More Related Content
Similar to Activity1 (20)
Activity1
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงานภูมิแพ้อากาศหนาว โรคแปลกที่มาพร้อมกับความเย็น
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวมัชฌิมา คันธวิวรณ์ เลขที่ 39 ชั้น ม. 6 ห้อง 8
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นางสาวมัชฌิมา คันธวิวรณ์ เลขที่ 39 ม. 6/8
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ภูมิแพ้อากาศหนาว โรคแปลกที่มาพร้อมกับความเย็น
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Cold Urticaria
ประเภทโครงงาน : โครงงานคอมพิวเตอร์(เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)
ชื่อผู้ทาโครงงาน : นางสาวมัชฌิมา คันธวิวรณ์
ชื่อที่ปรึกษา : ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน : ภาคเรียนที่ 1 – 2 ปีการศึกษา 2561
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ระหว่างละติจูด 5° ถึง 21° เหนือ และลองติจูด 97° ถึง 106° ตะวันออก
ภูมิอากาศของไทยส่วนใหญ่เป็นแบบ "ภูมิอากาศร้อนชื้นเขตร้อนหรือสะวันนา" ฤดูร้อนหรือ ฤดูก่อนมรสุมกินเวลา
ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคมซึ่งมีอากาศร้อน สาหรับ ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง
และตะวันออกของประเทศไทย เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมเป็น ช่วงที่ร้อนที่สุดของปี ปกติอุณหภูมิมักสูงถึง 40 °C
และเมืองเชียงใหม่ก็เป็นหนึ่งในตาแหน่งที่มีอุณหภูมิสูง ส่งผลให้ประชาชนต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศ เช่น
การอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ การดื่มน้าเย็น เป็นต้น และเมื่อดื่มน้าเย็นก็จาเป็นจะต้องถือแก้วน้าดื่ม จาก
ประสบการณ์ส่วนตัว ผู้จัดทา ได้ซื้อน้าหวานมาดื่มในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ และได้ถือแก้วน้านั่นไว้เป็นเวลานาน
ประมาณ 20 นาที พบว่าที่มือมีอาการเย็น มีเลือดคลั่ง เริ่มบวมและคัน จึงวางแก้งน้าลง เมื่อเวลาผ่านไป อุณหภูมิเพิ่ม
สูงขึ้น อาการเมื่อสักครู่ก็ค่อยๆหายกลับไปเป็นปกติดังเดิม จึงได้ลองค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต จนได้ทราบว่ามีโรค
ที่ชื่อว่า โรคภูมิแพ้อากาศหนาว ผู้จัดทาจึงเลือกจัดทาโครงงานเรื่อง ภูมิแพ้อากาศหนาว โรคแปลกที่มาพร้อมกับความ
เย็นนี้ขึ้น เพื่อศึกษาหาสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาโรคนี้
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาสาเหตุ ลักษณะอาการ ของโรคภูมิแพ้อากาศหนาว
2. เพื่อหาแนวทางในการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นการเกิดอาการของโรค
ขอบเขตโครงงาน
กลุ่มตัวอย่าง ประชากร : นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่6/8
ระยะเวลาในการศึกษา : 10 สัปดาห์
สถานที่ใช้ในการศึกษา : โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
- 3. 3
หลักการและทฤษฎี
สาเหตุโรคภูมิแพ้
1. กรรมพันธุ์ ถ้าในครอบครัวมีคนเป็นภูมิแพ้ 2 ใน 4 คน นั่นหมายถึงว่า อัตราเสี่ยงของรุ่นต่อไปก็จะมีเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้า
พ่อหรือแม่เป็น ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นไปด้วย และเด็กผู้ชายจะเป็นมากกว่าเด็กผู้หญิง
2. สิ่งแวดล้อม สารก่อภูมิแพ้มักจะเกิดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเป็นส่วนใหญ่ ทาให้คนมักจะเป็นภูมิแพ้จาก
สิ่งแวดล้อมมากกว่า ไม่ว่าจะเข้าโดยการหายใจ การรับประทาน หรือการสัมผัส สารก่อภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ง่าย
เช่น อาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเลเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่มีคนแพ้มากที่สุด คนที่แพ้อาจมีผื่นลมพิษทันทีภายในครึ่ง
ชั่วโมงเท่านั้น หรือการทางานบ้านที่ต้องเจอกับฝุ่น การออกไปนอกบ้านที่ต้องเจอกับควันและมลพิษ การแพ้ขนของ
แมวหรือสุนัข ล้วนแต่เป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ได้ทั้งสิ้น
นอกจากนี้อาจจะมีปัจจัยอื่นร่วมที่ทาให้อาการกาเริบหรือเป็นรุนแรงขึ้น เช่น อากาศที่หนาวเย็นจนเกินไปหรืออากาศ
เปลี่ยนกะทันหัน
กลไกของการเกิดโรคภูมิแพ้
เมื่อใดที่ร่างกายของคนเราได้รับสารภูมิแพ้ก็จะเกิดการกระตุ้นทาให้ร่างกายสร้างภูมิชนิด IgE ซึ่งภูมินี้จะเข้าไปกระตุ้น
Mast cell ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่ทาให้ร่างกายหลั่งสารเคมีหลากชนิดออกมา ไม่ว่าจะเป็น histamine
หรือ prostaglandin ซึ่งสารเหล่านี้จะทาให้เกิดอาการคัดจมูกและน้ามูกไหล
ผลกระทบจากโรคภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย
ถึงแม้ว่าโรคภูมิแพ้จะไม่ก่อให้เกิดผลเสียถึงแก่ชีวิต แต่การเกิดปฏิกิริยาของโรคภูมิแพ้ขั้นรุนแรงก็อาจทาให้เกิด
anaphylaxis และนอกจากนั้นอาจจะพบโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ขึ้น เช่น โรคไซนัสอักเสบ โรคหอบหืด โรคหูชั้นกลาง
อักเสบ และโรคผิวหนังอักเสบ ในส่วนของการมีโรคแทรกซ้อนอาจทาให้ผู้ป่วยมีอาการหนักมากยิ่งขึ้น ดังนั้น หาก
ผู้ป่วยมีอาการคัดจมูกเรื้อรังก็ควรระวังเรื่องโรคแทรกซ้อนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ยังมีคุณภาพชีวิตที่
ย่าแย่กว่าเดิมอีกด้วย เนื่องจากฤทธิ์ยาจะทาให้มีอาการง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา จนมีผลกระทบต่อการเรียนหรือการ
ทางานในที่สุด
อากาศที่หนาวเย็นเป็นสาเหตุหลักของอาการเจ็บป่วยมากมาย หนึ่งในโรคที่กาเริบหนักในช่วงที่อุณหภูมิลด
ตัวลงคือ โรคภูมิแพ้อากาศหนาว (Cold Urticaria) อาการของโรคนี้กาเริบหนักจนสร้างความลาบากให้กับผู้ป่วยอย่าง
มากในการใช้ชีวิตในฤดูหนาว
โรคภูมิแพ้อากาศหนาวได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในโรคภูมิแพ้ที่แปลก เพราะผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย
ทันที เมื่อสัมผัสลมหนาวและน้าเย็น ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกได้ยากมากในฤดูหนาว
อาการแพ้
โรคภูมิแพ้อากาศหนาวไม่ได้ขึ้นชื่อแค่ในเรื่องของความแปลก แต่ยังขึ้นชื่อในเรื่องของปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงด้วย
หลักๆแล้วอาการแพ้จะแสดงออกมาให้เห็นที่บริเวณผิวหนังของผู้ป่วย เช่น มีผื่นคันหรือผื่นลมพิษขึ้นตามร่างกาย
หลังจากสัมผัสกับอากาศหรือน้าเย็น ผื่นพวกนี้ทาให้รู้สึกคันและแสบร้อนมากจนผู้ป่วยอาจรู้สึกไม่สบายตัว บางครั้ง
อาการแพ้ก็พบได้ในเลือด ปัสสาวะ โพรงจมูก หรือที่บริเวณหน้าอก
ในกรณีที่แพ้อย่างรุนแรง ลาคอและลิ้นของผู้ป่วยจะมีอาการบวม เมื่อสูดอากาศที่เย็นจะทาให้รู้สึกแสบที่หลอดลม
บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยจะรู้สึกเหนื่อยและเมื่อยล้าตามส่วนต่างๆของร่างกายมาก จนไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทาได้ หรือ
อาการที่ร้ายแรงที่สุดของโรคนี้ก็คือการเสียชีวิตทันที
- 4. 4
การรักษาและควบคุมอาการ
โรคภูมิแพ้อากาศหนาวไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สิ่งที่ผู้ป่วยควรทาเพื่อควบคุมดูแลไม่ให้อาการกาเริบในฤดู
หนาว คือ ควรใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นและปกปิดร่างกายให้มิดชิดจากลมหนาว และปรับอุณหภูมิภายในที่พักให้มี
อุณหภูมิที่อบอุ่นอย่างเหมาะสม สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดสาหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศหนาวคือการอาบน้าเย็น
หรือการว่ายน้า เพราะลมหนาวที่มาปะทะเข้ากับร่างกายที่กาลังเปียกจะทาให้อาการแพ้รุนแรงมากจนเป็นอันตรายถึง
ชีวิตได้
อีกสิ่งที่ผู้ป่วยสามารถทาได้ เพื่อควบคุมอาการแพ้คือการรับประทานยาแก้แพ้ ซึ่งควรทานก่อนมีการสัมผัสอากาศ
หนาวหรือน้าเย็นเพื่อควบคุมไม่ให้อาการกาเริบ
การป้องกัน
วิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของโรคภูมิแพ้อากาศหนาวก็คือ การรักษาสุขภาพให้ปราศจากการเจ็บป่วยใดๆทั้งสิ้น
เพราะบางครั้งการเป็นหวัดธรรมดาก็นาไปสู่อาการแพ้อากาศหรือน้าเย็นได้ คาแนะนาคือสวมใส่เสื้อผ้าที่ให้ความ
อบอุ่น ไม่อยู่ในที่ที่มีอากาศหนาวเป็นเวลานาน รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูงเพื่อช่วยเสริมสร้างระบบภูมคุ้มกัน
เช่นผลไม้หลากสีชนิดต่างๆ การออกกาลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งก็จะช่วยให้ระบบต่างๆในร่างกายมีความ
สมดุลและทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้การหมั่นรักษาความสะอาดของร่างกายและสิ่งของ
ใกล้ตัวก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอีกเช่นกัน
- 5. 5
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. คิดหัวข้อเรื่อง สืบค้นข้อมูล และศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
2. เขียนเค้าโครงของโครงงาน
3. ดาเนินงานตามแผนที่กาหนดไว้ในเค้าโครงของโครงงาน
4. เขียนรายงาน การสรุป การรายงานผล
5. แสดงผลงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. เครื่องคอมพิวเตอร์ในการจัดทาโครงงาน
2. อินเตอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูล
งบประมาณ
-
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6/8 มีความรูความเข้าใจในโรคภูมิแพ้อากาศหนาว และรู้วิธีการในการรักษา
หลีกเลี่ยง และดูแลรักษาร่างกายให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้อากาศหนาว
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระสุขศึกษา และกลุ่มสาระคอมพิวเตอร์(เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสาร)