ความสำเร็จSmbg
 

Similar to เบาหวาน

โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003maprang1962
 
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7norrakamol
 
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7norrakamol
 
Current Pharmacotherapy in Diabetes
Current Pharmacotherapy in DiabetesCurrent Pharmacotherapy in Diabetes
Current Pharmacotherapy in DiabetesUtai Sukviwatsirikul
 
โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003maprang1962
 
โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003maprang1962
 
วัฒนา
วัฒนาวัฒนา
วัฒนาsupphawan
 
บทนำ โรคอ้วน
บทนำ โรคอ้วนบทนำ โรคอ้วน
บทนำ โรคอ้วนพัน พัน
 
โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003maprang1962
 
โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003maprang1962
 
สุขศึกษา ม. 5 หน่วยที่ 7.pptx
สุขศึกษา ม. 5 หน่วยที่ 7.pptxสุขศึกษา ม. 5 หน่วยที่ 7.pptx
สุขศึกษา ม. 5 หน่วยที่ 7.pptxKritwarongTheychasir
 
Diabetic mellitus 02
Diabetic mellitus 02Diabetic mellitus 02
Diabetic mellitus 02vora kun
 
Metabolic syndrome หนังสือคู่มืออ้วนลงพุง
Metabolic syndrome หนังสือคู่มืออ้วนลงพุงMetabolic syndrome หนังสือคู่มืออ้วนลงพุง
Metabolic syndrome หนังสือคู่มืออ้วนลงพุงUtai Sukviwatsirikul
 
โรคอ้วน
โรคอ้วนโรคอ้วน
โรคอ้วนPanwad PM
 
โรคG6 pd[1]
โรคG6 pd[1]โรคG6 pd[1]
โรคG6 pd[1]fainaja
 
สุขศึกษา
สุขศึกษาสุขศึกษา
สุขศึกษาdragon2477
 
Guidelines for management of dyslipidemia
Guidelines for management of dyslipidemiaGuidelines for management of dyslipidemia
Guidelines for management of dyslipidemiaUtai Sukviwatsirikul
 
Guidelines for management of dyslipidemia
Guidelines for management of dyslipidemiaGuidelines for management of dyslipidemia
Guidelines for management of dyslipidemiaUtai Sukviwatsirikul
 

Similar to เบาหวาน (20)

โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003
 
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7
 
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7
โรคเบาหวาน กลุ่มบ้า100% ม.1/7
 
Current Pharmacotherapy in Diabetes
Current Pharmacotherapy in DiabetesCurrent Pharmacotherapy in Diabetes
Current Pharmacotherapy in Diabetes
 
โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003
 
โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003
 
Diabetes
DiabetesDiabetes
Diabetes
 
วัฒนา
วัฒนาวัฒนา
วัฒนา
 
บทนำ โรคอ้วน
บทนำ โรคอ้วนบทนำ โรคอ้วน
บทนำ โรคอ้วน
 
โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003
 
โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003โรคเบาหวาน2003
โรคเบาหวาน2003
 
สุขศึกษา ม. 5 หน่วยที่ 7.pptx
สุขศึกษา ม. 5 หน่วยที่ 7.pptxสุขศึกษา ม. 5 หน่วยที่ 7.pptx
สุขศึกษา ม. 5 หน่วยที่ 7.pptx
 
Diabetic mellitus 02
Diabetic mellitus 02Diabetic mellitus 02
Diabetic mellitus 02
 
Metabolic syndrome หนังสือคู่มืออ้วนลงพุง
Metabolic syndrome หนังสือคู่มืออ้วนลงพุงMetabolic syndrome หนังสือคู่มืออ้วนลงพุง
Metabolic syndrome หนังสือคู่มืออ้วนลงพุง
 
โรคอ้วน
โรคอ้วนโรคอ้วน
โรคอ้วน
 
โรคG6 pd[1]
โรคG6 pd[1]โรคG6 pd[1]
โรคG6 pd[1]
 
Breast cancer
Breast cancerBreast cancer
Breast cancer
 
สุขศึกษา
สุขศึกษาสุขศึกษา
สุขศึกษา
 
Guidelines for management of dyslipidemia
Guidelines for management of dyslipidemiaGuidelines for management of dyslipidemia
Guidelines for management of dyslipidemia
 
Guidelines for management of dyslipidemia
Guidelines for management of dyslipidemiaGuidelines for management of dyslipidemia
Guidelines for management of dyslipidemia
 

เบาหวาน

  • 1. โรคเบำหวำน (Diabetic Mellitus หรือ DM) จัดทำำโดย 1. เด็กหญิงโชติกำ เกตุอู่ เลขที่ 8 2. เด็กหญิงธำรำริน ลี้กำำจร เลขที่ 18 3. เด็กชำยปัณชญำ ชนะชัยไพบูลย์ เลขที่ 24 4. เด็กหญิงภัทรกันย์ สุขวำรี เลขที่ 32 5. เด็กชำยลภน จำรุเกษตรพร เลขที่ 38 ม. 1 / 15 ต่อไป
  • 2. สำเหตุ เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิต ฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อันส่งผลทำาให้ระดับ นำ้ำตำลในกระแสเลือดสูงเกิน โรคเบาหวานจะมี อาการเกิดขึ้นเนื่องมาจากการทีร่างกายไม่สามารถใช้ ่ นำ้าตาลได้อย่างเหมาะสม ซึ่งโดยปกตินำ้าตาลจะเข้าสู่ เซลล์ร่างกายเพื่อใช้เป็นพลังงานภายใต้การควบคุม ของฮอร์โมนอินซูลน ซึ่งผูทเป็นโรคเบาหวานร่างกายจะ ิ ้ ี่ ไม่สามารถนำานำ้าตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลทีเกิดขึ้นทำาให้ระดับนำ้าตาลในเลือดสูงขึ้น ในระยะ ่ ยาวจะมีผลในการทำาลายหลอดเลือด ถ้าหากไม่ได้รับ การรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำาไปสู่สภาวะแทรกซ้อน ที่รุนแรงได้ กลับ ต่อไป
  • 3. อำกำรเบื้องต้น •ปวดปัสสาวะบ่อย ครั้ง •ปัสสาวะกลางคืนบ่อยขึ้น •กระหายนำ้า และดื่มนำ้าในปริมาณมากๆ •อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายไม่มีเรี่ยวแรง •เบื่ออาหาร •นำ้าหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ •ติดเชื้อบ่อยกว่าปรกติ เช่นติดเชื้อทางผิวหนังและกระเพาะ อาหาร สังเกตได้จากเมื่อเป็นแผลแล้วแผลจะหายยาก •สายตาพร่ามองไม่ชัดเจน •อาการชาไม่ค่อยมีความรู้สึก •อาจจะมีอาการของโรคหัวใจ และโรคไต กลับ ต่อไป
  • 4. กำรป้องกัน 2.ควบคุ ม นำ ้ า ตาลในเลื อ ดให้ อ ยู ่ ใ นเกณฑ์ ป กติ และ แก้ไขปัจจัยเสี่ยงอื่นๆอันจะก่อให้เกิดโรคเบาหวาน 3.ควบคุ ม โภชนาการ ให้มีความสมดุลทั้งในด้านโภชนาการ การออกกำาลังกาย รวมไปจนถึงการใช้ยารักษาโรค 4.ควรตรวจเช็ ค ระดั บ นำ ้ า ตาลในเลื อ ดสมำ ่ า เสมอ โดย ปรึกษาแพทย์ว่าควรตรวจเช็คเมื่อใด และ ระยะเวลาห่างในการ ตรวจที่เหมาะสม 5.ยาบางชนิดหรือยาสมุนไพร อาจมีผลต่อการควบคุมนำ้าตาล ในเลือด จะต้องปรึ ก ษาแพทย์ แ ละเภสั ช กรก่ อ นใช้ ย า หรือ สมุนไพร เหล่านี้ กลับ ต่อไป
  • 5. สถิติ โรคเบำหวำน นับวันจะกลำยเป็นโรคยอดฮิต มีผู้ ป่วยเพิ่มมำกขึ้นทุกปี และที่สำำคัญ ผู้ป่วยเบำหวำน อำยุน้อยลงเรื่อยๆ ในประเทศไทยมีผู้ป่วยเบำหวำน ประมำณ 4.2 ล้ำนคน และจะถึง 5.4 ล้ำนคน ในปี 2553 ต้องบอกว่ำสถำนกำรณ์ยำ่ำแย่มำกกว่ำที่คิด เนื่องจำกทุกวันนี้ ผู้ป่วยเบำหวำนในไทย มีไตวำย ร่วมด้วยเกินครึ่ง คือ 60% ส่วนผู้ที่ควบคุมโรคได้ และใช้ชีวิตตำมปกติมีเพียง 4 แสนคนเท่ำนั้น สถำนกำรณ์โลกในวันนี้ มีผู้ป่วยเบำหวำน 246 ล้ำน คน จำกสถิติในปี 2550 ในจำำนวนนี้ 4 ใน 5 เป็นชำว เอเชีย ในสหรัฐอเมริกำประเทศเดียว มีผู้ป่วยเบำ หวำนทั้งสิ้น 5.9% ประมำณ 16 ล้ำนคน และมีผู้เสีย ชีวิตจำกเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคเบำหวำนปีละ 200,000 คน กลับ ต่อไป
  • 6. • บรรนำนุกรม คลิ๊ก • http://thaidiabetes.blogspot.com/ คลิ๊ก • http://www.absolute-health.org/article.htm หน้า กลับ ต่อไป แรก